[Review] ใช้ชีวิต 1 วันบนคอนโดหรูสไตล์รีสอร์ท ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

ไม่ต้องแพ็คกระเป๋าไปไหนไกล

ไม่ต้องวุ่นวายกับการเตรียมตัวหาที่พักตากอากาศดีๆ ตามต่างจังหวัด

เพราะสัปดาห์นี้ Estopolis ของเราขอเชิญคุณๆ ‘คนอยากพักผ่อน' มาลองใช้ชีวิตติดริมน้ำบนคอนโดหรูสไตล์รีสอร์ท กับ เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro luxe Riverfront Rattanathibet) คอนโด Low rise ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จาก Property Perfect ที่ออกแบบ Concept มาให้ทุก ๆ วันของผู้อยู่อาศัยกลายเป็นวันพักผ่อนที่ดีที่สุด

นอกจากนี้โครงการยังตั้งอยู่ในทำเลที่เงียบสงบ อย่างซอยไทรม้า 7 ซอยเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีไทรม้า ที่จะพาเราเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่ายๆ ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว ใครที่สนใจก็ลองตามพวกเราไปใช้ชีวิตติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาดู แล้วคุณจะรู้ว่า ‘ความสุขของการพักผ่อน' ไม่ได้หนีไปไหนไกล อยู่ใกล้ๆ ในย่านรัตนาธิเบศร์นี้เอง 

รายละเอียดโครงการ

ชื่อโครงการ : เมโทรลักซ์ ริเวอร์ฟร้อนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro luxe Riverfront Rattanathibet) 

เจ้าของโครงการ : บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) 

ที่ตั้งโครงการ : ถ.รัตนาธิเบศร์ ซ.ไทรม้า 7

เนื้อที่โครงการ : 7-2-37.8 ไร่

ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 6 อาคาร

จำนวนยูนิต : 606 ยูนิต

แบบห้อง :
แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 25.88-33.11 ตร.ม.
แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 45.43-67.45 ตร.ม.
แบบ 2 ห้องนอน Combine พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 58.10-61.41 ตร.ม.
แบบ 2 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 65.24-66.39 ตร.ม. 

สิ่งอำนวยความสะดวก : ล็อบบี้ ห้องสมุด สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Triple Security ตลอด 24 ชม. 

ราคาเริ่มต้น : 1.7-6.9 ล้านบาท

เว็บไซต์โครงการ : เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro Luxe Riverfront Rattanathibet)

ทำความรู้จักกับโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศโรแมนติกริมแม่น้ำ ต้องลองมาสัมผัสกับ เมโทรลักซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro Luxe Riverfront Rattanathibet)

คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จาก Property Perfect ที่มีการผสานสิ่งต่างๆ ได้อย่างลงตัวโดยเฉพาะความสุขของผู้อยู่อาศัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ A LUXURY CONDOMINIUM FOR RIVER LIVING ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของทำเลที่ติดริมแม่น้ำ คอนโดจึงเน้นความเป็นธรรมชาติ มีการออกแบบตัวอาคารให้เป็นแบบสไตล์โมเดิร์น เฮอริเทจ (Modern Heitage) ดูทันสมัย เข้ากับบรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางที่วางคอนเซปต์มาให้เป็นแบบสไตล์รีสอร์ทได้อย่างกลมกลืน

แผนผังอาคารของคอนโด Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 7-2-37.8 ไร่ รูปทรงเป็นตัว L กลับด้าน มีจำนวนยูนิตทั้งโครงการรวม 606 ยูนิต จากปากทางเข้าจะอยู่ติดกับถนนซอยไทรม้า 7 เข้าออกได้สะดวก รอบโครงการส่วนใหญ่ยังเป็นที่ดินเปล่า ทำให้โครงการมีความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวสูง

ทิศของห้องพักส่วนใหญ่จะหันห้องไปในแนวเหนือ-ใต้ ด้านหน้าโครงการที่หันออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็นฝั่งทิศตะวันออก เหมาะสำหรับคนตื่นเช้าที่อยากออกมารับแสงแดดบริเวณริมแม่น้ำ ส่วนทิศตะวันตก แดดจะอ้อมไปตกด้านหลังอาคารทำให้ห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดไม่โดนแดดร้อนในช่วงเย็น

จำนวนอาคารที่พักของ เมโทรลักซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro Luxe Riverfront Rattanathibet) จะแบ่งออกเป็น 6 อาคาร ดังนี้

อาคาร B :

เป็นอาคารที่อยู่ใกล้กับปากทางเข้า-ออกกับโครงการมากที่สุด และอยู่รวมกับอาคารจอดรถ ซึ่งจะแบ่งเป็นที่จอดในชั้น 1-4 (ที่จอดรถจะคิดเป็น 220 คันหรือประมาณ 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน)

ส่วนห้องพักจะเริ่มต้นที่ชั้น 5-8 โดยห้องพักของอาคาร B จะมียูนิตที่พักอาศัยอยู่ทั้งหมด 104 ยูนิต เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด และในแต่ละชั้นจะมีห้องพักเฉลี่ยที่ประมาณ 26 ยูนิต มีลิฟต์ให้ 2 ตัว (แบ่งเป็นลิฟต์โดยสารและขนของอย่าง 1 ตัวเป็นแบบนี้ทุกอาคาร)

อาคาร C :

อาคาร D :

อาคาร D มีจุดเด่นอยู่ที่ใต้อาคารมี Club House ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารติดริมน้ำ ภายในประกอบไปด้วยล็อบบี้, ห้องซาวน่า, ฟิตเนส และห้องสมุด จากพื้นที่ส่วนกลางนี้สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำได้ชัดเจน นอกจากนี้ในอาคารยังมีล็อบบี้ส่วนตัวแยกให้อีกจุดช่วงกลางอาคาร เพื่อการใช้งานได้อย่างทั่วถึง ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-8 รวมทั้งหมด 148 ยูนิต เฉลี่ยต่อชั้นอยู่ที่ 20 ยูนิต ข้อดีของการอยู่อาคารนี้คือใกล้พื้นที่ส่วนกลางหลักทั้งหมด เหมาะสำหรับคนชอบทำกิจกรรมในวันหยุดเป็นพิเศษ

อาคาร E และ F :

เรียกว่าเป็นอาคารแฝดก็ได้ เพราะมีการจัดวางผังอาคารเหมือนกัน เพียงแต่เป็น Mirror Plan หันกันคนละด้านเท่านั้น อาคารคู่นี้จะตั้งอยู่กลางโครงการเลย ด้านล่างจะเป็นพื้นที่ของล็อบบี้ มีจำนวนยูนิตเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-8 รวมแล้วประมาณ 78 ยูนิต

อาคาร G :

สำหรับอาคาร G เป็นอาคารที่อยู่ทางทิศใต้ของโครงการ ใต้อาคารมีล็อบบี้แยกเป็นส่วนตัวให้ และยูนิตอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 - 8 มียูนิตพักอาศัยประมาณ 143 ยูนิต กลางอาคารมีลิฟต์ที่สามารถเดินมาถึงได้จากทางฝั่งซ้ายและขวาเท่าๆ กัน และมีจุดบันไดหนีไฟให้ 2 จุด ใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ส่วนกลางสไตล์รีสอร์ทของ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

สำหรับคนวัยทำงานอย่างเราๆ การจะหาเวลาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจตามต่างจังหวัดไกลๆ คงจะเป็นเรื่องยาก ด้วยภาระที่รัดตัวอาจจะทำให้ต้องใช้เวลาเตรียมตัวในการเดินทางแต่ละครั้งค่อนข้างนาน

แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถสร้างทุกวันให้กลายเป็นวันพักผ่อนด้วยตัวเองได้ โดยการเลือกที่อยู่อาศัยบรรยากาศดีๆ ไว้สำหรับพักผ่อน อย่าง Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดของโครงการนี้ออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ท โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สร้างความสดชื่นให้กับวันหยุดพักผ่อนได้อย่างลงตัว

จุดสำคัญรอบโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

1. Main Entrance      10. Kid’s Pool

2. Drop off              11. Pool Terrace

3. Signature Tree     12. Jogging Track

4. Pier Gate             13. Riverfront Terrace

5. สวนกล้วยไม้          14. Multipurpose Terrace

6. ทางเดินระแนงไม้    15. Feature Pavilion

7. น้ำพุ                    16. Party Lawn

8. สะพาน                17. Amphitheater/Playground

9. Jacuzzi

คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย

สิ่งสำคัญสำหรับการพักผ่อนแน่นอนว่าคือ ความสงบและเป็นส่วนตัว Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ จึงออกแบบการวาง Facilities ทั้งหมดมาเป็นสัดส่วน เริ่มต้นตั้งแต่ด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนซอยไทรม้า 7 จะใช้ระบบการเข้า-ออกแบบ Easy Pass สแกนคีย์การ์ดได้ในระยะไกล ถ้าเป็นรถของลูกบ้านไม้กระดกที่กั้นอยู่จะยกขึ้นให้อัตโนมัติ ด้านขวามือทางเข้าจะเป็นซุ้มรปภ. คอยตรวจความปลอดภัยและมีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ให้ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนการเข้า-ออกอาคารต่างๆ ต้องใช้ระบบคีย์การ์ดในการเข้า-ออกอาคารเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย

ถัดเข้ามาจะเป็นอาคารจอดรถที่มีอยู่จุดเดียวที่อาคาร B จอดได้บริเวณชั้น 1-4 ของอาคาร คิดเป็น 220 คันหรือประมาณ 36% ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน การแยกอาคารจอดรถไว้แบบนี้ช่วยทำให้ส่วนของที่พักด้านในมีความสงบและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นด้วย

นอกจากที่จอดรถแล้ว บริเวณอาคาร B ยังมีจุดรับ-ส่งของ Shuttle Bus รอรับลูกบ้านอยู่ เพื่อไปส่งที่สถานีไทรม้า โดยจะมีช่วงเวลาวิ่ง ดังนี้

วันจันทร์-ศุกร์ เริ่ม 6.30 - 18.00 น.

วันเสาร์-อาทิตย์ 7.30 - 18.00 น.

*รถจะออกทุกๆ 30 นาที

ด้านในลานจอดรถมีทั้งทางขับรถและด้านข้างมีการทำช่องบันไดสำหรับให้ลูกบ้านใช้เดินขึ้น-ลงได้ด้วย

สำหรับใครที่มีแขกมาเยี่ยมเยือนบ่อยๆ แนะนำให้ใช้บริการล็อบบี้ใต้อาคาร B ซึ่งอยู่ด้านหน้าโครงการพอดี

บรรยากาศภายในล็อบบี้ตกแต่งมาในสไตล์ Luxury ดูหรูหรา ทำฝ้าสูง เหมาะสำหรับใช้นั่งรับแขกและนั่งพักผ่อนในช่วงวันหยุด (มองออกไปด้านนอกจะเห็นพื้นที่ฝั่งตรงข้ามที่เป็น Sale Gallery ของโครงการ)

ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นจุดประชาสัมพันธ์และโซนห้องน้ำสาธารณะ ส่วนโถงลิฟต์ของอาคารจะแยกออกไป นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ห้องสมุดที่สามารถมานั่งอ่านหนังสือ ทำงานหรือว่าประชุมงานได้อีกด้วย

พ้นจากอาคาร B มาให้เลี้ยวขวาจะเจอกับวงเวียนต้นไม้ ซึ่งเป็นจุด Drop off รับ-ส่งผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังเป็นจุดเชื่อมต่อเข้าสู่อาคารอื่นๆ และเชื่อมถึงพื้นที่ส่วนกลางหลักที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ส่วนกำแพงของโครงการนั้นสร้างมาให้สูงถึง 3 เมตร เพื่อความปลอดภัย และไม่ลืมที่จะเพิ่มเติมพื้นที่สีเขียวด้วยต้นไผ่ปลูกเป็นแนวยาวขนานไปตามผนัง ซึ่งเข้ากับคอนเซ็ปต์ของโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ ได้เป็นอย่างดี

มองจากวงเวียนต้นไม้มาจะเจอเข้ากับทางเข้าอาคาร C ที่อยู่ทางขวามือ อาคาร C จะหันหน้าอาคารในแนวตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งรับลม รับแดดช่วงเช้าได้ดี

และนี่คือหนึ่งในความพิเศษของโครงการ เมโทรลักซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro Luxe Riverfront Rattanathibet) ที่ออกแบบล็อบบี้ของแต่ละอาคารมาให้แตกต่างกัน อย่างอาคาร C ที่ออกแบบให้ล็อบบี้เปิดโล่งด้วยระเบียงกระจก สัมผัสกับบรรยากาศริมสระและวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิดได้แบบไร้ขอบเขต

และในแต่ละอาคารจะมี Mail Box ที่แยกจดหมาย, แยกเอกสารต่างๆ ให้ตามหมายเลขห้อง

คอนโด Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ คำนึงถึงความปลอดภัยด้านอัคคีภัยโดยมีการติดตั้งชุดดับเพลิงให้ในทุกชั้น ทุกอาคาร ทั้งด้านในและด้านนอก

ส่วนโถงทางเดินภายในอาคารจะออกแบบมาให้อารมณ์คล้ายกับโรงแรมหรือรีสอร์ท มีช่องแสงอยู่บริเวณหัว ท้ายและกลางอาคาร ระหว่างทางเดินจะเปิดไฟสีส้มเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับทางเดินมากขึ้นด้วย

1 วันกับการพักผ่อนบนคอนโดหรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เข้ามายังส่วน Facilities กันแล้ว...ใครที่มาอยู่ที่ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ รับรองเลยว่า มีกิจกรรมให้ทำมากมายตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ลองมาดูกันดีกว่าว่า เราจะใช้ชีวิต 1 วันได้แบบไม่มีเบื่อที่คอนโดนี้ได้อย่างไรกัน ?

เปิดรับเช้าวันใหม่ที่ Club House ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการนั่งเล่นรับแสงแดดยามเช้าที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ที่ Club House (ตั้งอยู่บริเวณอาคาร D) ซึ่งด้านในแยกออกเป็น 2 ชั้น ประกอบด้วยล็อบบี้นั่งเล่น ฟิตเนส ห้องน้ำแยกชาย-หญิง และห้องซาวน่า

ล็อบบี้ของ Club House ในชั้น 1 สามารถ Take View แม่น้ำเจ้าพระยาและสระว่ายน้ำได้แบบเต็มตา

ออกกำลังกายรับวันใหม่กันที่ Riverfront Fitness ฟิตเนสริมน้ำบนชั้น 2 มีเครื่องเล่นให้ครบครันทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่องปั่นจักรยาน และเครื่องเล่นเวทต่างๆ นอกจากนี้ยังมีห้องซาวน่าแยกชาย-หญิงไว้ให้ใช้บริการ พร้อมมี Locker สำหรับเก็บของให้ด้วย

ช่วงสายออกกำลังกายกับสระว่ายน้ำสไตล์รีสอร์ท

ช่วงสายหน่อยๆ ลองมาออกกำลังกายกันแบบชุ่มฉ่ำที่สระน้ำของโครงการ ซึ่งสระนี้ออกแบบมาเป็นรูปทรงฟรีฟอร์ม โอบล้อมตัวอาคารไว้ยาวทั้งหมดประมาณ 200 เมตร พื้นที่ใหญ่กว่า 1,000 ตร.ม. พร้อมมี Jacuzzi และ Kids Pool แยกให้ด้วย

ส่วนทางเดินด้านข้างจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิกลายไม้ และยังเพิ่มความร่มรื่นด้วยต้นไม้รอบๆ สระอีกหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นต้นลีลาวดี, ต้นปาล์ม, ต้นหมากรวมถึงไม้พุ่มไม้ดอก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ไม้ที่เห็นตามรีสอร์ทสวยๆ ซะส่วนใหญ่

พิเศษสำหรับห้องพักในชั้น 1 ที่ติดกับสระน้ำ ห้องทั้งหมดจะเป็นแบบ pool access คือสามารถเปิดประตูระเบียงออกมาสู่สระว่ายน้ำได้เลย

ด้านข้างสระมีเก้าอี้สไตล์รีสอร์ทวางไว้ให้นั่งพักชมบรรยากาศรอบๆ ได้แบบเพลินๆ

บางจุดจะมีการติดตั้งน้ำพุเอาไว้ เวลาเปิดก็จะได้ยินเสียงน้ำไหล ช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ที่เหมาะกับการพักผ่อนได้อีกทาง

ช่วงกลางของโครงการซึ่งเป็นโซนทางเข้าล็อบบี้อาคารจะมี cover way ระแนงเหล็กตั้งอยู่ ช่วยสร้างเส้นสายและเน้นจุดสำคัญของบริเวณทางเข้าอาคารได้เป็นอย่างดี

ส่วนมุมด้านหน้าสระจะติดกับสวนสาธารณะและวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สระนี้จะมีหน้ากว้างประมาณ 6 เมตร take วิวกันได้แบบเต็มๆ

ช่วงบ่าย นั่งกินลมชมวิวกันที่ Feature Pavilion ศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยา

Feature Pavilion เป็นศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยาสร้างในสไตล์ไทย ตั้งค่อนมาทางด้านหน้าอาคาร G ในช่วงบ่ายๆ ของวันที่แดดเริ่มคล้อยสามารถมานั่งรับลมจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ยันเย็น

วิวของแม่น้ำเจ้าพระยาจากมุมศาลา มองออกไปเห็นท่าเรือของโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

เราสามารถเดินลงมายังท่าเรือได้จากศาลาริมน้ำได้เลย ในเวลาบ่ายๆ เย็นๆ ลมค่อนข้างดี ใช้เป็นจุดถ่ายรูปก็ได้ รับรองว่า จะได้ภาพที่สวยงามสมกับการอยู่อาศัยในคอนโดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว

สัมผัสบรรยากาศยามเย็นที่ Riverfront Garden สวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ถึงช่วงเย็นแล้วต้องอย่าพลาดออกมาเดินเล่นรับลม พร้อมชมวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ Riverfront Garden สวนสาธารณะรูปทรงฟรีฟอร์มกว้าง 1,400 ตร.ม. ที่ทางคอนโดออกแบบมาเป็นทรงโค้งล้อกับความพลิ้วไหวของสายน้ำ พร้อมตกแต่งสวนโดยรอบด้วยต้นปาล์มใหญ่

ทิวทัศน์จากโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ มองออกไปจะเจอกับสะพานพระนั่งเกล้า ชมวิวกันแบบพาโนรามา ยิ่งในช่วงพลบค่ำเริ่มจะเปิดไฟดูแล้วระยิบระยับสวยงามมาก

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้นั่งเล่น ซึ่งดีไซน์มาให้มีรูปทรงโค้งมนดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

ส่วนเฉลียงบริเวณหน้าอาคาร D ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ Club House ที่ทางโครงการออกแบบมาให้เป็น Amphitheater ขั้นบันไดไล่ระดับลงไป และยังสร้างทางลาดไว้ให้วีลแชร์สามารถเข็นรถขึ้นไปใช้งานที่ Cub House ได้โดยตรง เหมาะอย่างยิ่งกับการดื่มด่ำภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยายาวๆ ในช่วงหมดวัน

สำหรับห้องตัวอย่างที่ทางโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ เปิดให้เข้าชมจะมีทั้งหมด 3 type ดังนี้

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.60 ตร.ม.
• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม.
• 2 Bedrooms Combine พื้นที่ใช้สอย 58 ตร.ม.

1 BR 26.60 Sq.m. :

เริ่มต้นกันที่ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.5 - 28.5 ตร.ม. เป็นห้องที่จำนวนยูนิตมากที่สุดของโครงการ ใครที่อยากได้คอนโดห้องขนาดพอเหมาะเก็บไว้สำหรับพักตากอากาศห้องนี้ถือว่าเหมาะ เพราะโครงการขายแบบ Fully Fitted สามารถเลือกตกแต่งเองได้ตามใจ (ทางโครงการจะแถมชุดครัว เครื่องปรับอากาศ ชุดสุขภัณฑ์และวอลเปเปอร์มาให้)

ส่วนการจัดโซนของห้องจะแบ่งเป็นส่วนของงานระบบอย่างครัวและห้องน้ำไว้ด้านหน้า และส่วนพักผ่อน อย่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนไว้ด้านหลัง เพื่อให้เหมาะกับการพักผ่อนมากที่สุด

เมื่อเปิดประตูเข้ามาส่วนแรกที่เห็นจะเป็นพื้นที่ครัวแบบเปิด เชื่อมต่อยาวไปถึงพื้นที่ห้องนั่งเล่น ถัดไปจะเป็นพื้นที่ระเบียง ทำหน้าที่เป็นช่องแสงธรรมชาติและเป็นชุดชมวิวได้ในตัว จากพื้นถึงฝ้าสูงประมาณ 2.5 เมตรตามมาตรฐานห้องทั่วไป ส่วนไฟในห้องจะได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ ผนังห้องจริงจะแถมวอลเปเปอร์มาให้ด้วย

มองจากมุมห้องครัวจะเห็นว่า ห้องนอนนั้นกั้นแยกออกไปเพื่อให้เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบเป็นส่วนตัว สำหรับห้อง 1 ห้องนอนทางโครงการจะแถมเครื่องปรับอากาศมาให้ 2 ตัวติดตั้งบริเวณห้องนั่งเล่นและห้องนอนให้อย่างละ 1 ตัว

สำหรับชุดครัวจะเป็นครัวสำเร็จรูปจาก RCD ติดตั้งมาแบบ Built-in ด้านบนจะเป็นชั้นลอยสำหรับวางของ มีอ่างล้างจานแบบหลุมเดี่ยวพร้อมที่พักจานมาให้ และอีกด้านที่เหลือจะเป็นพื้นที่ให้วางเตาไฟฟ้า ส่วนไมโครเวฟจะมีช่องให้วางได้ด้านล่าง เพื่อให้สะดวกต่อการหยิบยกอาหารออกจากเตา

มุมห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียง สามารถเปิดรับลม ชมวิวได้สบายๆ ระยะห่างจากโซฟาไปถึงชั้นวางทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 เมตร เป็นระยะที่ติดตั้งทีวีขนาด 42 นิ้วได้สบายๆ

สำหรับคุณแม่บ้านที่ชอบการประกอบอาหารเป็นชีวิตจิตใจก็สามารถทำพาร์ทิชันกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวได้ เพราะทางโครงการออกแบบพื้นที่เชื่อมต่อไว้ค่อนข้างกว้าง

พื้นห้องในแต่ละพื้นที่จะใช้วัสดุต่างกัน โดยห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องพอร์ชเลนสีเทาขนาด 60x60 ซม. ที่เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย ส่วนห้องนั่งเล่นจะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตสีอ่อนเพื่อความสวยงาม

มองจากมุมห้องนั่งเล่นย้อนกลับไปยังห้องครัว จะเห็นความโปร่งโล่งของห้อง หากใครไม่ได้คิดจะกั้นครัวแยกออกไป บริเวณพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างสองพื้นที่อาจจะจัดเป็นมุมทำงานเล็กๆ หรือมุมทานอาหารน่ารักๆ ก็ได้เหมือนกัน

ประตูระเบียงห้องจะเป็นแบบอะลูมิเนียมสีดำลูกฟัก กระจกเขียวตัดแสงช่วยลดความร้อนในห้องได้ ส่วนพื้นระเบียงจะทำการลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย เพื่อกันน้ำจากด้านนอกไหลย้อนเข้ามาด้านในห้อง

ออกมาชมวิวด้านนอกระเบียงกัน พื้นที่ระเบียงด้านนอกจะปูด้วยกระเบื้องขนาด 40x40 ซม. คอมเพรสเซอร์แอร์จะหันหน้าออกด้านนอก ทำให้ระเบียงไม่ร้อนสามารถออกมายืนแฮงค์เอาท์ด้านนอกได้สบายๆ

เข้ามาดูส่วนห้องนอนกันต่อ โครงการจะจัดพื้นที่ห้องนอนมาให้ดูกว้างและเป็นส่วนตัวมากเป็นพิเศษ ด้านในห้องจะปูเป็นพื้นไม้ลามิเนตเชื่อมต่อเนื่องจากพื้นห้องนั่งเล่นเข้าไปเลย

ห้องนอนกว้างมากพอให้วางเตียงขนาดควีนไซส์ได้ ด้านข้างและด้านปลายเตียงเหลือพื้นที่ให้เดินผ่าน มีหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบานฟิกซ์เป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ห้องดูสว่างและมองเห็นวิวด้านนอกได้ชัดเจน

หรือวันไหนอากาศดีๆ หน่อยอาจจะเปิดรับลมระบายอากาศ ให้แสงแดดส่องเข้ามาในตัวห้อง ซึ่งช่วยลดความอับชื้นและฆ่าเชื้อโรคได้อีกวิธีหนึ่ง

หันกลับมาดูฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่ว่างสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ ถัดไปจะเป็นห้องน้ำส่วนตัวมีสุขภัณฑ์ของ Cotto มาให้ และแยกโซนเปียก-โซนแห้งมาให้ครบถ้วน

ราคาห้องขนาด 25.5 - 28.5 ตร.ม. จะเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านบาท เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องกว้างๆ และปลอดโปร่ง มีห้องครัวที่สามารถกั้นแยกได้ และต้องการแบบห้องนอนที่เป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นด้วยการกั้นแยกออกไปจากส่วน Living Area

1 BR 29 Sq.m. :

ห้องที่ 2 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. ขนาดขยับขึ้นมาจากแปลนห้องแบบแรกเล็กน้อย แต่การจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ยังเหมือนเดิม คือ แยกโซน Private - Public ออกจากกันชัดเจน และให้ความเป็นส่วนตัวกับการพักผ่อนในห้องนอนเป็นหลัก

โดยห้องนอน จะติดตั้งประตูเปิด-ปิดมิดชิด เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย มีห้องรับแขกอยู่ด้านนอก ไว้สำหรับการผ่อนคลายและต้อนรับเพื่อนฝูง ซึ่งเชื่อมต่อติดกันกับระเบียงที่เปิดออกไปรับลมได้ นอกจากนี้อีกฝั่งยังเชื่อมกับห้องครัว ส่วนห้องน้ำจะหลบอยู่ข้างในห้องนอนสะดวกสำหรับคนอยู่อาศัยที่ชอบเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ตอนกลางคืน

เริ่มกันสำรวจห้องกันที่ประตูทางเข้า โครงการเลือกให้เป็นประตูกรุลามิเนตสีเข้ม มีการติดตั้งตาแมวเพื่อความปลอดภัย ส่วนด้ามจับประตูจะเป็นด้ามก้านโยกเขาควายพร้อมตัวล็อก แต่ถ้าใครคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักแนะนำให้ติดตั้งเป็น Digital Door Lock เพิ่มก็ได้เพื่อความสบายใจ

ส่วนด้านข้างประตูจะเป็นตู้ไฟ Load center ยี่ห้อ Schneider Electric อยู่ในระดับความสูงที่ใช้งานสะดวก

ติดกับประตูทางเข้าจะเป็นพื้นที่ห้องครัว ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวติดผนังพร้อมก๊อกน้ำและอ่างล้างจานหลุมเดี่ยวสำเร็จรูปจาก RCD บานประตูตู้เป็นแบบ Soft close มีจุดให้วางเตาไมโครเวฟได้ด้านล่าง

ด้านหลังผนังจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวมาให้ ใครชอบทำอาหารอาจจะติด Back Splash หรือผนังกันเปื้อนด้านหลังชุดครัวกันคราบเปื้อนเพิ่มก็ได้

ถัดจากห้องครัวจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ดูโปร่ง นั่นก็เพราะการเลือกสีสำหรับการตกแต่งที่เข้ากับพื้นไม้ลามิเนตอย่างโทนน้ำตาล, เทา รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ซึ่งเป็นหลักในการตกแต่งที่จะช่วยทำให้ห้องดูกว้าง ใครลองนำไปใช้ รับรองเลยว่าจะได้ห้องสวยๆ ตามแบบห้องตัวอย่างแน่นอน

สำหรับพื้นที่ห้องนั่งเล่นนั้นกว้างพอให้วางโซฟา 2 ที่นั่ง และชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้ แต่ถ้าใครเป็นคอหนังอาจจะลองเปลี่ยนโซฟาเป็นแบบ Day bed ที่สามารถเอนตัวนอนแบบสบายๆ ได้เลย หรือถ้าใครอยากได้มุมทำงานดีๆ ก็อาจจะเปลี่ยนมุมทานข้าวเป็นมุมทำงานไปด้วยเลยก็ได้เช่นกัน

พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะปูด้วยวัสดุต่างกัน คือ ห้องครัวปูด้วยกระเบื้องพอร์ชเลนสีเทาขนาด 60x60 ซม. ที่ทนทานกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ทั่วไป ส่วนห้องนั่งเล่นปูด้วยลามิเนตลายไม้โทนสีอ่อน ซึ่งเป็นพื้นสีที่ง่ายต่อการตกแต่งห้อง และด้านขวามือที่เห็นเป็นประตูนั้นจะเป็นห้องนอนที่แยกออกไปเพื่อความสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ระยะห่างระยะทีวีจนถึงโซฟาของห้องจะอยู่ที่ 1.7 เมตร สามารถติดตั้งชั้นวางทีวีติดผนังได้แต่ความกว้างไม่ควรเกิน 35 ซม. ส่วนทีวีก็เลือกเป็นขนาดไม่เกิน 47 นิ้วกำลังพอดีกับระยะสายตาของคนเรา

ส่วนเรื่องแสงสว่างก็ไม่ต้องกังวลเพราะห้องมีช่องแสงเป็นประตูระเบียงบานเลื่อน ห้องจึงสว่างในช่วงกลางวัน เรื่องไอร้อนก็ไม่มีปัญหาเพราะโครงการติดตั้งกระจกสีเขียวตัดแสงที่ช่วยลดความร้อนมาให้เรียบร้อย

แอบดูนอกระเบียงกันหน่อย ระเบียงห้องจะเป็นอะลูมิเนียมพ่นสีี มีระเเนงบังสายตาบริิเวณคอมเพรสเซอร์ให้ด้วย

ขยับเข้ามาดูพื้นที่ห้องนอนกันต่อ ห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆ ที่สามารถตกแต่งได้เอง ทางโครงการจะแถมแอร์ติดตั้งมาให้ในห้องนอน 1 ตัวและห้องนั่งเล่นอีก 1 ตัว ส่วนไฟจะเป็นดาวน์ไลท์ มีตัวตรวจจับสัญญาณควันไฟมาให้ด้วย

ขนาดของห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้กำลังพอดี ด้านข้างและบริเวณปลายเตียงมีปลั๊กไฟ สามารถหาอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง ทีวี โคมไฟสวยๆ มาติดตั้ง เพื่อเพิ่มอำนวยความสะดวกภายในห้องได้มากยิ่งขึ้น

บริเวณหัวเตียงเองก็กว้างพอให้วางชั้นเก็บของเล็กๆ เพื่อใช้ตกแต่งและใช้เก็บของได้จริง

ติดกันนั้นเป็นหน้าต่างบานใหญ่พร้อมเปิดรับแสงจากธรรมชาติ ช่วยให้ห้องนอนกว้างมากขึ้น แต่ถ้าใครไม่ชอบแสงจ้ามากก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ติดม่านสองชั้นที่ทั้งกันแสงและกันยูวีได้ด้วย

มองไปอีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนจะเป็นทางเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนหน้านั้นจะเป็นพื้นที่ว่าง สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ ขอแนะนำให้เลือกซื้อตู้แบบบานสไลด์ เพราะจะช่วยประหยัดพื้นที่ในการเปิด-ปิดตู้ได้ค่อนข้างมาก หรือถ้าจะให้ครบจบในตัวเดียวก็เลือกกรุหน้าบานด้วยกระจกไปเลยเหมือนในห้องตัวอย่าง เพราะสามารถใช้แต่งตัวก่อนออกไปทำงานได้เลยโดยไม่ต้องซื้อโต๊ะเครื่องแป้งแยกชิ้น

ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. เป็นห้องไซส์กลางๆ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3.79 ล้านบาท เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ห้องขนาดพอเหมาะ เน้นเรื่องการพักผ่อนแบบที่เป็นสัดส่วนและเงียบสงบเป็นหลัก

2 BR 58 Sq.m. :

สำหรับห้องแบบ 2 Bedrooms Combine พื้นที่ใช้สอย 58 ตร.ม. ถือเป็นห้องไซส์ใหญ่ของโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ เลยก็ว่าได้ รูปแบบห้องจะเป็นห้อง Combine จัดฟังก์ชันห้องได้ต้นแบบมาจากทาวน์โฮม แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนงานระบบและส่วนพักผ่อนออกจากกันเป็นสัดส่วน

ห้องนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การเปิดพื้นที่ส่วนของห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ และสามารถรองรับสมาชิกครอบครัว 3-4 คนได้สบายๆ

เปิดประตูห้องเข้าไปจะเจอกับครัวเป็นส่วนแรก โครงการทำพื้นที่ให้สามารถกั้นพาร์ทิชันแยกได้ ครัวจะปูพื้นด้วยกระเบื้องพอร์ชเลนที่ทนน้ำและเช็ดล้างได้ง่าย

ถ้าหากมองตรงไปจะเห็นส่วนห้องนั่งเล่นที่กว้างมากพอให้จัดปาร์ตี้หรือทำกิจกรรมได้แบบหลากหลาย เหมาะสำหรับคนมีครอบครัวที่อยากได้คอนโดห้องใหญ่ที่สามารถใช้เวลาอยู่ร่วมกันได้แบบเต็มที่จริงๆ

*สำหรับห้อง 2 ห้องนอนจะพิเศษหน่อยตรงที่ห้องจริงจะมีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแถมมาให้ด้วย

บริเวณกำแพงตรงเคาน์เตอร์จะมีปลั๊กไฟไว้สำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ท็อปครัวจะปิดผิวด้วยลามิเนตสีขาว ส่วนผนังจะฉาบเรียบทาสีมาให้ สำหรับคนที่ทำอาหารเป็นประจำขอแนะนำให้กรุกระเบื้อง หรือติดแผ่นกระจก, แผ่นพลาสติก เพื่อป้องกันคราบสกปรกที่จะเปื้อนเลอะผนัง

ติดกับประตูอีกฝั่งจะเป็นที่วางเครื่องซักผ้า ทางคอนโดทำท่อและติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้แล้ว

เงยหน้าขึ้นดูด้านบนจะเห็นว่ามีตัวสัญญาณตรวจจับควันไฟไว้ให้ทุกห้อง เพื่อความปลอดภัยซึ่งปกติอาคาร Low rise จะไม่ค่อยติดตั้งให้ ส่วนไฟในห้องจะเป็นไฟดาวน์ไลท์ตามภาพ

จากครัวมองตรงไปจะเจอกับห้องนั่งเล่น ถัดไปจะเป็นส่วนของห้องพักที่แยกออกไปเพื่อความเป็นส่วนตัว

บริเวณห้องนั่งเล่นสามารถแบ่งพื้นที่ด้านหน้าไว้สำหรับวางโซฟาและติดตั้งทีวี ส่วนด้านหลังอาจจะจัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร หรือจะใช้วางโต๊ะทำงานก็เหมาะ เพราะอยู่ใกล้ช่องแสงที่เป็นระเบียงขนาดใหญ่ เวลานั่งทำงานจะได้ไม่เสียสายตา

มุมอเนกประสงค์เชื่อมต่อถึงระเบียงที่สามารถเปิดออกไปรับลมด้านนอกได้ โดยประตูจะเป็นบานเลื่อนเปิดออกได้ด้านเดียว

ตัวล็อกประตูเป็นแบบเซาะร่องต้องใช้นิ้วสอดกดด้านใน แต่ก็มีตัวล็อกก้นหอยด้านข้างบาน เสริมเรื่องความปลอดภัยให้อีกชั้นหนึ่ง

ประตูระเบียงจะเป็นกระจกสีเขียวตัดแสงได้ดี กรอบเป็นอะลูมิเนียมสีดำ มีการลดระดับพื้นด้านนอกให้ต่ำกว่าด้านในเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำฝนสาดหรือไหลย้อนเข้าสู่ตัวห้องด้านใน

พื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30x30 ซม. เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ส่วนราวกันตกนั้นสูงประมาณ 1 เมตรตามมาตรฐานความปลอดภัย ตรงผนังแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์หันออกนอกอาคารมีระแนงบังสายตาเพื่อความเรียบร้อย และมีก๊อกน้ำไว้สำหรับซักล้างด้านนอกให้ด้วย

จุดนั่งเล่นเองก็พื้นที่กว้างขวางสามารถวางโซฟาตัวยาวแบบ 3 ที่นั่งหรือจะวางโซฟา Day Bed ได้ ด้านระยะห่างจากโซฟา-ทีวีจะอยู่ที่ 2 เมตร สามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้เลย

*ทางโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ ติดตั้งแอร์มาให้ 1 จุดในบริเวณห้องนั่งเล่น พร้อมติดวอลเปเปอร์มาให้ด้วย

ส่วนแสงสว่างก็ได้มาจากช่องแสงซึ่งเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ผสมบานกระทุ้ง เปิดออกรับลมด้านนอกได้ดี

ตรงข้ามกับโซนนั่งเล่นจะเป็นห้องน้ำรับแขก ซึ่งห้องนี้จะมีห้องน้ำให้ทั้งหมด 2 ห้อง คือในห้องนอนและห้องนั่งเล่น ด้านในห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งให้ พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์ของ Cotto มาให้ครบชุด

เข้ามาชมภายในห้องน้ำกันสักนิด พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย ติดขอบธรณีประตูด้วยคิ้วลามิเนตสีเดียวกับพื้นห้องนั่งเล่น เพื่อกันน้ำไหลย้อนออกมานอกห้อง ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 40x40 ซม. กันลื่นได้ดี

สำหรับอ่างล้างหน้าจะเป็นแบบเคาน์เตอร์แขวนกับผนัง ตัวอ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าดูโมเดิร์น ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำจาก Cotto ด้านล่างอ่างสามารถเปิดออกมาใช้เพื่อเก็บของใช้ส่วนตัวได้ ส่วนกระจกก็ได้มาขนาด 0.8x1 เมตร กว้างพอให้ส่องเห็นแบบครึ่งตัว

ผนังของห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 20x40 ซม. เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย มุมหนึ่งของห้องจะติดตั้งราวแขวนผ้ามาให้ ส่วนมุมสุขภัณฑ์ก็ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่นั่งทำธุระสบาย เพราะมีระยะหน้าชักโครกเหลือค่อนข้างเยอะ นั่งทำธุระได้แบบไม่ติดขา ส่วนด้านข้างติดตั้งสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชูมาให้ครบ หยิบใช้งานได้สะดวก

สำหรับโซนเปียกจะอยู่ด้านใน โดยทุกห้องน้ำของคอนโด Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ จะกั้นฉากกระจกมาให้เพื่อป้องกันน้ำกระเด็น และมีปุ่มยางช่วยลดแรงกระแทกเวลาเปิด-ปิดให้ นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้ก่อปูนปูกระเบื้องไว้ให้ผู้สูงอายุ เด็กหรือสาวๆ ได้ใช้นั่งเวลาอาบน้ำหรือขัดตัวได้ด้วย

ส่วนฝักบัวจะเป็นแบบ Hand Shower ของ Cotto ด้านข้างเตรียมระบบทำน้ำอุ่นมาให้สามารถซื้อตัวเครื่องมาติดตั้งได้เลย

เข้าสู่ส่วนพักผ่อนที่จัดแยกออกมาเป็นสัดส่วนเพื่อการนอนหลับได้อย่างเต็มที่ เริ่มต้นกันที่ห้องนอนเล็กที่อยู่ใกล้กับห้องนั่งเล่นกันก่อน

สำหรับห้องนอนเล็กขนาดห้องก็กว้างพอประมาณ สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ เหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนของลูกๆ แต่ถ้าใครที่ไม่ได้มีบุตรหลานอาจจะเปลี่ยนห้องนี้เป็นห้องทำงาน หรือห้องดูหนังแทนก็ได้

พื้นที่ด้านข้างเตียงกว้างพอให้ Built-in ชั้นวางของใช้เก็บหมอนผ้าห่มสำรอง ผ้าปูเตียง หรือใช้วางของตกแต่งก็ดูเป็นการเพิ่มสีสันให้กับห้องได้อีกทางหนึ่ง

บริเวณปลายเตียงจะมีจุดปลั๊กไฟให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังได้ด้วย

และในทุกห้องจะมี Door Stopper ไว้ให้สำหรับกันกระแทก ป้องกันเสียงดังและการเกิดรอยบนกำแพงเวลาเปิด-ปิดประตู

มาถึงส่วนสุดท้ายของห้องกันแล้วกับ Master Bedroom ห้องนอนขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว สะดวกสบายสำหรับคนอยู่อาศัยที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ซึ่งห้องน้ำก็ให้มาขนาดเดียวกันกับห้องน้ำด้านนอก เพียงแต่กลับด้านกันเท่านั้น

ห้องนอน ถือเป็นหัวใจหลักของห้อง เพราะฉะนั้นต้องเน้นความโปร่งโล่งด้วยการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และการใช้สีในการตกแต่ง อย่างห้อง Master Bedroom กว้างพอจะวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้สบายๆ แต่ถ้าอยากเหลือพื้นที่ไว้สักหน่อยวางแค่ควีนไซส์ก็กำลังพอดี จะได้เหลือที่ด้านข้างสำหรับตกแต่งเพิ่มเติมได้ด้วย

คอนโด Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ ให้เครื่องปรับอากาศมาห้องละตัว ส่วนผนังจะปิดด้วยวอลเปเปอร์ แต่ถ้าใครอยากเสริมให้ห้องดูกว้างอาจจะเลือกกรุกระจกที่ผนังแทนเหมือนห้องตัวอย่างนี้ก็ได้

โครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ สร้างความพิเศษเสริมเข้ามาอีกด้วยการทำระเบียงส่วนตัวที่สามารถเปิดออกได้จาก Master Bedroom เลย

ด้านบนเพดานระเบียงจะติดไฟแบบหลอดตะเกียบพร้อมที่ครอบมาให้ ส่วนพื้นระเบียงก็ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา มีก๊อกน้ำมาให้ด้วยหนึ่งจุด

มองย้อนจากฝั่งระเบียงไปในห้องจะเป็นพื้นที่แต่งตัว ทำออกมาเป็น Walk-in Closet เล็กๆ เพียงแค่เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเลี้ยวขวาก็สามารถยืนแต่งตัวได้เลย โดยไม่ต้องเดินผ่านเตียงนอน

ห้อง Combine ของคอนโด Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ จะสามารถเปิดประตูจากห้องนอนตรงสู่โถงทางเดินได้เลยโดยไม่ต้องเดินออกไปยังโซนด้านนอกให้เสียเวลา

มาดูโซนแต่งตัวกันบ้าง ตรงนี้มีพื้นที่กว้างพอให้วางตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ขนาดใหญ่ๆ ได้เลย เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชอบแต่งตัว หรือคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันแบบครอบครัวและต้องใช้ตู้เสื้อผ้าใบเดียวกัน

แต่ถ้าใครกลัวไม่พออีกฝั่งยังเหลือพื้นที่อาจจะทำเป็นตู้เสื้อผ้าเพิ่มอีกสักใบ หรือใครที่มีเครื่องประทินผิวเยอะๆ แนะนำให้จัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งแทน

เรียกว่า ทุกมุมของห้องสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ใช่ ห้องแบบ 2 Bedrooms Combine พื้นที่ใช้สอย 58 ตร.ม. จึงเหมาะสำหรับคนมีครอบครัวที่อยากได้ห้องขนาดใหญ่ มองเห็นวิวสวยๆ ได้จากทุกมุมห้อง และสามารถตกแต่งเองได้ตามใจชอบ มีงบประมาณในการตกแต่งเพิ่มเติมได้เอง โดยราคาของห้องนี้จะเริ่มต้นที่ 5.1 ล้านบาท

คอนโด Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่บนทำเลไทรม้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทำเลของบ้านหรือทาวน์โฮมแนวราบ แต่ตั้งแต่มีรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงตัดผ่านก็มีคอนโดหลายโครงการเข้ามาจับจองที่ดินในย่านนี้ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นการสร้างติดถนนใหญ่ แต่ Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ จะเน้นไปที่วิวริมแม่น้ำและความเป็นส่วนตัวในสไตล์รีสอร์ทเหมาะกับคนเมืองที่อยากได้ที่พักตากอากาศดี ๆ สักที่ไว้พักผ่อนแบบที่ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการจะอยู่แถบเส้นรัตนาธิเบศร์บริเวณแยกแคราย หรือบริเวณแยกบางใหญ่ ขับรถไปได้ไม่กี่นาทีก็ถึง ยกตัวอย่างสถานที่สำคัญรอบโครงการ เช่น

• รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีไทรม้า ห่างจากโครงการ 1.7 กม.
• ทางด่วนศรีรัช-วงแหวน ห่างจากโครงการ 2.5 กม.
• เซ็นทรัลพลาซ่า รัตนาธิเบศร์ ห่างจากโครงการ 4 กม.
• Big C รัตนาธิเบศร์ ห่างจากโครงการ 4.2 กม.
• เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต ห่างจากโครงการ 9 กม.
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ห่างจากโครงการ 9.2 กม.

อยู่ Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ เดินทางง่าย สบายหายห่วง

แผนที่เส้นทางจาก Google Map

ตัวโครงการ เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro luxe Riverfront Rattanathibet) ตั้งอยู่ในซอยไทรม้า 7 (จุด A) ที่สามารถทะลุออกไปยังซอยไทรม้า 3 ไปยังถนนท่าอิฐ-ไทรม้า (จุด B) เพื่อขับออกไปสู่ถนนราชพฤกษ์ได้ (จุด C) ก็ถือว่าสะดวกสำหรับคนที่ทำงานในเมือง เพราะสามารถใช้ถนนราชพฤกษ์ ในการเดินทางไปยังสาทรและสีลมได้ด้วย

ส่วนระยะจากโครงการ Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ มายังถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งเป็นถนนหลักที่ใช้ในการเดินทางจะอยู่ที่ประมาณ 900 เมตร (เป็นระยะที่สะดวกถ้าหากใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง)แต่ถ้านับจากตัวโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีไทรม้า จะอยู่ที่ประมาณ 1.7 กิโลเมตร (การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจะสะดวกสำหรับคนที่ทำงานในเมือง เพราะ MRT สายสีม่วงจะเชื่อมต่อเข้ากับ MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีเตาปูนเพื่อเข้าสู่ย่านธุรกิจได้)

ส่วนทางยกระดับก็มีทางพิเศษศรีรัช–วงแหวนรอบนอก ที่คนอยู่ย่านนี้จะสามารถใช้เพื่อประหยัดเวลาของการเดินทางได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ไป Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ ยังไงดี ?

ใครที่ไม่เคยมาย่านรัตนาธิเบศร์อาจจะรู้สึกว่าไกลสำหรับการจะเดินทางมา แต่ถ้าคนที่คุ้นชินกับทำเลในย่านนี้ดีจะรู้สึกว่าการเดินทางนั้นสะดวกสบาย เพราะจากถนนรัตนาธิเบศร์ให้ขับรถตรงมาทางฝั่งเข้าเมืองเรื่อยๆ เลยบริเวณสถานีรถไฟฟ้า ไทรม้ามาให้เตรียมชิดซ้าย ก่อนถึงซอยไทรม้า 7 ด้านหน้าปากซอยจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อโตโตยะเป็นจุดสังเกต หลังจากนั้นให้เลี้ยวเข้าซอยซึ่งเป็นถนน 2 เลนให้รถวิ่งสวนกัน เมื่อขับตรงมาตามถนนเรื่อยๆ จะเจอกับตัวโครงการอยู่ทางขวามือ ด้านหน้าโครงการมีร้าน 7-11 เปิดให้บริการอยู่ เรียกว่า หิวเมื่อไรก็แวะมา อยู่ใกล้กับอาคาร B ของคอนโดแค่ไม่กี่เมตรเท่านั้นเอง

หากขับรถมุ่งหน้าไปยังบางบัวทองให้ขับรถชิดซ้ายและออกทางคู่ขนาน และกลับรถที่บริเวณที่บริเวณสี่แยกไทรม้า

เมื่อกลับรถมาแล้วจะเจอกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีไทรม้า

ถัดจากสถานีไทรม้ามาจะเป็นทางที่มุ่งหน้าไปยังสะพานพระนั่งเกล้า แต่เราจะไม่ขึ้นสะพานให้ขับชิดซ้ายไปตามป้ายจุดกลับรถใต้สะพาน

ซอยไทรม้า 7 จะอยู่บริเวณใต้สะพานกลับรถ ซึ่งเป็นทางรถวิ่งสวนกันได้ เวลาเข้า-ออกโครงการจึงสะดวก

เวลาขับออกมาจากโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ ก็ไม่ต้องกลับรถไปมา เพราะสามารถขับขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าไปยังแคราย หรือจะใช้ทางกลับรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังบางบัวทองได้เลย

ด้านหน้าปากซอยจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ โตโตยะ ราเมน (Totoya Ramen) เป็นจุดสังเกต

ถัดจากร้านอาหารญี่ปุ่นมาจะเป็นปากทางเข้าซอยไทรม้า 7 ด้านหน้ามีป้ายของโครงการ Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ แจ้งบอกไว้ชัดเจน แต่ถ้าขับเลยไปจะเป็นทางกลับรถไปยังบางบัวทอง หรือถ้าขับย้อนสวนเหมือนรถในภาพก็จะสามารถวิ่งขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าได้

ถนนของซอยไทรม้า 7 จะเป็นถนนเล็กๆ หน้ากว้างประมาณ 7 เมตรให้รถวิ่งสวนกันได้ ทางอาจจะคดเคี้ยวสักหน่อยแต่ขับเข้าไปได้ไม่ยาก

ด้านในซอยไทรม้า 7 จะเน้นความเงียบสงบเป็นหลัก สาธารณูปโภคหลักๆ จะมีเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารแพรชาริมน้ำ ร้านขายยาและร้านซักรีดอยู่ใกล้กับโครงการ

วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จะเจอทางโค้ง ตัวคอนโด Metro Luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ จะอยู่ทางฝั่งขวามือ

ส่วนซ้ายมือจะมี Sale Gallery ตั้งอยู่ สามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลของโครงการได้เล

1 วันกับการพักผ่อนรอบ Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

นอกจากการเลือกคอนโดดีๆ ที่ตรงใจ และเลือกทำเล ที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องนึกถึงเลยก็คือ สถานที่สำคัญรอบโครงการ เพราะการมองหาสาธารณูปโภคที่ครบครันไว้จะช่วยให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันง่ายขึ้น

ตัวอย่างเช่น การเลือกอยู่ที่ Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ แห่งนี้ก็มีครบจบในทุกรูปแบบการใช้ชีวิตที่ตามหา เราสามารถออกไปทำกิจกรรมได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำแบบไม่มีเบื่อเลยทีเดียว

สูดความสุขให้ชุ่มปอดกันที่สวนอุทยานมกุฏรมยสราญ

ที่ตั้ง : เทศบาลนครนนทบุรี อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
เวลา : 06.00 – 18.00 น.
โทร : 02-589-0505

แน่นอนว่า สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายพร้อมกับสูดบรรยากาศดีๆ ที่สวนสีเขียวในย่านรัตนาธิเบศร์ก็คงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันทั้งทางกายและทางใจให้ปลอดโปร่ง ซึ่งจากโครงการ Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ สามารถเดินทางมาได้ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว หรือจะนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากสถานีไทรม้า มาลงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรีก็สะดวกรวดเร็วดีเหมือนกัน

เติมความสุขให้เต็มท้องที่ ตลาดกลางบางใหญ่

ที่ตั้ง : เทศบาลนครนนทบุรี อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
เวลา : 06.00 – 18.00 น.
โทร : 02-589-0505

บวกความสุขให้กับใจด้วยหลากหลายห้างสรรพสินค้าพาเพลิน

กลุ่มห้างสรรพสินค้าของย่านรัตนาธิเบศร์

เพิ่มความสุขให้กับการอยู่อาศัยด้วยกลุ่มโมเดิร์นเทรดค้าวัสดุและเฟอร์นิเจอร์

สำหรับขาช็อปฯ ทั้งหลายไม่ควรพลาดกับย่านรัตนาธิเบศร์โดยเฉพาะบริเวณบางใหญ่ ที่เป็นที่ตั้งของร้านเฟอร์นิเจอร์ทั้งเจ้าเล็ก เจ้าใหญ่ มาให้ครบทั้งโฮมโปร โฮมเวิร์ค แกรนด์โฮมมาร์ก เอสบี ดีไซน์สแควร์ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ส่วนในอนาคตอันใกล้นี้ยังจะมี IKEA สาขาที่ 2 ของประเทศไทย เข้ามาเปิดตัว โดยสามารถเดินผ่านจากเซ็นทรัล เวสต์เกตได้อีกด้วย

กลุ่มโมเดิร์นเทรดค้าวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ของย่านรัตนาธิเบศร์

มีความสุขกับธรรมชาติที่ บุญยง ตลาดต้นไม้

ที่ตั้ง : ถนนกาญจนาภิเษก เสาธงหิน บางใหญ่ นนทบุรี
เวลา : 7:00 - 18:00 น.
โทร : 0839130066 

สร้างความสุขยามเย็นที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ปิดท้ายวันด้วยบรรยากาศดีๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยากับร้านอาหารริมน้ำชื่อดังที่มีให้เลือกสรรมากมายหลายเจ้า แถมแต่ละเมนูก็อัดแน่นไปด้วยคุณภาพและรสชาติถูกปากแบบไทยๆ และทีเด็ดของร้านอาหารริมน้ำในย่านนี้คือทะเลเผาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีสร้างความสุขให้ในช่วงวันหยุดดีๆ ให้กับตัวเองและครอบครัว

รวมร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา

วิเคราะห์โครงการ เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro luxe Riverfront Rattanathibet)

จุดเด่นของโครงการ

• เป็นคอนโดหรูในสไตล์รีสอร์ท ที่ออกแบบตัวอาคารที่เป็นแบบสไตล์โมเดิร์น เฮอริเทจ (Modern Heitage) ดูทันสมัย
• ออกแบบฟังก์ชันของห้องลงตัวในดีไซน์หรูหรา ในสไตล์ LUXE LIVING COLLECTION
• มี Facilities ขนาดใหญ่แนวธรรมชาติที่สามารถเข้าถึงได้จากทุกอาคาร
• เป็นคอนโดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มองเห็นวิวแม่น้ำในระยะใกล้
• ตัวคอนโดอยู่ในซอยจึงมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับการพักผ่อน

ทำเลของคอนโด Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

คอนโด เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro luxe Riverfront Rattanathibet) ตั้งอยู่ในซอยไทรม้า 7 ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เป็นคอนโดที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูง การตั้งอยู่ในซอยแบบนี้ช่วยลดความพลุกพล่านและความจอแจ คอนโดจึงมีบรรยากาศใกล้เคียงกับรีสอร์ทที่เหมาะกับการพักผ่อนมากที่สุด

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการจะอยู่แถบเส้นรัตนาธิเบศร์บริเวณแยกแคราย หรือบริเวณแยกบางใหญ่ ขับรถไปได้ไม่กี่นาทีก็ถึง ก็ถือว่าเป็นย่านที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เพราะมีทั้งห้างสรรพสินค้า ตลาดเช้า ตลาดน้ำ วัดวาอาราม สวนสาธารณะ หรือแม้กระทั่งร้านอาหารเจ้าดังติดริมแม่น้ำ ดูเป็นวิถีชีวิตที่อบอุ่นและเรียบง่าย แต่ไม่ได้ห่างไกลจากตัวเมืองเลย

การเดินทางของคอนโด Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

คอนโด Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ มีเส้นทางลัดออกไปยัังถนนสายหลักได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับออกไปยังถนนบ้านท่าอิฐ-ไทรม้า ผ่านซอยไทรม้า 3 แถมยังสามารถขับจากถนนบ้านท่าอิฐ-ไทรม้าไปยังถนนราชพฤกษ์เพื่อออกสู่ตัวเมืองอย่างสาทร-สีลมได้ด้วย

แต่ถ้าออกมายังปากซอยไทรม้า 7 จะเชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์ที่สามารถขับไปทางบางใหญ่ออกจังหวัดสุพรรณบุรี หรือจะวิ่งย้อนไปทางถนนงามวงศ์วาน ยิงยาวเข้าถนนรัชดาภิเษกเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองทางฝั่งพระราม 9 ก็ได้ แต่ในชั่วโมงเร่งด่วนอาจจะต้องเผื่อเวลาเดินทางข้ามสะพานพระนั่งเกล้าเอาไว้บ้าง เพราะรถค่อนข้างเยอะ อาจจะเลี่ยงมาเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีไทรม้าที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีเตาปูนแทน ซึ่งจากโครงการจะมี Shuttle Bus คอยให้บริการรับ-ส่งไปรถไฟฟ้าอยู่ตลอด ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางที่ไกลกว่าระยะเดินได้เลย

แบบห้องของคอนโด Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

โครงการ Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ มีแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

• แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 25.88-33.11 ตร.ม. 
• แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 45.43-67.45 ตร.ม. 
• แบบ 2 ห้องนอน Combine พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 58.10-61.41 ตร.ม. 

ทุกห้องของโครงการขายแบบ Fully fitted (แถมเฉพาะชุดเคาน์เตอร์ครัว แอร์และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ) เหมาะสำหรับคนอยากตกแต่งคอนโดเองในสไตล์ที่ชอบ และเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยการแยกส่วนของห้องนอนออกไปต่างหาก ส่วนห้องครัวก็สามารถทำการกั้นแยกได้ ถ้าหากชอบทำอาหารบ่อยๆ

ส่วนด้านวัสดุให้มาตามมาตรฐานได้ชุดครัวจาก RCD, แอร์ 2-3 เครื่องตามขนาดห้อง, ชุดสุขภัณฑ์จาก Cotto มีการกั้นโซนเปียกและแห้งแยกมาให้เป็นสัดส่วน

สิ่งอำนวยความสะดวกของคอนโด Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

ถือเป็นจุดเด่นของคอนโด เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro luxe Riverfront Rattanathibet) เลยก็ว่าได้กับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ทไม่เหมือนใคร ทางโครงการเน้นความเป็นธรรมชาติของพื้นที่สีเขียวทำให้โครงการดูร่มรื่น รายล้อมรอบสระว่ายน้ำที่ออกแบบมาให้โอบล้อมอาคารเป็นรูปตัว T ที่สามารถเข้าถึงได้จากทุกอาคาร

นอกจากนี้ยังมีี Club House ที่แยกออกเป็นส่วนนั่งเล่น, ซาวน่า, ห้องน้ำแยกชาย-หญิง, ห้องสมุด, ห้องประชุมและฟิตเนส ซึ่งสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ชัดเจน ส่วนอาคาร B จะมีล็อบบี้เพดานสูงเป็นจุดเด่นและอยู่ใกล้อาคารจอดรถ ฝั่งอาคาร C เองก็มีพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำยาวไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยาด้านนอกได้ และมีเซอร์วิสพิเศษสำหรับลูกบ้านด้วยท่าเรือส่วนตัวที่เหมาะสำหรับเป็นจุดชมวิวหรือทำกิจกรรมทางน้ำได้ในวันพิเศษ

ด้านความปลอดภัยเองทางคอนโดมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดทั้งการใช้ CCTV, Access Card ระยะไกล, รปภ. 24 ชั่วโมง และล้อมรั้วรอบโครงการสูงถึง 3 เมตร

ราคาของคอนโด Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์

ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท ดูแล้วอาจจะเป็นเรทราคาที่สูงเมื่อเทียบกับโครงการในย่านนี้ แต่ถ้าเมื่อเทียบกับการที่ได้สัมผัสชีวิตติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปพร้อมกับใช้งานพื้นที่ส่วนกลางในสไตล์รีสอร์ท รวมถึงได้ห้องพักที่เน้นความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำหรือวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากตัวห้อง นอกจากนี้ยังเดินทางสะดวกเพราะที่ตั้งโครงการสามารถลัดเลาะไปยังถนนหลากหลายเส้นได้ ส่วนด้านอาหารการกินก็มีให้เลือกทานค่อนข้างหลากหลายทั้งจากตลาดและห้างสรรพสินค้าชั้นนำก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้และเหมาะจะซื้อไว้สำหรับพักผ่อนหรือเก็งกำไรในระยะยาว 

คอนโด Metro luxe Riverfront รัตนาธิเบศร์ เหมาะกับผู้ที่ทำงาน หรือหาที่พักผ่อนในซอยรัตนาธิเบศร์ถึงบางใหญ่ ต้องการคอนโดที่เดินทางได้ทั้งทางรถยนต์และรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีสาธารณูปโภครายล้อมครบครันที่สามารถขับรถไปได้แบบไม่ไกล ในเรทราคาตั้งแต่ 1.9 - 7 ล้านบาท