[Review] U Campus รังสิต - เมืองเอก คอนโดมิเนียมเอาใจนักศึกษา ใกล้ห้างฯ และแหล่งชอปปิง
พหลโยธิน 87 ซอย 6 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
Review Info
โครงการคอนโด ยู แคมปัส รังสิต - เมืองเอก เป็นโครงการที่มีเจ้าของเดียวกันกับคอนโด U Delight ค่ะ โดย Condo U Campus แห่งนี้เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวที่เป็นเซกเมนต์ของบริเวณสถานศึกษา ตัวโครงการจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบอยู่ในบรรยากาศของชุมชนคนรุ่นใหม่ โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว แม้ภายในโครงการจะเงียบสงบ แต่ออกมาข้างนอกก็คึกคัก ไม่เงียบเหงา
ข้อมูลโครงการ U Campus รังสิต - เมืองเอก โดยละเอียด
Condo U Campus รังสิต - เมืองเอก เป็นคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 87 หรือในย่านที่เราคุ้นกันดีอย่าง เมืองเอก นั่นเอง ในย่านนี้ถือเป็นทำเลแห่งอนาคตเพราะกำลังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีหลักหก ซึ่งจะทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบายมากขึ้นและมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากตามไปด้วย และด้วยคอนเซ็ปต์ของคอนโดที่สร้างมาขนาดกะทัดรัดในบรรยากาศสถานศึกษา ราคาจึงสมเหตุสมผล รายล้อมด้วยสิ่งแวดล้อมสีเขียวอย่าง Geometric Park ขนาดใหญ่และพื้นที่พิเศษสำหรับจอดรถจักรยานเพื่อ Eco Society ทั้งยังพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในคอนโดครบครัน ทำให้ คอนโด ยู แคมปัส รังสิต - เมืองเอก สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยทั้งที่เป็นกลุ่มนักศึกษาก็ได้ กลุ่มคนทั่วไปก็ดีทีเดียวค่ะ
ชื่อโครงการ
คอนโด ยู แคมปัส รังสิต - เมืองเอก
ราคาห้องเริ่มต้น
1.75 ล้านบาท ( 28 ตารางเมตร )
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม. ทั้งโครงการ
65,000 บาท
เว็บไซต์โครงการ
http://www.grandu.co.th/ucrm/webpage/home.html
เบอร์โทรติดต่อ
02-652-4000
Location
เหมาะกับผู้เดินทางที่ใช้ได้ทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้าสายสีแดงที่จะสร้างเสร็จในอนาคตอันใกล้นี้ และยังพร้อมไปด้วยสถานที่สำคัญใกล้เคียงที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตได้อย่างหลากหลาย
ที่ตั้งโครงการ U Campus รังสิต - เมืองเอก
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวบนถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าปทุมธานี (ฝั่งขาออก)
จริงๆแล้วถนนกำแพงเพชร 6 ฝั่งมุ่งหน้าธัญบุรีก็สามารถใช้เดินทางได้นะคะ แต่ในขณะนี้กำลังดำเนินการสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ดังนั้นจึงควรใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นเส้นทางหลักก่อนค่ะ ส่วนในอนาคตเราก็จะมีเส้นทางที่สามารถใช้เดินทางในย่านนี้แน่ๆ 3 เส้นทาง ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีหลักหก, ถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก, และถนนกำแพงเพชรหก ค่ะ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในครั้งนี้ขอใช้ สนามบินดอนเมือง ในถนนฝั่งขาเข้า เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเราค่ะ
ขับรถมาในถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก แล้วเห็นสนามบินดอนเมืองอยู่ทางฝั่งขาเข้า ก็แสดงว่ามาถูกทางแล้วค่ะ ขับตรงมาเรื่อยๆได้เลย
เมื่อผ่านดอนเมืองมา ให้ขับตรงมุ่งหน้าไปรังสิตค่ะ
เมื่อขับตรงมาจนเจอห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี รังสิต ก็เตรียมชิดซ้ายเข้าเมืองเอก
เมื่อผ่านบิ๊กซีมาจะเจอทางเบี่ยง ให้เบี่ยงซ้ายไปทางตลาดสี่มุมเมืองตามป้าย
ทางเข้าจะอยู่ที่ซอยพหลโยธิน 87 แต่สภาพแวดล้อมแถวนั้นจะสังเกตุยาก ดังนั้นให้สังเกตุซอยพหลโยธิน 85 แทน แล้วแถวนั้นก็จะมีป้ายของโครงการสีเหลืองบอกทางอยู่ค่ะ
เลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 87 แล้วตรงมาอีกประมาณ 400 เมตร ก็จะเจอทางเข้าตัวโครงการ u campus และถัดไปอีกประมาณ 50 เมตรจะเป็น sale office ค่ะ
ระหว่างที่ขับเข้ามาในซอย จะเห็นว่าทั้งสองข้างทางมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันค่ะ ตั้งแต่ต้นซอยที่จะมีบริการวินมอเตอร์ไซค์และรถสองแถวอยู่ทางด้านขวามือ อีกฝั่งหนึ่งก็จะเห็นร้านอาหารหลากหลายริมรายทางให้เลือกเพลินเลยค่ะ
หน้าตาของทางเข้าโครงการค่ะ
ตรงทางเข้า - ออกของผู้ใช้รถยนต์ที่นี่จะใช้ระบบคีย์การ์ดค่ะ
ขับรถวนเข้าไป ผ่านระบบคีย์การ์ดแล้วก็จะเจอทางออกค่ะ แล้วเลี้ยวซ้าย
สำนักงานขายประจำคอนโด ยู แคมปัส รังสิต - เมืองเอก ซึ่งที่ตั้งของสำนักงานอยู่ติดกับร้านพิซซ่าคอมปะนีเลยค่ะ
Insight
เจาะลึกภาพรวมโครงการ U Campus รังสิต - เมืองเอก
โครงการนี้เป็นแบบ low rise 8 ชั้น 2 อาคารค่ะ เป็นคอนโดมิเนี่ยมที่เน้นเจาะตลาดนักศึกษา ดังนั้นลูกบ้านส่วนใหญ่จึงเป็นนักศึกษา โดยเฉพาะนักศึกศาจาก ม.รังสิต ค่ะ
ด้านนี้เป็นด้านหลังของคอนโด ประกอบไปด้วยอาคาร B และอาคาร A ตามลำดับค่ะ
ผังแสดงพื้นที่ชั้น G ของคอนโดจะเป็นลานจอดรถ สระว่ายน้ำ และสวนหย่อมค่ะ จะเห็นได้ว่าคอนโดเป็นสไตล์ Eco Society เน้นพื้นที่สีเขียวรายรอบอาคารทั้งด้านนอกและพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่อย่าง Geometric Park ด้านใน แม้พื้นที่สีเขียวจะมีขนาดกว้าง ทำให้บรรยากาศดูโล่ง โปร่ง สบาย แต่ก็ยังสามารถจุรถได้ถึง 115 คันแบบยังไม่รวมจอดซ้อนคันนะคะ
คอนโด ยู ที่นี่จะมี 2 อาคาร อาคารละ 8 ชั้น โดยมีชั้น 1 เป็นชั้นใต้ถุนที่ทำเป็นลานจอดรถค่ะ ส่วนขนาดและลักษณะของห้องก็จะมีหลากหลายขนาด จัดวางไปตามมุมและความกว้างของการจัดวางอาคารค่ะ
และนี่คือด้านหน้าก่อนเข้ามาภายในตัวอาคารของคอนโดค่ะ ที่นี่จะมีรปภ.ที่คอยดูแลและรักษาความปลอดภัยรวมถึงคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยตลอดเวลา
เลยมาทางซ้ายมือจะมีทางเลี้ยวตรงใต้อาคาร A สามารถเลี้ยวผ่านเข้ามาจอดรถในโซนด้านในของอาคาร B ได้ค่ะ
เมื่อเดินเลี้ยวเข้ามาตรงใต้ถุนอาคาร A จะเห็นว่ารถตู้ของคอนโดจอดแสตนบายด์อยู่แล้ว 2 คันทางด้านซ้ายมือของเราค่ะ โดยรถตู้ 2 คันนี้จะเป็นบริการของทางคอนโดที่จัดไว้สำหรับรับ - ส่งผู้อาศัยในคอนโดตามสถานที่ต่างๆโดยจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือรอบเช้าและรอบเย็น และออกเดินทางทุกๆ 30 นาที ค่าบริการคนละ 15 บาทต่อเที่ยวค่ะ
(ทางคอนโดแอบกระซิบว่าจะใกล้ไกลแค่ไหนก็ไปส่งได้ แถมแค่ห้านาทีเท่านั้นก็ถึง ม.รังสิตแล้วล่ะค่ะ)
ทางด้านหลังของที่จอดรถตู้จะเป็นลานซักผ้า มีตู้ซักผ้าหยอดเหรียญของส่วนกลางไว้ให้ใช้ได้ตลอดเวลาค่ะ
เมื่อเดินออกมาจากใต้ถุนอาคาร A เพื่อมาดูภาพรวมของสวนด้านในคอนโด จะเห็นว่าต้นไม้ภายในคอนโดมีทั้งแบบต้นสูงและพุ่มไม้สลับกันไป ให้ความรู้สึกโล่ง สบายตาและไม่หนาแน่นจนเกินไปแม้ว่าจะมีตัวอาคารโอบล้อมอยู่ค่ะ
U campus 360 องศา
ส่วนด้านในตรงมุมของอาคารก็จะมีสระว่ายน้ำขนาดกะทัดรัดให้พักผ่อนหย่อนใจหรือใช้ออกกำลังกายก็ได้เช่นกันค่ะ
ข้างๆสระว่ายน้ำก็จะเป็นพื้นที่ของสวนหย่อม มีที่ให้นั่งรับลมและสูดอากาศยามเช้าได้ที่นี่เลย
ถ้าเป็นมุมรอบด้านของสระว่ายน้ำต้องเป็นภาพจากกล้อง 360 ของเราภาพนี้เลยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับสระว่ายน้ำใต้ถุนอาคาร A จะมีล็อกเกอร์สำหรับใส่ของของผู้ที่มาใช้บริการสระว่ายน้ำ รวมถึงมีห้องอาบน้ำให้กับผู้ที่มาว่ายน้ำและห้องน้ำของส่วนกลาง อยู่ในโซนเดียวกันค่ะ
ห้องน้ำและห้องอาบน้ำอยู่ในโซนเดียวกันค่ะ
อ่างล้างมือจะเป็นแบบก๊อก ดูสะอาดสะอ้านทีเดียวค่ะ
ต่อเนื่องมาทางด้านซ้ายมือของห้องน้ำและล็อกเกอร์ ใต้ถุนตึกอาคาร A จะมีห้องโถง เป็นแบบ open air ตามสไตล์ Eco Society เลยค่ะ ห้องโถงนี้ก็คือโซนล็อบบี้นั่นเอง
มองออกมาจากล็อบบี้ก็จะเห็นสีฟ้าของสระน้ำและสีเขียวของต้นไม้รอบๆในฝั่งตรงข้าม (จากรูป ทางด้านซ้ายของล็อบบี้จะเป็นสำนักงานของคอนโด และทางด้านขวาจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ)
หากเข้าจากทางด้านหน้าของอาคาร A มาในโซนล็อบบี้ ทางด้านซ้ายมือจะเป็นที่นั่งพักและชั้นหนังสือพิมพ์ แต่ถ้าเข้าจากทางสระว่ายน้ำ ก็จะกลายเป็นอยู่ทางฝั่งขวามือแทนค่ะ บริเวณนี้จะเปิดโล่ง รู้สึกได้ถึงลมเย็นสบายตลอดวัน
ถ้าเดินเข้ามาจากทางด้านหน้าของอาคาร A มาในโซนล็อบบี้ ทางด้านขวามือจะมีบอร์ดประชาสัมพันธ์ของคอนโด และถัดไปเป็นห้องฟิตเนสค่ะ แต่ถ้าเดินเข้ามาจากทางสระว่ายน้ำ ก็จะอยู่สลับกันคือทางด้านซ้ายมือค่ะ
ที่นั่งพักในโซนล็อบบี้ฝั่งติดกับฟิตเนสค่ะ ฟิตเน็ตเข้าออกด้วยระบบ Key Card ค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในห้องฟิตเนสก็จะเห็นอุปกรณ์เล่นเวทสำหรับผู้มาใช้บริการเป็นอย่างแรกเลยค่ะ
เดินลึกเข้ามาด้านในจะมีลู่วิ่งที่หันไปเห็นวิวของสวนหย่อมและสระว่ายน้ำ รวมถึงมองเห็นไปถึงตัวอาคาร B และลานจอดรถใต้อาคาร B ได้พอดีค่ะ
ภาพจากกล้อง 360 จะเห็นว่าห้องฟิตเนสยังมีพื้นที่และเครื่องเล่นสำหรับออกกำลังกายอีกหลายอย่างนะคะ
และนี่คือลานจอดรถใต้อาคาร B ค่ะ สำหรับที่นี่จะเป็นการจอดรถใต้อาคารทั้งหมดค่ะ
เมื่อเดินผ่านลานจอดรถมาเรื่อยๆทางทิศตะวันออกจะเห็นประตูสำหรับเข้าไปภายในคอนโดค่ะ ผู้ที่มีคีย์การ์ดเท่านั้นนะคะถึงจะเข้าออกได้
เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วจะมีตู้จดหมายเรียงรายอยู่ทางด้านขวามือของเราค่ะ
เดินผ่านมาก็จะเจอลิฟต์ โดยแต่ละอาคารจะมีลิฟต์ 2 ตัว เป็นระบบล็อกชั้นเฉพาะเจ้าของห้องชุดเท่านั้นค่ะ
ที่นี่จะดูแลการเข้าออกของลูกบ้านด้วยการใช้คีย์การ์ด รวมถึงการใช้ลิฟต์ที่ใช้คีย์การ์ดเช่นกันค่ะ
เมื่อขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 2 ของอาคาร B ก็จะเป็นโถงทางเดินยาวมีแสงไฟจากหลอดไฟและแสงจากภายนอกส่องถึงไปตลอดเส้นทางทั้งซ้ายและขวา ไฟจะสลัว ๆ หน่อย แต่ก็ไม่ได้มืดค่ะ
และจะมีห้องสำหรับทิ้งขยะอยู่ในโซนที่จัดไว้ให้ตามแต่ละชั้นค่ะ
ภายในห้องขยะก็จะมีชั้นวางสำหรับจัดแยกขยะประเภทต่างๆที่ลูกบ้านจะช่วยกันทำได้ สร้างสุขภาวะที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยคนอื่นๆรวมทั้งดีต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วยค่ะ จุดนี้เป็นคอนเสปเฉพาะตัวของทุกโครงการของ Grand U ค่ะ
ถัดจากห้องสำหรับทิ้งขยะมาจะมีประตูหนีไฟและอุปกรณ์ดับเพลิงที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนค่ะ
การจัดวางห้องก็เป็นไปตามขนาดและพื้นที่ของช่วงตัวอาคารอย่างที่ได้กล่าวไปค่ะโดยห้องขนาด 27 ตร.ม.(สีเหลือง) เป็นห้องขนาดเล็กที่สุดจึงอยู่ระหว่างอาคารทั้งอาคาร ส่วนห้องขนาดใหญ่ขึ้นมาขนาด 31 ตร.ม. (สีฟ้า) จะอยู่โซนด้านในติดกับสวนหย่อมและอยู่ส่วนปลายติดกับห้องขนาด 50 ตร.ม. (สีส้ม) ซึ่งจะอยู่ปลายสุดของตัวอาคาร ส่วนห้องขนาด 39 ตร.ม. (สีชมพู) จะกระจายอยู่ตามห้อง standard และห้องขนาด 44 ตร.ม. จะอยู่ตรงมุมด้านนอกของทั้งสองอาคารค่ะ
แต่ก่อนที่เราจะไปชมห้องตัวอย่างที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยเหมือนห้องจริงกัน ก็จะมีข้อมูลแปลนห้องให้เราได้ดูรายละเอียดกันก่อนทั้งจากในโบรชัวร์และในเว็บไซต์ของโครงการค่ะ ซึ่งแบบห้องจะมีทั้งหมด 5 ขนาด เป็น 1 Bedroom 4 ขนาด และ 2 Bedrooms Family 1 ขนาดค่ะ
1 BR 27 sq.m.
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตารางเมตร
แม้ว่าจะเขียนหัวข้อว่าห้องตัวอย่าง แต่จริง ๆ แล้วมันก็คือห้องจริงที่ตกแต่งไว้เป็นตัวอย่างค่ะ เพราะห้องตั้งอยู่ในตัวอาคารโดยตรงเลย สำหรับห้องที่เรเข้ามาเก็บภาพเป็นห้อง B0211 ทางทิศตะวันออกค่ะ ห้องนี้เป็นแบบ 1 ห้องนอน ติดเครื่องปรับอากาศมาให้ตัวเดียวคือในห้องนอนค่ะ ครัวเป็นแบบเปิดติดกับระเบียง ตกแต่งสไตล์ Grand U คือใช้พื้นที่ทุกตารางเมตรอย่างคุ้มค่าด้วยเฟอร์นิเจอร์ของทางโครงการ
ถ้าในรูปจะเป็นตำแหน่งห้อง B11 ค่ะ อยู่มุมบนขวามือด้านนอก
ยูนิตนี้ทางโครงการออกแบบมาสำหรับคนที่อยู่คนเดียวหรือสองคน เพราะพื้นที่ค่อนข้างกะทัดรัด และในโซนห้องนั่งเล่นจะไม่ได้ติดตั้งแอร์ไว้ แต่สามารถรับความเย็นได้โดยการเปิดหน้าต่างและประตูข้างห้องนอนค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ห้อง B 0211 เดินเข้ามาดูกันเลย
สำหรับตรงประตูจะเป็นแบบลูกบิดประตูที่ต้องกดล็อกและใช้กุญแจไขเพื่อปลดล็อกนะคะ ถ้าต้องการความปลอดภัยมากกว่านี้อาจจะเพิ่ม Digital Dook Lock เข้าไปก็ได้ค่ะ
ก่อนเข้ามาในห้องจะสังเกตเห็นว่าพื้นทางเดินเข้าห้องจะทำยกพื้นตรงประตูขึ้นมาให้เพื่อกันฝุ่นละอองจากภายนอกห้องที่จะเข้ามาในห้องค่ะ
ภาพ 360 องศาของห้องนั่งเล่น
ภาพแรกที่เปิดห้องมาก็จะเห็นภาพกว้างๆ มีโซนนั่งเล่น โต๊ะกินข้าว ห้องนอน และวิวด้านนอกค่ะ
ในโซนห้องนั่งเล่นกันก่อนเลยนะคะ ทางโครงการตกแต่งห้องโดยเน้นโทนเย็นสีสว่าง ตัดกับสีของตกแต่งที่เป็นโทนขาวดำทำให้โซนนี้ดูโปร่ง สบายตามากๆเลยค่ะ
ทางโครงการแถมโซฟาที่มีลิ้นชักด้านล่างมาให้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า ถ้าใครติดตามโครงการของ Grand U อาจจะคุ้นตาดีค่ะ หมอนสามสี วอลเปอร์ และพรม ไม่รวมอยู่ในรายการของแถมนะคะ
ถัดจากโซฟาจะมีโต๊ะไม้ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีเก้าอี้อีกหนึ่งตัว จะมีหน้าต่างบานเลื่อนเปิดไปทางห้องนอนได้ ตรงนี้เอาไว้รับแอร์จากห้องนอนค่ะ เพราะเครื่องปรับอากาศทางโครงการติดให้มาตัวเดียวคือในห้องนอน
ส่วนหลอดไฟติดเพดานเป็นแบบโคมซาลาเปาใช้หลอดแบบวงกลมค่ะ แต่อีกอันที่เป็นโคมไฟแบบห้อยซึ่งทางโครงการไม่ได้แถมมาให้ค่ะ ชั้นวางของสองตัวที่ติดผนังก็เช่นกันค่ะ
หันกลับมาทางด้านหลังจะเป็นชั้นวางโทรทัศน์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ โดยเป็นชั้นวางที่เชื่อมติดกับผนังค่ะ ขวามือของชั้นวางโทรทัศน์จะเป็นตู้บิ้วท์อินติดกับผนังเช่นกัน เป็นตู้สำหรับวางรองเท้าซึ่งวางได้หลายชั้นเลยค่ะ แต่ตอนเปิดประตูก็ระวังนิดนึงนะคะ อาจจะไปฟาดทีวีได้ เพราะไม่ได้มีที่หยุดประตูให้
ชั้นวางรองเท้าก็จะมีชั้นกว้างและแคบสลับกันไป มีทั้งหมด 7 ช่องค่ะ เหนือชั้นวางรองเท้าจะเป็นระบบไฟค่ะ
ใต้ชั้นวางโทรทัศน์จะมีเต้าเสียบสำหรับเสียบปลั๊กและเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆอย่างละอันค่ะ
ถัดมาเรามาดูที่ห้องนอนกันต่อเลยค่ะ มองจากด้านนอกจะสามารถเห็นภาพวิวต้นไม้ได้ชัดเจน ดูแล้วสบายตาดีค่ะ แสงไฟจากห้องด้านนอกและแสงไฟธรรมชาติจากอีกฝั่งสามารถส่องเข้ามาถึงห้องนอนได้พอดี ไม่ดูอับแสงและไม่ถึงกับจ้าเกินไป
ก่อนจะเข้าไปดูที่ห้องนอน ที่พื้นจะมียกพื้นไว้กันฝุ่นละอองเช่นเดียวกับที่ประตูด้านหน้าที่เราเข้ามาเมื่อสักครู่นี้ค่ะ ส่วนด้านล่างทางซ้ายมือจะมีเต้าเสียบสำหรับเชื่อมสายโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต กับช่องเสียบปลั๊กไฟอีกอย่างละหนึ่งอันค่ะ
เมื่อเข้ามาในบริเวณห้องนอนจะรู้สึกได้ถึงความสบายตาค่ะ ทางโครงการตกแต่งออกมาแบบมินิมอลนิดๆ โทนสีอ่อนๆทำให้ห้องดูกว้าง และไม่ดูอึดอัดคับแคบค่ะ ส่วนฐานเตียงที่ทางคอนโดมีให้จะเป็นขนาด 5 ฟุตค่ะ แต่สำหรับตัวฟูกหรือเตียงรวมถึงผ้าปูที่นอนหมอนมุ้งเราเป็นผู้ที่ต้องหาซื้อมาเองค่ะ
ตรงหัวเตียงมีช่องเล็กๆสำหรับวางของที่หัวเตียงได้นะคะ ซึ่งในสถานการณ์จริงมันจะเป็นที่วางโทรศัพท์มือถือ
ฝั่งหัวเตียงที่ติดกับห้องนั่งเล่นจะมีปลั๊กไฟเอาไว้ให้ค่ะ ตรงนี้จะใช้เสียบโคมไป หรือเสียบชาร์ตมือถือก็ได้ค่ะ
หันมาทางซ้ายมืออีกนิดจะเป็นหน้าต่างกระจกแบบบานเลื่อน โดยมีตัวล็อกหน้าต่างของ Reliance เปิดได้ทางเดียวค่ะ หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดม่านเพิ่มได้
พอหันกลับมาอีกฝั่งหนึ่งก็จะเห็นตู้เสื้อผ้าที่มีความสูงเท่าประตูเลยค่ะ สามารถเก็บของตามแนวยาวได้ดี ด้านบนตู้ก็สามารถวางสัมภาระสิ่งของได้
ภายในตู้ก็จะแบ่งเป็น 2 ช่องใหญ่ๆ ทางซ้ายจะเป็นช่องกว้างกว่า มีพื้นที่สำหรับแขวนเสื้อผ้าได้หลายชุด ตรงกลางมีชั้นไว้สำหรับวางสิ่งของที่ต้องหยิบใช้บ่อยๆได้ เช่นของที่ใช้ประจำวันอย่างเสื้อผ้าชั้นใน หรือชุดนักศึกษาค่ะ ใต้ชั้นวางของก็จะมีราวสแตนเลสสำหรับแขวนเสื้อผ้าได้อีกด้วยค่ะส่วนช่องว่างทางด้านขวาจะแคบกว่า มีราวสำหรับแขวนอยู่ด้านบนเช่นเดียวกัน แต่ชั้นวางของจะอยู่เหนือจากพื้นตู้มาเล็กน้อยค่ะ
ถัดจากตู้เสื้อผ้ามาทางด้านซ้ายมือก็จะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีที่ว่างมากพอสำหรับวางสิ่งของต่างๆทั้งด้านบนและในลิ้นชัก เหนือโต๊ะเครื่องแป้งไปจะเป็นกระจกบานกะทัดรัดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเช่นกัน ด้านใต้กระจกจะเป็นเต้าเสียบสำหรับเสียบปลั๊กไฟ สามารถใช้ชาร์จโทรศัพท์หรือใช้ไดรฟ์เป่าผมก็ได้ค่ะ สาเหตุที่ติกระจกไว้ริม ๆ ทางโครงการคงคิดเอาไว้แล้วว่าอีกฝั่งหนึ่งเจ้าของห้องจะสามารถวางข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ได้อีก
ถ้าเงยหน้าไปด้านบนจะเห็นไฟที่เพดานซึ่งเป็นแบบเดียวกับไฟติดเพดานด้านนอกเลยค่ะ มีที่ครอบพลาสติกไว้เรียบร้อยเช่นเดียวกัน เครื่องปรับอากาศ ที่นี่จะใช้ยี่ห้อ DAIKIN ค่ะ
ส่วนทางด้านซ้ายของโต๊ะเครื่องแป้งก็เป้นหน้าต่างซึ่งเห็นวิวด้านข้างห้องได้อย่างชัดเจน วิวด้านที่เห็นนี้ก็จะเป็นต้นไม้เขียวๆ ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับห้องนอนได้อย่างดีเลยค่ะ
สำหรับบานล็อกของหน้าต่างจะเป็นตัวล็อกของหน้าต่างบานเลื่อน ยี่ห้อ Reliance เช่นกันค่ะ
ภาพห้องนอนจากมุมโต๊ะกินข้าวด้านนอกค่ะ
ภาพจากกล้อง 360 องศาของห้องนอนค่ะ ต้องปิดม่านหน่อยค่ะ จะได้เก็บรายละเอียดได้ชัด ๆ
ถัดจากห้องนอน เมื่อหันกลับมาทางด้านหลังจะเห็นตู้เย็นเป็นสิ่งแรกซึ่งถือเป็นโซนของครัวแล้วล่ะค่ะ จะเห็นว่าให้พื้นที่วางตู้เย็นมาใหญ่เลย ในจุดนี้สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ หรือจะขยับตู้เย็นมาหน่อยแล้วหาตู้ใส่ของมาเพิ่มสักตัวก็ได้ค่ะ
เมื่อเดินตรงเข้าไปทางห้องครัวซ้ายมือจะเป็นอุปกรณ์ครัวซึ่งที่นี่จะเป็นครัวแบบปิดนะคะ ทางด้านซ้ายของตู้เย็นจะมีเต้าเสียบสำหรับใช้เสียบปลั๊กไฟจำนวน 3 เต้าเสียบ เจ้าของห้องสามารถใช้ครัวประกอบอาหารได้ด้วยกระทะไฟฟ้าหรือไมโครเวฟก็ได้ค่ะ แต่ที่นี่จะเป็นครัวแบบปิดนะคะ กลิ่นจะไม่ไปรบกวนห้องอื่น ๆ ไม่มีที่ดูดควันมาให้ต้องระบายควันออกทางระเบียงค่ะ
พื้นด้านล่างบริเวรโถงทางเดินกับโซนห้องครัวจะมียกพื้นขึ้นมาเล็กน้อยเช่นเดียวกับพื้นหน้าประตูทางเข้าห้องและประตูห้องนอนค่ะ
อ่างล้างจานจะเป็นก็อกน้ำที่เป็นแสตนเลส สตีล ของ HAFELE ส่วนซิ้งค์ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสไม่มีที่พักจานมาให้ ส่วนท็อปเป็นพื้นผิวลามมิเนตซึ่งทนน้ำได้พอสมควร แต่พยายามให้พื้นแห้งเอาไว้จะดีกว่าค่ะ
อ่างล้างจานที่นี่มีลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์ครัว 2 ที่ค่ะ ชั้นบนสามารถเก็บช้อนส้อมหรือมีดได้ มีช่องตรงกลางๆกว้างๆสำหรับวางไมโครเวฟหรือเตาอบได้ และตามด้วยลิ้นชักสำหรับเก็บของอีกชั้นหนึ่งค่ะ
ดวงไฟด้านบนเป็นโคมทรงซาลาเปาเช่นเดิม หากมองถัดออกไปจากอ่างล้างจานก็จะเป็นระเบียงและโซนสำหรับซักทำความสะอาดเสื้อผ้าแล้วค่ะ
โซนระเบียงจะมีประตูเป็นกระจกบานเลื่อนกั้นไว้ เมื่อเปิดออกจะสามารถระบายควันจากการทำอาหารหรือระบายอากาศได้สบายๆค่ะ
ส่วนตัวล็อกบานเลื่อนยังคงเป็นของ Reliance เช่นเดิม
ก่อนจะเดินออกไปตรงระเบียง ก้มลงดูที่พื้นซักนิด เค้ามีพื้นยกขึ้นมาถึงประมาณข้อเท้าของเราทั้งสองฝั่งของระเบียงเลยค่ะ ยกพื้นตรงนี้ช่วยกันน้ำรวมถึงฝุ่นละอองต่างที่อาจเข้ามาได้ ช่วยกันน้ำจากการซักหรือตากผ้า หรือแม้กระทั่งฝนสาด ไม่ให้เข้ามาในห้องของเราได้ค่ะ
เงยหน้ามองไปด้านบนจะเป็นราวตากผ้าค่ะ อยู่สูงเหมือนกัน แต่ที่เป็นอย่างงี้เพราะเป็นการวางเพื่อให้ได้รับลมจากแอร์ค่ะ
หันไปมองอีกฝั่งจะเห็นเรื่องซักผ้า ด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟที่มีฝาปิดกันน้ำเข้า เจ้าตัวนี้เป็นของ bticino ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกับสวิตช์ไฟของทั้งห้องและยี่ห้อเดียวกับเครื่องตัดไฟที่อยู่เหนือชั้นวางรองเท้าหน้าห้องค่ะ
ด้านล่างจะเป็นท่อระบายน้ำโดยมีท่อประปาและก็อกน้ำอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้น้ำขังสามารถระบายได้เร็วขึ้นค่ะ
ส่วนเหนือหัวของเราจะเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ติดไว้ให้ตรงฝาผนังด้านบน เป็นการช่วยประหยัดพื้นที่ได้อย่างดีค่ะ ตำแหน่งจะตรงข้ามกับราวตากผ้าพอดี ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นค่ะ
โซนห้องครัวและระเบียงในมุมมองแบบ 360 องศาค่ะ
หันกลับมาด้านในก็จะเจอห้องสุดท้ายแล้วค่ะ ห้องน้ำนั่นเอง
ขวามือจะมีสวิตช์ไฟของห้องน้ำและมีสวิตช์ของพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำไว้ให้ด้วยค่ะ
ยกพื้นหน้าห้องน้ำมีความสูงประมาณข้อเท้าเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นหายห่วงเรื่องน้ำกระเด็นเลอะเทอะออกมานอกห้องน้ำได้เลยค่ะ
ภาพ 360 องศาของห้องน้ำค่ะ
เปิดประตูเข้าไปก็จะเจออ่างล้างหน้ากับกระจกก่อนเลย กระจกของที่นี่จะเป็นแบบแขวนค่ะ น้ำหนักกระจกจะไม่หนักมาก ส่วนก็อกตรงอ่างล้างหน้าของ VRH Victor เป็นแบบก็อกเปิด-ปิดและอ่างล้างหน้าจะมีความลึกที่พอดีค่ะ
ด้านล่างของอ่างล้างหน้าจะมีวาล์วเปิด - ปิดน้ำอยู่นะคะ ตรงนี้จะสะดวกหากมีการต้องซ่อม
สำหรับสายฉีดที่ใช้คู่กับชักโครกเป็นสายฉีดของ VRH ส่วนชักโครกที่นี่จะเป็นของ COTTO ค่ะ
วาล์วที่เป็นตัวควบคุมการไหลของน้ำบริเวณสายฉีดก็จะอยู่ล่างลงมาทางด้านขวาของชักโครกค่ะ
มียกพื้นกั้นระหว่างบริเวณอ่างล้างหน้าในห้องน้ำกับพื้นที่สำหรับอาบน้ำ ความสูงประมาณข้อเท้าเช่นเดิมค่ะ ประตูเปิดได้เกือบสุดเลย
ที่เปิดสุดไม่ได้เพราะติดราวม่านค่ะ ซึ่งเราต้องหามาติดเองเพื่อกันน้ำกระเด็นไปยังโซนแห้งค่ะ มีฝักบัวหัวกลมของ HOY และที่วางสบู่อยู่ถัดไป
แต่ส่วนหัวของฝักบัวจะเป็นของ VRH นะคะ
ส่วนหัวก็อกหมุนเปิด-ปิดฝักบัวจะเป็นยี่ห้อ VRH สายฝักบัวจะเป็นสายอ่อน
อีกด้านหนึ่งของผนังห้องน้ำจะเป็นที่วางสบู่ค่ะ
มุมในสุดจะมีท่อระบายน้ำ ทั้งในฝั่งพื้นที่สำหรับอ่างน้ำและฝั่งของอ่างล้างหน้าค่ะ
เวลากางผ้าม่านออกก็จะช่วยกันน้ำจากการอาบน้ำข้างในกระเด็นออกไปข้างนอกได้ค่ะ แต่อุปกรณ์พวกนี้หามาเองนะคะ
ด้านบนจะเห็นดวงไฟ เป็นแบบมีฝาครอบเช่นเดิมจึงไม่ต้องกลัวเรื่องน้ำกระเด็นโดนหลอดไฟค่ะ และใกล้ๆกันมีพัดลมสำหรับระบายอากาศที่สามารถเปิดสวิตช์ได้ตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำค่ะ
มีราวสำหรับแขวนผ้าเช็ดตัวให้ด้วยนะคะ
ปิดท้ายด้วยภาพ 360 ที่เห็นมุมรวมทั้งหมดของห้องแบบหนึ่งห้องนอนขนาด 27 ตร.ม. ค่ะ
1 BR 44 sq.m.
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 44 ตารางเมตร
ถัดจากห้องนอนขนาดเล็กสุด มาต่อกันที่ห้องขนาดใหญ่สุดของประเภทหนึ่งห้องนอนกันเลยค่ะโดยจะเป็นห้องตัวอย่างที่ตกแต่งแบบห้องจริงที่ทางคอนโดตกแต่งไว้สำหรับเยี่ยมชมเช่นกัน ห้องนี้จะมีขนาด 44 ตร.ม. เป็นห้องที่มีขนาดเหมาะสำหรับอยู่อาศัย 2-3 คน จะเน้นพื้นที่ของห้องโถงตรงกลางมากเป็นพิเศษค่ะ สำหรับห้องที่เรามาเก็บภาพเป็นห้อง B0209 ไปชมกันเลยค่ะ
สำหรับห้อง B0209 เป็นห้องที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเช่นเดียวกันค่ะโดยเป็นจุดที่อยู่ตรงมุมของอาคารพอดี ความพิเศษของห้องไซส์นี้คือจะมีตำแหน่งอยู่ตรงมุมของแต่ละอาคารเท่านั้น เนื่องจากบริเวณนี้จะสามารถใช้พื้นที่ของห้องได้มาก ตำแหน่งของห้องขนาด 44 ตร.ม.จึงมีความพอดีกับมุมแต่ละมุมของอาคาร A และอาคาร B พอดีค่ะ
ยูนิตนี้เหมือนทางโครงการตั้งใจออกแบบมาให้สำหรับคนที่มีเพื่อนเยอะ สามารถกลายเป็นห้องสำหรับพบปะ นั่งทำงานกลุ่มกันได้เลยค่ะ สำหรับห้องนั่งเล่นทางโครงการไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศมาให้นะคะ อาจจะต้องติดกันเองถ้าต้องการ
ห้องนี้จะอยู่ตรงสุดทางเดินฝั่งขวามือของลิฟต์ค่ะ ตรงบริเวณโถงทางเดินจะค่อนข้างโปร่ง มีแสงสว่างจากด้านนอกส่องถึง
ถึงแล้วก็เปิดประตูมาชมห้อง B0209 กันเลยค่ะ เปิดมาก็จะเจอห้องโถงกว้างๆเป็นอันดับแรก
มาดูภาพมุมกว้างของห้องนั่งเล่นจากกล้อง 360 องศากันค่ะ
จะเห็นว่าห้องนั่งเล่นที่ว่ากว้างแล้ว พอมองจากมุมของกล้อง 360 องศายิ่งกว้างไปกันใหญ่เลยค่ะ
เมื่อเดินเข้ามาแล้วจะเห็นสวิตช์ไฟอยู่ทางขวามือของเรานะคะ (จากภาพจะเห็นสวิตช์ไฟอยู่ทางด้านซ้ายค่ะ) ถัดจากสวิตช์ไฟจะเป็นที่แขวนสัมภาระอย่างกระเป๋าหรือร่มก็ได้ค่ะ
จากภาพ ทางซ้ายมือจะมีชั้นสำหรับวางรองเท้า เป็นชั้นขนาดเล็ก สามารถใส่รองเท้าได้สี่ชั้นค่ะ
และพอหันกลับมาก็จะเห็นภาพของห้องโถงซึ่งตกแต่งเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ จากภาพจะเห็นว่าทางโครงการตกแต่งห้องออกมาให้ดูโล่ง สบายตาด้วยสีโทนฟ้าขาว และเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ค่ะ
เราเดินเข้ามาดูโซนนั่งเล่นริมผนังกันก่อนเลย วอลเปเปอร์ที่เห็นจะเป็นการตกแต่งเพิ่มเติมของทางคอนโดนะคะ ซึ่งถ้าเราเป็นเจ้าของห้องจะต้องซื้อมาตกแต่งเพิ่มเติมเองค่ะ สำหรับโซนนั่งเล่นตรงนี้จะมีโต๊ะ เก้าอี้ และม้านั่งติดผนังมาให้แล้ว สามารถใช้เป็นโต๊ะกินข้าวหรือทำงานก็ได้ค่ะ มีแสงจากทางด้านข้างส่องถึงกำลังดี
สำหรับหลอดไฟในห้องจะมฝาครอบพลาสติกอยู่เช่นเดิม บริเวณนี้จะมีหลอดไฟไว้เหนือโต๊ะกินข้าวหนึ่งจุดค่ะ
ส่วนบริเวณมุมห้อง ด้านล่างจะมีเต้าเสียบปลั๊กไฟ 2 เต้าอยู่ด้านในสุดของม้านั่งค่ะ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าได้ง่าย
อย่างที่ได้บอกไปว่าห้องนี้จะเน้นพื้นที่ตรงกลางเป็นพื้นที่ใช้สอยหลัก ห้องนี้จึงให้พื้นที่นี้ดูมีบริเวณและกว้างพอสำหรับทำกิจกรรมได้หลากหลายค่ะ โดยถัดจากโต๊ะกินข้าวก็จะมีโซฟาสำหรับรับแจกหรือนั่งเล่นได้ เหนือโซฟาขึ้นไปก็จะมีไฟแบบบมีฝาครอบอยู่อีกหนึ่งจุด สามารถเปิดปิดไฟได้ตรงสวิตช์ไฟที่อยู่ทางด้านขวามือของภาพค่ะ
และเนื่องจากโซนนี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางพอสมควรจึงมีการวางตำแหน่งของไฟเพื่อให้แสงสว่างได้เฉพาะจุดเพิ่มขึ้น ดังเช่นโคมไฟทางด้านขวามือของโซฟาก็สามารถช่วยเพิ่มแสงสว่างได้ค่ะ ส่วนด้านหลังของโซฟาจะเป็นหน้าต่างที่เป็นกระจกบานเลื่อนตลอดความยาวของผนัง ช่วยเพิ่มแสงสว่างในตอนกลางวัน หรือจะเปิดเพื่อรับลมก็ได้
มาดูพื้นที่กว้างๆในมุมนี้กันบ้างค่ะ จากในภาพ ขวามือจะเป็นชั้นวางโทรทัศน์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆก็ได้นะคะ โดยข้างในช่องจะมีเต้าเสียบให้ 2 เต้าและเต้าเชื่อมสายอินเทอร์เน็ตได้อีกหนึ่งจุดค่ะ และตรงหน้าเราที่เห็นเป็นประตูปิดอยู่นั้นก็จะเป็นห้องนอนแล้วค่ะ
หันกลับมาดูโซนห้องนั่งเล่นอีกทียิ่งย้ำให้เห็นความโล่งเป็นลานกว้าง ไม่อึดอัดดีค่ะ
นอกจากเต้าเสียบตรงข้างม้านั่งริมผนังเมื่อสักครู่นี้ ก็ยังมีเต้าเสียบอีก 2 เต้าและเต้าสำหรับเชื่อมสายอินเทอร์เน็ตได้อีกจุดหนึ่งตรงมุมห้องข้าางโคมไฟตรงโซฟาด้วยค่ะ
เดี๋ยวเราจะพาชมพื้นที่ด้านนอกกันต่อแล้วจะกลับมาที่ห้องนอนกันอีกทีนะคะ
เราจะมาต่อกันที่โซนห้องครัวกันเลยค่ะ ถ้าหันหลังให้โซฟาก็จะมาเจอโซนครัวแล้วล่ะค่ะ
เดินตรง เลี้ยวเข้ามาทางซ้ายมือจะเห็นอ่างล้างจานอยู่ในตำแหน่งติดกับระเบียง อ่างล้างจานนี้จะเป็นแบบมีล้อเลื่อนสี่มุมข้างใต้ค่ะ ถัดมาจะมีที่กว้างทางขวามือสำหรับวางเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆหรืออุปกรณ์ครัวรวมทั้งวางถังขยะได้ด้วยนะคะ ส่วนด้านบนจะมีไฟที่บริเวณนี้หนึ่งจุดค่ะ
เดินตรง เลี้ยวเข้ามาทางซ้ายมือจะเห็นอ่างล้างจานอยู่ในตำแหน่งติดกับระเบียง อ่างล้างจานนี้จะเป็นแบบมีล้อเลื่อนสี่มุมข้างใต้ค่ะ ถัดมาจะมีที่กว้างทางขวามือสำหรับวางเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆหรืออุปกรณ์ครัวรวมทั้งวางถังขยะได้ด้วยนะคะ ส่วนด้านบนจะมีไฟที่บริเวณนี้หนึ่งจุดค่ะ
อ่างล้างจานจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความลึก เป็นของยี่ห้อ HAFELE และยังมีที่วางจานด้านข้างรวมถึงมีพื้นที่สำหรับวางเตาไฟฟ้าซึ่งสามารถเสียบปลั๊กไฟอื่นๆได้ทั้งหมดสามจุดตรงเต้าเสียบด้านหลังค่ะ นอกจากนี้ตัวตู้อ่างล้างจานยังมีลิ้นชักสำหรับให้เลือกเก็บอุปกรณ์ได้ทั้งด้านบนและด้านล่าง และมีช่องตรงกลางให้วางไมโครเวฟหรือเตาอบได้ด้วยค่ะ
ด้านล่างของอ่างล้างจานก็จะมีฝาปิดเปิดเป็นช่องอย่างเรียบร้อย ภายในมีท่อระบายน้ำจากอ่างล้างและที่ว่างสำหรับเก็บอุปกรณ์ล้างจานได้ด้วยค่ะ
ครัวที่นี่จะเป็นแบบปิดนะคะ หากจะประกอบอาหารสามารถเปิดประตูกระจกตรงระเบียงเพื่อเป็นการระบายอากาศได้ค่ะ
นอกจากนี้ด้านบนของผนังระเบียงด้านนอกจะเห็นว่ามีช่องระบายควันด้วยอีกทางหนึ่งค่ะ และเมื่อออกมาตรงระเบียง จะเห็นว่าด้านบนมีดวงไฟให้ความสว่างบริเวณนี้หนึ่งจุด และมีราวขนาดเล็กติดผนังสำหรับแขวนตากเสื้อผ้าได้ค่ะ
หันกลับไปอีกด้านหนึ่งจะมีพื้นที่ที่สามารถวางเครื่องซักผ้าในตำแหน่งนี้ได้ค่ะ โดยมีเต้าเสียบปลั๊กไฟแบบมีฝาปิดของยี่ห้อ bticino ติดตั้งไว้ให้เรียบร้อย รวมถึงด้านล่างก็จะมีท่อระบายน้ำที่เชื่อมมาจากคอมเพรสเซอร์แอร์ด้านบนลงมาให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันค่ะ
ด้านบนก็จะเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ติดไว้กับผนังด้านบนเพื่อประหยัดพื้นที่เช่นเดิมค่ะ
ถ้ามองจากระเบียงเข้ามาก็จะเห็นห้องน้ำ สำหรับประตูห้องน้ำจะเป็นแบบลูกบิดแบบเปิดเข้า
ภาพมุม 360 องศาของห้องน้ำกันค่ะ
สำหรับห้องน้ำของห้องนี้ เมื่อเปิดมาจะเจอกับโซนของห้องอาบน้ำที่มีผ้าม่านแบบแขวนราวไว้ให้เรียบร้อย กันน้ำกระเด็นได้ หายห่วงค่ะ
ฝักบัวจะอยู่ทางด้านขวามือ มีที่วางสบู่อยุ่ตรงผนังอีกด้านหนึ่ง สำหรับฝักบัวจะเป็นของยี่ห้อ HOY ส่วนหัวฝักบัวกับก็อกเปิด-ปิดฝักบัวเป็นของยี่ห้อ VRH ค่ะ
ด้านขวามือของฝักบัวจะเป็นกระจกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบแขวน ซึ่งแขวนไว้ตรงตำแหน่งที่ไม่สูงมากค่ะ เหมาะสำหรับคนไม่สูงมากที่จะสามารถส่องกระจกเห็นได้อย่างดี เหนือกระจกขึ้นไปจะเป็นหลอดไฟแบบมีฝาครอบหนึ่งจุดค่ะ
ตำแหน่งของกะจกกับอ่างล้างหน้าจะอยู่ถัดขากประตูห้องน้ำพอดี สำหรับอ่างล้างหน้าจะเป็นทรงครึ่งวงรีค่อนข้างลึก มีก็อกน้ำแบบหมุนเปิด-ปิดยี่ห้อ VRH Victor มีวาล์วอยู่ทางด้านล่างซ้ายมือของอ่างล้างหน้าค่ะ และที่พื้นจะมียกพื้นเพื่อกั้นระหว่างโซนอาบน้ำและโซนอ่างล้างหน้าไว้ด้วย ซึ่ความสูงของยกพื้นจะอยู่ประมาณข้อเท้าของเรา สามารถกันน้ำจากโซนอาบน้ำไม่ให้กระเด็นออกไปได้มากค่ะ
ตำแหน่งของกะจกกับอ่างล้างหน้าจะอยู่ถัดขากประตูห้องน้ำพอดี สำหรับอ่างล้างหน้าจะเป็นทรงครึ่งวงรีค่อนข้างลึก มีก็อกน้ำแบบหมุนเปิด-ปิดยี่ห้อ VRH Victor มีวาล์วอยู่ทางด้านล่างซ้ายมือของอ่างล้างหน้าค่ะ และที่พื้นจะมียกพื้นเพื่อกั้นระหว่างโซนอาบน้ำและโซนอ่างล้างหน้าไว้ด้วย ซึ่ความสูงของยกพื้นจะอยู่ประมาณข้อเท้าของเรา สามารถกันน้ำจากโซนอาบน้ำไม่ให้กระเด็นออกไปได้มากค่ะ
เอาล่ะค่ะ กลับมาที่ห้องนอนตามสัญญา
พื้นห้องนอนจะมียกพื้นที่ช่วยกันฝุ่นละอองจากภายนอกไม่ให้เข้าไปได้ง่ายๆค่ะ
ภาพ 360 สำหรับส่วนห้องนอนค่ะ
เปิดประตูมาปุ๊บก็จะเตียงนอนเลยค่ะ ห้องนอนจะมีความกว้างพอสมควร ทางคอนโดตกแต่งให้ออกมาในโทนสีฟ้าขาวเช่นเดียวกับโซนห้องนั่งเล่น ดูสะอาดตาสบายตามากๆเลย
หันมาทางขวาก็จะเจอกับโต๊ะเครื่องแป้งและกระจกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ในตำแหน่งคู่กัน ด้านขวามือของกระจกมีเต้าเสียบสำหรับใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าไว้ให้ด้วย 2 เต้าเสียบค่ะ ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งก็จะมีลิ้นชักสำหรับเก็บของได้เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ
หันมาทางขวาก็จะเจอกับโต๊ะเครื่องแป้งและกระจกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ในตำแหน่งคู่กัน ด้านขวามือของกระจกมีเต้าเสียบสำหรับใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าไว้ให้ด้วย 2 เต้าเสียบค่ะ ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งก็จะมีลิ้นชักสำหรับเก็บของได้เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ
ดูความต่างของช่องทั้ง 2 ช่องของตู้เสื้อผ้ากันชัดๆค่ะ
วนมาทางซ้ายจะเห็นหัวเตียง หัวเตียงนี้จะเป็นแบบพนักบางๆ ไม่มีพื้นที่สำหรับวางของเหมือนห้องเมื่อสักครู่นี้นะคะ ส่วนทางด้านซ้ายมือของเตียงจะมีโคมไฟเพื่อใช้ให้ความสว่างเฉพาะจุดได้และด้านล่างมีเต้าเสียบสำหรับใช้ไฟฟ้าได้ 2 เต้าค่ะ
ถัดจากหัวเตียงมาทางด้านซ้ายมือก็จะเป็นหน้าต่างที่เป็นกระจกบานเลื่อนแบบเดียวกับตรงระเบียงค่ะ
สำหรับเตียง ที่นี่จะมีฐานเตียงแบบล้อเลื่อนสี่มุมข้างใต้ให้ค่ะ เป็นขนาด 5 ฟุต แต่สำหรับอุปกรณ์เตียงอื่นๆเราต้องหาซื้อเพิ่มเติมเองนะคะ
สำหรับเตียง ที่นี่จะมีฐานเตียงแบบล้อเลื่อนสี่มุมข้างใต้ให้ค่ะ เป็นขนาด 5 ฟุต แต่สำหรับอุปกรณ์เตียงอื่นๆเราต้องหาซื้อเพิ่มเติมเองนะคะ
ถ้าเปิดม่านไว้ก็จะเห็นวิวด้านนอกเป็นต้นไม้สีเขียวและคอนโดเพื่อนบ้านถัดออกไปค่ะ
เมื่อหันกลับมาทางประตูห้องนอนก็จะเห็นชั้นวางเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกจุดหนึ่งค่ะ ซึ่งข้างในจะมีเต้าเสียบสายอินเทอร์เน็ตหนึ่งจุดและเต้าเสียบไฟฟ้าอีกสองเต้าค่ะ ส่วนทางซ้าย ข้างประตูนั้นเป็นสวิตช์ไฟของห้องนอนค่ะ
ระยะห่างระหว่างเตียงกับประตูและชั้นวางเครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถเดินสวนกันได้สบายค่ะ
เมื่อมองขึ้นไปด้านบนจะเห็นว่ามีเครื่องตรวจจับเพลิงอยู่ข้างกับหลอดไฟอยู่ตรงกลางห้องพอดีค่ะ
เวลาเปิด-ปิดประตูก็สามารถเปิดได้สบายมาจนถึงมุมโต๊ะเครื่องแป้งพอดีค่ะ
Environment
สภาพแวดล้อมโครงการ U Campus รังสิต - เมืองเอก
ในย่าน พหลโยธิน 87 รังสิต-เมืองเอก จะใกล้กับ ม.รังสิต ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องแหล่งของกินของใช้เลยค่ะ ในย่านนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เลยค่ะ
ออกจากคอนโด มองเห็นซุปเปอร์มาร์เก็ตมาแต่ไกลอยู่อีกฟากถนนค่ะ
นี่เลยค่ะท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต อยู่ตรงกันข้ามกับสำนักงานขายเลย แหล่งอาหาร วัตถุดิบประกอบอาหาร ของสด ของแห้ง อุปกรณ์ของใช้ หาได้ที่นี่เลย
นอกจากฝั่งตรงข้ามคอนโดจะมี TOPS Supermarket แล้วก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแซ่บเทพ เห็นแล้วน้ำลายสอเลยค่ะ
มองย้อนไปทางที่เราเข้ามายังมีร้านรวงอีกเพียบรอให้เราไปสำรวจอยู่ค่ะ
ถ้าหันกลับไปอีกทางหนึ่งก็จะมีร้านที่เหมาะกับนักศึกษาอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านถ่ายเอกสารราคาย่อมเยา ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้า โรงเรียนกวดวิชาไปรษณีย์ ร้านขายชุดชั้นในสตรี ไปจนถึงร้านเสริมสวย มีให้เลือกบริการอัดแน่นกันไปเลยค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามของร้านถ่ายเอกสารก็จะเป็น มทร.ธัญบุรี และหากเข้าซอยตรงไปเรื่อยๆประมาณหนึ่งก็จะถึงมหาวิทยาลัยรังสิตแล้วล่ะค่ะ
เมื่อเลาะออกมาตามทางเรื่อยๆหันกลับไปก็จะเจอคอนโดยูของเราได้อย่างชัดเจนเลย
เดินออกมาเพียงนิดเดียวก็จะเจอกับซุ้มของรถสองแถว รับส่งตามพื้นที่ใกล้เคียง ตั้งแต่มหาวิทยาลัย ตลาด ยันศูนย์การค้าต่างๆในราคาเพียง 7 บาทเท่านั้นค่ะ
ถัดจากซุ้มรถสองแถวก็จะเป็นวินมอเตอร์ไซค์มาให้บริการยาวไปจนเกือบถึงปากซอยเลยค่ะ มีพี่วินแสตนด์บายอยู่หลายคน ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าในชั่วโมงเร่งด่วนจะไม่ได้ขึ้นกันเลยทีเดียวล่ะค่ะ
เมื่อเดินไปทางปากซอยเรื่อยๆ ฝั่งขวามือเราก็จะมีร้านรวงอีกมากมาย ทั้งร้านอาหารปักษ์ใต้ ร้านเครื่องเขียนสีรุ้ง ร้านขายยา คลินิกรักษาโรคเด็กและสูตินารีเวช ร้านสแกนและถ่ายรูป ร้านตัดสติ๊กเกอร์ ทำป้ายไวนิล ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง ร้านทอง ติวเตอร์สอบเข้ามหาวิทยาลัย ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านแว่น สอนขับรถยนต์ คิลินิกเลเซอร์ สลายไขมัน ไปจนถึงเซเว่นตรงหน้าปากซอย แน่นคุณภาพดีมั้ยล่ะคะ
ส่วนตรงนี้เป็นเวิ้งของกินที่จะเดินผ่านอย่างเดียวไม่ได้ แม้จะหลบมุมอยู่หลังร้านทอง แต่เราก้เห็นจนได้ค่ะ ร้านข้าวหมูแดงก็มี หมูกรอบก็มา หน้าเป็ดก็น่ากิน ไหนจะเนื้อตุ๋น ขาหมู บะหมี่เกี๊ยว ก๋วยเตี๋ยวปลากะพงสด ข้าวมันไก่ ขุมทรัพย์ทั้งนั้นเลยค่ะเวิ้งนี้
และเมื่อเดินมาถึงเซเว่นก็จะถึงปากซอยพอดีค่ะ
และเมื่อเดินมาถึงเซเว่นก็จะถึงปากซอยพอดีค่ะ
ส่วนทางเข้าซอยฝั่งตรงข้ามธนาคารทหารไทยก็จะเจอกับป้ายบอกทางอันใหญ่ๆเลยค่ะ ถ้าจะมาคอนโดยู มาเมืองเอก สมาคมกอล์ฟเมืองเอก และม.รังสิต ก็เลี้ยวเข้ามาในซอยนี้ได้เลย
เดินเลี้ยวซ้ายมาทางสะพานลอยตรงป้ายรถเมล์ก็จะมีร้านอาหารชื่อดังที่เราคุ้นเคยกันดี ฟาร์มโชคชัยนั่นเองค่ะ วันครอบครัวเมื่อไหร่ก็พามากินสเต็กด้วยกันที่นี่ได้เลย
แต่ถ้าหันกลับไป มองย้อนไปริมถนนทีวิ่งมาทางซอยพหลโยธิน 87 ก็จะเห็นร้านอาหารเบอร์เกอร์คิง เทสโก้โลตัส และปั๊มเอสโซ่ ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ชีวิตไม่เหงาแน่นอน และเลยไปทางด้านหลังอีกหน่อยก็จะมีธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทยด้วยค่ะ
ภาพนี้เป็นมุมจากสะพานลอยนะคะ มองย้อนไปทางถนนที่เราวิ่งตอนขามา จะเห็นว่าร้านเบอร์เกอร์คิง เทสโก้โลตัส และปั๊มเอสโซ่อยู่ไม่ไกลจากซอยเป้าหมายของเราเลย
และถ้าถอยมาอีกนิดก็จะเจอนี่เลยค่ะ ร้านค้าส่งที่สำคัญอย่างแมคโคร อุ่นใจได้ไม่ต้องกลัวของกินของใช้
ขาดมือนะคะ
แต่ถ้าวิ่งเลยซอยพหลโยธิน 87 ไปก็จะเป็นทางไปปทุมธานี อยุธยา และสระบุรีได้แล้วค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่จะพาเราไปเที่ยวเล่นที่สวนสนุกดรีมเวิลดิ์ในย่านนี้ได้ รวมถึงยังไปดูหนังที่เมเจอร์รังสิต หรือช็อปที่เซ็นทรัลที่กำลังสร้างอยู่ ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต และยังมีม.กรุงเทพ ม.ธรรมศาสตร์ ตลาดไท เลยไปอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นค่ะ
ส่วนฝั่งนี้เป็นทางขาเข้าเมืองค่ะ ฝั่งเดียวกับฟาร์มโชคชัยนั่นเอง ฝั่งนี้ก็จะมีโรงพยาบาลสำคัญหลายแห่งทั้งโรงพยาบาลธัญญารักษ์ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต อีกทั้งเซียร์รังสิต สระว่ายน้ำ สนามกอล์ฟและสนามกีฬากองทัพอากาศธูปะเตมีย์ ครบวงจรดีจริงๆเลยค่ะย่านนี้
เอาล่ะค่ะ เราได้พาสำรวจสถานที่ใกล้เคียงที่จะทำให้เราแน่ใจกันได้แล้วว่าย่านคอนโด ยูแคมปัส รังสิต - เมืองเอกนั้นมีสาธารณูปโภคและร้านค้าบริการที่สำคัญๆและน่าสนใจมากมายตั้งแต่หน้าคอนโดจนปากซอย และออกมาจนถึงถนนใหญ่ก็ยังไม่ต้องห่วงว่าจะใช้ชีวิตกันยังไง อุ่นใจแน่นอนค่ะ
Analysis
วิเคราะห์โครงการ U Campus รังสิต - เมืองเอก
ทำเล :
อยู่ในย่านที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งชุมชนและสถานศึกษาสำคัยหลายแห่ง ทำให้ร้านค้าและบริการในย่านนี้มีให้เลือกอย่างหลากหลายรูปแบบ รวมถึงตั้งอยู่ไม่ไกลจากสาธารณูปโภคที่สำคัญอีกมากมายทั้งโรงพยาบาล สนามกีฬา ศูนย์การค้า ตลาด และธนาคาร แต่เมื่อเข้ามาในตัวโครงการกลับได้รับบรรยากาศที่เย็นสบายและค่อนข้างเงียบสงบ เดินทางมาง่ายและในอนาคตอันใกล้ก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้นเมื่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงเสร็จ
สภาพแวดล้อม : รอบโครงการจะเต็มไปด้วยร้านค้าและบริการที่หลากหลายทั้งอาหารการกิน อุปกรณ์การเรียน คลินิกด้านต่างๆ ร้านสะดวกซื้อ สำนักงานให้บริการด้านทนายความ สอนขับรถยนต์ ติวเตอร์ เป็นต้น ทำให้ย่านนี้เป็นแหล่งชุมชนของผู้อยู่อาศัยที่เป็นผู้ประกอบการและนักศึกษาเป็นส่วนมาก ดังนั้นผู้คนจึงค่อนข้างสัญจรไปมาตลอดเวลา ไม่เงียบเหงาและไม่เปลี่ยวในเวลากลางคืน
แบบห้อง :
แบบห้องจะมีความหลากหลายของขนาดห้อง สามารถเลือกตามที่ชื่นชอบและความสะดวกสบายได้ โดยแต่ละขนาดของห้องจะกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆของแต่ละอาคาร แต่ก้ไม่ไกลกันมากนัก สามารถเดินดูได้สะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวก :
เครื่องอำนวยความสะดวกของส่วนกลางจะมีในปริมาณปานกลาง ไม่มากนัก แต่บางส่วนก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการพื้นที่มากๆและความเป็นส่วนตัวอย่างสระว่ายน้ำ รวมถึงรถรับส่งที่มีอาจใช้บริการกันน้อยเพราะลูกบ้านมักจะใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางอยู่แล้ว
ราคา :
แม้จะเป็นทำเลนอกเมือง แต่อยู่ในย่านชุมชนย่านสถานศึกษา จึงจัดว่าราคาเริ่มต้นไม่สูง สามารถเลือกได้ตามขนาดของห้องที่พอเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราได้ ดังนั้นจึงเป็นราคาที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับคนที่ชอบพักอาศัยอยู่ในย่านของคนรุ่นใหม่ บรรยากาศง่ายๆ ราคาสบายกระเป๋าค่ะ
โครงการคอนโด ยู แคมปัส รังสิต - เมืองเอก เป็นโครงการที่มีเจ้าของเดียวกันกับคอนโด U Delight ค่ะ โดย Condo U Campus แห่งนี้เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวที่เป็นเซกเมนต์ของบริเวณสถานศึกษา ตัวโครงการจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบอยู่ในบรรยากาศของชุมชนคนรุ่นใหม่ โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว แม้ภายในโครงการจะเงียบสงบ แต่ออกมาข้างนอกก็คึกคัก ไม่เงียบเหงา
รวมถึงยังเหมาะกับผู้เดินทางที่ใช้ได้ทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้าสายสีแดงที่จะสร้างเสร็จในอนาคตอันใกล้นี้ และยังพร้อมไปด้วยสถานที่สำคัญใกล้เคียงที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตได้อย่างหลากหลาย ทั้งการกิน สุขภาพ สถานจับจ่ายซื้อของและพักผ่อนหย่อนใจให้ความบันเทิง ดังนั้นด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงและความพร้อมสรรพของคอนโดและอาณาบริเวณใกล้เคียงทำให้คอนโดยูแห่งนี้เป็นอีกย่านหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากเมื่อพูดถึงคอนโดย่านรังสิต - เมืองเอกค่ะ