รูปหน้าปก The Niche ID Rama2 (เดอะนิช ไอดี พระราม 2) เฟส 2 คอนโด Low Rise เดินทางง่าย ใกล้ทางด่วนดาวคะนอง จาก เสนา

[Review] The Niche ID Rama2 (เดอะนิช ไอดี พระราม 2) เฟส 2 คอนโด Low Rise เดินทางง่าย ใกล้ทางด่วนดาวคะนอง จาก เสนา

พระรามที่ 2 ซอย 43 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร

Review info

เดอะนิช ไอดี พระราม 2 (เฟส 2)
THE NICHE ID RAMA 2 Phase II


คอนโดพร้อมอยู่ติดริมถนนพระราม 2 เพียง 260 เมตร สะดวกสบายไปกับการเดินทาง พร้อมแวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญ อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาล เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างครอบคลุม

image

REVIEW INFO

โครงการเดอะนิช ไอดี พระราม 2 เฟส 2 (The Niche id Rama 2 Phase II) เป็นโครงการจากบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ติดริมถนนพระราม 2 เพียง 263 เมตร

(วัดระยะห่างจากถนนใหญ่) เป็นคอนโดประเภท Low Rise อาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจและบุคคลทั่วไปที่มีกำลังซื้อในระดับกลางถึงระดับสูง พร้อมด้วยจุดเด่นที่ใกล้กับทางด่วนและติดถนนใหญ่ การเดินทางเข้าออกด้วยรถยนต์ส่วนตัว ทำให้มีความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางเป็นอย่างมาก อีกทั้งในอนาคตอันใกล้ด้วยการเข้าถึงของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ณ ตำแหน่งที่ตั้งสถานีดาวคะนอง จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีทำเลการอยู่อาศัยน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

สำหรับโครงการเฟส 2 ได้เริ่มก่อสร้างขึ้นแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมาไม่นาน และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมอยู่อาศัยภายในเดือนกรกฎาคม 2560 ปีหน้าครับ (ณ ปัจจุบัน โครงการแห่งนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอาคาร D ชั้น 3)

Project Insight

Project Insight - เจาะลึกภาพรวมโครงการ เดอะนิช ไอดี พระราม 2

image

 

image

Model ตัวอย่างของเฟส 2 แบ่งเป็นอาคาร D และ อาคาร E พร้อม Facilities ส่วนกลางที่ถูกอาคารทั้ง 2 โอบล้อมอยู่  

 

คราวนี้เรามาเจาะลึกสภาพภายในโครงการกันครับว่าภายในโครงการมีสิ่งใดที่ถูกเพิ่มเติมไปจากเฟส 1 กันบ้าง โดยทาง Estopolis ขอเริ่มเรื่องจากคอนเซ็ปต์กันก่อน โครงการเดอะนิช ไอดี พระราม 2 เฟส 2 ได้ถูกวางคอนเซ็ปต์ด้วยคำว่า “Live Life Beautifully” เพื่อต้องการให้ทุกวันเต็มไปด้วยความสุขสบายจากการใช้ชีวิต ดังนั้นการออกแบบทุกมุมภายในโครงการ จึงเน้นไปที่การรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เป็นหลัก สิ่งปลูกสร้างรอบโครงการจึงต้องมีความทันสมัย สามารถใช้งานได้จริง และต้องเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

image

ถนนทางเข้าสู่ภายในโครงการครับ กว้างขวางมาก รถยนต์สามารถขับสวนกันได้สบายๆ ฝั่งซ้ายคือป้อมยามและลานจอดรถสำหรับผู้มาติดต่อสำนักงานขายครับ

 

บรรยากาศรอบโครงการให้ความรู้สึกเสมือนอยู่บ้านหลังใหญ่ มีสวนสีเขียวรองรับยามพักผ่อนพร้อมสะดวกสบายไปกับการมีร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งมีฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ Jocking Track ทางเดินบริเวณอาคาร D ที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อรองรับลูกบ้านเช่นเดียวกัน

 

image

Model อาคาร D จะสังเกตุเห็นพื้นที่สีฟ้านั่นคือคลองบางมดครับ ห้องขนาด 30.00 ตร.ม. จะอยู่ติดบริเวณนี้ หันระเบียงห้องออกสู่ทิศตะวันออก และแผ่นสีดำที่ถูกติดตั้งบนอาคารคือ Solar Roof

ติดตั้งเพื่อใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ในการนำมาแปรเป็นพลังงานไฟฟ้าและจ่ายพลังงานไปยังพื้นที่ส่วนกลางและตามทางเดินรอบโครงการทั้งหมด

 

นอกจากนั้นความพิเศษของเฟส 2 จะอยู่ที่การติดตั้ง Solar Roof บนอาคาร D และ E ครับ เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับจ่ายสู่พื้นที่ Facilities ส่วนกลาง และเสาไฟฟ้าตามทางเดิน ดังนั้นค่าไฟฟ้าส่วนกลางสำหรับลูกบ้านเฟส 2 จะถูกลงมากกว่าเฟส 1 ครับ เป็นตัวอย่างคอนโดสมัยใหม่ที่คาดว่าน่าจะเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ดึงเอาระบบพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์

 

image

หากลูกบ้านไม่ต้องการเดินทางไปซื้อของใช้เล็กๆ น้อยๆ ไกลถึง Big C หรือ เซ็นทรัล ก็สามารถแวะร้านสะดวกซื้อ บริเวณลานจอดรถหลังสำนักงานขายได้ครับ เปิดตลอด 24 ชม.

 

image

การเดินทางเข้าสู่โครงการเฟส 2 ตามเส้นทางเดินรถ จะตั้งอยู่บริเวณทางซ้ายมือครับ ห่างจากสำนักงานขายโดยประมาณ 263 เมตร รูปลักษณ์ภายนอกอาคารโดดเด่นด้วยการเล่น Contrast จากการตกแต่ง Facade ภายนอก โดยเน้นการสลับสีสันแบบ Double Skin ให้ดึดดูดสายตา ตัวอาคารถูกแบ่งออกเป็น 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร D และ E ฟอร์มของตัวอาคารเป็นรูปตัว L ทั้ง 2 เลย โดยตัวอาคารทั้ง 2 จะโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางที่เป็น Main Lobby สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนหย่อมนั่งเล่นไว้ทั้งหมด

 

image

พื้นที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อเข้าชมโครงการและป้อมยามหลังสำนักงานขาย ฝั่งซ้ายเป็นร้านสะดวกซื้อเปิดตลอด 24 ชม.ครับ อีกทั้ง ณ พื้นที่นี้ยังเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับรับส่งลูกบ้านด้วยรถรับส่งไปตามเฟส 1 และเฟส 2 ( โดยปกติแล้วจะเปิดให้ใช้บริการตลอด 24 ชม. แต่จะมีเพียงบางวันเท่านั้นที่ไม่สามารถใช้บริการในช่วงเวลา 13.00 - 16.00 น. ได้ เนื่องจากต้องชาร์จแบตเตอรีสำรอง)

 

image

เส้นทางภายในโครงการ เพื่อเข้าสู่เฟส 1 และ 2 ลูกบ้านต้องขับผ่านสะพานข้ามคลองบางขุนเทียน ทางฝั่งขวาทัศนียภาพของน้ำในคลองไม่ค่อยจะน่าชมนักครับ ทางโครงการจึงปลูกต้นไม้ประดับไว้ตามทางเดิน เพื่อแบ่งกั้นโซนไม่ให้ดูเป็นมลภาวะจากสิ่งแวดล้อมและยังช่วยให้บรรยากาศถนนดูสะอาดตามากขึ้น 

 

image

ระหว่างทางมีหลังเต่าชะลอความเร็วรถกั้นเป็นช่วงๆ ครับ

เพื่อไม่ให้ลูกบ้านใช้ความเร็วจนเกินไปขณะขับขี่ภายในโครงการ ส่วนบ้านเรือนที่เห็นในภาพจะไม่มีทางเข้าออกในซอยนี้ครับ

image

ณ ปัจจุบัน โครงการเฟส 2 กำลังก่อสร้างที่อาคาร D เป็นหลัก ความคืบหน้าถึงชั้นที่ 3 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดเข้าอยู่อาศัยไม่เกินเดือนกรกฎาคม 2560

ยูนิตแต่ละอาคารจะถูกแบ่งออกดังนี้

 

  • อาคาร D มีจำนวน 189 ยูนิต

  • อาคาร E มีจำนวน 133 ยูนิต

 

บริเวณฝั่งทางเข้าสู่ตัวอาคารทั้ง 2 จะหันออกทางทิศเหนือครับ ตำแหน่งที่ตั้งอาคาร D จะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก ส่วนอาคาร E จะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก ที่ชั้น 1 จะเป็นในส่วนของพื้นที่จอดรถและ Facilities โดยยูนิตพักอาศัยจะเริ่มต้นขึ้นจากชั้นที่ 2 - 8 เป็นต้นไป

ตำแหน่งทิศทางของตัวอาคาร

 

  • ทิศเหนือ เป็นบริเวณทางเข้าของอาคารหันหน้าออกสู่ถนนพระราม 2

  • ทิศตะวันออก หันออกสู่คลองบางมด

  • ทิศใต้ หันออกสู่บ้านไม้ 1 ชั้น และถนนส่วนบุคคล

  • ทิศตะวันตก หันออกสู่โรงประปาตากสิน และบ้านพักอาศัย 1 - 2 ชั้น

 

เส้นทางเดินรถภายในโครงการเฟส 2 เป็นสภาพทางเดินรถเดี่ยว One Way วนขวาเป็นหลักครับ  (ณ ปัจจุบันทางโครงการยังไม่กำหนดว่าจะให้เริ่มเส้นทางการเดินรถภายในเฟส 2 จากอาคารไหนเป็นจุดแรก) พื้นที่จอดรถทั้งหมดจะอยู่บริเวณชั้น 1 เท่านั้น โดยสามารถรองรับจำนวนรถแบบจอดในช่องได้ที่ 121 คัน คิดเป็น 37.58 เปอร์เซ็นต์  

 

จำนวนลิฟต์โดยสารแบ่งเป็นอาคารละ 2 ตัว (ลิฟต์ไม่ใช่ระบบล็อกชั้นและไม่มีลิฟต์เซอร์วิสสำหรับรองรับลูกบ้าน) ตามความเห็นแล้ว จำนวนลิฟต์โดยสารเพียง 2 ตัว อาจจะเป็นปัญหาสำหรับลูกบ้านอาคาร D เนื่องจากมียูนิตพักอาศัยมากกว่าอาคาร E ถึง 56 ยูนิต

Master Plan (1 Floor)

 image

แปลนพื้นที่บริเวณชั้น 1 เป็นพื้นที่รวมของ Facilities ต่างๆ ในโครงการครับ พร้อมพื้นที่จอดรถใต้อาคารที่ถูกกำหนดไว้ นอกจากนั้นนิติบุคคลจะอยู่รอบบริเวณนี้ด้วยเช่นกัน

 

image

Main Lobby พื้นที่นั่งเล่นส่วนกลางแบบ Outdoor ตกแต่งให้มีที่นั่งและทางเดินสีเขียวครับ พื้นที่กว้างขวางเหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน และให้เด็กๆ วิ่งเล่นมากๆ ให้เปรียบเทียบก็เหมือนเรามีสวนสาธารณะภายในคอนโดเป็น เพื่อเป็นสถานที่เอาไว้พักผ่อนและนั่งคุยเล่นกับกลุ่มเพื่อนได้ครับ และด้วยความที่ตัวอาคารโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ ทั้ง 3 มุม การตกกระทบของแสงอาทิตย์ในช่วงเวลากลางวันจึงไม่กระทบเข้ามาในพื้นที่ส่วนนี้มากนัก ความร้อนสะสมของพื้นที่ส่วนกลางจึงมีไม่มากตาม

 

image

 

Swimming Pool สระว่ายน้ำบำบัดด้วยเกลือ ขนาด 7 x 12.5 เมตร (ไม่รวมสระเด็ก) แบ่งระดับสระเด็กและผู้ใหญ่โดยมีขอบสระกั้น

 

image

พื้นที่ทางเดินริมอาคาร D ติดฝั่งคลองบางมด

ห้องที่หันระเบียงออกทางฝั่งนี้ทั้งหมดคือห้องขนาด 30.00 ตร.ม.

image

ห้องออกกำลังกายถูกวางตำแหน่งไว้ ณ พื้นที่ส่วนกลางเช่นเดียวกัน สำหรับอุปกรณ์ออกกำลังกาย มีประเภทลู่วิ่งไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า ดัมเบลล์ อุปกรณ์เวทเทรนนิ่งตามลักษณะทั่วไปครับ แต่จำนวนอุปกรณ์อาจมีไม่มากเท่าใดนัก ลูกบ้านอาจจะต้องรอจังหวะการเข้าใช้บริการกันในช่วงเย็น

Plan D - E (2 Floor)

 image

ลักษณะแปลนชั้นทั้งหมด แต่ละห้องจะเป็นครัวติดครัว ห้องนอนติดห้องนอน ตรงนี้จะไม่มีปัญหาเรื่องเสียงสำหรับลูกบ้านที่อยู่ห้องติดกันแต่ใช้ชีวิตต่างเวลากันมากเท่าไรครับ

Plan D (3 - 8 Floor)

image

 

แปลนพื้นที่ชั้น 3 - 8 อาคาร D ฟอร์มเส้นทางเดินภายในอาคารเป็นรูปตัว L โดยแบ่งห้องออกเป็น 2 ขนาดครับ ได้แก่ 30.00 ตร.ม. และ 35.00 ตร.ม. มีลิฟต์โดยสารรองรับลูกบ้าน 2 ตัว พร้อมบันไดหนีไฟ โดยยูนิตพักอาศัยเฉลี่ยชั้นละ 27 ยูนิต (ทุกชั้นจะมีจำนวนห้องเท่ากันหมด)

 

ห้องขนาด 30 ตร.ม. จะหันระเบียงห้องออกสู่ภายนอก ดังนั้นวิวที่ได้รับก็จะเป็นพื้นที่รอบโครงการ

 

  • ระเบียงห้องฝั่งทิศเหนือทางเข้าหน้าโครงการ วิวที่ได้รับจะเป็นวิวของถนนพระราม 2

  • ระเบียงห้องฝั่งทิศตะวันออก วิวที่ได้รับจะเป็นทางฝั่งคลองบางมด

 

ห้องประเภท 30.00 ตร.ม.แสงที่ได้รับส่วนใหญ่จะมาจากทางทิศเหนือและทิศตะวันออกเป็นหลักครับ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียวกับสภาพแสงเช่นนี้

 

ส่วนห้องขนาด 35.00 ตร.ม. ระเบียงหลังห้องจะหันสู่ทางทิศใต้และทิศตะวันตก วิวของห้องที่ได้จะเป็นส่วนของ Facilities ชั้นล่าง และตัวอาคาร E ที่ตั้งขนาบข้างกันครับ

 

  • ระเบียงห้องฝั่งทิศใต้ จะได้วิวของ Facilities ชั้นล่างและถนนส่วนบุคคลภายนอกโครงการ

  • ระเบียงห้องฝั่งทิศตะวันตก จะได้เฉพาะวิวของ Facilities ชั้นล่างและตัวอาคาร E ที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าเท่านั้น และยังได้เงาจากตัวอาคาร E ช่วยลดทอนแสงแดดในช่วงยามบ่าย ทำให้ไม่สะสมความร้อนมากจนเกินไป

Plan E (3 - 8 Floor)

 

image

 

แปลนพื้นที่ชั้น 3 - 8 อาคาร E ยังคงเป็นฟอร์มเส้นทางรูปตัว L เหมือนอาคาร D ครับ ลักษณะขนาดห้อง ลิฟต์โดยสาร และระดับยูนิตระหว่างชั้นจะเหมือนกับอาคาร D ทั้งหมด ที่เปลี่ยนแปลงมีแค่ยูนิตพักอาศัยที่ตกเฉลี่ยชั้นละ 19 ยูนิต โดยทุกชั้นจะมีจำนวนห้องเท่ากันหมด และเรื่องของทิศทางระเบียงห้องที่ต่างกันเท่านั้นครับ

ห้องขนาด 30 ตร.ม. ฝั่งอาคาร E ระเบียงห้องหันออกสู่ภายนอก วิวที่ได้ทั้งหมดจะเป็นพื้นที่รอบโครงการดังนี้

 

  • ระเบียงห้องฝั่งทิศเหนือ ได้วิวเส้นทางเข้าโครงการและวิวถนนพระราม 2

  • ระเบียงห้องฝั่งทิศตะวันตก ได้วิวจากโรงประปาตากสิน และบ้านพักอาศัยรอบบริเวณครับ และได้รับแดดยามบ่ายเต็มๆ ซึ่งร้อนแน่นอนครับทางฝั่งนี้

 

ห้องขนาด 35.00 ตร.ม. ฝั่งอาคาร E ระเบียงหลังห้องจะได้วิวตามนี้

 

  • ระเบียงห้องฝั่งทิศใต้ มุมทางนี้จะปลอดโปร่งมากเนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากแสงมากนัก อีกทั้งวิวภายนอกยังเป็นถนนส่วนบุคคลจากภายนอกโครงการครับไม่มีตึกสูงบดบังทัศนียภาพ

  • ระเบียงห้องฝั่งทิศตะวันออก ได้วิว Facilities ส่วนกลางชั้น 1 และระเบียงห้องจากฝั่งอาคาร D ตรงข้ามโดยตรง

1 Bedroom 30 Sq.M.

Showroom - ชมห้องตัวอย่างโครงการ The Niche ID พระราม 2 1 ห้องนอน 30 ตร.ม.

image

ราคาห้อง 1,500,000 - 1,730,000 บาท

เงินทำสัญญา 25,000 บาท  

เงินจอง 5000 บาท

 

แปลนห้องขนาด 30.00 ตร.ม. เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบ 1 - 2 คน เน้นการใช้สอยพื้นที่ภายในแบบเรียบง่าย พื้นที่ภายในห้องได้ถูกแบ่งสัดส่วนออกเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว และระเบียง ขายแบบ Full Furnished

 

ได้รับแอร์ 1 ตัว เฟอร์นิเจอร์ Built-in ตามผนัง โซฟานุ่มแบบ 2 ที่นั่ง เตียงควีนไซส์ขนาด 5 ฟุต ตู้ไม้เก็บเสื้อผ้าสูงจรดฝ้าเพดาน 2.4 เมตร โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง โต๊ะเครื่องแป้ง กระจกเงา เก้าอี้สตูล เคาน์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน 1 หลุม สุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก Cotto และ American Standard

 

ในเรื่องของการออกแบบโครงสร้าง ผนังห้องรอบด้านก่อด้วยอิฐมวลเบาที่ให้คุณสมบัติกันเสียงรบกวนจากภายนอก ผนังห้องน้ำก่อด้วยอิฐมอญเพื่อกันความชื้น ลักษณะการจัดวางห้องสามารถประยุกต์ได้เป็นทั้งพื้นที่ทั้งแบบปิดและแบบเปิดด้วยประตูบานเลื่อนกระจกที่ถูกติดตั้งไว้ตามมุมห้อง ทางเชื่อมสู่โซนทั้งหมดจะอยู่บริเวณส่วนกลางห้อง โดยเป็นพื้นที่ที่สามารถไปโซนไหนก็ได้ทั้ง 4 มุม ยกเว้นพื้นที่ระเบียงที่ตั้งผ่านห้องครัวไปก่อนครับ อีกทั้งพื้นที่ระเบียงห้องทั้งหมด เฉพาะห้อง 30.00 ตร.ม. จะหันออกสู่ภายนอกนอกโครงการครับ ไม่สามารถมองเห็นวิวจาก Facilities ชั้นล่างสุดได้

 

image

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นส่วนแรกครับ ระดับความสูงของพื้นและฝ้าอยู่ที่ 2.4 เมตร ฝ้าเพดานกรุยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบทาสีและพื้นไม้ลามิเนต ตกแต่งแบบ Fully Furnished

(รายการของของตกแต่งที่โครงการไม่ได้ให้มาในภาพได้แก่ แอร์ของห้องนั่งเล่น ทีวี เฟอร์นิเจอร์ประดับผนัง ชั้นวางกระถางต้นไม้ วอลเปเปอร์ แจกัน พรม และชั้นวาน Built - in ผนังฝั่งซ้ายบนสุดครับ)

image

ภายในห้องนั่งเล่น ลูกบ้านจะได้รับโซฟาผ้าออกแบบเป็นพิเศษ สามารถนั่งได้ถึง 3 คน พร้อมหมอนอิง 2 ใบ มีลิ้นชักใต้โซฟา 2 ฝั่ง, Coffee Table ชิ้นเดียวกับโซฟาสามารถพับเก็บได้หรือสามารถประยุกต์เป็นโต๊ะอ่านหนังสือนั่งพื้นได้ และโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ที่นั่ง

image

เฟอร์นิเจอร์บริเวณนี้ ลูกบ้านจะได้รับคือชั้นวางทีวีเท่านั้นครับ ระยะห่างระหว่างโซฟาและทีวีอยู่ประมาณ 2 เมตร บนผนังซ้ายบนสุดคือแผงคัทเอาท์สวิตซ์ไฟของห้อง ยี่ห้อ Schneider ครับ ผนังฝั่งนี้จะก่อด้วยอิฐมอญแดงครับ เนื่องจากเป็นผนังห้องน้ำ การใช้อิฐมอญแดงจะให้คุณสมบัติกันความชื้นได้ดีกว่าอิฐมวลเบาที่เป็นโครงสร้างหลักของห้อง 

 

image

ชั้นวางทีวีแบบ Built-in แขวนผนังข้อดีคือทำความสะอาดง่ายกว่าแบบตั้งพื้นครับ เพราะว่าแบบตั้งพื้นจะมีฝุ่นมากองที่ขา ถ้าจะทำความสะอาดจริง ๆ ก็จะต้องเลื่อนมันออกมา แน่นอนว่าทีวีและของต่าง ๆ ที่วางบนนั้นเราก็ต้องเสียเวลาเคลื่อนย้ายออกด้วย

image

ปลั๊กไฟหลังทีวีมีมาให้ 2 ช่อง พร้อมช่องเสียบสายเคเบิลทีวีข้างกัน ในห้องตัวอย่างจะไม่มีช่องสำหรับสายโทรศัพท์มาให้ แต่ในห้องอยู่อาศัยจริงทางโครงการจะมีการเพิ่มช่องต่อสายโทรศัพท์เข้ามาให้ในส่วนนี้ครับ


image

พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะควบรวมกับส่วนรับประทานอาหารเข้าด้วยกันครับ โต๊ะที่ได้ก็จะเป็นโต๊ะไม้ลามิเนต พร้อมเก้าอี้เบาะหนังเทียมสีดำจำนวน 2 ที่นั่ง ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย การทำความสะอาดและการดูแลรักษา  

image

มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปตามส่วนต่างๆ ของห้องครับ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่เปิดและปิดของห้องด้วยประตูบานเลื่อนกระจก (ประตูบานเลื่อนกระจกกั้นโซนระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นจะมีเฉพาะที่โครงการเฟส 2 เท่านั้นครับ)

image

ทางเข้าสู่ภายในห้องนอนสามารถเปิดปิดกั้นโซนกับห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก

ทางโครงการให้ประตูบานเลื่อนมาถึง 3 บาน สามารถเลื่อนสลับทางเข้าซ้ายและขวา

บริเวณประตูเป็นบานจับอลูมิเนียมสามารถกดล็อกได้ด้วยครับ ที่พื้นจะเป็นวงกบอลูมิเนียม เวลาเดินอาจจะต้องระวังกันสักนิดครับ เพื่อไม่ให้ไปเหยียบหรือเตะโดนซึ่งอาจจะเจ็บเท้าได้ 


image

เตียงนอนควีนไซส์ขนาด 5 ฟุต พอเหมาะกับขนาดห้องและการใช้งาน บริเวณหัวเตียงบุด้วยหนังเทียมและมีช่องสำหรับเสียบหนังสือ (ข้างหัวเตียงฝั่งซ้ายมีปลั๊กไฟ 2 หลุมไว้ใช้งานในห้องนอนด้วยครับ)  

 

image

ลิ้นชักเก็บของใต้เตียง สามารถใช้เก็บพวกหนังสือหรือนิตยสารได้ครับ ระยะความยาวของลิ้นชักเมื่อดึงออกมาจะชิดกับประตูบานเลื่อนพอดี เหลือช่องว่างเล็กๆ เพียงนิดหน่อย จึงไม่มีปัญหาหากลูกบ้านจะเปิดลิ้นชักค้างไว้และทำการเปิดปิดประตูกั้นห้องนอน มั่นใจได้ว่าไม่ชนกับลิ้นชักอย่างแน่นอนครับ

image

ระยะห่างระหว่างหน้าต่างและเตียงของห้องนอน สามารถเดินขึ้นลงเตียงได้สบาย (โต๊ะวางของและม่านหน้าต่างทางโครงการไม่ได้แถมให้ครับ)  

 

image

Wardrobe ตู้เสื้อผ้าแบบ Built - in หน้ากว้าง 1.4 เมตร สูงจรดฝ้าเพดาน 2.4 เมตร พร้อมลิ้นชักด้านในถึง 4 ชั้นครับ นอกจากนั้นยังมี Dressing Table พร้อมลิ้นชัก 2 ช่อง เก้าอี้สตูลเบาะหนังเทียมสีเทาเข้มใช้เก็บของภายในได้ด้วยการยกเบาะนั่งขึ้น กระจกเงาเป็นแบบวงกลมขนาดกลาง และแอร์หลักของห้องเป็นรุ่น York 9,000 BTU ติดตั้งบนผนังข้างหน้าต่าง ปลั๊กไฟห้องนอนจะถูกซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ 2 ช่อง หากจะเสียบชาร์จแบตโทรศัพท์ในห้องนอนก็สามารถใช้ได้ในจุดนี้เช่นกัน

 

image

บานหน้าต่างเป็นแบบกระจกใส มีแผ่นยางรองรับการกระแทก สามารถเลื่อนเปิดปิดได้ทั้ง 2 บานครับ วงกบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียม

สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมจะนิยมหน้าต่าง 2 แบบครับ คือบานกระทุ้งและบานเลื่อน สำหรับบานเลื่อนจะทำให้สามารถรับลม ระบายอากาศได้ดีกว่า ส่วนบานกระทุ้งจะเน้นไปที่การกันฝนสาดซึ่งมักจะติดตั้งในคอนโดมิเนียมแบบ High rise  

image

Dressing Table โต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมลิ้นชัก 2 ช่อง ขนาดความกว้างสามารถใช้เก็บของได้หลากหลายดีครับ เหมาะ

สำหรับคุณผู้หญิงที่อุปกรณ์แต่งหน้าทำผมเยอะ ๆ ยังมีที่ว่างด้านข้างโต๊ะเหลือพอให้หาตู้มาวาง หรือทำชั้นวางอุปกรณ์แบบ Built-in เพิ่มได้ครับ

อีกทั้งกระจกเงาเป็นแบบวงกลม ดูสวยดีแต่อาจจะเล็กไปสักนิด ทำให้มองเห็นไม่ทั่วถึงเมื่อใช้ส่องแต่งตัวได้  


image

ตู้เสื้อผ้ามีลิ้นชักสำหรับเก็บเสื้อผ้าให้ใช้อีก 4 ช่องครับ ลักษณะการใช้งานตู้จะเป็นแบบบานเลื่อนเปิดปิด โดยสามารถเลื่อนได้ทั้ง 2 ฝั่งซ้ายและขวา

image

ลักษณะการปูพื้นห้องรับแขกและห้องครัวที่แตกต่างกันของทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีธรณีประตูเป็นไม้ลามิเนตกั้นเล็กๆ

ห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ให้สัมผัสการเดินที่สบายเท้าดีครับ และห้องครัวกับห้องน้ำรวมถึงพื้นที่ระเบียง ใช้เป็นกระเบื้อง Cotto ขนาด 12x12 นิ้ว สี Ville Light Gray ผิวสัมผัสของกระเบื้องจะมีความหยาบมากกว่าเพื่อการยึดติดเท้าในการเดินและป้องกันการลื่นหลังออกจากห้องน้ำ

image

ธรณีประตูห้องน้ำกั้นด้วยอิฐมอญและปูกระเบื้องทับ เพื่อลดความชื้นและกันน้ำไม่ให้ไหลผ่านออกมาสู่บริเวณโซนครัวและห้องนั่งเล่น ส่วนประตูบานเลื่อนกระจกที่พื้นระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่น จะไม่มีวงกบติดตั้งให้ครับ

ลูกบ้านต้องหมั่นตรวจสอบดูแลหน่อยนะครับ เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องการปิด-เปิดเกิดขึ้นได้เมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง

 

image

ห้องน้ำติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจำนิรภัยมาให้ครับ ประตูเป็นแบบวานเปิด

ฝ้าเพดานมีช่องระบายอากาศ ผนังติดตั้งกระจกเงาทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ ราวแขวนผ้า

ฝักบัวสายอ่อน ที่แขวนฝักบัวปรับระดับได้

และสุขภัณฑ์ตามมาตรฐาน

 

image

พื้นที่โซนแห้งใช้โถสุขภัณฑ์และสายชำระจาก American Standard อ่างล้างมือจาก Cotto

ปูกระเบื้องผนังขนาด 12 x 12 นิ้ว ลักษณะมันวาว ผสมกับขนาด 8 x 8 นิ้ว และที่พื้นใช้กระเบื้องขนาด 12x12 นิ้ว แบบปกติเหมือนในห้องครัวครับ ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดมาก

นอกจากนั้นการติดตั้งบานกระจกเงาทรงสี่เหลี่ยมขนาด 60 x70 ซม. ช่วยให้มองเห็นได้ทั่วถึงดีมากครับ เป็นบานกระจกเดียวภายในห้องที่ใหญ่ที่สุด เหมาะสำหรับใช้ส่องแต่งตัวมากกว่ากระจกเงาเล็กๆ ภายในห้องนอน

image

ทางด้านสุขภัณฑ์ลูกบ้านสามารถปรับระดับความแรงของน้ำได้ เนื่องจากก๊อกน้ำสายชำระและโถสุขภัณฑ์จะแยกออกจากกัน การระบายน้ำในโซนแห้งจะมีท่อระบายเพียง 1 หลุมบริเวณนี้เท่านั้น ข้อดีจากการที่ท่อระบายน้ำอยู่บริเวณใกล้โถสุขภัณฑ์คือน้ำจากการชำระล้างจะไหลเข้าสู่บริเวณนี้ทันที โดยไม่ไปรบกวนบริเวณพื้นที่แถวอ่างล้างมือและริมประตูห้องน้ำครับ

image

อ่างล้างมือยี่ห้อ Cotto ไม่มีเค้าเตอร์ สะดืออ่างเป็นแบบก้าน ดูแลรักษาง่าย

ส่วนก๊อกน้ำเป็นหัวสแตนเลสแบบเปิดปิดขึ้นลงจาก American Standard  

image

บานประตูเป็นแบบกระจกนิรภัยบานสวิง พร้อมราวจับอลูมิเนียมทั้งฝั่งด้านในและด้านนอก น้ำหนักของประตูไม่หนักมากสามารถผลักเข้าออกได้สบายแม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็ก ราวจับด้านนอกสามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

 

image

ฝักบัวเป็นสายอ่อนโครเมี่ยมแบบ Hand Shower สามารถปรับระดับความแรงของน้ำและการกระจายของน้ำได้ ที่แขวนฝักบัวสามารถปรับระดับได้และยังมีที่วางสบู่พลาสติกติดตั้งให้เพิ่มเติม 

 

image

ก๊อกน้ำฝักบัวเป็นทรงแฉก 4 มุม ทำให้ง่ายต่อการเปิดปิดน้ำในขณะมือลื่น

 

image

บรรยากาศภายในห้องครัว ข้อดีของห้องครัวที่ติดกับพื้นที่ระเบียงคือสามารถเปิดระบายอากาศและระบายกลิ่นออกสู่ภายนอกได้ อีกทั้งพื้นที่วางตู้เย็นที่ไม่ได้ถูกออกแบบให้ติดกับประตูระเบียงห้อง ทำให้ตู้เย็นไม่ต้องทำงานหนักมากขึ้น เนื่องจากความร้อนของคอมเพรสเซอร์แอร์หรือแสงแดดไม่ส่งผลกระทบต่อตู้เย็น (เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทตู้เย็นและไมโครเวฟ ทางโครงการไม่มีมาให้)

 

image

Pantry ครัว เป็นลามิเนตทั้งหมดครับ ประกอบไปด้วยซิงค์ล้างจานแบบ 1 หลุมไม่มีที่พักจาน ท็อปเคาน์เตอร์เป็นไม้ HDF ปิดผิวลามิเนต ช่องเก็บของแบบบานพับเปิดปิด 1 ช่อง ลิ้นชักเลื่อน 2 ช่อง และช่องว่างสำหรับวางไมโครเวฟบริเวณซ้ายล่างสุด (ไม่มีหัวเตาไฟฟ้ามาให้ครับ)

 

image

ซิ้งค์ล้างจานแสตนเลส 1 หลุม ไม่มีที่ัพักจาน ติดตั้งบนท็อปไม้ HDF ปิดด้วยผิวลามิเนต กันน้ำและความร้อนได้ดี ด้านที่ติดผนังเก็บงานด้วยคิ้วบัวเรียบร้อยดีครับ

 

image

ตู้เก็บเครื่องครัวแบบ Built - in ติดผนัง พร้อมช่องเก็บของตามชนิดประเภท วัสดุเป็นไม้ลามิเนต บานเปิดปิดตู้เป็นแบบ Soft Closed พร้อมที่จับ เหมาะสำหรับใช้เก็บจานชาม โดยความสูงจากท็อป Pantry ไม่ห่างมากครับ เอื้อมถึงได้สบาย แต่ถ้าเป็นผู้หญิงอาจจะลำบากหน่อยอาจต้องหาอะไรมาปีนเพื่อเก็บของบริเวณชั้นบน  

image

ช่องเก็บของพร้อมบานจับอลูมิเนียม อยู่สูงพอสมควรครับ การเปิดปิดอาจต้องระวังเรื่องของการกระแทก เนื่องจากหากใช้ไปนาน ๆ สปริงการรับน้ำหนักของข้อต่อจะไม่ค่อยดี การปล่อยมือจากบานจับขณะยังปิดไม่สนิทอาจส่งเสียงดังได้

 

image

ผนังห้องครัว มีปลั๊กไฟมาให้ 2 ช่องครับ เป็นจุดสำหรับเสียบใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าในโซนครัว การใช้งานอาจต้องระวังกันสักนิดครับ เนื่องจากอยู่ใกล้กับซิงค์ล้างจาน น้ำอาจจะกระเด็นไปโดนได้

ซิงค์ล้างจานทางโครงการไม่มีที่พักจานให้ครับ ตรงนี้เป็นอีกจุดที่ลูกบ้านต้องระวังเรื่องการเปียกแฉะให้ดี ๆ  ลูกบ้านอาจจะหาที่พักจานแบบติดผนังมาแขวนไว้บริเวณซิ้งค์ล้างจานก็ได้ครับ ประหยัดพื้นที่และไม่เปียกด้วย 

 

image

วงกบอลูมิเนียมและประตูบานเลื่อนกระจกสำหรับกั้นโซนครัวและห้องนั่งเล่น ลูกบ้านสามารถเลื่อนเปิดปิด เพื่อไม่ให้กลิ่นจากการทำครัวเข้าไปรบกวนภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอนครับ (ถ้าจะให้ดีทุกครั้งที่มีการทำครัวให้ปิดบานเลื่อนกระจกที่ห้องนอนด้วยเช่นกัน)

image

ระเบียงเป็นราวเหล็กสูงไม่ถึง 1.2 เมตร มีด้านที่ทำเป็นระแนงบังสายตาสำหรับแขวนคอนเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งคอมเพรสเซอร์แอร์ของห้องนี้จะมีเพียงแค่ 1 ตัวนะครับเนื่องจากโครงการให้แอร์มาแค่ 1 ตัวเท่านั้น

เพดานเป็นโคมไฟแก้วทรงซาลาเปาให้ความสว่างทั่วถึง เมื่อใช้เป็นเวลานานอาจจะมีปัญหาในเรื่องของแมลงเข้ามาอยู่อาศัยภายในโคมไฟได้ครับ  

image

พื้นที่ว่างใต้คอมเพรสเซอร์แอร์สูงประมาณ 1.5 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าได้สบาย มีปลั๊กไฟ 2 ช่อง พร้อมฝาครอบกันน้ำฝนสำหรับเสียบใช้งาน  ก๊อกน้ำชำระล้าง 1 หัว และท่อระบายน้ำ 1 หลุมรองรับ  

 

image

ก็อกน้ำซักล้างหัวสแตนเลสแบบหมุนเปิดปิดของ Sanwa 

image

ในห้องตัวอย่างที่ระเบียงไม่มีท่อน้ำทิ้งของเครื่องซักผ้าครับ ตรงนี้ไม่รู้ว่าที่ห้องอยู่อาศัยจริงจะมีให้ไหม ถ้าไม่มีลูกบ้านจะต้องใช้ท่อระบายน้ำหลักของระเบียง ซึ่งถ้าวันไหนฝนตกหนักๆ อาจจะต้องออกมาดึงท่อเครื่องซักผ้าออกเพราะน้ำฝนจะระบายไม่ทัน (เดาเอาว่าส่วนใหญ่ซักผ้าเสร็จก็จะไม่เก็บสายระบายน้ำกัน) ถึงจะไม่ท่วมเข้าห้อง แต่อาจจะท่วมระเบียงแทน  แต่ถ้าไม่ยัดสายระบายน้ำของเครื่องซักผ้าลงไปในท่อ ตอนซักผ้าน้ำก็อาจจะเจิ่งนองดูไม่จืด

1 Bedroom 35 Sq.M.

Showroom - ชมห้องตัวอย่างโครงการ The Niche ID พระราม 2 1 ห้องนอน 35 ตร.ม.

image

ราคาห้อง 1,810,000 - 1,970,000 บาท

เงินทำสัญญา 25,000 บาท  

เงินจอง 5000 บาท

 

แปลนห้องขนาด 35.00 ตร.ม. เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 2 - 3 คนครับ เป็นครอบครัวเล็กๆ พื้นที่การอยู่อาศัยกว้างขวางขึ้น แต่เฟอร์นิเจอร์ภายในก็ยังเหมือนกับห้อง 30.00 ตร.ม. เช่นเดิม พื้นที่ภายในห้องถูกแบ่งสัดส่วนออกเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว และระเบียง ขายแบบ Full Furnished ได้รับแอร์ 1 ตัว เฟอร์นิเจอร์ Built-in ตามผนัง โซฟาผ้าแบบ 2 ที่นั่ง เตียงควีนไซส์ขนาด 5 ฟุต ตู้ไม้เก็บเสื้อผ้าสูง 2.4 เมตรติดเพดานห้อง โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง โต๊ะเครื่องแป้ง กระจกแขวน เก้าอี้สตูล เคาน์เตอร์ครัว ตู้เย็น ไมโครเวฟ อ่างล้างจาน 1 หลุม สุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก Cotto และ American Standard (ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามามีแค่ตู้เก็บรองเท้าและชั้นวางทีวีในห้องนอนเท่านั้นครับ)

 

พื้นที่ภายในจัดกั้นโซนออกเป็น 4 มุม เช่นห้อง 30.00 ตร.ม. เช่นเดิม กั้นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกครับ สามารถประยุกต์ให้เป็นพื้นที่แบบปิดหรือแบบเปิดได้ตามแต่ที่ลูกบ้านต้องการ นอกจากนั้นพื้นที่ริมระเบียงห้องส่วนมากจะหันสู่วิวทางทิศใต้และ Facilities ชั้น 1 เกือบทั้งหมดครับ

 

image

พื้นที่แรกของห้องยังคงเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นเช่นเคย ห้อง 35.00 ตร.ม. มีการปรับแต่งพื้นที่โซนครัวและระเบียงให้ชิดกับกับผนังห้องนอน ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาห้องนั่งเล่นครับ ระยะห่างระหว่างทีวีและโซฟามีเพิ่มมากขึ้น มากกว่า 2.5 เมตร  


 image

ระดับความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร ฝ้าเพดานกรุด้วยยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบ ทาสีทั้งส่วนบริเวณห้องรับแขก ห้องครัว และห้องนอน ลักษณะการออกแบบได้ควบรวมส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นเข้าด้วยกัน เฟอร์นิเจอร์ภายในเหมือนห้อง 30.00 ตร.ม. ทุกอย่าง ที่ถูกเสริมเข้ามามีแค่ตู้รองเท้าเพียงเท่านั้น  

image

Coffee Table สามารถประยุกต์พับเก็บขึ้นลงได้ สามารถซ้อนต่อกันเพื่อวางแก้วน้ำจากท็อปชั้นบนหรือเก็บหนังสือภายในช่องว่างชั้นล่าง อีกทั้งหากปรับเป็นแนวนอนก็เหมาะสำหรับใช้เป็นโต๊ะอ่านหนังสือที่พื้นได้ด้วยเช่นกัน


image

หากอยากเพิ่มพื้นที่ว่างภายในห้องนั่งเล่นให้กว้างขึ้นก็สามารถพับ Coffee Table ลง แล้วสอดเก็บเข้าใต้โซฟาได้ดังรูป  

image

หน้าตาของการจัดเก็บ จะทำให้ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ทำกิจกรรมได้มากขึ้นครับ

image

หลังโซฟามีปลั๊กไฟฟ้าซ่อนอยู่ การใช้งานปลั๊กบริเวณนี้ ลูกบ้านต้องเลื่อนโซฟามาข้างหน้า เพื่อเปิดพื้นที่การใช้งานภายในครับ

 

image

โต๊ะรับประทานอาหารสร้างจากไม้ลามิเนต พร้อมเก้าอี้เบาะหนังเทียมสีดำ 2 ที่นั่ง ตั้งอยู่ภายในห้องนั่งเล่นข้างโซฟา โต๊ะมีน้ำหนักเบาสามารถยกปรับเปลี่ยนมุมได้ตามความต้องการ อาจจะวางชิดประตูบานเลื่อนห้องนอน หรือจะยกไปไว้ข้างผนังประตูทางเข้าห้องก็ได้ตามแต่สะดวกครับ

 

image

ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นห้องน้ำครับ ชั้นวางทีวีอยู่ชิดกับประตูห้องน้ำ ดังนั้นโครงสร้างของผนังจึงใช้อิฐมอญเพื่อกันความชื้น เฟอร์นิเจอร์บริเวณนี้ทางโครงการมีมาให้แค่ Shoes Cabinnet และชั้นวาง TV-Cabinet เท่านั้นครับ (ทีวีและชั้นวาง Built-in ด้านบนไม่มีให้ครับ)

image

ชั้นวาง TV-Cabinet เจาะติดกับผนังและเว้นระยะจากพื้นประมาณ 50 ซม. สามารถใช้ประโยชน์ในการเก็บของเพิ่มเติมด้านล่างเพื่อประหยัดพื้นที่ได้  

image

ปลั๊กไฟแบบ 2 ช่อง และช่องเสียบสายเคเบิลจะอยู่ด้านหลังทีวี ซึ่งช่องต่อสายโทรศัพท์ในห้องอยู่อาศัยจริงจะถูกเพิ่มเข้ามาบริเวณข้างกันครับ

image

Shoes Cabinnet ชั้นวางรองเท้า 3 ชั้น ตั้งติดกับผนังห้องนอนและผนังห้องน้ำที่หัวมุม ลูกบ้านอาจจะลำบากในการที่จะต้องถอดรองเท้าแล้วถือเข้ามาวาง

แต่จะวางในจุดอื่นก็อาจจะไม่ค่อยสะดวกเหมือนกัน อย่างไรก็ตามการมีตู้รองเท้าในบริเวณนี้ก็แสดงได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดของการใช้สอยพื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์ของโครงการครับ

image

แผงคัตเอาท์ใช้ยี่ห้อ Schneider ตำแหน่งอยู่บริเวณผนังประตูห้องครับ ไม่สูงมากสามารถเอื้อมถึงได้สบาย 

 image

บรรยากาศภายในห้องน้ำห้องขนาด 35.00 ตร.ม. แบ่งกั้นโซนเปียกแห้งด้วยบานกระจกนิรภัยเปิดปิดแบบบานสวิง ในห้องน้ำไม่มีปลั๊กไฟบริเวณกระจกให้ครับ แต่ในบางห้องอาจจะมี ซึ่งจริงๆ แล้วในส่วนนี้ไม่ได้เสียหายอะไรมาก ยกเว้นคนที่ใช้พวกแปรงสีฟันไฟฟ้า เครื่องโกนหนวด อาจจะต้องชาร์ตบริเวณครัว แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ปลอดภัยดีเพราะไฟฟ้าก็ไม่ค่อยถูกกับน้ำเท่าไร

 

image

ธรณีประตูก่อด้วยอิฐมอญกั้น เพื่อแบ่งแยกโซนการใช้งานและกันการไหลของน้ำภายในห้อง

ครับ อาจจะต้องระวังเรื่้องการเดินสักนิดครับ เพื่อไม่ให้ไปเตะโดนเข้าซึ่งอาจจะเจ็บได้

 

image

ผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 8x8 นิ้ว และ 12x12 นิ้ว สีขาว มันวาว ง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาด พร้อมติดตั้งราวแขวนผ้า Prema แบบยาว และกระจกเงาอ่างล้างหน้าขนาด 60x70 ซม.  

image

อ่างล้างหน้า Cotto แบบขาลอยติดผนัง ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ภายในห้องน้ำดีครับ นอกจากนั้นยังมีสายน้ำดีของอ่างล้างหน้า Cotto สะดือและท่อน้ำทิ้งอ่างล้างหน้าของ Prema และก๊อกอ่างล้างหน้าแบบดึงเปิดปิดของ American Standard

image

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard เป็นแบบหน้ายาวนั่งสบายครับ

อีกทั้งท่อตรงยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย  

image

โถสุขภัณฑ์เป็นแบบปุ่มกดชำระปุ่มเดียวครับ จะไม่ใช่แบบ 2 ปุ่มที่เลือกได้ว่าจะใช้น้ำน้อยหรือน้ำมาก ซึ่งจริง ๆ แล้วในบางเรื่องเราก็เน้นเรื่องความสะอาดก่อนจะดีกว่าครับ

image

ก๊อกน้ำด้านล่าง 2 ตัว มีไว้สำหรับแยกปรับระดับความแรงของน้ำจากสายชำระและโถสุขภัณฑ์ ข้อดีคือสะดวกต่อการซ่อมแซมและการใช้งาน เช่น หากก๊อกหมุนจากสายชำระพัง ก็สามารถกดใช้งานโถสุขภัณฑ์ต่อได้ครับ และที่พื้นยังมีท่อน้ำให้ 1 หลุมครับ เป็นท่อระบายน้ำในโซนแห้งโดยเฉพาะ

image

ประตูกระจกนิรภัยบานสวิงพร้อมที่จับอลูมิเนียม 2 ฝั่ง น้ำหนักเบาดีครับ ไม่ต้องใช้แรงผลักเยอะ

image

ฝักบัวอาบน้ำสายโครเมี่ยมของ Prema แบบ Hand Shower สามารถปรับระดับความแรงและรูปแบบการกระจายของน้ำได้ พร้อมที่วางฝักบัวปรับระดับได้

image

บนฝ้าห้องน้ำโซนเปียกมีช่องสำหรับระบายอากาศติดตั้งให้ด้วยครับ ส่วนหลอดไฟเป็น Down Light แสงนีออนสีขาว รุ่นประหยัดพลังงาน

image

บรรยากาศภายในห้องนอนกับเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบครัน ขนาดเตียงควีนไซส์ 5 ฟุต (แอร์หลักของห้องที่ได้รับจะอยู่ในห้องนอนเท่านั้นครับ) พื้นเป็นไม้ลามิเนตเช่นเดียวกับห้องนั่งเล่น และสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาในห้องนอนขนาด 35.00 ตร.ม. คือชั้นวางทีวี และโต๊ะเครื่องแป้ง 

 

image

ชั้นวางทีวีและโต๊ะเครื่องแป้งถูกเจาะติดผนังและยกสูงจากพื้น เฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 มีระดับความสูงต่างกันครับ Dressing Table จะยกสูงกว่า และมีบานกระจกเงาทรงกลมแขวนมาให้เพื่อใช้งาน ด้วยความที่กระจกเงาถูกติดตั้งใกล้กับบริเวณบานหน้าต่าง จึงเหมาะสำหรับใช้ส่องแต่งตัวเล็กๆ น้อยๆ หรือคุณผู้หญิงที่ชื่นชอบการแต่งหน้าด้วยแสงธรรมชาติจากภายนอกมาก

ในห้องนอน ห้อง 35.00 ตร.ม. มีปลั๊กอยู่ 2 จุด จุดละ 2 ช่อง คือตรงที่วางทีวีที่อยู่ใกล้กับสายสัญญาณทีวี และข้างเตียงบริเวณตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งไม่เจอปลั๊กไฟครับ ต้องแบ่งจากบริเวณชั้นวางทีวี ถ้าจะเป่าผม

การจัดวาชั้นวางทีวีจะอยู่ต่ำกว่า Dressing Table เนื่องจากเป็นระดับสายตาจากการนอนรับชมทีวีจากบนเตียง ระยะห่างจากเตียงเหมาะสำหรับการวางทีวีขนาด 32 นิ้วขึ้นไป แต่ไม่เกิน 55 นิ้วครับเพราะจะติดโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ถ้าหากอยากติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ แนะนำให้ติดตั้งแบบแขวนผนังจะดีกว่าครับ

แอร์ของห้องเป็นรุ่น York 12,000 Btu ติดตั้งโดยเว้นระยะจากเพดาน 1 นิ้ว

เรื่องของการติดตั้งแอร์ ใกล้ขนาดนี้ไม่น่าจะมีปัญหามากครับ แต่ถ้าติดตรงผนังฝั่งที่รับความร้อนเลย อันนี้จะทำให้แอร์ทำงานหนักได้

image

บริเวณประตูทางเข้ามีช่องสำหรับเก็บรีโมทแอร์และสวิตช์ไฟ Bticino และที่ข้างกันมีตู้เสื้อผ้าขนาดหน้ากว้าง 1.4 เมตร สูงจรดฝ้าเพดาน 2.4 เมตร เป็น Built - in ชนิดพิเศษของโครงการแถมให้มาครับ  

image

ช่องเก็บของใต้เตียงเป็นแบบลิ้นชักดึงเปิดปิด (การเปิดปิดอาจจะต้องเบามือกันสักนิดครับ เนื่องจากไม่มีแผ่นยางกันกระแทกรองรับ)

 

image

Dressing Table กับลิ้นชักสามารถเลื่อนเข้าออก 2 ช่อง พร้อมเก้าอี้สตูลเบาะหนังเทียมสีเทาเข้มสามารถใช้เก็บของภายในได้ (a079)

image

Side Board ถูกออกแบบมาเพื่อสามารถตั้งวางทีวีได้ ดังนั้นที่ผนังจึงต้องมีปลั๊กไฟรองรับ พร้อมช่องต่อสายเคเบิลให้ครับ หากลูกบ้านไม่ได้ตั้งวางทีวีในส่วนนี้ก็สามารถวางพวกของประดับตกแต่งหรือพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ต้องเสียบปลั๊กใช้งานได้ด้วยเช่นกัน 

 

image

ข้างฝั่งหัวเตียงหรือผนังหน้าตู้เสื้อผ้ามีปลั๊กไฟ 2 ช่องติดผนังไว้ให้ใช้งานด้วยครับ

 

image

บานหน้าต่างกระจกใสชนิดเลื่อนเปิดปิด (เฉพาะ 2 บานใหญ่ชั้นบน) วงกบและที่จับเป็นอลูมิเนียมสามารถล็อกได้ครับ ที่โครงการไม่มีม่านติดตั้งให้นะครับ มีแค่วงกบอลูมิเนียมบนเพดานสำหรับติดตั้งม่านไว้ให้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น  

image

ตู้เสื้อผ้า Built-in มีลิ้นชักด้านใน สำหรับเก็บของได้ถึง 4 ชั้นเลยครับ บานประตูเป็นไม้ลามิเนต

ชนิดเลื่อนเปิดปิดแบบ Soft Closed  

image

ห้องครัวสามารถเปิดปิดกั้นโซนกับระเบียงห้องได้ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก เหมาะสำหรับการเปิดระบายกลิ่นจากการทำครัวและการระบายความร้อนจากห้องนั่งเล่นมากครับ

ด้วยระยะความกว้างของพื้นที่ครัวกว้างขวางในระดับหนึ่ง ลูกบ้านสามารถเคลื่อนย้ายโต๊ะ

รับประทานอาหารจากห้องนั่งเล่นมาไว้ในส่วนของห้องนี้ได้เช่นกันครับ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนั่งเล่นให้กว้างขวางขึ้น

image

Pantry ครัวออกแบบพิเศษเฉพาะของโครงการ เป็นไม้ลามิเนตพร้อมซิงค์ล้างจานแบบไม่มีที่พักจาน (อาจต้องระวังเรื่องของการเปียกแฉะของน้ำ) ไม่มีเตาไฟฟ้า  Top ด้านบนเป็นไม้ HDF ปิดผิวลามิเนตเต็มพื้นที่ โครงสร้างทั้งหมดเป็นไม้ลามิเนตออกแบบให้มีลิ้นชักสำหรับเปิดปิดเก็บอุปกรณ์เครื่องครัว 2 ช่อง พร้อมช่องสำหรับวางไมโครเวฟชั้นล่างขนาดกระทัดรัด

image

ลิ้นชักไม้ชั้นล่างสุด ขนาดไม่กว้างมากเหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์หรือเครื่องครัวชิ้นเล็ก 

image

เฟอร์นิเจอร์ Built - in ภายในครัว ติดตั้งบนผนังเพื่อการจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องครัวชิ้นใหญ่ โดยทั้งหมดเป็นไม้ลามิเนตครับ ออกแบบให้มีฝาเปิดปิดและปล่อยว่างตามช่อง เหมาะสำหรับตั้งโชว์ขวดโหลแก้วหรือจานชามสวยๆ และที่ผนังห้องครัว มีปลั๊กไฟ 2 ช่องสำหรับไว้ใช้งานเหมือนห้อง 30.00 ตร.ม.

ให้ด้วยครับ  

image

ช่องเก็บของพร้อมบานจับอลูมิเนียมแบบ Soft Closed มียางรองกันกระแทกเล็กๆ ติดอยู่ แต่เท่าที่ลองเปิดปิดดูแล้วไม่ค่อยช่วยป้องกันการกระแทกเท่าใดนัก เนื่องจากข้อต่อและน้ำหนักของบานไม้มีมากจึงทำให้การเปิดปิดเกิดเสียงดังทุกครั้งที่ใช้งาน 

image

ซิงค์ล้างจานสแตนเลสแบบไม่มีที่พักจาน พร้อมก๊อกน้ำ

โดยส่วนใหญ่ช่องระบายน้ำของซิ้งค์ล้างจาน จะมีที่ดักเศษอาหารติดอยู่ครับ ทุกยี่ห้อสามารถดึงออกได้แต่วิธีการดึงออกจะแตกต่างกันไป  

 

image

พื้นที่ระเบียงห้องและรั้วกั้น ระดับความสูงของรั้วกั้นอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร ที่ระเบียงไม่มีราวเหล็กหรือราวตากผ้าติดตั้งมาให้นะครับ หากต้องการตากผ้าหลังจากซักเสื้อผ้าเสร็จ ลูกบ้านจะต้องหาซื้อราวตากผ้าและที่แขวนเพิ่มเติมเอง

image

วงกบประตูและที่จับประตูบานเลื่อนเป็นอลูมิเนียมครับ ที่จับประตูสามารถใช้ล็อกในส่วนพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างระเบียงและครัวได้

image

ข้อดีของโคมไฟแก้วทรงซาลาเปาคือได้ความสว่างจากแสงที่กระจายทั่วถึง แต่ข้อเสียคือหากใช้ไปนานๆ พวกแมลงจะเข้ามาอยู่อาศัยภายในและจะทำให้ความสว่างแสงลดลงครับ อีกทั้งยากต่อการทำความสะอาดมากเช่นเดียวกัน  

image

ในห้องอยู่อาศัยจริง จะมีคอมเพรสเซอร์แอร์เพียง 1 ตัวเท่านั้น ทำให้มีตำแหน่งพื้นที่การวางเครื่องซักผ้าที่ดีและได้ระดับ ที่ผนังมีปลั๊กไฟ 2 หลุมพร้อมฝาครอบกันน้ำ ไว้สำหรับต่อสายเสียบใช้งานเครื่องซักผ้าด้วยเช่นกัน

ส่วนเรื่องของการระบายน้ำที่ระเบียง ทางโครงการมีท่อระบายน้ำเพียง 1 ท่อให้ครับ การปล่อยน้ำจากเครื่องซักผ้าหรือการซักล้างอื่นๆ ก็ต้องปล่อยน้ำลง ณ จุดนี้จุดเดียว ซึ่งขนาดของท่อก็ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร การระบายอาจจะทำให้ช้าและอุดตันได้ง่ายเช่นกัน

Environment

 Environment - สภาพแวดล้อมรอบโครงการ  เดอะนิช ไอดี พระราม 2


image

สำนักงานขายและโครงการจะติดริมถนนพระราม 2 ครับ ขนาบข้างด้วยคลองบางขุนเทียน โชว์รูมรถ และออฟฟิศตึกแถวริมถนน ฝั่งตรงข้ามสำนักงานขายจะเป็นตึกแถวให้เช่าส่วนมาก


image

ย้อนกลับมาจากทางลงทางด่วน จะพบโชว์รูม Isuzu ครับ และหากตรงไป ณ บริเวณใต้ทางด่วนจะมีจุดกลับรถเพื่อวนกลับมาทางโครงการ 

image

เขตก่อสร้างในภาพคือเฟส 2 ครับ และอาคารที่แล้วเสร็จทางขวาคือเฟส 1 

image

ป้ายรถเมล์และสะพานลอยหน้าสำนักงานขาย เป็นจุดเดินทางด้วยรถสาธารณะ เหมาะสำหรับลูกบ้านที่ไม่มีรถครับ ลูกบ้านสามารถขึ้นรถเมล์ที่ป้ายหน้าสำนักงานเพื่อไปเซ็นทรัลพระราม 2 หรือข้ามสะพานลอยเพื่อมาฝั่งตรงข้าม และขึ้นรถเมล์ไปทำงานในเมืองได้สบาย  

image

บรรยากาศบนสะพานลอยหน้าโครงการ ในช่วงค่ำอาจจะมืดพอสมควร เนื่องจากไฟริมถนนอาจจะไม่สว่างมากพอ แต่ข้อดีที่ลูกบ้านจะได้รับคือสามารถข้ามไปฝั่งตรงข้ามเพื่อต่อรถเมล์ได้สะดวก

ไม่ต้องเดินไกลจากโครงการ อีกทั้งบนสะพานยังมีหลังคาช่วยบังแดด บังฝน ในช่วงเวลากลางวันครับ 

image

ถัดมาจากโครงการประมาณ 3.7 กม. จะพบ Home Pro ลูกบ้านสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุเพิ่มเติมได้จากที่นี่ครับ ใกล้และสะดวกมาก

image

ก่อนขึ้นสู่สะพานกลับรถ จะพบกับ Big C พระราม 2 ฝั่งตรงข้ามกับเซ็นทรัล

image

เมื่อลงจากสะพานกลับรถจะพบเซ็นทรัลพระราม 2 ทางซ้าย

ทางเข้าเซ็นทรัลจะอยู่ใกล้กับสะพานลอย  


image

บรรยากาศฝั่งตรงข้ามโครงการ ส่วนมากเป็นอาคารพานิชย์และตึกแถวสำหรับอยู่อาศัยเรียงรายตามริมถนน ส่วนใหญ่จะเป็นร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ไม่ค่อยมีร้านอาหาร และป้ายรถเมล์ก็อยู่ใกล้กับทางลงสะพานลอยเช่นกันครับ (ลูกศรสีแดง)  

Location

Location – ที่ตั้งโครงการ เดอะนิช ไอดี พระราม 2

image

ตำแหน่งที่ตั้งของตัวโครงการ เดอะนิช ไอดี พระราม 2 เฟส 2  

image

ตำแหน่งที่ตั้งของสำนักงานขาย

การเดินทางด้วยรถยนต์

image

หากตั้งต้นการเดินทางจากทางพิเศษเฉลิมมหานครให้วิ่งเลนส์ขวาสุด เพื่อมุ่งหน้ามาทางดาวคะนองครับ

image

ให้วิ่งเลนส์ขวาและตรงไปตามเส้นทาง เพื่อขึ้นสู่สะพานพระราม 9  

image

ขึ้นสู่สะพานพระราม 9 (a004)

image

วิ่งไปตามป้ายบอกทางสู่เขตดาวคะนอง 

image

ให้เตรียมชิดซ้ายทันที เพื่อลงจากทางด่วนครับ  


image

เมื่อลงจากทางด่วนพระราม 2 ให้วิ่งชิดซ้ายไปตามเส้นทางครับ

image

จุดสังเกตุก่อนถึงโครงการ จะต้องผ่าน 2 สะพานลอยครับ (ในภาพคือสะพานลอยแรก)

image

ขับมาเรื่อยๆ ฝั่งซ้ายมือ จะพบป้ายใหญ่ๆ โชว์รูม Isuzu ตั้งอยู่ก่อนถึงสะพานลอยที่ 2 ครับ  

image

หากเลี้ยวเข้าสู่โครงการไม่ทัน ให้ไปกลับรถข้างหน้าครับ จะมีสะพานกลับรถอยู่ไม่ไกล

image

สะพานกลับรถบนถนนพระราม 2  

image

หลังจากกลับรถแล้ว ให้ขับตรงมาครับ เพื่อไปยังจุดกลับรถใต้ทางด่วนพระราม 2

image

จุดสังเกตุของสะพานกลับรถใต้ทางด่วนพระราม 2 คือจะมีโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือครับ

image

จุดกลับรถใต้ทางลงทางด่วนพระราม 2


image

ขับตรงมาตามเส้นทาง เมื่อผ่านโชว์รูม Isuzu จะพบกับสะพานลอยที่ 2 ครับ สำนักงานขายและโครงการจะตั้งอยู่ใกล้กับสะพานลอยและป้ายรถเมล์

image

หน้าตาของสำนักงานขายครับ อยู่ติดบริเวณริมถนนพระราม 2 เลย  

image

ข้างสำนักงานขาย จะพบกับทางเข้าสู่โครงการภายในครับ

ปากทางเข้ากว้างขวางใช้ได้เลย

image

ภาพมุมสูงจากบนสะพานลอย บริเวณหน้าทางเข้าสู่โครงการ  

Analysis

Project analysis - วิเคราะห์โครงการ The Niche ID พระราม 2



การเดินทาง :

การเดินทางเข้าออกสำหรับลูกบ้านภายในโครงการเฟส 2 จะเน้นไปที่การใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักครับ หรือหากลูกบ้านต้องการออกมาบริเวณถนนพระราม 2 เพื่อต่อรถเมล์ไปตามสถานที่ต่างๆ ก็สามารถเรียกใช้บริการรถรับส่ง เพื่อจัดส่งลูกบ้านมาบริเวณด้านหลังสำนักงานขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับช่องทางการเข้าสู่โครงการภายในเฟส 2 จะต้องเข้าจากถนนบริเวณหน้าโครงการเท่านั้นไม่มีช่องทางอื่นให้ลัดเลาะเข้ามา เนื่องจากรอบโครงการจะเป็นคลองบางขุนเทียนและคลองบางมดล้อมรอบอยู่ และเมื่อสิ้นสุดที่เฟส 1 จะเป็นซอยตันไม่มีเส้นทางให้ทะลุครับ

สำนักงานขายและปากทางเข้าสู่โครงการจะอยู่ใกล้กับบริเวณทางลงทางด่วนพระราม 2 โดยจุดสังเกตุคือเมื่อลงจากทางด่วนจะพบกับโชว์รูม Isuzu ฝั่งซ้ายมือและป้ายรถเมล์ใต้สะพานลอยครับ อาจจะลำบากหน่อยเรื่องของการเลี้ยวเข้าสู่โครงการเลย เนื่องจากทางเข้าอยู่กระชั้นชิดมากเกินไป แต่ถ้าเลี้ยวเข้าสู่โครงการไม่ทัน ให้วิ่งขนาบซ้ายไปเรื่อยๆ จะพบกับจุดกลับรถไม่ไกลมากครับ จากนั้นให้วนกลับมากลับรถใต้ทางด่วนพระราม 2 แล้ววิ่งเลียบซ้ายมาอีกที จะเป็นเส้นทางการเข้าโครงการที่ปลอดภัยมากกว่าการเลี้ยวเข้าโครงการทันทีหลังลงจากทางด่วนพระราม 2

สิ่งแวดล้อม: สภาพโดยรอบโครงการเฟส 2 โดยส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัยทั่วไป และเป็นคลองบางมดจากทางทิศตะวันออกติดกับอาคาร D ครับ หากลูกบ้านต้องการหาร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อขนมหรือของใช้จุกจิกทั่วไป ลูกบ้านก็ไม่ต้องไปไกลถึง Big C พระราม 2 หรือ Central พระราม 2 ครับ ภายในโครงการก็มีร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงไว้รองรับลูกบ้านเช่นเดียวกัน

แวดล้อมภายนอกโครงการในระยะ 500 เมตร ไม่มีร้านอาหารตามสั่งหรือร้านสะดวกซื้อครับ ส่วนมากจะเป็นออฟฟิศ ตึกแถวให้เช่า โรงเรียน และโชว์รูม Isuzu ตั้งอยู่เคียงข้าง เบื้องหน้าเป็นถนนพระราม 2 และทางลงจากทางด่วนครับ หากลูกบ้านต้องการซื้อของหรือต้องการช็อปปิ้งทานข้าวเปลี่ยนบรรยากาศ ก็คงต้องเดินทางไปเซ็นทรัลพระราม 2 ประมาณ 3.7 กม. ครับ จะเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใกล้และสะดวกที่สุด หรือไม่ก็เดินทางเข้าเมืองไปเลยจะสะดวกเช่นกันเนื่องจากหน้าโครงการใกล้กับทางขึ้นทางด่วนมาก

สิ่งอำนวยความสะดวก: ในเรื่อง Facilities ของเฟส 2 จะรวมอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ส่วนกลางทั้งหมด โดยจะเป็นพื้นที่ Main Lobby หลักสีเขียว มีที่นั่งเอาไว้สำหรับรองรับพักผ่อนแก่ลูกบ้านและแขกผู้เข้ามาติดต่อภายใน รอบข้างประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ (แบ่งแยกโซนเด็กและผู้ใหญ่) ห้องฟิตเนสอุปกรณ์ครบครันตามมาตรฐาน โถงห้องสมุดที่ถูกตกแต่งแบบสบายๆ น่านั่ง และมีพื้นที่สนามเด็กเล่นและ Jocking Track บริเวณตามทางเดินอาคาร D แบบเส้นทางเดี่ยววิ่งไปกลับสำหรับรองรับลูกบ้าน

แบบห้อง: ขนาดห้องที่ขายภายในโครงการเฟส 2 ถูกแบ่งออกเป็น 2 ขนาด ได้แก่ 30.00 ตร.ม. และ 35.00 ตร.ม. เฟอร์นิเจอร์ระหว่าง 2 ห้องนี้เหมือนกันหมดทุกชิ้นครับ แต่ห้องขนาด 35.00 ตร.ม. สิ่งที่ถูกเพิ่มขึ้นมามี Shoes Cabinnet (ตู้เก็บรองเท้า) Dressing Table (โต๊ะแต่งตัว) และ Side Board (ชั้นวางทีวีติดผนัง) สำหรับขนาดความสูงของฝ้าเพดานและพื้นกระเบื้องก็อยู่ที่ 2.4 เมตรเช่นเดียวกันทั้ง 2 ขนาดห้องครับ

การวางทิศทางห้องและขนาดของห้องทั้ง 2 อาคาร จะเหมือนกันครับ ห้อง 30.00 ตร.ม. จะเน้นพื้นที่ระเบียงห้องออกสู่ภายนอกโครงการทั้งหมดทั้ง 2 อาคาร และห้องขนาด 35.00 ตร.ม. จะเน้นทิศทางของระเบียงห้องเข้าสู่ Facilities แทบทั้งหมด

รูปแบบห้องสามารถประยุกต์ได้ทั้งโซนเปิดและปิดครับ โดยการใช้ประตูบานเลื่อนกระจกกั้นโซนเอา ลักษณะผังห้องเมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก พร้อมโต๊ะที่นั่งสำหรับเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร เบื้องหน้าเป็นห้องนอน และฝั่งซ้ายก็จะห้องน้ำ ห้องครัว และถัดไปอย่างสุดท้ายก็จะเป็นบริเวณระเบียงห้อง

การทำครัวภายในห้องที่สามารถกั้นโซนได้ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งเช่นกันครับ อย่างเช่น หากลูกบ้านต้องการระบายอากาศขณะทำอาหารและไม่ต้องการให้กลิ่นเข้าไปรบกวนในพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน ลูกบ้านก็สามารถเลื่อนประตูปิดบริเวณส่วนนี้ได้ และเปิดประตูริมระเบียงไว้เพื่อระบายอากาศออก (ที่เฟส 2 จะมีประตูบานเลื่อนกั้นโซนครัวให้ครับ แต่ที่เฟส 1 จะไม่มีในส่วนนี้)

ราคา: สรุปราคาแบ่งเป็นลักษณะตามนี้

(อ้างอิงตามโบรชัวที่ได้รับจากโครงการเฟส 2 ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2559)

  • ห้องขนาด 30.00 ตร.ม. ราคา 1,500,000 - 1,730,000 บาท

จอง 5000 บาท   เงินทำสัญญา 25000 บาท

ผ่อนดาวน์งวดที่ 1 - 8 ตกงวดละ 5000 บาท ผ่อนงวดสุดท้ายงวดที่ 9 ตก 40000 บาท

รวมเงินดาวน์ที่ชำระทั้งสิ้น 110,000 บาท

ในกรณีห้องราคา 1,500,000 บาท   ยอดคงเหลือ ณ วันโอนจะอยู่ที่ 1,390,000 บาท

การผ่อนธนาคาร 30 ปี จะตกเดือนละ 8786 บาท

ในกรณีห้องราคา 1,730,000 บาท   ยอดคงเหลือ ณ วันโอนจะอยู่ที่ 1,620,000 บาท

การผ่อนธนาคาร 30 ปี จะตกเดือนละ 10240 บาท

  • ห้องขนาด 35.00 ตร.ม. ราคา 1,810,000 - 1,970,000 บาท

จอง 5000 บาท   เงินทำสัญญา 25000 บาท

ผ่อนดาวน์งวดที่ 1 - 8 ตกงวดละ 6000 บาท ผ่อนงวดสุดท้ายงวดที่ 9 ตก 50000 บาท

รวมเงินดาวน์ที่ชำระทั้งสิ้น 128,000 บาท

ในกรณีห้องราคา 1,810,000 บาท  ยอดคงเหลือ ณ วันโอนจะอยู่ที่ 1,700,000 บาท

การผ่อนธนาคาร 30 ปี จะตกเดือนละ 10746 บาท

ในกรณีห้องราคา 1,970,000 บาท  ยอดคงเหลือ ณ วันโอนจะอยู่ที่ 1,860,000 บาท

การผ่อนธนาคาร 30 ปี จะตกเดือนละ 11757 บาท

สรุป: ณ ปัจจุบันโครงการเฟส 2 ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการก่อสร้างอาคาร D ครับ ทางทีมงานจึงได้เข้าไปสำรวจเยี่ยมชมภายในห้องตัวอย่างและพูดคุยกับทางเซลล์ของโครงการแทน จากเท่าที่ได้เยี่ยมชมและรับฟังข้อมูลแล้ว ในเรื่องของความน่าอยู่อาศัย ด้วยความที่โครงการตั้งอยู่พื้นที่รอบนอก และไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่โดยตรง จึงมีความเงียบสงบดีครับ ไม่วุ่นวาย แต่หาของกินได้ลำบาก และลูกบ้านที่ไม่มีรถอาจจะต้องลำบากหน่อยในเรื่องการเดินทางไปทำงานตามแนวรถไฟฟ้า แต่ก็มีข้อดีตรงที่การข้ามฝั่งเพื่อไปยังป้ายรถเมล์ที่ไม่ต้องเดินไกลครับ สามารถข้ามสะพานลอยหน้าสำนักงานขายได้เลย

ในส่วนของจุดด้อยของโครงการคงจะเป็นในเรื่องของร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อพวก 7 -11 หรือ Familymart ครับ ถึงแม้ภายในโครงการจะมีร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. เปิดอยู่ แต่บางทีลูกบ้านอาจอยากเปลี่ยนบรรยากาศในการเลือกซื้อได้เช่นกัน

ในส่วนของคอนเซ็ปต์ก็น่าสนใจไม่น้อยครับ เป็นโครงการที่เหมาะกับผู้อยู่อาศัยบริเวณย่านพระราม 2 ที่ต้องการคอนโดในราคาไม่แรงมาก เหมาะสำหรับลูกบ้านที่มีรถยนต์ส่วนตัวไว้ใช้ในการเดินทางเป็นหลักเพื่อสอดคล้องกับจุดเด่นของโครงการที่เน้นการเดินทางสะดวกรวดเร็วใกล้ทางด่วน และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง (สถานีดาวคะนอง) เปิดให้ใช้บริการเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง (ยังไม่มีกำหนดการสร้างเสร็จของรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีดาวคะนอง)

แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ