[Review] i-House Rama 9 (ไอ-เฮ้าส์ พระราม 9) คอนโดย่านพระรามเก้า-เอกมัย ตกแต่งพร้อมอยู่ รองรับการเดินทางทุกรูปแบบ ยังทั้งใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก
ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
Review Info
i-House Rama 9 (ไอ-เฮ้าส์ พระราม 9) โดย บริษัท ริเวอร์ไซด์ การ์เด้นส์ มารีน่า จำกัด ผู้เป็นเจ้าของเดียวกับ i-House RCA กับ i-Biza RCA ลักษณะอาคารแบบ Low Rise 2 อาคาร ตั้งอยู่บนถนนพระรามเก้า ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และด้วยความที่อยู่ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ส่งผลให้คอนโด i-House พระราม 9 เป็นอีกหนึ่งคอนโดที่ตั้งอยู่ในทำเลที่น่าสนใจ อยู่ในย่าน New CBD
ข้อมูลโครงการ i-House Rama 9 โดยละเอียด
ชื่อโครงการ
i-House Rama 9 - Ekamai (ไอ-เฮ้าส์ พระราม 9-เอกมัย)
ราคาห้องเริ่มต้น
3.39 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม ทั้งโครงการ
60,500 บาท
เว็บไซต์โครงการ
http://i-housecondo.com/home.html
เบอร์ติดต่อ
023187333
วงเงินกู้ 100%
ทุกธนาคาร
Location
ที่ตั้งโครงการ i house พระราม 9
การเดินทางโดยรถส่วนตัวจากแยกพระรามเก้า
การเดินทางไปยัง คอนโด i house พระราม 9 สะดวกที่สุดคงจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ เพราะย่านนี้จะไม่ค่อยมีรถโดยสารสาธารธณะวิ่งผ่าน หรือหากจะใช้บริการระบบขนส่งมวลชน อย่างรถไฟใต้ดิน MRT จะต้องลง สถานีพระรามเก้า หรือ สถานีเพชรบุรี แล้วนั่งรถแท็กซี่ต่อมายังคอนโดอีกทีค่ะ
เส้นทางที่แนะนำจะเป็นเส้นทางจากถนนพระรามเก้าค่ะ เนื่องจากทางเข้าคอนโดตั้งอยู่ติดถนนพระรามเก้าไปทางแยกสาธุประดิษฐ์มนูธรรม และสามารถวิ่งเข้า ซอยพระรามเก้า 26 (แยกศูนย์วิจัยเหนือ) เพื่อทะลุเข้า ซอยเพชรบุรี 47 โผล่ไปทางย่าน RCA ได้
Insight
เจาะลึกภาพรวมโครงการ i-House พระราม 9
i-House พระราม 9 เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 2 อาคาร แบ่งออกเป็น อาคาร A สำหรับขาย และอาคาร B สำหรับปล่อยเช่า ซึ่งทั้งสองอาคารจะมีลักษณะอาคารและแบบห้องที่เหมือนกัน คือจะมี 2 แบบเท่านั้น ได้แก่ ห้อง Studio ขนาด 28 ตร.ม. กับ 1 ห้องนอน ขนาด 56 ตร.ม. ค่ะ สำหรับที่จอดรถจะเป็นลานจอดรถกลางแจ้ง อยู่ภายในโครงการ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลและอำนวความสะดวกตลอด 24 ชม.
คอนโด i-House พระราม 9 ตั้งอยู่บนถนนพระรามเก้า ลักษณะอาคารวางเป็นรูปตัวแอล (L) โดยอาคาร A จะตั้งอยู่ในทิศเหนือใต้ ทำให้ระเบียงห้องของอาคารนี้หันไปทางตะวันออก-ตะวันตก ส่วนอาคาร B จะสลับกัน คือวางตามทิศตะวันออก-ตะวันตก ทำให้ห้องของอาคาร B หันไปทางทิศเหนือใต้แทนค่ะ ฉะนั้นห้องของอาคาร B จึงเย็นกว่าห้องของอาคาร A เพราะได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ในช่วงกลางวันน้อยกว่า บวกกับด้านหลังอาคาร B ที่ติดกับคลองเขมร และยังอยู่ใกล้กับสวนพรรณภิรมย์อีกด้วย ส่วนลานจอดรถกลางแจ้งจะสามารถจอดได้ 33 % รวมจอดซ้อนคัน โดยห้องที่อยู่ตรงชั้น 1 จะค่อนข้างสะดวกกว่า เนื่องจากมีช่องจอดรถอยู่ตรงหน้าคอนโดพอดี
ทางเข้าคอนโด i-House พระราม 9 จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลอยู่ ส่วนขวามือของทางเข้าจะเป็นที่ตั้งสำนักงานขาย i-House พระราม 9 ค่ะ และจะเห็นว่าภายในคอนโดได้ปลูกต้นไม้สูงไว้ตลอดแนว ทำให้ระเบียงห้องชั้น 1 และ 2 ได้ร่มเงา ดูร่มรื่นเป็นพิเศษ
ป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตั้งอยู่หน้าสุดของคอนโด หากใครมีปัญหาเรื่องการจอดรถ หรือเรื่องต่างๆ สามารถเรียกขอความช่วยเหลือได้
ลานจอดรถคอนโด i-House พระราม 9 เป็นลานกว้าง มีทางเดินรถ 2 เลน สามารถวิ่งสวนกันได้สะดวก และทาง i-House พระราม 9 จะปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ตลอดแนวช่องจอดรถ เพิ่มความร่มรื่นให้คอนโดและช่วยบังแดดให้รถในช่วงกลางวันได้
ช่องจอดรถด้านหน้าอาคาร จะทำแท่นกั้น ตีช่องจอดไว้เป็นระเบียบ เรียบร้อย ยิ่งถ้ามีทางเข้าออกห้องจากตรงนี้เลย ยิ่งสะดวกเข้าไปใหญ่ค่ะ
อาคาร A
สำหรับในส่วนของอาคาร A ทางคอนโด i-House พระราม 9 จะแบ่งการขายออกเป็น 3 แบบ คือ
Fully Fitted ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.39 ล้านบาท (1 ห้องนอน 56 ตารางเมตร)
Fully Furnished ตกแต่งเดิม
Fully Furnished ตกแต่งใหม่
โดยห้องแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะมี ชั้นวางโทรทัศน์, ชั้นวางของ Built in, ชุดโต๊ะทำงาน, ชุดโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้, โต๊ะข้างเตียง, เตียง พร้อมฟูกและหัวเตียง, พื้นลามิเนจ และเครื่องปรับอากาศ แต่ห้องแบบ Fully Fitted จะปูพื้นกระเบื้องแทนค่ะ
แปลนชั้น 1 จะเป็นห้อง studio ขนาด 28 ตารางเมตร จำนวน 32 ห้อง และห้องมุม 1 ห้องนอน ขนาด 56 ตารางเมตร (กรอบแดง) อีก 1 ห้องค่ะ มีโถงล็อบบี้อยู่ตรงกลาง ซึ่งห้องที่ชั้น 1 จะพิเศษกว่าชั้นอื่นตรงที่มีสวนส่วนตัวอยู่บริเวณระเบียงด้วย ทำให้ราคาห้องชั้นนี้สูงกว่าห้องชั้นอื่นๆ โดยจะคิดราคาพื้นที่สวนต่อตารางเมตรเข้าไปด้วยค่ะ
ชั้น 2-6 ของอาคาร A จะเป็นห้อง Studio ขนาด 28 ตารางเมตรทั้งชั้น รวม 34 ห้อง มีทางหนีไฟ 2 จุด ตรงริมสุดอาคารซ้ายขวา ซึ่งห้อง type นี้จะเหมาะสำหรับผู้พักอาศัย 1-2 คน กำลังดีค่ะ และระเบียงของแต่ละห้องจะหันไปทางทิศตะวันออก-ตะวันตก ทำให้ช่วงกลางวันค่อนข้างร้อนกว่าห้องที่อยู่อาคาร B โดยห้องในกรอบสีแดงจะหันไปทางทิศตะวันออก ทำให้ได้รับแสงอาทิตย์สั้นกว่าห้องที่อยู่ในกรอบสีเหลืองที่หันไปทางทิศตะวันตกค่ะ
ส่วนชั้น 7-8 จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 56 ตารางเมตร จำนวน 17 ห้อง โดยห้องมุม 3 ห้อง (กรอบสีแดง) ของแต่ละชั้นจะได้เทียบเล็กน้อย ตรงที่ตำแหน่งห้องจะชนกับอาคาร B พอดี ทำให้แดดส่องมาไม่ค่อยถึงมากนักค่ะ
อาคาร B
ทางคอนโด i-House พระราม 9 จะแบ่งอาคาร B ไว้สำหรับปล่อยเช่าเท่านั้น โดยภายในห้องจะมีเฟอร์นิเจอร์พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็น โทรทัศน์ 25 นิ้ว, เครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำน้ำอุ่น, ตู้เย็น และไมโครเวฟให้
สำหรับแปลนชั้น 1 จะคล้ายกับแปลนชั้น 1 ของอาคาร A ค่ะ แต่จะเป็นห้อง Studio ขนาด 28 ตร.ม. ทั้งหมด 34 ห้อง โดยห้องทางทิศใต้ (ห้องด้านบน) จะมีพื้นที่สวนกว้างกว่าอาคาร A และห้องมุมสุดซ้ายมือจะเป็นห้องที่มีพื้นที่สวนกว้างที่สุด ซึ่งบรรยากาศรอบอาคาร B ค่อนข้างร่มรื่นกว่า เนื่องจากด้านหลังอาคารติดคลองเขมร และฝั่งซ้ายติดกับสวนสาธารณะพรรณภิรมย์ค่ะ
ชั้น 2-6 มีลักษณะห้องเหมือนกับชั้น 1 เป็นห้อง Studio ทั้งหมดเช่นกัน แต่ชั้นนี้จะไม่มีสวนและระเบียงให้ โดยแต่ละห้องจะหันไปทางทิศเหนือใต้อยู่แล้ว เลยทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องห้องร้อน
ส่วนชั้น 7-8 ก็จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 56 ตร.ม. จำนวน 17 ห้อง
สำหรับรายละเอียดการเช่า สัญญาเช่าจะเป็นแบบ 1 ปี มีค่าประกันการเช่า 2 เดือนและค่าเช่าล่วงหน้าอีก 1 เดือน โดยค่าเช่าต่อเดือนจะแบ่งเป็น
ห้อง Studio ขนาด 28 ตร.ม. ราคา 8,000-9,000 บาท/เดือน (ห้องติดสวนชั้น 1 ราคา 10,000 บาท/เดือน)
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 56 ตร.ม. ราคา 16,000 บาท/เดือน
ส่วนค่าไฟคิดเป็น 4.80 บาท/หน่วย (ไม่รวม VAT) และค่ำน้ำ 20 บาท/หน่วย (ไม่รวม VAT) ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในคอนโด i-House พระราม 9 ไม่หลากหลายนักมีห้องฟิตเนส ร้านซักรีด และห้องบริการซักผ้าให้ค่ะ
ห้องฟิตเนสอยู่ด้านในสุดของคอนโด ระหว่างอาคาร A และ B เปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00-22.00 น. ด้านในมีที่นั่งรับรอง และห้องโยคะในตัว ส่วนตัวห้องฟิตเนสกรุกระจก 2 สองด้าน ทำให้มองเห็นคลองด้านหลัง
อุปกรณ์ออกกำลังกายของ i-House พระราม 9 เป็นของ Fitness life เช่นเดียวกับของที่คอนโด i-Biza RCA ค่ะ ภายในมีเครื่องเล่นให้ประมาณ 8 เครื่อง ไม่รวมดัมเบล พร้อมจอทีวีสำหรับต่อฟังเพลง ดูหนัง
ถัดเข้าไปเป็นห้องโยคะขนาดไม่ใหญ่มาก สำหรับสาวๆ ที่อยากออกกำลังกายเบาๆ
มีที่นั่งรับรองหน้าห้องฟิตเนส เป็นโซฟาตัวยาวกับตัวเล็ก นั่งได้หลายคนอยู่ค่ะ
ส่วนร้านซักรีดจะอยู่ถัดไปทางอาคาร B เป็นบริการจากร้านข้างนอก ซึ่งภายในคอนโดก็จะมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญให้บริการด้วยเช่นกันค่ะ
ระแวกคอนโดค่อนข้างเงียบ ตั้งอยู่ใต้ดินทางด่วน ทำให้ร้านอาหารแถวนั้นมีน้อย หากไม่ต้องการหาไปหาร้านของกินไกลๆ ผู้พักอาศัยก็สามารถใช้บริการร้านค้าหน้าคอนโดตรงนี้ได้ค่ะ
คราวนี้เข้ามาดูที่ตัวคอนโดกันบ้าง หน้าทางเข้าล็อบบี้ทำเป็นทางลาด สำหรับรถเข็น เผื่อใครไม่สบายก็เข็นรถเข็นผ่านทางนี้ได้
ด้านในอาคารมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลอยู่ 24 ชั่วโมง
ก่อนถึงทางเข้าคอนโด ทาง i-House พระราม 9 ตั้งตู้จดหมายเรียงตามเลขห้องไว้แบบนี้ มีกุญแจล็อกให้เรียบร้อย
ระบบเข้าออกคอนโดจะเป็นระบบ Key card ทั้งหมด
เวลาออกจากคอนโดก็ให้กดปุ่มที่เห็นในภาพค่ะ
เมื่อเข้าไปในคอนโดจะเจอโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง มีลิฟต์ให้อาคารละ 2 ตัว แบบไม่ล็อกชั้น
ปุ่มกดด้านในลิฟต์เป็นแบบมาตรฐาน
ส่วนทางหนีไฟจะอยู่มุมสุดของอาคาร ทั้งสองฝั่งซ้ายขวา ซึ่งห้องที่อยู่ริมอาคารซ้ายขวาจะสะดวกสุด หากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ทางเดินในคอนโดปูกระเบื้องสวยงาม ติดไฟซาลาเปากลมให้ความสว่างตลอดทาง ทำให้ทางเดินไม่มืดมากค่ะ
Showroom - Studio 28sq.m.
สำนักงานขายโครงการ และห้อง Studio ตัวอย่าง ขนาด 28 ตารางเมตร
สำนักงานขาย i-House พระราม 9 ตั้งอยู่ในอาคาร A ชั้น 1 ห้องริมสุด ใกล้ทางเข้าคอนโดค่ะ
ภายในสำนักงานขายมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีที่นั่งรับรองอยู่หลายจุดเหมือนกันค่ะ
ตรงกลางสำนักงายตั้งโมเดลของคอนโดให้ดูเป็นตัวอย่างคร่าวๆ
ภาพโมเดลจากทางด้านหน้าคอนโดจะเห็นว่าคอนโคตั้งเป็นรูปตัวแอล (L) มีลานจอดรถกลางแจ้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าออก ทำให้สะดวกสำหรับผู้ที่ขับรถส่วนตัว สามารถเข้าจอดได้ทันที ไม่ต้องวนรถให้วุ่ยวายค่ะ
ฝั่งซ้ายมือของคอนโด หรือทางทิศตะวันตกติดกับสวนพรรรภิรมย์ ซึ่งจะมีทางเข้าสวนอยู่ตรงข้างคอนโดพอดี หากใครต้องการวิ่งออกกำลังกายก็ไปที่สวนได้สบาย
ส่วนด้านหลังคอนโดจะติดกับคลองเขมร และจะเห็นว่าระเบียงห้องของอาคาร B จะยาวมาจนเกือบถึงริมคลองเลย 1 BR sq.m. ห้อง Studio ขนาด 28 ตารางเมตร
แบบห้องของ i-House พระรามเก้า มีเพียง 2 แบบเท่านั้นค่ะ คือห้อง Studio ที่เรากำลังจะได้ชมกัน กับห้องแบบ 1 ห้องนอน 56 ตารางเมตร โดยห้อง Studio นี้จะเหมาะสำหรับผู้พักอาศัย 1-2 คน และสามารถประกอบอาหารมื้อใหญ่ได้ เนื่องทางคอนโด i-House พระรามเก้า จะแยกโซนครัวออกไปอยู่ทางระเบียงหลังห้อง ซึ่งจะต่างจากห้อง Studio ที่อื่นทั่วไป ที่มักเป็นครัวแบบเปิดค่ะ
สำหรับห้อง Studio จะมีลักษณะห้องแบบยาว ขวามือติดกับประตูคือห้องน้ำรับรอง ส่วนซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้า Built in ขนาดใหญ่ และเตียงนอนตั้งอยู่ตรงกลางห้อง เป็นโซนสำหรับการพักผ่อน ทานข้าว และนั่งทำงานไปในตัว ถัดเข้าไปเป็นห้องครัวแบบปิดยื่นออกไปด้านนอกเชื่อมกับระเบียง ทำให้กลิ่นและควันจากการประกอบอาหารลอยออกไปนอกอาคารได้สะดวก โดยระเบียงพักผ่อนจะกั้นด้วยประตูกระจกเต็ม ทำให้แสงจากด้านนอกส่องเข้ามายังในตัวได้ดี
ห้อง Studio ตัวอย่างที่เราจะได้ชมกัน เป็นห้องที่อยู่ตรงชั้น 1 ซึ่งจะมีระเบียงยื่นออกไปยังสวนส่วนตัวทางหลังห้อง ภายในห้องตกแต่งไว้สวยงาม พื้นปูด้วยไม้ลามิเนจ มีการเก็บบัวพื้นสวยงาม ผนังฉาบเรียบทาสีให้เรียบร้อย ระดับฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร ส่วนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็ค่อนข้างครบครันทีเดียวค่ะ
ประตูห้องเป็นประตูไม้ บานประตูค่อนข้างหนา แข็งแรง ที่จับเป็นก้านโยก โดยจะใช้กุญแจในการเข้าออกห้อง และมีตัวหมุนล็อกจากด้านใน
สวิตซ์ไฟเป็นแบบมาตรฐาน โดยสวิตซ์หลักจะอยู่ข้างประตูห้องพอดี
ทางเข้าห้องจะเป็นทางเข้าเล็กๆ มีตู้เสื้อผ้า Built in อยู่ทางขวามือ และห้องน้ำรับรองอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
ตู้เสื้อผ้าของคอนโดเป็นตู้แบบบานเลื่อนสลับ ใช้งานสะดวก หน้าบานติดกระจกเงาไว้ สามารถยืนแต่งตัว จัดองค์ทรงเครื่องที่หน้าตู้ได้ เพราะพื้นที่หน้าตู้ก็ไม่ได้แคบมากนัก
มีไฟโคมซาลาเปาอยู่ตรงจุดนี้ 1 ดวง เพื่อความสะดวกในการแต่งตัว
ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เหมาะสำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะ หรือผู้พักอาศัย 2 คน โดยตู้ฝั่งขวามือจะเป็นช่องเก็บของย่อย 3 ช่องกับช่องใหญ่ด้านบน ไว้สำหรับพับวางเสื้อผ้าที่ใส่อยู่คอนโดปกติ หรือวางของเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
ส่วนด้านบนทำเป็นชั้นเก็บของเช่นกัน ไว้เก็บหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน หรือของที่ไม่ได้ใช้ประจำได้
ตู้ฝั่งซ้ายเป็นราวแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นเก็บของด้านบนเช่นกัน
ชั้นเก็บของด้านบนจะสูงหน่อย คนตัวเล็กอาจจะต้องเอื้อมเล็กน้อยค่ะ
เมื่อมองย้อนกลับไป จะเห็นเป็นทางเล็กๆ แบบนี้ค่ะ ตรงเชิงผนังมีการติดตั้งบัวพื้นเพื่อความสวยงาม และช่วยกันรอยเปื้อนบริเวณขอบผนังด้านล่างได้ และจะสังเกตเห็นว่าที่พื้นได้ติดตัวกั้นกระแทกไว้ เพื่อกันประตูห้องชนผนังฝั่งห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามตู้เสื้อผ้านั่นเอง
ห้องน้ำรับรองอยู่ติดประตูทางเข้า มีประตูเปิด-ปิดมิดชิด พื้นกับผนังปูกระเบื้อง เพดานติดตั้งช่องดูดอากาศกับไฟโคมซาลาเปา ส่วนชุดสุขภัณฑ์มีครบ ทั้งอ่างล้างหน้า, กระจกส่องหน้า, ชักโครก พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่, ฝักบัว และเครื่องทำอุ่น แต่ห้องอาบน้ำจะไม่มีแพลทติชั่นกั้นให้ แค่แบ่งพื้นที่อาบน้ำออกจากโซนแห้งเท่านั้น
ประตูห้องน้ำเป็นประตูไม้ แต่ไม่หนาเท่าบานด้านนอก มีกลอนลูกบิดล้อกจากด้านในค่ะ
พื้นห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องแบบกันลื่น ร่องกระเบื้องไม่ห่างมากนัก ทำให้คราบสกปรกฝังตามร่องได้น้อยลง
ไฟในห้องน้ำมี 2 ดวง คือแบบโคมซาลาเปาปกติ กับ ไฟหลอดวงกลมที่มีช่องดูดอากาศอยู่ตรงกลางแบบนี้
อ่างล้างหน้ามีพื้นที่หน้าเยอะมาก วางข้าวของเครื่องใช้ได้เยอะ โดยก้นอ้างเป็นทรงวงรี ลึกพอประมาณค่ะ
ก๊อกน้ำแบบติดเคาน์เตอร์ วาล์วหมุนปกติ โดยทางคอนโด i-House พระรามเก้า ใช้เป็นสุขภัณฑ์ของ Vertigo
สะดืออ่างเป็นแบบฝาพลิก ข้อดีคือเปิดสะดวก และระบายน้ำได้รวดเร็วค่ะ
ใต้อ่างล้างหน้าจะไม่มีเคาน์เตอร์สำหรับเก็บของให้ เป็นการติดตั้งแบบแขวนผนัง ซึ่งจะประหยัดพื้นที่และสะดวกในการติดตั้งและซ่อมแซมกว่าอ่างล้างหน้าประเภทอื่นๆ
เหนืออ่างขึ้นไป ติดกระจกส่องหน้าบานใหญ่ และด้านล่างอ้างมีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ หากใครต้องการที่เก็บของใช้ อาจหาตู้อเนกประสงค์ หรือชั้นวางพลาสติดมาตั้งเสริมได้
โซนแห้งจะเป็นพื้นที่เว้าลึกเข้าไปทางด้านหลังค่ะ
โดยตำแหน่งชักโครกจะติดตั้งอยู่หลังบานประตูแบบนี้ ทำให้องศาการเปิดประตูน้อย แต่จะดีตรงที่หากใครที่กำลังทำธุระอยู่ แล้วลืมล็อกประตู คนจากด้านนอกก็จะไม่เห็นเราเช่นกัน
ระยะการติดตั้งชักโครกถือว่าไม่แคบมาก นั่งทำธุระแล้วไม่อึดอัด สามารถตั้งถังขยะไว้ข้างๆ ได้
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Vertigo เช่นกัน โดยปุ่มปล่อยน้ำแบ่งเป็น 2 ระดับ สำหรับถ่ายหนัก-ถ่ายเบา เพื่อประหยัดปริมาณน้ำในการใช้งาน
สายฉีดชำระโครเมี่ยม ทนทานต่อการสึกหรอ
ราวแขวนผนังอยู่ข้างชักโครก เมื่ออาบน้ำเสร็จก็จะต้องเดินมาหยิบผ้าขนหนูตรงนี้ ทำให้พื้นห้องน้ำเปียกไปทั่วบริเวณ
โซนอาบน้ำเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีแพลทติชั้นกระจกกั้นแยกโซนแห้งและโซนแห้ง โดยฝักบัวเป็นแบบ Rain Shower ที่ปรับระดับน้ำจะอยู่ด้านล่าง และมีเครื่องทำน้ำอุ่นติดตั้งอยู่ข้างๆ ค่ะ
ติดตั้งฝักบัว Rain Shower แบบฝังผนัง ซึ่งจะค่อนข้างลำบากเวลาซ่อมแซมอุปกรณ์ค่ะ
ที่ปรับระดับน้ำใช้วาล์วหมุนปกติ
สำหรับห้อง Studio ทาง i-House พระรามเก้า จะติดตั้งเครื่องน้ำอุ่นไว้เหนือตำแหน่งฝักบัว หากใครต้องติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอง อย่าลืมเดินสายดินเพื่อความปลอดภัยด้วยนะคะ
แท่นวางสบู่ของ American Standard อยู่ถัดจากวาล์วปรับระดับน้ำ
สำหรับธรณีหน้าห้องน้ำสูงประมาณ 2.5 นิ้ว แนะนำว่าให้วางพรมเช็ดเท้าไว้หน้าห้อง ไม่ให้พื้นห้องเปียก เพื่อป้องกันการบวมน้ำของพื้นลามิเนจที่อาจเกิดขึ้นจากความชื้นได้ค่ะ
ถัดเข้าไปเป็นโซนพักผ่อน ปูพื้นห้องด้วยไม้ลานิเนจ ผนังฉาบเรียบ มีเตียง โต๊ะทานข้าวและโต๊ะทำงาน Build in อยู่บริเวณกัน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ห้องดูอึดอัดมากนัก เพราะมีแสงจากธรรมชาติส่องเข้ามจากทางระเบียงได้อย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นกว่าเดิมค่ะ
เพดานติดตั้งไฟโคมซาลาเปา 1 ดวง พร้อมระบบป้องกันอัคคีภัยเรียบร้อย
และทางคอนโด i-House พระรามเก้า จะติดเครื่องปรับอากาศขนาด 18,000 BTU มาให้ 1 ตัว
เตียงนอนในห้อง Studio เป็นเตียงขนาดใหญ่ นอนได้ 2-3 คน (แต่ 3 คนอาจจะเบียดเล็กน้อย) โดยทางคอนโด i-House พระรามเก้า จะบุหัวเตียงให้ด้วยตามที่เห็นภาพ พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง
ห้อง Studio ของ i-House พระรามเก้า จะได้เป็นฐานเตียงพร้อมฟูก โดยเตียงจะเป็นแบบลอยตัว มีล้อที่ฐานเตียง ทำให้เคลื่อนย้ายสะดวก สามารถจัดตำแหน่งเตียงเองได้ตามต้องการ และสะดวกในการทำความสะอาดห้อง หรือถ้าใครต้องการได้พื้นที่ใช้สอย พื้นที่ทานอาหารเพิ่ม อาจย้ายเตียงไปชิดด้านในสุดก็ได้ค่ะ แต่ทีมงานไม่แนะนำ เพราะจะทำให้ขึ้น-ลงเตียงลำบาก และพื้นที่ทานข้าวก็ค่อนข้างกว้างพอควรอยู่แล้วด้วย
หัวเตียงบุหนังสีครีมเพื่อความสวยงาม สลับกับกระจกเงามาช่วยเพิ่มมิติให้แก่ตัวห้อง ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้
ข้างเตียงฝั่งซ้ายมือจะวางโต๊ะข้างเตียงให้ ตรงฝั่งนี้กว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ซึ่งต่อให้ขยับเตียงชิดผนังก็ไม่ได้ส่งผลให้พื้นที่ทานข้าวเพิ่มขึ้นเท่าไรนัก
โดยหัวเตียงฝั่งนี้จะมีปลั๊กไฟให้ 1 จุด
ส่วนฝั่งขวามือก็จะตั้งโต๊ะข้างเตียงให้เช่นกัน แต่พื้นที่ฝั่งนี้จะกว้างกว่า เพราะต่อยาวไปยังโซนทานข้าวด้วย
โดยหัวเตียงฝั่งขวามือจะเป็นปลั๊กไฟพร้อมปลั๊กสาย LAN ค่ะ
ปลายเตียงเดินผ่านได้สะดวก มีระยะห่างระหว่างเตียงถึงชั้นวางโทรทัศน์เกือบ 1 เมตร สามารถติดตั้งโทรทัศน์ขนาด 26-32 นิ้วได้โดยไม่ทำให้เสียสุขภาพตา
ชั้นวางโทรทัศน์เป็นชั้นลามิเนจ Built in ของทางคอนโด มีพื้นที่ให้วางโทรทัศน์และของใช้ได้พอสมควร
ส่วนด้านล่างทำเป็นลิ้นชักเก็บของ 4 ตู้ โดยแต่ละตู้มีเนื้อที่ให้เก็บของได้เยอะ เหมาะสำหรับคนที่มีของใช้เยอะๆ
ส่วนปลั๊กไฟกับปลั๊กสาย LAN จะอยู่ตรงผนังข้างๆ ชั้นวางโทรทัศน์ค่ะ
ติดกันเป็นโต๊ะทำงาน Built in ที่ทาง i-House พระรามเก้า ออกแบบมาให้เข้าชุดกับชั้นวางโทรทัศน์
โต๊ะทำงานมีลิ้นชักเก็บของให้ 2 ช่อง โดยพื้นที่หน้าโต๊ะทำงานค่อนข้างกว้าง อาจหาชั้นเก็บของตั๊งโต๊ะมาตั้งเพิ่ม เป็นการจัดระเบียบให้โต๊ะทำงานอีกวิธีหนึ่ง
ด้านบนก็เป็นชั้นวางของแบบ Built in เช่นกัน
ตรงกลางชั้นเป็นตู้เอนกประสงค์ ตำแหน่งไม่สูงมาก เอื้อมถึงค่ะ
ริมสุดของห้องจัดเป็นที่นั่งทานอาหาร โดยทางคอนโดจะให้โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว โดยบริเวณนี้จะมีเนื้อที่เหลือพอให้เราเปลี่ยนโต๊ะทานข้าวให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถเพิ่มจำนวนเก้าอี้ให้นั่งได้เยอะขึ้นได้ เหมาะสำหรับคนที่มีเพื่อนเยอะ
โต๊ะทานข้าวและเก้าอี้ของทางคอนโดเป็นแบบลอยตัว เคลื่อนย้ายได้ง่าย
ตรงนี้เชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านนอกกับห้องครัวแบบปิดค่ะ โดยประตูทั้งสองฝั่งทำเป็นประตูกระจกทั้งหมด และระเบียงห้องนี้ได้หันไปทางทิศตะวันออก ทำให้ช่วงกลางวันแสงส่องเข้ามาในห้องได้เต็มที่ แต่เนื่องจากทาง i-House พระรามเก้า ได้ปลูกต้นไม้สูงกั้นไว้ชั้นหนึ่ง จึงทำให้ห้องไม่ร้อนมาก
หน้าต่างระเบียงเป็นบานผลักผสมบานฟิกซ์ กรอบอลูมิเนียมสีขาว
ที่ล็อกแบบก้านโยก ด้ามจับแข็งแรง โดยเวลาเปิด-ปิดจะต้องกดปุ่มดำตรงกลางก่อนค่ะ
ส่วนประตูระเบียงเป็นกลอนลูกบิดในลักษณะผลักออกนอนห้อง
ระเบียงด้านบนปูกระเบื้องกันลื่น ธรณียกสูงเล็กน้อย
ติดไฟเพื่อความสะดวกเวลาใช้พื้นที่
สำหรับห้องที่อยู่ชั้น 1 จะมีทางลงไปสวนส่วนตัวด้านนอกค่ะ
ราวระเบียงสูง 1 เมตร พร้อมทำราวกั้นห้องไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน
ด้านล่างสวนใช้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ โดยวางให้หันหน้าออกไปนอกอาคาร ทำให้บริเวณระเบียงข้างบนมีพื้นที่ให้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ สามารถวางโต๊ะกาแฟเล็กๆ ได้ หรือจะหากระถางต้นไม้มาปลูกก็ดีค่ะ เพราะตรงนี้จะได้รับแสงแดดเป็นอย่างดี
หากมองย้อนเข้าไปจะเห็นส่วนของห้องครัวที่ยื่นออกมา ซึ่งต่างจากคอนโดที่อื่นตรงที่ทำเป็นกำแพงปิดสูงขึ้นไปจนถึงเพดาน แล้วค่อยทำช่องๆ ไว้สำหรับระบายกลิ่นและควันค่ะ
ครัวแบบปิด มีประตูกระจกปิดมิดชิด เพื่อป้องกันกลิ่นและควันลอยเข้าไปในห้อง
ห้องครัวของคอนโด i-House พระรามเก้า จะมีเคาน์เตอร์พร้อมชั้นเก็บของ Built in ด้านบนให้ พื้นปูกระเบื้องเพื่อความสะดวกในการเช็ดล้างทำความสะอาด ผนังฉาบเรียบ และเพดานติดไฟโคมซาลาเปาไว้ 1 ดวง ซึ่งห้องครัวของ i-House พระรามเก้า จะไม่มีเตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควันให้
เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์เหมาะสำหรับการทำอาหารมื้อหนัก เนื่องจากวัสดุจะมีความทนทานต่อแรงกระแทกมากกว่าเคาน์เตอร์ครัวแบบลามิเนจหรือเมลามีน โดยหน้าเคาน์เตอร์มีพื้นที่ให้ประกอบอาหารเยอะ สามารถซื้อเตาไฟฟ้าแบบพกพามาตั้งเพิ่มได้ค่ะ
คอนโด i-House พระรามเก้า ทำอ่างล้างจานเป็นเนื้อเดียวเคาน์เตอร์ ดูสวยงามและไม่มีปัญหาเรื่องรอยต่อของซิงค์ล้างจานกับเคาน์เตอร์ ก้นอ่างลึกทรงสี่เหลี่ยม สามารถใช้ล้างผักผลไม้ได้สะดวก
ก๊อกน้ำทรงหูกระต่าย วาล์วหมุนเปิด-ปิด
ใต้อ่างล้างจานโชว์ระบบท่อน้ำ ซึ่งการติดตั้งลักษณะนี้ จะสะดวกต่อการบำรุงรักษาและซ่อมแซมในอนาคต
มีช่องระบายน้ำอยู่ใต้เคาน์เตอร์
เหนือเคาน์เตอร์ครัวเป็นราวแขวนติดผนัง ไว้สำหรับเก็บช้อนส้อม หรืออุปกรณ์ทำครัวต่างๆ
สำหรับชั้นเก็บของจะ Built in มาให้ทางด้านบน ตำแหน่งไม่สูงมาก เป็นชั้นลามิเนจแบบไม่ Soft close แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานออกเป็นตู้อเนกประสงค์ 2 ตู้ กับช่องสำหรับวางไมโครเวฟค่ะ
ช่องวางไมโครเวฟที่อยู่ด้านบนแบบนี้ จะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งาน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุเวลายกของร้อนได้ง่ายกว่าอยู่ด้านล่าง
บริเวณเดียวกันเป็นที่วางตู้เย็นฟิกซ์ขนาดมา วาางได้ใหญ่สุดที่ 6 คิว และควรวางออกห่างจากผนังเล็กน้อย ประมาณ 5-6 นิ้ว เพื่อให้ตู้เย็นระบายความร้อนได้ดีขึ้น
ด้านหลังตู้เย็นมีปลั๊กไฟให้ 1 จุด
ภาพห้อง Studio จากทางฝั่งห้องครัวค่ะ
ห้อง Studio ขนาด 28 ตารางเมตรของคอนโด i-House พระรามเก้า เหมาะสำหรับผู้พักอาศัย 1-2 คน โดยภายในห้องจะได้เฟอร์นิเจอร์พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่าง ได้แก่
เฟอร์นิเจอร์ : ผ้าม่านโปร่งพร้อมแผงบังม่าน, ชั้นวางโทรทัศน์, ตู้เสื้อผ้า Built in, โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว, เตียงพร้อมฟูก, โต๊ะหัวเตียง 2 ตัว, แผงกรุหัวเตียง, โต๊ะทำงานและชั้นวางของ Built in, ชุดครัว และสุขภัณฑ์ห้องน้ำ
เครื่องใช้ไฟฟ้า : เครื่องปรับอากาศ, เตาไมโครเวฟ และตู้เย็น
**โดยเงื่อนไขต่างๆ จะเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดค่ะ
1BR 56 sq.m.
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 56 ตารางเมตร
สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนของคอนโด i house พระราม 9 จะมีขนาดเดียวเท่านั้น แต่แบ่งการขายออกเป็น 3 แบบค่ะ คือ Fully fitted , Fully Furnished เดิม และ Fully Furnished ใหม่ ซึ่งแบบเดิมกับใหม่ จะแต่กันที่การตกแต่งภายในและรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ โดยตัวเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับจะมี ชั้นวางโทรทัศน์, ชั้นวางของ, โต๊ะทำงาน, ชุดทานข้าว, เตียงพร้อมฟูก, หัวเตียง, โต๊ะข้างเตียง และเครื่องปรับอากาศเช่นเดียวกับห้อง Studio แต่มีขนาดใหญ่กว่า สำหรับผู้พักอาศัย 2-3 คน แต่ด้วยความที่มีห้องนอนเพียงห้องเดียว อาจทำให้ผู้พักอาศัยไม่ค่อยได้รับความเป็นส่วนตัวสักเท่าไรนัก คนที่มีเพื่อนเยอะก็เหมาะสำหรับห้องนี้เช่นกันค่ะ เพราะพื้นที่ห้องนั่งเล่นค่อนข้างกว้าง มีโซฟาขนาดใหญ่ตั้งกลางห้อง
พื้นที่ภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ ทางซ้ายมือ(ตรงกับประตูทางเข้า) ที่เป็นโซนพักผ่อน มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ไว้นั่งเล่นและนั่งทานอาหารได้ในบริเวณเดียวกัน และมีห้องน้ำรับรองอยู่ใกล้ประตู ซึ่งห้องน้ำนี้จะมีขนาดเล็ก มีเพียงชักโครกกับอ่างล้างหน้า ไม่มีห้องอาบน้ำให้ค่ะ ถัดไปเป็นห้องครัวแบบปิดที่ยื่นออกไปทางระเบียงเช่นเดียวกับห้อง Studio ค่ะ
ส่วนทางขวามือเป็นโซนของพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งจะเป็นส่วนของห้องนอน ภายในมีห้องน้ำพร้อมห้องแต่งตัวให้ และเนื่องจากทางคอนโด i house พระราม 9 ทำเป็นห้องนอนขนาดใหญ่เพียงห้องเดียว ทำให้มีพื้นที่เหลือพอให้ตั้งโต๊ะทำงานเพิ่มได้ นอกจากนั้นก็ยังมีห้องซักผ้าที่เดินระบบน้ำให้เรียบร้อย เพิ่มขึ้นมาอยู่ตรงริมสุดของห้องนอน ทำให้พื้นที่สวนด้านนอกของห้องนี้กว้างกว่าของห้อง Studio
ห้องตัวอย่างที่เห็นในภาพเป็นแบบ Fully Furnished ตกแต่งใหม่ ทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับในห้องนี้มีความโมเดิร์นกว่าแบบเดิม แต่ของที่ได้จะเหมือนกัน ซึ่งถือว่าค่อนข้างครบครัน และห้องแบบ Fully Furnished เดิม จะปูพื้นกระเบื้องไม่ใช่ลามิเนจอย่างห้องนี้ค่ะ
ผนังจะทาสีฉาบเรียบเหมือนกัน ระยะฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร ติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยเรียบร้อย ไฟที่ใช้เป็นไฟโคมซาลาเปาสีส้มเช่นกัน โดยในห้องเล่นจะติดเครื่องปรับอากาศให้ 1 ตัว มีระเบียงยื่นออกไปด้านนอก ทำให้แสงส่องเข้ามาในตัวห้องได้อย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่งสบายตา บวกกับการตกแต่งต่างๆ ที่เน้นลายไม้ สีเอิร์ธโทน ยิ่งทำให้บรรยากาศในห้องดูอบอุ่นขึ้น
ประตูห้องเป็นประตูไม้ ที่จับก้านโยก มีที่หมุนจากด้านในเหมือนห้องสตูดิโอ
สวิตซ์ไฟแบบมาตรฐานของ clipsal
พื้นลามิเนจทำบัวพื้นเรียบร้อย เพื่อความสวยงมและช่วยป้องกันรอยเปื้อนตามร่องผนังค่ะ
หน้าประตูมีเก้าอี้แบบตัว สำหรับนั่งใส่รองเท้าตั้งไว้ สามารถเคลื่อนย้ายได้ค่ะ
ไฟโคมซาลาเปาสีส้ม 2 ดวง อยู่ตรงทางเข้าห้องกับตรงห้องนั่งเล่น ให้แสงสว่างเพียงสลัวๆ ตามแบบคอนโดมิเนียมทั่วไปกับระบบป้องกันอัคคีภัยตรงกลางห้องค่ะ
ทางคอนโด i house พระราม 9 ตั้งโซฟาหนังขนาดใหญ่นั่งได้ 2-3 คนแบบไม่เบียด ด้านหลังติดวอล์ลเปเปอร์ลายอิฐ สไตล์ให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ห้องจริงจะเป็นผนังทาสีฉาบเรียบปกติ ซึ่งผุ้พักอาศัยสามารถติดเพิ่มเองได้ หรือจะหากรอบรุป ของตกแต่งมาติดอย่างเดียวก็สวยงามเช่นกัน
โซฟาเป็นแบบลอยตัว สามารถเคลื่อนย้าย จัดตำแหน่งได้ตามต้องการ และรูปแบบของโซฟาที่เป็นแบบโชว์ขาแบบนี้ จะทำให้ห้องของเราดูกว้างขึ้นได้
ข้างโซฟากว้างพอให้ตั้งชั้นวางได้ ซึ่งชั้นไม้ทั้ง 2 ชั้น ทางคอนโด i house พระราม 9 ก็จะให้กับห้องจริงด้วยค่ะ
หลังชั้นไม้ทั้งสองฝั่งจะมีปลั๊กไฟกับปลั๊กสาย LAN ให้
ชั้นวางโทรทัศน์ Built in มาให้สวยงาม พร้อมชั้นติดผนังด้านบน
แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นลิ้นชักทั้งหมด 3 กล่อง มีพื้นที่กว้าง เก็บของได้เยอะ ส่วนพื้นที่หน้าชั้นก็กว้างสามารถตั้งโทรทัศน์ขนาด 26-40 นิ้วได้สบายๆ และยังใช้ตั้งของตกแต่ง หรือชุดโฮมเธียเตอร์เพิ่มได้เช่นกัน โดยทางคอนโคได้ติดปลั๊กไฟพร้อมปลั๊กสัญญาณให้แล้วข้างๆ ค่ะ
ลึกเข้าไปเป็นโซนทานอาหาร ซึ่งคอนโด i house พระราม 9 จะให้เป็นโต๊ะทานข้าวขนาดกลางพร้อมเก้าอี้ 3 ตัวกับห้องจริงด้วย โดยโต๊ะทานข้าวเป็นแบบลอยตัว ผู้พักอาศัยสามารถขยับโต๊ะออกมา แล้วเพิ่มเก้าอี้อีกหนึ่งตัวได้
สำหรับห้องครัวจะเป็นแบบปิดเช่นเดียวกับห้องสตูดิโอ มีประตูกระจกบานผลัก กลอนลูกบิด ปิดไว้มิดชิด เพื่อป้องกันกลิ่นอาหารและควันเข้าไปยังส่วนอื่นของห้อง โดยเคาน์เตอร์และส่วนต่างๆ ของครัวจะเหมือนกับของห้องสตูดิโอทุกประกาาร คือ เป็นเคาน์เตอร์หินเทียม มีอ่างล้างจานแบบเนื้อเดียวกับเคาน์เตอร์ จึงไม่มีปัญหาเรื่องรอยแยกของขอบอ่าง ด้าบบน Built in ตู้เก็บของพร้อมช่องวางไมโครเวฟมาให้เรียบร้อย และวางตู้เย็นขนาด 6 คิวไว้ข้างๆ ซึ่งครัวของ i house พระราม 9 จะไม่มีเครื่องดูดควันให้ เนื่องจากตัวห้องครัวยื่นออกไปทางสวนด้านนอก และทำช่องระบายควันไว้ให้แบบนี้แทน
มองย้อนกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นจะเห็นประตูเชื่อมไปยังห้องนอน ที่มีประตูเปิด-ปิดมิดชิด แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน ทำให้ผู้พักอาศัยได้รับความเป็นส่วนตัว
ห้องนอนมีขนาดใหญ่ แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องแต่งตัวและห้องน้ำด้านใน โดยริมสุดของห้องจะเชื่อมกับระเบียงพักผ่อนและห้องซักผ้าอีกด้วย สำหรับเฟอร์นิเจอร์ในห้องเป็นแบบ Built in ซะส่วนใหญ่ ได้แก่ ชั้นวางโทรทัศน์พร้อมชั้นวางของข้างบน , โต๊ะทำงาน , เตียงพร้อมฟูก และโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งค่ะ เพดานติดไฟโคมซาลาเปาคู่กับระบบป้องกันอัคคีภัย พื้นปูลามิเนจแบบเดียวกับห้องนั่งเล่นด้านนอกค่ะ
ประตูห้องนอนจะคล้ายๆ กับประตูห้องข้างนอกคือเป็นประตูไม้ ก้านโยก แต่ดูบางกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
เตียงขนาดคิงไซส์ตั้งอยู่กลางห้อง สามารถนอนได้เต็มที่ 3 คน หัวเตียงทำการบุหนังไว้อย่างสวยงาม
มองจากทางด้านบานจะเห็นว่าทางคอนโด i house พระราม 9 ทำการซ่อนไฟไว้ ซึ่งเราสามารถวางของพวกแว่นตา หรือโทรศัพท์มือถือไว้ตรงนี้ได้
ไฟหัวเตียงเหมาะสำหรับใช้เปิดเวลาตอนกลางคืน แทนโคมไฟ เพราะแสงไฟไม่ได้สว่างมาก แค่พอให้เห็นทางเดินเวลาต้องการเข้าห้องน้ำตอนดึกๆ ค่ะ
พื้นข้างเตียงฝั่งเหลือพื้นที่เยอะ สามารถตั้งชั้นวางของหรือโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มได้สบายๆ
ปลั๊กไฟพร้อมปลั๊กสัญญาณให้เรียบร้อย
เครื่องปรับอากาศในห้องนอนมีขนาด 18,000 BTU เท่ากับห้องนั่งเล่นค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายมือก็มีลักษณะคล้ายกัน แต่จะกว้างน้อยกว่า มีโต๊ะข้างเตียงให้ด้วยเช่นกัน
โต๊ะข้างเตียงจะเป็นแบบเดียวกับห้องสตูดิโอค่ะ Built in เรียบร้อย ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
และฝั่งนี้จะมีปลั๊กไฟให้เพียงอย่างเดียว
ส่วนพื้นที่ปลายทางเดินไปมาได้สะดวก แม้จะ Built in ชั้นวางโทรทัศน์แล้วก็ตาม
ชั้นวางมีหน้าตาเหมือนในห้องสตูดิโอ สามารถวางโทรทัศน์ขนาด 26-32 นิ้ว และยังเหลือที่ข้างๆ ให้วางของอย่างอื่นเพิ่มได้ เช่น เครื่องเล่นดีวีดี หรือชุดโฮมเธียเตอร์
เมื่อเลื่อนลิ้นชักออกมาจะเห็นว่าที่เก็บของค่อนข้างเยอะทีเดียว โดยไม่จำเป็นต้องซื้อชั้นเพิ่ม
ด้านหลังมีปลั๊กไฟ ปลั๊กสัญญารให้พร้อมค่ะ
ส่วนชั้นวางของข้างบนจะคล้ายกับของห้องสตูดิโอ มีชั้นวางและตู้อเนกประสงค์ให้
ถัดไปเป็นโต๊ะทำงาน Built in เหมือนกับในห้องสตูดิโอ
ด้านล่างเป็นลิ้นชักเก็บของ 2 ลิ้นชัก เลื่อนออกมาได้กว้างพอสมควร
ใต้โต๊ะมีปลั๊กไฟกับปลั๊กต่อสาย Lan ให้ สะดวกในการทำงาน เวลาที่ต้องใช้โน๊ตบุ๊คส์หรือคอมพิวเตอร์ค่ะ
โดยโต๊ะทำงานจะอยู่ติดกับระเบียงด้านหลังห้อง ทำให้แสงส่องเข้ามายังบริเวณนี้ได้เต็มที่ มีแสงสว่างเพียงพอ เหมาะสำหรับการนั่งทำงาน เนื่องจากไฟโคมซาลาเปาที่ติดให้ 1 ดวงนั้นอาจไม่สว่างเท่าที่ควร หรือจะซื้อโคมไฟมาตั้งเพิ่มที่โตีะทำงานก็ได้เช่นกันค่ะ
ส่วนประตูระเบียงจะมีลักษณะเหมือนกับห้องสตูดิโอ คือเป็นประตูกระจกบานผลัก กลอนลูกบิดล็อกจากด้านใน และมีหน้าต่างไว้ให้เปิดระบายอายอากาศ
หน้าต่างเป็นแบบบานผลักผสมบานฟิกซ์ เวลาเปิดก็ให้กดปุ่มดำตรงกลางแล้วผลักออกค่ะ
ธรณีระเบียงสูงเล็กน้อย พื้นกระเบื้องแบบกันลื้น
ราวระเบียงสูง 1 เมตร มีทางลงไปยังสวนด้านล่าง ที่ตั้งคอมเพรสเซอร์แอรไว้ค่ะ
มองกลับเข้าไปในห้องนอนจะเห็นห้องแต่งตัว ที่กั้นด้วยแพลทติชั้นบานเลื่อนแบบนี้ค่ะ
แพลทติชั่นห้องแต่งตัวเป็นบานเลื่อนเดี่ยวบวกบานฟิกซ์ 1 บาน ในลักษณธเลื่อนจากขวาไปซ้าย หน้าแพลทติชั้่นติดกระจกเงาเต็มบาน สามารถยืนส่องความเรียบร้อยได้สะดวก
ภายในห้องแต่งตัวทำเป็นราวแขวนผ้าแบบเปิด แขวนไม่พอสมควรแต่ไม่ถึงกับเยอะมาก ผู้พักอาศัยอาจหาตู้เสื้อผ้าแบบลิ้นชักมาวางเสริมได้ เพราะพื้นที่ภายในห้อง ค่อนข้างกว้างพอสมควร
ด้านข้างทำเป็นช่องเก็บของ มีชั้นวางให้ด้านบนสำหรับเก็บพวกของใช้อื่นๆ หรือผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่มสำรองได้
ติดกันเป็นห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งห้องน้ำห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำให้ด้วยคู่กับฝักบัวแบบ Hand Shower นอกนั้นจะคล้ายกับห้องน้ำห้องอื่น คือเป็นสุขภัณฑ์ของ Vertigo พื้นและผนังปูกระเบื้อง ติดไฟพร้อมช่องดูดอากาศให้เรียบร้อย แต่กระจกส่องหน้าห้องนี้จะใหญ่กว่าทุกห้องค่ะ
ประตูห้องน้ำเป็นกลอนลูกบิด บานประตูทำเป็นกระจกฝ้า กรอบอลูมิเนียมสีอบขาว ไม่สามารถมองทะลุได้
ไฟห้องเป็นโคมซาลาเปากับไฟหลอดวงกลม
โดยไฟหลอดวงกลมจะมีช่องดูดอากาศอยู่ตรงกลางแบบนี้
ฝักบัวติดตั้งแบบติดผนัง อยู่บริเวณเดียวกับอ่างอาบน้ำ ฉะนั้นหากใครต้องอาบน้ำอย่างเดียว ไม่แช่น้ำ จะต้องยืนอาบที่อ่าง ซึ่งต้องระวังนิดนึงเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้
ฝักบัวจับถนัดมือ
ที่ปรับระดับอยู่ด้านล่างเชื่อมกับอ่างอาบน้ำด้วยเช่นกัน ฝั่งหนึ่งใช้เปิดน้ำฝักบัว ส่วนอีกฝั่งใช้เปิดน้ำที่อ่าง
อ่างอาบน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก นั่งได้คนเดียว
มีที่ว่างข้างอ่างให้เล็กน้อย อาจไว้วางของ หรือใช้นั่งถูสบู่ก็ได้
อ่างอาบน้ำเป็นสุขภัณฑ์ของ American Standard
สะดืออ่างเป็นแบบปุ่มกดป็อปอัพค่ะ
ส่วนอ่างล้างหน้าจะเป็นแบบเดียวกับห้องสตูดิโอ แต่ก๊อกน้ำจะหมุนปรับอุณหณภูมิได้
ใต้อ่างล้างหน้าติดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้
กระจกส่องหน้ายาวจนถึงชักโครกที่ตั้งอยู่ริมด้านใน
ลักษณะชักโครกก็เป็นแบบเดียวกับห้องสตูดิโอเช่นกันค่ะ
ธรณีห้องน้ำไม่ได้ยกสูงมาก แนะนำให้วางพรมเช็ดเท้าไว้ เพื่อไม่ให้พื้นลามิเนจเปียกชื้น ซึ่งในอนาคตอาจเกิดการบวมน้ำขึ้นได้
Environment
สำรวจโลเคชั่นรอบโครงการ i-House พระราม 9
ภายในโครงการให้บรรยากาศร่มรื่นและค่อนข้างสงบเงียบ เนื่องจากคอนโด i-House พระราม 9 อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลปิยเวช และโรงพยาบาลกรุงเทพ จึงทำให้บริเวณนี้กลายเป็นเขตปลอดเสียงไปโดยปริยาย แต่ก็ไม่ลำบากเกินไปนัก หากจะออกไปหาความสบายตามศูนย์การค้า หรือหาความบังเทิงในย่าน RCA ค่ะ
รอบคอนโด i house พระราม 9 จะไม่ได้มีความอุดมสมบูรณ์มากนัก ร้านค้าร้านอาหารค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งอาจมาจากที่ตั้งคอนโด ที่ตั้งอยู่ใต้ทางด่วนศรีรัช แต่หากจะพูดถึงความสะดวกในการเดินทาง การคมนาคม ถือว่าสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ง่ายดาย เนื่องจากอยู่ติดถนนพระรามเก้า ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน และยังมีเส้นทางลัดเลาะไปยังย่านเพชรบุรีได้ด้วย
ทิศเหนือของคอนโด จะอยู่ติดกับถนนพระรามเก้า เป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างแยกพระรามเก้า กับ แยกสาธุประดิษฐ์มนูธรรม
ทิศใต้ของคอนโด ติดกับคลองเขมร
ทิศตะวันออกของคอนโด ติดกับร้านค้า และใกล้กับซอยพระรามเก้า 26 ที่สามารถลัดไปยังซอยเพชรบุรี 47 ได้
ทิศตะวันตก จะติดกับสวนสาธารณะพรรณภิรมย์ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ร่มรื่น ผู้พักอาศัยสามารถไปพักผ่อน วิ่งออกกำลังกายที่นี่ได้ค่ะ
รอบคอนโดมีร้านค้าไม่มากมายนักค่ะ ค่อนข้างเงียบพอสมควรเลย
สถานที่ใกล้เคียงคอนโด i house พระราม 9
(ภาพจาก :http://www.piyavate.com)
คอนโด i house พระราม 9 ห่างจาก โรงพยาบาลปิยะเวช ประมาณ 1.4 กิโลเมตร
(ภาพจาก : www.bangkokhospital.com)
จะไป โรงพยาบาลกรุงเทพ ก็ทำได้สะดวกเช่นกัน
(ภาพจาก : www.praram9.com)
อีกหนึ่งโรงพยาบาลที่อยู่ในย่านนี้ก็คือ โรงพยาบาลพระรามเก้านั่นเอง จึงทำให้ระแวกคอนโดค่อนข้างสงบ
(ภาพจาก : เพจ CentralPlaza RAMA9)
แต่หากต้องการไปยังแหล่งอำนวยความสะดวก ก็สามารถไปได้อย่างง่ายด่าย โดยวิ่งไปทางแยกพระรามเก้าสักประมาณ 4 กิโลเมตรก็จะเจอ เซ็นทรัล แกรนด์ พระราม 9 ใกล้ๆ กันจะมี ฟอร์จูน ทาวน์ ตั้งอยู่ ซึ่งตรงจุดนี้จะเป็นทางลงไปรถไฟใต้ดิน สถานีพระรามเก้า อีกด้วยค่ะ
และสำหรับคนที่ชอบปาร์ตี้ ชอบเที่ยว ก็ต้องย่าน RCA นี่แหล่ะค่ะ ที่ไม่ห่างจากคอนโด i house พระราม 9 มากนัก เป็นย่านที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารนานาชนิด มีความคึกคักแทบตลอดเวลา ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ซึ่งย่าน RCA นี้ยังอยู่ติดกับคอนโด i-House RCA กับ i-Biza RCA คอนโดที่มีเจ้าของเดียวกับ i-House พระราม 9 นั่นเอง
สถานที่สำคัญย่าน RCA มีดังนี้ค่ะ
RCA Plaza
โรงภาพยนตร์ House RCA
Route 66
Onyx Bangkok
ร้านอาหารดังหลากหลายสัญชาติ
เมื่อตรงมาจะเป็นทางแยกเข้าสู่ Royal Avenue City (RCA)
รถค่อนข้างเยอะบริเวณทางแยก มีทางรถไฟตัดผ่านด้วยค่ะ
ทางเข้า RCA เป็นถนนสองเลน มีรปภ.รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ซึ่ง Rca เป็นแหล่งย่านสถานบันเทิง อยู่ในเขตห้วยขวาง เป็นถนนสายเชื่อมระหว่างถนนพระราม 9 กับถนนเพชรบุรี
ในช่วงเวลากลางวัน ซอย RCA จะมีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่นค่ะ เพราะพนักงานออฟฟิศและผู้อาศัยในละแวกนั้นออกมาทานอาหารในย่านนี้
ด้านใน RCA มีชื่อเสียงด้านสถานบันเทิงในเวลากลางคืน แต่ในช่วงเวลากลางวันก็มีร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่มากมายค่ะ
มี Rca Plaza อยู่ในซอย ซึ่งในห้างก็จะมีร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ ,Tops Market,มงคลสตูดิโอ ซึ่งเป็นสถานที่จัดอีเวนท์และคอนเสิร์ตเล็กๆ, Go kart และโรงภาพยนตร์ เฮาส์ RCA เป็นโรงหนังเล็กๆ บรรยากาศค่อนข้างอบอุ่น ส่วนใหญ่จะนำหนังแนวอินดี้ หนังที่ได้รับรางวัลและหนังญี่ปุ่นมาฉาย
ส่วนทางเข้าโครงการจากทางฝั่งซอย RCA จะอยู่กลางๆ ซอย ระยะทางจากปากซอยเข้ามาจะอยู่ที่ 750 เมตร
ในซอย Rca มีรถของ Rca ให้บริการฟรี
เมื่อเดินออกมาถนนพระราม 9 ฝั่งทางไปโรงพยาบาลปิยะเวทก็จะพบ คอนโด TC Green
TC Green เป็นคอนโดติดถนนใหญ่ 2 ด้านทำให้สามารถเดินทางได้หลากหลายรูปแบบ และอยู่ใกล้สนามบิน
Analysis
วิเคราะห์โครงการ i-House พระรามเก้า
ทำเล : คอนโด i-House พระรามเก้า ตั้งอยู่บนถนนพระรามเก้า หากเดินทางด้วยรถส่วนตัวจะสะดวกที่สุดค่ะเนื่องจากอยู่ตรงใต้ทางด่วนพอดิบพอดี เมื่อขับรถออกไปไม่ไกลก็จะเจอจุดขึ้นลงทางด่วนแล้ว และเส้นพระรามเก้ายังเรียกได้ว่าเป็นย่าน new CBD ที่มีศักยภาพในการพัฒนา สามารถเติบโตต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี จึงเป็นทำเลที่น่าสนใจ และน่าจับตามองค่ะ
สภาพล้อมแวดล้อม : เนื่องจาก i-House พระรามเก้า ตั้งอยู่ติดถนนพระรามเก้า ใกล้ทางด่วน ทำให้ระแวกคอนโดมีรถราสัญจรมากมาย และทิศตะวันออกติดสวนพรรณภิรมย์ ทิศตะวันตกใกล้โรงพยาบาลปิยะเวชจึงทำให้บรรยากาศรอบคอนโดค่อนข้างสงบเงียบ ส่วนด้านความอุดมสมบูรณ์ บริเวณคอนโดจะร้านค้าร้านอาหารค่อนข้างน้อยค่ะ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคอนโดตั้งอยู่ใต้ทางด่วนพอดี แต่กระนั้นก็ยังมีมินิมาร์ทอยู่หน้าคอนโดอยู่ 2 ยูนิต และหากต้องออกไปแหล่งอำนวยความสะดวกก็ทำได้สะดวก ไม่ว่าจะไปทางแยกพระรามเก้า หรือลัดไปทางซอยศูนย์วิจัยก็จะเจอย่าน RCA ที่มีทั้งร้านอาหารและสถานบันเทิงให้นั่งชิวกัน
แบบห้อง : คอนโด i-House พระรามเก้า มีแบบห้องให้เลือกไม่มาก แบ่งเป็นห้อง Studio ขนาด 28 ตร.ม. กับ 1 ห้องนอน ขนาด 56 ตร.ม. ค่ะ ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้พักอาศัย 1-2 คนเท่านั้น ถ้าเยอะกว่านี้อาจจะอึดอัดเกินไป และห้อง Studio ของที่นี่จะเป็นครัวปิด เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารด้วยเช่นกัน
สิ่งอำนวยความสะดวก : พื้นที่ส่วนกลางมีห้องฟิตเนส และห้องซักรีด ซึ่งจะค่อนข้างน้อยกว่าคอนโดมิเนียมอื่นทั่วไป จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยใช้พื้นที่ส่วนกลางมากนัก หรือหากใครที่ชื่นชอบการวิ่งอาจไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนพรรณภิรมย์แทนได้ค่ะ
ราคา : ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 60,500 บาท ถือว่าไม่สูงมากนัก สำหรับคอนโดที่ตั้งอยู่ในย่าน New CBD ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน โดยทางคอนโด i-House พระรามเก้า จะแบ่งเป็นห้องสำหรับปล่อยขาย กับปล่อยเช่า นอกจากนี้ทางคอนโดยังมีราคาโปรโมชั่นที่คอยรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่วนนี้สามารถสอบถามรายละเอียดได้จากทางพนักงานขายโดยตรงค่ะ
โครงการ i-House พระรามเก้า เหมาะสำหรับผู้พักอาศัย 1-2 คน เพราะถึงจะมีขนาด 56 ตารางเมตร แต่ก็มีเพียง 1 ห้องนอนเท่านั้นค่ะ และด้วยห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างจึงเหมาะกับคนที่มีเพื่อนเยอะ หรือคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องแบบเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่ง ก็เหมาะกับคอนโด i-House พระรามเก้า เช่นกัน เพราะห้องแบบ Fully Furnished ค่อนข้างเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ก็ไม่จำเป็นต้องตกแต่งเพิ่มเท่าไรนัก การเดินทางก็เป็นไปอย่างสะดวกค่ะ เพราะในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งผ่านหน้าคอนโด คือสถานีย่อยประดิษฐ์มนูธรรม และหากใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ง่าย ไปทำงานได้ง่าย เพราะที่ตั้งคอนโดอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน และยังอยู่ใกล้ย่าน CBD ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ ที่กำลังเติบโตขึ้นในภายภาคหน้า