[Review] เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) คอนโด High rise ติดริมแม่น้ำที่ใครก็เป็นเจ้าของได้

สวัสดีค่ะ สำหรับวันนี้ Estopolis รีวิว ของเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมคอนโดมิเนียม High rise ติดริมแม่น้ำ บรรยยากาศดีที่ใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้กับ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) หลายคนคงจะรู้จักหลายโครงการในชื่อของ เดอะ โพลิแทน กันมาบ้างแล้ว ซึ่ง The Politan Aqua จะเป็นโครงการในเฟสที่ 4 บนที่ดินกว่า 10 ไร่

ถึงแม้จะเป็นคอนโด High rise ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เรทราคายังสามารถจับต้องได้ค่ะ เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ หรือใครที่อยากจะซื้อคอนโดวิวสวยเก็บเอาไว้ในครอบครอง ส่วนรายละเอียดของโครงการจะมีอะไรบ้าง ต้องติดตามชมต่อในรีวิวฉบับนี้ได้เลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua)

ราคาเมื่อวันที่ 14/03/2017

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24-29-30 ตร.ม.  

ราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท

เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua)

ชื่อโครงการ เดอะ โพลิแทน (The Politan Aqua)

ที่ตั้งโครงการ ซอยนนทบุรี 15 ถนนสนามบินน้ำ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

ราคาเริ่มต้น  1.29 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการเดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua)

เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) คอนโดมิเนียมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนทำเลที่มีศักยภาพของจังหวัดนนทบุรี โครงการอยู่ในจุดที่เดินทางง่าย เชื่อมต่อถึงหลากหลายเส้นทาง นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในระยะทางเพียง 400 เมตรเท่านั้น

แผนที่จากโครงการ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15 ถนนสนามบินน้ำ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) ตั้งอยู่ในทำเลสนามบินน้ำ เชื่อมต่อถึงถนนสายหลักของจังหวัดนนทบุรีอย่างถนนติวานนท์ และถนนรัตนาธิเบศร์ จึงมีศักยภาพในการพัฒนาค่อนข้างสูง เพราะถนนติวานนท์และถนนรัตนาธิเบศร์ เชื่อมต่อถึงถนนสายสำคัญอีกหลายเส้นทางจึงสะดวกสบายทั้งฝั่งขาเข้าเมืองมุ่งหน้าสู่ถนนามวงศ์วาน ขับต่อไปยังถนนรัชดาภิเษก มุ่งสู่อโศกได้ ส่วนฝั่งขาออกเมืองสามารถเดินทางไปปากเกร็ด นนทบุรี ออกไปบางใหญ่-บางบัวทอง หรือจะใช้เส้นราชพฤกษ์ขับไปยังจังหวัดนครปฐมก็ได้ คนขับรถยนต์ส่วนตัวจึงอยู่ได้สบายหายห่วงค่ะ เพราะระบบการคมนาคมค่อนข้างดี แต่รถจะติดหน่อยตามเวลาเร่งด่วนบริเวณแยกแคราย ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนติวานนท์ รัตนาธิเบศร์ และถนนงามวงศ์วาน การเดินทางจึงควรเผื่อเวลาไว้บ้างค่ะ แต่ถ้าพ้นแยกแครายไปได้ ถนนงามวงศ์วานจะมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ด้วย สามารถเลือกใช้บริการเพื่อย่นระยะเวลาในการเดินทางได้ด้วยเหมือนกัน

สำหรับระบบขนส่งสาธารณะ ห่างจากโครงการไปประมาณ 400 เมตรจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ยังถือเป็นระยะทางที่เดินถึงได้อยู่ค่ะ แต่ถ้าใครอยากจะสบายขึ้นหน่อย เดินตากแดดไม่ไหว ปากซอยนนทบุรี 15 มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วย โบกพี่วินไปก็สะดวกดีเหมือนกัน หรือถ้าใครทำงานแถวนั้น อาจจะเลือกใช้แท็กซี่ รถสองแถวแทนก็ได้ มีวิ่งรับ-ส่งตลอดเวลา ทั้งทางฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์และถนนสนามบินน้ำเลยค่ะ

เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) ถือเป็นหนึ่งในคอนโด High rise ที่เกิดขึ้นมาตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งตอนนี้อาจจะยังใช้งานได้ไม่เต็มที่ เพราะเชื่อมต่อไม่ถึง MRT สายสีน้ำเงิน ซึ่งเดินทางเชื่อมต่อถึงตัวเมือง แต่ในอนาคตมีโครงการจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ คือรถไฟฟ้าสายสีชมพู เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี อยู่ก่อนถึงแยกแคราย คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปี 2563 ตรงนี้จะช่วยให้คนที่อยู่อาศัยในย่านนี้มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น
นอกจากรถไฟฟ้าแล้วในอนาคตจะมีโครงการสร้างท่าเรือด่วนเจ้าพระยา ใต้สะพานพระนั่งเกล้า โดยจะสร้างสะพานเชื่อมต่อยาวถึงสถานีรถไฟฟ้าสะพานพระนั่งเกล้าเลย การเดินทางจะเร็วขึ้นมากสำหรับใครที่ทำงานอยู่ริมน้ำ หรือเบื่อรถติดบนท้องถนนอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศในการเดินทางดูบ้าง

วิถีชีวิตริมน้ำในอดีตอาจจะหยุดอยู่แค่การใช้สอยเพื่อการเกษตร การคมนาคม และการใช้ชีวิต แต่ในปัจจุบันที่มีการพัฒนาด้านพื้นที่มากขึ้น วิถีชีวิตริมน้ำได้ผันตัวเป็นไลฟ์สไตล์หนึ่งที่คนเมืองโหยหา การได้ชมวิวสวย รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และมีระบบการคมนาคมที่เชื่อมถึงได้ทุกที่ กลายมาเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อคอนโดไปแล้วในยุคปัจจุบัน

เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) มีความครบเครื่องในเรื่องของการคมนาคมเหมือนกับที่กล่าวไปแล้วในตอนต้นนะคะ ด้านวิวก็ชนะเลิศในเรื่องวิวแม่น้ำ ส่วนด้านสิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะยังไม่ได้มีให้มากนัก พื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบและชุมชนดั้งเดิม รอบๆ จะเป็นสถานศึกษา วัด และสำนักงานราชการ ส่วนห้างสรรพสินค้าและความคึกคักจะอยู่เกะากลุ่มบนถนนรัตนาธิเบศร์เสียส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ไกลมากจนนั่งรถไม่ได้เลย ยังไงก็ลองดูแผนที่ประกอบกับสถานที่ดูนะคะว่า ตอบโจทย์ลักษณะการใช้ชีวิตขอองเราขนาดไหน ซึ่งสถานที่ใกล้เคียงของโครงการ The Politan Aqua มีดังต่อไปนี้

1. โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี
   
2. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
   
3. โรงเรียนศรีบุณยานนท์
   
4. กระทรวงพาณิชย์
   
5. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
   
6. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
   
7. ตลาดสนามินน้ำ
   
8. เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์
   
9. อุทยานมกุฎรมย์สราญ
   

10. เทสโก้ โลตัส  รัตนาธิเบศร์

11. เอสพลานาด รัตนาธิเบศร์

เส้นทางการเดินทางไปยัง เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua)

สำหรับการเดินทางในวันนี้เริ่มต้นจากถนนงามวงศ์วาน —> ถนนรัตนาธิเบศร์ —> กลับรถสะพานพระนั่งเกล้า —> เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำ —> เลี้ยวเข้าซอยนนทบุรี 15 เข้าไปประมาณ 300 เมตร

เริ่มต้นที่ถนนงามวงศ์วาน ให้ขึ้นสะพานข้ามแยกแคราย เพื่อย่นระยะการเดินทาง

ลงจากสะพานข้ามแยกแคราย ขวามือจะเป็นห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด รัตนาธิเบศร์ ให้ขับตรงไปเลยค่ะ

ขับรถตรงมาจะเป็นสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ขับตรงต่อไปเลยค่ะ

ขับต่อไปอีกนิดหน่อยจะเจอเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ค่ะ ถือเป็นห้างที่อยู่ใกล้กับโครงการที่สุด

ขับตรงไปตามทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ให้สังเกตป้ายท่าน้ำนนทบุรี สนามบินน้ำ ให้ชิดซ้ายไว้

เบี่ยงซ้ายแล้วกลับรถที่ใต้สะพานพระนั่งเกล้า

กลับรถมาจะเจอกับแขวงทางหลวงนนทบุรี

กลับรถมาเรียบร้อยแล้วจะเจอป้ายสนามบินน้ำ ให้เตรียมเลี้ยวซ้าย

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำเลยค่ะ

จากปากทางเข้าถนนสนามบินน้ำ จะเจอกับซอยนนทบุรี 15 โครงการจะอยู่ในซอยนี้เลยค่ะ มองตรงไปจะเป็นสะพานลอย ข้ามฟากไปจะเป็นป้ายรถประจำทางค่ะ

ติดกับปากซอยนนทบุรี 15 จะเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ เหมาะกับคนที่ทำธุรกรรมการเงินบ่อยๆ

อาคารรอบโครงการจะเป็นอาคารแนวราบ และเป็นแหล่งชุมชนดั้งเดิมของคนในย่านสนามบินน้ำ

เข้าสู่พื้นที่โครงการ The Politan Aqua ตัวคอนโดจะอยู่ด้านในถัดจากถนนใหญ่ไป 300 เมตร

ถนนเชื่อมไปสู่ตัวโครงการค่ะ

ถึงด้านหน้าคอนโดแล้วค่ะ ถนนเข้าสู่คอนโดจะเลี้ยวไปทางขวา แต่ถ้าเลี้ยวไปด้านซ้ายมือจะเป็นทางออกไปปากซอยรัตนาธิเบศร์ 42 ค่ะ

เลี้ยวขวาเข้าสู่โครงการกันเลยค่ะ

ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นสำนักงานขายอยู่ทางซ้ายมือ

บริเวณทางเข้าจะมีป้อมรปภ. คอยตรวจสอบความปลอดภัยอยู่ด้วย

ถนนมุ่งสู่สำนักงานขายค่ะ

หน้าตาของสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะรีโนเวทเป็นคลับเฮาส์ของโครงการค่ะ

เส้นทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้า

ย้อนกลับมาที่หน้าทางเข้า คอนโด The Politan Aqua กันอีกสักรอบ เราจะพาไปสำรวจถึงหน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์ 42 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ทางเข้า-ออกจะเป็นซอยเล็กๆ เป็นย่านชุมชนดั้งเดิมค่ะ

ด้านในซอยจะมีโรงเรียน

มีวัดน้อยนอก ซึ่งเป็นศาสนสถานสำคัญของคนในชุมชน

ออกมาจนถึงปากซอยรัตนาธิเบศร์ 42 ฝั่งตรงข้ามซอยจะเป็นจุดขึ้น-ลงของสถานีสะพานพระนั่งเกล้า ระยะทางห่างจากโครงการมาประมาณ 400 เมตร จะขับรถหรือเดินมาก็สะดวก ไม่ไกลจากโครงการเท่าไร

เจาะลึกภาพรวมโครงการเดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua)

วิถีชีวิตติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นเสน่ห์ของ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) คอนโด High rise สูง 61 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จาก บริษัท บางกอก รีว่า ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือที่รู้จักกันในชื่อ เอเวอร์แลนด์ (Everland) บนพื้นที่ขนาด 10-2-34.8 ไร่ ซึ่งในพื้นที่กว่า 10 ไร่นี้มีอยู่หลายโครงการตั้งอยู่ค่ะ โดย The Politan Aqua เป็นเฟสที่ 4 มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 2741 ยูนิต ในราคาที่เอื้อมถึง เริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท

แผนผังโครงการ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua)

มาดู Master plan ของอาคารกันนะคะ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) จะร่นระยะจากถนนสนามบินน้ำเข้ามาด้านในประมาณ 200 เมตร เข้ามาจะมีวงเวียนเล็กๆ เป็นทางเดินรถ ด้านหน้ามีซุ่ม รปภ. คอยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พื้นที่ของ The Politan Aqua จะแบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ๆ ด้วยกัน ประกอบด้วย พื้นที่ของอาคาร พื้นที่สีเขียว และพื้นที่ส่วนกลาง

มาดูด้านหน้าอาคารกันก่อนนะคะ บริเวณทางเข้าคอนโดจะมีจุด Drop off สำหรับจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร ด้านหน้าทางเข้าจะมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ จัดเป็นสวนหย่อมพร้อมมีศาลาให้นั่งเล่นพักผ่อนในยามว่าง เมื่อเข้าไปด้านในอาคารจะเป็นส่วนของล็อบบี้ และห้องเอนกประสงค์สำหรับการประชุม หรือพบปะสังสรรค์กัน มี Mail box ห้องนิติบุคคล และโถงลิฟต์แยกส่วนกัน 2 อาคาร แบ่งให้อาคารละ 6 ตัว ด้านข้างฝั่งขวามือของแผนผัง จะมีพื้นที่ร้านค้าอยู่ 4 ยูนิต อยู่ใกล้กับที่จอดรถของอาคาร ส่วนฝั่งซ้ายมือจะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นส่วนของห้องพักประมาณ 10 ยูนิต

ภาพบรรยากาศจำลองของ Politan Pavilion เป็นศาลาในสวนหย่อม สำหรับใช้พักผ่อนในวันว่าง

เข้ามาในอาคารชั้น 1 จะเจอกับพื้นที่นั่งรองรับแขกก่อนเป็นอันดับแรก

ภาพบรรยากาศจำลองของล็อบบี้ ด้านข้างเป็นช่อง Mail box แยกตามห้องเป็นสัดส่วน

ส่วน Facilities ของโครงการจะแบ่งอยู่บนอาคารและที่คลับเฮาส์ โดยคลับเฮาส์จะตั้งอยู่ซ้ายมือของอาคารพักอาศัย คลับเฮาส์จะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ที่สร้างแยกออกมาก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน และเพิ่มความเป็นส่วนตัวในส่วนของห้องพักมากยิ่งขึ้น

ภาพบรรยากาศจำลองของชั้น 1 ของคลับเฮาส์ เป็นพื้นที่ให้พบปะสังสรรค์กันระหว่างลูกบ้าน หรือใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนอ่านหนังสือก็ได้

ภาพบรรยากาศจำลองของชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ Co-working space ให้นั่งทำงาน นัดประชุมกันได้ 

ส่วนของคลับเฮาส์ผนังจะเป็นกระจกใสรอบด้าน มองออกไปเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจน

ภาพบรรยากาศจำลองของห้องทำกิจกรรม จำลองเป็นสนามกอล์ฟ ไว้สำหรับฝึกเล่นกอล์ฟก่อนลงสนามจริง

นอกจากนี้ยังมี Game room ตั้งโต๊ะสนุกเกอร์ไว้ให้เล่นยามว่าง

สำหรับแผนผังอาคารในชั้น 2 เป็นพื้นที่ลานจอดรถเกือบหมด โดยพื้นที่จอดรถจะมีให้ตั้งแต่ชั้น 1-8 คิดเป็น 57% หรือ 1564 คัน (ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน) ในชั้นนี้มีจำนวนยูนิตอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่มากเท่าไรมีข้อดีอยู่ที่ความเป็นส่วนตัว และได้วิวสวยติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ส่วนชั้นที่ 3-6 จะคล้ายชั้นที่ 2 แต่จะมีพื้นที่จอดรถมากกว่านิดหน่อย และมีจำนวนยูนิตติดริมแม่น้ำเช่นกัน

ชั้นที่ 7 คล้ายชั้นแรกๆ

ขึ้นมาที่ชั้น 8 จะแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถและพื้นที่ส่วนกลาง+ห้องพัก อย่างละครึ่งค่ะ ฝั่งพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักจะอยู่ติดริมแม่น้ำ แยกประตูเข้าออกเป็นสัดส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัว พื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้ประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกเป็นสระผู้ใหญ่ และสระเด็ก ด้านข้างมี Deck pool สำหรับนอนอาบแดด และมีพื้นที่สีเขียวเล็กน้อยให้ความร่มรื่น ส่วนยูนิตห้องพักจะมีอยู่ประมาณ 27 ยูนิต ไม่หนาแน่นเท่าไร

ชั้น 9 จะเป็นสวนเล่นระดับ เดินขึ้นมาใช้านจากชั้น 8 ได้ ชั้นนี้จะมีจำนวนยูนิตเพิ่มเข้ามามีทั้งฝั่งที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำ และไกลจากริมแม่น้ำหน่อย ห้องพักทั้งหมดจะวางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ หลบแดด ทำให้ห้องไม่ร้อนจนเกินไป

ชัั้น 10-56 จะเป็นชั้นของห้องพักทั้งหมดแล้วค่ะ

ชั้นที่ 57-59 จะเป็นชั้นห้องพักเหมือนกัน แต่ว่าจะมีพื้นที่ว่างเป็นบางส่วน เพื่อลดความหนาแน่นของยูนิต

ชั้นที่ 60 จะกลับมาเป็น Facilities อีกรอบ มีสระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่ให้นอนแช่น้ำ ชมวิวในมุมสูง เป็นชั้นของห้องฟิตเนส ซึ่งมี 2 ชั้น (60-61) และด้านข้างจะเป็นสวนลอยฟ้า เป็นจุดชมวิวที่ดีค่ะ แต่คนที่อาศัยอยู่ล่างๆ อาจจะไม่ค่อยได้ขึ้นมาใช้ตรงนี้สักเท่าไร เพราะจะอยู่ใกล้กับชั้น 8-9 มากกว่า

ชั้นที่ 61 จะเป็นชั้น 2 ของฟิตเนส บาร์ลอยฟ้า และสวนเล็กๆ สำหรับเดินเล่น

ภาพจำลองบรรยากาศของบาร์ลอยฟ้า เป็นจุดนั่งเล่นชมวิวมุมสูง มองเห็นทัศนียภาพโดยรอบแบบพาโนรามา

ภาพจำลองบรรยากาศห้อง Duplex fitness มีเครื่องเล่นให้ครบครัน อยู่ในชั้น 60-61

ชั้นดาดฟ้าจะอยู่ที่ชั้น 62 จัดแต่งเป็นสวนด้วยเช่นกัน จะเห็นว่า โครงการนี้จะเน้นพื้นที่สีเขียวที่ให้บรรยากาศร่มรื่นเป็นพิเศษนะคะ

สำนักงานขายของโครงการ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua)

สำนักงานขายของโครงการ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) จะตั้งอยู่ด้านใน ถัดเข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 200 เมตร ซึ่งหลังจากสร้างอาคารทั้งหมดเสร็จ สำนักงานขายจะรีโนเวทเปลี่ยนเป็นคลับเฮาาส์ของโครงการ ด้านการออกแบบเน้นการใช้สีขาว-ดำ ดูโมเดิร์นดีค่ะ

ด้านหน้าคลับเฮาส์จะเป็น Politan Pond รูปแบบ Free form ไว้ให้สำหรับนั่งพักผ่อน ล้อมรอบด้วยสายน้ำ

ชั้น 1 ของคลับเฮาส์ เป็นพื้นที่ให้พบปะสังสรรค์กันระหว่างลูกบ้าน หรือใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนอ่านหนังสือ แต่ตอนนี้ใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกที่สนใจโครงการค่ะ

มีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์สำหรับติดต่อสอบถามข้อมูล

ด้านหลังบานกระจกจะเป็นสระว่ายน้ำแบบ infinity edge pool ขนาดประมาณ 27.5x33 เมตร ลึก 1.4 เมตร พร้อม Deck pool สำหรับนอนพักผ่อน มองเลยสระออกไปจะเห็นเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

อีกมุมหนึ่งจากฝั่งสวน ช่วงกลางวันอาจจะแดดร้อนไปหน่อยสำหรับเล่นน้ำ แต่ช่วงเย็นบรรยากาศจะดีมากค่ะ รับทั้งลมและวิวดีๆ บรรยากาศเหมาะสำหรับการพักผ่อน

เดินออกมาจากคลับเฮาส์ ใกล้กับสระว่ายน้ำ จะเป็นสะพานทอดยาว ยกสูงขึ้นเป็นจุดชมวิว

หรือจะเดินลงทางลาดไปเดินเล่นใกล้ชิดติดริมแม่น้ำแทนก็ได้ค่ะ สำหรับด้านนอกก็มีเพียงเท่านี้ เดี๋ยวกลับเข้าไปชมภายในคลับเฮาส์กันต่อนะคะ

เดินขึ้นบันได้ไปยังชั้น 2 กันค่ะ แต่ถ้าใครไม่อยากขึ้นบันไดก็มีลิฟต์ให้ใช้บริการด้วยเหมือนกัน

ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ของสำนักงานขายค่ะ แต่ถ้าเป็นบนคลับเฮาส์ของจริงจะเป็นพื้นที่ Co-working space ให้สำหรับลูกบ้านได้ใช้นั่งทำงานร่วมกัน

ทางโครงการจัดชุดโซฟาให้นั่งพักผ่อนติดริมหน้าต่าง ชมวิวแม่น้ำเพลินๆ

ทางคอนโด เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) จัดวางโมเดลอาคาร และโมเดลของทำเลบริเวณถนนสนามบินน้ำไว้ให้ชมกันด้วย ส่วนด้านหลังจะเป็นห้องตัวอย่างวางเรียงกันให้เข้าชมได้เช่นกัน

โมเดลทำเลรอบๆ โครงการ The Politan Aqua แสดงทั้งเส้นถนนและลักษณะของบ้านเรือนโดยรอบค่ะ

อาคาร The Politan Aqua อยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสะพานพระนั่งเกล้าเพียง 400 เมตร สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการยังเป็นอาคารแนวราบ ไม่มีอาคารสูงมากนักจึงหมดห่วงเรื่องการบังวิวของอาคารค่ะ

มาดูโมเดลของอาคารกันบ้าง เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) เป็นอาคารคู่ข้างเคียงกัน สูง 61 ชั้น ฝั่งซ้ายมือจะเป็นคลับเฮาส์สูง 3 ชั้น และมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ไว้ให้เดินเล่นพักผ่อน หรือออกกำลังกายก็ได้

ด้านหน้าทางเข้าของโครงการ จะมีป้อมรปภ. คอยรักษาความปลอดภัยในการเข้า-ออก ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากที่คลับเฮาส์แล้ว facilities ของโครงการยังมีอยู่ที่ชั้น 8-9 ในอาคารที่พักด้วย ส่วนชั้น 1-8 จะเป็นลานจอดรถทั้งหมด คิดเป็น 57% หรือ 1564 คัน (ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน)

ด้านข้างคลับเฮาส์จะเป็นจุดชมวิวและที่นั่งพักผ่อน

พื้นที่ส่วนกลางจะเป็นสระว่ายน้ำ เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนยกขึ้นในชั้น 9

ชั้นที่ 60-61 จะทำโมเดลแยกส่วนออกมาค่ะ มี Facilities แยกออกมาอีกชั้น เป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส บาร์ลอยฟ้า และสวนชั้นดาดฟ้า

เดินขึ้นมาชั้น 3 ของคลับเฮาส์จะเป็นพื้นที่สวนหย่อม

มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และวิวสะพานพระนั่งเกล้า เป็นวิวทางทิศใต้ค่ะ

จัดที่นั่งชมวิวมาให้ แต่เดินขึ้นลงยากสักหน่อยนะคะ

ส่วนทางทิศเหนือจะเป็นวิวของชุมชนริมน้ำ เปิดรับวิวโค้งของริมแม่น้ำจนสุดสายตา

ชมพื้นที่ก่อสร้างของโครงการ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) คืบหน้าไปพอสมควร คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2563 ค่ะ

สำหรับการเดินทางเข้า-ออกโครงการมีรถกอล์ฟคอยรับ-ส่ง ให้บริการสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมเยียนโครงการในช่วงนี้ด้วยค่ะ

1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 24 ตารางเมตร

เริ่มต้นที่ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยขนาด 24 ตร.ม. ทางโครงการจัดวางเลย์เอาท์ห้องมาค่อนข้างดี แบ่งส่วนพักผ่อนกับงานระบบแยกกันชัดเจน เปิดประตูเข้ามาจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอน กั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ทำให้พื้นที่ห้องเชื่อมต่อถึงกัน ห้องจึงดูกว้างมากกว่าห้องที่กั้นด้วยกำแพงทึบ ส่วนฝั่งงานระบบจะกั้นแยกออกไปเป็นสัดส่วน ครัวที่ได้จะเป็นระบบปิด สามารถทำอาหารหนักๆ ได้สบายๆ แถมยังอยู่ติดกับระเบียงซักล้างอีก ยิ่งทำให้การระบายอากาศเป็นไปได้ด้วยดีมากขึ้นอีกค่ะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ฝั่งขวามือของห้องครัวแยกส่วนเปียกและแห้งออกจากกันให้เรียบร้อยค่ะ

เข้ามาในห้องเราจะเจอกับมุมห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรก และมีห้องนอนอยู่ด้านหลัง กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เวลาเปิดจะได้ทางเข้า-ออกที่กว้างกว่าประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนเยอะเลยค่ะ

มุมนั่งเล่นทางโครงการ The Politan Aqua จะไม่ได้แถมโซฟามาให้ค่ะ ตรงนี้สามารถวางโซฟาขนาดนั่งสามคนได้พอดี หรือจะเปลี่ยนเป็นโซฟาแบบ Day bed ใช้นอนเล่นดูทีวีเลยก็ได้ค่ะ

ตรงข้ามมุมที่ไว้โซฟา โครงการจะมีเครื่องปรับอากาศติดมาให้ 2 ตัว คือมุมห้องนั่งเล่นและห้องนอนค่ะ ซึ่งการติดตั้งเครื่องปรับอากาศของแปลนห้องนี้ ติดได้ได้มุมที่ดีค่ะ เพราะอยู่ตรงข้ามของมุมนั่นเล่นพอดี ทำให้ได้รับลมเย็นได้อย่างเต็มที่ค่ะ

ตรงข้ามมุมโซฟาสามารถวางทีวีได้ค่ะ ทีวีขนาด 42 นิ้ว กำลังพอดีกับระยะ 2.5 เมตร ถือเป็นระยะที่พอดี ดูแล้วไม่ทำให้ปวดตาค่ะ

ด้านบนเพดานทางโครงการ เดอะ โพลิแทน อควา จะมีไฟมาให้ เป็นไฟแบบ down light ทรงสี่เหลี่ยม มีเครื่องตรวจจับควันและสปริงเกอร์ปล่อยน้ำเวลาเกิดเพลิงไหม้ ส่วนลำโพงที่ติดมาให้จะอยู่ใน Sale gallery ไม่ได้แถมให้ค่ะ 

ประตูบานเลื่อนสามตอนทำขึ้นมาเพื่อความเป็นสัดส่วนของห้องนอน สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ ประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนมีข้อดีคือ เวลาเลื่อนเปิดจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ไม่ดูเกะกะเวลาเลื่อนเปิดปิด ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวของห้องนอนสามารถติดผ้าม่านเพิ่มได้นะคะ

รางเลื่อนประตูเป็นรางอลูมิเนียม ไม่ได้ทำยกขึ้นเหนือพื้น ทำให้เวลาเดินได้สะดวกไม่ต้องกังวลเรื่องจะสะดุดล้ม

เตียงนอนที่มีมาให้ชมเป็นเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ไม่ได้แถมมาให้นะคะ พอวางแล้วก็ดูเต็มๆ ห้อง เหลือทางให้เดินได้นิดหน่อย

เตียงนอนฝั่งหนึ่งจะติดกับกระจกห้องนอน ถ้าห้องนอนหันออกไปด้านทิศตะวันตก ห้องจะได้รับแดดช่วงกลางวันมากเกินไป ทำให้ห้องร้อน แต่โชคดีที่โครงการนี้หันออกไปทางแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ไม่ได้รับแสงแดดโดยตรง ถือว่าดีเลยค่ะ ในทางกลับกันแทนที่จะได้รับแสงแดดตรงๆ เลยได้แสงสว่างจากธรรมชาติที่เพียงพอทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้แสงสว่างจากหลอดไฟช่วยเลยค่ะ

หน้าต่างในห้องเป็นบานกระทุ้ง ขนาดเล็ก มีไว้เปิดระบายอากาศเท่านั้นค่ะ

มุมนั่งเล่นและห้องจะอยู่ติดกันพอดี จะถูกกั้นไว้แค่ประตูกระจกบานเลื่อนเท่านั้น

เมื่อมองจากมุมห้องนอนจะเจอกับมุมนั่งเล่น ยาวไปถึงประตูทางเข้ามาในห้องเลย

เครื่องปรับอากาศถูกติดตั้งไว้ตรงข้ามกับเตียงนอนเหมือนกับมุมนั่งเล่น ซึ่งผู้อาศัยจะได้รับแรงลมอย่างเต็มที่ บริเวณใต้เครื่องปรับอากาศมีที่ว่างพอสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง

ถัดมาจากเครื่องปรับอากาศก็จะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ ตามแปลนแล้วสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้แค่มุมนี้เท่านั้น แต่ถ้าใครมีเสื้อผ้าเยอะอาจจะเลือกซื้อตู้ใหญ่ๆ แล้วใช้วิธีกรุกระจกหน้าบานแทนการทำโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in แบบนี้จะช่วยขยายขนาดของตู้ได้ และยังมีพื้นที่ให้ใช้แต่งตัวด้วยค่ะ

ถ้าวางตู้เสื้อผ้าจะเหลือทางสำหรับเดินอยู่นิดหน่อย

การวางตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด เมื่อเปิดประตูออทำให้ไม่มีทางเดิน แนะนำให้ซื้อตู้ที่เป็นประตูแบบบานเลื่อนจะเหมาะสมกว่า

มุมมองจากบริเวณนั่งเล่น ซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปยังครัว ด้านขวามือจะเป็นประตูเข้าห้องค่ะ

มากันที่บริเวณห้องครัวกันค่ะ พื้นห้องครัวกับห้องนั่งเล่นจะมีความแตกต่างกัน พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะใช้ไม้ลามิเนต ส่วนบริเวณครัวจะเป็นแบบกระเบื้องค่ะ ครัวที่มีพื้นเป็นกระเบื้องจะทำความสะอาดได้ดีค่ะ

สวิตช์ ไฟที่ทางโครงการมีมาให้จะเป็นสวิชต์ไฟแบบมาตรฐานทั่วไป

ชุดครัวที่มีมาให้จะได้ไม่เหมือนกับในห้องตัวอย่างค่ะ ชุดครัวในห้องจริง ท็อปจะเป็นสีเทา-ดำ ส่วนหน้าบานของตู้จะปิดด้วยลามิเนตลายหนังแทนค่ะ

ตู้เย็นทางโครงการจะไม่มีมาให้ค่ะ ในส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ว่างสำหรับวางตู้เย็น

ด้านล่างของชุดครัวจะเป็นช่องเก็บของได้นิดหน่อยค่ะ เพราะมีท่อระบายน้ำจากอ่างล้างจานซ่อนไว้ ใช้สำหรับงานซ่อมบำรุง ส่วนด้านข้างจะเป็นลิ้นชักใส่ช้อน-ส้อม มีถาดมาให้เรียบร้อย

อ่างล้างจานที่โครงการมีมาให้จะเป็นอ่างหลุมเดี่ยวค่ะ อ่างเป็นของแบรนด์ TEKA ไม่มีที่พักจานมาให้ เวลาล้างอาจจะต้องระวังน้ำกระเด็นออกมาเลอะด้านนอกด้วย ส่วนผนังด้านหลังจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีธรรมดา ไม่ได้กรุกระจกมาให้ แต่แนะนำให้กรุเพิ่มนะคะ เวลาทำอาหารจะได้ไม่เลอะเทอะจนเช็ดคราบไม่ออก

ห้องจริงจะไม่มีเตาไฟฟ้าให้นะคะ บริเวณตรงนี้จะเป็นพื้นที่ว่าง สามารถวางกระทะไฟฟ้าหรือกาต้มน้ำก็ได้

ชั้นวางของที่มีมาให้ประตูปิดจะเป็นแบบทึบ ไม่ใช่กระจกใสแบบนี้

ระเบียงจะอยู่ตรงที่ครัวค่ะ พื้นที่ใช้สอยในส่วนตรงนี้ก็จะเพิ่มขึ้นมาแยกเป็นสัดส่วนได้ดี และข้อดีของการมีระเบียงตรงครัวคือเวลาทำอาหาร สามารถเปิดหน้าต่างระบายกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

ทางออกระเบียงพื้นสำหรับประตูบานเลื่อนจะถูกยกธรณีสูงขึ้น เพื่อป้องกันน้ำจากระเบียงไหลเข้ามายังพื้นครัว

พื้นระเบียเป็นพื้นกระเบื้อง ขนาด 30x30 ซม. ค่ะ ข้อดีของกระเบื้องนอกจากจะทำความสะอาดได้ง่ายแล้ว กระเบื้องยังมีความทนทานต่อน้ำ ต่อไฟได้ดีกว่าพื้นลามิเนต และ Engineering Wood จะฝนตกแดดออก น้ำท่วมยังไงกระเบื้องก็ยังทนได้ค่ะ

ด้านนอกระเบียง มีปลั๊กไฟและก๊อกน้ำไว้สำหรับรองรับเครื่องซักผ้า ปลั๊กไฟจะมีกล่องไว้สำหรับป้องกันน้ำกันลมได้

คอมเพรสเซอร์หันหน้าเข้าตรงข้ามกับระเบียง ไม่ได้หันออกไปข้างนอกตึก ส่วนตรงนี้จะทำให้ระเบียงร้อนเวลาใช้เครื่องปรับอากาศ แต่ข้อดีก็ยังมีอยู่ เพราะเวลาตากผ้าหน้าระเบียงเสื้อผ้าจะแห้งเร็ว

ระเบียงสูงประมาณ 1.1 เมตรค่ะ ความสูงกำลังพอดี แต่ก็อาจจะเสียวหน่อยสำหรับชั้นสูงๆ

ในส่วนของห้องน้ำก็เป็นแบบมาตรฐานทั่วไป กระจกจะเป็นแบบเต็มบาน สุขภัณฑ์ถูกจัดวางไว้เป็นสัดส่วน

ธรณีประตูในห้องน้ำถูกยกตัวสูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำไหลออกมายังด้านนอก

อ่างล้างหน้าที่มีมาให้เป็นอ่างตามมาตรฐาน อ่างมีขนาดใหญ่พอดี ก๊อกน้ำเป็นแบบคันยกขึ้น พร้อมกับชั้นเก็บของด้านล่าง

สุขภัณฑ์มีระบบกดน้ำ 2 แบบให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ใช้น้อยใช้มากก็สามารถเลือกกดได้เลยค่ะ

ไฟในห้องน้ำจะเป็นแบบ Down Light ค่ะ พร้อมกับติดตั้งช่องระบายอากาศมาให้ด้วย

บริเวณอาบน้ำมีกระจกกั้นละอองน้ำกระเด็นออกมานอกด้วย มีด้ามจับที่สามารถจับได้สะดวก แถมยังสามารถพาดผ้าเช็ดตัวได้อีกนะคะ นับว่าสะดวกแก่ผู้อาศัยเลยทีเดียว

บริเวณอาบน้ำจะมีรูระบายน้ำ และยังมีพื้นที่ลาดเอียงลงไปหาท่อเพื่อทำให้น้ำระบายออกได้เร็วขึ้น

ฝักบัวที่มีมาให้จะเป็นสองแบบค่ะมีทั้งแบบ Hand shower แล้วแบบ Rain shower

ฝันบัวแบบด้ามจับสามารถเลื่อนระดับขึ้น-ลงได้ ด้านหลังติดที่วางสบู่มาให้ด้วยค่ะ

1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29 ตารางเมตร

ห้องต่อมาจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. แบ่งฟังก์ชันออกเป็น 5 ส่วน เริ่มต้นส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับห้องครัว กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน เชื่อมต่อถึงพื้นที่ระเบียงซักล้าง ตรงนี้ช่วยในเรื่องของการระบายอากาศได้ดีค่ะ ห้องนี้จะเน้นพื้นที่ห้องนอนเป็นพิเศษค่ะ ได้ห้องนอนขนาดใหญ่ทีเดียว ส่วนห้องน้ำจะตั้งอยู่ในห้องนอนอีกที ตรงนี้สะดวกสำหรับเจ้าของบ้าน แต่อาจจะไม่สะดวกแขกที่มาเยี่ยมสักเท่าไร เพราะต้องเดินผ่านห้องนอนเข้าไปก่อนจะเข้าห้องน้ำได้

บริเวณประตูห้องจะถูกยกธรณีประตูให้สูงขึ้นต่างจากพื้นด้านนอกนิดหน่อยเพื่อป้องกันฝุ่นละอองปลิวเข้ามาในห้อง

ห้องขนาด 29 ตารางเมตร แปลนห้องจะแตกต่างจากห้องขนาด 24 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับมุมนั่งเล่นเหมือนกับห้องที่แล้ว แต่ความแตกต่างก็คือครัวและห้องนอนจะเป็นแบบปิด แล้วเป็นห้องแยกออกมาจากมุมนั่งเล่นเลย ตามขนาดห้องที่กว้างขึ้น

มุมนั่งเล่นสามารถวางโซฟาแบบสามที่นั่งได้สบายๆ หรือถ้าไม่ชอบใหญ่มากก็สามารถวางโซฟาแบบนั่งสองคนแล้วหาโต๊ะมาตกแต่งเพิ่มได้ค่ะ

ระยะห่างของมุมวางทีวีและโซฟาค่อนข้างจะกว้างกว่าห้องขนาด 24 ตารางเมตร โดยมีระห่างประมาณ 2.4 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 60 นิ้วได้สบายๆ ด้านข้างจะมีพื้นที่ว่างสำหรับตกแต่งด้วยชั้นวางของ หรือทำชั้นลอยด้านบนทีวีได้

ห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ตามมาตรฐานทั่วไปค่ะ แต่จะมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

เครื่องปรับอากาศติดตั้งอยู่ตรงข้ามกับเตียง ทำให้ผู้อาศัยได้รับลมเย็นไปเต็มๆ ส่วนพื้นที่ตรงข้ามเตียงก็สามารถวางตู้เสื้อและโต๊ะเครื่องแป้งแบบในห้องตัวอย่างได้ค่ะ

ทางเดินในห้องนอนจะกว้างกว่า สามารถใช้ตู้แบบบานเปิดได้โดยที่บานประตูไม่ติดขอบเตียง

เตียงนอนจะไม่ติดกับหน้าต่างสามารถวางชั้นเล็กๆ เพื่อตกแต่งบริเวณด้านข้างเตียงนอนได้

ห้องนอนขนาด 29 ตารางเมตรจะมีระเบียงมาให้ค่ะ ประตูเป็นประตูกระจกอลูมิเนียมมาตรฐาน เลื่อนเปิดปิดได้ ตัวรางนั้นมีการยกธรณีประตูให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำกันฝุ่นเข้ามาในห้อง

ระเบียงมีความสูงประมาณ 1.1 เมตร เท่ากับห้องอื่นๆ

ในส่วนของคอมเพรสเซอร์แอร์ก็หันหน้าเข้ากับฝั่งผนังของห้องเหมือนกันค่ะ มองเห็นได้จากระเบียงฝั่งห้องนอนเลย

ห้องน้ำในยูนิตนี้จะอยู่ในห้องและมีเพียงแค่ห้องเดียว อาจจะไม่เป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่หากมีแขกมาเยี่ยมบ้าน หรือมีปาร์ตี้ ก็อาจจะรบกวนผู้ที่นอนอยู่ได้นะคะ เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำกันข้างในเลยค่ะ

ธรณีประตูห้องน้ำจะถูกยกตัวสูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลออกมายังห้องนอนค่ะ ถือเป็นมาตรฐาน

อ่างล้างหน้าจะเป็นอ่างแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ อ่างดูมีขนาดใหญ่ดี ก๊อกน้ำใช้แบบคันยกขึ้นเหมือนกันกับทุกห้องค่ะ

สุขภัณฑ์และสายฉีดชำระก็เป็นแบบเดียวกันกับห้องที่แล้วค่ะ มีปุ่มกดชักโครกสองปุ่มเพื่อเลือกปริมาณการปล่อยน้ำได้ค่ะ

กระจกห้องน้ำมีแบบเต็มบานเหมือนกันค่ะ ส่วนในเรื่องของมุมอาบน้ำนั้นก็จะมีประตูกั้นเพื่อป้องกันน้ำกระเด็นเหมือนกัน

ด้านบนเพดานจะมีพัดลมระบายอากาศ ส่วนไฟในห้องน้ำก็เป็นไฟ Down Light ค่ะ

เข้าไปในโซนอาบน้ำกันค่ะ มุมอาบน้ำจะลดระดับพื้นต่ำลงไปเลย ไม่มีการยกธรณีให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันน้ำไหลออกมายังบริเวณพื้นที่ด้านนอก

ฝักบัวก็จะมีมาให้สองแบบเหมือนกันค่ะ ทั้งแบบHand shower และแบบRain shower

ไปต่อกันที่ห้องครัวกันค่ะ ครัวจะเป็นครัวแบบปิด ประตูแบบบานเลื่อ 2 ตอนค่ะ เวลาทำอาหารสามารถปิดครัวเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ฟุ้งออกมาได้

รางเลื่อนราบเป็นเเนวเดียวกับพื้นทำให้เวลาเดินไม่มีปัญหาในเรื่องของการสะดุด

ด้ามจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน

เครื่องครัวที่มีมาให้จะให้ไม่เหมือนกับตัวโชว์ค่ะ จะได้เป็นท็อปสีเทา-ดำ ปิดหน้าบานตู้ด้วยลามิเนตลายหนังเหมือนกับห้อง 24 ตารางเมตร

ด้านล่างเครื่องครัวจะเป็นช่องเก็บของเอาไว้ใส่พวกของใหญ่ๆ เช่น ชุดทำความสะอาดครัว เป็นต้น

ด้านบนท็อปครัว จะมีปลั๊กไฟแบบสามตามาให้สองช่อง อ่างล้างจานแบบ 1 หลุมไม่มีที่พักจาน และไม่มีเตาไฟฟ้าให้ค่ะ

ด้านบนเครื่องครัวที่มีมาให้จะเป็นชั้นวางของที่มีประตูทึบแบบธรรมดาทั้งหมด

ระเบียงในครัวก็มีค่ะ แต่จะเป็นในส่วนของการทำความสะอาด เอาไว้ซักผ้าและตากผ้า

ด้านนอกระเบียงจะขนาดไม่กว้างมากสามารถวางเครื่องซักผ้าได้พอดี

คอมเพรสเซอร์เป็นแบบเเขวนกับผนัง หันหน้าเข้ากำแพง ตรงนี้ทำให้ระเบียงร้อนก็จริง แต่ช่วยทำให้ผ้าแห้งเร็วดีมากค่ะ

1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร

ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. จัดวางเลย์เอาท์คล้ายกับห้องขนาด 24 ตร.ม. ค่ะ แต่จะมีขนาดของพื้นที่ใหญ่กว่า และมีระเบียงติดกับห้องนอนเพิ่มเข้ามา เพื่อใช้เป็นจุดชมวิวแยกกับระเบียงซักล้างไปเลย ไม่มีคอมเพรสเซอร์แอร์ หรือเครื่องซักผ้ามาบดบังทัศนียภาพด้วย ถือว่าเป็นข้อดีนะคะ

เปิดประตู้ห้องเข้ามาส่วนแรกที่เจอจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.8 เมตร ถือว่าเป็นขนาดฝ้าที่สูงกว่ามาตรฐาน ทำให้ห้องดูโปร่งกว่าคอนโดทั่วไป ไฟภายในห้องเป็นไฟดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยม ส่วนผนังจะติดวอลเปเปอร์สีพื้นมาให้เรียบร้อยแล้ว และแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นแอร์ขนาด 9000 และ 12000 BTU มาให้อย่างละตัว

ห้องจริงจะไม่ได้แถมเฟอร์นิเจอร์มาให้นะคะ จะได้มาเป็นห้องเปล่า สามารถตกแต่งเพิ่มเติมเองได้ตามใจชอบ ทางโครงการ The Politan Aqua จัดวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง และชุดโต๊ะรับประทานอาหารมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่เราสามารถขับขยายเองได้ตามใจชอบ อาจจะเปลี่ยนขนาดโซฟาให้ใหญ่กว่านี้แทนก็ได้ เพื่อให้เหมาะกับการนั่งพักผ่อนมากขึ้น

ด้านข้างโซฟาจะติดตั้งปลั๊กไฟมาให้ 1 จุดค่ะ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นผนังโล่งๆ ค่ะ จะทำเป็นชั้น Built-in และติดตั้งทีวีแบบติดผนังเพิ่มก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ในการวางเฟอร์นิเจอร์ได้ ห้องจะได้ดูโล่ง ไม่ดูแคบมากเกินไป

ระยะห่างระหว่างชั้นจนถึงโซฟาอยู่ที่ 2.4 เมตร สามารถติดตั้งทีวีขนาด 60 นิ้วได้สบายๆ เป็นระยะห่างที่กว้างและพอเหมาะกับสายตาดีค่ะ

พื้นที่ของห้องนั่งเล่น และห้องนอนที่อยู่ติดกันจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้ห้องกว้างและดูเชื่อมต่อถึงกัน แต่ถ้าใครไม่สะดวกใจกับกระจกใสที่เปิดโล่งให้เห็นภายในอาจจะติดสติกเกอร์ขุ่นที่กระจกเพิ่มได้ค่ะ เพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น

ห้องนอนกว้างพอให้วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ ด้านข้างโซฟามีปลั๊กไฟติดตั้งมาให้สำหรับเสียบโคมไฟเพิ่ม หรือใช้ชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์ด้วยก็ได้

ปลายเตียงเป็นที่ว่างให้วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ แต่ถ้าใครชอบซื้อเสื้อผ้าเยอะๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และกรุกระจกที่หน้าบานประตูแทน เพื่อใช้สำหรับแต่งตัวแทนโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ค่ะ

แต่ถ้าใครไม่ได้มีเสื้อผ้ามากมาย จะซื้อตู้แบบเล็กๆ แบบห้องตัวอย่าง และติดตั้งโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in แบบในห้องตัวอย่างแทนก็ได้ค่ะ

ตั้งตู้และโต๊ะเครื่องแป้งแล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านได้สบายๆ ไม่ติดขัดอะไร

ห้องนอนจะอยู่ติดกับระเบียงชมวิวค่ะ ทำมาให้แยกกับระเบียงซักล้าง เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับยืนเล่นชมบรรยากาศริมน้ำได้อย่างเต็มตา

ฝั่งติดประตูระเบียงไม่เหลือพื้นที่ให้เดินผ่าน แต่เหลือที่ให้พอติดตั้งผ้าม่านได้ค่ะ

พื้นระหว่างระเบียงและพื้นในห้องจะมีการกั้นธรณีประตูไว้เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนเข้ามา ทำให้พื้นไม้ลามิเนตบวมและเสียหาย ส่วนพื้นด้านนอกจะปูด้วยกระเบื้องผิวหยาบสีเทาขนาด 30x30 ซม. ประตูระเบียงจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนสองตอน กรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำ ดูแข็งแรงดีค่ะ

พื้นที่ระเบียงยาวขนานไปกับความยาวของห้องนอน แต่ไม่กว้างพอให้วางเก้าอี้นั่งเล่นได้ แต่สามารถใช้ยืนชมวิวสวยๆ แทนได้นะคะ

ถัดจากห้องนอน เดินออกมาโซนห้องนั่งเล่นอีกรอบ มองไปฝั่งตรงข้ามจะเจอกับช่องให้เดินผ่านไป ถ้าในห้องจริงจะติดตั้งประตูทึบ เพื่อกั้นแยกส่วนงานระบบออกจากส่วนพักผ่อน ซึ่งการกั้นห้องแบบนี้ดีนะคะ เราจะได้ทำอาหารกลิ่นแรง กลิ่นฉุนได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่า กลิ่นจะลอยไปติดกับเฟอร์นิเจอร์เลย

พื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้อง เพื่อป้องกันการบวมน้ำและเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่าพื้นไม้ลามิเนต ทำตัวจบกั้นแยกกันดูเรียบร้อยดีค่ะ

ห้องครัวจะได้ชุดเคาน์เตอร์สำหรับทำครัวแถมมาให้ แต่หน้าตาจะไม่ใช่แบบนี้นะคะ ในห้องจริง ทางโครงการ The Politan Aqua จะให้เคาน์เตอร์ของ Starmark หรือ Modernform Top ของเคาน์เตอร์เป็นลามิเนต High pressure สีเทา-ดำ ตู้ทั้งหลายจะปิดหน้าบานด้วยลามิเนตลายหนัง ผนังด้านหลังฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดาค่ะ ไม่ได้กรุกระจกกันเลอะมาให้ แต่แนะนำให้ติดเพิ่มเพราะจะได้ห้องกันคราบสกปกรกได้ง่ายขึ้น

เคาน์เตอร์ชิ้นล่างจะมีตู้ใต้อ่าง สำหรับงานซ่อมบำรุง มีลิ้นชักใส่ช้อนส้อม และมีช่องใส่ไมโครเวฟ ตำแหน่งอยู่ด้านล่างหยิบใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

มีถาดใส่ช้อนส้อมมาให้เรียบร้อย

โครงการ The Politan Aqua ให้อ่างหลุมเดี่ยวแบบไม่มีที่พักจาน ของ Teka , Mex หรือเทียบเท่า ส่วนเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจะไม่แถมให้ ต้องติดตั้งเพิ่มกันเองค่ะ

ตู้ด้านบนใช้สำหรับเก็บวัตุถิบเพิ่มเติมค่ะ ของจริงจะไม่ใช่ตู้กระจกแบบนี้นะคะ แต่จะเป็นตู้ปิดผิวด้วยลามิเนตลายหนัง

ไปดูระเบียงซักล้างกันต่อนะคะ ถือเป็นข้อดีของห้องขนาด 30 ตารางเมตรเลยค่ะ ที่มีการแยกระเบียงซักล้างออกจากระเบียงชมวิว เพราะงานซักล้างทำให้พื้นเปียก แถมมีคอมเพรสซอร์แอร์อีก อาจจะทำให้ไม่สะดวกในการยืนชมวิวพักผ่อนสักท่าไร เปิดประตูกระจกแบบบานเลื่อนออกไปกันเลยดีกว่า

ด้านนอกมีพื้นที่ให้พอวางเครื่องซักผ้าได้ ส่วนด้านบนติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์มาให้แบบหันหน้าเข้าผนัง ดีต่อการตากผ้านะคะแบบนี้ ลมแอร์จะช่วยทำให้ผ้าแห้งสนิทได้ดีเลยค่ะ

ตรงข้ามกับระเบียงซักล้างจะเป็นห้องน้ำค่ะ พื้นที่ห้องน้ำแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันชัดเจน ง่ายต่อการทำความสะอาดดีค่ะ ส่วนพื้นและผนังเป็นกระเบื้อง porcelain ขนาด 60 x 60 ซม.

โซนแห้งจะมีอ่างล้างหน้าแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ติดอยู่กับผนังมาให้ ของ Cristina เป็นอ่างหินสังเคราะห์ทรงสี่เหลี่ยม ขนาดกว้างดีค่ะ ส่วนด้านหลังทำเป็น Low wall ใช้วางของกระจุกกระจิกได้ผนังด้านหลังเป็นกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ห้องน้ำดูกว้างมากยิ่งขึ้น

ข้างๆ อ่างจะเป็นโถสุขภัณฑ์ให้มาพร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่

ที่กำแพติดราวแขวนผ้้าไว้ให้ ถัดไปเป็นส่วนเปียกกั้นด้วย Shower box แยกออกไปเพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนออกมาเลอะส่วนแห้ง

ฝักบัวได้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain shower เป็นของ Cristina มีราวปรับระดับสูง ต่ำ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน

2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร

ขนาดห้องที่ใหญ่ที่สุดจะเป็น 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 60 ตร.ม. เป็นห้องมุมที่โดดเด่นในเรื่องวิวมากค่ะ ห้องจึงออกแบบมาให้เป็นห้องหน้ากว้าง จัดระเบียงมาให้เหมาะสมสำหรับการชมวิวทั้งสองด้านของแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องนี้จะได้ 2 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ แม้จะเป็นห้องแบบ Fully fitted แต่ก็ได้ชุดเอร์นิเจอร์ Built-in ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ ส่วนเลย์เอาท์จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของห้องนอนทั้งห้องเล็กและห้องใหญ่ ส่วนพื้นที่ตรงกลางเป็นส่วนครัวแบบเปิดและห้องนั่งเล่นค่ะ

เริ่มกันที่ทางเข้าของห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตรเลยนะคะ จากมุมประตูจะมองเห็นส่วนต่างๆ ของห้อง มองตรงไปจะเป็นพื้นที่ห้องนอนเล็ก ซ้ายมือจะเป็นห้องครัว ส่วนขวามือจะเป็นห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวเราจะพาไปชมห้องน้ำกันก่อนเป็นอันดับแรก

พื้นภายในห้องจะเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนพื้นห้องน้ำจะเป็นพื้นกระเบื้องสีเทา porcelain ขนาด 60 x 60 ซม.ค่ะ มีการทำธรณีประตูยกขึ้นมา เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนออกมาด้านนอก ทำตัวจบมาสวยงามดี

เข้ามาด้านในห้องน้ำจะเเบ่งแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกันชัดเจนค่ะ มีสุขภัณฑ์ให้ครบถ้วนตามมาตรฐาน

อ่างล้างหน้าที่ได้เป็นของ Cristina แบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ ด้านข้างและใต้เคาน์เตอร์มีพื้นที่ให้วางของเพิ่มได้ ด้านหลังอ่างทำ Low wall มีพื้นที่ให้วางของได้เล็กน้อย

ขวามือของอ่างจะเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cristina เช่นกัน ด้านข้างติดตั้งสายฉีดชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู่ และราวแขวนผ้ามาให้

วาล์วน้ำของสายฉีดชำระและโถสุขภัณฑ์ใช้แยกระบบกัน เพื่อให้ง่ายดายต่อการซ่อมแซมค่ะ

เวลาเปิดตู้ใต้อ่างจะต้องระวังกันหน่อยนะคะ เพราะประตูตู้ยาวชนกับโถสุขภัณฑ์พอดี ถ้าเปิดแรงอาจจะเกิดการกระแทกจนหน้าบาน หรือโถสุขภัณฑ์เสียหายได้

ฝั่งโซนอาบน้ำจะกั้นด้วย Shower box ปูพื้นผนังด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่ ซึ่งง่ายต่อการทำความสะอาด และปูผนังฝั่งหนึ่งด้วยกระเบื้องโมเสค เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับห้องน้ำ ทำให้มีสีสันมากขึ้น ส่วนฝักบัวที่โครงการให้จะได้ทั้งแบบ Hand shower และRain shower ตามภาพค่ะ

หน้าตาของฝักบัว Hand shower ค่ะ ด้านหลังติดชั้นวางสบู่มาให้ด้วย แต่ถ้าใครอยากจะทำชั้นสำหรับวางของเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ มีพื้นที่เหลือให้ติดตั้งมากพอ

ออกมาดูส่วนอื่นกันต่อ ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำรับแขกจะเป็นส่วนห้องครัว มองตรงไปเป็นห้องนอนเล็ก ถัดจากห้องครัวจะเป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่นตามลำดับ ห้องนี้จะได้แอร์แถมมาขนาด 9000 และ 18000 BTUค่ะ

ทางคอนโด The Politan Aqua จะแถมชุดครัวให้หน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ วัสดุเลือกมาให้อย่างดี ปิดผิวหน้าบานด้วย Hi gloss พื้นที่วางตู้เย็นจะเป็นตู้แบบ Built-in ให้ใส่ตู้เย็นเข้าไป เพื่อประหยัดพื้นที่ในการวางและดูสวยงามดีค่ะ ใกล้ๆ ตู้เย็นมีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าได้ด้วย

ชุดทานข้าวจะได้แบบ Built-in ติดกับเคาน์เตอร์ครัวมาเลย ตรงนี้ช่วยประหยัดพื้นที่ในการวางก็จริง แต่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ตามใจ ใต้เตาไฟฟ้าจะเป็นที่วางไมโครเวฟ เป็นตำแหน่งที่หยิบจับได้สะดวกดีค่ะ

ครัวจะเป็นครัวเปิด แถมอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นแบบนี้ ดูแล้วไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักๆ ที่มีควันและกลิ่นแรง เพราะจะทำให้เฟอร์นิเจอร์มีกลิ่นติดไปด้วยได้ค่ะ ส่วนด้านวัสดุของเคาน์เตอร์ top ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ทนน้ำ ทนกรด-ด่างได้ดีค่ะ

The Politan Aqua จัดอ่างล้างจานแบบ 2 หลุมของ Teka, Mex หรือเทียบเท่ามาให้ แยกเป็นส่วนล้างน้ำ และล้างด้วยน้ำยาล้างจานได้เลย

เตาไฟฟ้าที่ได้เป็นแบบ 4 หัวของ Teka ส่วนด้านบนเป็นเครื่องดูดควัน ช่วยระบายอากาศได้ในระดับหนึ่ง

ตู้วางของด้านบนเป็นแบบบานเปิด Built-in ติดกับผนัง ปิดผิวหน้าบานด้วย Hi gloss สร้างความรู้สึกหรูหราได้เป็นอย่างดี

ตรงข้ามกับโซนครัวจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นค่ะ ห้องแบบ 2 ห้องนอนจะได้ตู้โชว์ Built-in และชั้นวางทีวีตามภาพเลยค่ะ ส่วนผนังด้านหลังจะเป็นวอลเปเปอร์สีพื้น ติดให้ฟรีทั้งห้องเลย

โซฟาและโต๊ะกลางจะไม่ได้นะคะ แต่ทางคอนโด เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) จัดวางโซฟายาวไว้ให้เป็นไอเดียสำหรับการแต่งห้อง สำหรับใครที่ชอบดูหนังก็อาจจะเลือกเป็นโซฟา Day bed แทนก็ได้ค่ะ จะสะดวกในการนั่งและนอนเล่นกว่า และส่วนถัดไปจะเป็นระเบียงชมวิวของห้อง กั้นด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อนบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติได้ดีค่ะ

ต่อไปจะเป็นห้องนอนเล็กอยู่ทางขวามือค่ะ

ในห้องจริงจะไม่ได้เตียงนะคะ แต่ The Politan Aqua จะบุนวมตกแต่งบริเวณหัวเตียงมาให้ตามภาพค่ะ ส่วนขนาดเตียงที่เหมาะสมจะเป็นเตียง 5 ฟุตตามภาพค่ะ

ปลายเตียงจะมีชั้นแบบ Built-in มาให้วางทีวี แต่ถ้าใครชื่นชชอบการแต่งห้องอยากจะซื้อของกระจุกกระจิกมาวางประดับเพิ่ม แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนัง และใช้ชั้นเป็นที่วางของประดับแทน ส่วนระยะห่างระหว่างชั้นถึงปลายเตียงอยู่ที่ 60 ซม. พอให้เดินผ่านได้ค่ะ ส่วนที่อยู่ติดกันจะเป็นระเบียงยาว กั้นด้วยประตูบานเลื่อนมองเห็นวิวแม่น้ำชัดเจน

ติดกับหัวเตียงฝั่งหนึ่งจะเป็นที่ตั้งของตู้เสื้อผ้า Built-in สูงจรดเพดานเป็นแบบบานเปิดคู่ มีชั้นแบ่งแยกให้ด้านบนเพื่อเก็บผ้านวม แต่ดูจะอยู่สูงเกินไปหน่อยนะคะ สาวๆ ตัวเล็กอาจจะเอื้อมไม่ค่อยถึง

พื้นที่ตู้ด้านในจุเสื้อผ้าได้พอประมาณ แต่อาจจะไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของสาวๆ ที่ชอบแต่งตัว มีเสื้อผ้าเยอะๆ คงต้องหาตู้มาวางเพิ่มอีกสักใบ ส่วนด้านข้างจะมีโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมกระจกมาให้ ขนาดกะทัดรัดใช้งานได้สะดวกค่ะ

ระยะระหว่างเตียงและตู้กว้างพอเดินได้ค่ะ มีปลั๊กไฟติดตั้งมาให้ 1 จุด แต่อาจจะใช้เสียบโคมไฟ หรือหาโต๊ะข้างหัวเตียงมาตั้งไม่ได้ เพราะติดกับประตูตู้เสื้อผ้ามากเกินไปหน่อย ถ้าหามาวางแล้วจะเปิด-ปิดตู้ลำบากค่ะ

หัวเตียงฝั่งระเบียงกว้างพอให้ติดตั้งม่านได้ แต่ไม่กว้างพอให้วางโต๊ะข้างหัวเตียงค่ะ

พื้นระเบียงด้านนอกจะปูด้วยกระเบื้องสีเทาขนาด 30x30 ซม. ยกธรณีประตูขึ้นมากันน้ำไหลย้อนเข้าห้องให้ด้วย

ระบียงห้อง 2 ห้องนอนเป็นระเบียงยาว เปิดรับวิวแม่นำเจ้าพระยาเต็มที่ ระเบียงจะทอดตัวขนานกับห้องนอนทั้ง 2 และห้องนั่งเล่น ราวกันตกสูงประมาณ 1.1 เมตร ถือว่าสูงพอดีๆ ไม่หวาดเสียวเวลาไปยืนอยู่ใกล้ๆ

คอมเพรสเซอร์แอร์แบบแขวนผนังไว้เหนือหัว พร้อมกับปิดชั้นลูกกรงเอาไว้เพื่อบังสายตา การแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบนแบบนี้จะประหยัดพื้นที่ในการตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ และทำให้ระเบียงไม่โดนลมร้อนค่ะ

ห้องนอนทั้งสองห้องจะได้หน้าต่าง Bay window เข้ามุมมาให้ทั้งสองห้อง ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นและมองเห็นวิวได้ในมุมกว้าง

กลับเข้ามาในห้องอีกรอบ จะพาเข้าไปชมห้องนอนใหญ่กันต่อเลยนะคะ ห้องจะอยู่ระหว่างครัว และห้องนั่งเล่นค่ะ

ห้องนี้มีพื้นที่ห้องกว้างกว่าห้องนอนเล็กพอสมควร สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ ค่ะ ส่วนหัวเตียงจะบุนวมไว้ให้ตกแต่งสวยงามดีค่ะ ด้านข้างหัวเตียงกว้างพอให้วางโต๊ะข้างหัวเตียงได้เลยค่ะ

ปลายเตียงตั้งชั้น Built-in มาให้ สามารถซื้อทีวีขนาดใหญ่ๆ มาวางได้เลย เพราะระยะการนอนจนถึงชั้นวางค่อนข้างจะไกล ดูเครื่องเล็กๆ แล้วจะมองไม่เห็นเอาได้ค่ะ

มีโต๊ะเครื่องแป้งให้ด้วย หน้าตาเหมือนในห้องนนเล็ก แต่จะมีขนาดใหญ่กว่ากันเล็กน้อยค่ะ

ตรงข้ามระเบียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่เป็นแบบบานเปิด 3 ตอน หน้าบานกรุกระจกสีชา ส่วนด้านข้างจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ แยกออกมาจากห้องน้ำแขกด้านนอก เพื่อความเป็นส่วนตัวและใช้งานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ซ้ายมือของห้องน้ำจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู่ และราวแขวนผ้า จัดไว้เข้ามุมแบบนี้สะดวกในการใช้งานดี แถมเวลาใครเผลอเปิดเข้ามาตอนทำธุระก็ไม่เห็นเราโป๊ เปลือยด้วยค่ะ

ถัดจากโถสุขภัณฑ์ทางซ้ายจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ ที่ผนังกรุกระจกบานใหญ่ นอกจากจะเป็นกระจกใช้ส่องแล้ว ยังเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้ห้องน้ำดูกว้างมากขึ้นด้วยค่ะ และส่วนที่ติดกันอีกฝั่งจะเป็นโซนอาบน้ำ กันด้วยกระจกกันน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก ที่ผนังมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดให้สำหรับเปิดระบายกลิ่นได้ด้วย

พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่ ทำให้ห้องน้ำดูหรูและทำความสะอาดได้ง่าย พื้นที่กว้างพอให้ยืนอาบน้ำได้สบายๆ ค่ะ

ฝักบัวได้ทั้งแบบ Hand shower สายอ่อน และRain shower เหมือนกับห้องอื่นๆ จาก Cristina รวมทั้งติดที่วางสบู่มาให้เรียบร้อยค่ะ

วิเคราะห์โครงการ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua)

ทำเล : คอนโด เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15 ถนนสนามบินน้ำ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เป็นคอนโด High rise ย่านชานเมืองอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนที่เงียบสงบ โครงการตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนสนามบินน้ำ มีซอยลัดเลาะไปยังถนนข้างเคียงอย่างถนนรัตนาธิเบศร์ได้ ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางง่าย เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในย่านนี้ที่ต้องใช้รถใช้ถนนทุกวัน

สำหรับเส้นทางการเดินทางด้วยรถยนต์ ถือว่าค่อข้างสะดวกดีค่ะ เพราะถนนสนามบินน้ำจะเชื่อมต่อถึงถนนสายหลักของจังหวัดนนทบุรีอย่างถนนรัตนาธิเบศร์และถนนติวานนท์ สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวกค่ะ แต่ต้องทำใจเรื่องรถติดบ้างในชั่วโมงเร่งด่วน ยิ่งการเดินทางผ่านแยกแคราย ซึ่งเป็นแยกที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติดด้วยแล้ว แนะนำว่าควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางไว้เยอะๆ หน่อย จะได้ไม่ไปทำงานสายนะคะ

ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เกิดขึ้นมาตามความเจริญจากแนวรถไฟฟ้าที่เข้ามาเปิดตัวในย่านจังหวัดนนทบุรี โครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงคือ สถานีสะพานพระนั่งเกล้า สามารถเดินทางเข้า-ออกโดยใช้ซอยรัตนาธิเบศร์ 42 ทะลุออกไปจนถึงสถานีได้เลย ไม่ต้องไเผชิญกับรถติด และในอนาคตจะมีท่าเรือด่วน ท่าใหม่ใต้สะพานพระน่งเกล้า เปิดให้บริการเพื่อแก้ปัญหาการจราจรที่เป็นช่วงคอขวดของสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งก็ยังอยู่ในการร่างแบบแผน และยังจะทำสะพานเชื่อมต่อไปถึงสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย ก็ถือว่า เป็นแผนการอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางให้คนที่อาศัยอยู่ในแถบนี้อีกทางหนึ่ง

สภาพแวดล้อม : รอบโครงการ เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) เป็นทำเลที่เงียบสงบ ไม่ได้มีอะไรหวือหวา ในรัศมีใกล้เคียงที่เดินถึงจะมีของกินตามริมฟุตบาทให้เห็นบ้างประปรายค่ะ ส่วนมากจะมาในช่วงเวลาเช้ากับเย็นเป็นหลัก ใกล้กับโครงการจะเป็นพื้นที่ชุมชนเก่าแก่ ใกล้ๆ จะมีโรงเรียน มหาวิทยาลัย วัด และสถานที่ราชการอย่างกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่อยู่อาศัยโดยรอบยังเป็นบ้านเรือนแนวราบค่ะ แต่หลังจากมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเข้ามาให้บริการ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็เริ่มมีโครงการคอนโดมาจับจองอยู่หลายเจ้าเหมือนกัน ส่วนในพื้นที่รอบนอกจะมีห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้เคียง เดินทางไปถึงได้ง่ายไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ เซ็นทรัลเวสต์เกต เดอะมอลล์งามวงศ์วาน และเทสโก้ โลตัสแคราย เป็นต้น

แบบห้อง : สำหรับแบบห้องจะมีให้เลือก 2 แบบคือ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24-29-30 ตร.ม. และ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 60 ตร.ม. ถือว่าทำห้องออกมามีขนาดที่ใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่เริ่มอยากจะสร้างครอบครัวแล้วค่ะ ห้องทุกห้องโดดเด่นในเรื่องของวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ทางโครงการเคลมมาว่า ทุกยูนิตจะได้วิวสวยๆ ไว้ชื่นชม แต่อาจจะต่างกันที่ระยะใกล้ ไกล แต่ตำแหน่งที่ตั้งของห้องเล็กน้อย ด้านการออกแบบถือว่าจัดวางเลย์เอาท์ของห้องได้ดี แยกพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน ทางโครงการขายแบบ Fully fitted นะคะ อาจจะต้องเตรียมงบประมาณสำหรับการตกแต่งห้องเพิ่มเติมไว้ด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวก : สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ สาธารณูปโภคค่ะ โครงการ The Politan Aqua จัดมาให้แบบเต็มที่ แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางในอาคารที่มีสระว่ายน้ำให้ถึง 2 สระ ล็อบบี้ ฟิตเนส และสวน ส่วนคลับเฮาส์จะตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำ (ตอนนี้ใช้เป็นสำนักงานขาย) แบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างมีสระว่ายน้ำติดริมแม่น้ำและพื้นที่สวนให้เดินเล่นพักผ่อน ชั้น 2 เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ให้เข้ามาใช้งานเพื่อประชม พบปะกัน ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นสวนดาดฟ้าของคลับเฮาส์ จัดไว้ให้ชมวิวในมุมสูง ที่จัดมาให้เยอะขนาดนี้ก็เพราะต้องการกระจายความหนาแน่นในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางของลูกบ้านที่มีกันอู่ถึง 2000 กว่ายูนิต

ราคา : ราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท เทียบกับศักยภาพทำเล ความคุ้มค่า ราคา ขนาดของห้อง วัสดุและส่วนกลางที่ได้ ก็ถือว่าคุ้มค่า ยิ่งถ้ามองเรื่องของวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วยแล้วโครงการติดริมแม่น้ำในราคาล้านต้นๆ อาจจะหายากไปสักหน่อย จึงถือว่าเป็นโครงการหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในแถบชานเมืองที่ต้องการคอนโดวิวสวย และเดินทางได้ง่าย

คอนโด เดอะ โพลิแทน อควา สนามบินน้ำ (The Politan Aqua) เหมาะสำหรับคนที่อยู่อาศัยหรือทำงานอยู่ในย่านงามวงศ์วาน-สนามบินน้ำ-นนทบุรี ตามหาคอนโดมิเนียมเรทราคาไม่สูง แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและโดดเด่นในเรื่องวิวแม่น้ำ ต้องการห้องขนาดใหญ่ มีงบประมาณสำหรับการตกแต่งเพิ่มเติม