รูปหน้าปก The Metropolis Samrong Interchange (เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์) คอนโดติดรถไฟฟ้า ใกล้ชิดไลฟ์สไตล์คนเมือง

[Review] The Metropolis Samrong Interchange (เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์) คอนโดติดรถไฟฟ้า ใกล้ชิดไลฟ์สไตล์คนเมือง

ถนนสุขุมวิท 190 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

บริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ จำกัด

Review

ขยายพื้นที่ความเจริญ สู่ไลฟ์ไสตล์การอยู่อาศัยที่คุ้มค่า

คอนโด เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (The Metropolis Samrong Interchange) เป็นโครงการในบริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก เห็นได้จากความสำเร็จของเฟสแรกที่มียอดขายเต็ม 100% จนต้องมีการเปิดตัวเฟส 2 ตามมาติดๆ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลแห่งอนาคต สะดวกสบายทุกการเดินทาง เหมาะทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนในอนาคต

เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์

(The Metropolis Samrong Interchange)

สถานะโครงการ เปิดจอง

จำนวนยูนิตทั้งหมด อาคาร A 1,056 ยูนิต อาคาร 5 552 ยูนิต และ อาคาร C 144ยูนิต

ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม.

ฝ้าเพดานสูง ติดต่อโครงการ

การตกแต่ง Fully Furnished

จำนวนที่จอดรถ 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

สิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำระบบเกลือ

• สระเด็ก

• ห้องฟิตเนส

• ห้องอเนกประสงค์

• สนามแบดมินตัน

• ห้องไดรฟ์กอล์ฟ

• สวนหย่อมรอบโครงการ

• ระบบ Access Card

• ระบบรักษาความปลอดภัย  

LOCATION/ACCESSIBILITY

คอนโด เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (The Metropolis Samrong Interchange ) ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สำโรง บนถนนสุขุมวิท ไม่ไกลจากแยกปู่เจ้าสมิงพราย เสมือนเป็นรอยต่อระหว่างกรุงเทพมหานครกับเมืองสมุทรปราการ ทำให้ไลฟ์สไตล์ค่อนข้างมีความหลายหลาย ผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับความเรียบง่ายได้อย่างกลมกลืน

การเดินทางมายัง คอนโด เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (The Metropolis Samrong Interchange ) ที่สะดวกที่สุด แน่นอนว่าจะต้องเพราะรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสำโรง ทางออก 4 โดยเฉพาะเฟส 2 อาคาร B ที่สร้างอาคารอยู่ติดรถไฟฟ้าพอดิบพอดี ส่วนคนที่ขับรถยนต์ส่วนตัวแค่วิ่งตรงมาจากศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ผ่านอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง โครงการจะอยู่ทางขวามือก่อนถึงแยกปู่เจ้าสมิงพราย หรือเพื่อความรวดเร็วอาจใช้ทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์แทน

รวดเร็วด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีสำโรง

คาดว่าเมื่อโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ เสร็จเรียบร้อยจะสะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากตอนนี้ สถานีสำโรง กำลังผันตัวเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองด้วย

 หลากหลายกับการคมนาคมสาธารณะ

นอกจากรถไฟฟ้าที่ทางโครงการดึงให้เป็นจุดเด่นแล้ว ก็มีรถโดยสารอื่นๆ เข้าถึงคอนโดด้วยเช่นกัน ทั้งรถเมล์สาย 2 , 3 , 7 , 23 , 84 , 365 , 507 เป็นต้น หรือที่นิยมกันในพื้นที่ก็บริการรถสองแถวที่วิ่งตลอดเกือบทุกๆ 1 นาที ส่วนคนทำงานย่านก็มีวินรถตู้อยู่ตรงอินพีเรียล เวิลด์ สำโรง

LIFESTYLE

สำหรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในทำเลสำโรงนั้นคึกคักมากเลยทีเดียว เพราะเรียงรายไปด้วยตึกแถวพาณิชย์ชุมชนเก่า ตลาด และห้างสรรพสินค้า อีกทั้งยังใกล้ย่านโรงงาน บริษัทใหญ่ต่างๆอีกด้วย สำโรงจึงเต็มไปด้วยคนในชุมชนเก่า ผู้คนวัยทำงาน และผู้ประกอบการร้านค้า เนื่องจากมีวัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับนำไปขายในราคาถูก และหาได้ครบครันในที่เดียว จึงมีผู้นิยมมาซื้อของฝากจากที่นี่เพราะนอกจากสดสะอาดแล้วยังราคาไม่แพงอีกด้วย

ถึงแม้ว่าสำโรงจะเต็มไปด้วยผู้คนสัญจรไปมามากมาย แต่ก็ไม่ได้วุ่นวายมากนัก ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายแบบชุมชนใกล้เมืองอยู่ ผู้คนแถบนี้ล้วนทักทายกันและให้การต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร เห็นได้จากย่านจับจองใช้สอยที่พ่อค้าแม่ค้าล้วนยิ้มรับผู้คนที่มาเยี่ยมเยือน ซึ่งไม่จะเป็นสำโรงเซ็นเตอร์ ตลาดเอี่ยมเจริญ หรือแม้แต่อินพีเรียล เวิลด์ สำโรง หากมีเวลาเดินเล่นสักนิด เราก็สามารถสัมผัสกับบรรยากาศเหล่านี้ได้

“อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง” เป็นศูนย์การค้าที่มีทั้งหมด 6 ชั้นด้วยกัน โดย 6 ชั้นนั้นจะแบ่งโซนร้านค้า ให้กระจายอยู่เป็นหมวดหมู่ สำหรับชั้น 5 จะเป็นชั้นของโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซินิเพล็กซ์ ส่วนชั้น 6 จะเป็นลักษณะของฮอลล์เพื่อจัดงานแสดงและมหกรรมต่างๆ มีชื่อเรียกว่า “ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์” ถัดลงไปตั้งแต่ชั้น 5 ถึงชั้นใต้ดินของห้างอิมพีเรียลเวิลด์

เมื่อเดินย้อนมาข้างหลังจะเจอ ตลาดใหม่สำโรง โดยส่วนใหญ่จะขายข้าวของเครื่องใช้ และของฝาก

ข้ามมาอีกฝั่งจากตลาดสำโรงเซ็นเตอร์ ลอดใต้ทางยกระดับจะพบกับตลาดเอี่ยมเจริญ ตลาดสดที่ขายอาหารทะเล และสัตว์ระบบบ่อเลี้ยง ร้านอาหารบริเวณใกล้ๆ จะมาซื้อวัตถุดิบสดๆจากที่นี้ไปประกอบอาหารขาย นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปเป็นของฝากให้เลือกมากมายและราคาไม่แพง เช่น ปลากรอบ ปลาหมึกตากแห้ง ปลาเส้น เป็นต้น  

แท้จริงแล้วแบริ่ง-สำโรงยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเยอะ เพราะเป็นทั้งชุนชนเก่าและชุมชนการค้าการค้าเสรี ถ้าไม่เชื่อลองเข้าไปดู สำรวจทำเล BTS สำโรง ไลฟ์สไตล์ของชุมชนการค้าใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว แบบเต็มๆ ได้ เผื่อใช้เป็นตัวเลือกก่อนตัดสินซื้อคอนโดย่านแบริ่ง-สำโรงนี้

1 BEDROOM

ห้องแบบ 1 Bedroom Type B1

สำหรับ Type B1 จะจัดวางสัดส่วนพื้นที่คล้ายห้อง Studio มีเพียงประตูบานเลื่อนที่ใช้กั้นพื้นที่ส่วนตัวเท่านั้น ทำให้ห้องดูกว้างขวางและเปิดโล่ง เหมาะแก่การพักผ่อนหลังเลิกงาน หากหลับมาเหนื่อยๆ ก็สามารถทิ้งตัวลงที่โซฟาห้องรับแขกก่อนได้ หรือจะนั่งดูทีวี ทำกิจกรรมอื่นๆ ก็สะดวก เพราะจุดเด่นอย่างหนึ่งของห้องนี้ คือ พื้นที่ห้องรับแขกที่ให้มาเยอะ จนสามารถตั้งโซฟาตัวใหญ่ หรือโต๊ะทานข้าวเพิ่มได้สบายๆ 

ขยับไปยังฟังก์ชั่นการใช้งานอย่าง ห้องครัวและห้องน้ำ ก็มีการแยกออกจากพื้นที่พักผ่อนชัดเจนกั้นด้วยแพลทติชั่นแบบปิด ซึ่งช่วยในเรื่องกลิ่นรบกวนได้เป็นอย่างดี สำหรับอุปกรณ์ครัวและสุขภัณฑ์ห้องน้ำจะติดตั้งมาให้ค่อนข้างครบพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ Built-in ของทางโครงการ ในรูปแบบ Fully Furnished

รายละเอียดระบบเข้าออกห้องใช้คีย์การ์ดในการควบคุมเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ประตูเป็นบานสำเร็จรูปสีไม้ธรรมชาติดูสวยงามอบอุ่น

ระบบไฟ Down light อารมณ์เหมือนอยู่โรงแรม พร้อมเล่นระดับฝ้าสร้างสไตล์ให้กับตัวห้อง

พื้นห้องปูกระเบื้องในส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องน้ำสลับกับพื้นลามิเนตในส่วนของห้องนอน

เมื่อเปิดประตูเข้ามา เมื่อเปิดประตูเข้ามา เมื่อเปิดประตูเข้ามาเมื่อเปิดประตูจะเจอกับห้องรับแขกที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง ช่วยให้บรรยากาศภายในห้องไม่อึดอัด เหมาะแก่การพักผ่อนในแต่ละวัน โซฟาที่ตั้งตกแต่งไว้ก็รับกับชั้นวางโทรทัศน์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม สามารถใช้เวลาทั้งวันเพื่อดูหนังฟังเพลงได้อย่างมีความสุข

รายละเอียด

โซฟาขนาด 2-3 คนนั่ง หากอยากเพิ่มไซส์หรือเปลี่ยนเป็นโซฟาเบดก็ทำได้สบายๆ

หน้าโซฟามีเนื้อที่เหลือเฟือให้ตั้งโต๊ะกลางเพิ่มได้ แถมยังเดินไปมาสะดวก ส่วนชั้นวางโทรทัศน์เป็น Built in ลามิเนตของทางโครงการ ซึ่งแนะนำว่าให้แขวนโทรทัศน์กับผนังเพื่อประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง ให้สามารถวางของใช้อื่นๆ ได้มากขึ้น

พื้นที่ข้างโซฟาเหลือกว้าง จะตั้งโต๊ะทานข้าวอย่างในตัวอย่าง หรือเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานแทนก็ได้ เพราะข้างๆ มีปลั๊กอยู่ 1 จุด จึงสะดวกเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คส์

หากจะตั้งโต๊ะทานข้าวอย่างในภาพ อาจขยับโต๊ะออกมาหรือเพิ่มขนาดโต๊ะเพื่อให้นั่งทานได้สะดวกขึ้นถัดไปในสุดเป็นห้องนอนที่เชื่อมกับห้องรับแขก โดยขนาดห้องจะเล็กกว่าเล็กน้อย พอดีกับการอยู่อาศัยเพียงคนเดียว แต่ภายในประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์จำเป็นครบชุด อย่าง เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง พื้นที่ห้องใช้ประตูบานเลื่อนลามิเนตแทนบานกระจกที่มักพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งช่วยบดบังสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่า

รายละเอียด

ขนาดเตียงที่เหมมาะกับห้องนี้เห็นทีจะเป็นเตียงควีนไซส์ 5 ฟุต เพื่อให้การใช้ชีวิตไม่อึดอัดจนเกินไป หากใครอยู่กัน 2 คน อยากขยายเตียงเป็นคิงไซส์ 6 ฟุตก็พอทำได้ แต่แนะนำว่าควรขยับเตียงไปชิดหน้าต่างแทน จะได้เดินสะดวก 

รอบเตีียงมีพื้นที่ให้วางตู้ข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

โต๊ะข้างเตียงขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้วางโคมไฟหรือของใช้ใกล้มือ

ปลายเตียง built in ตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งมาให้คู่กัน จะได้แต่งหน้าแต่งตัวตรงนั้นทีเดียว พร้อมมีปลั๊กไฟเผื่อจะใช้งานไดร์เป่าผมหรือเครื่องหนีบผม

มองไปเจอโซนห้องครัวและห้องน้ำ ข้อดีคือ เมื่อมีแขกมาเยี่ยมห้องจะได้ไม่ต้องรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเรา

ห้องครัวแบบปิดของทางโครงการ เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ จะติดตั้งชุดครัวพร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน มีการกั้นพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อน ช่วยป้องกันกลิ่นและควันรบกวนไปยังส่วนอื่นๆ ของห้อง สำหรับเคาน์เตอร์ครัวจะทำเป็นที่ให้ใช้เก็บของ เก็บอุปกรณ์ได้ค่อนข้างเยอะ มีช่องใส่ไมโครเวฟ , เครื่องซักผ้า และตู้เย็น เรียบร้อย

รายละเอียด

พื้นครัวปูกระเบื้องเช่นเดียวกับห้องรับแขกและห้องน้ำ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่าการใช้พื้นลามิเนต โดยริมสุดเป็นช่องเปิดรับลมและช่วยถ่ายเทอากาศ ระบายกลิ่นในห้องครัวได้เป็นอย่างดี

ท็อปและเคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนตทั้งคู่ ดูสวยงามแต่อาจรับแรงกระแทกจากการหั่นสับเฉาะได้เพียงเล็กน้อย ไม่ค่อยเหมาะกับงานครัวหนักๆ ส่วนด้านหลังได้มัการกรุกระจกทับผนังอีกชั้นหนึ่ง ทำให้การเช็ดคราบน้ำมันและสิ่งสกปรกสะดวกขึ้น

ทางคอนโดจะติดตั้งเตาไฟฟ้าขนาด 2 หัวและเครื่องดูดควับระบบไส้กรองของ Tecno  เวลาทำครัวแนะนำว่าให้เปิดช่่องรับลม เพื่อช่วยระบายกลิ่นควันด้วยอีกทางหนึ่ง

ซิงค์ล้างจานสแตนเลสแบบก้นลึก เหมาะสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะล้างแช่ผักผลไม้ หรือทำความสะอาดเครื่องครัวชิ้นใหญ่ ด้านข้างมีที่พักจากยื่นออกมาช่วยป้องน้ำไหลเปียกท็อปครัว แต่เนื่องจากท็อปเป็นลามิเนตเวลาใช้งานเสร็จจึงควรเช็ดให้แห้ง ป้องกันการบวมน้ำและเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นจากความอับชื้น

พื้นที่ประกอบให้มาค่อนข้างเยะ สามารถวางจานชามกับข้าวได้สะดวก แถมเดินปลั๊กไฟมาให้อีก 1 จุด ถ้าใครชอบดื่มกาแฟตอนเช้าๆ ก็สามารถใช้งานกาต้มน้ำหรือเครื่องปิ้งขนมปังได้ตามอัธยาสัย

ห้องน้ำขนาดพอเหมาะต่อการใช้งานหนึ่งคน คือ แยกโซนแห้งและเปียกชัดเจน พร้อมที่วางของอีกเล็กน้อย ถ้าอยู่กัน 2 คน อาจหาชั้นวางของมาตั้งเพิ่ม ส่วนสุขภัณฑ์ทางคอนโดเลือกใช้ของ American Standard

รายละเอียด

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่ชิดประตู เปิดห้องมาสามารถใช้ล้างมือล้างหน้าได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินเข้าไปให้เปียกเท้า

ด้านหลังยาวไปจนห้องอาบน้ำทำ Wall drop ลงมาให้วางของใช้ได้ ระยะการติดตั้งชักโครกอยู่ตรงกลางไม่ชิดแพลทติชั่นหรืออ่างจนเกินไป ทำให้นั่งทำธุระได้สะดวก

สายฉีดชำระหัวสแตนเลสจะแข็งแรงทนทาน ทั้งยังแยกวาล์วปล่อยออกมา เวลาอุปกรณ์ชำรุดจะยังสามารถใช้งานชักโครกได้โดยไม่ถูกตัดน้ำไปด้วย

แพลทติชั่นบานเลื่อนช่วยป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกไปยังโซนแห้ง ลดการเกิดอุบัติจากการลื่นล้ม

หากใครมีของประทินผิวเยอะๆ แต่ไม่อยากตั้งชั้นวางในห้องน้ำเพิ่ม อาจนำของมาเก็นไว้ที่ชั้นวางของในห้องครัวแทนก่อนได้ เพราะเคาน์เตอร์ครัวที่ทางคอนโด built in ให้จะใหญ่จนชิดติดประตูห้องน้ำพอดี

2 BEDROOM 52 SQ.M.

ห้องแบบ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 52 ตร.ม.

ห้อง 2 Bedroom ก็ยังคงเป็นห้องที่ขายแบบ Fully Furnished เช่นเดียวกับห้องแรก มีเฟอร์นิเจอร์ Built in ของทางโครงการให้เรียบร้อย ซึ่งถือว่าค่อนข้างครบครันพร้อมอยู่ หากใครต้องการลดความใช้จ่ายก็ไม่จำเป็นต้องตกแต่งเพิ่ม เพราะทางคอนโดคอนเฟิร์มเรื่องวัสดุอยู่แล้ว มีคุณภาพสวยงามตามมาตรฐาน  ส่วนจุดเด่นของห้อง Type C จะอยู่ที่พื้นที่ใช้สอยของห้องรับแขก ที่ให้มาเหมาะแก่การพักผ่อนและมีระเบียงยาวเชื่อมไปถึงห้อง Master Bedroom ทำให้เราสามารถใช้งานระเบียงได้หลากหลาย ต่างจากห้องแรกที่ไม่มีระเบียงให้(ในห้องตัวอย่าง) ซึ่งห้องครัวก็ยังคงทำเป็นครัวปิดเช่นเดิม แต่ห้องน้ำได้เพียงห้องเดียว เวลาเร่งด่วนอาจมีการแย่งกันใช้เล็กน้อย

รายละเอียด

การเข้าออกห้องใช้ระบบ Access Card เช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของผู้พักอาศัยบานประตูสำเร็จรูปสีไม้ธรรมชาติ ทางซ้ายมือ Built-in ชั้นวางของไว้เพิ่มจากห้องแรก อาจแบ่งเป็นชั้นล่างใช้วางรองเท้าและสลีปเปอร์ ส่วนชั้นบนใช้วางพวกอุปกรณ์อื่นๆ อาทิเช่น ครีมขัดรองเท้าและถุงเท้าก็ได้ โดยหน้าบานจะติดกระจกส่องเงามาให้ด้วยไว้เช็คความเรียบร้อยยก่อนออกจากห้อง

มองกลับไปทางประตูห้อง ขวามือเว้นที่ให้ตั้งโต๊ะทานข้าวขนาด 4 คนนั่ง ซึ่งเนื้อที่กว้างกว่าห้องแรกพอสมควร ส่วนซ้ายมือติดห้องน้ำรับรองสะดวกยามกลับมาจากข้างนอก

โซนทานข้าวอยู่ชิดผนังห้องครัว โดยคอนโดได้ออกแบบให้เป็นกระจกมองทะลุไปยังห้องครัวได้ ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น เวลาทานอาหารคนที่นั่งชิดผนังจะได้ไม่รู้สึกอึดอัด และจะมีปลั๊กไฟอยู่ 1 จุด อาจหาโต๊ะเล็กๆ มาตั้งเสริมไว้วางมือถือหรือโคมไฟ

ห้องรับแขกจะดูแคบกว่าห้องแรกเล็กน้อย กล่าวคือ ห้องนี้จะได้ห้องรับแขกทรงยาวต่างจากห้องแรกที่เป็นทรงกว้าง แต่ด้านการใช้งานจะคล้ายกันเพราะจัดพื้นที่ให้เป็นได้ทั้งโซนพักผ่อนและโซนทานอาหารในห้องเดียว

สำหรับห้อง Master Bedroom จะตกแต่งไว้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน ซึ่งทาง เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ จะ Built in ตู้เสื้อผ้า,โต๊ะเครื่องแป้งมาให้เรียบร้อยเข้ากับสัดส่วนห้อง เครื่องปรัอากาศในห้องตัวอย่างเป็นของ Dailein พื้นปูลามิเนตตามแบบโมเดิร์นสไตล์เช่นเดียวกับห้องแรก

ตกแต่งหัวเตียงด้วยการบุผ้า ทำชั้นวางของสูงจรดเพดาน เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยแนวสูงให้คุ้มค่าและสวยงามไปในเวลาเดียว

พื้นที่รอบเตียงเดินผ่านได้สะดวก มีปลั๊กไฟสำหรับใช้งานโคมไฟหรือชาร์จแบตมือถือ

ส่นวปลายเตียงปล่อยโล่งให้ติดตั้งโทรทัศน์แบบแขวนผนัง ซึ่งทางคอนโดจะเดินระบบไฟไว้เรียบร้อย ผู้พักอาศัยสามารถติดโทรทัศน์ขนาดใหญ่ได้ตามต้องการ

ส่วนห้องนอนเล็กจะเหมาะกับการอยู่คนเดียว หรือถ้าใครอาศัยกันเป็นครอบครัว อาจยกห้องนี้ให้เป้นห้องของคุณลูกก็ได้ เพราะห้องไม่ได้ไกลจากห้อง Master Bedroom มาก แต่จะอยู่ชิดกับห้องครัวแทน เวลาหิวตอนดึกสามารถเดินไปหาของกินสะดวก มีเครื่องปรับอากาศ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง Built in ให้เช่นกัน พื้นปูลามิเนตเรียบหรูดูอบอุ่น ผนังติดวอลล์เปเปอร์ มีช่องรับแสงทำให้บรรยากาศของห้องสว่างสดใส ไม่อับทึบ

ห้องครัวแบบปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนมองเห็นได้จากทั้ง 2 ทิศทาง top ครัวและเคาน์เตอร์เป็นลามิเนตเหมือนกับห้องแรก วางซิงค์ล้างจาน , เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้แล้ว โดยช่องไมโครเวฟ ช่องใส่เครื่องซักผ้าและตู้เย็น จะ Fix มาพอดี หากจะเลือกซื้อควรวัดขนาดให้แม่นยำเสียก่อน 

รายละเอียด

เคาน์เตอร์ครัววางเป็นรูปตัวแอล (L)สูงติดเพดาน 2.5 เมตร ทำให้ได้พื้นที่ใช้งานและเก็บของใช้เครื่องครัวได้เยอะกว่าห้องแรก และจะสังเกตเห็นว่าหลังเคาน์เตอร์กรุกระจกมาให้เช่นกัน ทำให้เช็ดทำความสะอาดคราบน้ำมันและสิ่งสกปรกง่าย ไม่ทิ้งรอยเปื้อนกวนใจ

หน้าตาซิงค์ล้างจานสแตนเลสเหมือนกับห้องแรก มีที่พักจานให้ แนะนำว่าควรเช็ดทำความสะอาดเคาน์เตอร์ให้เรียบร้อยหลังการใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันเคาน์เตอร์บวมน้ำไม่สวยงาม

เตาไฟฟ้าขนาด 2 หัวและเครื่องดูดควันระบบไส้กรองของ Tecno เช่นกัน ซึ่งเพียงพอต่อการทำอาหารมื้อเล็กๆ ไม่หนักมากพื้นที่ประกอบอาหารจะกว้างกว่าตามขนาดห้องและความเหมาะสม มีปลั๊กเพิ่มเป็น 2 จุด สามารถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันได้


ห้องน้ำเป็นห้องที่อยู่นอกสุดติดประตูทางเข้า เวลาเก็บมาจากข้างนอกก็เปิดน้ำล้างหน้าล้างมือได้ทันที มีแพลทติชั่นกั่นแยกโซนแห้งและโซนเปียกออกจากกัน สุขุภัณฑ์เป็นของ American Standard เช่นเดียวกับห้องแรก ทั้งลักษณะการจัดวางก็เหมือนกัน คือ อ่างล้างหน้าอยู่นอกสุด ถัดไปเป็นโถชักโครก และห้องอาบน้ำ 

รายละเอียด

อ่างล้้างหน้าหน้าตาเหมือนห้อง Type B1 ตัวอ่างวางบนเคาน์เตอร์ น่าเสียดายที่ไม่สามารถใช้เก็บของได้ ต้องวางขวดสบู่หรือของใช้บน Drop wall เท่านั้น ข้างๆ ติดปลั๊กไฟ 1 จุด เวลาใช้งานให้ระวังเรื่องน้ำกระเด็น ไฟฟ้ารัดวงจรด้วยเพราะไม่มีฝาครอบปลั๊กให้

ระยะการติดตั้งชักโครกยังคงทำได้ดี ไม่เบียดไม่ชิดจนเกินไป คนตัวใหญ่หรือขายาวนั่งได้สบาย ข้างๆ โถชักโครกอาจหาถังขยะใบเล็กมาตั้งเพื่อความสะอาดห้องอาบน้ำแยกจากโซนแห้งประตูบานเลื่อน เลือกอาบได้ทั้ง Rain และ Hand Shower ซึ่งทางโครงการจะติดตั้งมาให้แล้วทั้งสองแบบ ส่วนกระจกส่องหน้ากว้างจนสามารถส่องได้ทั้งตัว สะดวกเวลาใช้งานเหมาะสำหรับคนชอบแต่งตัวและตรวจเช็คความเรียบร้อย

ANALYSIS

จุดเด่นของโครงการ

• ราคาถูกกว่าคอนโดมิเนียมในเมือง เนื่องจากต้นทุนที่ดินสำโรงยังไม่สูงมาก

• อยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีสำโรงเพียงก้าวเดียว

• สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ทั้งทางรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิทและขับรถไปทางสมุทนปราการ

• รอบคอนโดไม่มีติดสูง จึงได้เทียบเรื่องวิวมุมสูง

• ห้องตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ในราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 80,000 บาท

การเดินทาง

ใช้เวลาเข้า-ออกเมืองไม่ถึง 20 นาที 

หากใครยังติดภาพ "สำโรง" เป็นย่านชานเมืองที่อยู่แสนไกลเดินทางลำบาก ต้องรีบเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะปัจจุบันรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท เปิดให้บริการถึงสถานีสำโรงแล้ว ยิjงเสริมให้การเดินทางไปยัง The Metropolis Samrong Interchange ง่ายดาย ใช้เวลาไปยังแหล่งชอปปิ้งขนาดใหญ่อย่างทองหล่อ หรือสยามไม่ถึง 20 นาที หรือขับรถไปเที่ยวชิลล์ๆ ที่เมืองสมุทรปราการก็ทำได้สบาย

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว

อย่างที่รู้กันดีว่า เส้นสุขุมวิท เป็น 1 ในถนนสายหลักของประเทศ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะออกต่างจังหวัดหรือวิ่งเข้าเมืองก็ทำได้ง่ายๆ อีกทั้งคอนโดจะอยู่ใกล้ๆ แยกปู่เจ้าสมิงพราย ใกล้ทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ หรือวิ่งไปทางบางนาก็มีจุดขึ้นลงทางด่วนบางนา-ตราดเช่นกัน

สภาพแวดล้อม

เงียบสงบ แต่ไม่ห่างไกลความเจริญ

จะเรียกว่าเป็นข้อดีของย่านชานเมืองก็ว่าได้ ที่บรรยากาศโดยรวมมีความเงียบสงบ เหมาะแก่การพักอาศัยมากกว่าคอนโดมิเนียมกลางเมือง ซึ่งสถานที่รอบๆ คอนโดเดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ ก็ให้อารมณ์เช่นนั้น คือเงียบสงบกว่าคอนโดในเมืองหลวง คนไม่พลุกพล่านมากนัก  แต่เมื่อกระเถิบไปสักหน่อยกลับพบความสะดวกสบายของแหล่งสรรพสินค้าทั้งห้างอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง , ตลาดเอี่ยมเจริญ , สำโรงเซ็นเตอร์ , บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เกต เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นสภาพแวดล้อมรวมถึงบรรยากาศยังมีความเป็นกันเอง สบายๆ ไม่เร่งรีบ จะสายชิลล์หรือสายเที่ยวก็อยู่ได้ เพราะเลยไปอีกหน่อยก็เป็นจังหวัดสมุทรปราการ มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ อย่าง สถานตากอากาศบางปู , เมืองโบราณ , ตลาดบางน้ำผึ้ง และพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เป็นต้น


แบบห้อง

มีตัวเลือกหลากหลาย ได้เฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่

ห้องของคอนโดเดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ จะตกแต่งและขายแบบ Fully Furnished ทำให้ช่วยลดเรื่องค่าตกแต่งไปได้เยอะพอสมควร ส่วนด้านคุณภาพก็ดูดีตามสไตล์ Modern Luxury ซึ่งเป็นคอนเซปหลักที่ทางโครงการวางไว้ สำหรับขนาดห้องจะมีตั้งแต่ห้อง Studio ไปจนถึง 2 ห้องนอน จะนอนคนเดียวหรืออยู่กันแบบพ่อแม่ลูกก็ได้ตามต้องการ

รูปแบบห้องมีจุดเด่นที่ดีไซน์ Built in ของทางโครงการ และให้พื้นที่ส่วนของห้องนั่งเล่นค่อนข้างกว้างขวางไม่อึดอัด  โดยแบ่งเป็น 3 แบบ ได้แก่

• Studio 28 ตารางเมตร

• 1 Bedroom 35-45 ตารางเมตร

• 2 Bedroom 52-53 ตารางเมตร


สิ่งอำนวยความสะดวก

สำหรับ Facility อาจยังไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไรเมื่อเทียบกับการตกแต่งภายใน ซึ่งทางเดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ก็ให้มาตามมาตรฐานทั่วไป ส่วนหนึ่งอาจเพราะโครงการยังอยู่ในช่วงพรีเซล หากสร้างเสร็จเมื่อไรน่าจะมองเห็นภาพรวมชัดเจนกว่านี้ แต่ที่น่าสนใจคงจะเป็นสนามแบดมินตันกับห้องไดร์ฟกอล์ฟที่ไม่ค่อยเจอตามคอนโดมิเนียมอื่น ส่วนด้านระบบรักษาความปลอดภัยมี CCTV และใช้ Access Card  ในการเข้าออกอาคาร พร้อมผ่าน EIA มาตราฐานอาคารสูงเรียบร้อยแล้ว


ราคา

จ่ายน้อย แต่คุ้มค่าไม่ต่างกับคอนโดในเมือง

หากเทียบด้านความสะดวกสบาย หรือความอุดมสมบูรณ์ในการใช้ชีวิต ถือว่า คอนโด เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ไม่ต่างกับคอนโดมิเนียมกลางเมืองหลวงเลย  เพียงแต่ที่ตั้งจะขยับออกมาทางชานเมือง ซึ่งนั่นทำให้เราสามารถซื้อคอนโดได้ในรดับราคาถูกกว่า ช่วยลดภาระในแต่ละเดือนได้ดีกว่า ด้วยราคาเริ่มต้น(ช่วงพรีเซล) ที่ 2.5 ล้านบาท แต่กลับกันหากเทียบกับราคาคอนโดแถบชานเมืองก็ถือว่าสูงนิดนึง คิดซะว่าแลกกับทำเลติดรถไฟฟ้าเพียงก้าวเดียวก็คุ้มค่าเอาเรื่อง


อนโด เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (The Metropolis Samrong Interchange ) เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น ตอบโจทย์คนที่มองหาคอนโดวิวสวย มองวิวเมืองมุมสูงได้ชัดเจน เนื่องจากรอบๆ จะเป็นอาคารทรงเตี้ยเสียส่วนใหญ่ ทั้งยังอยู่ใกล้แหล่งที่ทำงาน เขตนิคม อุสาหกรรมด้วยแล้ว จึงไม่แปลกที่แบริ่ง-สำโรงจะอุดมไปด้วยอาหาร ร้านค้า ของกินของใช้มากมาย บวกกับในอนาคตก็มีโครงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า BTS ไปถึงสมุทรปราการ ทำให้ความจริญต่างๆ เริ่มขยับออกมายังบริเวณนี้ส่งผลให้ เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (The Metropolis Samrong Interchange) เหมาะการแก่ซื้อเพื่ออาศัยเองและเพื่อการลงทุนในอนาคต

แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ