[Review] Garden Asoke - Rama9 คอนโดมิเนียมบรรยากาศร่มรื่น ใกล้ Airport Link มักกะสัน MRT เพชรบุรี และ Show DC จาก AQ Estate

Garden Asoke - Rama9 คอนโดบรรยากาศร่มรื่นโซนพระราม 9 ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิเช่น ศูนย์สรรพสินค้า สถานบันเทิงต่างๆมากมาย และคอนโดนี้ยังอยู่ใกล้ศูนย์การค้าและเอนเตอร์เทนเม้นท์ Show DC  ที่กำลังจะเปิดใหม่เร็วๆนี้อีกด้วย ถึงแม้คอนโดนี้จะเปลี่ยนเจ้าของมาหลายมือ แต่ปัจจุบัน AQ estate ได้เข้ามาดูแล เราตามไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจะน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน ไปกันเลย

Project insight -  Garden Asoke-Rama9

พื้นที่ของโครงกร Garden Asoke-Rama9 เป็นสี่เหลี่ยมคางหมู มีอาคารทั้งหมด 4 อาคาร ตรงกลางจะเป็น AQ Square ซึ่งมีส่วนกลางของโครงการทั้งหมด และสำนักงานของ AQ Estate ค่ะ

ทางเข้าโครงการสามารถเข้าได้ทางเดียวนะคะ คือซอยข้าง show dc โดยที่จะมีป้อมรปภ.คอยดูแลความปลอดภัย และใช้ระบบคีย์การ์ดในการเข้าออกกรณีที่ขับรถค่ะ

พอเลี้ยวเข้ามาในโครงการ ตึกที่พักอาศัยจะอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนด้านขวาจะเป็นส่วนของอาคาร AQ Square มีร้านอาหาร คาเฟ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ออฟฟิตของ AQ เองก็อยู่ที่นี่ ส่วนรถที่เห็นจอดอยู่ตามข้างทางไม่ต้องตกใจไป ในส่วนของลูกบ้านจะมีที่จอดรถในตึกให้ ส่วนคนนอกที่เข้ามาใช้บริการร้านค้า หรือฟิตเนส ต้องจอดแบบในรูปค่ะ

สำหรับการจอดรถ ทุกอาคารจะมีที่จอดรถใต้ดิน

แต่ลูกบ้านไม่ต้องเดินอ้อมเพื่อมาเข้าทางหน้าอาคารนะคะ ที่ชั้นใต้ดินเองมีประตูที่สามารถเข้าอาคารได้เลย

โครงการมีบริการรถรับส่งไปรถไฟฟ้าด้วยค่ะ

ที่อาคาร AQ Aquare จะมีส่วนกลางของโครงการอยู่ที่นี่ค่ะ ตามทางเดินอาคารมีที่นั่งพักผ่อน สำหรับลูกบ้านและบุคคลภายนอก

Family Mart และตู้ ATM

มีร้านอาหารและคาเฟ่เล็กๆ

มีห้องซักผ้าและอบผ้าให้บริการ

ภาพภายในห้องออกกำลังกาย อยู่ชั้นบนของอาคาร AQ Square

ด้านบนสุดจะเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำแบบ Outdoor

บรรยากาศในโครงการ Garden Asoke-Rama9 ค่อนข้างสงบ และร่มเย็นดีค่ะ เพราะในโครงการมีต้นหูกระจง และต้นไม้ใหญ่ ทำให้มีร่มเงาเยอะ ตอนกลางวันก็ไม่ร้อนด้วยค่ะ

ต่อไปเราจะเข้าไปดูด้านในอาคารกันบ้างค่ะ

ประตูเข้าอาคารใช้ระบบ Key Card

เข้ามาในอาคาร มีชุดโซฟา วางไว้ให้นั่งเล่น รับแขกค่ะ

จะเข้าไปภายในส่วนห้องพักต้องใช้ Key Card แตะที่เปิดประตูก่อนค่ะ

ส่วนด้านในสามารถกดปุ่มออกมาได้เลย

ตรงข้างกับลิฟต์เป็นตู้จดหมายค่ะ 

ตรงโถงลิฟต์มีผังอาคารและทางหนีไฟติดไว้ให้ดู

หน้าตาลิฟต์ในอาคาร

สำหรับอาคาร C ตรงกลางอาคารจะเป็นโถงทางเดินรอบอาคาร และมีช่องแสงจากด้านบน

ส่วนอาคาร  A B และ D จะได้เป็นโถงทางเดินกลางอาคาร

วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูห้องด้วยกัน 3 แบบ ตอนนี้ทางโครงการมีท้ังส่วนที่ปล่อยขาย และปล่อยเช่าเองจากทางโครงการด้วย กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาเช่า ก็จะเป็นบุคลากรจากโรงพยาบาลพระราม 9 และนักธุรกิจชาวต่างชาติเป็นต้น เราไปดูห้องกันเลยดีกว่าค่ะ

ห้องตัวอย่างห้องแรก แบบ studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26 ตารางเมตร

เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนของครัวเปิด จะเห็นว่าเป็นครัวที่เหมาะสำหรับการเวฟอาหารเพียงเท่านั้น เพราะไม่มีเครื่องดูดควันมาให้ หากมีการปรุงอาหารเอง อาจทำให้ห้องมีกลิ่นได้

โต๊ะทานอาหารขนาดสำหรับ 2 คน ไม่น้อยเกินไปนะคะ เหมาะสมกับขนาดห้อง

ตรงข้ามกับโซนครัวจะมีกระจกขนาดประมาณ 150 เซนติเมตร ด้านล่างมีที่วางรองเท้า วางได้ประมาณ 4 คู่ แต่อาจจะไม่เพียงพอสำหรับคนยุคปัจจุบันที่มีรองเท้าเยอะมาก แต่ยังมีพื้นที่เหลือที่จะซื้อชั้นมาวางเพิ่มได้นะคะ แอบเห็นประตูด้านซ้ายใช่มั้ยคะ เป็นประตูห้องน้ำเดี๋ยวเราเข้าไปดูกันค่ะ

ห้องน้ำแยกโซนแห้ง โซนเปียกชัดเจนนะคะ ด้านขวาที่เห็นกระจกแว๊บๆนั่นเป็นประตูเลื่อนกั้นโซนค่ะ

เคาท์เตอน์หินอ่อน อ้างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาท์เตอร์ ขนาดของเคาท์เตอร์ก็ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถใช้งานได้สะดวกสบาย

โซนอาบน้ำมีฝักบัว 2 แบบมาให้ด้วยกันค่ะ คือเป็นแบบ hand shower และ rain shower

ตรงข้ามกับห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้า ที่มีกระจกเต็มตัวอยู่ด้านหน้า 2 บานด้วยกันค่ะ

เข้ามาดูโซนที่นอนกันบ้างดีกว่า เห็นมั้ยคะหากทำอาหารอาจทำให้กลิ่นติดผ้า หรือติดเตียงได้ง่าย

เตียงนอนด้านล่างสามารถเปิดออกมาเป็นลิ้นชักใส่ของได้นะ

ด้านข้างเตียงฝั่งแรกจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ไฟจะอยู่ด้านหลัง แต่สามารถเสริมโคมไฟเพื่อเพิ่มความสว่างได้ มีปลั๊กให้อยู่ด้านล่าง 2 ช่อง อาจจะเสียบเป็นโคมไฟช่องนึง และอีกช่องนึงเป็นไดร์เป่าผม ถือว่าใช้งานสะดวกสบายเลยทีเดียวค่ะ

ซูมเข้ามาที่โต๊ะเครื่องแป้ง สามารถเปิดขึ้นมา จะมีช่องเอาไว้เก็บของเก็บเครื่องสำอางค์ได้ไม่เลอะฝุ่นค่ะ เพิ่มความเก๋ด้วยเปิดมาเป็นกระจกสำหรับแต่งหน้าขนาดใหญ่

มาที่อีกฝั่งของเตียงกันบ้างคะ ทางโครงการจัดวางโซฟาสำหรับ3ที่นั่งเอาไว้ให้ ถือแม้โซฟาจะมีขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ทำให้อึดอัดนะคะ ตอนกลางวันสามารถเปิดรับแสงเข้ามาได้ แต่ก็มีต้นไม้มาบังให้ความเป็นส่วนตัวอยู่ค่ะ

ด้านปลายเตียงติดทีวีแบบแขวนไว้ได้ แต่ไม่สามารถวางทีวีแบบตั้งโต๊ะได้ เพราะพื้นที่ระหว่างปลายเตียงไปผนังมีประมาณ 40 เซนติเมตรค่ะ

ถัดจากทีวีมา จะเป็นประตูเปิดออกไประเบียง ระเบียงมีขนาดประมาณ 11.5 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้า และราวตากผ้าขนาดเล็กได้นะคะ ระเบียงสูงประมาณ 120 เซนติเมตร ค่อนข้างปลอดภัยเลยทีเดียวค่ะ

เพิ่มเติมในส่วนของที่เปิดหน้าต่างข้างเตียงนอนนะคะ เป็นคันโยกอลูมิเนียม ค่อนข้างแข็งแรงเลยค่ะ

ห้องสุดท้ายเป็นห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 66 ตร.ม.

เปิดประตูมาส่วนแรกก็จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น มองทะลุไปเป็นห้องนอนเล็กที่กั้นด้วยกระจก 3 ตอน ด้านในห้องนอนมีมู่ลี่ที่สามารถปิดลงมาได้เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว แต่หากอยากได้แสงจากด้านนอกเข้ามาในส่วนของห้องนั่งเล่นตอนกลางวัน ก็เก็บที่นอนให้เรียบร้อย แล้วเปิดม่านรับแสงจากในห้องนอนมาเลยค่ะ

อีกด้านของห้องนั่งเล่นนะคะ จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือไว้ให้วางตู้รองเท้าได้ และสามารถเสริมตู้อื่นๆเพื่อเก็บของได้อีกด้วยค่ะ

โต๊ะวางทีวี ยังมีช่องและลิ้นชักให้สำหรับเก็บของได้เป็นสัดส่วนอีกด้วยค่ะ

แวะเข้ามาดูห้องน้ำในส่วนของห้องนั่งเล่นกันค่ะ

ห้องน้ำนี้ มีฝักบัวด้วยกันสองแบบ คือ hand shower และ rain shower เลือกใช้งานได้ตามใจชอบเลยค่ะ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาท์เตอร์ค่ะ ส่วนตัวเตาท์เตอร์ทำมาจากหินอ่อน

เข้ามาดูในส่วนของห้องนอนเล็กกันต่อเลยค่ะ

ห้องนอนเล็กสำหรับวางเตียงขนาด 3 ฟุต และยังเหลือพื้นที่รอบเตียงไม่ทำให้อึดอัด

ด้านข้างเตียงยังมีที่เหลือให้วางโต๊ะเล็กๆ หรือใครจะเปลี่ยนเป็นตู้เล็กๆเอาไว้สำหรับเก็บของก็ได้นะคะ

ส่วนตู้เสื้อผ้าและโต๊ะกระจกจะอยู่ด้านปลายเตียง

ส่วนถัดมา เป็นส่วนของครัวค่ะ เป็นส่วนที่เชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่ มีลักษณะพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ตรงข้ามกับส่วนปรุงอาหาร ก็จะมีโต๊ะนั่งทานอาหารที่นั่งกันได้ 4 คนสบายๆเลยค่ะ

เมื่อเปิดม่านหลังโต๊ะทานข้าวก็จะเจอประตูกระจกที่ออกไปเป็นระเบียงนะคะ มีประตูออกไปได้ 2 ฝั่งด้วยกัน

หน้าตาของระเบียงค่ะ ขนาดประมาณ 12 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ มีรูระบายน้ำและต่อท่อระบายน้ำมาให้ หากเอากระถางต้นไม้ออกก็ยังสามารถวางราวตากผ้าได้อีกด้วยค่ะ

เดินถัดมาจากครัวจะเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ ห้องนี้มีพื้นที่เยอะทีเดียวค่ะ

เปิดเข้ามาด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนของตู้หนังสือขนาดใหญ่ จะเห็นได้ว่ามีพื้นที่เยอะเลย สามารถนำตู้หรือชั้นใหญ่ๆมาวางได้ตามการใช้งานเลยค่ะ แอร์อยู่ด้านบนของตู้ จะเห็นได้ว่าแอร์ไม่เป่ามาทางเตียงนอนโดยตรงทำให้ลดสาเหตุการเกิดภูมิแพ้ได้เหมือนกันนะคะ

ลักษณะหน้าตาของสวิตซ์และรีโมทแอร์ภายในห้องนะคะ

ด้านตรงข้ามทางโครงการจัดเป็นโต๊ะทำงานมาให้ แต่ดูจากพื้นที่ สามารถวางโต๊ะขนาดใหญ่กว่าในรูปได้สบายๆเลยค่ะ เผื่อใครอยากได้โต๊ะทำงานใหญ่ ไม่มีปัญหาเลยค่ะ

มาดูจากอีกด้านของห้องบ้าง จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือมากมายเลยค่ะ อีกทั้งหน้าต่างเป็นกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ห้องดูโปรดโปร่ง แอบเห็นกิมมิกที่เตียงเป็นแบบลิ้นชัก build-in เพิ่มพื้นที่การใช้งานเข้าไปแต่ไม่ทำให้เกะกะห้องอีกด้วยค่ะ เก๋ๆ

ด้านปลายเตียงยังมีโต๊ะเอาไว้สำหรับวางทีวีได้อีกด้วยค่ะ ด้านซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ใส่เสื้อผ้าสำหรับสองคนได้สบายๆค่ะ ส่วนประตูที่ห็นนั้นคือประตูห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาท์เตอร์

ส่วนของสุขภัณฑ์ ห้องน้ำนี้แยกโซนแห้ง โซนเปียกชัดเจนนะคะ แต่ก็จะเห็นว่าโซนแห้งเองก็มีที่ระบายน้ำให้เช่นกัน

มีอ่านอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะทุกคน แต่ใครที่ไม่ชอบอาบแบบในอ่างก็ยังมีแบบฝักบัวมาให้ด้วย พื้นที่สำหรับวางสบู่แชมพูอาจจะยังน้อยไป แต่หากหาพวกตะกร้ามาติดข้างกำแพงก็โอเคแล้วค่ะ

อันนี้เป็นรายการชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการมีให้ทั้งหมดในห้องนี้นะคะ

ห้องแปลนแปลกตานี้เป็นห้องขนาด  76  ตรม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น

เปิดห้องเข้ามาจะเจอในส่วนของห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก

ตู้รองเท้าจะอยู่ข้างประตูทางเข้าด้านขวาค่ะ

ห้องนั่งเล่นมีขนาดใหญ่มาก และทางโครงการได้ทำผนังเป็นแบบกระจก ทำให้ห้องยิ่งดูกว่าขึ้นไปอีก ตอนกลางวันสามารถเปิดรับแสงสว่างได้แทนการเปิดไฟฟ้าเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะไม่เป็นส่วนตัว ด้านนอกมีต้นไม้สูงบัง เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้และยังร่มรื่นอีกด้วย

หน้าต่างที่ให้มาเป็นแบบบานกระทุ้ง สามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วยนะคะ

ด้านหลังโซฟาทางโครงการก็ไม่ได้ปล่อยพื้นที่ให้เปล่าประโยชน์ ได้นำชั้นวางมาตั้ง สามารถเก็บของได้อีกเยอะเลยทีเดียวค่ะ

หันมาอีกด้านจะเห็นว่ายังมีพื้นที่เหลือให้วางของได้อีกมาก ในส่วนของห้องนั่งเล่นนี้จะมีแอร์ 2 ตัว

โต๊ะทานข้าวจะอยู่ในโซนด้านหลังโซฟา ซึ่งตรงกับหน้าห้องครัวพอดี

ห้องครัว จะเป็นครัวแบบปิด ไม่มีกลิ่นตอนปรุงอาหารเข้ามารบกวนในส่วนห้องนั่งเล่นแน่นอนค่ะแบบนี้

ยิ่งมีที่ดูดควันให้มาแบบนี้ ไม่มีเรื่องกลิ่นอาหารรบกวนแน่นอนค่ะ

ครัวจัดส่วนส่วนมาเปนเคาน์เตอร์รูปตัว L ค่ะ ด้านนึงเป็นส่วนของการปรุงอาหารและอีกด้านเป็นส่วนของการล้างจาน

รูปภาพของอีกด้านค่ะ

ชุดครัวออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างง่ายดาย โดยแบ่งสัดส่วนเก็บของได้อย่างลงตัว สามารถแยกเก็บน้ำยาความสะอาด เครื่องปรุง หรืออุปกรณ์ต่างๆได้อย่างชัดเจน

ที่ห้องครัวจะมีในส่วนของระเบียงมาด้วย

จะเห็นได้ว่าระเบียงไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่พอที่จะวางเครื่องสักผ้าได้ แต่จะไม่สามารถวางราวตากผ้าได้นะคะ

เข้ามาที่ห้องนอนกันค่ะ มีพื้นที่ใหญ่พอสมควรเลย

ข้างเตียงมพื้นที่เหลือ ไม่ทำให้อึดอัด ถ้าสังเกตจากรูปก่อนหน้า จะเห็นเจ้ากล่องไม้วางอยู่ 2 ฝั่งของหัวเตียง มันสามารถเปิดลิ้นชักเอาไว้สำหรับเก็บเอกสารหรือของชิ้นเล็กๆได้อีกด้วยค่ะ

ตรงข้ามเตียงจะเป็นโต๊ะสำหรับวางทีวี และตู้เสื้อผ้า

ห้องน้ำแบ่งออกเป็นโซนเปียกและโซนแห้ง เคาท์เตอร์หินอ่อน อ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาท์เตอร์ ห้องน้ำไฟไม่สว่างมาก ไม่เหมาะกับการแต่งหน้าในห้องน้ำ แนะนำให้ออกไปแต่งห้องข้างนอกจะดีกว่าค่ะ

โซนเปียกก็จะมีฝักบัวให้สองแบบนะคะ คือแบบ hand shower และ rain shower จะเห็นได้ว่าทางโครงการต่อท่อมาให้เผื่อลูกบ้านคนไหนอยากติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มนะคะ

Environment - สภาพแวดล้อมโครงการ Garden Asoke-Rama9

เริ่มกันที่ปากซอยโครงการเลย กับห้างสรรพสินค้าใหม่ Show DC ที่จะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้

ส่วนอีกด้านจะเป็น Oasis Creative Market ที่จะมีงานมาจัดเป็นระยะๆ

ข้ามถนนไปฝั่งพระรามเก้ากันบ้าง มีโรงพยาบาลพระรามเก้า

และจะมีซอยพระรามเก้าซอย 6 ที่เป็นแหล่งของกินในย่านนี้

มีสถานบันเทิงเปิดให้บริกรช่วงกลางคืน

และมีตลาดนัดและศูนย์อาหารที่เปิดให้บริการในช่วงกลางวันค่ะ

Location -  Garden Asoke-Rama9

แผนที่โครงการ Garden Asoke-Rama9 จะเห็นว่าตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยเดียวกันกับ Show DC สามารถเข้าได้ทั้งจากถนนจตุรทิศ หรือถนนLocal Road เลียบแนวทางรถไฟสายตะวันออก

เรามาจากทางถนนพระรามเก้าฝั่งขาเข้า เลี้ยวเบี่ยงซ้ายวิ่งตามถนนจตุรทิศมา พอเจอ oasis creative market และซอยเลี้ยวซ้ายเข้า Show DC ก็เข้ามาเลยค่ะ

เมื่อเราเลี้ยวซ้ายเข้ามาแล้ว ด้านขวามือจะเป็นห้างสรรพสินค้า show DC  ซึ่งจะเปิดให้บริการเร็วๆนี้ ช่วงนี้ก็เลยจะมีรถบรรทุกเยอะเป็นพิเศษค่ะ  เราขับตรงผ่าน show DC เข้ามาอีกประมาณ 300 เมตร

เมื่อเจอทางแยก เลี้ยวซ้าย จะเห็นได้ว่าดูค่อนข้างวุ่นวาย เป็นเพราะช่วงก่อสร้างจะมีเพลิงที่อยู่อาศัยของคนงานอยู่ด้วยค่ะ แต่เมื่อ show DC สร้างเสร็จทุกอย่างก็จะกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ

หลังจากนั้นตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 200 เมตรเท่านั้นค่ะ จะเจอทางเข้าโครงการแล้ว

โดยรวมภายนอกโครงการอาจจะมีห้างสรรพสินค้า และ สถานบันเทิงต่างๆที่ดูคึกคัก แต่พอเข้ามาในโซนของโครงการเองแล้ว ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเงียบ สงบ ไม่มีความวุ่นวายจากคนภายนอกเลยค่ะ

Analysis - วิเคราะห์โครงการ Garden Asoke-Rama9

ทำเล :  โครงการ Garden Asoke-Rama9 เป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่ใกล่กับพระรามเก้า ซึ่งถือว่ากำลังจากเป็น CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร  การเดินทางก็สะดวก ใกล้กับทางขึ้นลงทางด่วนศรีรัช พระรามเก้า และใกล้กับรถไฟฟ้า 3 สาย คือแอร์พอร์ตลิ้งสถานีมักกะสัน รถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรี หรือจะไปขึ้นระรามเก้าก็ได้ และอีก 1 สายก็คือสายสีส้ม ซึ่งมีโครงการก่อสร้างในช่วงปี 2561 นี้ การเชื่อมต่อกับถนนเส้นทางต่างๆก็สามารถทำได้ง่าย เพราะทะลุออกถนนจตุรทิศ พระรามเก้า อโศก-ดินแดง และเพชรบุรีได้ ถือว่าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ในทำเลที่ดี

สภาพแวดล้อม : สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการถือว่ายังสงบอยู่ เพราะไม่มีสิ่งปลูกสร้างมากนัก ที่ดินด้านหน้าและหลังโครงการยังเป็นที่ดินเปล่า จะมีก็แต่ห้าง Show DC ที่หากเปิดให้บรการอย่างเต็มที่ก็น่าจะทำให้การจราจรช่วงปากซอยครึกครื้นน่าดูเหมือนกัน ส่วนสภาพแวดล้อมอีกอย่างที่ต้องสนใจของโครงการก็คือ RCA แต่ด้วยทิศทางที่โครงการอยู่ทางด้านท้าย ในวันปกติก็อาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ถ้ามีงานใหญ่ๆก็ต้องว่ากันอีกที ทางที่ดีลองมาsurveyพื้นที่ในช่วงกลางคืนดูก็ได้ค่ะ หากชอบความสงบก็ต้องพิจารณากันเยอะนิดนึง 

แบบห้อง : แบบห้องของโครงการมีค่อนข้างเยอะ และแบบห้องเริ่มต้นของโครงการคือแบบ studio 26 ตารางเมตร ก็ถือว่าค่อนข้างใช้งานได้จริง ไม่เล็กจนเกินไป แต่ก็เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวจริงๆ ไม่ได้มีแขกหรือเพื่อนมาหามากมาย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะคับแคบไปหน่อย ส่วนห้องขนาดใหญ่กว่านี้ถือว่าค่อนข้างได้พื้นที่ใช้สอยเยอะเลย โดยเฉพาะห้องแบบ 2 ห้องนอน 

สิ่งอำนวยความสะดวก : สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการถือว่าได้ครบตามสมัยนิยม อีกอย่างเพราะเป็นส่วนกลางของโครงการ 2 โครงการ เพราะพื้นที่อีกด้านของอาคารAQ Square จะมีการพัฒนาเป็นโครงการ Town Home ซึ่งก็อาจจะมีการใช้ส่วนกลางร่วมกันตรงกลาง

ราคา : ราคาของโครงการ เริ่มต้นที่ 2.3 ล้านบาท ก็เป็นราคาเริ่มต้นปกติของทำเลแถบนี้ ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 87,000 บาท ก็ถือว่าไม่แพงหากเปรียบเทียบเฉพาะราคากับโครงการที่ขึ้นโดยรอบที่มีราคาต่อตารางเมตรไปที่ 100,000บาทขึ้นไปแล้ว แต่ก็ต้องแลกกับตัวอาคารที่สร้างเสร็จมาแล้วกว่า 3 ปี

สรุป  โครงการ Garden Asoke-Rama9 เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ที่อยู่มนทำเลพระรามเก้า ซึ่งสามารถลัดไปออกถนนอื่นหรือทางด่วนได้ มีส่วนกลางครบ ใกล้กับห้างสรรพสินค้า และรถไฟฟ้า ด้วยราคาที่ไม่แรงมาก ตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย และทางโครงการก็มีบริการปล่อยเช่าด้วย หากใครยังตัดสินใจไม่ได้ ลังเลอยู่ว่าจะเหมาะกับตัวเองหรือเปล่า ก็ลองติดต่อขอเช่าดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจก็ได้ เพราะการซื้อคอนโดนั้นต้อเป็นหนี้ระยะยาว ถ้าซื้อแล้วไม่ถูกใจจะขายต่อก็อาจจะไม่ทันใจ เพราะต้องเข้าใจว่าโครงการสร้างเสร็จมานานแล้ว อาจจะไม่ได้ขายง่ายเหมือนโครงการที่ขายดาวน์หรือโครงการพร้อมอยู่ใหม่ๆ