[Review] รับอุ่นไอจากธรรมชาติที่ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะ เนสท์ สุขุมวิท 71) คอนโดที่จะทำให้ทุกวันของคุณเป็นวันสุข

จากที่ Esto (เอสโต) เคยพาไปชมโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ในรูปแบบของพรีวิวกันมาแล้ว คราวนี้ก็เวลาของรีวิวฉบับเต็มกันบ้าง!!

ด้วยคอนเซปต์ที่ล้อไปกับธรรมชาติภายใต้การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านทำเล, การออกแบบ, สิ่งอำนวยความสะดวก หรือราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรเพียง 92,500 บาท จึงไม่แปลกที่หลายคนจะอยากรู้จักกับ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) มากขึ้นอีกนิด

พร้อมให้ร่างกายของคุณ
ได้โอบกอดธรรมชาติไว้ในอ้อมแขนแล้วรึยัง?

ชื่อโครงการ : The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

เจ้าของโครงการ : บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

ที่ตั้งโครงการ : ซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 101100

พื้นที่โครงการ : 5-0-54 ไร่

ลักษณะโครงการ :

• อาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร
• อาคารคลับเฮ้าส์ 2 ชั้น จำนวน 1 อาคาร

จำนวนห้อง : 515 ยูนิต

รูปแบบห้อง

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24.69 - 33.35 ตารางเมตร
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 41.52 ตารางเมตร
• 2 Bedrooms 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 44.51 - 47.22 ตารางเมตร

ที่จอดรถ : ประมาณ 50% (รวมซ้อนคัน)

ค่าส่วนกลาง : 55 บาท/ตารางเมตร

ค่ากองทุน : 600 บาท/ตารางดมตร

คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ประมาณไตรมาส 4 ปี 2563

ราคาเริ่มต้น : 2.5 - 3 ล้านบาท (ตกแต่งแบบ Fully Furnished)

ราคาเปิดตัวเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 92,500 บาท

เบอร์ติดต่อ : 02-3818910 , 02-3818911 , 061-4595282

ลงทะเบียนรับโปรโมชันพิเศษ และสอบถามข้อมูล
The Nest Sukhumvit 71 (เดอะ เนสท์ สุขุมวิท 71)

ไม่ใช่แค่ความสำเร็จเท่านั้นที่เป็นแรงผลักดันให้เราตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตแต่ละวัน แต่การได้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศอันเป็นสุขก็เป็นหนึ่งแรงหนุนที่ช่วยให้เรามีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป อย่างที่โครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ได้ออกแบบทุกมุม ทุกตารางเมตรบนเนื้อที่ 5-0-54 ไร่ให้กลมกลืนกันไปทั้งการใช้ชีวิตจริงและสุนทรียภาพ

สัมผัสความสุขง่ายๆ บนส่วนกลาง 1 ไร่

เราขอเริ่มที่พื้นที่ส่วนกลางและ Facilities ที่เป็นเหมือนหัวใจหลักของโครงการ เพราะถ้าเปรียบกับร่างกายคนเราแล้ว พื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่นี้คงไม่ต่างอะไรกับ "หัวใจ" ที่ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึก

แผนผังส่วนกลางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

ใจกลางโครงการเป็นที่ตั้งของพื้นที่สีเขียวและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันร่วม 16 รายการ เพื่อให้เราสามารถสัมผัสความสุขแห่งการพักผ่อนได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าคุณจะพักอยู่อาคารไหนก็ตาม ไล่มาตั้งแต่ทางเข้าโครงการที่มีต้นไม้สูงปลูกประดับไว้สลับกับช่องจอดรถ 

มองเข้าไปจะเห็นการเคลื่อนไหวของสายน้ำกระทบขอบสระอยู่ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้สูงและที่นั่ง Chill Out โดยแต่ละโซนได้ถูกจัดวางให้หันหน้าเข้าหากัน ทำให้เราได้ทั้งความสุนทรีย์และความเป็นสัดส่วนตลอดเวลา

ถ้าน้ำเป็นองค์ประกอบหลักในการหล่อเลี้ยงชีวิตแล้ว สระว่ายน้ำก็คงเป็นเหมือนแหล่งพลังงานขนาดใหญ่สำหรับการพักผ่อนในโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) มีขนาด เท่ากับ Half Olympic ยาว 25 เมตร ทำให้เราสามารถว่ายออกกำลังกายได้เต็มที่ แถมมองตรงไปยังเห็น Waterside Social Lounge & Sky View Hang Out Space ที่นั่งชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ

แถมยังร่มรื่นเพราะได้ร่มเงาจากตึกและต้นไม้ช่วยปกคลุม จะว่ายช่วงเช้า-สาย-บ่าย-เย็นก็สบายอารมณ์ทั้งนั้น หรือใครไม่อยากเปียกก็จูงมือเพื่อนมานั่งเล่นตรง Sunken และ Seat pool ข้างสระแทนก็ผ่อนคลายได้เหมือนกัน

บริเวณปลายสระมี Social Lounge ที่พร้อมเปิดรับแสงและลมธรรมชาติด้วยการออกแบบช่องรับแสงให้สามารถหมุนเปิดได้เต็มที่

แล้วไม่ลืมตกแต่งเพิ่มความสวยงามและดูมีระดับขึ้นอีกขั้นด้วยลวดลายหินอ่อน เหมือนเรากำลังพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทตากอากาศ

และหากใครเคยคิดอยากหาเวลาไปนั่งดูดาว มองท้องฟ้าที่เขาใหญ่หรือกลางทุ่งหญ้าสีเขียวก็ไม่ต้องเสียเวลาทำได้แค่คิดอีกแล้ว เพราะโครงการ The Nest Sukhumvit 71 ได้จำลองบรรยากาศสุดชิลล์นี้มาไว้ให้เรียบร้อย

พร้อมด้วยโต๊ะเก้าอี้ให้เรายกโน้ตบุ๊กหรือหนังสือออกมานั่งเล่นยามว่าง โดยจะออกแบบเป็นพื้นที่ Outdoor มองเห็นวิวรอบนอกชัดเจน

ด้านหน้าตกแต่งเป็นลานกว้างคล้ายสนามหญ้าหน้าบ้าน พร้อมวางที่นั่งกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เหมาะจะชวนกันมาพักผ่อนรับลมเย็นๆ หลังเลิกงาน

ขยับออกไปอีกนิดมี Co Working & Library Space ที่สร้างสรรค์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนเมืองลุค Urban ที่นิยมหาพื้นที่ปลดปล่อยความคิดและจินตนาการ

ภายในตกแต่งให้ดูสูงโปร่ง และกลมกลืนไปกับธรรมชาติด้วยการใช้ลายไม้และเฟอร์นิเจอร์สีเอิร์ธโทนมาดึงอารมณ์ ทำให้เรารู้สึกสงบทุกครั้งที่เดินเข้ามา แล้วติดกระจก Full Frame บานใหญ่ไว้ที่ด้านหนึ่งของห้องเพื่อให้แสงสว่างและใช้เป็นจุดพักสายตายามเหนื่อยล้า ยิ่งช่วงไหนที่แสงอาทิตย์ส่องรอดกิ่งก้านไม้สาขาเข้ามายังในห้อง ก็จะยิ่งสร้างบรรยากาศผ่อนคลายขึ้นได้อีกหลายเท่าตัว

เมื่อถัดไปทางด้านหลังโครงการจะเป็นส่วนของลานจอดรถ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ที่จอดรถใต้อาคารทั้งห้า กับ ลานจอดรถกลางแจ้งที่อยู่ตามแนวกำแพงรอบๆ โครงการ และมีอีกส่วนหนึ่งจะเป็นที่จอดรถสำรองอยู่ถัดลงไปในชั้นใต้ดิน โดยส่วนนี้จะจอดไปประมาณ 20 คัน หากนับรวมทั้งโครงการแล้วจะรองรับได้ราวๆ 50% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด

ติดปีกความสุข
ด้วยการออกแบบที่พักอาศัย ให้ใกล้ชิดช่วงเวลาพักผ่อน

พื้นที่ส่วนกลางว่าสำคัญแล้ว แต่คงไม่มากไปกว่า "พื้นที่อยู่อาศัย" ซึ่งเกือบ 90% ของเวลาที่เหลือจากการทำงานเรามักหมดไปกับห้องๆ นี้ การออกแบบรายละเอียดต่างๆ จึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ช่วงเวลาพักผ่อนของเรานั้นสมบูรณ์ขึ้น

แผนผังอาคาร The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

และก่อนจะเข้าสู่ห้องพักอาศัย เราก็ต้องพูดถึงโครงสร้างอาคารก่อนเป็นอันดับแรก เพราะการจัดวางอาคารย่อมส่งผลต่อการอยู่อาศัยด้วยเช่นกัน โดยโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จะวางทั้ง 5 อาคาร A ถึง E ให้ล้อมรอบพื้นที่สีเขียวในลักษณะของสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีช่องระหว่างอาคารบวกกับอาคารที่สูงเพียง 8 ชั้น จึงทำให้บรรยากาศภายในโครงการค่อนข้างปลอดโปร่ง มีลมพัดถ่ายเทเกือบตลอดเวลา อีกทั้งรอบๆ ข้างยังไม่มีอาคารสูงคอยบังวิวและทิศทางลมด้วย

สำหรับการพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปถึงชั้นที่ 8 ซึ่งแต่ละชั้นจะมีลักษณะแปลนคล้ายๆ กันคือ จะเน้นห้องชุดพักอาศัย Type C แบบ 1 ห้องนอนขนาด 28.71 - 30.83 ตร.ม.เป็นหลัก (ห้องสีเขียวเข้ม) มีลิฟต์แบบล็อคชั้นให้อาคารละ 2 ตัวพร้อมบันได้หนีไฟอีก 2 จุด

อาคาร A จะเป็นอาคารที่อยู่ใกล้ทางเข้าโครงการมากที่สุดเหมาะสำหรับใครที่ชอบการเข้า-ออกสะดวก ส่วนอาคาร C และ D จะวางต่อกันอยู่ทางด้านหลังโครงการและใกล้กับที่จอดรถกลางแจ้ง ซึ่งจะทอดยาวเข้าไปติดคลอง เผื่อวันไหนมีรถจอดมากๆ ก็สามารถนำรถมาจอดไว้บริเวณก่อนได้

ห้องตัวอย่างโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

ขยับเข้ามาที่ห้องชุดพักอาศัยกันต่อเลยดีกว่า โดยทุกห้องของโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จะถูกออกแบบสร้างสรรค์มาในสไตล์เอิร์ธโทน (Earth tone) เพื่อให้เรารู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น

พร้อมสร้างความแตกต่างด้วยการดีไซน์อาคารให้เป็นมุมเฉียงคล้ายลอนคลื่น ทุกห้องจึงมีมุม Take View ส่วนตัว สามารถมองเห็นบรรยายกาศรอบโครงการได้สุดสายตาผ่านหน้าต่างบานใหญ่

ห้องพักอาศัยจะตกแต่งแบบ Fully Furnished เหมือนกันทั้งโครงการ มีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบทั้งตู้เก็บของบิล์ทอิน, เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน, ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร, ชุดโซฟาคู่โต๊ะกาแฟ, ชั้นวางทีวี, ฐานเตียง, ชุดโต๊ะทำงาน, เครื่องปรับอากาศ และชุดสุขภัณฑ์ห้องน้ำ เป็นต้น

อีกหนึ่งความลงตัว คือ ในทุกๆ ห้องนอนจะมี Walk in Closet ที่ติดตัั้งมาพร้อมกับตู้เสื้อผ้าบิล์ทอิน (Built in) ออกแบบเฉพาะของทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

และด้วยระดับฝ้าเพดานที่สูง 2.5 เมตรจึงทำให้ห้องดูปลอดโปร่ง เหมาะแก่การอยู่อาศัยและการพักผ่อน

แปลนห้องชุดพักอาศัย The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

สำหรับรูปแบบห้องชุดพักอาศัยของโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จะมีทั้งหมดสามแบบคือ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus กับ 2 Bedrooms แล้วจึงค่อยแบ่งออกเป็น 7 Type ได้แก่ Type A, B, C, D, E, F และ G ตามไลฟ์สไตล์การใช้งาน

สำหรับ First Jobber หรือนักศึกษาที่มองหาห้องพักอาศัยขนาดกะทัดรัดเหมาะแก่การอยู่อาศัยคนเดียว ห้อง Type A จะค่อนข้างตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ภายในมีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบครับ พร้อมวางสัดส่วนไว้ลงตัวให้เราสามารถใช้งานพื้นที่ต่างๆ ได้สะดวก

ส่วนใครที่ต้องการห้องขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย อาจลองดูห้อง 1 Bedroom Type B, C, D หรือ E แทน ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 25.36 - 33.04 ตารางเมตร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพื้นที่ที่แบ่งสัดส่วนชัดเจน มีกั้นครัวปิดและ Walk in Closet ให้

แต่ถ้าอยากได้ห้องอเนกประสงค์ไว้จัดเป็นห้องทำงานหรือห้องแต่งตัว ทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ก็มีห้อง 1 Bedrooom Plus ขนาด 41.52 ตารางเมตร  Type E ให้เราเลือกสร้างสรรค์การใช้ชีวิตของตัวเองได้

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการพื้นที่เพื่อตอบรับการอยู่อาศัยแบบพ่อแม่ลูก กับห้อง Type G แบบ 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 44.51-45.00 ตารางเมตร ภายในแบ่งการใช้สอยออกเป็นสัดเป็นส่วน ครบทั้งพื้นที่ส่วนตัวและส่วนรวมสำหรับทุกคน เพื่อให้เราได้มีสถานที่ไว้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน 

ขนาดของความสุขอาจไม่ได้ขึ้นกับขนาดของพื้นที่ ฉะนั้นห้องพักอาศัยเพียง 28.96 ตารางเมตรจึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้เหมือนกัน

มาสร้างความมีชีวิตให้กับห้องพักอาศัยไปด้วยกัน ด้วยแปลนห้องที่ออกแบบตามไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ เริ่มจาก "ห้องครัว" ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ให้คุณวางข้าวของก่อนจะเดินต่อไปยัง "ห้องนั่งเล่น" ที่เชื่อมกับ "ระเบียง" ช่วยเปิดมุมมองเราให้กว้างขึ้น มองเห็นวิวสวนชัดเจน แล้งจึงค่อยกลับเข้ามาพักผ่อนต่อใน "ห้องนอน" ที่มีมุมแต่งตัว Walk in Closet และ "ห้องน้ำ" ในตัว โดยทั้งหมดนี้จะตกแต่งมาในรูปแบบ Fully Furnished สไตล์โมเดิร์นเอิร์ธโทน มีไม้และลายหินเป็นพระเอกของห้อง

เคาะประตู เปิดดูความสุขใกล้ตัว

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่นิยมทำอาหารเบาๆ ด้วยการยกห้องครัวมาไว้ถึงหน้าประตู ให้เราปลดเปลื้องสัมภาระต่างๆ ก่อนจะล้างมือล้างไม้เตรียมพร้อมรับมือกับช่วงเวลาพักผ่อน และเพื่อให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ทาง The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จึงติดตั้งระบบ Digital Door Lock ไว้ที่ประตูไม้ HDF หน้าทางเข้าออก

ก่อนจะเริ่มอาหารมื้อพิเศษก็ต้องล้างมือให้สะอาดเสียก่อน โดยทางโครงการจะแบ่งโซนครัวออกเป็นสองฝั่งตามลักษณะการใช้งาน อย่างฝั่งแรกจะเป็นส่วนของการจัดเตรียมอาหาร มีซิงค์ล้างจานและพื้นที่ให้วางจานชาม ให้เราหั่นสับวัตถุดิบได้สบาย เนื่องจาก Top ครัวเป็นหินสังเคราะจึงมีความแข็งแรง ทนทาน

ถัดลงไปตรงเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นช่องและตู้สำหรับเก็บข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ โดยการเปิด-ปิดทั้งหมดจะเป็นแบบ Soft Touch ให้ความนุ่มนวลยามใช้สอย พร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้าขนาด 7 กิโลกรัม และสำหรับใครที่ต้องการรักษาครัวให้เหมือนใหม่ตลอดเวลา แนะนำว่าให้ทำ Backsplash เพิ่มเติมเช่นเดียวกับในห้องตัวอย่าง ซึ่งพื้นครัวจะถูกปูด้วยกระเบื้อง Porcelain อยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาเรื่องการทำความสะอาด

ด้านบนบิลท์อินตู้เก็บของขนาดใหญ่สูงติดเพดาน เวลาเก็บถ้วย, ชาม, แก้วจึงปลอดภัยพ้นมือเด็ก แถมยังแบ่งสัดส่วนออกเป็นช่องต่างๆ ทำให้เราจัดสรรของใช้ได้อย่างมีระเบียบ

ความจริงแล้ว...การได้ทานของอร่อยก็เป็นความสุขเล็กๆ ที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่คงจะสุขกว่านี้ถ้าเรามีเวลาทานอาหารร่วมกันกับใครสักคน ซึ่งห้องครัวของโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) เองก็มอบช่วงเวลาเหล่านี้ให้กับผู้พักอาศัยด้วยขนาดครัวที่รองรับการทำอาหารได้ 2-3 คน ช่วยกันทำช่วยกันล้างเป็นการสร้างบรรยากาศดีๆ ให้ห้องนี้มีชีวิตชีวากว่าที่เคย

ส่วนนี้จะขอยกให้เป็นมุมของการประกอบอาหาร เพราะทางโครงการได้บิลท์อินชุดครัวมาให้ครบชุด ไล่มาตั้งแต่ตู้เก็บรองเท้าบิลท์อิน (Built in) ที่อยู่ซ้ายมือสุดติดประตูห้อง, ช่องใส่ตู้เย็นขนาดประมาณ 9 คิวบิก, ชั้นวางของ และเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน

สำหรับเตาไฟฟ้าที่ทางโครงการจัดมาให้นั้น จะเป็นขนาด 2 เตาจากแบรนด์ Hafele เช่นเดียวกับเครื่องดูดควันระบบหมุนวนที่อยู่ทางด้านบน

ส่วนเคาน์เตอร์ด้านล่างจะมีรูปแบบคล้ายกับอีกฝั่ง แต่จะเปลี่ยนเป็นลิ้นชักแยกช้อนส้อม, ช่องใส่ไมโครเวฟและลิ้นชักเก็บของแทน เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน

หมดกังวลเรื่องกลิ่นและควันรบกวน เพราะมีประตูกระจกใส กรอบอลูมิเนียมทำสีให้เราเลื่อนปิดยามประกอบอาหาร แต่จะยังคงความโปร่งโล่ง มองเห็นกิจกรรมต่างๆ ภายในห้องนั่งเล่นเหมือนกับเราได้เป็นส่วนหนึ่งของทุกๆ กิจกรรมในห้อง

ด้วยความสูงของฝ้าเพดานกว่า 2.5 เมตรจึงทำให้ห้องดูปลอดโปร่ง บวกกับโทนสีสว่างที่เน้นใช้สีเอิร์ธโทนในการตกแต่งตั้งแต่พื้น PVC ไวนิลลายไม้ ไปจนถึงตัวเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) แถมมาก็ยิ่งทำให้ห้องนี้ดูสว่างและอบอุ่นขึ้น

เริ่มที่ชิ้นแรกอย่างโต๊ะและเก้าอี้รับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง ซึ่งจะเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวให้เราปรับเปลี่ยนมุมนี้เองได้ตามใจ แต่จากที่เห็นในห้องตัวอย่างก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับตัวห้องอยู่แล้ว โดยโครงการก็ไม่ลืมที่จะเพิ่มความสุขขณะพักผ่อนให้เราด้วยการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Daikin (หรือเทียบเท่า) ขนาด 9,000 BTU มาให้ด้วย

ทานอิ่มแล้วอย่าลืมนั่งย่อยสักหน่อยที่โซฟาขนาดกลางนั่งได้ 2-3 คน หรือใครจะใช้นอนดูหนัง นอนพักกลางวันก็ได้ไม่ว่ากัน ยิ่งวางคู่กับโต๊ะกลางด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้ห้องของเราดูสมบูรณ์แบบ โดยเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นค่อนข้างมีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร อย่างโซฟาตัวนี้ที่ใส่ฟังก์ชันที่วางของเข้ามา ให้เรายกแก้วกาแฟหรือถ้วยขนมมานั่งทานเพลินๆ ระหว่างดูหนัง หรือใครจะไว้ชาร์จแบตมือถือก็มีปลั๊กไฟอยู่ข้างๆ

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีบิลท์อิน (Built in) ที่ออกแบบให้เข้ากับโซฟา แบ่งเป็นช่องเก็บของเล็กใหญ่จำนวน 2 ช่อง สำหรับใครที่ชอบดูหนังเป็นพิเศษแนะนำให้ติดทีวีแบบแขวนผนังแบบเดียวกับในห้องตัวอย่าง เพราะนอกจากจะประหยัดพื้นที่ใช้สอยแล้ว ยังเลือกติดทีวีจอใหญ่ได้สบายๆ มีปลั๊กไฟและจุดต่อสายเคเบิลให้เรียบร้อยอยู่ทางด้านหลัง

สร้างอาณาจักรของตัวเองด้วยการตกแต่งบิลท์อิน (Built in) ของแต่งห้องอย่างที่ใจต้องการ เช่นใครที่ชอบโชว์ของสะสมก็อาจ Built in ชั้นวางโครงสเตนเลสเคลือบสีอย่างนี้ดูก็ได้ เพราะนอกจากสวยงามแล้ว ยังหยิบใช้งานสะดวก แถมช่วยให้ห้องดูโล่ง ไม่อึดอัด

มากกว่าความสวยงามก็คือบรรยากาศที่น่าอยู่ มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ผ่านทางประตูบานเลื่อนสลับสามารถเปิดออกได้กว้าง อย่างช่วงกลางก็ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟแค่เปิดม่านออกก็สว่าง แถมยังมองเห็นวิวสีเขียวส่วนกลางชัดเจน ส่วนที่กลัวเรื่องร้อนแนะนำให้แขวนผ้าม่านแบบโปร่งและทึบเสริม

ระเบียงห้องมีขนาดค่อนข้างกว้างสามารถออกแบบและตกแต่งส่วนต่างๆ ได้ตามใจ โดยหน้าระเบียงจะยกธรณีสูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำฝนและสิ่งสกปรกเข้ามายังในห้อง พื้นปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร และให้เรายืนชมวิวได้อย่างสบายใจด้วยราวกันตกที่สูง 1 เมตรตามมาตรฐานอาคารสูง

ใครอยากจัดสวนริมระเบียง, ทำสวนแนวตั้ง, วางโต๊ะกาแฟ หรือติดราวตากผ้าก็ดูจะตอบโจทย์ทั้งสิ้น

ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่แขวนคอมเพรสเซอร์แบบหันหน้าเข้าอาคาร เหมาะสำหรับคนทำงานที่ชอบซักผ้าตอนกลางคืน รับรองว่าตื่นมาผ้าที่ตากไว้แห้งเร็วแน่นอน เมื่อก้มไปดูข้างใต้จะเจอปลั๊กไฟพร้อมที่ครอบอยู่ 1 จุด 

หากชมวิวด้านนอกอาคารกันหนำใจแล้ว ก็ถึงเวลากลับเข้ามายังสถานที่พักผ่อนของตัวเองสักที ซึ่งเมื่อมองจากมุมนี้จะรู้สึกว่าห้องขนาด 28.96 ตร.ม. ดูกว้างกว่าที่คิดไว้ ด้วยการวาง Layout แบบผ่าครึ่งทำให้มีพื้นที่ตรงกลางสำหรับใช้ทำกิจกรรมต่างๆ บวกกับช่องแสงที่ทอดยาวไปถึงหน้าประตูห้องด้วยแล้ว ก็ยิ่งช่วยสร้างความมีมิติให้กับการอยู่ใช้ชีวิตภายในห้องนี้

ใส่ Gimmick ให้ห้องง่ายๆ ด้วยการตกแต่งวอลเปเปอร์ และของตกแต่งที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัว สะท้อนความเป็นตนเองออกมา

คงถึงเวลาแล้ว ที่เราจะพาร่างกายเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ที่สบายที่สุด เหมาะกับการถูกใช้เป็นพื้นที่ชาร์จแบตให้ตัวเองมากที่สุดอย่าง ห้องนอน ที่ทางโครงการได้แบ่งสัดส่วนไว้รองรับทุกจังหวะชีวิต ทุกรูปแบบการพักผ่อนแค่เราหมุนลูกบิดผลักประตูไม้ HDF เข้าไปเท่านั้น

เมื่อไรจะได้พักผ่อนเต็มที่เสียที? คำถามที่เรามักถามตัวเองทุกครั้งเวลาเหนื่อยล้า เวลาที่ร่างกายและสมองสั่งให้หาสถานที่สักแห่งที่พร้อมมอบความสุขให้กับเรา ซึ่งห้องนอนก็ดูจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับใครหลายคน

โดยภายในห้องนี้จะแบ่งออกเป็นสามส่วนหลักๆ ได้แก่มุมพักผ่อน, Walk in Closet และห้องน้ำ ซึ่งโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จะใช้ตู้เสื้อผ้าบิลท์อินในการแบ่งพื้นที่ออกจากกันอย่างแยบยล

เริ่มที่หัวใจหลักของห้องอย่างเตียงนอน พื้นที่ที่ให้เราได้ผ่อนคลาย โยนความตึงเครียดทุกๆ สิ่งทิ้งไว้ข้างนอก แล้วเดินเข้ามาพักบนเตียงนุ่มๆ ขนาดควีนไซส์ 5 ฟุตที่วางไว้ใกล้หน้าต่าง โดยบริเวณฐานเตียงจะมีลิ้นชักเก็บของให้สองช่อง

ฝั่งริมหน้าต่างจะเป็นที่โล่งให้เราออกแบบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้เอง ไม่ว่าจะบิลท์อินโต๊ะข้างเตียง หรือตั้งโคมไฟทรงสูงก็ดูสวยงามไม่น้อย ซึ่งจุดนี้จะมีปลั๊กไฟให้เสียบใช้งานได้ด้วย

และจุดเด่นอีกอย่างของห้องนี้คือ หน้าต่างบานใหญ่ที่เอียงทำมุมเฉียงเล็กน้อย เพื่อให้ผู้พักอาศัยมองเห็นวิวและบรรยากาศภายนอกได้กว้างขึ้น และสำหรับใครที่อยากได้ห้องนอนกว้างๆ ก็อาจลองติดแผ่นกระจกเงาไว้ตรงข้างหัวเตียงเหมือนกับในห้องตัวอย่าง ก็จะช่วยสร้างมิติให้ห้องได้ง่ายๆ

บริเวณปลายเตียงจะมีจุดติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ พร้อมกับเครื่องปรับอากาศ Daikin (หรือเทียบเท่า) ขนาด 9,000 BTU โดยตำแหน่งจะอยู่ค่อนข้างห่างจากระเบียง แสงแดดส่องมาไม่ถึง จึงช่วยประหยัดพลังงาน แอร์ไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป แถมยังไม่โดนเตียงนอนโดยตรง

เมื่อพักผ่อนกันจนพอใจแล้วก็ขอกลับมาสู่โหมดจริงจังกันบ้าง ซึ่งทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ก็ได้แถมโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้สตูลมาให้ด้วย เผื่อใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศเข้ามานั่งทำงานในห้องนอนดู

สำหรับมุมทำงานนี้จะมีปลั๊กไฟและชั้นวางของให้อยู่ข้างๆ ส่วนใครที่ยังรู้สึกว่าอยากได้พื้นที่กว้างกว่านี้ก็สามารถขยายมุมเองได้ เพราะทั้งฐานเตียงและโต๊ะทำงานจะเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวเคลื่อนย้ายสะดวก  

และก็ถึงเวลาขยับมาต่อที่โซน Walk in Closet กันแล้ว โดนทางโครงการได้บิลท์อิน (Built in) ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ในตัว ช่วยให้ห้องนอนดูเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจนขึ้น

ตู้เสื้อผ้าจะเป็นตู้แบบ Soft Touch เช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ในห้อง ภายในแบ่งฟังก์ชันไว้หลากหลายทั้งราวแขวนเสื้อผ้า, ลิ้นชัก และช่องเก็บของ เหมาะสำหรับผู้ใช้ 1-2 คน แต่ถ้ายังไม่พออาจบิลท์อินชั้นวางของเพิ่มเติมเหมือนในห้องตัวอย่างก็ได้

นอกจากนี้ทางโครงการยังสร้างพื้นที่ให้เราใช้แต่งตัว เก็บของกระจุกกระจิกอย่างเครื่องประดับและเครื่องสำอางได้ พร้อมมีราวแขวนเพิ่มเติม รับรองว่าจะต้องถูกใจสายแฟชั่นนิสต้าแน่นอน

ปิดท้ายด้วยห้องน้ำที่ครบครันด้วยสุขภัณฑ์และฟังก์ชันใช้สอย ภายในห้องแบ่งโซนแห้งและเปียกชัดเจนด้วยพาร์ติชันกระจก Temper glass

โซนแห้งมีพื้นที่กว้างขวางสามารถธุระส่วนตัวได้สะดวก พื้นปูกระเบื้อง Porcelain ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนผนังจะเป็นกระเบื้องแบบเดียวกันแต่มีขนาด 30 x 30 ซม. 

อ่างล้างหน้า Hafele ถูกวางไว้บนเคาน์เตอร์ลามิเนต มีพื้นที่หน้าอ่างให้วางของใช้ได้พอสมควร 

ข้างกันเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ และแท่นใส่กระดาษทิชชู่เข้าชุดจากแบรนด์ Hafele โดยจะสังเกตเห็นว่าด้านล่างอ่างล้างหน้าจะเหลือว่างให้เราวางถังขยะได้ด้วย

สำหรับที่ชอบให้ห้องน้ำมีช่องวางของเยอะๆ อาจทำ Drop Wall เหมือในห้องตัวอย่างดูก็เป็นไอเดียที่ดี เพราะช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยแถมยังไม่เกะกะห้อง

ห้องอาบน้ำดูกว้างขวาง เหลือที่ให้ยืนอาบน้ำได้อย่างสบายใจ พร้อมติดตั้งชุดฝักบัวแบบ Hand Shower พร้อมแท่นวางสบู่ให้เรียบร้อย

ข้างๆ จุดอาบน้ำจะมีช่องวางของแบบ Drop wall ให้เราวางขวดแชมพู, ครีมนวดผมหรือหลอดยาสีฟัน สะดวกเวลาใช้งานเอื้อมหยิบได้ใกล้มือโดยไม่เกะกะพื้นที่

สำหรับห้องจริง...ทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จะติดตั้งระบบดูดอากาศให้ด้วย เราจึงไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและความชื้น ส่วนใครที่ต้องใช้เครื่องเป่าผมเป็นประจำตรงบริเวณอ่างล้างหน้าก็มีปลั๊กไฟอยู่หนึ่งจุดให้ใช้งาน

สำหรับใครที่มองหาห้องชุดพักอาศัยเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ชีวิตที่หลากหลาย อาจลองเปลี่ยนจากห้อง Type C มาเป็นห้อง Type D ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33.04 ตารางเมตรดู เผื่อจะตอบโจทย์เราได้ดียิ่งขึ้น เพราะแปลนของห้อง Type นี้จะจัดวางและแบ่งสัดส่วนให้ดูสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่

เริ่มต้นจาก "ห้องครัวแบบปิด" ที่ตั้งอยู่ติดประตูห้อง ถัดเข้ามาจึงเป็น "ห้องรับแขก" ที่มีทั้งมุมพักผ่อนและมุมทานอาหารอยู่ด้วยกัน เพื่อความสะดวกสบาย แล้วเพิ่มความสว่างให้ห้องพักด้วยช่องรับแสงขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับ "ระเบียง" ด้านในสุดจะเป็น "ห้องนอน" พร้อม Day bed, Walk in Closet และห้องน้ำในตัว ทำให้เราสามารถบริหารความสุขของตัวเองได้อย่างง่ายดาย เต็มอิ่มทุกไลฟ์สไตล์ โดยทางโครงการจะตกแต่งแบบ Fully Furnished ให้เช่นเดียวกับห้องตัวอย่างแรก

เปิดประตูต้อนรับช่วงเวลาสำคัญของชีวิต

เมื่อเข้าห้องมาก็พร้อมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่นิยมการทำครัว ด้วยการยกห้องครัวมาไว้เป็นอันดับแรก ให้เราวางข้าวของ ถุงอาหารได้สะดวกตั้งแต่หน้าประตู

และเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลทำความสะอาดพื้นที่ของห้องครัวจึงถูกปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ขนาด 60x60 ซม. ผิวสัมผัสด้านสามารกันลื่นได้ในระดับหนึ่ง

ส่วนไฟที่คอยให้แสงสว่าง ทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จะใช้เป็นโคมไฟ Downlight พร้อมหลอดไฟ LED โทนสีอบอุ่นช่วยเพิ่มความน่ารับประทานให้กับอาหารแต่ละมื้อได้เป็นอย่างดี โดยในห้องจริงทางโครงการจะติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยไว้ให้บริเวณนี้ด้วย

กลับมาเหนื่อยๆ ก็ขอวางสัมภาระแล้วดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้วให้ชื่นใจ โดยฝั่งซ้ายมือจะเป็นโซนไว้คอยต้อนรับการกลับมาของเรา มีตู้เก็บรองเท้าและชุดครัวพร้อมช่องใส่ตู้เย็นบิล์ทอิน (ฺBuilt in) มาให้เรียบร้อยคล้ายกับห้องแรก แค่เปลี่ยนจากเตาไฟฟ้าที่อยู่คู่ตู้เย็นมาเป็นเคาน์เตอร์บาร์เตรียมอาหารแทน ส่วนการติดตั้งต่างๆ ก็ยังคงเป็นแบบ Soft Touch ช่วยลดแรงกระแทกเช่นเคย

เคาน์เตอร์บาร์ขนาดกว้างพอดีกับการใช้งาน วาง Top ด้วยหินสังเคราะห์สีขาวสะอาดตา สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดง่าย สำหรับใครที่ชอบทานกาแฟยามเช้า อาจเปลี่ยนจุดนี้ให้เป็นมุมกาแฟส่วนตัว วางเครื่องชงกาแฟคู่กับเครื่องปิ้งขนมปังเล็กๆ เพียงเท่านี้ก็พอแล้วกับการเริ่มต้นวันใหม่

หรือถ้าใครกลัวผนังเปื้อนก็สามารถทำ Backsplash ตกแต่งเพิ่มเติมเองได้ เพราะในห้องจริงจะเป็นผนังแบบฉาบเรียบทาสี

หมุนตัวกลับไปยังชุดครัวสำหรับเตรียมอาหารมื้อพิเศษ เพราะไม่ว่ามื้อไหนๆ ก็สามารถทำให้เป็นมื้อพิเศษได้ ฉะนั้นฟังก์ชันการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทาง The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จึงจัดมาให้ครบทั้งเคาน์เตอร์ครัว, ตู้เก็บของบิล์ทอิน (Built in) และอุปกรณ์ครัวต่างๆ

ติดตั้งมาพร้อมเครื่องดูดอากาศระบบหมุนวนจากแบรนด์ Hafele เช่นเดียวกับเตาไฟฟ้า และหากสังเกตทางด้านหลังจะเห็บว่าทาง The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ได้ตกแต่งทำ Backsplash มาให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ซึ่งเราอาจใช้วิธีกรุกระจกหรือปูกระเบื้องเพิ่มเติมเองได้

หากใครต้องการใช้งานเครื่องดูดควันก็เพียงดึงตะแกรงออกมา เครื่องก็พร้อมใช้งานให้เราสนุกกับการทำอาหาร

ใครที่กลัวว่า...ถ้าซื้อของตกแต่งครัวมาเยอะๆ แล้วจะทำให้ห้องรกก็หายห่วง เพราะอีกฝั่งก็เป็นพื้นที่เก็บของช่วยให้เราจัดระเบียบห้องครัวได้สมบูรณ์แบบขึ้น หรือครอบครัวไหนมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ด้วย ก็อาจใช้จุดนี้เก็บแก้ว, โหล, จานกระเบื้องให้พ้นมือเด็ก

วันไหนยุ่งๆ ไม่มีเวลาทำอาหาร ตรงด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวก็มีช่องใส่ไมโครเวฟหรือเตาอบ Oven พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟในตัว ช่วยให้เรายกอาหารอุ่นทานได้ในเวลาเร่งรีบ แถมยังอยู่ในตำแหน่งที่หยิบจับสะดวก ปลอดภัยยามยกของร้อน

ขยับมาใกล้กันจะเป็นตู้เก็บของที่มีถังขยะบิลท์อินให้ในตัว ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยในห้องครัวได้เป็นอย่างดี ไม่เกะกะขวางทาง แถมยังช่วยเก็บกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ในระดับหนึ่ง ส่วนที่ว่างด้านในก็เพียงพอให้เก็บของเพิ่มเติมได้อีกด้วย หรือใครจะเว้นว่างไว้อย่างนี้ก็สะดวกเวลาต้องการซ่อมแซมท่อน้ำ

ช่องสุดท้ายเป็นช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า อย่างในห้องตัวอย่างของโครงการใช้จะเป็นเครื่องซักผ้า Sumsung ขนาดประมาณ 7 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานของผู้พักอาศัย 2-3 คน

ไม่ว่าใครก็อยากให้ห้องตัวเองสว่างและกว้างขวางตลอดเวลา ทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จึงออกแบบครัวให้ตอบโจทย์ทุกมิติ ทั้งความสวยงามและรูปแบบการใช้งานด้วยการติดตั้งประตูกระจกแบบเลื่อนเปิด สามารถมองเห็นห้องรับแขกและวิวระเบียงได้แม้จะยืนทำอาหารอยู่ในครัว และยังช่วยป้องกันกลิ่นคลันลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ด้านใน

ตัวล็อคแบบเซาะร่องดูแล้วค่อนข้างกลมกลืนไปกับโครงอลูมิเนียม และสำหรับใครที่อยากเสริมความปลอดภัยอีกชั้นให้กับการอยู่อาศัยก็อาจล็อคประตูตรงจุดนี้ด้วยก็ได้ 

สร้างบรรยากาศดีๆ ทำทุกวันให้เป็นวันพักผ่อน

บางครั้ง...ห้องนั่งเล่นอาจไม่ได้มีไว้แค่นั่งดูหนังเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าเรารู้จักสร้างสรรค์ ออกแบบพื้นที่ให้ลงตัว จากห้องนั่งเล่นธรรมดาๆ ก็สามารถสร้างความสุขให้เราได้อย่างหลากหลาย เหมือนที่โครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ได้ตกแต่งบริเวณนี้ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ เป็นทั้งห้องรับแขกและมุมทานอาหารในตัว

สร้างบรรยากาศอบอุ่นได้ง่ายๆ ด้วยแสงไฟโทน Warm Light ที่ให้ทั้งความสว่างและรู้สึกสงบไปพร้อมๆ กัน แล้วไม่ลืมที่จะเพิ่มความผ่อนคลายด้วยอากาศเย็นสบาย โดยทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Daikin (หรือเทียบเท่า) ขนาด 9,000 BTU ให้หนึ่งตัว

ส่วนรับแขกจะปูพื้นด้วย PVC ไวนิลเช่นเดียวกับห้อง Type แรก ให้ความรู้สึกนุ่มนวลด้วยลายไม้เสมือนจริงเข้ากันดีกับเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการแถมมาให้

ด้วยความสูงของฝ้าเพดาน 2.5 เมตรจึงทำให้ห้องของเราดูสูงโปร่ง บวกกับโทนสีสไตล์เอิร์ธโทนด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้ห้องสว่างและน่าอยู่มากขึ้น หรือจะลองสร้างลูกเล่นให้ผนังด้วยการตกแต่งวอลเปเปอร์และวัสดุตกแต่งผนังเหมือนในห้องตัวอย่างก็ดูน่าสนใจ แถมยังใช้แบ่งโซนนั่งเล่นกับมุมรับประทานอาหารออกจากกันได้อย่างแนบเนียน

ถ้าความสุขของคุณคือการได้นั่งทานอาหารร่วมกับใครสักคน มุมรับประทานอาหารก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะขาดไม่ได้ในห้องนั่งเล่น เพราะถึงแม้พื้นที่คอนโดจะไม่ได้มีขนาดกว้างเหมือนบ้านพักอาศัยทั่วไป แต่ทาง The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ก็ยังขอจัดโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมกับเก้าอี้นั่งอีก 2 ตัวให้เราได้ใช้เวลาช่วงสั้นๆ นี้อย่างมีความหมาย

โต๊ะและเก้าอี้ที่ได้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เราจึงขยับเคลื่อนย้ายหามุมที่ถูกใจเองได้

ติดกันเป็นมุมสำหรับการพักผ่อนโดยเฉพาะ การตกแต่งจึงเน้นความปลอดโปร่ง ให้ความรู้สึกสบายๆ ผ่อนคลายจนไม่ค่อยอยากจะเคลื่อนย้ายไปไหน มีโซฟาวางคู่กับอยู่กับโต๊ะกลางหนึ่งตัว จึงมีพื้นที่เหลือให้เดินหรือทำกิจกรรมอื่นๆ สะดวก

โซฟาขนาดกลางนั่งได้ 2-3 คนมีดีไซน์เหมือนกับห้อง Type แรกคือใส่ฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเข้าไปให้เข้ากับไลฟ์สไตล์กับคนสมัยใหม่ที่นิยมใช้ชีวิตต่างๆ อยู่บนโซฟา ไม่ว่าจะเล่นมือถือ, ดื่มกาแฟ หรือทานขนม ด้านข้างโซฟาจึงทำชั้นวางของยื่นออกมาในสไตล์ Modern Minimal (โมเดิร์น มินิมอล)

และสำหรับคนที่ชอบนั่งเล่นมือถือ หรือทำงานในห้องนั่งเล่นก็สามารถเสียบสายชาร์จแบตทุกตรงนี้ได้เลลย

ส่วนคอหนังสายซีรีส์...ฝั่งตรงข้ามก็เป็นชั้นวางทีวีบิลท์อิน (Built in) รูปแบบเดียวกับห้องแรก มีตู้ให้เราเก็บของหรือแผ่นหนังเรื่องโปร โดยแนะนำให้ติดโทรทัศน์แบบแขวนผนังเช่นเดียวกับในห้องตัวอย่างจะช่วยประหยัดพื้นที่ แถมยังสามารถติดโทรทัศน์จอใหญ่ 40 - 50 นิ้วได้สบายๆ โดยไม่ทำให้ปวดสายตา พอดีกับระยะรับชมประมาณ 2-3 เมตร

บริเวณผนังด้านหลังก็มีการเดินระบบติดตั้งปลั๊กไฟ สายเคเบิลให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน

ที่ห้องของเราสว่างเช่นนี้ได้ก็มาจากแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาทางช่องรับแสง ซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูบานกว้างคอยเปิดรับพลังงานจากธรรมชาติ สร้างบรรยากาศให้ห้องน่าอยู่ ดูใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วยวิวสีเขียวส่วนกลางที่เราสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากบริเวณนี้

เชื่อมออกไปเป็นระเบียงรับรอง กั้นปิดด้วยประตูกระจกแบบ Full Frame สูงตั้งแต่พื้นจรดฝ้า สามารถรับแสงสว่างได้แบบเต็มๆ จนแทบไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลาง ส่วนใครที่กลัวเรื่องความร้อนก็แค่เลื่อนม่านปิด โดยราวแขวนผ้าม่านที่ทางโครงการติดให้จะเป็นแบบสองราง เราจึงเลือกแขวนได้ทั้งม่านโปร่งและม่านทึบกัน UV

กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมมือจับแบบเซาะร่องตามมาตรฐาน

โดยบริเวณจะยกธรณีขึ้นมาประมาณ 2-3 นิ้ว ช่วยป้องกันน้ำฝนและสิ่งสกปรกไหลเข้าในพื้นที่ห้องชุดพักอาศัย

พื้นที่ระเบียงมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถออกแบบจัดการได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ พื้นปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ผิวสัมผัสด้านเวลาเดินตอนพื้นเปียกๆ จึงช่วยกันลื่นได้ในระดับหนึ่ง

ใครที่อยากมีสวนริมระเบียง หรือมุมจิบกาแฟส่วนตัวคงถูกใจระเบียงห้องนี้ไม่น้อย เพราะมีพื้นที่กว้างพอให้เราปลูกต้นไม้ต้นเล็กๆ ได้หลายต้น หรือจะดีไซน์เป็นสวนแนวตั้งก็สวยงาม แถมยังประหยัดพื้นที่ให้เราวางโต๊ะกาแฟเข้าไปได้ด้วย จิบกาแฟไปชมวิวมุมสูงไปคงเป็นอะไรที่สุขใจดีทีเดียว 

จากไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนทำงานที่มักต้องกลับมาซักผ้าเองในช่วงเย็น อาจทำให้ผ้าแห้งช้า บ้างก็แห้งไม่ทัน งั้นลองแขวนราวตากผ้าไว้ฝั่งตรงข้ามคอมเพรสเซอร์แอร์ดู รับรองว่าตื่นเช้ามาผ้าของเราจะต้องแห้งสนิทแน่นอน เพราะได้ลมร้อนคอมฯ แอร์ที่แขวนหันเข้าอาคารมาช่วย

ส่วนด้านล่างก็ยังเหลือที่ว่างให้ทำอะไรได้อีกเยอะ อย่างสาวๆ ก็อาจทำราวแขวนชุดชั้นในไว้ตรงจุดนี้ก็ช่วยบังสายตา เวลามองเข้ามาจะไม่เห็นของใช้ส่วนตัวดูเรียบร้อยเป็นระเบียบ

ราวกันตกโครงเหล็กซี่สูง 1 เมตรตามมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารสูง ส่วนที่พื้นก็มีช่องระบายน้ำอยู่บริเวณมุมซ้ายมือเพื่อไม่ให้เกิดน้ำขังเวลาฝนตก

เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานระเบียงด้วยโคมไฟ Wall Mount และปลั๊กไฟพร้อมที่ครอบ

หากมองจากระเบียงย้อนกลับเข้ามายังห้องพักอาศัย จะเห็นพื้นที่พักผ่อนทอดยาวเรียงตัวกันไปถึงหน้าประตู ทำให้เราเชื่อมโยงการใช้ชีวิตแต่ละช่วงเลาได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด

ก่อนจะเคลื่อนย้ายกันเข้าไปยังพื้นที่ส่วนตัวที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ความสะดวกสบายมากที่สุด ด้วยการจับเอาห้องนอน, Walk in Closet และห้องน้ำมาไว้ด้วยกัน บนพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเนื้อที่ห้องทั้งหมด ทำให้ห้องนี้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของทั้งคนที่ชอบความสนุกสนาน และความเงียบสงบในเวลาเดียวกัน

พักกาย พักใจ หลับตา ฝันดี

ถ้าให้เลือกสักหนึ่งที่...ที่เราวางใจจะปลดปล่อยตัวตนและคลายความเหนื่อยล้าที่พบเจอมาตลอดทั้งวัน หลายคนคงเลือกเป็นห้องนอน พื้นที่ Safe zone ที่เราจะใช้ชีวิตอย่างไรก็ได้เพื่อความสุขของตนเอง

ซึ่งทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) เองก็ตอบสนองความสุขนั้นด้วยการบิลท์อิน (Built in) เฟอร์นิเจอร์มาให้ครบทั้งฐานเตียง, ตู้เสื้อบิลท์อิน (Built in), เครื่องปรับอากาศ และอีกหนึ่งความพิเศษที่เพิ่มเติมจากห้อง Type อื่นๆ ก็คือชุด Day bed ที่อยู่บริเวณริมหน้าต่าง จจนเราแทบจะหื้วกระเป๋าย้ายเข้าอยู่ได้เลย

เมื่อหมุนลูกบิดประตูไม้ HDF เข้ามาในห้องนอน ภาพแรกที่เราจะพบคือส่วนของ Walk in Closet มีเตียงอยู่ทางซ้ายมือและห้องน้ำทางขวามือ จึงทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนตัวขึ้นมาอีกนิด

โคมไฟที่ใช้ในห้องนี้จะเป็น Downlight แบบเดียวกับส่วนรับแขก แค่เอื้อมมือเปิดสวิตซ์ไฟทางซ้ายมือ ห้องนอนก็พร้อมต้อนรับเราเข้าสู่ชั่วโมงพักผ่อนดั่งเช่นทุกๆ วัน

พูดถึงห้องนอนก็ต้องมองหาเตียงนอนก่อนเป็นอันดับ โดยเตียงที่ทางโครงการจัดไว้ให้จะเป็นขนาดควีนไซส์ 5 ฟุตลงตัวพอดีกับพื้นที่ห้อง มีทางให้เดินได้สะดวกทั่วทั้งเตียง โดยเฉพาะฝั่งติดริมหน้าต่างที่จะเหลือกว้างเป็ยพิเศษ เห็นอย่างนี้แล้วอยากเอนกายลงนอนให้ร่างกายได้ฟื้นฟูสักตื่นสองตื่น

ไมใช่แค่่ดีไซน์เท่านั้นที่จะตอบโจทย์เราทั้งหมด แต่ฟังก์ชันใช้สอยก็สำคัญไม่แพ้กันอย่างฐานเตียงของโครงการก็จะออกแบบให้มีลิ้นชักในตัว สามารถเก็บของหรือหนังสืออ่านเล่นได้โดยไม่เปลืองพื้นที่ส่วนอื่นๆ

ถ้าใครรู้ตัวว่าชอบใช้ชีวิตและมีความสุขอยู่กับห้องนอนเป็นหลัก น่าจะถูกใจห้อง Type นี้เพราะทาง The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ได้ออกแบบให้มีมุม Day Bed ส่วนตัวอยู่ติดหน้าต่าง พร้อมบิลท์อินโซฟาและโต๊ะกลางให้เรียบร้อย วันไหนว่างๆ จะยกงานมาทำหรือถือหนังสือมานั่งอ่านก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้ทั้งคู่

ใส่มิติให้มุมนี้ด้วยกระจกบานสูงที่สะท้อนตัวตนและการใช้ชีวิตทุกๆ มิติ ทำให้ห้องของเราดูกว้างขวางขึ้น

และยังได้ความสดใสจากแสงไฟธรรมชาติที่ส่องผ่านริ้วผ้าม่าน มาตกกระทบตัวห้องอย่างนุ่มนวล หากวันไหนแดดแรงจัดก็สามารถเลื่อนม่านโปร่งมาปิดช่วยกันความร้อน แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ห้องนอนยังคงความปลอดโปร่งอยู่

หน้าต่างบานใหญ่กว้างเต็มผนังเช่นเดียวกับห้องแรก แบ่งฟังก์ชันออกเป็นบานฟิกซ์และบานเลื่อนสไลด์ใช้เปิดรับออกซิเจน บวกกับมุมองศาที่ทางโครงการออกแบบให้เอียงพอดีกับมุมรับวิวส่วนกลาง เราจึงนอนชมวิวสวยๆ ได้ชัดเจนจากบนโซฟา Day bed และเตียงนุ่มๆ

กรอบหน้าต่างบานอลูมิเนียมทำสี ลูกฟักกระจกใสเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโครงการ 

บริเวณปลายเตียงมีช่องให้พอเดินสะดวก พร้อมจุดติดตั้งทีวีสำหรับคนที่ชอบดูหนังในห้องนอน ฉะนั้นแนะนำให้ติดโทรทัศน์แบบแขวนผนังเพื่อประหยัดพื้นที่

การได้นอนท่ามกลางอากาศเย็นสบาย อาจเป็นเหมือนสวรรค์เล็กๆ หลังจากที่ต้องทนอยู่กลางแดดร้อน พอเข้าห้องมาก็ขอเปิดเครื่องปรับอากาศ Daikin (หรือเทียบเท่า) ขนา่ด 9,000 BTU ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ก่อนเป็นอันดับแรก เย็นฉ่ำพร้อมนอนทันที

ไม่ใช่แค่มุมพักผ่อนเท่านั้นที่เป็นจุดเด่นของโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) แต่ Walk in Closet เองก็ดีไซน์แปลกตาไม่ซ้ำใคร แถมยังใช้งานได้หลากหลาย

ก่อนจะเดินไปถึงมุมแต่งตัว Walk in Closet บริเวณข้างๆ หัวเตียงจะมีปลั๊กไฟและช่องใส่ของให้เราใช้วางของแต่งตกหรือของสะสม

Walk in Closet ถูกออกแบบให้ใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ ครบทั้งตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน (Built in), เก้าอี้สตูล และโต๊ะเครื่องแป้งบิลท์อิน (Built in) ในตัว โดยตู้หลังนี้จะเป็นแบบ Soft Touch ทุกบาน สูงจรดเพดานทำให้มีพื้นที่เก็บของมากขึ้น เหมาะสำหรับหนุ่มสาวสายแฟชั่นที่มีเสื้อผ้าเยอะ ชื่นชอบและพิถีพิถันในการแต่งตัว

ภายในมีฟังก์ชันครบครันตอบโจทย์การใช้งานทุกช่วงเวลา หากกลับมาดึกๆ แค่เพียงกดเปิดไฟในตู้ก็สามารถเลือกชุดได้สะดวก ส่วนด้านล่างจะมีลิ้นชักแยกออกให้เป็นสามช่อง ง่ายดายเวลาจัดสรรของใช้ต่างๆ

ไม่ต้องก้มหยิบกระโปรง กางเกงให้ปวดหลังเพราะราวแขวนของตู้นี้เป็นแบบเลื่อนออกได้ ทำให้เราสะดวกเวลาต้องการใช้งาน

แสงไฟสำคัญต่อการแต่งตัวไม่แพ้เสื้อผ้า เพราะแสงน้อยแสงไม่เพียงพอก็อาจทำให้เราขาดความมั่นใจได้เหมือนกัน บริเวณหน้าตู้จึงมีไฟ Downlight ให้อีกสองดวง เมื่อได้ชุดที่มั่นใจแล้วก็แต่งหน้าต่อได้เลย

1 เฟอร์นิเจอร์ 2 ฟังก์ชัน...เมื่อปิดไว้จะสามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้ แต่พอเปิดออกมาจะเจอกับกระจกเงาและช่องเก็บของพร้อมใช้งาน

ส่วนด้านหลังติดกับห้องน้ำจะมีปลั๊กไฟอยู่หนึ่งจด ไว้สำหรับเสียบเครื่องเป่าผมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

บอกลาความยุ่งยากด้วยห้องน้ำในตัวให้เราสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าและชำระความเมื่อยล้าจบในห้องเดียว และไม่ต้องเดินออกไปด้านนอกให้พื้นเปียก เพราะทางโครงการได้แบ่งสัดส่วนโซนแห้งและเปียกออกจากกันให้แล้ว

ส่วนด้านล่างเป็นเคาน์เตอร์ลามิเนตลายไม้ บานเปิดปิดแบบ Soft Touch เช่นเดิม ด้านในมีที่ว่างให้วางผ้าขนหนู รวมถึงของใช้ต่างๆ เหมาะสำหรับคนที่มีผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองเยอะๆ

หน้าอ่างติดเป็นตู้กระจกบิลท์อิน (Built in) แทนกระจกส่องหน้าทั่วไป เราจึงมีพื้นที่ให้เก็บของมากขึ้น หรือจะทำ Drop Wall เหมือนในห้องตัวอย่างก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้เช่นกัน

ถึงเวลาชำระเหงื่อไคลและความเหนื่อยล้าออกจากร่างกายกันที่ห้องอาบน้ำ โดยทางโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จะกั้นแบ่งโซนเปียกด้วยพาร์ติชันกระจก Temper glass สูงเกือบ 2 เมตรจึงป้องกันน้ำกระเด็นได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่ไม่อยากเดินไปหยิบผ้าขนหนูไกลๆ ก็สามารถแขวนไว้ที่ราวจับได้

นอกจากพาร์ติชันที่กั้นแล้ว ตรงพื้นก็ยกขอบสูงประมาณ 1 นิ้วเพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปโซนแห้ง โดยบริเวณมุมห้องอาบน้ำใกล้กับทิศทางการไหลของน้ำจากฝักบัวจะมีท่อระบายวางไว้อยู่ด้วย

แค่ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านตัวก็รู้สึกดี โดยชุดฝักบัวที่โครงการติดตั้งให้เป็นแบบ Hand Shower ครบเซต เอื้อมหยิบใช้งานง่าย ไม่อยู่สูงจนเกินไป

หัวฝักบัวขนาดใหญ่อาบทีสดชื่นทั่วทั้งตัวมาพร้อมกับแท่นวางสบู่ตรงกลาง เวลาอาบน้ำแนะนำให้หันแท่นออกจากฝักบัว เพื่อไม่ให้ก้อนสบู่โดนน้ำบ่อยเกินไป

สำหรับใครที่มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมหลายตัวก็ให้นำมาวางไว้ที่ Drop Wall จะหยิบง่ายกว่า สะดวกยามใช้งานมากกว่า

ห้องน้ำของห้อง Type D จะมีพื้นที่กว้างขวางไม่ต่างจากห้อง Type C มากนัก ตอบโจทย์คนรักสะอาดและชอบใช้ความสุขอยู่ในห้องน้ำได้เป็นดี โดยในห้องจริงทางโครงการจะติดตั้งระบบดูดอากาศให้เรียบร้อย เราจึงไม่ต้องกังวลเรื่องและความชื้นที่อาจเกิดขึ้น

อยู่สุขุมวิท 71 สบายทั้งการเดินทางและไลฟ์สไตล์ชีวิต

กว่า 20 ปีที่รถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิทได้โลดแล่นเข้ามาในย่านพระโขนง จนทำให้ศักยภาพที่ดินของย่านนี้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ ไต่ระดับให้เทียบเคียงกับทำเลเพื่อนบ้านอย่าง เอกมัย-ทองหล่อ เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองที่ขยับออกมาจากเขตธุรกิจชั้นใน CBD ทำให้ปัจจุบันถนนปรีดีพนมยงค์ (หรือสุขุมวิท 71) มีราคาประเมินที่ดิน 250,000 - 300,000 บาท/ตารางวา 

และในอนาคต...สถานีพระโขนงยังมีโครงการที่จะพัฒนาให้เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ (Interchange) เชื่อมต่อกับรถไฟฟาสายสีเทาส่วนใต้ ช่วงพระโขนง-พระราม 3 โดยมีแนวเส้นทางเริ่มต้นที่บริเวณแยกพระโขนง ตรงจุดตัดของถนนสุขุมวิทและถนนพระรามที่ 4 ผ่านสี่แยกวิทยุ, ถนนสาทร, แยกสาทร-นราธิวาส, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แล้วไปจบที่พระรามที่ 3 ซอย 58 ทำให้เราสามารถเข้าเมืองและย่านธุรกิจสำคัญๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นจุดเด่นที่ช่วยดึงความสนใจให้นักลงทุน รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจ คนทำงานออฟฟิศรุ่นใหม่เข้ามาที่พระโขนงมากยิ่งขึ้น

แต่ถ้าใครยังนึกภาพพระโขนงโฉมใหม่ไม่ออก วันนี้เอสโตก็ขออาสาพาไปทัวร์ด้วยตัวเอง เผื่อคุณจะหลงรักพระโขนงมากขึ้นกว่าเดิม

เจอกัน ณ พระโขนง

โดยจุดนัดพบของเราจะเป็นแลนด์มาร์คขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้จากด้านบนสถานีรถไฟฟ้า นั่นก็คือ Summer Hill (ซัมเมอร์ ฮิลล์) คอมมูนิตี้ มอลล์น้องใหม่ในย่านพระโขนงที่เปิดตัวมาพร้อมร้านอาหาร, คาเฟ่, ฟิตเนส และ Co-working Space

หรือจะย้ายไปฝั่งตรงข้ามก็มี W DISTRICT แหล่งพบปะสังสรรค์ของคนชิคๆ ที่เราขอให้คำจัดความที่แห่งนี้เป็น Creative Space เพราะภายในจะถูกตกแต่งด้วยผลงานศิลปะแนว Abstract Art (แอบสแตก อาร์ต) มีทั้งรูปปั้นจากหลากหลายศิลปิน, ภาพกราฟิตี้บนกำแพง รวมถึงสถาปัตยกรรมร้านค้าที่ดีไซน์ออกมาไม่ซ้ำใครจนอดไม่ได้ต้องเดินเข้าไปถ่ายรูปเล่น

พอเข้าช่วงเย็น...บริเวณนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นจุดแฮงเอาท์ขึ้นชื่อของชาวต่างชาติ ที่ไม่ว่าจะมาในนามของนักธุรกิจ, นักท่องเที่ยว หรือแม้แต่คนที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาพักอาศัยในกรุงเทพ ส่วนบรรยากาศก็จะชิลล์ๆ เหมาะแก่การนั่งฟังดนตรีสด จิบเครื่องดื่มเพลินๆ หลังเลิกงาน

ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องปกติ ที่เรามักเห็นครอบครัวชาวต่างชาติอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในย่านพระโขนงกันอย่างคึกคัก ผสมกลมกลืนไปกับผู้อยู่อาศัยเดิม นับเป็นไลฟ์สไตล์ชีวิตที่น่ารักของย่านนี้เลยทีเดียว

นอกจากจะสะดวกสบายต่อผู้ใช้รถไฟฟ้าแล้ว เลยแยกสุขุมวิท 71 ไปเล็กน้อยก็มีทางขึ้นทางพิเศษฉลองรัชให้คนทำงานได้ใช้กันยามเร่งด่วน ช่วยพาเราไปยังโซนพระราม 9-รามอินทราได้ในเวลาที่เร็วขึ้น

ส่วนการจราจรภายในซอยปรีดีพนมยงค์ก็ค่อนข้างคล่องตัว มีรถสาธารณะวิ่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถกะป้อแดงและฟ้าที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ด้านการคมนาคมของย่านนี้

หรือจะยกมือโบกวินมอเตอร์ไซต์ก็ช่วยกระชับเวลาได้เป็นอย่างดี มีจอดให้บริการอยู่ตามปากซอยต่างๆ ค่าบริการเพียง 10 - 40 บาทเท่านั้น

เลี้ยวเข้าสุขุมวิท 71 มาจะเจอป้ายสีเหลืองสะดุดตาอยู่แถวๆ หน้าปากซอยปรีดีพนมยงค์ 2 เป็นที่ตั้งของ "พระโขนงพลาซ่า" ตลาดเช้าของคนพระโขนง

บรรยากาศภายในตลาดค่อนข้างอบอุ่นและครึกครื้นไปด้วยเหล่าพ่อค้าแม่ค้า ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนในพื้นที่ แต่ละร้านจึงสนิทสนมกันเป็นพิเศษ มีเสียงพูดคุยทักทายกันตลอดทาง แถมของยังราคาถูกทั้งผักผลไม้, อาหารสด และอาหารสำเร็จรูป

ทะลุออกมาท้ายตลาดจะเจอกับซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) หากเดินเข้ามาในซอยนี้จะมีทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ และร้านรถเข็นเปิดขายกันตลอดทั้งวัน เรียกว่าใกล้แหล่งของกิน ของใช้ จะเดินไปทางไหนก็สะดวก

นอกจากสะดวกเรื่องอาหารการกินแล้ว บริเวณท้ายซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ก็ยังมีความสะดวกด้านการเดินทางด้วยเช่นกัน เพราะมีทางขึ้น-ลงทางพิเศษตั้งอยู่อีกหนึ่งจุด ให้เราเคลื่อนออกไปยังจุดหมายได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นอโศก, ดินแดง, แจ้งวัฒนะ, ลาดพร้าว ,รามอินทรา, ศรีนครินทร์ หรือกาญจนาภิเษก 

สำหรับใครที่ต้องการไปต่อยังย่านเอกมัย บริเวณซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ก็มีเส้นทางให้เราลัดเลาะออกไปย่านเอกมัยได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียเวลาวนรถออกไปถนนใหญ่ให้เปลืองน้ำมัน

ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 จะมีโรงเรียนนานาชาติเอกมัยตั้งอยู่ฝั่งขวามือ เป็นหนึ่งในโรงเรียนประจำย่านพระโขนงที่ผู้ปกครองนิยมส่งลูกหลานเข้ามาศึกษาหาความรู้กัน

ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นคาเฟ่สไตล์ฟิวชั่น ที่เน้นเสิร์ฟของหวานและเครื่องดื่มอย่างร้าน Featherstone Cafe & Bistro Lifestyle Shop ให้แวะพักคลายร้อนกัน

และต่อให้หลุดออกมาจากสุขุมวิท 71 แล้ว แต่ความอุดมสมบูรณ์ก็ยังขยายออกไป มีร้านค้า, ร้านอาหาร, ของสด, ผลไม้ให้เลือกซื้อกันได้ตั้งแต่เช้า

หรือเดินเลียบคลองไปอีกเล็กน้อยประมาณ 300 เมตร จะเจอกับท่าเรือรามหนึ่ง โดยท่าเรือนี้จะเชื่อมต่อกับแอร์พอร์ต ลิ้งค์ ช่วยให้เราเลือกเปลี่ยนสายการเดินทางให้ตรงไลฟ์สไตล์ของตนเองได้

ขยับออกจากท่าเรือมาเจอกับ Airport Link สถานีรามคำแหง อีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางที่พุ่งตรงเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสะดวกต่อคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ หรือจะนั่งไปลงสถานีพญาไทก็เป็นอีกสถานีที่มีการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS และการรถไฟไทย ส่วนใครอยากใช้รถไฟใต้ดินก็แนะนำให้ลงที่สถานีมักกะสันแทน ซึ่งจะเชื่อมกับ MRT เพชบุรี และมีจุดหยุดรถไฟอโศกตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน

จุดเด่นโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

• The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) เป็นคอนโดใกล้ BTS ที่มีราคาเปิดตัวเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 92,500 บาท/ตร.ม. นับว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างถูกและจับต้องได้ง่าย
• โครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ห่างจาก BTS พระโขนงประมาณ 800 เมตร พร้อมมี Shuttle Bus รับส่งจากโครงการไปถึงสถานี จึงสะดวกต่อคนที่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเป็นประจำ
• ตอบโจทย์คนใช้รถใช้ถนนด้วยทำเลที่เดินทางสะดวก สามารถเชื่อมกับเอกมัย-ทองหล่อ, คลองตัน, เพชรบุรีตัดใหม่, พัฒนาการ และรามคำแหงได้
• ห้องชุดพักอาศัยของโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) จะตกแต่งแบบ Fully Furnished พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และบิล์ทอิน (ฺBuilt in) เฟอร์นิเจอร์ให้หลากหลายรายการ สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที
• ใจกลางโครงการออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 1 ไร่ และตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกกว่า 16 รายการ เหมาะสำหรับคนเมือง Urban ที่ชอบ แอคทีฟตลอดเวลา

ทำเลโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

• หากที่ตั้งโครงการขยับจากย่านศิวิไลซ์เอกมัย-ทองหล่อมาแค่ 1 สถานี แต่การเดินทางต่างๆ กลับสะดวกสบายไม่ต่างกันก็นับเป็นการลงทุนที่ดูคุ้มค่าไม่น้อย เพราะในซอยสุขุมวิท 71 หรือช่วงพระโขนงเป็นทำเลที่เหมาะทั้งผู้ใช้รถส่วนตัวและระบบขนส่งสาธารณะ สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง

• นอกจากจะอยู่ใกล้ BTS แล้ว ตลอดทั้งซอยยังมีเส้นทางลัดเลาะออกไปย่านสำคัญๆ อีกมากอย่างท้ายซอยปรีดีย์พนมยงค์ 2 เองก็มีจุดขึ้น-ลงทางพิเศษให้เราใช้ออกไปยังโซนพระราม 9 - รามอินทรา, อโศก หรือกาญจนาภิเษกได้
  

สภาพแวดล้อมโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

ถ้าพูดถึงพระโขนงแล้วก็ต้องนึกถึงบรรยากาศอบอุ่นสไตล์ชุมชนดั้งเดิม มีความอุดมสมบูรณ์สูง อาจเรียกได้ว่า...จะเดินไปทางไหนก็เจอแต่ร้านของกิน, สะดวกซื้อและสตรีทฟู้ดส์ขายอยู่เต็มสองฝั่งถนน

• เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นซอย : ใกล้กับถนนใหญ่สายสุขุมวิทก็จะมีทั้งตลาด, แหล่งแฮงค์เอาท์, Community mall และแกลอรี่ตั้งอยู่มากมาย
• กระเถิบมาที่กลางซอย : ก็จะเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยอย่าง Max Valu และ Makro Foodsevice เปิดให้บริการ
• จนไปถึงช่วงท้ายซอย : ซึ่งจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร และมีตลาดคลองตันที่ตั้งแผงขายของกันตั้นแต่เช้าตรู่ ให้เราแวะมาทานมื้อเช้าก่อนออกไปทำงานได้

สำหรับใครที่ต้องการความสะดวกสบายด้านอื่นๆ ให้ชีวิต ย่านนี้ก็มีสถานศึกษาทั้งโรงเรียนไทยและนานาชาติ รวมถึงอาคารสำนักงานต่างๆ และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสุขุมวิท 71 ทำให้บรรยากาศรอบๆ โครงการมีความคึกคัก ไม่เงียบเหงา มักมีนักท่องเที่ยวและผู้คนเข้ามาสร้างสีสันให้ย่านนี้อยู่เสมอ

สิ่งอำนวยสะดวกโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

สำหรับโครงการ Low Rise ที่มีจำนวนห้องชุดพักอาศัย 515 ยูนิตกับสิ่งอำนวยความสะดวกรวม 16 รายการ นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานของทุกคน อีกทั้งยังตกแต่งร่มรื่นบนพื้นที่ส่วนกลางกว้าง 1 ไร่ ทำให้เราใช้ชีวิตและเพิ่มความสุขให้การอยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่ภายใต้บรรยากาศสงบ เช่น Clear Crystal Pool, Forestscape Fitness & Yoga Desk, Wooden Nest Lounge & Chill Out Nest Swing, Starlight Outdoor Theatre เป็นต้น 

ห้องพักอาศัยโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย เพราะโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ได้ตกแต่งและบิล์ทอินเฟอร์นิเจอร์ พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้แล้วเรียบร้อย โดยห้องส่วนใหญ่ภายในโครงการจะเน้นเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาดตั้งแต่ 24.69 - 41.52 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่เพียงพอและค่อนข้างลงตัวกับไลฟ์สไตล์ชาว Urban ทั้งยังปล่อยเช่าและขายต่อง่ายตรงกับความต้องการของคนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ราคาโครงการ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71)

ราคาเปิดตัวของโครงการอยู่ที่ 2.5 - 3 ล้านบาท หรือมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 92,500 บาท ถือเป็นระดับราคาที่คุ้มค่าต่อการลงทุน ไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่เองหรือปล่อยเช่า-ขายต่อ เพราะ The Nest Sukhumvit 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) ตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ไกลจากเขตธุรกิจ CBD แถมยังเป็นย่านพักอาศัยที่มีนักธุรกิจ รวมถึงชาวต่างชาติให้ความสนใจ เพราะอยู่ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกและจุดแฮงค์เอาท์อย่าง W DISTRICT เป็นต้น