[Review] “ศุภาลัย ไอคอน สาทร” คอนโด Super Luxury ส่วนกลางระดับ World Class ใกล้ MRT ลุมพินี
ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
HIGHLIGHTS
- โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร เป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Mixed-use ระดับ Super Luxury ที่มีทั้งส่วนของ Retail / Shop คาเฟ่ ร้านอาหาร และส่วน Residential อยู่ภายในโครงการ ตอบโจทย์สำหรับคนเมืองที่ต้องการพื้นที่อำนวยความสะดวกทั้งในฝั่งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการพักผ่อนที่ลงตัว
- ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพอย่างสาทรใต้ ใกล้ทั้งสำนักงานออฟฟิศ แหล่งไลฟ์สไตล์ และระบบการคมนาคมทั้งรถไฟฟ้าที่ตัดผ่านในทำเล 2 สาย และเชื่อมต่อถนนสายสำคัญๆ เช่น พระราม 4, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนเจริญกรุง ถนนสี่พระยา ฯลฯ ได้อย่างรวดเร็ว
- ออกแบบมาในสไตล์ Modern Contemporary Design ได้แรงบันดาลใจจากประเทศออสเตรเลียที่เน้นความเป็นธรรมชาติ
- ดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางรองรับทุกความต้องการด้านการอยู่อาศัย รายล้อมด้วยสวนสีเขียว และ Facilities ที่หลากหลาย พร้อมโดดเด่นด้วยจุดชมวิวในชั้น 53 ให้ได้ขึ้นไปชมวิวในระยะไกลได้อีกด้วย
- ห้องพักเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ มาพร้อมกับวัสดุระดับพรีเมียมแบบจุใจ เช่น ระบบ Home Automation, พื้นไม้ Engineering Wood ท็อปผิวไม้โอ๊ค, สุขภัณฑ์ห้องน้ำของ Kohler, เตาอบและเตาไฟฟ้าของ Kuppersbusch ฯลฯ
- เป็นคอนโด Freehold ในราคาเฉลี่ย 220,000 บาท/ตารางเมตร หรือเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท* ขณะที่คอนโดส่วนใหญ่ในทำเลนี้เป็นบบ Leasehold และมีราคาเฉลี่ย 270,000 บาท/ตารางเมตร
- ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่ลิงก์นี้ https://bit.ly/3XWmSVS
Project Review
ศุภาลัย ไอคอน สาทร คอนโด High Rise สูง 56 ชั้น ระดับ Super Luxury ที่ออกแบบมาให้เป็นอาคาร Mixed-Use ที่มีทั้งร้านค้าที่อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ และจัดแบ่งโซนเขตที่พักอาศัยไว้ด้านหลังเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้นบนที่ดินขนาด 7-3-82 ไร่ ซึ่งในแง่ของทำเลที่ตั้งนั้นเรียกได้ว่าเป็นทำเลทองของย่านสาทรใต้เลยก็ว่าได้ เพราะแต่เดิมที่ดินผืนนี้เป็นที่เคยเป็นสถานทูตออสเตรเลียมาก่อน และราคาต่อตารางเมตรก็ถือว่าอยู่ในเรตจับต้องได้สำหรับย่านสาทร คือเฉลี่ยอยู่ที่ 220,000 บาท/ตารางเมตร หรือเริ่มต้นที่ 8.9 - 134 ล้านบาท* ในขณะที่ในละแวกนี้ราคาจะอยู่ที่ 270,000 บาท/ตารางเมตร
นอกจากนี้ โครงการยังขายในรูปแบบของ Freehold คือ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แบบขายขาด โดยผู้ซื้อจะได้กรรมสิทธิ์ไปครอบครองอย่างเต็มตัว ต่างจากคอนโดส่วนใหญ่ในละแวกนี้ที่มักเป็นการซื้อขายแบบ Leasehold
แผนผังยูนิตของโครงการ
โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร จะมีจำนวนยูนิตรวม 720 ยูนิต โดยบริเวณตั้งแต่ชั้น 12 - 46 จะเป็นห้องในรูปแบบ Duplex ส่วนห้องที่อยู่ที่ชั้น 47-54 และ Super Penthouse 12-46, แบบ Simplex ส่วน Duplex จะอยู่ที่ชั้น 47-54 และ Super Penthouse จะอยู่บริเวณชั้น 55-56
แผนผังพื้นที่ส่วนกลาง
มาดูแผนผังอาคารคร่าวๆ ว่า มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นอย่างไร ต้องบอกว่าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการศุภาลัย ไอคอน สาทรให้มาจัดเต็มและค่อนข้างครบครัน เริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงการ Take View มุมสูงบนชั้น 53-54 เลยทีเดียว
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลาง
- ห้องประชุม
- ห้องสตีม
- ห้องสำหรับเด็ก
- Easy Pass
- ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
- EV Charger
- สวนดาดฟ้า
- จากุซซี่
- โรงหนัง
- ห้องสมุด
- Co-working Space
- กล้อง CCTV
- ที่จอดรถ 100%
- สวนสาธารณะ
- สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก
- ลิฟต์
- ล๊อบบี้ / แผนกต้อนรับ
- Home automation
- สระว่ายน้ำ
- ฟิตเนส
- Retail / Shopping
ชั้น 1 คอนโดศุภาลัย ไอคอน สาทร
สำรวจ Facilities กันในโครงการจริงแบบละเอียด โดยเริ่มต้นกันที่ชั้น 1 ที่โครงการทำการออกแบบมาให้มีความสวยงามในทุกอณูเริ่มกันตั้งแต่ตัวอาคารภายนอกที่ออกแบบมาในสไตล์ Modern Contemporary Design ที่ได้แรงบันดาลใจจากประเทศออสเตรเลียที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ส่วนยอดอาคารถูกออกแบบให้มีส่วนโค้งที่สอดคล้องกับสุริยันจันทราและสายรุ้งที่อ้างอิงถึงความเป็นธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
เสริมกลิ่นอายการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากออสเตรเลียมากขึ้นด้วยการตกแต่งบริเวณด้านหน้าอาคารด้วยประติมากรรม Leaping-Forward Kangaroos ซึ่งเป็นรูปปั้นที่มีความหมายถึงความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง และความสามัคคี กลมเกลียวอีกด้วย
พักผ่อนด้วยการชมธรรมชาติที่ยกมาไว้ในโครงการกันที่บริเวณสวน Rain Forest ที่มีบ่อน้ำพุ และ Pavilion เอาไว้ให้นั่งเล่นเพื่อชมต้นไม้นานาพันธุ์ที่โครงการคัดสรรมาจัดเป็น Landscape สวยๆ ให้ และยังคงคอนเซปต์การตกแต่งแบบออสเตรเลียจึงมีการเพิ่มรูปปั้นนกอีมูและสัตว์พื้นถิ่นของประเทศออสเตรเลียเข้ามาด้วย
ส่วนด้านหลังจะมี Sculpture รูปโคอาล่าเกาะต้นปาล์มซึ่งเป็นพรรณไม้ที่พบได้มากในประเทศออสเตรเลีย รวมถึงเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยเฟิร์นที่ก็เป็นพืชอันมีเอกลักษณ์ของประเทศออสเตรเลียด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่ง Sculpture นั้นจะถูกนำไปไว้แต่ละแห่ง เช่น ทางเข้า ถนนเข้าโครงการ ส่วนกลาง ฯลฯ เพื่อทำให้ตัวโครงการมีกลิ่นอายของประเทศออสเตรเลียมากขึ้น
หากทำการผ่านบริเวณจุด Drop-Off เข้ามาแล้วจะเจอกับทางเข้า-ออกที่จอดรถ ซึ่งที่จอดรถของทางโครงการมีให้ 100% มาพร้อมกับสถานี EV Charger สำหรับลูกบ้านที่ขับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ ส่วนการเข้า-ออกของ Residence และ Office รถที่ลงทะเบียนไว้จะได้รับ Key Card ในการเข้าออก ส่วน Visitor จะต้องกดบัตรและนำไปปั๊มตราด้านในอาคาร เพื่อความปลอดภัย
หากเข้ามาทางด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ของส่วน Retail ที่ในปัจจุบันจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดตั้งสำนักงานขายด้วย
บรรยากาศภายในสำนักงานขายดูโอ่โถงและกว้างขวาง ในพื้นที่ทุกส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ของร้านค้า คาเฟ่ หรือ Retail ต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้สามารถเข้ามาดูผังของตัวอาคารได้ว่าการออกแบบและส่วน Facilities รอบๆ โครงการนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งจากโมเดลอาคารจะเห็นเลยว่า โครงการเน้น Landscape ที่สวยงามและพื้นที่สีเขียวสบายตา รวมถึงมี Facilities ที่หรูหราระดับ World-Class ซึ่งตั้งใจออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนได้อย่างไร้ที่ติ
สำหรับบริเวณ Lobby ซึ่งเป็นพื้นที่ต้อนรับจะใช้ประตูเป็นแบบ Auto Door และระบบ Face Scan ในการเข้า-ออก เมื่อเข้ามาจะเจอกับความ Luxury ที่ตกแต่งด้วยโทนสี Copper ซึ่งเป็นโทนสีหลักที่ใช้ของโครงการ ด้านการตกแต่งก็ออกแบบมาให้เป็น Dynamic Lobby ที่เชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ ไว้ด้วยกันในลักษณะของ Gallery Hall
การจัดโซนนั่งเล่นมีให้หลากหลายมุม รองรับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีพื้นที่ว่างให้ใช้งาน
สร้างบรรยากาศให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยบ่อน้ำพุน้ำล้นที่สร้างสุนทรียภาพให้กับการนั่งพักผ่อนด้วยเสียงสายน้ำไหลคลอตลอดวัน
ส่วนกลางชั้น 11
เมื่อขึ้นมายังชั้น 11 จะพบกับส่วนของ Facilities หลักที่มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor เริ่มต้นจากโถงลิฟต์ที่ก็ยังคงความหรูหราด้วยการใช้สี Copper มีการใช้ Lighting แสงสี Warm White บวกกับการใช้วัสดุหินอ่อนที่ทำให้โถงทางเดินดูสว่าง ส่วนลิฟต์ของโครงการจะมีมาให้ 8 ตัวแบ่งการใช้งานแบบ Low Zone และ High Zone ทำให้ใช้งานได้อย่างทั่วถึงไม่ต้องรอนาน
ฟิตเนสของโครงการเป็น Double-Space Fine Fitness หรือการออกแบบให้ฟิตเนสมี 2 ชั้น ประกอบด้วยเครื่องเล่นครบครันและมีแบ่งพื้นที่การออกกำลังกายไว้หลายโซนไม่ว่าจะเป็นบริเวณชั้น 1 ที่มีทั้ง Group Cycling & Yoga Fly, Table Tennis และ Boxing ส่วนชั้น 2 จะมี ห้อง Yoga & Pilates เหมาะกับสายชอบออกกำลังกายอย่างแน่นอน
เปิดรับแสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างบานสูง ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ผ่อนคลายระหว่างออกกำลังกายด้วยการ Take View ออกไปด้านนอก ซึ่งมองเห็นสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียวดูสบายตา
เอาใจสาย Activity อยากที่จะฟิตหุ่นด้วยโซน Weight Training และ Cardio แบบจัดเต็ม ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องเล่นจะมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
สำหรับใครที่หาความสนุกมากกว่าการออกกำลังกายแบบทั่วไปสามารถเข้ามาใช้งาน Group Cycling ที่มีจักรยาน, Kickr Snap และจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ได้ใช้ปั่นออกกำลังกายในร่มแบบเต็มที่
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการชกมวยที่นี่ก็มีเตรียม Boxing Kangaroo ไว้ให้สำหรับซ้อมนวมโดยเฉพาะ
แต่ถ้าใครมีคู่ในการเล่นกีฬาจะมาใช้เวลาในการตีปิงปองกันที่โต๊ะปิงปองขนาดมาตรฐานที่มีทั้งลูกปิงปองและไม้ให้ใช้งานก็ได้เช่นเดียวกัน
และถ้าหากขึ้นไปยังชั้น 2 ก็จะเจอห้องสำหรับเล่น Yoga & Pilates โดยเฉพาะ
สำหรับใครที่อยากสร้าง Community สำหรับการเล่นโยคะก็เหมาะมาก เพราะด้านบนมีเครื่อง Pilates Reformer และพื้นที่สำหรับเล่นโยคะแบบจุใจ โดยลูกบ้านสามารถจองคลาสเรียนกับทางนิติฯ ได้อีกด้วย
ออกกำลังกายมาเหนื่อยๆ อย่าลืมแวะมาที่ Personal Room ได้ ซึ่งเป็นโซนที่จัดไว้ให้แต่งตัว หรือถ้าเป็นวันสำคัญที่ต้องการพื้นที่สำหรับแต่งหน้าก็สามารถเข้ามาใช้โซนนี้ได้เลย เพื่อความเป็นส่วนตัวสำหรับคนที่ไม่ต้องการให้ช่างแต่งหน้าเข้าไปยังที่พัก
โซนห้องน้ำส่วนกลางก็ยังคงความหรูหราอลังการเอาไว้ได้เป็นอย่างดีด้วยการตกแต่งลายหินอ่อน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ และโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมขนาดใหญ่ ใช้งานได้ 4 ที่นั่งเตรียมไว้รองรับสำหรับการแต่งตัวเพิ่มเติมให้ด้วย
ถ้าอยากชำระล้างร่างกายให้สะอาดโครงการจัดเตรียมพื้นที่อาบน้ำมาให้ และมีห้องแต่งตัวแยกให้อีกต่างหาก
สำหรับ Highlight ของ Facilities ที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือการมี Aqua Hydrotherapy และ Sauna & Steam แบบแยกชาย-หญิงให้เข้าใช้งาน โดย Aqua Hydrotherapy จะเป็นการใช้น้ำเพื่อการนวดบำบัด ซึ่งช่วยฟื้นฟูร่างกาย โดยอาศัยแรงพยุงตัวของน้ำและแรงต้านของน้ำ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยและอาการเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี
สร้างสีสันให้กับชีวิตด้วย Milky Way Theatre & Karaoke ห้องดูหนังและร้องคาราโอเกะที่จองใช้งานแบบ Private ได้ โดยข้างบนของห้องนี้จะประดับด้วยแสงไฟระยิบระยับซึ่งให้บรรยากาศเหมือนอยู่ภายใต้ทางช้างเผือก
เอาใจเด็กๆ ด้วย Kid’s Club ห้องที่ออกแบบมาให้มีสีสันใกล้เคียงกับธรรมชาติ และสร้างความโดดเด่นให้ห้องด้วยมุมนั่งเล่นที่ดีไซน์ออกมาให้คล้ายกับต้นไม้ ทำให้เด็กๆ รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ นอกจากนี้บริเวณกำแพงยังมีมุมวาดเขียนให้แสดงออกถึงจินตนาการของเด็กๆ เตรียมไว้ให้อีกด้วย
Wisdom Library Room & Co-Living Space สำหรับนั่งพักผ่อนและพูดคุยกันจะตกแต่งด้วย Copper Plate ฉลุลาย ดีไซน์ฝ้ามาให้สูงโปร่งพร้อมประดับเพดานด้วย Chandelier เสริมความหรูหรา ซึ่งแรงบันดาลใจของลวดลายทั้งหมดนั้นมาจากประเทศ Australia ใครที่อยากได้มุมอ่านหนังสือเงียบๆ ก็มีให้ หรือถ้าอยากจะนั่งชมวิวตัวห้องก็ออกแบบมาเป็นผนังกระจกทรงสูงสามารถ take view สระว่ายน้ำที่อยู่ข้างนอกได้
คนชอบว่ายน้ำห้ามพลาด เพราะโครงการศุภาลัย ไอคอน สาทรออกแบบโซน Maldives Swimming Pool & Jacuzzi ที่มีสระว่ายน้ำมาให้ถึง 5 สระ ได้แก่ (1) สระทั่วไป, (2) สระน้ำอุ่น และ (3) สระน้ำเย็น สำหรับใช้ Cool down หลังจากการออกกำลังกาย, (4) สระเด็ก และ (5) Maldives Swimming Pool ที่ทำพื้นแบบ slop ไล่ระดับลงไปจำลองตัวสระให้เหมือนหาดทรายใจกลางเมือง
พักสายตาระหว่างว่ายน้ำออกกำลังกายด้วยสวนและต้นปาล์มสไตล์รีสอร์ทธรรมชาติที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับการออกกำลังกายมากขึ้น
ส่วนพื้นที่ Outdoor อื่นๆ ก็จะมีโซน Pool Deck ไว้ให้เราได้นอนพักผ่อน นอกจากนี้ก็ยังมีโซนอื่นๆ อีก เช่น โซน Playground และ Mini Climbing Simulation สำหรับเด็กๆ ที่จัดเป็นพื้นที่นันทนาการเพิ่มเติมให้ครอบครัวได้ใช้เวลาในการดูแลบุตรหลานเพิ่มเติมด้วยการพาทำกิจกรรมในสนามเด็กเล่นมากยิ่งขึ้น
ส่วนกลางชั้น 53 - 54
ชมวิวทิวทัศน์ของย่านสาทรจากมุมสูงด้วย Opal Sky Lounge และเดินเล่นในสวนลอยฟ้าที่สามารถขึ้นมาชมพระอาทิตย์ตก หรือชมวิวแสงไฟยามค่ำคืนของเมืองด้านล่างได้แบบรอบทิศ
Opal Sky Lounge เปิดมุมมองให้สามารถ Take View มุมสูงได้สุดลูกหูลูกตาด้วยการออกแบบผนังให้เป็นกระจกสูงจรดเพดาน จึงสามารถใช้เวลายามเช้า สาย บ่าย เย็นหรือค่ำคืนอันแสนสำคัญไปกับวิวระดับพรีเมียมได้ตลอดทั้งวัน
ภายใน Opal Sky Lounge จะประกอบด้วยเคาน์เตอร์บาร์และชุดเก้าอี้ให้นั่งกันหลายจุด เหมาะที่จะชวนคนรู้ใจหรือเพื่อนสนิทมานั่งพบปะสังสรรค์กัน หรือจะใช้เป็นจุดพักสายตาด้วยการทอดสายตามองวิวมุมสูงก็ได้ นอกจากนี้ยังมีบาร์สำหรับประกอบอาหารไว้ให้สำหรับจัดงานปาร์ตี้ได้อีกด้วย
แต่ถ้าขึ้นมาบนชั้น 2 ของ Opal Sky Lounge ก็จะเจอกับมุม Facilities ที่สูงที่สุดในโครงการ ซึ่งสามารถ Take View ผ่านกระจกบานใหญ่ที่อยู่รอบห้องได้ด้วยเช่นเดียวกัน
เดินเล่นรับลมและแสงสุดท้ายของวันกับสวนลอยฟ้าที่สามารถมาเดินเล่นชมวิวได้ที่นี่ หรือถ้าเหนื่อยก็ยังมีจุดนั่งพักรองรับการนั่งเล่นเอาไว้ให้อีกด้วย
ความพรีเมียมของวิวทิวทัศน์ที่ได้เรียกว่ามองเห็นวิวของเมืองที่เป็น CBD ของกรุงเทพฯ ได้แบบจุใจ นอกจากนี้
หากมองไปทางทิศใต้จะมองเห็นโค้งแม่น้ำบางกระเจ้า ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งมุมสวยที่โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทรมอบให้เฉพาะลูกบ้านคนพิเศษด้วยโครงการที่ออกแบบมาให้มีความพิเศษแบบสุดๆ เท่านั้น
รีวิวห้อง 1 Bedroom Simplex 45 ตร.ม.
สัมผัสฟังก์ชันของการอยู่อาศัยระดับพรีเมียมที่โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร ที่ ESTOPOLIS จะพามาชมแบบละเอียดกันในวันนี้จะเป็นห้องประเภท 1 Bedroom Simplex ขนาด 45 ตร.ม. ที่เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอ Living Area ที่เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่น โซนครัว โซนรับประทานอาหาร และกั้นโซนห้องนอนแยกออกไปด้วยประตูบานเลื่อนกระจกอะลูมิเนียมเพื่อความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ตัวห้องนอนยังกว้างมากพอและมีพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet สำหรับแต่งตัวได้อีกด้วย เรียกว่าตอบโจทย์สำหรับการอยู่อาศัยครบทุกฟังก์ชันที่ตามหาอย่างแท้จริง
ตัวโครงการจะมาพร้อมกับโปรโมชันพิเศษ ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า* นั่นคือ ระบบ Home Automation ที่สามารถควบคุมระบบไฟ เครื่องปรับอากาศ และผ้าม่าน มีการติดตั้ง Digital Door Lock แบรนด์ Yale มาให้ และมีอุปกรณ์ในครัวมาให้เพื่อใช้งานเป็น Smart Kitchen รวมถึงสุขภัณฑ์แบบ Intelligent Toilet ในห้องน้ำอย่างครบครัน
ตัวห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.85 เมตร ให้ความรู้สึกถึงความโปร่งโล่งสบาย บวกกับการที่ปูพื้นด้วยพื้นกระเบื้อง Cotto Italia ลายหินอ่อนสีขาว ซึ่งเป็นกระเบื้องนำเข้ายุโรปนวัตกรรมการผลิตจากประเทศอิตาลี ออกแบบมาเป็นแผ่นใหญ่ที่สวยงามไร้รอยต่อ ยิ่งช่วยเพิ่มความหรูหราและความสว่างให้กับตัวห้องได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ โครงการยังติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Cassette Type แบบ 4 Way ที่ช่วยให้การกระจายลมได้หลากหลายทิศทาง และยังให้ความสวยงามจากการฝังอยู่บนฝ้าไม่รบกวนสายตาแต่อย่างใด ซึ่งสามารถควบคุมแอร์ การเปิด-ปิดไฟ แอร์ และม่านไฟฟ้าด้วยระบบ Home Automation ที่ติดตั้งมาให้ได้เลย
สำหรับประตูทางเข้าจะได้เป็นประตูสีไม้โอ๊ค พร้อม Digital Door Lock จากแบรนด์ Yale ติดตั้งมาให้เพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากขึ้น
ด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่ค่อนข้างกว้างทำให้สามารถวางโซฟาอยู่ในระยะที่ห่างจากทีวีได้ 2-3 เมตร แน่นอนว่าสามารถติดตั้งทีวีขนาด 50 นิ้วได้อย่างสบายๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้วาง Coffee Table ได้พร้อมเหลือพื้นที่สำหรับเดินผ่านได้ง่ายๆ อีกด้วย
สำหรับพื้นที่วางโซฟานั้นมีขนาดใหญ่มากพอให้วางเป็นโซฟาแบบ 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะด้านข้างโซฟาได้ หรือจะรับเป็นโซฟา 3 ที่นั่งก็ยังไม่รู้สึกอึดอัด แถมยังมีพื้นที่เหลือไว้สำหรับวางรับประทานอาหารตั้งแต่ 2-4 ที่นั่งได้ โดยไม่ทำให้ตัวห้องดูเล็กลง
โซนครัวจะเป็นครัวระบบเปิด ซึ่งจะอยู่ส่วนกลางของตัวห้องติดกับห้องน้ำ ขนาดของครัวจะได้ค่อนข้างใหญ่ ออกแบบมาให้เป็นรูปตัว U ท็อปเป็นหินเทียมลายหินอ่อนสีขาว ทำความสะอาดง่าย ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี และยังเป็น Smart Kitchen ที่มีระบบต่างๆ พร้อมใช้งานครบครันทั้งตัวเคาน์เตอร์ ชั้นลอยเก็บของ เครื่องใช้ในครัวจาก Teka และ Kuppersbusch
สำหรับตู้เย็นนั้นจะมีมาให้แบบ Built-in ขนาด 18 คิวจาก Teka ที่มีพื้นที่เก็บของด้านบนเพิ่มมาให้ ส่วนบริเวณเหนือเคาน์เตอร์ครัวก็มีพื้นที่เก็บของให้ค่อนข้างเยอะ ใส่ของได้แบบจุใจ และยังติดตั้ง Smart Dish Drainers ซึ่งเป็นชั้นที่สามารถดึงลงมาได้ ทำให้หยิบจับของที่อยู่ด้านในได้แบบสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เครื่องซักผ้าของ Teka ที่สามารถทั้งซักและอบผ้าในเครื่องเดียวแถมมาให้ด้วย
ส่วนที่ใต้เคาน์เตอร์จะเป็นพื้นที่เก็บอุปกรณ์เครื่องครัว โดยลิ้นชักทั้งหมดออกแบบมาให้เป็นแบบ soft close ป้องกันการกระแทกมาให้ หน้าบานเองก็เลือกดีไซน์เป็นสเตนเลสสี Copper ดูสวยงามและหรูหราในเวลาเดียวกัน
อ่างล้างจานก็เลือกมาให้ในดีไซน์ที่สวยงามและมากฟังก์ชัน โดยเลือกใช้เป็นของ Franke ซึ่งเป็นอ่างแบบหลุมเดี่ยวขนาด 43 x 41 cm. ลึก 20 cm. พร้อมมีเขียงกับตะแกรงของอ่างล้างจานมาให้ ส่วนรอบอ่างจะติดตั้ง Backsplash หินเทียมลายหินอ่อนที่เช็ดล้างทำความสะอาดง่ายมาให้ พร้อมมีที่แขวนมีด ที่แขวนกระดาษทิชชู่ และที่พักจานติดตั้งมาให้ครบ
พิเศษกว่าเดิมอีกนิดกับบริเวณใต้อ่างล้างจาน โครงการทำการติดตั้ง Food Waste Blender ที่เป็นเครื่องบดเศษอาหาร ช่วยลดปริมาณขยะจากเศษอาหารลงไปในตัว และทำให้กำจัดทิ้งได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
ด้านเตาไฟฟ้าจะได้เป็นเตาเซรามิก 2 หัว พร้อมมีเครื่องดูดควันแบบมีท่อจาก Kuppersbusch ส่วนด้านล่างก็เป็นตู้อบของ Kuppersbusch ที่แถมมาให้เช่นเดียวกัน
ความสวยงามไม่ได้อยู่แค่ที่ข้าวของเครื่องใช้หลัก แต่ยังรวมไปถึงบริเวณปลั๊กไฟบนเคาน์เตอร์ครัวที่เป็นแบบ Pop-up Power Plug ที่กดซ่อนเพื่อความสวยงามได้ ส่วนสวิตช์ไฟก็เลือกใช้แบรนด์ Schneider สี Copper ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและเข้ากับรูปแบบการตกแต่งภายในห้องเป็นอย่างดี
ติดกับโซนครัวจะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำที่ปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนโทนสีขาวที่ให้ความหรูหราและช่วยให้ดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันออกเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด โดยโซนแห้งจะมีการติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบ Smart Toilet รุ่น Veil ที่เป็นรุ่น Top จาก Kohler พร้อมรีโมทคอนโทรลแบบไร้สายมาให้ จึงสามารถควบคุมระบบต่างๆ ผ่านรีโมต Touch Screen หน้าจอ LCD ได้เลย
ติดกันจะเป็นอ่างล้างหน้าจาก Kohler เป็นแบบฝังลงเคาน์เตอร์แบบครึ่งอ่าง พร้อมก๊อกน้ำปรับน้ำร้อน-น้ำเย็นได้จาก Gessi นอกจากนี้ก็มีตู้เก็บของกรุหน้าบานเป็นกระจกเงา รวมถึงมีพื้นที่เก็บของใต้อ่างมาให้ ส่วนใครที่ต้องการใช้ไดร์เป่าผมก็หายห่วง เพราะมีจุดปลั๊กแบบ Shavers Only ติดตั้งมาให้พร้อมสำหรับการใช้งาน
ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะกั้นด้วยกระจกแบบ Tempered Glass เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน บริเวณมือจับประตูสามารถใช้เป็นราวแขวนผ้าได้ ส่วนที่พื้นเองก็มีการติดตั้งรางระบายน้ำสเตนเลสมาให้ ทำให้ระบายน้ำได้ และป้องกันน้ำไหลย้อนออกไปนอกโซนเปียกได้ดี ส่วนฝักบัวจะติดตั้งมาให้ 2 แบบ ทั้ง Hand Shower แบบมีราวปรับระดับความสูง และ Rain Shower รวมถึงมีชั้นวางของด้านข้างสำหรับวางสบู่และของใช้ต่างๆ ภายในห้องน้ำมาให้ด้วย
เสริมสร้างพลังงานด้วยการพักผ่อนแบบเต็มที่กับโซนห้องนอนที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ให้วางเตียงขนาดคิงไซส์ได้สบายๆ หรือจะเว้นพื้นที่ด้านเอาไว้สำหรับทำเป็นโต๊ะข้างหัวเตียง หรือจะเพิ่มฟังก์ชันเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ สำหรับอ่านหนังสือ และชมวิวจากหน้าต่างที่ออกแบบมาให้สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานเลยก็ได้เช่นกัน
แยกโซนความเป็นส่วนตัวด้วยประตูสามตอน กรอบประตูเป็นอะลูมิเนียมสีดำ ส่วนพื้นก็เปลี่ยนอารมณ์ด้วยการปูเป็นพื้น Engineering Wood ใช้ Top ผิวไม้โอ๊ค ที่ให้สัมผัสอบอุ่นซึ่งเหมาะสำหรับการเป็นพื้นภายในห้องนอนมากยิ่งขึ้น
ตัวห้องเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้นด้วยการลดพื้นที่ระเบียงที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน และเปิดพื้นที่ให้รับแสงธรรมชาติด้วยบานกระจกสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน โดยเลือกใช้เป็นกระจกแบบ Low-E หรือกระจกสะท้อนความร้อนแบบ Double Glazing ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้รังสีความร้อนแพร่ผ่านจากภายนอกเข้าสู่ภายในห้อง จากการมี Air Gap อยู่ตรงกลางระหว่างกระจก จึงช่วยลดความร้อนและประหยัดไฟได้ดี
ส่วนกรอบหน้าต่างก็จะเป็นอะลูมิเนียมสีเทาเข้ม เปิดออกไปรับลมได้ ส่วนด้านบนก็จะมีช่องซ่อนรางม่านเอาไว้ให้เรียบร้อย
ตรงข้ามกับเตียงนอนจะเป็นโซนที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้ และข้างกันนั้นจะเป็นช่องเก็บ Condensing unit มีระแนงของ Facade ช่วยบังสายตา และตัวประตูก็ออกแบบมาเป็นกระจกฝ้าที่ช่วยทำให้สบายตา และกันแสงได้ดีมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากไม่ต้องเสียพื้นที่ให้กับการมีระเบียงทำให้ตัวห้องเหลือพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับเนรมิตเป็นห้องทำงานส่วนตัว หรือจะทำเป็น Walk-in Closet ก็ได้ แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้บริเวณห้องนอนยังได้เครื่องปรับอากาศแบบ Cassette Type แบบ 4 Way ของ Daikin ติดตั้งแยกมาให้อีก 1 ตัวอีกด้วย
สำหรับพื้นที่ Walk-in Closet ที่ทำมาให้ดูเป็นตัวอย่างก็จัดวางเป็นตู้เสื้อผ้ารูปตัว L สูงจรดเพดาน และชุดโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัว พร้อมเหลือ Space ด้านหน้าเอาไว้เป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัวได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด
แบบห้อง 4 Bedroom Duplex
นอกจากห้องแบบ 1 Bedroom แล้ว ยังมีห้องประเภท 2-4 Bedroom ซึ่งตอบโจทย์สำหรับใครที่มีครอบครัว หรือต้องการแบ่งสัดส่วนการใช้สอยภายในห้องให้ดูมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยในรีวิวนี้จะขอพาไปเยี่ยมชมห้องประเภท 4 Bedroom Duplex ที่มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 206.5 - 350 ตารางเมตร
เอาใจคนอยากได้คอนโดที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้นกับห้องในสไตล์ Duplex ที่ออกแบบมาให้มีเพดานสูงถึง 6.2 เมตร ผู้อยู่อาศัยจึงรู้สึกว่าอากาศถ่ายเทได้ดี เย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว และยังเปิดรับแสงธรรมชาติส่องถึง ทำให้ห้องสว่าง ช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้นอีกด้วย
ในส่วนชั้น 1 ของห้องแบบ Duplex จะประกอบด้วยโซน Living Area ที่รวมเอาพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่รับแขกเอาไว้ด้วยกัน โดยบริเวณโซนรับแขกจะดูเปิดโล่งมากขึ้นด้วยการทำฝ้าแบบ Double Volume ที่เชื่อมโยงพื้นที่สูงไปจนถึงระเบียงชั้น 2 และอีกด้านของห้องจะเป็นห้องครัวแบบปิดที่สามารถประกอบอาหารไทยได้สบายๆ
เชื่อมบรรยากาศของการอยู่อาศัยให้ไร้รอยต่อได้ด้วยการออกแบบให้พื้นที่บริเวณชั้นล่างและชั้นบนให้มีมุมมองที่สามารถเชื่อมถึงกันได้ จึงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น พร้อมแยกความเป็นส่วนตัวให้พื้นที่พักผ่อนอยู่ด้านบนที่ทุกห้องมี Walk-in Closet และมีห้องน้ำในตัว อีกทั้ง ยังคงความหรูหราด้วยวัสดุระดับพรีเมียมในทุกอณูของห้องตามมาตรฐานของศุภาลัย ไอคอน สาทร
แบบห้อง 3 Bedroom
สำหรับภาพรวมของห้องแบบ 3 Bedroom จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเช่นเดียวกัน เนื่องจากพื้นที่โดยรวมของตัวห้องกว้างขวางโดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ตั้งแต่ 100.5 - 189 ตารางเมตร (เฉพาะห้อง Simplex) ทำให้สามารถจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ตามที่ต้องการได้ค่อนข้างมาก ทั้งโซนนั่งเล่น โซนครัว และโซนรับประทานอาหาร ซึ่งจะจัดวางแยกส่วนกันกับโซนพักผ่อนอย่างชัดเจน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
Note: 3 Bedroom Duplex 124.5 - 343 ตร.ม.
พื้นที่ห้องนอนกว้างและได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่จากกระจกแบบเต็มผนัง และจากแสงสว่างที่มีมากพอทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันห้องที่มีให้เป็นห้องทำงานหรือห้องอ่านหนังสือได้ตามต้องการ ส่วนใครที่อยากจะทำเป็นห้องนอนทั้งหมดก็ได้ เพราะพื้นที่กว้างพอให้ทำการจัดแบ่งโซนทำงาน โซนแต่งตัว และโซนพักผ่อนได้อย่างลงตัว
ห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัว มีการกั้นโซนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน ตัวห้องน้ำก็กว้างมากพอให้วางอ่างอาบน้ำได้สบายๆ จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากจะพักผ่อนโดยการแช่น้ำ หรืออยากจะได้พื้นที่ห้องน้ำกว้างๆ และดู Luxury ไปพร้อมๆ กัน
Location
โครงการ Premium ศุภาลัย ไอคอน สาทร ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ฝั่งสาทรใต้ ซึ่งนับเป็นแหล่งศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพ จากการเป็นแหล่งธุรกิจ แหล่งงาน รวมถึงแหล่งที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตในทุกๆ ด้าน ทั้งในแง่ของการเดินทางที่รายล้อมด้วยเส้นรถไฟฟ้าถึง 2 สายคือสายสีน้ำเงินและสีม่วง มีรถด่วนพิเศษ BRT วิ่งผ่าน รวมถึงการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก เพราะสาทรเป็นย่านที่สามารถเข้าถึงได้หลายทาง ได้แก่ ถนนพระราม 4 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนเจริญกรุง และถนนสี่พระยา ส่วนการเดินทางด้วยทางด่วน ย่านสาทรใต้ก็มีทางพิเศษที่อยู่ใกล้ที่สุดคือทางพิเศษศรีรัชฯ ที่ใช้ในการเข้า-ออกเมืองเพื่อเลี่ยงการจราจรติดขัดได้อย่างรวดเร็ว
“ย่านสาทร” ทำเลทองสำหรับคนเมือง
เราทราบกันดีว่า สาทรเป็นแหล่งธุรกิจที่เรียกกันว่า Central Business District (CBD) เพราะเป็นพื้นที่หนึ่งในกรุงเทพฯ ที่นับเป็น Hub ของบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ อีกทั้งยังที่อยู่อาศัยและโรงแรมระดับหรูกระจายตัวอยู่รอบพื้นที่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่การมีอยู่ของคาเฟ่ ร้านอาหารชื่อดัง ไปจนถึงร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ก็มีให้เลือกสรรในพื้นที่เดียว ส่วนห้างสรรพสินค้าก็มีกระจายตัวอยู่รอบพื้นที่ เช่น ธนิยะพลาซ่า, ตลาดละลายทรัพย์ สีลม คอมเพล็กซ์, ตรีนิตี้มอลล์ 3, แม็คโคร สาทร, Vanilla Moon เป็นต้น โดยจะตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 และถนนวิทยุ (เดิมเป็นสวนลุมไนท์บาซาร์) ที่จะมีทั้งโรงแรม ที่อยู่อาศัย ร้านค้า ห้องประชุม สำนักงาน และที่จอดรถยนต์เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพทำเลในย่านนี้ให้สูงขึ้นอีกด้วย
บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีเองก็เป็นจุดแลนด์มาร์กหลักที่รายล้อมไปด้วยสถานทูตและสำนักงานชั้นนำมากมาย เหมาะสำหรับการเป็นอยู่อาศัยของกลุ่มพนักงานออฟฟิศ นักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง และต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและการเดินทาง
โดยสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ที่สถานี BTS สยาม และเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยาย สะพานตากสิน-บางหว้าทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองทำได้อย่างสะดวกสบาย
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้ๆ ก็มีครบทั้งโรงพยาบาล, โรงเรียน, มหาวิทยาลัยที่เดินทางไปเรียนหรือไปหาหมอได้อย่างสะดวก เช่น โรงพยาบาล BNH, โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์, มหาวิทยาลัย ราชมงคลกรุงเทพ, โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์, โรงเรียนกรุงเทพ คริสเตียน ฯลฯ
พักผ่อนหย่อนใจในย่าน “ลุมพินี”
นอกจากจะอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจอย่างสาทรแล้ว ขยับออกมานิดก็จะเป็นแหล่งพักผ่อนเพิ่มเติมในย่านลุมพินี ที่เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง เพราะใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และเป็นย่านที่เดินทางสะดวกจากการมีรถไฟฟ้า MRT ตัดผ่าน
สำหรับสถานีรถไฟฟ้า MRT ที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีลุมพินีที่เชื่อมต่อเข้าสู่ CBD อีกทำเลอย่างสุขุมวิท เลยไปอีกหน่อยก็เป็นพระราม 9 ลาดพร้าว วนไปจนถึงจุดเชื่อมต่อสายสีม่วงได้ หรือจะใช้บริการเพื่อไปยังโซนฝั่งธนบุรีที่จะวิ่งไปสุดอยู่ถึงสถานีหลักสอง และถ้าต้องการเปลี่ยนสายก็ยังเชื่อมต่อกับส่วนต่อขยาย สะพานตากสิน-บางหว้าได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน
เพราะความใกล้สวนลุมพินีทำให้พื้นที่สาทร-ลุมพินีมีความโดดเด่นในแง่ของการพักผ่อน โดยสวนลุมพินีนี้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่ครอบคลุมพื้นที่โดยรวมมากกว่า 300 ไร่ จึงเหมาะสำหรับเป็นพื้นที่เดินออกกำลังกาย และทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปจนถึงเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมขนาดใหญ่ในระดับประเทศและนานาชาติที่สามารถเข้าร่วมงานได้ตลอดทั้งปีไม่มีเบื่อ
เติมเต็มพื้นที่สีเขียวและการทำกิจกรรมแบบเต็มที่ด้วยเครื่องเล่นต่างๆ ที่มีจัดไว้ให้ได้สนุกกันทั้งครอบครัว หรือจะมานั่งปิกนิกแบบผ่อนคลายใต้ต้นไม้ใหญ่ก็ช่วยทำให้รู้สึกสบายใจ และได้รับพลังงานดีๆ กลับไปจากการใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแน่นอน
สถานที่ใกล้เคียงรอบโครงการ
- โรงพยาบาล BNH 450 เมตร
- โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ 550 เมตร
- รถไฟใต้ดิน MRT สถานีลุมพินี 800 เมตร
- สวนลุมพินี 850 เมตร
- สีลม คอมเพล็กซ์ 900 เมตร
- The Commons ศาลาแดง 350 เมตร
- ตลาดสวนพลู 700 เมตร
- Life Center 700 เมตร
- Thienprasitsart 950 เมตร
- St. Andrews International School Sathorn in Bangkok 750 เมตร
- Embassy of Malaysia 150 เมตร
- Embassy of Germany 450 เมตร
- Embassy of Japan 1.1 กิโลเมตร
สำหรับใครที่สนใจโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร โครงการ Luxury ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพย่านสาทรใต้ สามารถข้าชมโครงการได้แล้ววันนี้ ลงทะเบียน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3XWmSVS
เรียบเรียงโดย
Apikit Kasemsawadผู้ผ่านประสบการณ์รีวิวอสังหาฯ มามากกว่า 5 ปี
ที่บ้านประกอบธุรกิจปล่อยเช่าอสังหาฯ
สนใจเรื่องการตกแต่งทั้งด้านดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งาน
รูปภาพโดย
Kullawat Namiช่างภาพผู้ชื่นชอบในการถ่ายรูปอสังหาฯ และสถาปัตยกรรม
เรียนจบสายตรงด้านการถ่ายรูปเฉพาะทาง