[Review] U Delight Residence Riverfront Rama 3 คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จาก Grand Unity

U Delight Residence Riverfront Rama 3 เป็นคอนโดของ บริษัท ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (แกรนด์ ยูนิตี้)

ตัวโครงการจะตั้งอยู่ที่ ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ห่างจาก BRT สถานีวัดปริวาส (มุ่งหน้าไปทางสะพานพระราม 9) ระยะทางเพียง 150 เมตร โดยพื้นที่ของโครงการจะเป็นรูปทรง 4 เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้าติดถนน ด้านหลังติดแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเด่นของที่นี่คือ ทุกห้องสามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา และยังมี Sunken Balcony ที่เป็นระเบียงเล่นระดับที่กว้างขวาง ผนวกกับราคาที่จับต้องได้ จึงทำให้โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ หนุ่ม สาว วัยทำงานที่อยากจะใช้ชีวิตอยู่ริมแม่น้ำ

ที่ตั้งโครงการ U Delight Residence Riverfront Rama 3

แผนที่ของโครงการ U Delight Residence Riverfront Rama 3

ตัวโครงการ U Delight Residence Riverfront Rama 3 ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร เป็นทำเลที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางนั้นสามารถเดินทางมาได้โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวก็ได้ หรือจะเลือกใช้บริการของ BRT แล้วลงที่สถานีวัดปริวาส ตัวโครงการจะตั้งอยู่ห่างจากสถานีดังกล่าวประมาณ 150 เมตร

ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเดินทาง 2 วิธีด้วยกันคือ…

การเดินทางด้วยรถส่วนตัว

ในการขับรถยนต์ส่วนตัว แนะนำให้เลือกเส้นทางการเดินรถบนถนนพระราม 3 ให้ขับตรงมาเรื่อยๆจากแยกนางลิ้นจี่ แล้ววิ่งเข้าเส้นพระราม 3 (มุ่งหน้าสู่สะพานพระราม 9) เส้นทางนี้ในเวลาเร่งด่วนอาจจะติดไปสักหน่อย อาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางไว้บ้าง

วิ่งขึ้นทางยกระดับมาจะเห็นตึกของ ศุภาลัยอยู่ทางขวามือ

ขับมาตามทางยกระดับอีกนิดจะเห็นตึกของธนาคารกรุงศรี

เนื่องด้วยถนนพระราม 3 เป็นถนนหลักเส้นยาว ไม่ต้องกลัวว่าจะหลง เมื่อขับตรงมาสักพัก ให้สังเกตว่าผ่านสถานี BRT วัดปริวาสไปหรือยัง

เพราะตัวของโครงการจะอยู่

เลยตัวสถานีไปประมาณ150 เมตร

จากในรูปจะเห็นตัวดอนโดสีขาว-เทาตั้งอยู่ทางซ้ายมือ

เมื่อถึงตัวโครงการให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย

และแล้วเราก็เดินทางมาถึง

U Delight Residence Riverfront Rama 3 ด้วยวิธีการนั่งรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งก็หาตัวโครงการไม่ได้ยากเลยเพราะอยู่ติดกับถนนใหญ่

การเดินทางด้วยรถ BRT

วิธีการเดินทางอีกรูปแบบคือ การนั่งรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นการเดินทางที่ง่ายที่สุด โดยนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีช่องนนทรี  

จากนั้นเดินไปอีกนิดต่อรถ BRT ที่สถานีสาทร

จากสถานีสาทรนั่งต่อมาอีก 6 สถานี มาลงที่สถานี

วัดปริวาส

และจากหน้าสถานีปริวาสเดินทางต่อไปอีก 150 เมตรก็จะถึงตัวโครงการ U Delight Residence Riverfront Rama 3 ซึ่งยังถือว่าเป็นระยะที่สามารถเดินเท้าไปถึงได้

และนี่ก็คือสองเส้นทางง่ายๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางมายังโครงการ  U Delight Residence Riverfront Rama 3

เจาะลึกภาพรวมโครงการ U Delight Residence Riverfront Rama 3

มาดูในส่วนของโมเดลของอาคารกันบ้าง สำหรับโครงการนี้มี ทั้งหมด 1 อาคาร สูง30 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 6 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวา

ฝั่งด้านหน้าของโครงการติดกับถนนพระราม 3 เมื่อเข้ามาจะเป็นพื้นที่ของลานจอดรถกลางแจ้งและแนวสวนที่ปลูกไว้ให้ความร่มรื่น

ส่วนด้านหลังตึกจะมี Facilities เป็นสวน สระว่ายน้ำ ที่นั่งเล่นริมน้ำ ฟิตเนสและซาวน่า ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา

แผนผังชั้น G

จะมี 7-11 อยู่บริเวณทางเข้าด้านหน้าของอาคาร สะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนด้านหลังอาคารจะเป็นสระว่ายน้ำ , ห้องฟิตเนส มีห้องสมุด และห้องนิติบุคคลรวมอยู่ด้วย

แผนผังในชั้นที่ชั้น 2-5 ของอาคารจะเป็นที่จอดรถ (รวมถึงโดยรอบอาคารในชั้น G ด้วย)

แปลน ชั้น 7-30 ของอาคาร จะเป็นแบบห้องขนาดต่างๆ คำนวณแล้วต่อชั้นมีจำนวนยูนิตสูงสุดอยู่ที่ 47 ยูนิต

เริ่มต้นการสำรวจตัวโครงการกันเลยกับปากประตูของโครงการ 

เราจะสามารถเข้า-ออกจากคอนโดนี้ได้ทางเดียวคือ ถนนพระราม 3  โดยทางเข้าจะมี รปภ.คอยดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

การรักษาความปลอดภัยก็มีประสิทธิภาพ ลูกบ้านที่มีรถส่วนตัวจะต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้า-ออกทุกครั้ง ดังนั้น คนนอกจึงไม่สามารถเข้า-ออกได้ หากไม่ได้รับการอนุญาต

เดินดูรอบๆนอกกันก่อน บริเวณรอบๆ คอนโดมิเนียมจะมีที่จอดรถไว้ให้บริการด้วย แต่เป็นการจอดแบบกลางแจ้ง

นอกจากที่จอดกลางแจ้งแล้ว ยังมีที่จอดรถในร่มที่ชั้น 2-5 เพิ่มเติมให้ด้วย ซึ่งที่จอดรถจะคิดเป็น 45% ของทั้งโครงการ โดยจำกัดความสูงของรถไม่เกิน 2.10 เมตร

ด้านนอกนี้ก็มีรถตู้ของโครงการจอดอยู่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Facilities ของโครงการ คอยบริการรับ-ส่งไปยังสถานที่สำคัญเช่น เซ็นทรัลพระราม 3 , โลตัส, สถานีรถ BRT ฯลฯ

เดินอ้อมมาดูทางด้านหลังของทางโครงการจะพบกับสิ่งอำนวยความสะดวกของคอนโด ซึ่งตั้งอยู่โซนด้านหลังริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยเป็นอาคารสองชั้น เรียกว่า Club House

Club House จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางของคอนโด รูปทรงทันสมัย ตัวตึกเป็นปูนเปลือยอยู่ติดกับสระว่ายน้ำของโครงการ 

ภายในตึกจะประกอบไปด้วยห้องฟิตเนส,ห้องอบไอน้ำ,พื้นที่นั่งเล่นและสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำจะเป็นอ่างจากุชชี่ กลางแจ้ง มี 2 สระด้วยกัน

ที่ล้อมด้วยต้นโสกน้ำ กับต้นปาล์ม โดยที่รอบสระก็มีที่ให้นั่งเล่นได้

ภาพถ่ายแบบ 360 องศาจากบริเวณด้านหลังอาคารติดแม่น้ำเจ้าพระยา  จะเห็นว่าจุดเด่นของโครงการ  U Delight Residence Riverfront Rama 3 คือความเป็นธรรมชาติ ด้วยพื้นที่มากกว่า 6 ไร่ทำให้มีการจัดสรรพื้นที่สำหรับปลูกพืชสีเขียวดูแล้วสบายตา

มีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นวิวดีๆ ดูแล้วชวนผ่อนคลาย

สำหรับใครที่อยากจะสนุกก็เชิญได้ที่สระว่ายน้ำ หรือเข้า Club House ซึ่งเป็น Facilities ของโครงการก็ได้

ด้านล่างของ Club House จะเป็นโซนนั่งเล่นพักผ่อน

มีเก้าอี้จัดวางไว้ให้นั่งเล่นชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา หรือนั่งพักหลังจากสนุกกับการว่ายน้ำในสระก็ได้   

เราพาเข้ามาชมใน Club House เริ่มต้นจากห้องฟิตเนส

จะมีลู่วิ่งไฟฟ้า 3 เครื่อง, เครื่องเดินวงรี 4 เครื่อง, เครื่องนั่งปั่นจักรยาน 1 เครื่อง เครื่องเล่นเวท 1 เครื่อง ที่ซิทอัพและชุดดัมเบลให้ด้วย

โซนนี้จะเป็นโซนของลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่องปั่นจักรยานและเครื่องเดินวงรี ขณะออกกำลังกายก็สามารถมองวิวแม่น้ำไปด้วยได้

ส่วนอีกฝั่งจะตั้ง

ที่ซิทอัพและชุดดัมเบลไว้ให้

มีเครื่องเล่นเวทวางติดกับกระจกบานใหญ่ อันที่จริงในส่วนของหน้ากระจกก็เหมาะกับการใช้เล่นโยคะกับเต้นแอโรบิกมากกว่าที่จะนำเครื่องเล่นเวทมาวางไว้แบบนี้

ด้านนอกห้องจะเป็นที่นั่งพักผ่อนให้หายเหนื่อยหลังจากการออกกำลังกาย ในมุมนี้สามารถมองออกไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาในมุม Panoramic

โดยเก้าอี้นั่งเล่นที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้จะทำมาจากโซฟา หวายเทียม มีเบาะนุ่มๆรองนั่งรับลมเย็นๆ ที่พัดมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา

ส่วนของห้องอบไอน้ำ และห้องซาวน่า 2 ห้องนี้จะอยู่ชั้นล่างใต้ห้องฟิตเนส ซึ่งจะมีบริการอย่างละห้อง

มาสำรวจกันต่อที่บริเวณชั้น G ของคอนโด ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้นั่งเล่น บรรยากาศดูโอ่โถง โล่งสบาย ลมพัดตลอดเวลา ห้องกระจกที่เห็นจะเป็นส่วนของห้องประชุมและห้องนิติบุคคล ทางฝั่งซ้ายมือจะมีห้องซักผ้า และทางลาดที่สามารถเดินขึ้นไปยังห้องสมุดได้

มุมมองจากฝั่งทางลาดที่เชื่อมไปยังห้องสมุด

พื้นที่ของห้องประชุมจะเป็นโต๊ะยาว พร้อมจอโปรเจ็กเตอร์ไว้สำหรับเปิดนำเสนอผลงาน

และไปดูภายในห้องซักผ้าสักนิด ในห้องจะมีเครื่องซักให้บริการอยู่ทั้งหมด 7 เครื่อง เครื่องกดน้ำอัตโนมัติอีก 1 เครื่อง และที่พิเศษคือ มีเครื่องอบผ้าให้บริการอยู่ด้วยเหมาะสำหรับวันที่ฝนตกหนักๆ ก็นำผ้าลงมาอบกันได้

โดยในห้องก็จะมีที่นั่งให้นั่งรอระหว่างที่เครื่องซักผ้ากำลังทำงานให้ด้วย

แต่หากใครไม่อยากนั่งรอเฉยๆ ก็สามารถเดินไปนั่งอ่านหนังสือรอในห้องสมุดที่อยู่ใกล้ๆได้

บรรยากาศภายในหอสมุด มีการตกแต่งด้วยการปูพื้นไม้ลามิเนตสีน้ำตาลอ่อน ตกแต่งแบ่งสัดส่วนของที่นั่งด้วยไม้ระแนงสีเดียวกันกับสีพื้น

ในห้องนี้มีหนังสือหลากหลายให้เลือกอ่าน

มีเก้าอี้นุ่มๆ พร้อมโต๊ะนั่ง ให้นั่งอ่านหนังสือในยามว่าง หรือจะเลือกนั่งที่โต๊ะแบบเคาน์เตอร์ริมหน้าต่างชมวิวไป อ่านหนังสือไปก็ดูสุนทรีย์ไปอีกแบบ

เดินกลับลงมาด้านล่างอีกรอบ ในอนาคต บริเวณสำนักงานขายด้านหน้าจะเป็น 7-11 ที่ลูกบ้านไม่ต้องกังวลถึงการจะจับจ่ายซื้อของเล็กๆน้อยๆ

ช่องทางเดินภายในอาคารชั้น 1 จะมีไม้ระแนงกั้นตลอดแนวเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย

เดินมาตามทางเรื่อยๆ ใกล้กับห้องประชุม จะเห็น Mail Box วัสดุทำมาจากไม้ดูเรียบง่าย สวยงาม

ลิฟต์ที่นี่จะมีทั้งหมด 5 ตัว โดยแบ่งออกเป็นลิฟต์โดยสาร 4 ตัว อยู่บริเวณทางขึ้นลงช่วงกลางอาคาร และลิฟต์ขนของ 1 ตัวจะอยู่ท้ายอาคาร

โดยลิฟต์ทุกตัวจะเป็นแบบล็อกชั้น ใช้ key card ใบเดียว เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน

ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตารางเมตร

เริ่มต้นกันกับห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม. เลย์เอาท์ของห้องนี้เหมาะสำหรับการอยู่คนเดียวหรือสองคน เพราะขนาดห้องค่อนข้างกะทัดรัด

บรรยากาศแบบ 360 องศาของห้อง รูปแบบห้องจะเป็นการวางโซนต่างๆแบบลึกเข้าไปเรื่อยๆ เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ มองตรงเข้าไปจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอน แต่ที่แปลกสักหน่อยคือการจัดวางห้องครัวไว้หลังห้องนอนอีกที ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็จะมีให้ครบครันทุกอย่าง (ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า)

เมื่อเข้าห้องมา ทางขวามือจะเป็นชั้นเก็บรองเท้า ในโซนห้องนั่งเล่นถัดมาก็จะเป็นชั้นวางทีวีที่ทำมาจากไม้ ตรงกันข้ามก็จะเป็นโซฟาที่มากับที่วางขาเอนกประสงค์ คือถ้าไม่ใช้วางขาก็สามารถเอาเบาะออกแล้วทำเป็นโต๊ะวางของได้  ทางซ้ายของโซฟาจะเป็นโต๊ะกินข้าวสไตล์โมเดิร์น ชิดฝาพนังซึ่งด้านบนจะเป็นตำแหน่งของแอร์  

และกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นด้วยกระจกใสบานเลื่อน ทำให้รู้สึกโปร่งโล่ง

ไม่อึดอัด

ภาพรวมของฝั่งห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องครัว

ในห้องนอนจะมีเตียงนอนขนาด 6 ฟุตโดยลูกเล่นที่น่าสนใจคือ บริเวณหัวเตียง ได้ Built-in ให้เป็นที่วางของเล็กๆและซ่อนหลอดไฟข้างใน ทำเป็นแสงบนหัวเตียง ด้านขวาของเตียงนอนจะเป็นกระจกใสที่สามารถนอนดูวิวแม่น้ำหรือสะพานได้อย่างชัดเจน ปลายเตียงเป็นที่ตั้งของตู้เสื้อผ้าแบบ Built-inกับโต๊ะนั่งทำงานขนาดกะทัดรัด ถัดจากตู้เสื้อผ้าจะเป็นประตูเข้าครัว

สำหรับโซนครัว การที่มีครัวอยู่ติดกับห้องนอนอาจะทำให้กลิ่นติดห้องนอนได้ และอาจจะไม่สะดวกสบายเวลาจัดปาร์ตี้ต่างๆที่ต้องทำครัว แต่ต้องเดินผ่านห้องนอน ส่วนนี้อาจจะทำให้รู้สึกไม่เป็นส่วนตัวสักเท่าไร

จากโซนครัวออกไปยังระเบียง พื้นระเบียงจะเป็นบันไดลงไปหนึ่งขั้น ด้านข้างมีเก้าอี้ไว้สำหรับนั่งเล่น ส่วนประตูเป็นกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีเทาเข้ม ตัวกระจกสีเขียวตัดแสงได้ดี

เลยห้องครัวออกมา จะเป็น Sunken balcony ที่ทางคอนโดภูมิใจนำเสนอ โดยลูกบ้านสามารถมานั่งพักผ่อน ทานอาหาร บริเวณระเบียงได้สบายๆ เพราะระเบียงกว้างขวางมากๆ

ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 51 ตารางเมตร

การจัดวางเลย์ เอาท์ของห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเพื่อนมาหาบ่อยๆ เพราะห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวางขึ้น

จากภาพแบบ 360 องศาจะเห็นได้ชัดเลยว่า ห้องรับแขกของเลย์เอาท์นี้จะกว้างขวาง เหมาะกับหนุ่มๆ สาวๆ ที่ชอบสังสรรค์ หรือชวนเพื่อนมาปาร์ตี้กันบ่อย

เข้ามาดูห้องน้ำกันก่อน เปิดประตูเข้ามาทางด้านซ้ายมือจะเป็นอ่างล้างหน้า ของ Charmer มีกระจกเงามาให้ ถัดเข้าไปจะเป็นชักโครกของ Kholer พร้อมสายชำระและที่ใส่ทิชชู่ ห้องน้ำมีการแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกเป็นสัดส่วน โดยกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน

ห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับโต๊ะรับประทานอาหาร และถัดไปก็เป็นส่วนของห้องครัว จะเห็นว่า ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีค่อนข้างกว้าง สามารถวางทีวีได้ถึงขนาด 40 นิ้วได้

โซนห้องนั่งเล่นจะมีโซฟารูปตัว L ตั้งอยู่ สามารถนั่งได้ 2-3 คน ด้านหน้าเป็นเบาะนั่งเล็กๆ ที่เมื่อนำเบาะออกจะกลายเป็นโต๊ะสำหรับวางของได้ด้วย

ถัดไปก็จะเป็นโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ที่สามารถนั่งได้ถึง 4 คน ต่อด้วยห้องครัวที่ติดกับระเบียง 

ประตูของห้องครัวเป็นแบบบานเลื่อน 2 ตอน ทำจากอลูมิเนียมสีเทาเข้ม กระจกเป็นกระจกใส

แต่เมื่อเลื่อนประตู 2 บานมาบรรจบกันก็จะสามารถเปลี่ยนวิธีการเปิดเป็นแบบบานพับได้ สร้างความสะดวกสบายในการใช้งานได้มากขึ้น

จากห้องครัวจะเป็นโซนระเบียง ประตูจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน กระจกเขียวใส ยกธรณีประตูสูงกันน้ำเข้าห้อง พื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้าง สามารถจัดปาร์ตี้นั่งเล่นได้สบายๆ

ส่วนห้องนอนก็จัดวางตำแหน่งได้อย่างลงตัว มีเฟอร์นิเจอร์เป็นเตียงนอน ชั้นวางของ โต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า และแอร์ 1 ตัว

เมื่อเดินเข้าห้องนอนมา จะเจอตู้เสื้อผ้ารูปตัว L แบบ Built-in ตั้งอยู่ตรงประตูทางเข้าห้อง แต่ละตู้เป็นแบบ 2 บานเลื่อน  จุเสื้อผ้าได้มาก ด้านบนมีพื้นที่ใช้วางของ มีลิ้นชักไว้ให้ใส่พวกเนคไท หรือเครื่องประดับต่างๆได้

กลางห้องนอนจะมีเตียงนอนขนาด 6 ฟุตอยู่กลางห้อง และมีชั้นวางของอยู่บริเวณปลายเตียง ทางเดินหน้าเตียงอาจจะแคบไปสักหน่อย

ส่วนโต๊ะทำงานตั้งอยู่ในด้านสุดติดกับผนัง สามารถมองเห็นวิวภายนอกขณะนั่งทำงานไปด้วย

ภาพวิวจากหน้าต่างของโต๊ะทำงาน สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วย

Showroom – ห้องตัวอย่าง

ทางเดินสู่ห้องพักจะปูกระเบื้องสีครีม พอโดนแสงจากหลอดไฟดาวน์ไลท์สีวอร์มแล้วทำให้รู้สึกสบายตา ซึ่งตลอดทางเดินจะมีกล้องวงจรปิด,ไฟสำรองฉุกเฉิน,ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้และสปริงเกอร์เป็นระยะๆ  ส่วนถังดับเพลิงและตู้เก็บสายฉีดน้ำจะอยู่ตรงสุดทางเดิน

2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว (68 ตรม.)

มาดูห้องตัวอย่างของห้องแบบ 2 ห้องนอนกันบ้าง เลย์เอาท์ของห้องขนาด 68 ตร.ม. นี้เหมาะสำหรับคนที่อยู่กันแบบครอบครัวๆ มาก เพราะมีถึง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ

นี่คือภาพบรรยากาศแบบ 360 องศาของห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ

ประตูห้องจะเป็น Upvc 4ลูกฟัก สีขาวที่มีด้ามจับเป็นสเตนเลสดูแล้วแข็งแรงดี

ภายในห้องใช้โทนสีเทาสลับขาว ซึ่ง

เหมาะที่จะเอามาใช้คู่กับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น ส่วนพื้นห้องนั้นจะเป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาล

จุดเด่นแรกที่ต้องพูดถึงคือ ช่องรับลมที่ดีไซน์ออกมาสำหรับคอนโดแห่งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะอยู่เหนือประตูทางเข้า พอเปิดพร้อมกับหน้าต่างในห้องจะช่วยให้ลมพัด ภายในห้องจะเย็นสบายโดยที่ไม่ต้องเปิดแอร์

ทำให้ช่วยประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี

เมื่อเข้าห้องมา ทางด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ประตูเป็น Upvc ใช้ลูกบิดสแตนเลสอย่างดี

ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีควันบุหรี่ขนาด 30 x 30 ซม. โดยทำระดับพื้นห้องกับพื้นห้องน้ำให้ต่างกัน เพื่อน้ำจะไม่เล็ดลอดเข้าห้อง

บรรยากาศโดรวมภายในห้องน้ำ จะเห็นว่ามีผนังด้านหนึ่งเป็นสีควันบุหรี่ ส่วนอีกสามด้านที่เหลือเป็นผนังฉาบเรียบสีขาว

ภายในห้องน้ำมีการแยกโซนเปียกและโซนแห้งออกจากกันทำให้เช็ดล้าง ทำความสะอาดได้ง่าย ใช้กระจกสีขุ่นบานเลื่อน 3 ตอนเป็นฉากกั้น กรอบกระจงทำจากอลูมิเนียม

ชุดฝักบัวเป็นแบบถืออาบ ใช้ของยี่ห้ออเมริกันสแตนดาร์ด

ในส่วนของสุขภัณฑ์ นั้นเป็นของ Kohler แบบใช้น้ำ 2.⁶⁄₄ ลิตร นั่งสบายด้วยโถนั่งแบบหน้ายาว ส่วนสายชำระก็เป็นของ Kohler เช่นกัน

เมื่อเข้าห้องมาแล้วด้านขวาจะเป็น ชั้นวางของแบบ Built-in ที่สามารถเก็บรองเท้าหรืออุปกรณ์ต่างๆได้

ติดกับห้องน้ำจะเป็นห้องนอนเล็ก เมื่อเข้าห้องมาจะอยู่ทางซ้ายมือ

ห้องนอนเล็ก ประตูของห้องด้านหนึ่งจะเป็น UPVC อีกด้านจะกระจกใสบานเลื่อน สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ภายในห้องมีเตียงเดี่ยวขนาด 3 ฟุต ตู้เสื้อผ้า Built-in โต๊ะทำงานและแอร์จาก Daikin 1 เครื่อง

หน้าตาของตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ประตูเป็น 2 บานเลื่อนด้านหนึ่งหน้าบานเป็นกระจกอีกด้านเป็นลายไม้สีน้ำตาลอ่อน

ส่วนถัดมาคือ ห้องนั่งเล่น จะมีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบ ทั้งเก้าอี้โซฟา 2 ที่นั่ง ชุดโต๊ะทานข้าว ชั้นวางทีวี ฯลฯ

ที่นั่งโซฟาเป็นผ้าอย่างดี มีหมอนอิงอีก 4 ใบจะนั่งหรือจะนอนดูทีวีก็สบายเหมือนกัน ส่วนชั้นวางทีวีจะทำมาจากไม้สไตล์โมเดิร์น (ส่วนชั้นวางของตรงผนัง คอนโดไม่ได้ให้นะ)

ด้านหลังเก้าอี้โซฟาจะเป็นโต๊ะทานข้าว ที่สามารถนั่งทานข้าวไปด้วย ดูทีวีไปด้วยก็ได้ โดยห้องครัวอยู่ถัดไปทางขวามือ มีประตูบานเลื่อนกั้นไว้

ภายในห้องครัวก็จะมีการจัดวางตำแหน่งที่เหมาะสมไว้เป็นตัวอย่าง โดยในห้องครัวของทางคอนโดมีหน้าต่างบานเลื่อนทำให้ห้องครัวดูสว่าง มีเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งมีช่องด้านล่างให้วางเครื่องซักผ้าและช่องใส่ไมโครเวฟให้ บนเคาน์เตอร์มีอ่างล้างจาน ส่วนเหนือเคาน์เตอร์ขึ้นไปจะเป็นชั้นวางของ และตู้เก็บของมาให้

ตัวเคาร์เตอร์จะเป็นแบบ Built-in รูปตัว L วัสดุท็อปเคาน์เตอร์จะเป็นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ที่ทนทานและดูแลรักษาง่าย

มีอ่างล้างจานให้ แต่ไม่มีส่วนที่พักจาน อาจจะซื้อชั้นสำหรับวางจานมาใช้เพิ่มเติมได้

ครัวในส่วนระเบียงที่ติดกับห้องครัวจะมีจุดน่าสนใจอีกอย่างคือ

Sunken Balcony

ที่กว้างขวาง สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารพร้อมนั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เวลาก้าวลงมาต้องระวังสักเพราะมีขั้นบันไดอีกสเต็ป

หลายคนอา

จสงสัยว่าคอมเพรสเซอร์แอร์หายไปไหน เพราะปกติควรจะอยู่ตรงระเบียง แต่ที่นี่นำไปซ่อนในที่ลับตา เพื่อที่ลูกบ้านจะได้ใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างเต็มที่

จากระเบียงยังสามารถเดินเชื่อมไปยังห้องใหญ่ได้ โดยผ่านประตูกระจกบานเฟี้ยม ยกธรณีประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อยกันน้ำฝนจากทางด้านนอกเข้ามาสู่ตัวห้องได้ดี

บรรยากาศโดยรวมของห้องนอนใหญ่ ห้องนี้ตกแต่งให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายด้วยโทนสีน้ำตาล-ขาว

ในห้องนอนใหญ่จะมีเตียงขนาด 6 ฟุตอยู่กลางห้องนอน ใต้เตียงจะมีลิ้นชักเอาไว้เก็บของ และยังมีโต๊ะข้างเตียงที่ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญเอาไว้วางโทรศัพท์มือถือ นาฬิกาปลุก หนังสือ ฯลฯ

ในส่วนโต๊ะทำงาน จะอยู่ข้างเตียงหันหน้าออกนอกหน้าต่าง สามารถนั่งทำงานไปด้วย มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วยได้ และมีแอร์Daikin แถมให้อีก 1 ตัว

บริเวณปลายเตียงจะมีชั้นวางแบบ Built-in ที่สามารถใช้เป็นที่วางทีวี ร่วมกับโต๊ะเครื่องแป้ง ทางเดินด้านหน้าเตียงก็ยังมีพื้นที่เหลือกว้างพอให้เดินผ่านได้สะดวก

ตู้เสื้อผ้าก็จะเป็น

Built-in

 แบบ 4 บานอยู่ 2 ตู้ทั้งด้านซ้าย-ขวา สามารถเก็บเสื้อผ้าได้ทั้งแบบพับหรือแบบแขวน

ในส่วนห้องน้ำก็จะเป็นแบบแยกพื้นที่เปียกกับพื้นที่แห้งเหมือนกับห้องน้ำข้างนอกห้องนอน

วิเคราะห์โครงการ U Delight Residence Riverfront Rama 3

ทำเล : โครงการU Delight Residence Riverfront Rama 3 ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ด้านหลังของโครงการติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาในด้านของการเดินทาง เส้นพระราม 3 เป็นถนนเส้นหลักสายยาวมีจุดเชื่อมต่อกับถนนเส้นอื่นๆอีกหลายสาย ใกล้กับทางด่วนอุตสาหกรรม ดูแล้วก็เดินทางสะดวกถ้าหากต้องเดินทางไปทำงานในตัวเมือง แต่ด้านระบบขนส่งมวลชนอาจจะไม่สะดวกสักเท่าไรเพราะใกล้เพียง BRT วัดปริวาส ซึ่งไม่ได้รวดเร็วมากนัก เพราะต้องวิ่งบนถนนเช่นเดียวกันกับรถยนต์ส่วนตัว ยิ่งตอนชั่วโมงเร่งด่วนด้วยแล้ว อาจจะทำให้การเดินทางล่าช้า ควรเผื่อเวลาในการเดินทาง

สภาพแวดล้อม : โดยรอบของโครงการอาจจะไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเช่นศูนย์การค้าใหญ่ๆ คอยให้บริการ แต่ก็ยังพอมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกซื้ออยู่บ้างประปราย ตลาดที่ใกล้ที่สุดจะเป็นตลาดโพงพาง สามารถแวะเข้าไปเลือกซื้ออาหารกันได้ แต่ถ้าใครติดใจการชอปปิ้งบนห้างใหญ่ๆ อาจจะต้องเสียเวลาในการเดินทางสักเล็กน้อย เพราะตัวห้างไม่ได้อยู่ในระยะที่ใกล้มากพอจะเดินไปถึง ห้างที่ใกล้ๆ กับตัวโครงการก็จะเป็น เซ็นทรัล พระราม 3 และโลตัสพระราม 3 หรือจะเดินทางไปนั่งชมวิวทิวทัศน์ริมน้ำ ดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็นที่เอเชียทีคก็อยู่ไม่ไกลมากนัก

แบบห้อง : แบบห้องจะเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาพร้อมเข้าอยู่ได้เลย สำหรับด้านการออกแบบก็มีห้องให้เลือกหลากหลายขนาด มีทั้งแบบ 1Bedroom และ 2Bedroom ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน

สิ่งอำนวยความสะดวก :  ถือว่ามี Facilities ให้มาครบครันดี ทั้งที่จอดรถที่มีทั้งแบบกลางแจ้งและในร่ม มีฟิตเนส 1 ห้อง  , ห้องซาวน่า 1 ห้อง, สระว่ายน้ำ , ห้องสมุด 1 ห้อง , ห้องประชุม 1 ห้อง ,ห้องซักผ้า ,พื้นที่สีเขียว แต่ก็ต้องคำนึงถึงจำนวนยูนิตที่มีมากกว่าพันยูนิตว่า จะเพียงพอมาก-น้อยแค่ไหน อาจจะต้องแบ่งเวลาในการเข้าใช้บริการไว้บ้าง

โครงการ U Delight Residence Riverfront Rama 3

เป็นโครงการที่มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ และแม้จะไม่ได้อยู่ในใจกลางเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่าน หรือรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก แต่จุดเด่นของที่นี่คือ การได้ใช้ชีวิตเงียบๆ เป็นส่วนตัวใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน อีกทั้งเมื่อเทียบราคากับคอนโดใกล้ๆกันแล้วที่นี่ก็ถือว่าถูกที่สุด ถึงบรรทัดนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อแล้วว่า สิ่งที่คอนโดแห่งนี้มีให้นั้น ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองหรือไม่?

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ 

U Delight Residence Riverfront Rama 3

สำหรับโลเคชันโดยรอบของโครงการ U Delight Residence Riverfront Rama 3 จะเห็นว่าตัวโครงการมีทำเลทางเข้า-ออก ติดกับถนนใหญ่อย่างถนนพระราม 3  ทางด้านหลังของโครงการติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีวิวสวยๆ ไว้ให้ชมกัน รอบด้านก็มีทั้งวัดปริวาส โกดัง และที่ดินเปล่า เป็นพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนอีกฝั่งของถนนจะเป็นโซนที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์

รอบๆโครงการอาจจะไม่ได้มีความเจริญอะไรสักเท่าไหร่ เน้นหนักไปที่การอยู่อาศัย ไม่ได้มีอาคารสูงอย่างสำนักงานหรือห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ในระยะเดินถึง แต่ในระยะไม่เกิน 6 กิโลเมตรก็จะมีทั้ง

เซ็นทรัลพระราม 3

, โลตัสพระราม3 ซึ่งสามารถเดินทางไปถึงภายใน 10 นาที

ในช่วงเร่งด่วนการจราจรค่อนข้างติดขัด เพราะเป็นถนนหลักเส้นยาวที่เชื่อมต่อกับถนนอีกหลายสาย แต่ข้อดีคือไม่เปลี่ยวสำหรับสาวๆที่ต้องเดินทางคนเดียว ใกล้ๆกันก็มีสถานี BRT วัดปริวาส เดินไปใช้งานได้ในระยะทาง 150 เมตร