[Review] Downtown 49 คอนโดมิเนียมหลากสไตล์ ในซอยสุขุมวิท 49 จาก Maryland

Downtown 49 คอนโดมิเนียมสบายตาที่ซ่อนอยู่ในซอยสุขุมวิท ⁴⁹⁄₁₂ ซึ่งเป็นซอยย่อย ห่างจากถนนสายหลักพอสมควร แต่กลับสามารถลัดเลาะออกไปหาของกินย่านทองหล่อ หรือเดินเล่นแถวคอมมูนิตี้มอลล์ได้หลายทาง ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งโครงการกลุ่ม LowRise ที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอนโดมิเนียมทำเลดี ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ราคาห้อง

1 ห้องนอน ขนาด 40.01 – 41.36 ตร.ม. แบบห้อง A2 (เช่าเดือนละ 25,000 บาท)

2 ห้องนอน ขนาด 67.20 ตร.ม. แบบห้อง B5 (เช่าเดือนละ 44,000 บาท)

ห้อง Duplex ขนาด 120.01 ตร.ม. แบบห้อง D3 (เช่าเดือนละ 75,000 บาท)

ที่ตั้งโครงการ Downtown Forty Nine

แผนที่โครงการ

 การเดินทางโดยรถส่วนตัวบนถนนเพชรบุรี มุ่งหน้าไปแยกพร้อมพงษ์

เมื่อเราเดินทางมาใกล้ถึงแยกพร้อมพงษ์ ให้เตรียมตัวชิดขวาไว้เลย เพื่อเลี้ยวขวาไปทางเพชรบุรี ซอย ³⁸⁄₁ ค่ะ

เพชรบุรี ซอย ³⁸⁄₁ เลี้ยวขวาเข้าไปเลย

พอตรงเข้าไปเรื่อยๆ เราจะเห็น Citi Resort จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายค่ะ แล้วขับตามทางไปเรื่อยๆ

ให้ผู้อ่านสังเกตทางขวามือค่ะ ถ้าเจอ Let’s Relax spa แสดงว่าจะต้องเลี้ยวขวาตรงแยกหน้าแล้วค่ะ

เลี้ยวขวาตรงแยกหน้าค่ะ

แล้วตรงตามถนนไปเลย

ตรงไปเรื่อยๆ

และก็ยังคงต้องขับรถกันต่อไป ซึ่งเราจะผ่านโครงการ Siamese Thirty Nine ไปค่ะ

และเมื่อขับไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอ IUCN องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ทางขวามือค่ะ

ตรงผ่านตึก Bio House ไปเรื่อย

เจอแยกก็ไม่ต้องสนใจ ขับตรงต่อไปค่ะ

จนเจอป้อมตำรวจ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพร้อมศรี 1 ค่ะ

แล้วเราก็จะเจอทางแยกไปโรงพยาบาลสมิติเวชค่ะ ให้เลี้ยวซ้ายนะคะ อย่าเผลอเลี้ยวไปโรงพยาบาลเชียว

เมื่อตรงเข้ามาแล้วให้สังเกตป้ายบ้านพักเอกอัครราชทูตเปรู สีเขียวๆ ค่ะ ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท ⁴⁹⁄₁₂ ไปเลย

ถึงซอยสุขุมวิท ⁴⁹⁄₁₂ แล้ว

เย้! ถึงแล้วค่ะ ป้ายโครงการตั้งเด่น อยู่ด้านหน้าเลย

เจาะลึกภาพรวมโครงการ Downtown Forty Nine

ก่อนอื่น…เรามาดูแปลนอาคาร A กันดีกว่าค่ะ  ซึ่งเป็นในส่วนของชั้น 2 , 6 และ 8 ตามลำดับ

จะเห็นได้ว่า แต่ละห้องจะมีการออกแบบที่ต่างกันออกไป แต่ละชั้นมีการออกแบบห้องที่แตกต่างกัน โดยสีที่เหมือนกันจะมีแปลนเหมือนกันค่ะ

คราวนี้มาที่อาคาร B กันบ้าง ในภาพจะเป็นส่วนของชั้น 3 ซึ่งทุกชั้นจะมีแปลนห้องที่คล้ายกัน จะต่างกันก็ตรงการตกแต่งภายในห้องนั้นเองค่ะ หากใครต้องการชมห้องตัวอย่างก็สามารถเดินดูแบบห้องที่ชอบได้เลย แต่อาจจะต้องเดินเหนื่อยหน่อยนะคะ

เมื่อเราดูแปลนกันเรียบร้อยแล้ว งั้นเราไปดูภาพจากสถานที่จริงกันเลยดีกว่าค่ะ

ทางเข้าโครงการค่ะ จะสังเกตเห็นป้ายโครงการเด่นอยู่ข้างหน้าเลย โดยจะมีป้อมรปภ. คอยดูแลความปลอดภัย

พี่ๆ รปภ. ประจำการตลอด 24 ชม. เลยค่ะ

พอเราเลี้ยวเข้ามาในโครงการ เราจะเจอที่จอดรถใต้ดินและลานจอดรถใต้ถุนอาคารของทั้ง 2 อาคารค่ะ ถือว่าที่จอดรถค่อนข้างเยอะพอสมควรเลย

ลานจอดรถอาคาร A ค่ะ ใต้ถุนยกสูงในระดับที่ไม่ทำให้เรารู้สึกอึกอัดจนเกินไป ส่วนตรงกำแพงก็มีการปลูกต้นไม้ไว้ตลอดแนว

ลานจอดรถอาคาร B ค่ะ ไม่ต่างค่อยจากอาคาร A เท่าไร

รถรับส่งของทางโครงการค่ะ ซึ่งจะวิ่งทุกๆ 1 ชม. ส่วนตรงป้ายสีน้ำเงินจะติดเวลารอบถัดไปให้เราทราบด้วย หรือใครกลัวพลาดจะมานั่งรอก็ได้นะคะ ทางโครการเขาตั้งโต๊ะ เก้าอี้ไว้ให้ค่ะ

อาคารต่างๆ ในโครงการค่ะ ซึ่งอาคาร A อยู่ซ้ายมือ ส่วนทางขวามือจะเป็นอาคาร B ค่ะ

ทางเดินเข้าอาคารระหว่างอาคาร A และ B ก็ตกแต่งไว้อย่างร่มรื่นนะคะ

ตรงทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร A และ อาคาร B มีหลังคาบังฝนให้ด้วย

และถ้าเราเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ ตามทางเดิน เราก็จะเจอกับสระว่ายน้ำกลางแจ้งเลยค่ะ อยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร A และ อาคาร B นั่นแหละ

ทางโครงการได้ปลูกต้นไม้ไว้บังสระว่ายน้ำ เพื่อความเป็นส่วนตัวนิดนึง

ด้านล่างสระว่ายน้ำ ฝั่งหนึ่งจะทำพื้นเป็นระดับๆ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นอ่างเล็กๆ ไว้นั่งแช่ตัวได้ค่ะ

ตัวสระว่ายตกแต่งด้วยโมเสคระยิบระยับ สะท้อนแสงแดดกันไปเลย ส่วนรอบๆ ก็โรยหินกรวด เพื่อความสวยงาม

ข้างสระว่ายน้ำ มีเก้าอี้ให้นั่งเล่น นั่งชิวกันได้นะคะ กว้าง ใหญ่ นั่งสบายดีค่ะ

กล้องวงจรปิดตรงบริเวณสระว่ายน้ำค่ะ

จุดนี้เป็นห้องสมุดของทางโครงการค่ะ ซึ่งจะอยู่ตรงหลังสระว่ายน้ำ ไฟในห้องค่อนข้างสว่างแต่ก็ไม่ทำให้แสบตา ที่นั่งอาจจะน้อยไปสักหน่อย หากใครอยากใช้บริการคงต้องเลือกเวลาดีๆ

เวลาการให้บริการของห้องสมุดส่วนกลางค่ะ

ในบริเวณเดียวกัน มีห้องฟิตเนสขนาดกลาง ไว้เอาใจสายเฮลท์ตี้ ซึ่งภายในห้องมีเครื่องเล่นอยู่ประมาณ 8 ตัวค่ะ ผนังห้องเป็นบานกระจกเปิดโล่งทุกด้าน ออกกำลังกายไป ดูต้นไม้ไปเพลินๆ ดี จะมีด้านหนึ่งของห้องที่ติดกระจกเอาไว้นะคะ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น

ด้านหนึ่งของห้องฟิตเนสได้ติดกระจกไว้ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น และให้สายเฮลท์ตี้มาถ่ายรูปอัพลงโซเชียลกัน

ตัวอย่างเครื่องเล่นภายในฟิตเนสค่ะ

มีศาลพระภูมิตั้งอยู่ด้านหลังโครงการ ใกล้ทางเข้า Lobby อาคาร B ค่ะ โดยทางโครงการได้ปลูกต้นไม้ไว้รอบๆ ศาลพระภูมิด้วย ร่มรื่นมากๆ

ห้องน้ำส่วนกลาง แยกชาย-หญิงเรียบร้อย ซึ่งภายในห้องน้ำมีห้องสตรีมให้

ห้องสตรีมขนาดไม่ใหญ่ค่ะ นั่งได้ประมาณ 3 คนก็เต็มแล้ว

เมื่อขึ้นมาชั้น 3 จะเจอกับสนามพัตกอล์ฟเล็กๆ ยื่นออกไป เอาไว้เล่นแก้เบื่อได้

หากขึ้นไปที่ชั้น 8 จะเป็นส่วนของสวนดาดฟ้า มีที่นั่งให้เยอะพอสมควร แต่ต้นไม้ที่โครงการนำมาลงจะเป็นไม้พุ่มซะส่วนใหญ่ มีต้นลีลาวดีแซมบ้างตามจุดต่างๆ ค่ะ ถ้าขึ้นมาตอนกลางวัน อาจจะร้อนนิดนึง

ถ้าใครอยากชมวิวเมืองยามเย็น แนะนำให้ขึ้นมาที่นี่ได้ค่ะ หรือใครอยากจัดปาร์ตี้ก็สามารถติดต่อทางโครงการได้

ระบบเข้าออกอาคารใช้คีย์การ์ดเป็นหลัก

ชั้น 1 โซน lobby ค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ ซึ่งแต่ละอาคารจะมีที่นั่งรับรองให้

ลิฟท์ของทั้ง 2 อาคาร มีรูปแบบเหมือนกัน ซึ่งแต่ละอาคารจะมีลิฟต์ให้อาคารละ 2 ตัวค่ะ

ลิฟต์ในอาคารเป็นลิฟต์แบบล็อกชั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้อาศัย โดยต้องใช้คีย์การ์ดในการใช้บริการ

ตู้ไปรษณีย์จะเรียงตามหมายเลขห้อง อยู่ข้างๆ ลิฟต์ โซน lobby ชั้น 1

สำหรับทางเดินในอาคารจะสลัวๆ นิดนึง และพื้นตกแต่งด้วยกระเบื้องเป็นลายหมากรุกแบบนี้

ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 40.01 – 41.36 ตารางเมตร

วันนี้เราจะพาชมห้องตัวอย่างที่โครงการจัดไว้ดูเป็นตัวอย่าง 3 ห้อง ได้แก่ แบบ 1 ห้องนอน , 2 ห้องนอน และห้อง Duplex ค่ะ ซึ่งภายในตกแต่งไว้อย่างลงตัว  โดยห้องจริงจะค่อนข้างเรียบๆ สบายตาค่ะ

สำหรับห้องนี้ ทางโครงการได้ตกแต่งห้องให้มีความโมเดิร์น เรียบ เก๋ มีเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น ของตกแต่งไม่เยอะ ทำให้ไม่รู้สึกรกสายตาเมื่อเข้ามาค่ะ

พอเปิดประตูเข้ามา ทางโครงการได้ตกแต่งห้องไว้ค่อนข้างเรียบ สบายตา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน โดยระยะห่างจากพื้นถึงฝ้าสูง 2.50 เมตร และภายในห้องจะใช้ไฟแบบ Down light  ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นเข้าไปอีก

ประตูเป็นไม้อัดค่ะ กลอนก้านโยกค่อนข้างแข็งแรงทีเดียว และใช้คีย์การ์ดในการเปิดประตูค่ะ

พอเปิดประตูปุ๊ป ทางขวามือจะเจอกับชุดครัว ที่ทางโครงการแถมมาให้ก่อนเลยค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้เลย ติดกันเป็นโต๊ะกินข้าว โดยเพดานตรงห้องครัวจะมีการดรอปฝ้าลงมาเพื่อติดตั้งแอร์แบบ Conceal (แอร์ซ่อนในฝ้า) จึงทำให้ตรงห้องครัวเหลือระยะห่างจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 2.30 เมตรค่ะ

ชุดครัวของทางโครงการทำจากหินเทียมสีขาว ดูสะอาดตา แถมยังเช็ดล้างทำความสะอาดง่าย ที่เก็บของค่อนข้างเยอะ โดยมีช่องใส่ไมโครเวฟอยู่ด้านบน ถึงจะไม่สูงมาก แต่อาจจะลำบากนิดนึง เวลายกอาหารค่ะ

ชั้นใส่ของเป็นแบบ Soft Close

ซิงค์ล้างจานเป็นหินเทียม ซึ่งต่างจากคอนโดส่วนใหญ่ที่จะเป็นสแตนเลสค่ะ

ช่องระบายน้ำเป็นแบบตะแกรง ป้องกันเศษอาหารหล่นไปอุดตันท่อค่ะ

ชุดครัวเป็นของ Silestone by  Cosentino

เตาที่แถมมาให้ เป็นเตาไฟฟ้าขนาด 2 เตาค่ะ

ด้านบนติดตั้งที่ดูดควันมาให้ เป็นระบบดูดควันออกไปนอกอาคาร เวลาใช้ให้ดึงออกมาได้เลย

สำหรับช่องวางตู้เย็น วางได้สูงสุดขนาด 9.7 คิว

หน้าตาสวิทซ์ค่ะ

หน้าตาปลั๊กไฟเป็นแบบมาตรฐาน โดยจะมีปลั๊กไฟกระจายอยู่ตามมุมต่างๆ ทั่วทั้งห้อง ไม่ว่าจะเป็นตรงห้องครัว ข้างโต๊ะกินข้าว หลังโซฟา หัวเตียง ปลายเตียง แม้กระทั้งในห้องน้ำค่ะ

ส่วนของห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับครัว ทางโครงการตกแต่งด้วยพื้นไม้สีอ่อน เพื่อให้ห้องดูกว้าง และมีประตูกระจกแบบบานเลื่อน เปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้

สำหรับห้องนั่งเล่น ทางโครงการได้แต่งไว้แบบเรียบง่าย มีกลิ่นอายวินเทจผสมอยู่ ให้บรรยากาศเหมือนเรากำลังนั่งดูหนังอยู่บ้านค่ะ

ด้านบนติดตั้งที่ดักจับควัน เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ค่ะ

ประตูระเบียงเป็นแบบบานเลื่อนเต็มบาน กรอบอลูมิเนียม

หน้าตาที่ล็อกบานเลื่อนค่ะ

ราวกันตกเป็นเหล็กซี่  มีช่องห่างระหว่างซี่เล็กน้อย สูงประมาณ 1.20 เมตร ถือว่าปลอดภัยในระดับหนึ่ง ส่วนพื้นระเบียงที่เห็นช่องว่างๆ นั้น ไม่ใช่ว่าทางโครงการก่อไม่ดี กระเบื้องไม่พอนะคะ แต่เขาทำไว้สำหรับเวลาน้ำระบายไม่ทัน น้ำก็จะไหลผ่านช่องนี้ได้นั้นเอง

สำหรับคอมฯ แอร์ทั้งสองตัวจะตั้งอยู่ตรงระเบียง ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ ห้องเก็บคอมฯ แอร์จะทำเป็นตะแกรงเอียงออกไปทางนอกระเบียง เพื่อช่วยผลักลมร้อนออกไปนอกอาคารค่ะ โดยทางโครงการจะทำรูปแบบนี้เหมือนกันทุกห้อง

ห้องเก็บคอมฯ แอร์เป็นบานเปิด-ปิด มีแม่เหล็กยึด ไม่เปิดอ้า เกะกะแน่นอน

คราวนี้มาดูบรรยากาศในห้องนอนบ้างดีกว่า ซึ่งทางโครงการก็ยังคงคอนเซปเรียบๆ สบายตาไว้เช่นเคย โดยภายในห้องนอนจะมีประตูเชื่อมไปยังห้องน้ำของนอกได้ค่ะ

พื้นห้องนอนปูด้วยพื้นไม้ ไฟในห้องนอนเป็นไฟ Down light สีส้ม เหมาะแก่การนอนอย่างยิ่ง

ภาพห้องนอนจากฝั่งห้องน้ำค่ะ

ภาพห้องนอนโดยรวมค่ะ

ในห้องนอน ทางโครงการจะติดตั้งแอร์ติดผนังของ Trane ให้

ด้านริมห้อง ข้างเตียง ทางโครงการได้ตกแต่งให้เป็นโซนทำงานค่ะ หันหน้าไปทางหน้าต่าง

หน้าตาบานเลื่อนค่ะ  สามารถเลื่อนเปิดเพื่อระบายอากาศได้

ส่วนปลายเตียงมีกระจกบานเลื่อนแบบเปิดโล่งทั้งบาน กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นค่ะ ถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อาจหาผ้าม่านมาติดไว้อีกชั้นก็ได้

กลอนเป็นแบบหมุน ล็อกจากด้านในห้องนอนค่ะ

มีปลั๊กไฟตรงหัวเตียง

บนเพดานได้ติดสัญญาณกันไฟไหม้ไว้

สำหรับห้องน้ำ จะมีทางเข้า 2 ทางค่ะ โดยทางเข้าจากห้องนอนเป็นประตูแบบบานเลื่อน ซึ่งจะค่อนข้างชำรุดง่ายกว่าแบบบานผลักค่ะ ส่วนทางเข้าจากทางห้องครัวจะเป็นแบบบานผลัก ประตูห้องน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ทำด้วยไม้อัด เมื่อโดนน้ำอาจทำให้ประตูบวมได้

หน้าตาที่ล็อกประตูแบบบานเลื่อนค่ะ

ฝักบัวระบบ rain shower ค่ะ

ฝักบัวหน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

ที่ปรับระดับน้ำค่ะ

มีที่นั่งอาบน้ำมาให้นั่งขัดตัวด้วยค่ะ

มีการกั้นโซนอาบน้ำกับโซนห้องน้ำอย่างชัดเจน ซึ่งตรงโซนอาบน้ำจะทำเป็นห้องกระจกเปิด-ปิดได้ค่ะ ส่วนธรณีสูงจากพื้นขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น

มาที่ชักโครกกันบ้าง ทางโครงการเลือกใช้เป็นชักโครกแบบกด ที่มาพร้อมกับสายยางแบบฉีด หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

สำหรับอ่างล้างหน้าจะตั้งอยู่ด้านหน้าชักโครก นั่งไปส่องกระจกไป โดยทางโครงการได้ใช้สุขภัณฑ์ของ I – spa ค่ะ

หน้าตาก๊อกน้ำค่ะ

ช่องระบายน้ำในอ่างล้างหน้าจะเป็นแบบนี้ค่ะ อาจระบายน้ำได้ช้านิดนึง

และพอเราก้มไปใต้อ่างล้างหน้า เราก็จะเจอกับเครื่องทำน้ำร้อนค่ะ แล้วอย่าลืมติดตั้งสายดินเพื่อความปลอดภัยกันด้วยนะคะ

เนี้ย! ขนาดในห้องน้ำยังมีปลั๊กไฟให้เลยค่ะ แต่จะมีที่ครอบปลั๊กไฟติดมาด้วย เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นใส่ แต่ทางดีก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในห้องน้ำจะดีกว่านะคะ

ธรณีประตูไม่สูงมาก อาจทำให้น้ำเปียกไปยังห้องนอนได้ง่ายค่ะ

ธรณีประตูจากฝั่งห้องห้องน้ำค่ะ

ห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน ขนาด 67.20 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 67.20 ตารางเมตร

ภาพรวมของห้องค่ะ ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบไว้เป็นแบบโมเดิร์น เรียบๆ แต่ให้อารมณ์ดูหรูกว่าห้องแรก เนื่องจากทางโครงการได้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีเข้มในการตกแต่ง แล้วปูพื้นด้วยกระเบื้องเงา

พอเปิดประตูเข้ามาเราก็จะเจอครัวอยู่ขวามือ เช่นเดียวกับแบบ 1 ห้องนอนเลยค่ะ แต่จะต่างกันตรงที่ซ้ายมือเรา จะมีช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ให้ด้วย

ประตูเป็นกลอนก้านโยกอย่างหนา เปิดด้วยระบบคีย์การ์ดค่ะ

มีช่องส่องตาแมว

หน้าตาสวิทซ์ไฟค่ะ

หน้าตาปลั๊กไฟ เป็นแบบมาตรฐาน อยู่ตามส่วนต่างๆ ของห้อง ส่วนตรงนี้จะเป็นที่วางทีวี จึงมีปลั๊กสัญญาณให้ด้วย

ชุดครัวไม่ค่อยแตกต่างจากห้องแรกมากนักค่ะ แค่จะเปลี่ยนชุดครัวเป็นโทนสีเข้มกว่าเพื่อให้เข้ากับคอนเซปห้อง และเตาไฟฟ้าที่ให้ก็จะเป็นแบบ 4 เตา มีปลั๊กไฟให้เช่นกัน

ซิงค์ล้างจานยังเป็นหินเทียมเช่นเดียวกับห้องแรก

สำหรับช่องใส่ไมโครเวฟจะย้ายลงมาอยู่ด้านล่าง เวลาใช้งานอาจต้องก้มนิดนึง แต่เวลายกอาหารจะปลอดภัยกว่าอยู่ด้านบนค่ะ

ช่องใส่ตู้เย็น ใส่ได้สูงสุดขนาด 11.4 คิว

ส่วนตรงนี้เป็นช่องใส่เครื่องซักผ้าค่ะ มีก๊อกน้ำมาให้เรียบร้อย

พร้อมกับระบบท่อน้ำค่ะ

ภาพห้องนั่งเล่นจากฝั่งระเบียง จะเห็นว่าแอร์ที่ติดตั้งในห้องนั่งเล่นเป็นแบบฝังซ่อนในฝ้าเหมือนกับห้องแรก

ตรงห้องนั่งเล่นมีระเบียงเปิดออกไปได้ โดยจะมีผ้าม่านไว้บังแสงแดดอย่างนี้

ราวกันตกเป็นเหล็กซี่สูงประมาณ 1.20 เมตร

ตรงระเบียบมีก๊อกน้ำให้ใช้ค่ะ

ส่วนพื้นระเบียงก็มีช่องระบายน้ำเหมือนกับห้องแรก

มาชมห้องนอน ห้องแรกกันเลย โดยทางโครงการจะตกแต่งด้วยโทนสีขาวออกครีม ทำให้ห้องดูสะอาดตา ไม่อึกอัด

ที่พิเศษของห้องนี้คือจะมีระเบียงส่วนตัวเล็กๆ ให้นั้นเอง

ภาพจากอีกฝั่งระเบียง จะเห็นประตูเชื่อมกับห้องน้ำของนอก

ประตูห้องนอนเป็นแบบกลอนก้านโยก แข็งแรงดีค่ะ

มีปลั๊กไฟอยู่ตามหัวเตียงและปลายเตียง

สำหรับห้องน้ำที่ติดห้องนี้ จะมีทางเข้า 2 ทาง ทางหนึ่งจากในห้องนอน ส่วนอีกทางจะติดกับห้องครัวด้านนอกค่ะ

โดยรูปแบบห้องน้ำจะคล้ายกับของห้องแรก เครื่องสุขภัณฑ์ก็มีหน้าตาแบบนี้เลย

ระบบน้ำมี 2 ระบบคือทั้งระบบ rain shower และ hand shower แต่ภายในจะไม่มีที่นั่งอาบน้ำมาให้

ชักโครกเป็นแบบกดที่มาพร้อมกับที่ฉีดน้ำ

ตรงอ่างล้างหน้ามีปลั๊กไฟให้

ธรณีไม่สูงมาก

ข้ามมาห้องนอนห้องที่ 2 กันบ้าง นี่เป็นภาพรวมของห้องค่ะ ตรงมุมห้องจะเป็นโซนแต่งตัวลึกเข้าไป มีตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านใน แถมมีห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งรูปแบบห้องน้ำไม่แตกต่างจากห้องน้ำห้องแรกเลยค่ะ

ห้องนี้ทางโครงการจะตกแต่งโดยเน้นโทนสีขาวอมเทา พื้นไม้ มีแอร์ติดผนังให้ คล้ายๆ กับห้องแรก แต่ห้องนี้ไม่มีระเบียงนะคะ จะเป็นบานกระจกแทน

บานกระจกทั้งบานเลยค่ะ ไว้ชมวิวด้านนอกได้

ภาพจากอีกฝั่ง จะเห็นโซนแต่งตัวแบบ walk in มีตู้เสื้อผ้าอยู่ติดผนังค่ะ

3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 120.01 ตารางเมตร

ภาพรวมห้อง Duplex ชั้นล่างค่ะ ทางโครงการตกแต่งไว้เรียบหรูหราทีเดียว โดยห้องนี้จะสามารถเข้าออกได้ทั้งสองชั้น

ห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลางห้อง ซึ่งทางโครงการจะเลือกใช้โซฟาหนังสีน้ำตาลครีมในการตกแต่ง เช็ดทำความสะอาดง่าย ส่วนเพดานมีการดรอปฝ้าเพื่อติดตั้งแอร์แบบซ่อนฝ้าเช่นเดียวกับสองห้องที่ผ่านมาค่ะ

ตรงห้องนั่งเล่นจะเป็นเพดานยกสูงไปยังชั้นบนค่ะ

ในส่วนห้องครัวกับโต๊ะกินข้าวจะอยู่ด้านหลังห้องนั่งเล่นอีกที และผนังห้องส่วนใหญ่จะทำเป็นกระจกเปิดโล่งทั้งหมด ช่วยทำให้ห้องดูกว้าง ดูสว่าง และดูหรูขึ้นค่ะ

ทางโครงการได้ตกแต่งด้วยชุดครัวลายไม้สีเข้มตัดกับผนังสีขาว top ด้วยหินเทียมเช่นเดิม สร้างความโดดเด่นให้กับชุดครัวได้อย่างลงตัวทีเดียว

สำหรับช่องใส่ไมโครเวฟจะอยู่ด้านล่างติดกับช่องใส่เครื่องซักเครื่อง ระหว่างรอซักผ้า ก็ทำอาหารกันไป ส่วนเตาไฟฟ้าที่ทางโครงการให้มา จะเป็นเตาไฟฟ้าขนาด 4 เตาค่ะ

ชั้นด้านบนได้ซ่อนคัตเอาท์เอาไว้

ที่นั่งแบ่งโซนระหว่างห้องนั่งเล่นกับโต๊ะกินข้าวค่ะ

ถ้ามองจากทางห้องนั่งเล่นก็จะเห็นโต๊ะกินข้าวแบบนี้ค่ะ

เดินเข้ามาดูห้องนอนชั้นล่างกันต่อเลยค่ะ ซึ่งทางโครงการก็ยังคงตกแต่ง ในรูปแบบที่เน้นความสบายตา  ด้านหนึ่งของห้องเป็นประตูกระจก เลื่อนเปิดได้ค่ะ

ภายในห้องนอน ทางโครงการก็ตกแต่งโดยการเพิ่มชั้นด้านบน ชั้นตรงปลายเตียง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้เยอะขึ้น ส่วนแอร์ในห้องนอนเป็นแบบติดผนังค่ะ

ภาพห้องนอนจากฝั่งห้องน้ำค่ะ

รูปแบบห้องน้ำชั้นล่างจะเหมือนกับของสองห้องที่ผ่านมา คือมีทางเข้าออก 2 ทาง เข้าจากทางห้องนอนและจากห้องนั่งเล่นข้างนอกค่ะ ระบบน้ำมีทั้ง ระบบ rain shower และ hand shower เช่นกัน

สำหรับเครื่องสุขภัณฑ์ที่ทางโครงการแถมให้ จะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ซึ่งเหมือนกับแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ทุกประการ

คราวนี้เดินขึ้นไปดูชั้นบนกันค่ะ ทางขึ้นไปยังชั้นบนจะเป็นบันไดไม้ ราวจับสเตนเลสแบบนี้ค่ะ

แต่พอหันไปทางซ้ายมือของบันไดก็จะเจอกับห้องแฮรี่ พอตเตอร์ เอ้ย! ห้องเก็บของใต้บันไดด้วยค่ะ

หน้าทางเข้าชั้นบน ติดไฟดวงเล็กๆ ไว้เพื่อความปลอดภัย

ประตูบานเลื่อนตรงทางเข้าชั้นบนค่ะ

เมื่อเราเดินไปฝั่งห้องนอนชั้นบน เราจะเจอกับที่นั่งเล็กๆ เอาไว้นั่งเสียบปลั๊กเล่นโทรศัพท์ชิวๆ

และถ้ามองจากตรงนี้จะเห็นเข้าไปถึงห้องนอนด้านในเลย แนะนำสำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ให้หาผ้าม่านมาติดไว้ก็ได้ค่ะ

ส่วนอีกด้านเป็นกระจก มองลงไปข้างล่างได้ค่ะ

บนเพดาน ทางโครงการได้ตกแต่งด้วยโคมไฟระหยา

ห้องนอนชั้นบน ทางโครงการตกแต่งโดยเน้นสีเอิร์ธโทน ขาว-เทา ให้ลุคความเป็นผู้ใหญ่ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ภายในจะเป็นโทนดำ พื้นไม้สีเข้มค่ะ

สำหรับห้องนี้ เป็นเตียงใหญ่ขนาดประมาณ 6 ฟุต เพิ่มความหรูด้วยหัวเตียงบุหนัง เพื่อไม่ให้ห้องดูเรียบจนเกินไป

ภาพห้องอีกฝั่งหนึ่งค่ะ จะเห็นกระจกบานเลื่อนอยู่ตรงปลายเตียง และมีระเบียงส่วนตัวเล็กๆ ให้เดินออกไปรับลม

ราวกันตกเป็นแบบบานกระจก ต่างจากสองห้องที่ผ่านมาค่ะ

ภาพจากฝั่งระเบียงค่ะ แอร์เป็นแบบติดผนัง ส่วนประตูที่เราเห็นในภาพนั้น คือประตูห้องที่เปิดเข้ามาได้จากชั้นบน (อย่างที่บอกว่าห้อง Duplex สามารถเข้าได้ 2 ทางค่ะ)

มาฝั่งห้องทำงานกันบ้าง ซึ่งความจริงแล้วห้องนี้คือห้องนอนขนาดเล็กค่ะ แต่ทางโครงการได้ทำการดัดแปลงให้เป็นห้องทำงานแทน เป็นอีกไอเดียการตกแต่งห้องที่น่าสนใจค่ะ

ทางโครงการได้ตกแต่งโดยนำโต๊ะทำงานขนาดเล็กมาตั้งไว้ หันหน้าเข้าหน้าต่าง ส่วนแอร์ของทางโครงการจะเป็นแบบติดผนัง ติดไว้ตรงฝั่งห้องน้ำค่ะ

ห้องนี้จะมีห้องน้ำส่วนตัวด้านใน ส่วนอีกฝั่งเป็นกระจกบานใหญ่ ไว้รับแสงอาทิตย์ยามเช้า

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ Downtown Forty Nine

สำหรับโซนสุขุมวิท ถือว่าเป็นย่านเศรษฐกิจ แหล่งของกินและคอมมูนิตี้มากมาย สามารถเลาะลัดไปได้หลายทาง ช่วงกลางวันจึงคึกคัก มีรถวิ่งเข้าออกตลอดเวลา แต่เนื่องจากที่ตั้งโครงการ Downtown 49 เป็นซอยย่อยจากถนนสายหลัก ทำให้ตอนกลางคืนจะค่อนข้างเปลี่ยว และการเดินทางอาจลำบากนิดนึง สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวค่ะ งั้นเราลองไปดูรอบๆ โครงการกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

บริษัท have a good dream

เมื่อเดินเลี้ยวขวาไปประมาณ 350 เมตร จากโครงการก็จะเจอที่ตั้งบริษัท have a good dream ค่ะ

โรงพยาบาลสมิติเวช

ออกจากโครงการเดินไปทางซ้ายมือ แล้วเดินไปตามทางเรื่อยๆ ประมาณ 850 เมตร ก็จะเจอโรงพยาบาลสมิติเวชแล้วค่ะ ไม่ไกลเลยใช่ไหม อ่อ! แถวโรงพาบาลยังมีร้านอาหารเยอะแยะเลยค่ะ ทั้งร้าน ka-nom ร้านโอเค ชาบู ชาบู

 ร้านอาหารต้นเครื่อง

ร้านอาหารต้นเครื่องค่ะ มีป้ายเด่นสะดุดเลย ไปทางเดียวกับโรงพยาบาลสมิติเวชนะคะ แต่จะถึงก่อน

  J Avenue

(ที่มา http://www.siamfuture.com/en/projects?pro_id=j_avenue)

นั่งรถไปไม่นาน ก็จะเจอ J Avenue คอมมูนิตี้ มอลล์ ที่รวบรวมร้านค้าไว้มากมาย ให้เราเดิน  ช็อป ชม ชิว กันได้ค่ะ

 Market place ทองหล่อ

(ที่มา http://www.bangkokpost.com/lifestyle/shops%20&%20markets/26163/market-place-thonglor-thonglor-town-center-)

เลย J Avenue มานิดนึงก็เป็น Market place ทองหล่อค่ะ

The Emporium

(ที่มา http://www.theemdistrict.com/info-emporium.php)

ถ้าเราลัดเลาะ ซ่อกแซกไปตามซอย เราก็จะไปโผล่ที่ The Emporium ได้ค่ะ และตรงนั้นก็เป็นที่ตั้งของ BST สถานีพร้อมพงษ์ด้วย

The EmQuartier

(ที่มา http://www.khajochi.com/2015/03/review-the-emquartier.html)

ตรงกันข้าม The Emporium ก็ The EmQuartier ค่ะ เลือกได้เลยว่าจะไปเดินเล่นที่ไหนดี

วิเคราะห์โครงการ Downtown Forty Nine

ทำเล : อยู่ในย่านเศรษฐกิจ มีเส้นทางเข้าออกได้หลายทาง แต่เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในซอยย่อย ห่างจากถนนสายหลัก เข้ามาลึกพอสมควร ทำให้คนที่ไม่มีรถส่วนตัวเดินทางลำบากนิดนึง

สภาพล้อมแวดล้อม : บริเวณโดยรอบโครงการเป็นย่านของกิน ห้างสรรพสินค้า และแหล่งคอมมูนิตี้ต่างๆ ทำให้ด้านนอกมีรถวิ่งเข้าออกตลอดเวลาทั้งวัน แต่เมื่อเข้ามายังในซอยที่ตั้งโครงการค่อนข้างเงียบ ตอนกลางคืนจะค่อนข้างเปลี่ยว แต่ด้านหน้าโครงการจะมีพี่ๆ รปภ. คอยรักษาความปลอดภัย 24 ชม.

แบบห้อง : มีความหลากหลายค่ะ ถึงแต่ละห้องจะมีแปลนคล้ายๆ กัน แต่การตกแต่งไม่เหมือนกันนะคะ เราสามารถเลือกแบบได้ตามความชอบเลย

สิ่งอำนวยความสะดวก : ค่อนข้างเยอะตามแบบคอนโดมิเนียมทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้บริการส่วนกลางค่ะ และที่นี่ยังมีรถรับส่งไว้คอยบริการด้วย

ราคา : หากเทียบกับคอนโดมิเนียมย่านนี้ ถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้ค่ะ

โครงการ Downtown Forty Nine เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หรือคนที่ทำงานอยู่ในละแวกสุขุมวิท ทองหล่อค่ะ เพราะถึงแม้ที่นี่จะไม่ได้ติดกับถนนสายหลัก แต่ก็ไม่ได้ยากลำบากมากนัก สำหรับการเดินทางออกไปถนนใหญ่ เนื่องจากสามารถเข้าออกได้หลายทาง ทะลุไปยังซอยต่างๆ ได้หมดค่ะ ทำให้การเดินทางด้วยรถจะสะดวกกว่า เพราะถ้าเดินเข้ามา อาจเรียกเหงื่อได้เยอะทีเดียวค่ะ