รูปหน้าปก The Reserve สาทร เพิ่มความสุขอันล้ำค่า สัมผัสทุกช่วงเวลาที่เป็นของคุณ

[Review] The Reserve สาทร เพิ่มความสุขอันล้ำค่า สัมผัสทุกช่วงเวลาที่เป็นของคุณ

ซอยสวนพลู ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120

Pruksa (พฤกษา)

Review info.

ท่ามกลางช่วงเวลาที่ผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว คุณบริหารความสุขของคุณอย่างไร มาเพิ่มตัวเลือกให้ชีวิตของคุณกลมกล่อม ครบทุกรสชาติในหนึ่งวัน กับทางเลือกใหม่สุด Luxury จากผู้พัฒนามืออาชีพอย่าง ‘พฤกษา’ บนย่านสาทรกับ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)

“เพราะการใช้ชีวิตระดับ Luxury คือการมอบอิสระให้ทุกจังหวะชีวิต ในแบบที่คุณลิขิตเอง”



รายละเอียดโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)

ชื่อโครงการ : The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)

เจ้าของโครงการ : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด

ที่ตั้งโครงการ : ซอยสวนพลู ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

เนื้อที่โครงการ : 1-1-53.3 ไร่

ประเภทโครงการ : คอนโด High rise สูง 30 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 1 อาคาร

จำนวนยูนิต : 134 ยูนิต

ยูนิตต่อชั้นสูงสุด : 8 ยูนิต

แบบห้อง :

1 Bedroom 50 - 57 ตร.ม.

1 Bedroom Crystal 56 ตร.ม.

2 Bedroom 79 -115 ตร.ม.

2 Bedroom Crystal 104 ตร.ม.

2 Bedroom Duplex 126 ตร.ม.

ที่จอดรถ : 134 คันคิดเป็น 100%

ค่าส่วนกลางต่อตารางเมตร : 110 บาท/ตร.ม.

ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 280,000 บาท/ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น : 13 ล้านบาท

เว็บไซต์โครงการ : The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)


Insight

โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ตั้งอยู่ในย่านสาทร พื้นที่ใจกลางเมืองที่เรียกได้ว่าเป็น Real CBD ที่สมบูรณ์แบบแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เพราะความครบครันของพื้นที่ที่ ได้มอบความสะดวกสบายไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน, แหล่งไลฟ์สไตล์ หรือการเชื่อมต่อคมนาคมที่พาเราไปสู่ย่านต่างๆ ด้วยทางด่วนและบริการขนส่งระบบราง นับว่าความสะดวกสบายทุกอย่างถูกวางไว้อยู่รายล้อมคุณเลยทีเดียว



ครั้งนี้ “พฤกษา” นำคอนโดมิเนียมซีรี่ย์ Hi-end อย่าง The Reserve มาผสมผสานกับสไตล์ของย่านที่พักคหบดีเก่าแก่ เกิดเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัยสไตล์ Modern Colonial ที่ให้ทั้งความคลาสสิคและทันสมัยเรียบง่าย สร้างความพิเศษให้กับที่พักอาศัย ช่วยเติมเต็มการพักผ่อนของคุณได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ



โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ตกแต่งบริเวณชั้น 1 เป็นพื้นที่สร้างความประทับใจแรกพบด้วยสไตล์โปร่งโล่งตามแบบฉบับ Modern Colonial เราจึงได้เห็นเส้นสายและการจัดวางต้นไม้และสระน้ำอยู่กลางอาคาร เพื่อสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นและเย็นสบาย



บริเวณทางเข้าอาคารของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) จะอยู่ด้านข้างอาคาร เพื่อไม่ให้รบกวนทัศนียภาพของสวนหย่อมที่จัดไว้อย่างผ่อนคลายบริเวณชั้น 1



และเมื่อขับรถตรงเข้ามาทางด้านข้างของโครงการ The Reserve สาทร จะเห็นประตูทางเข้า ซึ่งเป็นจุด Drop off สำหรับรับ-ส่งผู้อาศัย



ถัดจากจุด Drop off จะเป็นทางขึ้นไปสู่พื้นที่จอดรถชั้น 2 - 9 ซึ่งมีทางขึ้นและลงเพียงทางเดียว จึงได้ทั้งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวโดยไม่รบกวนผู้อาศัย



และเพื่อรองรับความต้องการพื้นที่จอดรถของลูกบ้านได้ 100% ทางคอนโด The Reserve สาทร จึงมีพื้นที่จอดรถใต้ดินให้อีก 2 ชั้น โดยมีทางเข้าอยู่ด้านหลังอาคาร



โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ได้จัดสวนหย่อมพักผ่อนไว้บริเวณชั้นหนึ่ง พร้อมลานน้ำพุที่ช่วยสร้างบรรยากาศร่มรื่น เย็นสบายให้เราผ่อนคลายได้ทุกสัมผัส



สิ่งที่ทำให้โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) โดดเด่นไปอีกขั้น คือ การทำระเบียงแบบ Crystal Bacony ที่ชั้น 10 - 21 เพียง 2 ห้องต่อชั้นเท่านั้น




โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ได้ออกแบบโครงสร้างตึกจากชั้น 22 ขึ้นไป ให้มีการไล่ระดับให้พื้นที่ต่อชั้นลดลง แต่ยังคงมีจุดเด่นที่น่าสนใจ เช่น บริเวณชั้น 23 ห้องพักจะเน้นระเบียงกว้างสำหรับผู้ที่ต้องการใช้พื้นที่ระเบียงในการพักผ่อน พร้อมกับเพิ่มความหลากหลายด้วยห้องแบบ Duplex บนชั้น 25-26



ห้องพักชั้น 27 และ 28 ที่มีลักษณะแบบหน้ากว้างเป็นพิเศษ



โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) จัดวางพื้นที่ส่วนกลางไว้ที่ชั้น 29 - 30 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด ทำให้ผู้อาศัยได้ใช้ช่วงเวลาอันล้ำค่าไปกับความสุขและความผ่อนคลายอย่างเต็มที่


“ใช้ทุกช่วงเวลาอย่างคุ้มค่า ด้วยการพักผ่อนอย่างมีระดับ”



ตัวอย่างบรรยากาศของสวนหย่อมภายในอาคาร บริเวณด้านหน้า Center Court Lobby ออกแบบตามสไตล์ Colonial ด้วยการวางต้นไม้ไว้ตรงกลาง แล้วล้อมรอบด้วยธารน้ำให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ใกล้ชิดธรรมชาติ

ภายใน Center Court Lobby ได้รับการตกแต่งอย่างมีชั้นเชิง ใช้เส้นสายในการช่วยสร้างมิติให้กับพื้นที่ต้อนรับ เพิ่มเสน่ห์ให้ผู้พักอาศัยสบายตามากขึ้น พร้อมเปิดรับวิวสวนได้อย่างเต็มที่ผ่านทางผนังกระจกใส ที่ทำหน้าที่รับแสงธรรมชาติจากด้านนอก ห้องบริเวณนี้จึงสว่างและดูโอ่โถงมากกว่าที่เคย 



พร้อมพบกับความประทับใจสุดพิเศษกับ Concierge by The Reserve Lounge เป็น concierge service บริการเพิ่มความสะดวกสบายกับเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปที่ต่างๆ หรือจองตั๋วเครื่องบิน เสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ Pruksa Premium เตรียมพื้นที่เพื่อให้บริการลูกบ้าน ตลอด 24 ชั่วโมง



โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ใช้ข้อได้เปรียบเรื่องที่ตั้งใจกลางเมืองใหญ่มาสร้างห้องฟิตเนสหรือ Exclusive Gym หน้ากว้าง ให้คนรักสุขภาพสามารถชมวิวเมืองได้แบบสุดสายตาขณะออกกำลังกาย



นอกจากนี้โครงการ The Reserve สาทร ยังจัดพื้นที่ส่วนกลาง “Crystal Lounge” ให้ผู้พักอาศัยมานั่งเล่นพูดคุย พร้อมรับบรรยากาศวิวเมืองอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการออกแบบกรุกระจกรอบด้าน ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง สามารถเปิดรับอากาศภายนอกได้ในวันที่อากาศดีๆ อีกด้วย



บริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น 30 เป็นส่วนของสระว่ายน้ำ Colonial Thermal Pool มาพร้อมพื้นที่สังสรรค์ ซึ่งตกแต่งตามแบบฉบับ Modern Colonial ใช้เส้นสายของเหล็กในการสรรค์สร้างความสวยงามแบบย้อนยุค ทำให้การพักผ่อนของคุณมีสไตล์มากขึ้นกว่าที่เคย


แผนผังอาคารของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)



โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ตั้งอยู่ภายในซอยสวนพลู โดยมีสิ่งรายล้อมอาคารดังนี้

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หันหน้าไปทางถนนสวนพลู

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หันหน้าไปทางอาคารบ้านเรือน ชั้นสูงเห็นโค้งน้ำบางกระเจ้า

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หันหน้าไปทางถนนสาทร ได้วิวเมือง CBD

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หันหน้าไปทางซอยพระพินิจ ได้วิวบ้านม.ร.ว.คึกฤทธิ์

อกจากนี้ยังมีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งโครงการเพียง 134 ยูนิตต่อลิฟต์โดยสาร 3 ตัวและลิฟต์บริการ 1 ตัว ซึ่งนับว่าสามารถให้บริการได้อย่างเต็มที่ทีเดียว 




โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) วางห้องพักอาศัยบนชั้น 10 - 21 ไว้อย่างเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนห้องต่อชั้นมากสุดเพียง 8 ห้องเท่านั้น





สำหรับแปลนของชั้น 23 ตรงห้องทางทิศตะวันออกจะมีพื้นที่ระเบียงกว้างเป็นพิเศษ แต่หากใครไม่ชอบใช้ระเบียงก็สามารถเปลี่ยนพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นพื้นที่ของห้องพักได้บนชั้น 24 โดยที่สองชั้นนี้จะมีการจัดวางห้องให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 6 ยูนิตต่อชั้น




โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) เพิ่มตัวเลือกให้หลากหลายมากขึ้นด้วยการจัดวางห้องแบบ Duplex ไว้บนชั้น 25 - 26 เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการพื้นที่สร้างสรรค์




และเพิ่มความสุขในการพักผ่อนด้วยการจัดแต่งพื้นที่สีเขียวไว้บนชั้น 27 โดยคนที่พักอยู่บนชั้น 28 จะสามารถก้มลงมารับบรรยากาศส่วนนี้ได้เช่นกัน โดยสองชั้นนี้จะมีเพียง 4 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น




ชั้น 29 เป็นที่ตั้งหลักของพื้นที่ส่วนกลาง โดยโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) จะออกแบบให้ห้องฟิตเนสหรือ Exclusive Gym และห้อง Body & Boxing Studio เป็นห้องที่สามารถให้บริการเรียกครูฝึกมาสอนการเล่นกีฬาในร่มอย่างโยคะ หรือมวยไทยได้ถึงที่ พร้อมรับวิวเมืองสาทรได้ขณะออกกำลังกาย แล้วคั่นกลางด้วย Crystal Lounge สถานที่นั่งพักพูดคุยสบายๆ


ส่วนฝั่งทิศใต้ของอาคารเป็นห้อง Private Spa & Salon ที่สามารถเรียกช่างเข้ามาให้บริการได้ถึงที่เช่นกัน พร้อมกับห้องซาวน่าที่อยู่ภายในห้องอาบน้ำ เหมาะสำหรับคนชอบเล่นกีฬา นอกจากนี้ยังมีบริการลิฟต์โดยสารแยกต่างหากสำหรับผู้ใช้สระว่ายน้ำ เพื่อไม่ให้รบกวนโซนพักอาศัยนั่นเอง 



รับวิวเมืองสาทรแบบเต็มๆ บน Colonial Thermal Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือรูปตัว L ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ พร้อมมุมแช่น้ำจากุชชี่ส่วนตัวอีก 5 มุม ข้างกันยังมีจุดสำหรับใช้จัดปาร์ตี้สังสรรค์ให้อีกด้วย


แปลนห้องพักหลากสไตล์ของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)

โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ได้ออกแบบห้องชุดพักอาศัยไว้หลากหลาย โดยแต่ละแบบจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ช่วยเพิ่มตัวเลือกความสุขในการพักผ่อนให้ตรงใจผู้อาศัยมากที่สุด



แบบห้องพัก 1 ห้องนอน มีจุดเด่น คือ เป็นห้องพักแบบหน้ากว้าง ทำให้ทุกห้องสามารถรับวิวภายนอกได้ พร้อมแบ่งความเป็นส่วนตัวด้วยประตูกั้นใช้แบ่งโซนห้องน้ำกับห้องนอน ทำให้เราสามารถแบ่งสัดส่วนการใช้งานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถกั้นปิดโซนครัว เพื่อป้องกันกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร ไม่ให้เข้าไปรบกวนการพักผ่อนได้อีกด้วย




แบบห้องพัก 1 Bedroom Crystal นับเป็น Highlight เด่นของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) เลยทีเดียว มีการกรุกระจกบริเวณระเบียงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้ผู้อาศัยได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาอีกหนึ่งห้องนั่นเอง




ห้องพักแบบ 1 ห้องนอนในลักษณะหน้ากว้าง จะสามารถสัมผัสกับอากาศภายนอกได้ทุกสัดส่วนทุกมุมห้อง โดยยูนิตนี้จะถูกออกแบบจัดวางอยู่กลางอาคารให้คุณสามารถผ่อนคลายไปกับวิวเมืองสาทรแบบ exclusive ทั้งสองฝั่ง


พร้อมกับการแบ่งห้องไว้อย่างเป็นสัดส่วนด้วย Living area ที่กว้างขวาง โดยจัดวางห้องน้ำให้อยู่ตรงกลางจึงใช้งานได้ทั้งจากฝั่งห้องนั่งเล่นและห้องนอนหรือโซนครัวแบบเปิดบวกกับความสะดวกสบายจาก Island หรือพื้นที่เตรียมอาหารถูกจัดวางอยู่ใกล้ระเบียง เพื่อช่วยให้ระบายอากาศได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับคนชอบเข้าครัวเป็นประจำ



สำหรับห้องพักแบบ 2 ห้องนอนจะเพิ่มพื้นที่นั่งเล่นให้มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยกันเป็นครอบครัว เพราะมีพื้นที่ให้ใช้เวลาร่วมกันได้อย่างสบาย ไม่อึดอัด อีกทั้งยังเป็นห้องหน้ากว้างจึงมีความโปร่งโล่งเปิดรับวิวและแสงสว่างได้ทั่วทั้งพื้นที่




ห้องพักแบบ 2 ห้องนอนให้พื้นที่ระเบียงและเน้นพื้นที่หน้ากว้าง เพื่อการรับแสงและวิวตลอดแนว




ห้องพัก 2 ห้องนอนแบบรับวิวได้สองด้าน จะยังคงแบ่งห้องให้เราสามารถจัดสัดส่วนการใช้ชีวิตได้อย่างเป็นส่วนตัวเช่นเคย




ห้องพักอาศัยแบบ 2 ห้องนอน ที่จัดให้ส่วนครัวอยู่ใกล้กับห้องนั่งเล่นมากขึ้น พร้อมมีระเบียงส่วนตัวอยู่ในห้องนอน




ห้องพักอาศัยแบบ 2 ห้องนอนที่แยกสัดส่วนของครัวออกเป็นครัวปิด มาพร้อมกับระเบียงแบบ Crystal Bacony ที่สามารถตกแต่งเป็นห้องอเนกประสงค์เพิ่มได้อีกห้องหนึ่ง




ห้องพัก 2 ห้องนอนแบบเน้นพื้นที่ระเบียงกว้าง เหมาะสำหรับผู้อาศัยที่ชอบการรับลม นอนอาบแดดหรือต้องการใช้พื้นที่ระเบียงมากเป็นพิเศษ




จุดเด่นของห้องพัก 2 ห้องนอนนี้ คือ มีห้องครัวแบบปิด จึงเหมาะแก่การประกอบอาหารที่มีกลิ่น ซึ่งจะแบ่งห้องเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยให้พื้นที่อาศัยอยู่ใกล้กัน มีห้องนั่งเล่นค่อนข้างกว้างเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการรับแขกหรือทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน



ห้องพักอาศัย 2 ห้องนอนแบบ Duplex ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการพื้นที่พักผ่อนกว้างขึ้น


2 BR 104 SQ.M.



ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) จัดให้เข้าชมเป็นแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 104 ตารางเมตร ที่มีระเบียงแบบ Crystal Bacony ซึ่งถือเป็นแบบห้องที่ได้รับความสนใจ และเป็นจุดเด่นของโครงการเลยทีเดียว



ประตูห้องติดตั้งระบบ Digital Door Lock จาก Samsung แยกกับส่วนของลูกบิด เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อแบตเตอรี่ Digital Door Lock หมด ถึงแม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนักแต่ก็นับเป็นการป้องกันที่ดี และยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเช็คประวัติการเข้าออกห้องได้อีกด้วย



เมื่อเข้าประตูมา เราจะเห็นส่วนหน้าจอสื่อสารของ VDO Door Phone ที่เชื่อมต่อกับทางเข้าโครงการ สามารถพูดคุยและควบคุมการเปิดประตูได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องลงไปรับด้านล่าง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพักอาศัยได้เป็นอย่างดี



ภายในห้องพักส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood) หน้ากว้าง 14 มิลลิเมตร ที่ให้ทั้งความคงทนและความสวยงามจากเนื้อไม้จริง



ถัดจากบริเวณอินเตอร์คอมไปจะเป็นส่วนที่ทางโครงการได้บิลท์อิน (Build-in) เฟอร์นิเจอร์มาให้แล้ว เป็นชั้นรองเท้าและชั้นวางของอยู่คู่กัน เหมาะสำหรับใช้เก็บของที่ต้องพกออกไปด้านนอกเป็นประจำ หรือของจิปาถะอื่นๆ พร้อมกันนั้นยังมีชั้นวางที่สามารถใช้วางกรอบรูป หรือของประดับเพิ่มเติมได้



ติดกันเป็นตู้วางเครื่องซักผ้าที่ทางโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) จัดให้พร้อมชั้นวางของแบบถอดเองได้ ดังนั้นหากคุณต้องการวางเครื่องอบผ้าก็สามารถใส่ไว้ตรงด้านบนได้เช่นกัน



โซนครัวของแบบห้อง 2 Bedroom Crystal ขนาด 104 ตารางเมตร จะเป็น “ครัวแบบปิด” มีประตูกั้นเรียบร้อย และทางโครงการยังได้บิลท์อิน (Build-in) ชุดครัวมาให้ครบ พร้อมกับตู้เก็บขยะตรงกลาง ซึ่งเป็นระบบเซ็นเซอร์ หากคุณใช้เท้าสอดเข้าไปทางด้านล่าง ตู้นี้ก็จะเปิดออกอัตโนมัติ ช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณไม่เปรอะเปื้อน นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย ที่ทำให้คุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น



บริเวณพื้นของโซนครัวจะปูด้วยหินแกรนิโต้ไซส์ใหญ่ เพื่อรองรับกิจกรรมการประกอบอาหาร ทำให้เราสามารถดูแลรักษาความสะอาดได้ง่ายขึ้น และช่วยถนอมพื้นให้อยู่คู่ห้องได้ยาวนานขึ้น



ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวบิลท์อิน (Build-in) นั้น ทาง The Reserve สาทร ได้ติดตั้งตู้เย็นเข้าไปให้ด้วย เพื่อความสวยงามของพื้นที่ครัวและสะดวกต่อการใช้งานของผู้อาศัย



ด้านข้างตู้เย็นจะมีตู้แช่ไวน์ขนาดเล็กให้ สามารถแช่ได้ประมาณ 14 ขวด จากแบรนด์ Temptech อันดับ 1 ในเรื่องของตู้แช่ไวน์คุณภาพ เป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่ทางโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) จัดเตรียมไว้เพื่อคุณ



อีกด้านหนึ่งบิลท์อิน (Build-in) ตู้เก็บของ, Combi-Oven หรือเตาอบและไมโครเวฟ พร้อมติดตั้งเครื่องล้างจานคุณภาพจากแบรนด์ Gorenje จัดสรรพื้นที่ให้คุณเสร็จสรรพ เพื่อใช้เก็บรักษาช่วงเวลาความสุขให้มากขึ้น



และนับว่าห้องแบบ 2 Bedrooms Crystal นี้ ให้ความสำคัญกับพื้นที่ครัวมากทีเดียว เพราะเขาออกแบบพื้นที่เคาน์เตอร์ครัวให้กว้างขึ้น เราจึงสามารถจัดวางและจัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆ ได้สะดวกขึ้นเยอะ ส่วนวัสดุที่ใช้ทำ Top ครัวยังทำมาจาก Clam-Shell Caesar Stone Quartz ซึ่งมีความทนทานค่อนข้างมาก รองเพียงแค่หินอัญมณีอย่างเพชรเท่านั้น ซ้ำยังไม่ซึมน้ำเพราะระดับรูพรุนของหินอยู่ที่ 0.02% จึงดูแลรักษาง่าย ไม่เกิดคราบฝั่งแน่นให้กวนใจ



นอกจาก Top ครัวที่เป็นหินควอทซ์ธรรมชาติผสม 95% แล้ว ซิงค์ล้างจานและก๊อกน้ำยังเป็นหินที่สามารถรองรับน้ำร้อนอุณหภูมิสูงได้เช่นกัน มีความทนทาน ไร้รอยขีดข่วนกวนใจเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำความสะอาดครัวด้วยน้ำร้อน ส่วนด้านในติดผนังยังทำเป็นที่พักจานขนาดย่อมให้เราใช้พักสะเด็ดน้ำได้สะดวก พร้อมติดตั้งก๊อกน้ำแบบดึงออกได้ ทำให้เราทำความสะอาดสิ่งต่างๆ ได้ง่ายและสะดวกสบายขึ้น



ขณะที่เคาน์เตอร์ครัวได้มีการคัดเลือกวัสดุมาอย่างยอดเยี่ยมแล้ว ด้านล่างเคาน์เตอร์ก็ดีงามไม่แพ้กันด้วยเครื่องย่อยเศษอาหารใต้ซิงค์ล้างจาน ช่วยกำจัดเศษอาหารได้ทั้งของแข็งและของเหลว ไม่ว่าจะเจอเศษอาหารแบบไหนก็สามารถกำจัดได้ ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นและสิ่งมีชีวิตไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้ด้วย



เตาไฟฟ้าแบบ 4 เตาพร้อมระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นที่ที่ภาชนะประกอบอาหารถูกวางอยู่ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับบาดเจ็บขณะกำลังใช้งาน พร้อมเครื่องดูดควันแบบสัมผัสที่มีดีไซน์เหนือระดับ ให้คุณสามารถเลือกความแรงของการใช้งานได้ตามต้องการ โดยทั้งสองอย่างมาจากแบรนด์ Gorenje



พื้นที่ว่างตรงข้ามโซนครัวสามารถทำเป็นเคาน์เตอร์เพื่อใช้วางหรือพักอาหารได้ หรือจะใช้เป็นที่เตรียมอาหารและเครื่องดื่มแบบง่ายๆ ก็ดูสวยงามไปอีกแบบ



เยื้องมาทางด้านหน้าประตู ฝั่งตรงข้ามกับโซนครัวจะมีห้องน้ำเล็ก สำหรับรองรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนสามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่จำเป็นต้องรบกวนพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งห้องน้ำตรงนี้จะใช้ร่วมกับห้องนอนเล็กที่เชื่อมติดกันอีกฝั่ง



จากพื้นด้านนอกเข้ามายังด้านในห้องน้ำจะทำพื้นต่างระดับ เพื่อกันน้ำด้านในซึมออกสู่พื้นด้านนอก



พื้นและผนังทั้งหมดในห้องน้ำเป็นหินอ่อน Statuario Plus ซึ่งมีคุณสมบัติทนทาน ไม่ดูดซึมน้ำ จึงดูแลรักษาได้ง่าย นอกจากนั้นทางโครงการยังจัดทำช่องสำหรับวางของแบบ Drop Wall ลึกเข้าไปในผนัง ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอย สามารถจัดวางได้อย่างไม่เกะกะ



ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน อย่าง ส่วนของโถสุขภัณฑ์ที่ติดตั้งให้พร้อมกับสายชำระและจุดแขวนกระดาษชำระ ด้านหลังทำ Low Wall ให้เราสามารถวางของใช้ หรือกระถางต้นไม้ ของตกแต่งอื่นๆ เพิ่มได้



ส่วนของ Shower Box ติดตั้งพาร์ติชั่นกั้นส่วนเปียก-ส่วนแห้งเรียบร้อย พร้อมกับยกธรณีประตูขึ้นเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลออกไปรบกวนส่วนแห้งตรงบริเวณอ่างล้างหน้าได้ ทั้งยังวางระบบท่อระบายน้ำมาเป็นอย่างดี ช่วยป้องกันเศษผมและฝุ่นผงเข้าติดในท่อได้



ภายในห้องน้ำจะติดไฟแบบดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยม แล้วไฟซ่อนไว้ด้านบนเพื่อสร้างมิติให้ห้องน้ำดูมีระดับและสวยงามขึ้น



จากห้องน้ำเล็กจะสามารถเชื่อมออกมายังห้องนอนเล็กได้ ถึงแม้ว่าห้องนี้จะเล็กกว่าห้องนอนหลักแต่กลับมีพื้นที่กว้างพอสมควร และด้วยการออกแบบของโครงการ The Reserve สาทร ทำให้ทุกห้องนอนของโครงการสามารถมองวิวด้านนอกได้ทั้งสิ้น



หากเดินออกจากห้องน้ำมา ทางขวาจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) จัดสรรไว้ให้พร้อมกับชั้นวางของ (ด้านซ้ายสุดของภาพ) โดยมีการกรุหน้าตู้ด้วยกระจกสีชาเพื่อความ Luxury และติดกระจกทึบไว้อีกฝั่ง ทำให้เราสามารถจัดเก็บเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถส่องกระจกได้ในตัว



ทางโครงการจัดพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งไว้หน้าตู้เสื้อผ้า สังเกตว่าบริเวณพื้นจะมีเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ เพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าในบริเวณนั้น พร้อมกับเปิดรับแสงจากภายนอกได้อย่างเต็มที่ในเวลากลางวัน และชมวิวเมืองได้สุดสายตาในยามค่ำคืน



ภายในห้องนอนเล็กจะสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อรับลมจากภายนอกได้ แต่อาจเปิดได้ไม่กว้างมากนัก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้



ฝั่งผนังตรงข้ามทางโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ออกแบบให้เป็นจุดวางเตียง จึงมีจุดเต้าเสียบจัดไว้ให้ทั้งสองฝั่งเตียง เหมาะสำหรับการวางโต๊ะข้างเตียงและใช้งานโคมไฟ



ทางโครงการเลือกติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบฝังบนเพดานให้เรียบร้อย พร้อมกับติดไฟแบบดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยมให้เข้ากับสไตล์ของห้อง



ถัดจากส่วนของห้องนอนเล็กจะเชื่อมเข้าสู่ “ห้องนั่งเล่น” หัวใจหลักของการพักอาศัย ทางโครงการจึงออกแบบให้มีขนาดใหญ่ที่สุด เพื่อให้ผู้พักอาศัยทุกคนได้ใช้เวลาพักผ่อนในช่วงวันหยุดอย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับผู้พักอาศัยหลายคน



บริเวณห้องนั่งเล่นจะสามารถเชื่อมถึงระเบียงได้ พร้อมติดผนังแบบกรุกระจกทั้งหมด ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด บวกกับขนาดห้องที่ค่อนข้างกว้างขว้างเป็นพิเศษ จึงสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่และโต๊ะกาแฟได้สบายๆ



นอกจากวางโซฟาแล้ว บริเวณใกล้ฝั่งครัวยังสามารถแบ่งพื้นที่เพื่อวางโต๊ะอาหารขนาด 4 - 6 คนได้ด้วย พร้อมมีจุดที่ติดกับสวิตช์เปิด-ปิดไฟของห้องนั่งเล่น และเนื่องจากมีเต้าเสียบปลั๊กอยู่ในบริเวณนั้นด้วยจึงสามารถวางของตกแต่งจำพวกโคมไฟไว้ในบริเวณนี้ได้



ส่วนของห้องนั่งเล่นจะมีฝ้าเพดานสูงขึ้นไปถึง 3 เมตร ต่างจากโซนครัวและห้องน้ำซึ่งมีเพดานสูง 2.7 เมตร เพราะเป็นโซนของงานระบบ จากภาพห้องตัวอย่างมีการเสริมเพดานลงมาเล็กน้อย เพื่อตกแต่งไฟ สร้างมิติให้กับห้องพักเพิ่มเติม แต่ก็ยังคงติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยมไว้เช่นเดิม



จากห้องนั่งเล่นสามารถเชื่อมออกสู่ระเบียงที่ออกแบบให้เป็น Crystal Bacony ได้ โดดเด่นด้วยการกรุ กระจกรอบด้าน ทำให้เราสามารถตกแต่งเป็นห้องอเนกประสงค์สำหรับการพักผ่อนหรือปลูกต้นไม้ได้อย่างสวยงาม



แยกส่วน Crystal Bacony ออกจากห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ที่สามารถกั้นห้องระเบียงได้ชัดเจน ซึ่งจุดเด่นของบริเวณนี้คือผู้พักอาศัยสามารถดัดแปลงให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ตามใจ



ทางโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) แยกพื้นที่สำหรับวางคอมเพลสเซอร์แอร์ต่างหาก เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนการพักผ่อน และสะดวกในการดูแลรักษาด้วยเช่นกัน



ห้องพักของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) โดดเด่นด้วยการสร้างพื้นที่ความสุขไว้ตรงระเบียง ให้คนชอบพื้นที่ Indoor สามารถบริหารความสุขเพิ่มเติมเองได้ ขณะเดียวกันก็ตอบรับความชอบของคนชอบพักผ่อนแบบ Outdoor ด้วยผนังกระจกและกั้นห้องแบ่งพื้นที่



ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนหลัก ซึ่งจะมีห้องน้ำในตัวจึงได้รับความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องอื่นๆ



“ห้องนอนหลัก” นับว่ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถจัดวางเตียง, โซฟา หรืออาร์มแชร์ตัวใหญ่ได้สบายๆ



ทางโครงการจัดวางเตียงไว้ตรงกลางห้อง สังเกตได้จากตำแหน่งของเต้าเสียบปลั๊กและสวิตช์ไฟนั่นเอง



ส่วนหนึ่งที่ทำให้ห้องนอนหลักดูโปร่งโล่งและมีพื้นที่กว้างมากขึ้น เป็นเพราะผนังกระจก Tripple Glazing Insulated Glass กระจก 3 ชั้นมาตรฐานเดียวกันทั้งโครงการ ช่วยลดอุณหภูมิที่สะท้อนเข้ามาภายในห้องได้ถึง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้เราสามารถเปิดรับแสงได้โดยไม่ทำให้ห้องพักร้อนขึ้น ช่วยประหยัดไฟได้อีกขั้น



อีกด้านหนึ่งของผนังกระจกเป็นโซนของตู้เสื้อผ้า ที่ถูกออกแบบเป็น Walk in Closed ทอดยาวไปสู่ห้องน้ำ ทำให้เราไม่ต้องเดินออกไปรบกวนโซนพักผ่อน



โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ออกแบบห้องตัวอย่างด้วยการกรุผนังกระจก เพื่อสร้างมิติให้กับห้องพัก แต่ถึงอย่างนั้นพื้นที่บริเวณนี้ก็นับว่ากว้างพอสมควร เดินได้สะดวก ไม่อึดอัดมากแม้จะเปิดประตูตู้แล้วก็ตาม



ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ให้มาในห้องนอนหลักจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนเล็ก และถูกแบ่งสัดส่วนการเก็บวางของไว้อย่างละเอียดชัดเจน เป็นสัดส่วน



การจัดวางตู้เสื้อผ้าไว้แบบนี้ นอกจากจะทำให้ห้องพักดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นแล้ว ยังช่วยซ่อนความไม่เรียบร้อยของตู้เสื้อผ้าได้อีกด้วย ทั้งยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำมากนัก จึงสะดวกต่อการใช้งาน



ตู้เสื้อผ้าจะถูกหุ้มขอบด้วยอลูมิเนียมสี Champagne Gold หรือสีชาที่ให้ภาพลักษณ์ที่ดู Luxury และยังทนทานต่อการใช้งาน



หน้าประตูห้องน้ำมีสวิตช์ไฟห้องน้ำอยู่ด้านนอก พร้อมเต้าเสียบปลั๊กด้านล่างเหมาะสำหรับผู้อาศัยที่ต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบริเวณนี้



บริเวณทางเชื่อมจากห้องนอนเข้าสู่ห้องน้ำจะมีการยกธรณีประตูขึ้นเล็กน้อย ส่วนในห้องน้ำจะปูพื้นและผนังด้วยหินอ่อน Statuario Plus สีขาว ซึ่งให้ลวดลายที่สวยงามและมีเสน่ห์



ห้องน้ำหลักจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และกว้างขว้างพอให้เราสามารถหมุนตัว หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่อึดอัด



บริเวณอ่างล้างหน้าถูกออกแบบให้สามารถวางของใช้หรือเก็บอุปกรณ์ได้เต็มที่ ด้วยพื้นที่ลิ้นชักใต้อ่างล้างหน้าทั้ง 2 ด้านเหมาะสำหรับผู้อาศัยที่มีของเยอะ



ก๊อกน้ำของอ่างล้างหน้าจะแยกส่วนของน้ำร้อนและน้ำเย็นให้ พร้อมกับการติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กสำหรับใช้แต่งตัวเสริมความมั่นใจในห้องน้ำ



พื้นที่บริเวณด้านข้างอ่างล่างหน้ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เราสามารถวางของตกแต่งเพื่อเสริมบรรยากาศห้องน้ำให้ผ่อนคลายอารมณ์ หรือใช้วางขวดของใช้ต่างๆ ได้สะดวก



โถสุขภัณฑ์จาก Grohe ที่มีระบบเซ็นเซอร์ตอบรับ เมื่อคุณเดินไปด้านหน้าโถสุขภัณฑ์จะเปิดให้ใช้บริการได้ทันที และเมื่อใช้เสร็จแล้วก็จะปิดลงอัตโนมัติ



นอกจากนี้โถสุขภัณฑ์ยังมีความพิเศษ จัดวางไว้แบบลอยตัวจึงง่ายต่อการทำความสะอาด และสามารถใช้รีโมทควบคุมการทำงานได้ เมื่อเราทำธุระเสร็จสิ้น หรือหากไม่สะดวกกดด้านข้าง เราก็สามารถยกรีโมทออกมาได้เช่นกัน ดังนั้นห้องน้ำหลักจึงไม่มีสายชำระมาให้



ในห้องน้ำหลักยังคงมี Shower Box พร้อมบิลท์อิน (Build-in) ชั้นวางของแบบ Drop Wall ให้เช่นเดียวกับห้องน้ำเล็กด้านนอก



ภายใน Shower Box มีการแบ่งระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นให้เรียบร้อย พร้อมติดตั้งฝักบัวดีไซน์โมเดิร์น



ความพิเศษของ Shower Box ที่แตกต่างจากห้องน้ำเล็กด้านนอกคือ Rain Shower ที่ติดตั้งไว้กับเพดาน เพื่อเพิ่มอรรถรสความสุขในการอาบน้ำให้สุนทรียิ่งขึ้น



อ่างอาบน้ำจาก Kasch ที่ใช้วัสดุหินและอะคริลิคจากเยอรมณี จึงให้ความแข็งแรงเป็นอย่างมาก และยังมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เพื่อรองรับที่สุดของความผ่อนคลายเหมาะสำหรับผู้อาศัยทุกเพศทุกวัย



ก็อกน้ำทรงสี่เหลี่ยมจาก Gessi ในสไตล์ที่เข้ากันกับการตกแต่งแนว Modern Colonial พร้อมแบ่งระบบน้ำเย็น-น้ำร้อน และเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยฝักบัวที่สามารถดึงออกมาใช้ได้



คุณสามารถหาแผ่นพาดอ่างอาบน้ำ มาไว้ใช้วางของขณะแช่อ่างผ่อนคลายอารมณ์ได้อย่างสบายใจ


Location

เมื่อพูดถึงการเดินทางในกรุงเทพมหานคร แน่นอนว่าคงจะหนีไม่พ้นปัญหารถติด ซึ่งยืนยันได้จากผลวิจัยของ INRIX Global Traffic Scorecard บริษัทที่ทำการวัดผลการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนและช่วงเวลาอื่นๆ ในแต่ละวันของ 1,360 เมืองทั่วโลก ที่ประเมินสภาพการจราจรของกรุงเทพมหานครว่า เป็นเมืองรถติดอันดับ 16 ของโลก ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในเอเชีย...และหลายคนอาจจะมองว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอ แต่จริงๆ แล้วถ้าเราสามารถเลือกชีวิตที่อยู่ใจกลางเมืองและใกล้ที่ทำงาน คุณภาพชีวิตน่าจะดูดีขึ้นอีกมาก

‘แต่จะมีสักกี่ทำเลที่จะตอบโจทย์คุณได้ในพื้นที่เดียว’


อยู่ ‘สาทร’ จะไปไหนก็ใกล้แค่เอื้อม



ย่านสาทร ถือเป็นอีกหนึ่งทำเล CBD ที่เดินทางสะดวก เรียกได้ว่า ตอบโจทย์ชีวิตของคนเมืองที่ต้องเดินทางไปทำงานในตอนเช้า และยังต้องฝ่าฟันรถติดระหว่างกลับที่พักในตอนเย็น ซึ่งมีสาเหตุมาจากถนนสาทรเป็นถนนอีกเส้นที่เชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญหลายเส้นทาง รวมถึงยังสามารถเดินทางไปยังรถไฟฟ้าได้อีกหลายสถานี ไม่ว่าจะเป็น…

ถนนพระรามที่ 4


หากขับรถจาก “ถนนสาทรเหนือ” มาทาง “แยกวิทยุ” จะเลี้ยวรถเข้าสู่ถนนพระรามที่ 4 ถนนเส้นยาวที่เชื่อมต่อไปยังฝั่งหัวลำโพง หรือจะใช้วิ่งไปยังฝั่งพระโขนงก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าใครอยากจะเดินทางไปไหนมาไหนแบบรวดเร็วมากขึ้น ก็แนะนำให้ใช้บริการทางด่วนที่อยู่บริเวณแยกใต้ทางด่วนพระราม 4 ซึ่งถ้าเลี้ยวซ้ายจากแยกไป ก็จะขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร มุ่งสู่ดินแดงได้ หรือถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังดาวคะนองและบางนาได้อีกด้วย



ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจากถนนสาทรเหนือ สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี

ถนนนราธิวาสราชนครินทร์



หากขับรถมุ่งหน้าลงมาทาง “ถนนสาทรใต้” จะเจอกับ “ถนนนราธิวาสราชนครินทร์” ซึ่งเชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 3 และถนนสีลม ซึ่งเป็นถนนเส้นสำคัญสำหรับการเข้าเมือง



สำหรับใครที่ต้องการเดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้า จากถนนนราธิวาสราชนครินทร์ สามารถเชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โดยขึ้นได้ที่สถานี BTS ช่องนนทรี หรือถ้าใครต้องการจะเดินทางไปยังย่านพระราม 3 ก็แนะนำให้เลือกใช้บริการ BRT แทนก็สะดวกเช่นกัน

ถนนสีลม



เดินทางมาถึง “ถนนสีลม” เป็นอีกศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์และถนนพระราม 4 เข้าไว้ด้วยกัน จะเห็นว่าถนนทั้ง 4 เส้นทางจะเชื่อมถึงกันในลักษณะสี่เหลี่ยม ทำให้การเดินทางในย่านนี้ค่อนข้างคึกคัก และมีปริมาณรถวิ่งจากถนนเส้นหนึ่งไปยังอีกเส้นหนึ่งค่อนข้างมากในทุกๆ วัน



ถ้าหากลองนับรวมพื้นที่ออฟฟิศของทั้งสีลม-สาทรเข้าด้วยกันแล้ว จะมีประมาณ 932,700 ตารางเมตร และคาดว่าจะมีมนุษย์ทำงานไหลเวียนในอาคารเหล่านี้กว่า 56,000 คนต่อวัน ดังนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์เพียงอย่างเดียวจึงอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด


และการสร้างรถไฟฟ้าเป็นสถานี Interchange ไว้บริเวณถนนสีลมจึงเป็นตัวช่วยในการแบ่งเบาภาระด้านการจราจรบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี โดยสถานีที่ว่าคือ MRT สีลมและ BTS สถานีศาลาแดง นั่นเอง



ส่วนใครที่ต้องเดินทางจากถนนสาทรไปสีลมอยู่เป็นประจำ การใช้ถนนเส้นหลักอาจทำให้หงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย คนในย่านนี้จึงเลือกใช้ถนนคอนแวนต์ ถนนย่อยที่สามารถทะลุไปยังถนนสาทร รวมถึงยังลัดเลาะออกไปยังถนนนราธิวาสได้แทน



แต่ถ้าใครยังอยากเปิดโหมดความเงียบสงบให้กับการใช้ชีวิตในย่านใจกลางเมืองล่ะก็ จากถนนสาทรใต้ยังมีถนนเส้นเล็กๆ ที่เงียบสงบแอบซ่อนอยู่นั่นก็คือ ถนนสวนพลู ถนนย่อยที่ยังคงความเรียบง่ายสมกับเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ของคหบดีเก่า เหมาะกับการอยู่อาศัย



แต่ถึงแม้ ถนนสวนพลู จะเป็นถนนย่อย แต่ก็ยังเชื่อมต่อไปยังถนนหลักอย่าง “ถนนจันทน์ (นางลิ้นจี่)” ซึ่งเชื่อมออกไปยังถนนพระราม 3 เพื่อขับออกนอกเมืองได้ แถมยังสามารถใช้ถนนเส้นนี้ในการขึ้นทางด่วนบริเวณเซ็นทรัลพระราม 3 แทนการขับออกไปขึ้นที่บริเวณแยกใต้ทางด่วนพระราม 4 ได้โดยไม่จำเป็นต้องออกจากย่านสาทร เพราะถนนทุกสายอยู่รายล้อมรอบโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) นั่นเอง



นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ในซอยยังมีรถโดยสารสาธารณะอย่างวินมอเตอร์ไซค์, แท็กซี่ และรถสองแถวใหญ่วิ่งให้บริการอยู่ตลอดทั้งวัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความเงียบเหงา เพราะในซอยมีรถวิ่งเข้า-ออกอยู่เสมอๆ



และด้วยความเงียบสงบสมกับการพักผ่อน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ห่างไกลจากความเป็นเมืองของซอยสวนพลูนี้เอง ทำให้ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) คว้าเอาพื้นที่ในซอยพระพินิจ ซึ่งเป็นซอยย่อยของถนนเส้นนี้ มาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในสไตล์โมเดิร์นผสมกับความคลาสสิก แบบ Modern Colonial เช่นเดียวกับการผสมผสานของความทันสมัยสไตล์เมืองกับความเป็นชุมชนดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว บนพื้นที่ขนาด 1-1-53.3 ไร่ ใจกลางสาทร


แผนที่การเดินทางของ The Reserve สาทร



ที่ตั้งของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) อยู่ฝั่งถนนสาทรใต้ และจากสาทรใต้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสวนพลูไปประมาณ 80 เมตร จะเจอคอนโดตั้งอยู่ฝั่งขวามือ บริเวณหัวมุมซอยพระพินิจ


Lifestyle



หากพูดถึงความครบครันด้านการอยู่อาศัยแล้ว ‘The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ’ ยังคงเป็นคอนโดหนึ่งที่ตั้งอยู่บนทำเลมีศักยภาพสูง ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัจจัยด้านทำเลที่อยู่ใกล้ทั้งอาคารสำนักงาน, รถไฟฟ้า, ถนนเส้นสำคัญ รวมถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย การเลือกที่อยู่อาศัยในย่านสาทรจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับคนทำงานไป-กลับ และต้องการมีเวลาให้ความสุขกับชีวิต มากกว่าไปติดอยู่บนถนน


สร้างพื้นที่พักผ่อนได้ด้วยตัวคุณที่ถนนสวนพลู



บาลานซ์การใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการเลือกอยู่อาศัยในทำเลที่ไม่พลุกพล่าน ลดความจอแจ แต่ก็ไม่ถึงกับเงียบเหงากันที่ ‘ถนนสวนพลู’ ถนนเส้นเล็กๆ อันเป็นที่ตั้งของบ้านคหบดีเก่า โดยเฉพาะบ้านซอยสวนพลู บ้านเรือนไทยหลังงามของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ใครมาเยือนย่านนี้ก็เป็นต้องแวะมาเยี่ยมชมความงดงามของเรือนไทยทั้ง 5 หลัง พร้อมสัมผัสบรรยากาศหายากที่เขียวขจี มีความ Contrast กับความเป็นเมืองบนถนนใหญ่ด้านนอกแบบสุดๆ



และไม่ใช่แต่ตัวถนนเท่านั้น ร้านอาหารขึ้นชื่อของถนนเส้นนี้เองก็ยังคงความเป็นไทยเอาไว้เหนียวแน่น อย่าง ‘บ้านขนิษฐาแอนด์แกลเลอรี่ สาทร’ ร้านอาหารไทยบรรยากาศดี ที่จะช่วยเติมเต็มวันว่างให้อิ่มหนำด้วยเมนูอาหารไทยหลากรส นั่งกินกันบนเรือนชานแบบไทยแท้ โดยตัวร้านจะตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนสวนพลู ก่อนถึงโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) เล็กน้อยเท่านั้น


เวลาเปิด-ปิด : 11:00–23:00 น. หยุดทุกวันพฤหัสบดี

ที่อยู่ : 69 ถนนสาทรใต้ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120

โทร : 02 675 4200

เว็บไซต์ : https://www.baan-khanitha.com/th/index_th.php


ก้าวจาก Comfort Zone สู่โลกแห่งการทำงานแบบเต็มตัว



พักผ่อนกันจนหนำใจบนทำเลที่เหมาะสมแล้ว ก็อย่าลืมตื่นขึ้นมาทำงานกันแบบ Smart โดยทำเลรอบโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ถือเป็นย่านของอาคารสำนักงาน เริ่มกันตั้งแต่ย่านสาทร, ช่องนนทรี, สีลม ลากยาวไปจนถึงย่านพระราม 4 เลยทีเดียว



โดยเฉพาะย่านสาทร-สีลม ที่ถือเป็นโซนยอดนิยมของคนทำงาน มีพื้นที่สำนักงานมากสุดเป็นอันดับหนึ่งของเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลให้ราคาของที่ดินในย่านสาทรพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนแตะถึงตารางเมตรละ 450,000 บาท



และด้วยความเป็นทำเลแห่งธุรกิจที่มีคนพลุกพล่านมากเป็นอันดับต้นๆ ย่านนี้จึงต้องเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มาตอบสนองต่อการใช้ชีวิตของคนวัยทำงานให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างห้างสรรพสินค้า, การมี MRT/BTS หรือการเติบโตของ Co-working Space บนอาคารสำนักงานต่างๆ ที่จะช่วยขยายขอบเขตการทำงานให้เข้าใกล้กับคำว่า Work Life Balance มากที่สุด



ส่วนห้างสรรพสินค้าหลักๆ ก็จะมี Silom Complex ห้างสรรพสินค้าใจกลางย่านสาทร-สีลม แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยในแต่ละเดือนมักจะมีการจัดกิจกรรมและ Event น่าสนใจไว้แก้เบื่อให้กับคนทำงานรุ่นใหม่ โดยเราสามารถติดตามกิจกรรมดีๆ เหล่านี้ได้ที่

http://www.silomcomplex.net/en/page.php?c=activities



นอกจากอาคารสำนักงานแล้ว ย่านนี้ก็ยังเป็นแหล่งของโรงแรมชั้นนำหลายแห่ง เช่น Holiday Inn Express Bangkok Sathorn, Sathorn Vista, Bangkok - Marriott Executive Apartments, The Sukhothai Bangkok, โรงแรมบันยัน ทรี เป็นต้น ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตจากหลายประเทศ เช่น สถานทูตเยอรมนี, สถานทูตมาเลเซียและสถานทูตสิงคโปร์ อีกด้วย

ย้อนกลับสู่ความผ่อนคลายด้วยสวนสีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ



เมื่อความเหนื่อยล้าจากการทำงานเริ่มลุกล้ำความสุข การออกมาขยับตัวไล่อาการหมดไฟกันที่ สวนสวยสีเขียวใจกลางกรุงเทพพมหานครกับ ‘สวนลุมพินี’ หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ จนติดปากว่า สวนลุมฯ ก็ดูเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย



ปรับโหมดอารมณ์ให้กลับมาสดชื่นอีกครั้งด้วยบรรยากาศของธรรมชาติที่ปลุกเร้าอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่านกับ สวนลุมพินี สวนสาธารณะขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย ที่ตั้งอยู่บริเวณรถไฟฟ้าสถานี MRT ลุมพินีทางออกที่ 5 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 5.00 – 20.00 น.



เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าสู่บริเวณสวนลุมพินี ก็เหมือนตัดขาดจากความวุ่นวายจากภายนอก ด้วยขนาดของสวนที่กว้างถึง 360 ไร่ และบรรดาต้นไม้ใหญ่ทำให้เรารู้สึกสดชื่น เหมาะกับการเข้ามาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ หรือจะชวนกันเข้ามาวิ่งออกกำลังกายก็เรียกเหงื่อได้เยอะทีเดียว



สวนลุมพินีเหมือนจะเป็นพื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะไม่ใช่แค่หนุ่มสาวเท่านั้นที่เข้ามาออกกำลังกาย แต่ยังรวมไปถึงคุณปู่คุณย่าที่จูงลุกอุ้มหลานกันเข้ามาเดินเล่นกันให้เห็นอยู่เนืองๆ



และที่บอกว่า...เป็นพื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัวนั่นก็มาจากกิจกรรมในสวนลุมที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้ง “ศูนย์เยาวชนสวนลุมพินี” ที่เปิดให้บริการทั้งฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, บึงปั่นเรือเป็ดและลานกีฬา สำหรับคนรักการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีสนามเด็กเล่นและเครื่องออกกำลังกายสนุกๆ ให้เราได้ลองขยับเรียกเหงื่อ ซึ่งเข้าใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย



‘สุดท้ายแล้วความสุขที่ตามหาอาจจะไม่ได้อยู่ไกล แต่หมายถึงการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ทำเลที่มีศักยภาพ รวมถึงได้ใช้ชีวิตในแบบที่ใช่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่เราเป็น’


Analysis

โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) เป็นหนึ่งในโครงการจากพฤกษาในระดับ Luxury ที่เปิดตัวมาเป็นทางเลือกพิเศษสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านสาทร พร้อมการบริการและพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็ม บวกกับรูปแบบห้องที่หลากหลาย นับเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองมากทีเดียว

จุดเด่นของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)

  • โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) อยู่ในทำเลใจกลางเมือง เป็นหนึ่งใน Hubs แห่งการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางด่วน หรือขนส่งระบบรางอย่าง BRT, BTS และ MRT
  • ภายในซอยสวนพลูมีบรรยากาศเงียบสงบ แม้อยู่ในย่านใจกลางเมือง และยังนับเป็นซอยหนึ่งที่มีทัศนียภาพร่มรื่นสวยงาม
  • พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) ถูกจัดสรรไว้อย่างกว้างขวางและครบครัน
  • ที่สุดของความจำเป็นในการใช้ชีวิตที่ใจกลางเมืองคือ ที่จอดรถ ที่โครงการนี้จัดให้ครบ 100%
  • ขึ้นชื่อว่าเป็นทางเลือกพิเศษสำหรับคนที่ต้องการอาศัยในย่านสาทร โครงการ The Reserve สาทร จึงออกแบบรูปแบบห้องมากมายมาให้เลือกสรรตามใจคุณ 


การเดินทางไปยังโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)

ซอยสวนพลูนับเป็นซอยที่เดินทางสะดวก เพราะสามารถใช้เชื่อมต่อกับถนนสาทรใต้ เพื่อเข้าสู่ช่องนนทรี ย่านธุรกิจแห่งสำคัญของกรุงเทพฯ ได้ หรือจะลัดเลาะเข้าสู่ถนนนางลิ้นจี่เพื่อไปขึ้นทางด่วนก็ง่ายมากเช่นกัน

ขณะเดียวกัน...ในเวลาเร่งด่วนก็สามารถเปลี่ยนตัวเลือกมาเป็นการขนส่งระบบรางอย่างรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สถานีช่องนนทรี, รถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรีและสถานีศาลาแดง ใกล้กันยังมีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสีลมให้เลือกใช้ได้ตามสะดวก


พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)

โครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) จัดสรรพื้นที่ส่วนกลางให้ตอบโจทย์การใช้งาน เข้ากับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการการผ่อนคลายแบบเปี่ยมประสิทธิภาพดังนี้

  • Center Court Lobby
  • Exclusive Gym
  • Crystal Lounge
  • Body & Boxing Studio
  • Private Spa & Salon
  • Rooftop Lounge
  • Colonial Thermal Pool


แบบห้องของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)

คอนโด The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร) เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น ที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนที่เต็มอิ่ม ณ ใจกลางเมือง จึงเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยห้องพักอาศัยทั้งหมดเพียง 134 ยูนิตเท่านั้น พร้อมกับแบบห้องที่โดดเด่นตอบโจทย์คนเมืองสมัยนี้ ที่ต้องการพื้นที่ด้วยการออกแบบระเบียงแบบ Crystal Bacony ให้พื้นที่ระเบียงเป็นได้ทั้งที่รับวิวและห้องอเนกประสงค์ ทั้งยังแบ่งพื้นที่ในหนึ่งยูนิตได้อย่างเป็นสัดส่วนเพื่อไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย

  • 1 Bedroom 50 - 57 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Crystal 56 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 79 -115 ตร.ม.
  • 2 Bedroom Crystal 104 ตร.ม.
  • 2 Bedroom Duplex 126 ตร.ม.


ราคาของโครงการ The Reserve Sathorn (เดอะ รีเซิร์ฟ สาทร)

หากมองหาที่พักอาศัยใจกลางเมืองอย่างย่านสาทรที่มีส่วนกลางครบครัน และรูปแบบห้องที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย ทั้งยังตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน แต่มีการเดินทางสะดวก ในราคาเริ่มต้นเพียง 13 ล้านบาทแล้ว นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่เองก็ได้ความสุขอย่างผู้อยู่อาศัย หรือจะซื้อเพื่อลงทุนก็ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน บวกกับรูปแบบห้องที่ออกแบบไว้หลากหลายทำให้สามารถทำกำไรได้อย่างไม่ยากเย็น




แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ