[Review] The Niche Mono สุขุมวิท 50 Edit ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตให้ลงตัว บนพื้นที่ Eco ติดรถไฟฟ้า BTS

คอนโดโปรเจคใหม่จาก เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ที่มาพร้อมคอนเซปเพื่อชีวิต eco

พื้นที่หลายส่วนของ The Niche Mono สุขุมวิท 50  

 ถูกปรับให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันมากยิ่งขึ้น คำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้พักอาศัย ทั้งภายนอก-ภายใน จัดพื้นที่ส่วนกลางใกล้ชิดธรรมชาติ ห้องพักอาศัยตกแต่งครบ built in เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น อบอุ่น

ชื่อโครงการ The Niche Mono สุขุมวิท 50

ที่ตั้งโครงการ ซอยสุขุมวิท 50 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

ราคาเริ่มต้น 2.2  ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ The Niche Mono สุขุมวิท 50

แผนที่คอนโด The Niche Mono สุขุมวิท 50

ถ้าเทียบระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว กับ ระบบขนส่งสาธารณะ ค่อนข้างที่จะสะดวกพอ ๆ กัน แต่ถ้าใครอยากหลีกเลี่ยงรถติด แนะนำให้ใช้บริการรถไฟฟ้า Bts จะสะดวกกว่า โดยให้ลง สถานีอ่อนนุช สำนักงานขาย The Niche Mono สุขุมวิท 50 จะอยู่ติดกับเทสโก้ โลตัส แต่ถ้าใครขับรถยนต์ส่วนตัว แนะนำให้ใช้ทางด่วนลงตรงจุดลงทางด่วน

สุขุมวิท 50

 ซึ่งอยู่ตรงกลางซอยพอดี

การเดินทางมาสำนักงานขายมีความสะดวกสบาย สังเกตเห็นง่าย อยู่ติดกับเทสโก้ โลตัส สาขาสุขุมวิท 50 หรือข้างๆ ซอยสุขเจริญ 

เจาะลึกภาพรวมโครงการ The Niched Mono สุขุมวิท 50

คอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 โดยมีลักษณะอาคารแบบ Low rise 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลาง ทำให้อาคาร A และ B แยกโซนกันค่อนข้างชัดเจน ช่วยลดปัญหาความวุ่นวายลงได้

ชั้น 1 เป็นพื้นที่ของลานจอดรถกับส่วงกลาง รอบอาคารจัดเป็นพื้นที่สีเขียว ให้ความร่มรื่นแก่ผู้พักอาศัย ในส่วนของที่จอดรถสามารถจอดได้ประมาณ 153 คัน หรือคิดเป็น 35 % ถือว่าไม่น้อยมากนัก เนื่องจาก The Niched Mono สุขุมวิท 50 อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุชด้วย

สำหรับ Facility จะมี

สระว่ายน้ำระบบเกลือ

กว้าง 20 เมตร อยู่กึ่งกลาง ห้อมล้อมด้วยต้นไม้สูง มี deck pool ริมสระให้นั่งหลบแดด

ข้างกันเป็น

ห้องฟิตเนสมองเห็นวิว

สระว่ายน้ำ

โถงล็อบบี้

อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ด้านในมี

Locker room

 ให้บริการสำหรับคนที่มีของเยอะ แต่ไม่อยากเก็บไว้ในห้อง

และโครงการก็มีร้านสะดวกซื้อ

Super Save

 อยู่หน้าทางเข้า

ห้องชุดพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 - 8 แยกเป็นอาคาร A  และ B หันหน้าเข้าหากัน แต่ละอาคารจะมีจำนวนห้องพักอยู่ที่ 31 ห้อง ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร ประเภทห้องจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนซะส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับผู้พักอาศัยคนเดียว มีแบบ 2 ห้องนอนเพียง 1 ห้อง/ชั้น อยู่ตรงมุมอาคาร ซึ่งห้องบริเวณนั้นจะได้รับความสงบมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเดินไกลนิดนึง เพราะอยู่ไกลจากโถงลิฟต์

ห้องเอนกประสงค์

ตั้งกลางอยู่ตำแหน่งเดียวกับโถงล็อบบี้ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ

ลักษณะแปลนของแต่ละชั้น แต่ละอาคารมีรูปแบบไม่ต่างกัน และการจัดวางอาคารของ The Niched Mono สุขุมวิท 50 ตั้งทำมุมเฉียงกับทิศเหนือใต้  ส่งผลให้ห้องพักของที่นี้ไม่โดนแดดเต็มๆ ห้องไม่ร้อนมาก ไม่มีปัญหาในการเลือกห้อง สำหรับคนที่อยากได้ห้องวิวสวย อาจต้องทำใจนิดหน่อย เพราะที่ตั้งคอนโดอยู่ใกล้ทางด่วน รอบข้างส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนกับคอนโดมิเนียม ซึ่งจะได้ภาษีเรื่องการเดินทาง การคมนาคมเสียมากกว่า

ภายในอาคารตกแต่งด้วย

Vertical garden

สร้างบรรยากาศ ความร่มรื่น ให้ผู้อาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น

ทั้ง 2 อาคารหันหน้าเข้าหากัน มีพื้นที่ส่วนกลางคั้น ทำให้ผู้พักอาศัยมีความส่วนตัว ไม่วุ่นวาย

ผู้พักอาศัยจะใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ถ้าเทียบกับจำนวนผู้พักอาศัย 434 ยูนิต อาจจะต้องผลัดกันใช้งาน

ทางเข้าคอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Triple Security ใช้คีย์การ์ดในการเข้าออกโครงการทั้งหมด

มีพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ ทำการกริลล์ระเบียงบังคอมเพรสเซอร์แอร์ เมื่อมองจากทางข้างนอกดูสวยงาม เป็นระเบียบ

ด้านบนอาคารทำการติดตั้งระบบโซลาเซลล์ เพื่อนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ในส่วนของไฟทางเดิน ไฟลานจอดรถ และไฟสนาม ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางลงได้

และอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัย คือ

แอพพลิเคชั่น sena 360 service

ที่ช่วยจัดการเรื่องการแจ้งซ่อมออนไลน์-การบริการเช่าขาย ผ่านบนมือถือสมาร์ทโฟน

สามารถดาวน์โหลดทั้งระบบ IOS และ Android

ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตารางเมตร

ใครที่อยากได้ห้องขนาดไม่ใหญมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แต่ละพื้นที่ของห้องถูกแบ่งเป็นสัดส่วนง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพื่อการใช้ชีวิตในแต่ละวัน การจัดวาง Space ห้องเหมาะสำหรับผู้อาศัยอยู่คนเดียวหรือสองคน การตกแต่งรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ภายในถูก Built in มาให้เรียบร้อย ขายแบบ Fully Furnished ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ห้อง Type B ของคอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน จึงเหมาะสำหรับผู้อยู่ 1-2 คนกำลังดี และเพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดจนเกินไป เลยทำการกั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ด้วยแพลทติชั้นกระจกแทนการก่อผนัง  แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ถูกลดความเป็นส่วนตัวลงไปบ้าง  ส่วนห้องน้ำ ,ห้องครัว และระเบียงอยู่ติดกัน สะดวกต่อการจัดการ ห้องโซนนี้จะปูพื้นกระเบื้อง ดูแลรักษาง่ายกว่าโซนพักผ่อนที่ใช้ลามิเนต  และการห้องครัวอยู่ติดระเบียงแบบนี้ จะช่วยในเรื่องการถ่ายเทอากาศ ระบายกลิ่นควันได้ดียิ่งขึ้น

เข้ามาเจอห้องนั่งเล่นเป็นห้องแรก มองไปตรงกับห้องนอน จัดไว้สำหรับการพักผ่อน พื้นโซนนี้ปูเป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อน ผนังติดวอลล์เปเปอร์โทนอบอุ่น ส่งให้ห้องดูกว้าง สว่าง เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องสไตล์โมเดิร์นเรียบๆ ไม่รกตา ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ทางคอนโด   The Niched Mono สุขุมวิท 50 จัดไว้ให้ก็ถูกออกแบบมาให้เข้ากับสไตล์ห้องได้อย่างกลมกลืน มีชั้นวางทีวี ลิ้นชักข้างข้างโซฟา และโซฟา

พื้นที่หน้าโซฟาถึงชั้นวางประมาณ 2.5-3 เมตร เดินผ่านได้สะดวก ยิ่งเอาโต๊ะกลางที่ทาง The Niched Mono สุขุมวิท 50 ใช้ตกแต่งออก ยิ่งมีเนื้อที่เพิ่ม ระยะนี้สามารถติดตั้งโทรทัศน์ขนาด 42-50 นิ้วได้โดยไม่ทำให้ปวดตา

เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ไว้ 5 ดวง ดวงใหญ่ 2 ดวงเล็กอีก 3 เพื่อความสวยงาม เสริมให้บริเวณโซฟามีแสงสว่างเพียงพอ

คอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 ได้

built in ชั้นวางทีวีให้ทั้งบนและล่าง ตัวชั้นทำจากลามิเนตลายไม้ บานเปิด-ปิด softclose หากอยากได้ที่วางของเพิ่มขึ้น แนะนำให้ติดตั้งโทรทัศน์แบบแขวนผนังเหมือนในห้องตัวอย่าง นอกจากจะได้ที่ใช้สอยเพิ่ม ยังทำให้ห้องดูมีสไตล์ขึ้น

ปลั๊กไฟสำหรับใช้งานอยู่ด้านหลัง

โซฟาก็เป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นที่ทางผู้อาศัยจะได้รับจาก The Niched Mono สุขุมวิท 50 นั่ง 2 คนไม่เบียด แต่ถ้าใครชอบนอนดูหนัง อาจยืดขาได้ไม่สุด

โต๊ะลิ้นชักมาพร้อมกับโซฟา วางได้พอดี มีปลั๊กไฟด้านหลัง ใช้ต่อโคมไฟได้

อีกฝั่งเหลือที่ว่างเล็กน้อย สามารถหาชั้นวางของสูงๆ มาวางได้อีกชิ้น นอกจากช่วยจัดระเบียบความเรียบร้อย ยังช่วยบังสายตาได้เล็กน้อย สำหรับคนที่ไม่ชอบให้คนข้างนอกมองเห็นพื้นที่ส่วนตัว

คอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 ใช้แพลทติชั่นในการแบ่งพื้นที่ระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น กระจกสีเขียว-กรอบอลูมิเนียมสีดำ แบบเลื่อนเปิด 3 ตอน ทำให้เลื่อนออกได้กว้าง ผู้อยู่จะได้ไม่อึดอัด ไม่มีอะไรมาขวางทางเดินเข้าห้องนอน และถ้าต้องการให้ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเดิม อาจติดฟิล์มขุ่นไว้ที่บานกระจก

ห้องนอนติดริมหน้าต่าง เวลากลางวันอาจร้อนไปบ้าง แต่อีกมุมหนึ่งคือช่วยให้ห้องดูกว้าง และสว่างกว่าเวลาปกติ เฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งภายในห้องมีเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า Built in และโต๊ะกระจกพร้อมเก้าอี้สตูล ทั้งหมดคือสิ่งที่ได้ห้องจริงด้วย

ฐานเตียง 5 ฟุตขนาดควีนไซส์  ไว้นอน 2 คนจะได้ไม่เหงา หรือจะนอนคนเดียวตามประสาคนโสดก็แล้วแต่ ข้างกันเป็นโต๊ะกระจกขนาดเล็ก

ใต้ฐานเตียงอเนกประสงค์ ไว้เก็บของ เหมาะสำหรับคนที่มีข้าวของเยอะ

หัวเตียงประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟดีไซส์เก๋ เพิ่มรสชาติให้ห้องไม่น่าเบื่อ แถมใช้ประโยชน์ได้จริง ใครที่อยากได้ห้องนอนสวยๆ แต่ยังไม่มีไอเดีย ลองนำไอเดียนี้ไปใช้ดูได้

โต๊ะกระจกของทาง The Niched Mono สุขุมวิท 50 เป็นโต๊ะในลักษณะ Built in พร้อมเก้าอี้สตูล ไม่สามารเคลื่อนย้ายได้ จะไว้นั่งแต่งหน้า ทำงานก็ขึ้นอยู่กับความสะดวก ข้างใต้มีปลั๊กไฟให้  1 จุด แต่ถ้านั่งนานๆ อาจปวดหลังเล็กน้อย เพราะพนักเก้าอี้ค่อนข้างเตี้ยไปหน่อย

ตู้เสื้อผ้าลามิเนต ตรงปลายเตียงมองเผินๆ ดูกลมกลืนไปกับผนัง

พอเลื่อนดู ในตู้มีราวแขวนเสื้อ-กางเกง ลิ้นชักสำหรับเก็บของใช้ให้เรียบร้อย เปิดได้ 2 ทาง ไม่กินพื้นที่ แต่ถ้าจะแต่งตัว แนะนำให้เดินมาแต่งที่ข้างจะสะดวกกว่า

ริมห้องติดหน้าต่างเต็มผนัง เปิดโล่งให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ มีบานกระทุ้งอยู่ 1 บาน ใช้ในการถ่ายเทอากาศ ระบายกลิ่นอับที่อาจเกิดขึ้นในห้องได้

ราวแขวนผ้าม่านแบบ 2 ราง สำหรับม่านโปร่งและทึบ แต่ถ้ารู้สึกว่าห้องร้อนเกินไป แนะนำให้ติดม่านแบบกันรังสียูวี จะช่วยกันเรื่องแดดและความร้อนได้ดีกว่า

ผนังส่วนปลายเตียงมีปลั๊กไฟและสัญญารสำหรับการติดตั้งโทรทัศน์แบบแขวนผนัง

The Niched Mono สุขุมวิท 50 ติดเครื่องปรับอากาศไว้ 2 จุด คือปลายเตียงกับห้องนั่งเล่น ตัวละ 9,000 BTU

ก่อนออกไปยังโซนห้องครัว ทางเข้าปิดด้วยกระจกใสบานเลื่อนเดียว ช่วยกันความเย็นออกข้างนอก และป้องกันไม่ให้กลิ่น-ควันเข้ามายังโซนพักผ่อน

ห้องครัวแบบปิด ทางเข้าเชื่อมต่อมาจากห้องนั่งเล่น ขนาบข้างด้วยห้องน้ำและระเบียงพักผ่อน เคาน์เตอร์ครัวขนาดกลาง ติดตั้งเตาไฟฟ้า ซิงค์ล้างจาน และเครื่องดูดควันไว้ มีโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 คน ตั้งอยู่ในห้อง พื้นปูกระเบื้อง 30x30 เพื่อการทำความสะอาดที่ง่ายขึ้น

ทางคอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 จะ built in ชุดครัวแบบติดชิดผนัง ชั้นบนและล่างทำจากลามิเนตลายไม้รูปแบบเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ให้นั่งทานข้าว ขยับตัวได้อึดอัด

ห้องจริงก็จะได้รับโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้เหมือนในห้องตัวอย่าง ตัวโต๊ะสามารถขยับ เคลื่อนย้ายได้ หากนั่งแล้วทานอาหารไม่สะดวก  

กลับมาดูที่เคาน์เตอร์ครัว บน top ครัวหุ้มด้วยลามิเนตสีดำ ต้องระวังเรื่องการบวมน้ำของวัสดุ เวลาใช้งานเสร็จแล้วจึงควรดูแลรักษาให้ดี ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ติดวอล์ลเปเปอร์เหมือนกับบริเวณอื่น หากเปื้อนคราบน้ำมัน คราบสกปรก จะทำความสะอาดยาก เป็นรอย ไม่สวย แนะนำให้หาแผ่นพลาสติกใส หรือบานกระจกมาติดบังไว้อีกชั้นหนึ่ง จะช่วยให้การทำสะอาดครัวทำได้ง่ายขึ้น

ตู้เก็บของชั้นบนติดสูงชิดเพดาน 2.40 เมตร บานเปิดปิดตู้แบบ softclose แต่คนตัวเล็กต้องเอื้อมเล็กน้อย โดยเฉพาะบานริมทั้ง 2 ฝั่ง ที่ต้องดันขึ้น ฉะนั้นพยายามอย่าเก็บพวกแก้ว กระเบื้อง หรือของที่แตกหักง่ายตรงชั้นนี้ เพื่อความปลอดภัย

พื้นที่ประกอบอาหารน้อย วางจานชามลำบาก ต้องนำไปวางที่โต๊ะทานข้าวแทน ถ้าช่วยกันทำ 2 คนอาจมีเหตุให้มือไม้ชนกันบ้าง ถือว่าสร้างบรรยากาศในการทำอาหาร

The Niched Mono สุขุมวิท 50 เลือกติดเตาไฟฟ้าของ Teka ขนาด 2 หัวให้

ข้างๆ เป็นซิงค์ล้างจานสแตนเลส ก้นอ่างลึกกว้าง เหมาะแก่การล้าง-แช่ผักผลไม้ ก็อกน้ำทรงหูกระต่ายยกสูง หมุนปรับทิศทางได้ตามต้องการ เวลาใช้ระวังน้ำกระเด็นเปียกไปโดนส่วนอื่น เพราะไม่มีที่พักจาน

ใต้ซิงคืเป้นตู้เก็บของ ใช้ซ่อนระบบท่อน้ำ แต่ก็ยังมีเนื้อที่เหลือให้เก็บของ อุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มได้

ข้างเคาน์เตอร์เหลือที่เล็กๆ ปล่อยไว้ก็เสียดาย หาถังขยะมาตั้งไว้ก็ดีเหมือนกัน

ที่วางตู้เย็นใหญ่ สามารถวางตู้เย็นขนาดประมาณ 9 คิวได้

ต่อที่ห้องน้ำริมสุด แบ่งเป็นโซนแห้งและเปียก พื้นและผนังปูกระเบี้ยงโทนขาวสะอาดตา สุขภัณฑ์ถูกติดตั้งไว้เป็นสัดส่วน โซนแห้งวางอ่างล้างหน้าติดประตู ขยับออกมาเป็นชักโครก มีชั้นวางของและราวแขวนผ้าขนหนู ส่วนโซนเปียกแยกการทำงานออกเป็น 2 ระบบ คือทั้ง Rain และ Hand shower

โซนแแห้งสำหรับการทำธุระส่วนตัว อ้างล้างหน้าและชักโครก ไม่ได้ตั้งอยู่ติดกันมากนัก เวลานั่งนานๆ จึงค่อนข้างสบายตัว พื้นปูกระเบื้องสีขาวลายเรียบ แต่ผนังจะใช้เป็นกระเบื้องลายหินอ่อน ดูสวยงาม

หน้าห้องน้ำยกธรณีน้อย แค่ประมาณ 1 นิ้ว มีโอกาสที่น้ำจะเปื้อนได้ แนะนำให้วางพรมเช็ดเท้าไว้ด้วย

อ่างล้างหน้าเซรามิค ถูกติดตั้งแบบขาตั้งลอย ทนทานและซ่อมบำรุงง่าย หน้าอ่างมีที่ให้พอวางขวดสบู่ได้ ส่วนด้านล่างอ่างปล่อยโล่ง อาจใช้วางถังขยะหรือชั้นพลาสติกเสริม

ก็อกน้ำวาว์ลหมุน สะดืออ่างแบบกดป๊อปอัพ

ผนังฝั่งหนึ่งทำ low wall สำหรับวางของเพิ่มเติม กระจกเงายาวสุดขอบห้อง

ระยะติดตั้งชักโครก ไม่ชิดผนังจนเกินไป นั่งสบาย สายฉีดชำระหัวพลาสติกแบบนี้ต้องระวังการกระแทก เพราะอาจชำรุดเสียหายได้ง่าย

วาล์วปล่อยน้ำของสายฉีดชำระกับถังเก็บน้ำชักโครกเป็นตัวเดียวกัน เวลาเกิดน้ำรั่วหรืออุปกรณ์มีปัญหา จะไม่สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 อย่าง

ราวแขวนผ้าขนหนูบางๆ แต่ดูแข็งแรงใช้ได้

ชั้นวางของจะอยู่ตรงข้ามชักโครก เวลาอาบน้ำอาจต้องออกมาหยิบของข้างนอก ทำให้พื้นบริเวณโซนแห้งเปียกไปด้วย แนะนำว่าให้หยิบเข้าไปเลยน่าจะสะดวกกว่า

ห้องอาบน้ำ 2 ระบบ ติดตั้งฝักบัวให้ทั้งสองแบบ มีพื้นที่ให้อาบน้ำได้พอดีตัว และกั้นห้องด้วยแพลทติชั้นกระจก ป้องกันน้ำกระเด็น

ก่อธรณีสูงประมาณ 4 นิ้ว เวลาเดินระวังสะดุด

ฝักบัวมีลักษณะไม่ต่างกันมาก แค่ Rain shower จะมีขนาดใหญ่กว่า เพื่อให้อาบได้ทั่วถึง  ก็อกปรับระดับน้ำแยกเป็น 2 วาล์วเปิดปิดให้ หากอุปกรณ์ชิ้นใดเสียหาย ก็ยังสามารถใช้อีกชิ้นหนึ่งได้ ง่ายต่อการซ่อมแซม  ส่วนข้างบนสุดเป็นที่สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น แล้วอย่าลืมเดินสายดินไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยในชีวิต

ใต้ฝักบัวก่อปูนทำเป็นที่นั่งง่ายๆ ไว้นั่งขัดตัว ถูสบู่

มองตรงมาจากห้องน้ำจะเจอประตูระเบียง บานเลื่อน 3 ตอน เป็นกระจกใสกรอบอลูนิเมียมสีดำ ระวังอย่าลืมตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวเองก่อนออกมาจากห้องน้ำด้วย

กลอนประตูแบบเซาะร่อง

ราวกันตกสูงราวๆ 1.1 เมตร อยู่ในระดับมาตรฐานตามความปลอดภัย ต่อให้อยู่ชั้นสูงๆ ก็ไม่ค่อยหวาดเสียวเท่าไร ธรณีประตูสูงประมาณ 2.5 นิ้ว ไม่ให้สิ่งสกปรกหรือน้ำฝนเข้ามาในตัวห้องได้

พื้นที่ระเบียงแขวนคอนเพรสเซอร์แอร์ไว้ทั้ง 2 ตัว ในลักษณะหันหน้าเข้าผนังห้องนอน ด้านบนติดตั้งไฟโคม 1 ดวง เพื่อความสะดวกเวลาใช้งาน

ใต้คอมเพรสเซอร์แอร์เหลือที่ว่างค่อนข้างเยอะ  สามารถวางเครื่องซักผ้าฝาบนไซส์เล็กได้อยู่ มีปลั๊กไฟและก็อกสนามให้พร้อม

เฟอร์นิเจอร์ได้รับในห้อง Type B ขนาด 28 ตารางเมตร

อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าทางคอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 ขายห้องแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ Built in จะออกแบบมาสำหรับทางโครงการโดยเฉพาะ หน้าตาของแต่ละห้องจึงไม่แตกต่างกันมากนัก อาจต่างกันที่จำนวน หรือขนาดเท่านั้น อย่างห้องนี้ผู้พักอาศัยจะได้รับ 

ชั้นวางทีวี ,โซฟา ,ลิ้นชักข้างโซฟา ,ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต ,โต๊ะกระจก ,เก้าอี้สตูล ,ตู้เสื้อผ้า ,เคาน์เตอร์ครัวยกชั้น ,โต๊ะทานข้าว และเก้าอี้อีก 2 ตัว ในราคา 2.36 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 1 มีนาคม 2560)

ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร

ห้อง Type C จะเปลี่ยนมาวางเคาน์เตอร์ครัวไว้ข้างนอกแทน จัดให้เป็นโซนเดียวกับห้องนั่งเล่น มีโต๊ะทานข้าวตั้งกลาง ส่วนฝั่งด้านใจจะเป็นห้องนอน มีห้องน้ำในตัว ข้อดีคือผู้อาศัยจะได้รับความเป็นส่วนตัวกว่าห้องแรก เนื่องจากห้องนอนมีประตูปิดมิดชิด

การออกแบบ ตกแต่งห้องคล้ายกับห้อง Type  B สไตล์โมเดิร์นโทนอบอุ่น  มีเฟอร์นิเจอร์ Built in ให้เช่นกัน พอมองเข้าไปจะเจอหน้าต่างเชื่อมกับระเบียงพักผ่อนแบบนี้ ทำให้ห้องดูสว่าง โล่ง ไม่อับทึบ จัด spece ห้องเป็นแนวยาว ลึก มีที่ให้เดินผ่านได้สะดวก

สิ่งที่เพิ่มมาจากห้อง Type B คือ ตู้เก็บรองเท้าติดประตูห้อง เวลากลับมาจากข้างนอกก็ถอดเก็บได้ทันที ตู้ทำจากลามิเนต บานเปิด-ปิด Softclose เช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ

ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งของเคาน์เตอร์ครัว มีหน้าตาและลักษณะ เหมือนกับห้องแรก และทางคอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 ก็จะติดตั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย ส่วนที่ว่างด้านข้างสามารถใส่ตู้เย็นได้ ขนาดไม่เกิน 10 คิว

top ครัวหุ้มลามิเนตสีดำ พื้นที่ประกอบอาหารน้อยเช่มเดิม ถ้ามีกับข้าวเยอะๆ ต้องวางที่โต๊ะทานข้าวแทน เพื่อความสะดวก

ตู้เก็บของชั้นบน built in ติดเพดาน สูง 2.4 เมตร บานเปิดปิด Softclose แบ่งช่องให้เก็บอุปกรณ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเก็บจาน แก้ว หรือตะขอแขวนทัพพี  

ส่วนเคาน์เตอร์ด้านล่างเป็นตู้เก็บของใต้ซิงค์ กับ ช่องใส่ไมโครเวฟ มองแล้วก็ไม่ต่างจากห้องแรกเลย เรียกว่าออกแบบมาเพื่อ The Niched Mono สุขุมวิท 50 โดยเฉพาะ

นอกจากเคาน์เตอร์ครัวที่อยู่บริเวณเดียวกับห้องนั่งเล่นแล้ว โต๊ะทานข้าวก็อยู่ตรงนี้เช่นกัน ทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวคั้นกลาง ระหว่างโซฟาและเคาน์เตอร์

โต๊ะทานข้าวที่ห้องจริงจะได้รับมีหน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่าง มีโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว เคลื่อนย้ายได้ ถ้าวันไหนมีเพื่อนมาทานข้าวด้วย สามารถเพิ่มเก้าอี้ให้นั่งได้เป็น 4 คน แต่อาจติดเรื่องพื้นที่เล็กน้อย เพราะบริเวณนี้ไม่ได้กว้างมาก แนะนำให้ใช้เป็นเก้าอี้แบบพับเก็บได้ เมื่อทานเสร็จค่อยขยับโต๊ะชิดผนังดังเดิม

ห้องนั่งเล่นของ The Niched Mono สุขุมวิท 50 จะให้โซฟา ลิ้นชักข้างโซฟา และชั้นวางทีวีแบบนี้ ระยะหน้าโซฟาดูแคบกว่าห้อง Type B เล็กน้อย แต่ก็ยังเดินผ่านได้สะดวก

ห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะปูพื้นห้องด้วยลามิเนตลายไม้ ผนังติดวอล์ลเปเปอร์สีเอิร์ธโทน  บวกกับประตูระเบียงที่เปิดโล่งเต็มพื้นที่ ทำให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามายังพื้นที่ด้านในได้เยอะ ยิ่งส่งผลให้ห้องดูอบอุ่น สบายตา ไม่คับแคบ

เพดานติดไฟดาวน์ไลท์เช่นเดียวกัน แต่เพิ่มลูกเล่นด้วยการดรอปฝ้าเล็กน้อย แล้วซ่อนไฟเอาไว้ ให้ห้องดูมีสไตล์ขึ้น

คอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 ได้ Built in ชั้นวางทีวีให้ เป็นแบบเดียวกับห้องแรก มีที่เก็บของทั้งบนและล่าง  พื้นที่ตรงกลางเว้นไว้ให้ติดตั้งทีวีขนาดไม่เกิน 50 นิ้ว

โซฟาขนาดกลาง นั่งสบายไม่เบียด

ระยะหน้าโซฟากว้างประมาณ 2 เมตร แนะนำให้เอาโต๊ะกลางออกจะได้ไม่เกะกะ ประตูระเบียงเป็นบานสลับซ้ายขวา กรอบอลูนิเนียมสีดำ

ขนาดวันปกติแสงแดดยังส่องเข้ามาถึงโซฟา ถ้าวันไหนแดดแรงๆ คาดว่าน่าจะส่องเข้ามาถึงกลางห้องเลยด้วยซ้ำ แนะนำให้ติดผ้าม่านช่วย  ส่วนระเบียงจะยาวกว่าห้อง Type B เล็กน้อย เพราะกินพื้นที่ห้องนอนเข้าไป ธรณีสูงเกือบ 4 นิ้ว

คอมเพรสเซอร์แอร์ทั้ง 2 ตัว แขวนไว้ด้านบน หันออกนอกอาคาร ไม่ทำให้ห้องร้อน ราวกันตกสูงราวๆ 1 เมตร มีปลั๊กไฟและก็อกสนามให้ ถ้าใครต้องการใช้งานเครื่องซักผ้า ควรวัดขนาดให้ดีก่อนซื้อ

เมื่อมองเข้ามาจากทางระเบียง โซฟา โต๊ะทานข้าวและเคาน์เตอร์ครัวจะอยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมด ทำให้ห้องมีที่เดินสะดวก ดูเป็นระเบียบ

ทางเข้าห้องนอนอยู่ตรงข้ามโต๊ะทานข้าว คอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 ติดเครื่องปรับอากาศ Daikin ขนาด 12,000 BTU ไว้ด้านบน

ห้องนอนกว้าง มีเฟอร์นิเจอร์อย่าง เตียง ลิ้นชักหัวเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะกระจกและเก้าสตูลให้เหมือนเดิม แต่การจัดวางพื้นที่จะค่อนข้างมีความเป็นระเบียบกว่า แบ่งสัดส่วนชัดเจนกว่าห้องแรก

เตียงขนาด 5 ฟุต ฐานเตียงซ่อนลิ้นชักไว้อย่างแนบเนียน

หัวเตียงตกแต่งเพิ่ม โชว์ลายไม้ ดูเรียบหรู มีลิ้นชักหัวเตียงให้

ข้างเตียงทำเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัวหรือนั่งทำงาน เมื่ออยู่ติดหน้าต่างแบบนี้ จะทำให้สามารถมองวิวนอกอาคารได้ด้วย

โต๊ะกระจกและเก้าสตูล ที่คอนโด The Niched Mono สุขุมวิท 50 ให้จะมีลักษณะเหมือนกับห้องแรก

ช่องรับแสงเล็กกว่าห้อง Type B เล็กน้อย แต่แสงก็ยังส่องเข้ามาถึง

บานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายอากาศ

ปลายเตียงติดเครื่องปรับอากาศ และมีปลั๊กไฟ+ปลั๊กสัญญาณให้ติดโทรทัศน์แบบแขวนผนังได้ ซึ่งผนังบริเวณจะมีที่ว่างเหลือ เราสามารถติดชั้นลอยเพิ่มได้ เป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ีแนวตั้ง เพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้อง

มองเผินๆ ตู้เสื้อผ้าที่ The Niched Mono สุขุมวิท 50 built in ให้ดูกลมกลืนไปกับตัวห้องมาก สวยงาม ไม่แปลกแยก บานเปิด-ปิด สไลด์ 2 ทิศทาง

ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน ให้ความสะดวกเวลาแต่งตัว

ขนาดห้องน้ำเล็กกว่าห้อง Type B เล็กน้อย แต่ยังมีการแบ่งโซนแห้งและเปียกไว้เช่นเดิม สุขภัณฑ์มีหน้าตาเหมือนกัน เน้นสีขาวสะอาดตา พื้นและผนังปูกระเบื้อง ทำความสะอาดง่าย

โซนแห้งติดตั้งอ่างล้างหน้าคู่กับชักโครก ด้านหลังทำ low wall สำหรับวางของ

ระยะติดตั้งชักโครกแคบกว่า

โซนเปียกไม่ต่างกับห้องแรกมากนัก คือ มีทั้งระบบ Rain และ Hand shower  กั้นด้วยแพลทติชั้นกระจก เพิ่มช่องวางของด้านใน ทำให้ไม่ต้องเดินออกมาหยิบข้างนอก สะดวกกว่า

ห้องอาบน้ำยกธรณีสูง 4

ตำแหน่งฝักบัวอาบน้ำไม่สูงมาก ด้านข้างเป็นที่สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่น

ช่องวางของทำแบบ drop wall เข้าไป ทำให้ไม่เกะกะ ไม่กินพื้นที่ห้องอาบน้ำ และมีที่นั่งให้เช่นกัน

เฟอร์นิเจอร์ที่ห้อง Type C ขนาด 31 ตารางเมตร

ถึงแบบห้องจะแตกต่างกัน แต่เฟอร์นิเจอร์ภายในจะมีลักษณะเดียวกันทั้งโครงการ โดยห้อง Type C จะได้ โซฟา ,ลิ้นชักข้างโซฟา ,ชั้นวางโทรทัศน์ ,เคาน์เตอร์ครัว ,โต๊ะทานข้าว ,เก้าอี้ , ฐานเตียง ,โต๊ะหัวเตียง ,ตู้เสื้อผ้า ,โต๊ะกระจก และเก้าอี้เช่นเดียวกับห้อง Type B โดยส่วนที่ได้เพิ่มขึ้นมาจะเป็น ตู้เก็บรองเท้า  ที่อยู่ติดประตู ในราคา 2.86 ล้านบาท

สำรวจโลเคชั่นรอบโครงการ The Niche Mono สุขุมวิท 50

ถนนสายสุขุมวิทเป็นถนนสายหลักที่ใช้ในการเข้าออกเมือง ระหว่างทางมีสิ่งอำนวยความสะดวก ห้างสรรพสินค้า และศูนย์รวมความเจริญ โดยเฉพาะบริเวณย่านทองหล่อต่อไปมาถึงเอกมัย ใกล้แหล่งชอปปิ้งไลฟ์สไตล์คนเมือง

หากใครต้องการออกไปหาความสบายก็ทำได้ง่ายดาย เพียงขึ้นรถไฟฟ้า BTS ไปไม่กี่สถานีเท่านั้น ซึ่งคอนโด The Niche Mono สุขุมวิท 50 จะใกล้กับ BTS สถานีอ่อนนุช ที่สุด แค่ 800 เมตร

หากออกไปทางปากซอยสุขุมวิท 50 จะเจอกับ เทสโก้ โลตัส สาขาสุขุมวิท 50 เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่คนในย่านนี้นิยมมาจับจ่ายซื้อของกัน เดินออกไปทางขวามือเล็กน้อย ก็จะเจอกับสถานีอ่อนนุช หรือถ้าใครเดินไม่ไหว ทางคอนโดมี Shutter Bus ไว้คอยบริการ ซึ่งสะดวกมากสำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือคนที่ทำงาน คนที่ชอบเที่ยวตามแนวรถไฟฟ้า อย่างเช่น นั่งไป สถานีพระโขนง ก็จะเจอ Hof Art Space

https

ps

://

www

.

facebook

.

com

/

HOFArtSpace

/ )

พื้นที่จัดอีเว้นท์แสดงผลงานทางศิลปะ ใครสนใจงานไหนก็ตามไปดูกันได้  เลยไป สถานีเอกมัย พอลงจากสถานีมาจะเจอ Major  Cineplex และ Gateway Ekamai ภายในมีร้านค้า ร้านอาหารมากมายให้เลือกนั่ง ส่วนโรงพยาบาลใกล้ๆ ก็มี โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทย กับ โรงพยาบาลสุขุมวิท ที่ห่างออกไปไม่เกิน 3 กิโลเมตร ระหว่างนั้นก็ยังมีคลินิกเปิดให้บริการอยู่มากมาย

เทสโก้ โลตัสตั้งอยู่หน้าปากซอย มีวินรถสองแถวจอดอยู่ตรงทางเข้า

แหล่งคอมมูนิตี้น่าสนใจ

หลังจากเยี่ยมชมสำนักงานขาย The Niche Mono สุขุมวิท 50 เรียบร้อย ก็สังเกตเห็นว่าฝั่งตรงข้ามสำนักงานขาย The Nicche Mono สุขุมวิท 50 จัดเหมือนคอมมูนิตี้ มอลล์เล็กๆ มีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ให้นั่งชิลล์ แต่ส่วนใหญ่น่าจะเปิดช่วงเย็นถึงดึกเสียมากกว่า ช่วงกลางวันมีเปิดบ้างประปราย แต่ก็มีร้านน่าสนใจไม่น้อย ทั้งคาเฟ่ อาหารญี่ปุ่น

แต่ละร้านทำเป็น Box space สีสันสะดุดตา พื้นที่เล็กๆ แต่รวบรวมของอร่อยไว้ด้านใน

ร้านแรกสุดเป็นร้าน “อิ่มสุข”  ขายพวกอาหารจานเดียว กับข้าว เหมาะสำหรับมาทานคนเดียวหรือเป็นกลุ่มก็ได้

ตรงเข้าไปอีกนิดมีร้านอาหารญี่ปุ่นขายด้วย ตกแต่งหน้าร้านด้วยต้นซากุระ มีกลิ่น Japan Oriental Style

นิดๆ แค่มองไกลๆ ก็รู้ว่าขายอะไร

ใกล้กันเป็นร้านปิ้งย่าง เน้นไปทางสายเนื้อ สายวากิว

สลับกันร้านขนมหวาน เป็นร้านเล็กๆ ที่นั่งแค่ไม่กี่โต๊ะ ไว้นั่งชิลล์ฆ่าเวลา ถ้านั่งนานอาจกวนลูกค้าคนอื่นได้

พอเดินมาบริเวณด้านสุด จะมีลานจอดรถให้ จอดได้ประมาณ 20 คัน ติดกันคือร้าน เซ็นได ราเมน ที่นั่งค่อนข้างเยอะ เปิดตั้ง 11

.

00

–

24

.

00 น

.

 ถ้าเกิดหิวดึกๆ ก็สามารถแวะมาทานได้

อีกร้านเป็นบุฟเฟ่ชาบู “Hai Shabu” อาหารที่เสิร์ฟมีทั้งหม้อชาบูและอาหารญี่ปุ่น เปิดเป็นช่วงเวลา 11

.

30

-

14

.

00 น

.

และ 17

.

00

–

23

.

00 น

.

และร้านที่วันนี้จะพาเข้าไปชมบรรยากาศ คือ ร้าน Joe

’

s Coffee and The Witches Bar เป็นร้านกาแฟเล็กๆ มีที่นั่งให้หลบร้อน ไม่วุ่นวาย

เดินไปสั่งเมนูได้ที่เคาน์เตอร์ด้านในสุด เมนูเครื่องดื่ม กาแฟสด สมูตตี้ส่วนใหญ่จะมีราคา 65

–

80 บาท

โซนร้านแบ่งเป็นแบบนั่งโต๊ะ กับ เก้าอี้บาร์ ร้านค่อนข้างโปร่งกว่าที่คิด สามารถมานั่งทำงานเปลี่ยนบรรยากาศได้ มี Wifi ฟรีให้ใช้ ส่วนปลั๊กไฟอาจจะต้องหา เพราะไม่ได้มีทุกจุด

นอกจากกาแฟสดแล้ว ทางร้านยังมีเมนูทานเล่นอย่างแซนวิซ หรือโทสต์ ด้วย แต่ราคาอาจสูงเล็กน้อย 59

-

99 บาท

เมนูที่เลือกเป็น Ice Latte รสชาติไม่หวานมาก มีเลเยอร์ของเอสเพรสโซ่กับนมพอสวยงาม อาจไม่ค่อยถูกใจคอกาแฟสายขมสักเท่าไร

วิเคราะห์โครงการ The Niche Mono สุขุมวิท 50

ทำเล : จุดเด่นของที่ตั้ง The Niche Mono สุขุมวิท 50 น่าจะอยู่ที่ “การเดินทาง” ที่สะดวกทั้งผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว และระบบขนส่งสาธารณะ เนื่องจากอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนทั้ง 2 เส้นทาง คือ จุดลงทางด่วน สุขุมวิท 50 และ จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ตรงไปอีกประมาณ 800 เมตรจะพบสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช ซึ่งทางคอนโดจะมีบริการรถรับส่งไว้คอยอำนวยความสะดวก

สภาพล้อมแวดล้อม : ด้วยความที่ซอยสุขุมวิท 50 เป็นซอยที่มีจุดลงทางด่วนลงผ่ากลางซอย ทำให้รถสัญจรค่อนข้างหนาแน่นตลอดทั้งสาย เวลาจะข้ามถนนต้องดูรถให้ดีก่อน ด้านร้านค้า-ร้านอาหารเท่าที่เห็นจะเป็นห้างเทสโก้ โลตัสที่อยู่หน้าปากซอย และร้านนั่งทานเป็นจุดๆ ไป ไม่คึกคัก ส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของคอนโดมิเนียมเสียมากกว่า

แบบห้อง : ห้อง 3 type 3 ขนาด 24 , 28 และ 31

ตารางเมตร

สำหรับผู้อยู่อาศัย 1

-

2 คน

หรือห้องขนาด  46 ตารางเมตร สำหรับครอบครัวขนาดเล็ก แบบพ่อแม่ลูก ภายใน Built in เฟอร์นิเจอร์ให้ค่อนข้างครบ ไม่ต้องเสียค่าตกแต่งเพิ่มเติมมากมายนัก การออกแบบโดยรวมของทั้ง 4

ห้องมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ทั้งตัววัสดุและเฟอร์นิเจอร์ของทางโครงการที่ถูกออกแบบมาเฉพาะ สไตล์โมเดิร์นเรียบง่าย เน้นโชว์ลายวัสดุ ลามิเนตสีอ่อนส่งให้ห้องดูกว้างขึ้น

สิ่งอำนวยความสะดวก :   จุดเด่นของคอนโด The Niche Mono สุขุมวิท 50 จะเป็นการนำระบบโซลาเซลล์มาใช้ในงานส่วนกลางอย่างไฟทางเดิน ไฟลานจอดรถ และไปสนาม ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและลดค่าส่วนกลางลงได้ส่วนหนึ่ง อีกหนึ่งคือการดูแลจัดการห้องพักบนมือถือ ผ่านแอพพลิเคชั่น sena 360 service ที่จะทำให้เราสามารถติดต่อผู้ดูแลคอนโดได้ง่ายขึ้น ด้าน Facility จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องฟิตเนส คลับเฮ้าส์ พื้นที่สีเขียว และร้านสะดวกซื้อให้ทั้ง 2 อาคารใช้งานร่วมกัน ซึ่งหากเปรียบกับจำนวนยูนิตทั้งหมด อาจจำเป็นต้องมีการแบ่งเวลากันใช้ และสำหรับคนที่มีของเยอะ แต่ไม่อยากเก็บไว้ในห้องตนเอง คอนโด The Niche Mono สุขุมวิท 50 จะมีโซน Locker  Room ให้เข่ารายเดือน

ราคา : 1

ห้องนอน ขนาด 28 ตารางเมตร  2.36 ล้านบาท  แต่ผู้พักอาศัยจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นหลายชิ้น อย่าง โซฟา ,ลิ้นชักข้างโซฟา ,ชั้นวางทีวี ,ฐานเตียง ,โต๊ะข้างเตียง ,ตู้เสื้อผ้า , โต๊ะกระจกคู่เก้าอี้สตูล ,เคาน์เตอร์ครัวครบชุด และโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า น่าสนใจสำหรับคนที่อยู่คนเดียวและไม่ยากเสียเวลา เสียค่าตกแต่งเพิ่ม อีกทั้งทำเลยังอยู่ใกล้ทางด่วนกับรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช และทางคอนโดยังมีบริการเช่า-ขาย สำหรับใครต้องการลงทุนซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าด้วย

โครงการ   The Niche Mono สุขุมวิท 50  เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง ผู้ที่มองหาความสะดวกสบายในการเดินทางไปทำงาน หลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด หลบหนีความวุ่นวายในตัวเมือง ในขณะเดียวกันก็สามารถออกไปหาความสุขตามแหล่งคอมมูนิตี้ มอล์ล ศูนย์กลางความเจริญต่างๆ ในย่านเอกมัย-ทองหล่อ เนื่องจากอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า ใช้เวลานั่งไปไม่กี่สถานีก็ถึง สำหรับราคาของ The Niche Mono สุขุมวิท 50  เป็นช่วงราคาที่คนวัยทำงาน หรือแม้กระทั้งคนเริ่มทำงานเอื้อมถึง สามารถจับจอง ผ่อนดาวน์ได้อย่างไม่เหนื่อยมากนัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน ทั้ง facility  และ เฟอร์นิเจอร์ภายใน