[Review] รีวิว เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) - คอนโดมิเนียมสุดหรู บนทำเลย่านฝั่งธนฯ สัมผัสวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้าสายอนาคต

สวัสดีค่ะ ในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาเยี่ยมชม คอนโดมิเนียม High rise สูง 25 ชั้น ในฝั่งธนบุรี แถวสี่แยกบางพลัดกับสะพานกรุงธนบุรี อย่าง เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ดิเวลลอปเปอร์ค่ายดังของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่กระโดดมาจับที่ดินในย่านบางพลัด ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาสูงพอสมควร
ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนราชวิถี ด้านหน้าโครงการติดถนนใหญ่ ทำให้เดินทางง่าย นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอีกอย่างที่น่าสนใจก็คือ เป็นคอนโดที่มองเห็นวิวเเม่น้ำเจ้าพระยา วิวสวยด้วย เดินทางสะดวกด้วยแบบนี้ ทาง Estopolis ของเราจึงอดไม่ได้ที่จะไปรีวิวคอนโดนี้มาให้ทุกท่านได้ชมกันค่ะ

ราคาเมื่อวันที่ 8/2/2017
1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. เริ่มต้น 2.9 ล้านบาท
2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 47-47.5 ตร.ม. เริ่มต้น 5 ล้านบาท
2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 64.5 ตร.ม. เริ่มต้น 6.8 ล้านบาท
โปรโมชันในวันที่ 8/2/2017
ลด 100,000 บาททุกห้อง

เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)
ชื่อโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)
ที่ตั้งโครงการ ถนนราชวิถี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700
ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)

โครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) ตั้งอยู่บนทำเลฝั่งธนบุรี ย่านบางพลัด ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถานที่ราชการ และชุมชนดั้งเดิม พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านเรือนในแนวราบ แต่ก็มีตึกสูงและความเจริญแฝงอยู่ให้เห็น ทำเลย่านนี้จึงเป็นทำเลอีกแห่งหนึ่งที่มีเสน่ห์ เป็นส่วนผสมของยุคสมัยที่มีทั้งเก่าและใหม่ แต่มีความเข้ากันได้อย่างลงตัว

แผนที่จากโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) ตั้งอยู่บนถนนราชวิถี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สายอนาคตสถานี สิรินธร เพียง 100 เมตร

สำหรับใครที่ใช้รถใช้ถนนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเลือกซื้อคอนโด Urbano Rajavithi ก็ถือว่า ตอบโจทย์ในด้านการเดินทางได้ดีค่ะ เพราะตัวโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) ตั้งอยู่บนถนนราชวิถี เลยจากสะพานกรุงธนบุรีมาไม่ไกลค่ะ ซึ่งถนนราชวิถีเป็นถนนเส้นสำคัญเส้นหนึ่งของฝั่งธนบุรี เป็นถนนที่เชื่อมต่อถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิลากยาวต่อเนื่องไปถึงถนนได้อีกหลายสายด้วยกัน หรือใครที่อยากจะเลี่ยงรถติด ตอนนี้ก็มีการเปิดใช้ทางด่วนศรีรัช บริเวณแยกยมราช โดยจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางขึ้น-ลงบางบำหรุ

ส่วนทางฝั่งขาออกเมืองก็เชื่อมต่อถนนอีกหลากหลายสายไม่ว่าจะเป็นถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนสิรินธร ถนนบรมราชชนนี หรือแม้กระทั่งใช้เส้นถนนพระราม 7 วิ่งต่อไปถึงถนวิภาวดี-รังสิต มุ่งหน้าสู่จังหวัดปทุมธานี ก็เชื่อมต่อไปถึงได้ง่ายๆ ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนก็อาจจะใช้เวลาเดินทางอยู่สักหน่อย เพราะตอนนี้ถนนฝั่งขาออกเมืองกำลังอยู่ระหว่างการสร้างสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แต่ถ้าเป็นชั่วโมงปกติก็ใช้เวลาเพียงไม่นานเลยค่ะ

สำหรับใครที่หวังพึ่งพารถไฟฟ้าก็คงต้องอดใจรอกันหน่อย เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็น รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย สถานีสิรินธร ห่างจากโครงการไปประมาณ 100 เมตรก็ถึงค่ะ ถ้าใครอาศัยอยู่แถวนั้นอยู่แล้ว หรือทำงานในย่านฝั่งธนบุรี การเลือกซื้อคอนโดที่ใกล้กับรถไฟฟ้าขนาดนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยนะคะ
แล้วช่วงที่กำลังรอรถไฟฟ้าจะใช้อะไรในการเดินทางได้บ้าง ?
ถึงแม้จะเป็นฝั่งธนบุรีก็มีรถโดยสารมากมายวิ่งผ่านค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารประจำทาง รถแท็กซี่ รถสามล้อ หรือถ้าเดินทางใกล้ๆ เรียกใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์แถวๆ นั้นก็สะดวกดีเหมือนกันนะคะ แต่ถ้าใครทำงานอยู่ย่านศิริราช หรืออยู่ใกล้กับท่าเรือ การเลี่ยงเส้นทางรถติด ไปใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าเรือสะพานกรุงธนบุรี ระยะทางไปก็แค่ 600 เมตรก็ช่วยประหยัดเวลาได้ดีอีกเช่นกัน

การเดินทางไปยังคอนโด เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)

สำหรับการเดินทางในวันนี้จะขอเริ่มต้นแถวถนนวิภาวดีรังสิต ตัดเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก ต่อไปก็วิ่งเข้าไปยังเส้นพระราม 7 และมุ่งหน้าเข้าบางพลัด เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชวิถี จากนั้นขับตรงไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็จะถึงสำนักงานขายของโครงการแล้วค่ะ

ขับรถชิลๆ กันไปบนเส้นถนนวิภาวดี-รังสิต วิ่งไปตามป้ายท่าอากาศย่านดอนเมืองเลยนะคะ

แนะนำให้เบี่ยงขับเข้าเลนนอกนะคะ รถจะติดน้อยกว่า

ขับไปเรื่อยๆ ตามป้ายท่าอากาศยานดอนเมืองไปเลยค่ะ

ขับมาสักพักจะเจอทางเบี่ยงออกเลนใน มุ่งหน้าไปยังถนนกาญจนาภิเษก

ขับเบี่ยงออกมาจะเจอกับป้ายสะพานประชาชื่นให้ขับตามป้าย ขึ้นสะพานไป เพื่อขับมาลงที่ถนนรัชดาภิเษกค่ะ

ลงมายังถนนรัชดาภิเษกแล้วให้ขับตามป้ายสะพานพระราม 7 ต่อเลยค่ะ

ขับขึ้นสะพานมาเลยค่ะ

ลงมาแล้วให้ขับตามป้ายจรัญสนิทวงศ์

ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเริ่มเห็นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้

เส้นนี้จะผ่านเทสโก้ โลตัส บางพลัดด้วยค่ะ

มุ่งหน้าตามป้ายสะพานกรุงธน ตลิ่งชันไปเลยค่ะ เมื่อเลี้ยวซ้ายตรงไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็จะเจอกับสำนักงานขายของโครงการแล้วค่ะ

ด้านหน้าจะมีท่อลม เลี้ยวเข้าไปจะเป็นที่จอดรถของทางโครงการ ส่วนด้านข้างจะเป็น site ก่อสร้างของคอนโดค่ะ

และแล้วเราก็มาถึงสำนักงานขายของโครงการกันแล้วค่ะ อยู่ติดกับถนนใหญ่ สังเกตเห็นได้ง่ายมากค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ Urbano ราชวิถี ยังคงความเป็นชุมชนดั้งเดิมไว้ได้ดีค่ะ ที่อยู่อาศัยรอบคอนโดจะเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านเรือนเเนวราบ ยังไม่มีอาคารสูงมาบดบังทิวทัศน์รอบด้าน ทำให้ทุกยูนิตของคอนโดสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตรได้ชัดเจนค่ะ

ส่วนด้านความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ค่อนข้างมีความโดดเด่นค่ะ สำหรับใครที่เบื่อการใช้ชีวิตในเมืองน่าจะชื่นชอบกัน เพราะพื้นที่บริเวณบางพลัดยังอนุรักษ์ความเก่าในแบบเก๋าๆ ไว้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าเเบบเก่าๆ ทั้งร้านขายของชำ ร้านขายหนังสือเก่า ตลาดนัดขายของสด หรือแม้กระทั่งร้านตัดเสื้อสูทแบบดั้งเดิมก็มีให้เห็นค่ะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่หาไม่ได้จากที่ไหน แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ความเก่า ความทันสมัยของ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี ก็มีให้เห็นอยู่โดยรอบค่ะ ส่วนห้างใหญ่ๆ ก็มีอยู่ใกกล้ๆ สามารถขับรถไปถึงได้โดยใช้เวลาไม่กี่นาที ไม่ว่าจะเป็นห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า พาต้าปิ่นเกล้า ใกล้หน่อยจะเป็นโลตัส บางพลัด ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการก็มีบิ๊กซี มินิ เปิดให้บริการอยู่ด้วยค่ะ

สำรวจสภาพแวดล้อมจริงกันเลยดีกว่าค่ะ เริ่มจากทางฝั่งซ้ายของสำนักงายขาย

ฝั่งซ้ายมือของทางคอนโด จะเป็นอาคารบ้านเรือนสูงประมาณ 2 ชั้น

ด้านล่างของอาคารจะเปิดเป็นร้านอาหารมากมาย ราคาย่อมเยาแบบคนกันเอง

ร้านตัดเสื้อ ตัดชุดสูทแบบดั้งเดิมยังมีให้เห็นอยู่ด้วยนะคะ

ใครเจ็บป่วยไม่สบายก็มีร้านขายยาเปิดอยู่ใกล้ๆ

ลักษณะการใช้ชีวิตของคนเเถวนี้ยังคงดูเรียบง่าย สงบ และแสดงออกถึงความเก่าเเก่ แต่มีเสน่ห์ของพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

ย้อนกลับมาทางโครงการนิดนึงจะมีทางม้าลายข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดกรุงธนค่ะ

เดินย้อนกลับมาทางฝั่งขวามือจะเป็น site ก่อสร้างของทางโครงการ

ด้านขวามือของพื้นที่ก่อสร้างจะเป็นอพาร์ทเมนต์สูงประมาณ 8 ชั้น อยู่ค่อนข้างติดกับโครงการค่ะ ห้องในชั้น 8 อาจจะโดนตึกนี้บังวิวบางส่วน แต่ถ้าพ้นชั้น 8 ไปก็สามารถมองเห็นวิวได้โดยรอบค่ะ

ติดกันเป็นปั๊ม LPG ค่ะ

เดินมาเรื่อยๆ จะเจอปั๊มน้ำมันอีกแห่ง และสะพานลอยค่ะ

เดี๋ยวเราจะพาข้ามสะพานลอยไปชมบรรยากาศของฝั่งตรงข้ามกันนะคะ

มุมมองจากบนสะพานลอย จะมองเห็นสะพานกรุงธนบุรีที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยค่ะ

ลงจากสะพานกรุงธนบุรีมาจะมีสะพานข้ามแยกบางพลัด สามารถขับตรงไปถึงตั้งฮั่วเส็ง บางกรวย หรือขับยาวตรงไปถนนบรมราชชนนีก็ได้ค่ะ

ข้ามมาอีกฝั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ ใกล้กับสะพานจะมีร้านอาหารชื่อ ร้านเรือนเเพ

ตรงมาอีกหน่อยจะมีร้านรวง เช่น ร้านค้า คาเฟ่ เปิดให้บริการอยู่มากมาย

ติดกับสะพานลอยจะมีป้ายรถโดยสารประจำทางอยู่ด้วย

ฝั่งนี้ดูจะคึกคักกว่าอีกฝั่งนะคะ ร้านรวงเปิดให้บริการอยู่ตลอดเส้นทางเลย

นอกจากร้านค้าเเล้วก็มีไปรษณีย์เปิดอยู่ใกล้ๆ

ตรงข้ามกับคอนโดจะเป็นโรงเรียน เขมะสิริอนุสรณ์ค่ะ

เลยมาอีกหน่อยจะเป็น big C Mini ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุด

รวบรวมภาพบรรยากาศของร้านค้าย่านบางพลัดมาฝากกันค่ะ

แบบแผงลอยตามฟุตบาทก็มีเหมือนกันค่ะ

แลนด์มาร์กอีกจุดของย่านนี้ คือ ตลาดกรุงธนตลาดเก่าแก่ที่เป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของสดของคนในพื้นที่

ด้านหน้าตลาดจะเต็มไปด้วยร้านแผงลอยที่เปิดขายผัก ผลไม้ หรืออาหารต่างๆ แต่ถ้าลองเดินเข้าไปในตัวตลาดจริงๆ แล้วจะเป็นแหล่งของวัตถุดิบสดๆ เหมาะสำหรับคนชอบทำอาหารทานเอง ไม่ต้องไปตลาดไหนไกลๆ มาที่ตลาดกรุงธนก็ได้วัตถุดิบกลับไปครบถ้วนแล้วค่ะ

เจาะลึกภาพรวมโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)

เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) คอนโดมิเนียมหรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ดิเวลลอปเปอร์ที่เรารู้จักกันดี ก็ถือว่าเป็นคอนโดจากดิเวลลอปเปอร์เจ้าใหญ่ที่เข้ามาเปิดทำเลในย่านฝั่งธนบุรี บริเวณแยกบางพลัดกับสะพานกรุงธนบุรี ใกล้กับเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีสิรินธร ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายอนาคตที่จะเปิดให้บริการประมาณ ปี 2562

ลักษณะของตัวอาคารเป็นสไตล์ที่ดูทันสมัย แต่อาจจะไม่ได้หวือหวามากเท่าไร การตกแต่งเน้นเป็นโทนสีเทา ด้วยคอนเซปต์ Revitalize Urban Living คัดสสรมาเพื่อที่สุดแห่งทัศนียภาพการใช้ชีวิตเเบบพาโนรามิก เติมวิถีชีวิตคนเมืองให้เต็มกับพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ผังอาคารของโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)

มาเริ่มต้นการเจาะลึกโครงการกันที่ Master plan ของคอนโด Urbano Rajavithi กันเลยนะคะ สำหรับคอนโด Urbano Rajavithi มีเนื้อที่ทั้งหมด 1-3-1.8 ไร่ โครงการมีทางเข้า-ออกทางเดียวติดอยู่กับถนนราชวิถี แต่พื้นที่เดินรถด้านล่างสามารถขับเข้าและออกจากลานจอดรถได้ถึง 2 ทาง โดยการขับวนรอบอาคารพักอาศัย ที่จอดรถในชั้นนี้มีประมาณ 14 คัน แต่ส่วนใหญ่จะให้จอดในชั้น 2-7 (ลานจอดรถสามารถรับรองรถได้ 50 % ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน)
สำหรับด้านในอาคารมีล็อบบี้ที่อยู่ติดกับห้อง Mail box ที่จัดเก็บแยกจดหมายไว้ให้เป็นสัดส่วน ตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้า ถัดไปเป็นห้องนิติบุคคล ส่วนโถงลิฟต์จะอยู่ทางซ้ายบนของแผนผัง มีให้ทั้งหมด 3 ตัว และมีลิฟต์ขนของให้อีก 1 ตัว เป็นแบบล็อกชั้น ด้านร้านค้าจะมีให้ทั้งหมด 2 ยูนิต แต่จะเเยกทางเข้า-ออกจากทางเข้าของโครงการ เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน เผื่อใครไปใครมาซื้อของร้านค้าจะได้ไม่เข้ามาวุ่นวายภายในคอนโด

กระโดดขึ้นมาดูชั้นที่อยู่อาศัยกํนบ้างนะคะ ชั้นอยู่อาศัยจะเริ่มในชั้นที่ 8-24 โดยในแต่ละชั้นของโครงการจะมีจำนวนห้องสูงสุดอยู่ที่ 19 ยูนิต/ชั้น ก็ถือว่าหนาแน่นพอสมควรนะคะ โดยที่ห้องส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนจะเป็นห้องมุมของแต่ละชั้นค่ะ โถงลิฟต์ของอาคารจะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ คนที่อาศัยอยู่ทางฝั่งตะวันออกอาจจะต้องเดินมาใช้บริการลิฟต์กันไกลอยู่สักหน่อยนะคะ แต่ห้องทุกห้องจะมีข้อดีอยู่จุดหนึ่งก็คือ เรื่องของวิว ซึ่งทุกห้องจะสามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในทุกยูนิต จึงเหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบวิวสวยอย่างวิวแม่น้ำเป็นพิเศษค่ะ

ผังห้องของ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)

ผังห้องเริ่มต้นที่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร มีให้เลือกหลายแบบตามทิศที่ตั้งของห้องค่ะ ห้องจะวางตัวในทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ สำหรับฟังก์ชันภายในห้องจะมี ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ซึ่งกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนสามตอน มีห้องครัวแบบระบบปิด ห้องน้ำ และที่พิเศาคือ มีระเบียงแยก 2 ส่วน เป็นระเบียงชมวิว และระเบียงซักล้างค่ะ

สำหรับห้อง 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ จะมีขนาดที่ 47-47.5 ตร.ม. แตกต่างทั้งรูปแบบห้อง และตำแหน่งในการจัดวาง โดยห้องในแบบ 2 A ซึ่งอยู่ใกล้กับโถงลิฟต์มากที่สุด แต่ก็มีข้อดีและข้อเสียนะคะ ข้อดีคือ ใกล้ลิฟต์ ออกจากห้องปั๊บก็เจอลิฟต์ปุ๊บ ไม่ต้องเดินไกลให้เสียเวลา

มาถึงห้องไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 64.5 ตร.ม. เป็นห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ได้วิวสวยเป็นวิวสะพานกรุงธนบุรีและวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา สวยความแตกต่างจากห้องแบบอื่นๆ คือขนาดห้องที่กว้างขึ้น สามารถจัดสรรพื้นที่ได้ง่ายกว่าห้องใน type อื่นๆ ด้วยค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางโครงการจัดไว้ให้จะอยู่ในชั้นดาดฟ้า จัดเป็น Roof top facilities เพื่อบรรยากาศที่ดี และสามารถมองเห็นวิวเเม่น้ำเจ้าพระยาได้จากมุมสูง โดยจะมีสระว่ายน้ำ, ห้องเอนกประสงค์, ฟิตเนสแบบลอยฟ้า, ห้องซาวน่า, บาร์ลอยฟ้า และสวนดาดฟ้าค่ะ

สระว่ายน้ำจะเป็นแบบ Infinity Edge ยาวประมาณ 20 เมตร กว้าง 10 เมตร ลึก 1.4 เมตร ระบบเกลือ ที่มองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้เเบบเต็มตา ปลดเปลื้องทุกความรู้สึกเหนื่อยล้า ชวนให้รู้สึกอยากออกกำลังกายด้วยบรรยากาศในมุมสูง

ห้องฟิตเนสในชั้น 25 พร้อมด้วยเครื่องออกกำลังกายแบบครบครัน นอกจากจะได้ออกำลังกายฟิตหุ่นให้ดูดีแล้ว ยังได้ชมวิวสวยๆ บรรยากาศดีของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย

บาร์ลอยฟ้า จุดนั่งสังสรรค์หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาตลอดทั้งวัน พร้อมกับชมภาพบรรยากาศของวิวในมุมสูงตามสไตล์คนเมือง

พื้นที่เอนกประสงค์สำหรับพบปะ สังสรรค์ หรือนั่งประชุมกัน

นอกจากในชั้น 25 แล้ว ในชั้นล่างยังมีส่วนของล็อบบี้ สำหรับรับรองทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้ที่มาเยี่ยมเยือน การตกแต่งเน้นในโทนสี เอิร์ธโทน แต่ยังคงความทันสมัยไว้ได้ดี

สำนักงานขายของโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)

ต่อไปเราจะพาเข้าไปเยี่ยมชมสำนักงานขายของคอนโด เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) กันนะคะ ตัวสำนักงานขายจะตั้งอยู่บนถนนราชวิถี จุดสังเกตคืออยู่เยื้องกับตลาดกรุงธน แค่ข้ามถนนมาก็เจอแล้วค่ะ

ส่วน site ของโครงการจะอยู่ด้านข้างของสำนักงานขาย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2562 นี้ค่ะ

ภายในสำนักงานขายตกแต่งดูหรูหราทันสมัย เน้นโทนสีดำและทองเป็นหลัก ภายในจะมีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ คอยให้บริการปรึกษา สามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลได้ค่ะ และโมเดลจำลองผังเมืองบริเวณรอบๆ โครงการให้ชมด้วย

จะสังเกตเห็นว่า พื้นที่รอบๆ คอนโด Urbano Rajavithi จะไม่ค่อยมีตึกสูง ส่วนใหญ่ยังเป็นชุมชนดั้งเดิม และที่อยู่อาศัยแนวราบ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องของการถูกบดบังวิวจากตึกสูง คอนโดจึงมีจุดเด่นอยู่ที่การมองเห็นวิวแม่น้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร

ติดกับโมเดลผังเมือง จะเป็นโมเดลของอาคาร Urbano Rajavithi ที่กำลังก่อนสร้างอยูในขณะนี้ค่ะ เดี๋ยวตามเข้าไปชมพร้อมๆ กันดีกว่าว่า หน้าตาและการจัดวางของตัวอาคารจะมีลักษณะยังไงบ้าง

โมเดลจำลองอาคาร Urbano Rajavithi สูง 25 ชั้น ตั้งอยู่ติดกับถนนราชวิถี ในชั้นที่ 1-7 ของอาคารจะเป็นพื้นที่ของลานจอดรถ และมีพื้นที่ส่วนกลางอย่างล็อบบี้ Mail box และร้านค้าอีก จำนวน 2 ยูนิต ส่วนชั้นที่ 8 - 24 จะเป็นพื้นที่พักอาศัย โดยมีห้องให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนแต่มีอยู่หลายขนาดเลยค่ะ และในส่วนชั้นที่ 25 จะเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางหนกอย่าง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องเอนกประสงค์ สวนดาดฟ้า และบาร์ลอฟ้า ค่ะ

ทางเข้า - ออกของโครงการมีให้ทางเดียวค่ะ แต่สามารถวนรถได้ 2 ทางตามทิศของลูกศรในภาพ ด้านหน้าอาคารจะมีจุด drop off เข้าไปจะเจอกับล็อบบี้ และที่อยู่ติดกับจุด drop off จะเป็นร้านค้าจำนวน 2 ยูนิต ซึ่งเเยกทางเข้า-ออกกับทางเข้าของโครงการไว้ชัดเจน

ลักษณะของพื้นที่จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันด้านยาวขนานไปกับถนนด้านหน้าของโครงการ ทางด้านซ้ายมือของโครงการจะอยู่ติดกับอาคารสูงประมาณ 8 ชั้น ส่วนขวามือจะมีพื้นที่สวนหย่อมเล็กๆ ที่ทำไว้ให้เดินเล่น

ด้านล่างสุดจะมีพื้นที่จอดรถอยู่ประมาณ 14 คัน นอกนั้นจะจอดในอาคารจอดตั้งแต่ชั้นที่ 1-7 คิดเป็น 50% ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน

คอนโด Urbano Rajavithi มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 323 ยูนิต วางตัวในทิศตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับการวางผังห้อง ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร ส่วนในห้องมุมของอาคารจะจัดเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งมี 2 แบบ คือขนาด 47-47.5 ตร.ม. แบ่งเป็น type 2A 2B และ 2C และห้องขนาดใหญ่ที่สุดจะเป็นแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 64.5 ตร.ม. เป็นห้องมุมที่หันไปทางทิศใต้ มองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดีที่สุดค่ะ

สำหรับชั้นที่ 25 จะเป็น Facilities หลักของทางโครงการค่ะจะมี ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องเอนกประสงค์ หรือ cubic hub รวมถึงสวนดาดฟ้าทางด้านบน

หันมาอีกฝั่งจะเป็นบาร์ลอยฟ้ากับสวนดาดฟ้าอีกจุด ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะมองเห็นวิวสวยๆ โดยรอบของฝั่งธนบุรี รวมไปถึงเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน

และในส่วนต่อไปที่เราจะพาไปชมก็คือ ห้องตัวอย่าง ซึ่งคอนโด เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) จัดเตรียมห้องตัวอย่างไว้ให้ชมทั้งหมด 2 ห้อง คือ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน ขนาด 47.50 ตารางเมตร ทางคอนโดขายแบบ Fully fitted จะให้เพียงชุดครัว เเอร์ ชุดสุขภัณฑ์ และวอลเปเปอร์ ห้องจะเป็นยังไงตามมาดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร

ห้องแรกเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร ซึ่งเป็นแบบห้องที่มีมากที่สุดขอทางโครงการค่ะ ห้องใน type นี้เหมาะกับคนชอบปาร์ตี้ มีแขกมาเยี่ยมเยียนห้องอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นห้องที่เน้นพื้นที่ส่วนของ living area (ห้องนั่งเล่น) มากกว่าส่วนอื่นๆ ฟังก์ชันภายในห้องจะเเบ่งออกเป็นส่วนพักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่น ห้องนอนและระเบียงชมวิว (ฝั่งซ้ายมือ) และส่วนของงานระบบอย่าง ห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงสำหรับซักล้างไว้ชัดเจน ภาพรวมของแผนผังภายในห้องจัดวางมาได้ค่อนข้างดีค่ะ แต่อาจจะต้องเสริมในเรื่องของการวางเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in เข้าไปอีกหน่อย ก็จะทำให้พื้นที่ภายในห้องดูกว้าง และใช้งานได้ครบครันมากขึ้น

เริ่มต้นกันที่ด้านหน้าประตูทางเข้ากันเลยนะคะ ทางเข้าห้องจะยกธรณีสูงจากโถงทางเดินด้านนอก ประมาณ 3 ซม. เพื่อป้องกันฝุ่นผง และสิ่งสกปรกจากภายนอกปลิวเข้ามาภายในห้อง พร้อมกับทำตัวจบเก็บงานมาให้เรียบร้อยดีค่ะ ส่วนพื้นภายในห้องจะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต สีเป็นเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ชมภาพรวมของห้องกันสักนิด ทางคอนโดเน้นพื้นที่ส่วนของห้องนั่งเล่นเป็นพิเศษ เมื่อเดินเข้ามาจึงรู้สึกว่า ห้องดูกว้าง เหมาะกับคนชอบจัดปาร์ตี้ มีเพื่อนเยอะ ชวนกันมานั่งดูหนังในวันหยุดก็สะดวกสบาย ผ่อนคลายความเคร่งเครียดจากวันทำงานได้เป็นอย่างดี แต่ในห้องจริงจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์มาให้นะคะ จะมาเป็นห้องโล่งๆ เหมาะสำหรับคนชอบตกแต่งห้องเอง สามารถครีเอทและตกแต่งคอนโดได้ตาสไตล์เราเลยค่ะ

แหงนหน้าดูบนเพดานจะเห็นระบบป้องกันอัคคีภัยอย่างสปริงเกอร์ และเครื่องตรวจจับควันไฟ ติดตั้งมาให้อุ่นใจในทุกห้อง

สวิตซ์ไฟของห้องจะเป็นยี่ห้อ Panasonic สีดำแบบนี้

นอกจากจะเป็นห้องนั่งเล่นแล้ว อาจจะจัดทำเป็นพื้นที่รับประทานอาหารด้วยก็ได้ แต่อาจจะสลับโต๊ะอาหารไปวางไว้ใกล้กับทางเข้าห้อครัวมากขึ้น เพื่อความสะดวกในการหยิบจับ หรือยกอาหารมารับประทานได้ง่ายๆ

ติดกันกับโต๊ะรับประทานอาหารจะเป็นที่วางโซฟา ทางโครงการเสนอเป็นโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง มีพนักวางเเขนด้านข้าง แต่ความจริงห้องก็กว้างพอจะวางเป็นโซฟา day bed ตัวยาว ใช้สำหรับนอนพักผ่อนดูทีวีในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้สบายๆ เลยค่ะ

ระยะห่างระหว่างโซฟาจนถึงทีวีอยู่ที่ 2.7 ม. กว้างพอจะซื้อทีวีจอใหญ่ถึง 60 นิ้วมาวางได้ เรียกว่า เอาใจคอหนัง คอบอล จะได้ดูกันแบบ Full HD ไม่มีเบื่อ

สำหรับชั้นวางทีวีแนะนำให้ทำแบบ Built-in จะช่วยในการประหยัดเนื้อที่ในการวาง ส่วนด้านข้างอาจจะทำเป็นตู้หนังสือหรือตู้รองเท้าสักใบ ก็ลองจัดวางตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบดูนะคะ

ติดกับชั้นวางทีวีจะเป็นประตูห้องครัว ทางโครงการจะแถมแอร์มาให้เรียบร้อย ไม่ต้องจัดหาซื้อเอง

มาดูฝั่งห้องนอนกันนะคะ ห้องนอนจะกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เมื่อเปิดออกห้องจะเชื่อมต่อถึงกัน ทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น แต่ก็ดูเป็นสัดส่วนในเวลาเดียวกัน ส่วนใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มอีกสัหน่อย ไม่อยากให้ห้องนอนมองเห็นได้จากภายนอก ก็อาจจะหาม่านหรือสติกเกอร์ขุ่นมาปิดกระจกเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ

ประตูเป็นบานเลื่อนแบบรางล่าง ทำเสมอกับพื้น รับรองว่า เดินแล้วไม่มีสะดุดแน่นอนค่ะ

มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องตามมาตรฐานทั่วไป

เข้ามาในห้องนอนกันต่อนะคะ ห้องนอนจริงๆ จะเป็นห้องโล่งเช่นเดียวกัน พื้นห้องนอนจะปูด้วยไม้ลามิเนตเช่นเดียวกับห้องนั่งเล่น ส่วนผนัง ทางโครงการจะติดวอลเปเปอร์มาให้เรียบร้อยสวยงาม

ขนาดเตียงที่เหมาะสมจะเป็นเตียงนอนขนาด 5 ฟุตค่ะ ถ้าขนาดใหญ่กว่านี้จะเบียดพื้นที่ข้างเตียงมากเกินไปจนไม่เหลือทางให้เดินด้านข้างให้เดินผ่าน

วางโต๊ะเครื่องแป้ง วางตู้เสื้อผ้า เรียบร้อยแล้ว พื้นที่ปลายเตียงยังเหลือให้เดินประมาณ 70 ซม. ให้เดินได้สบายๆ

ปลายเตียงในห้องตัวอย่าง มีพื้นที่ให้จัดวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องเเป้งได้ ถ้าเป็นห้องสำหรับหนุ่มๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้โต๊ะเครื่องแป้ง แต่เปลี่ยนเป็นตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ขึ้น พร้อมกับกรุกระจกที่หน้าบาน ซึ่งก็สามารถใช้งานแทนกันได้

ตู้เสื้อผ้าในห้องตัวอย่าง ถ้าอยู่กัน 2 คนอาจจะเป็นตู้ที่เล็กกะทัดรัดไปสักหน่อยนะคะ

พื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งที่ติดกับประตูเหลือพื้นที่เล็กน้อยพอให้ติดม่านได้ ส่วนฝั่งที่ติดกับระเบียงกว้างพอประมาณ อาจจะหาโต๊ะหัวเตียงมาตั้ง ใช้วางของได้ค่ะ

มุมมองจากห้องนอน มองไปยังประตูทางเข้าห้องค่ะ

ต่อไปเป็นพื้นที่ระเบียง ซึ่งเป็จุดชมวิวของห้อง ที่ประตูจะยกธรณีขึ้นสูงประมาณ 13 ซม. เพื่อป้องกันน้ำากภายนอกไหลย้อนเข้ามาภายในห้อง แต่เวลาเดินอาจจะต้องระวังสะดุดกันหน่อยนะคะ เพราะยกขึ้นมาสูงทีเดียว

ด้ามจับเป็นเเบบเซาะร่องมาตรฐาน มีตัวล็อกให้เรียบร้อย ส่วนกรอบประตูเป็นกรอบอลูมิเนียมสีชา ดูเเข็งแรง ทนทานดีค่ะ

เปิดประตูออกมาจะเจอกับพื้นที่ระเบียงเป็นแนวยาว ปูด้วยกระเบื้องสีเทา ความกว้างของระเบียงอยู่ที่ 60 เซนติเมตร อาจจะกว้างไม่พอให้ตั้งเก้าอี้สำหรับชมวิว แต่ก็ไม่เป็นไรนะคะ ยืนชมวิวแทนก็ได้ สุนทรีย์อยู่เหมือนกัน

ราวกันตกสูงประมาณ 1.10 เมตร ยืนอยู่ใกล้ๆ ปลอดภัย ไม่รู้สึกหวาดเสียว กลัวว่าจะพลัดตกแน่นอนค่ะ

มาดูพื้นที่ครัวบ้างนะคะ ครัวของคอนโด Urbano Rajavithi แบบ 1 ห้องนอนจะได้แบบระบบปิด มีประตูบานเลื่อนกั้นให้เรียบร้อย เหมาะสำหรับคุณแม่บ้านที่ชื่นชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ จะผัดกะเพรา ทอดชะอมไข่ ก็ทำได้สบาย ไม่ต้องกลัวว่า กลิ่นฉุน หรือควันจากการทำอาหารจะลอยไปติดกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนั่งเล่นเลยค่ะ

พื้นห้องครัวเป็นพื้นกระเบื้องขนาด 60x60 ซม. ซึ่งเช็ดล้างทำความสะอาดง่าย ทำน้ำหกแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่า พื้นจะบวมน้ำ สามารถทำอาหารได้เต็มที่ ีการทำตัวจบระหว่างพื้นห้้องครัวและห้องนั่งเล่นเรียบร้อย สวยงาม

ห้องครัวจะเชื่อมต่กับระเบียงซักล้างและห้องน้ำค่ะ ชุดครัวที่เห็นทาง Urbano Rajavithi จะแถมมาให้ ยกเว้นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงของประดับอื่นๆ ด้วย

พื้นที่วางตู้เย็นจัดมาแบบ Fix พื้นที่พอสมควร ขนาดพื้นที่ประมาณ 0.7 x 0.7 เมตร ตู้เย็นที่เหมาะสมจะเป็น ตู้เย็นขนาด 9 คิวบิกฟุตเท่ากับตัวอย่างในภาพค่ะ

เหลือบมองด้านบนเล็กน้อย ด้านบนเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นตู้เก็บของแบบบานเปิด จุของได้พอสมควรค่ะ ทางคอนโด Urbano Rajavithi ติดตั้งเครื่องดูดควันจาก Franke มาให้ ซึ่งเครื่องดูดควันจะช่วยในการขจัดกลิ่นและควันในห้องครัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ทุกอย่างจะมาลงที่อ่างล้างจานค่ะ อ่างของที่นี่เป็นของ Franke แบบหลุมเดี่ยว และไม่มีที่พักจาน แต่การันตีความลึก ล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมาเลอะเทอะแน่นอน

เทียบกับขนาดของฝ่ามือให้เห็นกันชัดๆ ตัวอ่างกว้างเเละลึก ใส่ภาชนะได้เยอะทีเดียว

สะดืออ่างสามารถถอดออกมาล้าง ทำความสะอาดได้ด้วย

ทางคอนโดติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้อำนวยความสะดวกบนเคาน์เตอร์ครัว  จะเสียบกาน้ำร้อน หรือเสียบเครื่องปิ้งขนมปังก็ทำได้สบายๆ ไม่ต้องพ่วงปลั๊กไฟไปมาให้วุ่นวายเลยค่ะ

Urbano Rajavithi ให้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Franke

ส่วนด้านล่างก็มีจุดวางไมโครเวฟ มีตู้เก็บของ และลิ้นชักสำหรับใส่ช้อน ส้อมมาให้

ติดกับห้องครัว ฝั่งหนึ่งเป็นระเบียงแยกสำหรับซักล้าง ตรงนี้สามารถเปิดประตูระเบียงออกไป เพื่อระบายกลิ่น และควันหลังจากทำอาหารได้ด้วย ตัวประตูจะเป็นประตูบานเเลื่อนสองตอน กรอบลูมิเนียมสีชา กระจกตัดแสงได้ดี ยกธรณีสูงกันน้ำไหลเข้าครัวให้แล้ว

พื้นระเบียงซักล้างไม่กว้างมากค่ะ แต่ก็พอวางเครื่องซักผ้าได้

เนื่องจากระเบียงใหญ่จะเป็นระเบียงชมวิว ทางคอนโดจึงติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ที่ระเบียงซักล้างแทน ทำให้ระเบียงชมวิวไม่ร้อน แถมคอเพรสเซอร์แอร์ยังช่วยเป่าลมร้อน ทำให้เสื้อผ้าที่ตากไว้แห้งเร็วขึ้นด้วย

ตรงข้ามกับพื้นที่ระเบียงจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกันเรียบร้อย คุณแม่บ้านจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงทำความสะอาดห้องน้ำมากจนเกินไป สำหรับพื้นและผนังจะปูด้วยกระเบื้องขนาด 60x60 ซม. ด้านุขภัณฑ์จะมีให้ครบครันตามมาตรฐานของคอนโดมิเนียมสมัยใหม่

ถ้าตื่นมาในยามเช้า อาจจะต้องเดินมาเข้าห้องน้ำไกลหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นการปลุกให้ตัวเองตื่นตัว เดินเข้าห้องน้ำมาส่วนแรกที่เจอจะเป็นอ่างล้างหน้า แปรงฟัน ล้างหน้าเสร็จ ก็ต่อด้วยการทำธุระส่วนตัว สุดท้ายก็อาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น พร้อมที่จะไปทำงานในเช้าวันใหม่

อ่างล้างหน้าที่ได้จะเป็นของ American standard แบบแขวนผนัง ใต้อ่างมีตู้แบบบานเปิดคู่ มีไว้ให้ใส่ของเพิ่มเติมได้

สะดืออ่างจะเป็นแบบปุ่มกด

ก๊อกน้ำเป็นของ Grohe สามารถปรับน้ำร้อน น้ำเย็นได้ ตามใจชอบ

ข้างอ่างล้างหน้ามีปลั๊กไฟให้ ไว้สำหรับเสียบไดร์เป่าผม หรือที่โกนหนวดไฟฟ้าได้

ที่ผนังมีการทำ Low wall ตรงนี้สามารถวางของตกแต่งห้องน้ำ หรือใช้วางของใช้จำเป็นได้เยอะทีเดียวค่ะ

โถสุขภัณฑ์เป็นของ American standard ติดตั้งสายฉีดชำระและเเกนใส่กระดาษทิชชู่มาให้เรียบร้อย วาล์วน้ำของโถสุขภัณฑ์และสายฉีดชำระใช้แยกกัน ซึ่งง่ายต่อการซ่อมแซมมากค่ะ

ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้าจะเป็นราวแขวนผ้า ถัดไปก็เป็นพื้นที่ส่วนเปียกแล้วค่ะ

ส่วนเปียกจะกั้นด้วยประตูกระจกแบบ tempered glass แบบดึงออกมาด้านนอก ตรงนี้อาจจะทำให้น้ำในส่วนเปียกไหลลงมาเปียกพื้นส่วนแห้งได้นะคะ ต้องลงสอบถามกับโครงการดูว่า จะเปลี่ยนเป็นแบบผลักเข้าด้านในแทนได้หรือไม่

เปิดออกมาแล้วเป็นแบบนี้ค่ะ ลองคิดถึงอนที่อาบน้ำเสร็จใหม่ๆ แล้วกระจกที่เปิดออกมามันเปียก น้ำที่กระจกคงหยดเลอะพื้นส่วนแห้ง เป็นแบบนี้คงต้องเหนื่อยมาเช็ดพื้นกันอีกรอบแน่นอน

พื้นส่วนเปียกจะปูด้วยกระเบื้องสีดำแทน เพื่ออำพรางคราบกปรก และลดระดับพื้นลงเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนออกไปยังส่วนแห้ง

ฝักบัวที่ได้มีทั้งแบบ Hand shower และ Rain shower ของ Grohe แถมยังสามารถปรับอุณภูมิน้ำได้ตามใจชอบด้วยค่ะ

ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 47.50 ตารางเมตร

ห้องต่อมาเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 47.5 ตร.ม. เป็นขนาดที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังเริ่มวางแผนการใช้ชีวิตคู่ หรืออยากจะมีลูกน้อย จึงอยากได้ห้องที่มีฟังก์ชันครบ และมีพื้นที่กว้างเป็นพิเศษ ห้องนี้เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยวางแผนผังออกมาได้น่าสนใจทีเดียวค่ะ จัดพื้นที่ห้องนั่งเล่นมาให้ใหญ่ไว้ทำกิจกรรมกับครอบครัว ติดกันเป็นพื้นที่ครัวแบบเปิด อาจจะไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักๆ เท่าไรนะคะ เพราะกลิ่นอาจจะลอยไปติดที่เฟอร์นิเจอร์ได้ ส่วนต่อมาจะเป็นห้องน้ำ อยู่ติดกับห้องนอน และส่วนต่อมาที่กั้นอยู่ระหว่างห้องนอนทั้งสองห้อง ก็คือ พื้นที่ว่างที่สามารถเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำงาน อ่านหนังสือ หรือเปลี่ยนเป็นมุมพักผ่อนอีกมุมหนึ่งก็ได้ค่ะ ส่วนนี้จะอยู่ติดกับระเบียงยาวที่เชื่อมเข้าออกได้ทั้งจากห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น และพื้นที่เอนกประสงค์ทางด้านนอก

พื้นของห้องปูด้วยไม้ลามิเนตเฉดสีเดียวกันกับในภาพ พร้อมกับยกพื้นขึ้นสูงจากโถงทางเดินขึ้นมาเล็กน้อย

เข้ามาภายในห้องส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องนั่งเล่่น ด้านขวาจะเป็นห้องครัว ซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำและห้องนอนเล็ก ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางซ้ายมือ มีระะเบียงยาวเชื่อมต่อถึงส่วนของพื้นที่ทำงานทางด้านนอกค่ะ

เมื่อเข้ามาในห้องด้านซ้ายมือจะเป็นมุมนั่งเล่นค่ะ พื้นที่ตรงนี้สามารถวางโซฟาขนาดนั่ง 3 คนได้ ระยะห่างจากโซฟาไปถึงทีวี มีระยะ 1.2 เมตร สามารถวางทีวี 42 นิ้วได้สบาย ไม่ปวดตาค่ะ พื้นที่ระหว่างทีวีกับโซฟา สามารถนำโต๊ะเล็กๆมาวางไว้เป็นมุมรับแขกได้ค่ะ

ห้องนั่งเล่นกว้างพอให้วางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้ ตรงข้ามเหลือพื้นที่ว่างค่อนข้างเยอะ สามารถนำชั้นลอยมาติดตั้งเพื่อวางทีวีได้  หรือจะเพิ่มชั้นวางของทางด้านข้างเพิ่มก็ได้ด้วยค่ะ

ด้านบนมุมห้องนั่งเล่นจะเป็นเครื่องปรับอากาศ มุมตรงนี้ดีค่ะ เพราะเมื่อเวลาเราใช้เวลาในการนั่งพักผ่อนจะได้ลมที่พัดเย็นสบายดีค่ะ การวางตรงนี้ยังทำให้กระจายความเย็นไปถึงมุมตรงครัวด้วยค่ะ

เรายังอยู่ที่ห้องโถงค่ะ มาที่ด้านขวามือกัน ขวามือจะเป็นมุมของห้องครัว ครัวมีขนาดกลางเป็นครัวแบบฝรั่งในระบบเปิดค่ะ การจัดวางค่อนข้างดีนะคะ ดูเป็นระเบียบดี

บริเวณมุมครัว สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ค่ะ นั่งได้สองคนแบบสบายๆ หรือจะนั่งแบบสี่คนก็ได้ค่ะ 

มีมุมสำหรับวางตู้เย็นขนาด 9 คิวบิก พื้นที่ค่อนข้างจัดมาให้แบบ Fix พื้นที่ค่ะ เวลาจะซื้อตู้เย็นก็ควรดูขนาดความกว้างและความยาวของพื้นที่ไว้ด้วยนะคะ ส่วนด้านบนจะมีชั้นสำหรับวางของมีประตูปิดด้วยนะคะ แต่ด้านในตู้ตรงนี้จะเป็นที่เก็บแผงควบคุมไฟภายในห้องด้วยค่ะ อาจจะเก็บของได้ไม่สะดวกเท่าไร 

เตาไฟฟ้าจะมีมาให้แบบสองหัวของ Franke  ค่ะ การใช้งานถือว่ากำลังพอดีนะคะ ส่วนท็อปครัวจะเป็นหินสังเคราะห์ เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายดีค่ะ

บริเวณเคาน์เตอร์จะมีปลั๊กไฟมาให้แบบ สองช่องเสียบค่ะ และมีสวิตซ์ไฟด้วยนะคะ เรียกได้ว่าจุดเดียวมีพร้อมทุกอย่างไม่ต้องเดินหาค่ะ

ตรงด้านล่างของเคาน์เตอร์จะเป็นที่วางไมโครเวฟ

ด้านบนจะเป็นลิ้นชักแบบSoft-close ปิดผิวด้วยลามิเนต ใช้สำหรับเก็บช้อนส้อมค่ะ เลื่อนเข้าออกง่ายสะดวกดี

อ่างล้างจานจะเป็นแบบหลุมเดียวของ Franke ค่ะ ไม่มีที่พักจานให้ หลุมเป็นแบบเหลี่ยมตัดไม่มีโค้งเว้า หลุมค่อนข้างจะลึกดีค่ะ

ด้านล่างของอ่างล้างจานจะเป็นตู้เก็บของค่ะ ตู้เก็บของภายในจะเป็นท่อระบายน้ำค่ะ ตู้นี้จะเก็บของชิ้นใหญ่ๆไม่ค่อยสะดวกนะคะ เพราะต้องเหลือพื้นที่ไว้สำหรับซ่อมแซมอ่างด้วย

ด้านบนจะเป็นตู้เก็บของและเครื่องดูดควันติดเตาไฟฟ้าค่ะ ตู้มีสองบาน บานหนึ่งจะเป็นชั้นไว้วางของมีสามชั้นเล็กเเยกข้างในค่ะ ส่วนอีกตู้เป็นที่เครื่องดูดควันแบบปล่อยนอกอาคารของ Franke เช่นเดียวกันค่ะ 

เยื้องมุมครัว หากมองตรงไปจะเจอทางเข้าของห้องนอนและห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวเราเข้าไปสำรวจภายในห้องน้ำกันก่อนดีกว่านะคะ

มากันที่ห้องน้ำกันค่ะ ประตูห้องน้ำจะลดระดับพื้นลงจากด้านนอกเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลออกมาข้างนอกห้องค่ะ กระเบื้องห้องน้ำเป็นกระเบื้องสีเทาป้องกันการลื่นได้เวลาพื้นเปียกน้ำค่ะ

ในห้องน้ำอ่างล้างหน้าจะอยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์ค่ะ เป็นของยี่ห้อ American Standard 

ในส่วนของอ่างล้างหน้าจะมีตู้ไว้สำหรับเก็บของ สามารถเก็บของจำพวกผ้าเช็ดตัว หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำก็ได้ค่ะ

ด้านข้างอ่างล้างหน้าจะมีปลั๊กไฟมาให้ค่ะ สำหรับใครที่เพิ่งสระผมแล้วอยากให้ผมแห้งเรียบร้อยออกมาจากห้องน้ำเลย  ตรงนี้ก็สามารถใช้ไดร์เป่าผมในห้องน้ำได้เลยค่ะ  

กระจกในห้องน้ำเป็นแบบเต็มบานค่ะ ทำให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้น ส่วนที่ผนังก็มีการทำ Low wall มีพื้นที่เหลือสำหรับวางของด้านบนได้เล็กน้อย

มาดูส่วนเปียกกันบ้างนะคะ ประตูส่วนเปียกจะเป็นแบบประตูกระจก Tempered glass ค่ะ ป้องกันน้ำกระเด็นออกเวลาอาบน้ำได้

บริเวณที่อาบน้ำ พื้นจะต่ำลงอีกเพื่อป้องกันน้ำไหลออกมาบริเวณโซนแห้งค่ะ

ฝักบัวที่นี่จะมีให้สองแบบค่ะ ทั้งแบบ Hand shower และแบบ Rain shower ค่ะ ใครอยากอาบแบบไหนก็เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ

มากันที่ห้องนอนกันค่ะ ห้องนอนในยูนิตนี้จะมีสองห้องนะคะ มาที่ห้องนอนแรกกันก่อนค่ะ นี่เป็นภาพ 360 แสดงภาพบรรยากาศรวมๆ ของห้อง ซึ่งในห้องจริงจะเป็นเพียงห้องเปล่า ไม่ได้ตกแต่งหรือแถมเฟอร์นิเจอร์มาให้เหมือนในห้องตัวอย่างนะคะ

ห้องนอนสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ พร้อมเหลือพื้นที่ว่างไว้สำหรับวางโต๊ะข้างๆ ได้ด้วยค่ะ

ด้านตรงข้ามเตียงสามารถติดตั้งชั้นลอย พร้อมกับวางทีวีได้ ระยะห่างประมาณ 0.8 เมตรบวกกับระยะการนอนก็สามารถวางทีวีขนาด 42 นิ้วได้สบายเลยค่ะ

ห้องนอนในยูนิตนี้ไม่มีระเบียงนะคะ มีแค่หน้าต่างแบบบานเลื่อนผสมกับกระจกบานฟิกซ์ หน้าต่างบานเลื่อนสามารถเลื่อนออกได้สองทาง 

ด้านข้างเตียงยังมีที่ว่างมากพอที่จะเดินได้ ถึงจะตกแต่งด้วยโต๊ะข้างเตียงแล้วก็ตาม

ตู้เสื้อผ้าในห้องตัวอย่างจะเป็นแบบ Built in แบบสไลด์ หน้าบานเป็นกระจกสีชา ดูแล้วหรูหราดีค่ะ แต่ถ้าใครอยากจะประหยัดพื้นที่ในการวางโตีะเครื่องแป้งอีกก็อาจจะหาซื้อตู้เป็นตู้เสื้อผ้ากรุหน้าบานด้วยกระจกเงาแทน ใช้แต่งตัว แต่งหน้าได้เลยในชิ้นเดียว

มากันที่ห้องนอนที่สองกันค่ะ ภาพ 360 องศาแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศรอบๆห้องนอนค่ะ พื้นห้องปูด้วยพื้นลามิเนต ห้องนี้จะมีระเบียงให้ สามารถเดินออกไปชมวิวด้านนอกได้เลยค่ะ

พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตเหมือนกับห้องโถง พร้อมกับทำตัวจบกั้นให้เรียบร้อยดีค่ะ

ห้องนี้สามรถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ แต่พื้นที่จะไม่กว้างเท่าห้องนอนเเรกนะคะ

ช่องหน้าเตียงก็แคบลงเหมือนกันค่ะ ไม่เหมาะสำหรับการติดตั้งชั้นลอย ถ้าจะติดตั้งทีวีก็ควรจะติดแบบแขวนผนังก็พอค่ะ

ตัวอย่างตู้เสื้อผ้าในห้องนี้เป็นแบบบานเปิดสามบาน อาจจะไม่เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กนะคะ เพราะเวลาเปิดออกมาแล้วอาจจะใช้งานไม่สะดวก แนะนำให้เลือกซื้อแบบบานสไลด์เหมือนห้องแรกจะดีกว่า

บริเวณหัวเตียงติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อย 

ถึงห้องจะเล็กไปสักหน่อย แต่ห้องนี้ก็มีดี ตรงที่มีระเบียงห้องค่ะ ประตูระเบียงห้องจะเป็นประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน มองเห็นวิวด้านนอกชัดเจนดีค่ะ

ธรณีประตูบริเวณถูกยกระเบียงให้สูงขึ้นค่ะ เพื่อป้องกันน้ำที่ขังอยู่บริเวณระเบียงไหลเข้ามาในห้องนอนค่ะ

พื้นที่นอกระเบียงจะไม่ค่อยกว้างเท่าไรค่ะ นอกระเบียงจะมีก๊อกน้ำหนึ่งตัวค่ะ สำหรับทำเป็นพื้นที่ซักล้าง ตัวระเบียงจะสูงประมาณ 1 เมตร พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องสีเทาขนาด 30x30 ซม.

ตัวคอมเพรสเซอร์แอร์ถูกตั้งไว้ด้านบนทั้งสองตัวเลยค่ะ การติดตั้งด้านบนถือว่าใช้พื้นที่ใช้สอยได้ดีเลยทีเดียวนะคะ ประหยัดพื้นที่ระเบียงไปเยอะเลย แต่เนื่องจากเป็นห้องตัวอย่าง เมื่อโครงการสร้างเสร็จอาจจะเปลี่ยนแปลงแนวทางการวางตัวคอมเพลสเซอร์แอร์ก็ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องลองสอบถามกันดูอีกทีนะคะ

ระเบียงของห้องนอนจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านนอก ซึ่งพื้นที่ตรงนี้สามารถทำเป็นมุมทำงานเก๋ๆ ได้ อาจจะหาโต๊ะ หรือเฟอร์นิเจอร์ Built in ตัวยาวๆ มาวาง ก็ดูเหมาะที่จะทำเป็นมุมทำงานดีค่ะ เพราะอยู่ใกล้กับช่องแสงขนาดใหญ่ แสงสว่างจะช่วยถนอมสายตา ทำให้สายตาไม่เสียค่ะ

มีปลั๊กไฟบริเวณนี้ด้วย ยิ่งทำให้น่าจัดมุมห้องเป็นห้องทำงานมากๆเลยค่ะ

วิเคราะห์โครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi)

ทำเล: เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) เป็นคอนโด High rise ตั้งอยู่ในทำเลฝั่งธนบุรี บริเวณบางพลัด ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าอนาคต อย่าง MRT สาถานีสิรินธร ในระยะทาง 100 เมตร ย่านบางพลัด แถวสะพานกรุงธนบุรี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า สะพานซังฮี้ ยังเป็นพื้นที่ใหม่ที่กำลังจะพัฒนา เนื่องจากมีรถไฟฟ้าเข้ามาเปิดตัว และกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ โครงการคอนโดมิเนียมจึงเริ่มเข้ามาลงทุนจับจองพื้นที่กันบ้างแล้ว
สำหรับด้านการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่า สะดวกทั้งฝั่งขาเข้าเมืองเเละขาออกเมือง เพราะตัวคอนโดตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกรุงธนบุรี เเค่ข้ามผ่านสะพานไปก็เดินทางถึงอนุสาวรีย์ ต่อเข้าสู่ถนนได้อีกหลายสายได้ง่ายๆ นอกจากนั้นโครงการยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่นานในย่านฝั่งธนฯ นั่นก็คือ ทางด่วนศรีรัช บริเวณแยกยมราช โดยจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางขึ้น-ลงบางบำหรุ ด้านการจราจรติดขัดในฝั่งขาเข้าเมืองก็เป็นเรื่องปกติค่ะ เมื่อข้ามสะพานกรุงธนบุรีไปแล้ว จะเป็นสถานศึกษาหลายเเห่ง ทำให้ช่วงเช้าและเย็นที่เป็นเวลาเลิกเรียน มีการจราจรที่ติดขัด แนะนำให้เผื่อเวลาในการเดินทางไว้บ้างนะคะ ไม่อย่างนั้นได้ไปทำงานกันสายแน่ๆ
ส่วนใครที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะก็มีรถโดยสารอย่าง รถแท็กซี่ รถประจำทางสายต่างๆ และวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการ เรียกใช้ได้ง่ายค่ะ และในอนาคตเองก็จะมีรถไฟฟ้าสายอนาคตเป็นตัว โดยจะสร้างแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2562 นั่นก็คือ รถไฟฟ้า MRT สิรินธร ห่างจากตัวโครงการประมาณ 100 เมตรค่ะ นอกจากการเดินทางบนบกแล้ว ยังมีท่าเรือคอยให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารจากเชิงสะพานกรุงธนบุรี ห่างจากโครงการไปประมาณ 500 เมตร ใครที่ทำงานอยู่ย่านศิริราช หรือมีที่ทำงานใกล้กับท่าเรือก็ได้รับความสะดวกตรงส่วนนี้ไปเต็มๆ

สภาพแวดล้อม : สภาพแวดล้อมรอบโครงการ เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) เป็นชุมชนดั้งเดิมของคนในย่านฝั่งธนบุรี ส่วนมากจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ยังไม่ค่อยเห็นตึกสูงมากเท่าไรค่ะ ซึ่งนั่นก็ดีต่อตัวคอนโดที่มีจุดเด่นอย่างหนึ่ง ในเรื่องของวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เคลมมาแล้วว่า สามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในทุกยูนิต
ด้านความอุดมสมบูณ์ แถบนี้ถือว่ามีอหารการกินให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดกรุงธนที่แค่ข้ามถนนไปก็ถึง มีอาหารสด ของหวาน ของคาวให้เลือกซื้อมากมาย นอกจากตลาดแล้วยังมีร้านค้าที่เปิดทำการอยู่ใต้อาคารพาณิชย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี ร้านทำผม รวมถึงไปรษณีย์ก็มีอยู่ใกล้ๆด้วยค่ะ ส่วนใครที่ชอบเดินห้าง ใกล้ๆ กันนั้นก็มีเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, พาต้า ปิ่นเกล้า หรือใกล้ๆ หน่อยก็จะเป็นโลตัสบางพลัด เดินทางไม่นานก็ถึงแล้วค่ะ

แบบห้อง : คอนโด เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) มีแบบห้องให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่
- 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. เป็นห้องที่ทางคอนโดเน้นการใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นพิเศษ และได้ห้องครัวแบบปิด เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร มีระเบียงชมวิวกับระเบียงซักล้างแยกให้ออกจากกัน ส่วนพื้นที่ห้องนอนจะกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน ทำให้ห้องดูกว้างแม้จะเป็นห้องขนาด 30 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 47-47.5 ตร.ม. จะแบ่งแยกย่อยออกไปเป็น 2A, 2B, 2C ซึ่งในแต่ละแบบจะเเตกต่างกันในเรื่องของฟังก์ชันและการจัดวาง
- 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 64.5 ตร.ม. เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ซึ่งเป็น type ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เหมาะกับคนที่ต้องการซื้อคอนโดที่มีพื้นที่มาก และสามารถมองเห็นวิวแม่น้เจ้าพระยาได้ด้วย
เนื่องจากเป็นห้องแบบ Fully fitted เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจึงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ จะมีให้เเค่ เเอร์ ชุดครัว ชุดสุขภัณฑ์ และวอลเปเปอร์ให้ แต่ด้านวัสดุก็ถือว่าเลือกมาให้ในระดับดีพอสมควรค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก : ทางคอนโด เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) จัดสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ โดย Facilities หลักๆ จะอยู่บนดาดฟ้า ตรงนี้มีข้อดีที่ เห็นวิวชัดเจน และมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ใครที่อยู่ชั้นล่างๆ อาจจะขึ้นไปใช้งานกันยากสักหน่อยค่ะ เพราะต้องขึ้นลิฟต์ไปบนสุดของอาคารเลย

ราคา : เริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท เฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 109,000 บาท/ตร.ม. ถ้าเทียบกับศักยภาพด้านทำเลที่กำลังพัฒนา โดดเด่นในเรื่องของวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ขนาดห้องที่กว้างขวางกว่าคอนโดมิเนียมในตัวเมือง รวมถึงการเดินทางที่สะดวกทั้งขาเข้าเมืองและออกเมือง ในอนาคตเองก็จะมีรถไฟฟ้าสายอนาคตตัดผ่านใกล้ๆ ด้วย ก็ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าและเหมาะที่จะซื้อไว้เพื่อลงทุน

เออร์บาโน่ ราชวิถี (Urbano Rajavithi) เป็นคอนโดมิเนียม High rise ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) เหมาะสำหรับคนที่อยู่อาศัยหรือทำงานอยู่ในย่านฝั่งธนบุรี ตามหาคอนโดที่สะดวกในการเดินทาง มีขนาดห้องที่กว้าง และมีงบประมาณสำหรับการตกแต่งสำรอง