[Review] Whizdom @Punnawithi Station โครงการคอนโดพร้อมอยู่ ในซอยสุขุมวิท 64 ใกล้กับ BTS สถานีปุณณวิถีเพียง 450 เมตร จาก แมคโนเลีย

Whizdom @Punnawithi Station โครงการคอนโดพร้อมอยู่ ในซอยสุขุมวิท 64 ใกล้กับ BTS สถานีปุณณวิถีเพียง 450 เมตร จาก แมคโนเลีย

โครงการ Whizdom @Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Riseพร้อมอยู่สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท64 ซึ่งเป็นซอยที่เต็มไปด้วยโครงการคอนโดมิเนียมในย่านปุณณวิถี และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถีเพียง 450 เมตร ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยและเปิดขายไปเกือบ 90% แล้ว

ชื่อโครงการ Whizdom @Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น)

ที่ตั้งโครงการ ซอยสุขุมวิท64 ถนนสุขุมวิท

เขต พระโขนง กรุงเทพมหานคร

ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท

เจาะลึกภาพรวมโครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น)

Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) คอนโดมิเนียมประเภท Low Rise สูง 8 ชั้นจำนวน 2 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่ดิน 2-3-83 ไร่ บนถนนซอยสุขุมวิท 64 แยก 1 เป็นอาคารสร้างเสร็จพร้อมอยู่ เจ้าของโครงการคือ บริษัท MQDC หรือแมคโนเลีย  ซึ่งทำโครงการคอนโดมิเนียมและหมูบ้านแบบ Luxury มาแล้วหลายโครงการ สำหรับโครงการนี้มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 262 ยูนิต ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จมาประมาณ 3 ปีแล้ว เราจะไปดูรายละเอียดในตัวโครงการกันค่ะ

ตัวโครงการอยู่ติดถนนซอยสุขุมวิท 64 เข้ามาจากแยก 1 ประมาณ 200 เมตร

ตัวอาคารสูง 8 ชั้น ชั้น 1 เป็นที่จอดรถและพื้นที่ส่วนกลาง ตั้งแต่ชั้น 2-8 จะเป็นยูนิตห้องพักทั้งหมด 

สระว่ายน้ำโครงการก็อยู่ชั้น 1 แต่จะยกระดับขั้นมาให้พ้นระยะสายตา ช่วงที่เราไปรีวิวโครงการ ทางนิติกำลังปรับปรุงและทำความสะอาดส่วนกลางอยู่ เลยไม่ได้อนุญาตให้เข้าไปถ่าย

Facilities ของโครงการจะอยู่ที่อาคาร 1 ทั้งหมด มีห้องfitness ห้องสมุด ห้องเอนกประสงค์ และสระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่

พื้นที่ตรงกลางระกว่างอาคาร 1 และอาคาร 2 เป็นสวนหย่อมค่ะ

มาดู Plan อาคารชั้น 1 กันค่ะพื้นที่ชั้นล่างจะเป็นที่จอดรถ Facilities สวนหย่อม และทางขึ้นอาคาร

Plan อาคาร ชั้น 2  อาคาร 1 มี 16 ยูนิต และอาคาร  2 มี 18 ยูนิต

Plan อาคาร ชั้น 3 อาคาร 1 มี 19 ยูนิต และอาคาร  2 มี 19 ยูนิต

Plan อาคาร ชั้น 4 อาคาร 1 มี 19 ยูนิต และอาคาร  2 มี 19 ยูนิต จำนวนยูนิตจะมีเท่านี้ไปจนถึงชั้น 8 เลยค่ะ

Plan อาคาร ชั้น 5

Plan อาคาร ชั้น 6

Plan อาคาร ชั้น 7

Plan อาคาร ชั้น 8

ต่อไปมาดูสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆกันบ้าง เริ่มจากทางเข้าออกโครงการ ใช้ระบบไม้กระดกกั้น แบบ Key Card

เครื่องสแกน Key Card เข้าออกโครงการสำหรับลูกบ้าน

ประตูทางเข้าอาคารก็ให้ Key Card และรหัสกดเพื่อเปิดประตู

ส่วนด้านในก็กดปุ่มเพื่อเปิดประตูเอาค่ะ

ชั้นล่างของอาคารทั้ง 2 อาคารเป็นที่จอดรถ ได้พื้นที่จอดรถไม่รวมจอดซ้อนคัน 40%

โครงการมีบริการรถรับส่งไปสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี โดยรถมี 2 คัน วิ่งเป็นรอบตามตารางค่ะ

เข้ามาในอาคาร ตรงโถงทางเข้าจะมี Mail Box ตั้งเรียงกันแยกตึกใครตึกมันค่ะ

ติดกับตู้จดหมายเป็นลิฟต์ขึ้นด้านบนอาคาร

หน้าตาที่กดลิฟต์ของ Schindler ลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้น

ข้างลิฟต์แต่ละชั้นจะเป็นบันไดหนีไฟ

ตรงหน้าลิฟต์แต่ละชั้นจะมาผังอาคารและจุดสัญญานเตือนอัคคีภัยติดอยู่ค่ะ

โถงทางเดินในโครงการยาวตามแนวอาคารเป็นตัว U ฝั่งกลางอาคารจะไม่มีช่องแสงค่ะ แต่มีไฟให้ตลอดทาง ระหว่างประตูห้องพักจะมีช่อง Service และตู้อุปกรณ์ดับเพลิง

แบบห้องของโครงการมีทั้งหมด 3 Type ด้วยกัน ตั้งแต่ 1 ห้องนอน จนถึงแบบ 2 ห้องนอน แบ่งเป็น Type A, B และ C

Type A แบบห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และครัวแบบเปิด มีแบบย่อยอีก 6 แบบ พื้นที่ใช้สอย 34 ตารางเมตร

Type B แบบห้อง 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และครัวแบบเปิด มีแบบย่อยอีก 6 แบบ พื้นที่ใช้สอย 48 ตารางเมตร

และ Type C แบบห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และครัวแบบเปิด มีแบบย่อยอีก 4 แบบ พื้นที่ใช้สอย 62 ตารางเมตร

ห้องตัวอย่าง Type 2 ห้องนอน ขนาด  48 ตร.ม. ของโครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น)

ห้องตัวอย่างแบบแรกเป็นแบบ 2 ห้องนอน หรือ 1 Bedroom Plus คือมีห้องเอนกประสงค์ 1 ห้อง ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48 ตารางเมตร 1 ห้องน้ำ และครัวเปิด

ประตูห้องได้บานไม้เคลือบสีน้ำตาล มือจับแบบก้านโยก และมีตาแมวให้

ห้องตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งมาให้ดู โครงการขายแบ Fully Furnished เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับทางเดินที่เชื่อมกับ Living Area และส่วนครัว ด้านข้างติดกระจกเอาไว้ให้ส่องความเรียบร้อยก่อนออกจากห้อง ด้านล่างเป็นตู้เก็บรองเท้า

ตู้เก็บรองเท้าแบบเปิด มีชั้นวางข้างใน 2 ชั้น

ส่วนแรกในห้องก็คือ Living Area ที่เชื่อมกันกับครัว พื้นมนห้องเป็นกระเบื้อง 60x60 ซม. เช็ดทำความสะอาดง่ายดีค่ะ

ไฟในห้องเป็นดาวน์ไลท์ พร้อมกับที่ดักจับควันไฟ

เคาท์เตอร์ Pantry ครัว ได้แบบมีชั้นด้านบน มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน เปิดออกมาได้ช่องเก็บของตามนี้ค่ะ

อ่างล้างจานให้ของ Teka แบบ 1 หลุมล้างพร้อมที่พักจานข้างๆ

เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวและที่ดูดควันอาหารของ Teka

บนเคาท์เตอร์มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารพอสมควร พร้อมกับติดปลั๊กมาไว้ให้ สำหรับวางเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวอื่นๆ

ช่องวางไมโครเวฟอยู่ที่เคาท์เตอร์ด้านล่าง

อีกฝั่งคือโต๊ะทานอาหาร และโซฟาค่ะ ตรงนี้จะได้แสงธรรมชาติจากประตูระเบียงเข้ามาด้วย ตอนกลางวันก็ประหยัดไฟได้ดีเลยค่ะ

สวิตซ์ไฟบริเวณ living Area

โต๊ะทานอาหารตั้งมาแบบโต๊ะกระจกกลม จริงๆเปลี่ยนเป็นโต๊ะเหลี่ยมมาตั้งแทนก็จะได้เนื้อที่ในการใช้งานเพอ่มมากขึ้นนะคะ

ในสุดเป็นที่วางโซฟาและชั้นวางทีวี และประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปที่ระเบียง

โซฟาวางมาแบบ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางแบบมีชั้นวางของข้างล่างได้ ถ้าลองขยับดีๆอาจจะหาโซฟา 3 ที่นั่ง แบบไม่ต้องมีพนักวางแขนมาวางแทนได้ แต่ต้องวัดความกว้างให้พอดีนะ

ตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี และชั้นวางของด้านบน

ชั้นวางของเป็นแบบเปลือย วางหนังสือหรือของตกแต่งได้นิดหน่อย แต่ต้องไม่หนักมากนะคะ

ชั้นวางทีวีเปิดออกมา เก็บของและวางอุปกรณ์ข้างล่างได้อีก

มีปลั๊กไฟและช่องสายเคเบิลติดมาให้ที่ผนัง

ช่องเก็บของใต้ทีวีมีทั้งช่องเปิด และแบบมีบานปิดด้วย

ต่อไปออกไปดูที่ระเบียงกันค่ะ เหนือประตูระเบียงติดแอร์ส่วนของ Living Area ไว้บนรางม่าน

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานสไลด์ 2 ตอน และบาน fix ด้านข้างทั้ง 2 ข้าง

พื้นระเบียงเป็นกระเบื้อง 30x30 ซม. พื้นที่ใช้งานระเบียงประมาณ 90 x 250 ซม.

ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กสีเทา สูงประมาณ 120 ซม.

พื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า มีก๊อกน้ำและวางท่อมาให้เรียบร้อย เครื่องซักผ้าสามารถตั้งได้ทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน แต่ต้องกะขนาดความกว้างด้วย

มีปลั๊กไฟสำหรับเครื่องซักผ้าพร้อมกล่องกันน้ำมาให้

อีกฝั่งของระเบียงเป็นที่ตั้ง CDU แอร์ มีประตูระแนงเหล็กปิดให้เรียบร้อยดีค่ะ

มุมมองจากระเบียงออกไปที่หน้าประตูห้อง

ต่อไปดูส่วนของห้องเอนกประสงค์ค่ะ จะอยู่ติดกับ Living Area

ห้องนี้เป็นห้องเอนกประสงค์ หรือห้อง 1 Plus ที่เพิ่มขึ้นมานั่นแหละ สำหรับห้องตัวอย่างจัดมาเป็นห้องทำงาน ถ้าอยู่จริงแล้วมีเด็กน้อย หรืออยู่กัน 2 คน จะจัดเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ค่ะ

พื้นในห้องเอนกประสงค์เป็นพื้นลามิเนตตัดกับพื้นทางเดินด้านนอกค่ะ

ประตูห้องเป็นประตูบานเลื่อน ก็เป็นข้อดีเพราะขนาดห้องไม่ได้ใหญ่มาก ใช้ประตูแบบนี้ก็ประหยัดพื้นที่ดีค่ะ

เปิดเข้ามามีโซฟาแบบกึ่งๆ Day Bed ขนาด 3 ที่นั่งตั้งไว้ ซึ่งสามารถใช้นอนได้ด้วย

ข้างโซฟาบิ้วท์โต๊ะทำงานติดหน้าต่างมาให้ น่ารักดีค่ะ

บนโต๊ะติดชั้นวางของมาให้ พื้นที่ผนังตรงนี้มีเหลือเยอะนะคะ สามารถหาชั้นวางของมาติดเพิ่มได้อีก

ผนังหลังโต๊ะเป็นหน้าต่าง เหนือหน้าต่างติดแอร์มาให้

หน้าต้างในห้องนี้ได้เป็นบานสไลด์เปิด 2 ฝั่ง

ต่อไปมาดูที่ห้องนอนใหญ่กัน ในห้องวางเตียง 5 ฟุต ชั้นวางทีวี โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้ามาให้

ประตูห้องนอนได้เป็นบานไม้สีขาว มือจับแบบก้านโยก

เตียงวางชิดมุมด้านในหน้าต่าง ขนาดของเตียงก็พอดีกับผนังห้องที่โครงการทำมาค่ะ

หัวเตียงมีสวิตซ์ไฟบริเวณเตียง

พื้นที่ตรงที่วางเตียงนอนมีที่เหลือปลายเตียงประมาณ 60 ซม. เดินเข้าออกได้

ปลายเตียงมีชั้นวางของ และตำแหน่งติดตั้งทีวีมาให้

ติดปลั๊กไฟ แต่ช่องสายเคเบิลมาให้เรียบร้อย

ผนังด้านในสุดเป็นหน้าต่าง และติดแอร์มาให้ด้านบน

หน้าต่างตรงเตียงนอนได้แบบบานสไลด์ 2 บานด้านบน และบานfix ด้านล่าง

มองจากมุมปลายเตียงไปทางหน้าห้องน้ำ จะเห็นหน้าต่าง และโซนตู้เสื้อผ้า

หน้าต่างบานใหญ่ในห้องนอนได้แบบบานสไลด์ 2 บานด้านบน และบานfix ด้านล่าง กว้างเกือบเต็มพื้นที่ผนัง ก็รับแสงธรรมชาติได้เยอะดีค่ะ

ตัวเปิดหน้าต่างบานสไลด์

รางผ้าม่านทางโครงการติดแบบ 2 รางคู่

มองจากมุมหน้าต่างกลับไปที่เตียงนอน

ต่อจากหน้าต่างมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ติดกระจกบานน้อยมาให้ และได้เก้าอี้สตูมาอีก 1 ตัว

ด้านข้างคือตู้เสื้อผ้า ได้เป็นแบบบิ้วท์อินสูงถึงเพดาน เป็นตู้บานเปิด 3 ตอน และตู้เล็กอีก 1 ตู้ วางของข้างบนได้ ถ้าใครชอบแต่งคอนโด ก็อาจจะจัดโซนนี้เป็บแบบ walk-in closet ก็ได้

ประตูที่เห็นด้านข้างตู้เสื้อผ้าก็คือทางเข้าห้องน้ำค่ะ ประตูเป็นแบบบานเปิด พื้นยกระดับจากพื้นห้องน้ำมาประมาณ 3 ซม.

เข้ามาดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ตำแหน่งห้องน้ำถ้าเปิดประตูอีกด้านก็จะอยู่ตรงข้ามกับห้องเอนกประสงค์นั่นเอง

ประตูห้องน้ำฝั่งที่เปิดจากห้องโถงทางเดินหน้าห้องนอนจะเป็นประตูแบบบานเลื่อนนะคะ

พื้นในห้องน้ำเป็นกระเบื้อง 30x60 ซม. พื้นข้างในลดระดับลงจากพื้นทางเดินในห้องประมาณ 3 ซม.

ไฟในห้องน้ำเป็นดาวน์ไลท์ และติดระบบระบายอากาศด้านบน

เข้ามาข้างประตูก็เจอโถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้น ของ MOGEN

ข้างโถสุขภัณฑ์ทางซ้ายวางถังขยะ และติดสายชำระมาให้

ผนังอีกข้างติดที่แขวนกระดาษทิชชู

ด้านบนติดราวแขวนผ้าเช็ดตัว

อ่างล้างหน้าก็เป็นของ MOGEN เป็นแบบอ่างเหลี่ยมมีขอบวางของข้างอ่างได้นิดหน่อย และมีช่องเก็บของใต้อ่าง

อ่างล้างหน้าที่ให้มาเป็นอ่างแบบลึกค่ะ กันน้ำกระเด็นได้ดี

ข้างบนติดกระจกมาให้แบบบิ้วท์เข้าไปในช่องผนัง มีชั้นวางของใต้กระจกได้อีก

กระจกที่ให้มาสามารถเปิดออกมาเป็นที่เก็บของข้างหลังได้อีกนะคะ

ข้างกระจกมีปลั๊กไฟพร้อมกล่องพลาสติกกันน้ำมาให้ เอาไว้เสียบไดร์เป่าผมได้

Shower Box กั้นด้วย Tempered Glass แบบบานเปิด ที่เปิดสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้อีก

พื้นที่ใน Shower Box ประมาณ 0.9x3 เมตร

ฝักบัวให้มาแบบ Hand Shower

มีที่วางสบู่อันเล็กมาให้ค่ะ แนะนำให้หาชั้นวางของมาวางเพิ่มนะ

มีจุดติดเครื่องทำน้ำอุ่น มาให้ข้างฝักบัว

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น)

สำหรับสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) เริ่มตั้งแต่หน้าปากซอยเข้าไปก็เป็นทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถี ปากซอยอีกฝั่งเป็นโรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore ค่ะ

เลยเข้ามาในซอยอีกจะเจอโรงเรียนพิพัฒนา

ตรงปากซอยของแยก 1 หรือซอยพงษ์เวชอนุสรณ์ 1 ที่เลี้ยวมาโครงการ มี 7-11 อยู่ค่ะ มีที่จอดรถด้านข้างด้วย สะดวกมากๆ

ฝั่งตรงข้าม 7-11 เป็น Showroom Design สินค้าของ HAFELE ถ้าตรงเข้าไปตามซอยสุขุมวิท 64 ก็จะมีอาคารสำนักงานและบริษัทอื่นๆในซอยอีกค่ะ

ในซอยสุขุมวิท 64 นี้นอกจาก Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) ก็ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมเยอะแยะมากมาย ทั้งโครงการเก่าและโครงการใหม่ เพราะทำเลใกล้รถไฟฟ้า และเชื่อมกับถนนเส้นต่างๆได้ง่าย คนซื้อส่วนใหญ่ก็ขายต่อและปล่อยเช่าได้ง่ายค่ะ

ด้านในสุดซอยสุขุมวิท 64 จะเป็นโครงการ ELIO ของอนันดา ที่อยู่ติดกับทางด่วนเฉลิมมหานครด้านหลังค่ะ

ในซอยสุขุมวิท 64 มีร้านอาหาร ร้านค้า เปิดตลอดทางเลยค่ะ  เพราะในซอยเป็นอหล่งชมชุน ในวันเสาร์-อาทิตย์หรือวันธรรมดาก็ยังคึกคัก

มาที่ข้างๆ รั้วติดกันกับ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) ก็คือโครงการ Whizdom The Exclusive ซึ่งเป็นโครงการรุ่นพี่ จากแมคโนเลียเช่นกัน

ส่วนออกมาหน้าถนนสุขุมวิทก็เป็นรถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถีค่ะ

ที่ตั้งโครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น)

โครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น)

ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 แยก 1 ถนนสุขุมวิท ปากซอยโครงการอยู่ใกล้กลับสถานี BTS ปุณณวิถี ทางออกที่ 4 เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสะดวกมาก และก็ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนสุขุมวิท 62 ด้วย

การเดินทางจากถนนสุขุมวิท

เราขับรถตรงมาจากถนนสุขุมวิทผ่านทางเอกมัย มาเรื่อยๆจนถึงอ่อนนุชค่ะ เพื่อมาที่โครงการ   Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) โดยขับตรงมาตามถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าบางนา

เลยอ่อนนุชมาก็จะถึงย่านบางจาก มีตลาดบางจาก และ BTS สถานีบางจาก

ผ่าน BTS สถานีบางจาก และแยกซอยสุขุมวิท 62 ที่เป็นทางขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร

เลยมาสองข้างทางก็เป็นอาคารพาณิชย์และสำนักงาน กับโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างมานานแล้วค่ะ

ถึงซอยสุขุมวิท 101 ด้านหน้าซอยจะมีร้านอาหารฮั่ว เซ่ง ฮง  และป้ายวัดธรรมมงคล

เลยซอยมาก็เป็นสถานีปุณณวิถีค่ะ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการ

Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น)

มากที่สุด

เลยสถานีปุณณวิถีมาให้เตรียมตัวกลับรถนะคะ

กลับรถแล้วขับชิดซ้าย ตรงมาจะเจอซอยสุขุมวิท 64 อยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ

ให้เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ

เข้าซอยมาก็ขับตรงมาเรื่อยๆ สองข้างทางตรงปากซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์ อีกฝั่งเป็นโรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore ค่ะ

เข้ามาในซอยอีกนิด ขวามือเป็นโรงเรียนพิพัฒนา

จากนั้นจะเจอแยก 1 ทางขวามือ สังเกตุง่ายๆจะมี 7-11 อยู่ที่มุมปากซอยค่ะ ให้เลี้ยวขวาเข้าไปเลย

เลี้ยวมาแล้วก็ขับตรงไปอีก

ประมาณ 200 เมตร  จะเจอโครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) ทางขวามือค่ะ

วิเคราะห์โครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น)

ทำเล: โครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) ตั้งอยู่ในทำเลที่ถือว่าสะดวกสำหรับคนที่เดินทางด้ยรถไฟฟ้าเป็นประจำ ส่วนคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกมากเช่นกัน เพราะเชื่อมต่อถนนได้หลายเส้น และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน โดยรวมทำเลรอบๆโครงการถือว่าค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีห้างสรรพสินค้า และตลาดใหญ่ๆอยู่ไม่ไกลมากนัสำหรับคนที่อยู่เป็นครอบครัวก็มีโรงเรียนดังๆในบริเวณใกล้โครงการอยู่หลายที่เลย

สภาพแวดล้อม: สภาพแวดล้อมรอบโครงการเป็นชมชุนซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นโครงการคอนโดมิเนียมนี่แหละ เป็นอาคารบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์บ้าง อาคารสำนักงานบ้าง บรรยากาศตอนกลางวันค่อนข้างเงียบสงบ แต่ถ้าชั่วโมงเร่งด่วนหรือเสาร์อาทิตย์ในช่วงเวลาที่คนออกจากบ้านรถก็จะเยอะหน่อย เพราะต่างคนต่างออกมา แต่ด้วยซอยสุขุมวิท 64 ทะลุออกได้หลายทาง ก็ยังไม่จอแจมากเท่าไหร่

แบบห้อง: แบบห้องของโครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) ถือว่าค่อนข้างดีในแง่ของพื้นที่ใช้สอย ด้วยความที่โครงการสร้างเสร็จมาหลายแล้วห้องขนาด 1 Bedroom ก็ได้ขนาดเริ่มต้นที่ 34 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่พอสมควร ถ้าเป็นโครงการคอนโดใหม่ๆเดี๋ยวนี้เริ่มต้นก็เป็นห้อง Studio พื้นที่ใช้สอยไม่เยอะมาก Lay out การใช้งานในห้องก็ค่อนข้างลงตัว แต่อาจจะติดเรื่องของครัว ที่เป็นครัวเปิดสักเล็กน้อย เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องกลิ่นในการทำอาหาร แต่ขนาดห้องและแบบห้องของโครการโดยรวมก็ถือว่าเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบ 2-3 คนกำลังพอดีๆค่ะ

ราคา: ราคาของโครงการปัจจุบันเริ่มจะมีการขายแบบ Re-Sale กันแล้วเพราะโครงการสร้างเสร็จมาหลายปี แต่ทางเจ้าของโครงการก็ยังเปิดขายและจัดโปรโมชั่นอยู่ ราคาปัจจุบันของโครงการสำหรับห้องขนาด 1 Bedroom Plus เริ่มต้นที่ 3.29 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่แพงมากถ้าเทียบกับโครงการที่กระเถิบออกไปติดถนนสุขุมวิท ราคานี้อาจจะได้ห้องที่เล็กกว่ากับเป็น 10 ตารางเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวก: Facilities ในโครงการ ก็ถือว่าให้มาโอเคสำหรับคอนโดมิเนียมทั่วไป และด้วยบรรยากาศในโครงการก็ค่อนข้างสงบ เป็นส่วนตัว แต่ส่วนกลางอาจจะมารวมกันอยู่ที่ใต้อาคาร 1 คนที่อยู่อาคาร 2 ก็ต้องเดินข้ามมาหน่อย บริการรถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าก็ถือว่าอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ดี ระบบ Security ก็โอเค มีเจ้าหน้าที่ รปภ. และระบบ Key Card เฉพาะกับลูกบ้านในโครงการ

สรุป โครงการ Whizdom Punnawithi Station (วิสซ์ดอม ปุณณวิถี สเตชั่น) เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวโดยเฉพาะช่วงตอนปลายต่อขยายมาทางบางนา หรือคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว และใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท, บางนา-ตราด หรือทางด่วนเฉลิมมหานคร ไปออกพระราม 4 หรือรามอินทราก็สะดวก อีกอย่างคือเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ใครที่ต้องการคอนโดแบบพร้อมอยู่ หรือซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็ก็ทำได้เลย แบบห้องของโครงการก็ไม่อึดอัด อยู่กันหลายคนได้ ถ้าครอบครัวที่มีลูกด้วยในละแวกใกล้ๆโครงการก็มีโรงเรียนดีๆ รับ-ส่งสะดวกหลายที่เลยค่ะ