รูปหน้าปก โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) คอนโดมิเนียม High Rise วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง

[Review] โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) คอนโดมิเนียม High Rise วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลไทรม้า อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

Review info

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ต้องการซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้ากันทั้งนั้น แต่คอนโดติดรถไฟฟ้าก็มักจะอยู่ใจกลางเมืองที่มีตึกสูงระฟ้าบดบังทัศนียภาพกันเป็นทิวแถว บางทีก็อยากจะได้วิวธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดกันบ้าง แล้วจะมีคอนโดไหนตอบโจทย์ทั้งการเดินทางและวิวสวยบ้างนะ?

ในวันนี้เราจึงจะพาทุกทานไปรู้จักกับ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) คอนโดมิเนียม High Rise วิวเเม่น้ำเจ้าพระยา แถมอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีไทรม้า ในระยะเพียง 140 เมตร ตอบโจทย์ทั้งคนชอบวิวสวยและต้องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ตัวโครงการจริงจะน่าสนใจขนาดไหน เราไปติดตามชมในรีวิวพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

Location

ที่ตั้งโครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet)

image

แผนที่จากโครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) ตั้งอยู่บน ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลไทรม้า อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เป็นอีกหนึ่งคอนโดมิเนียมที่อยู่ติดกับแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง และโดดเด่นในเรื่องวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

image

โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสายสำคัญอย่างถนนรัตนาธิเบศร์อยู่ระหว่างสะพานพระนั่งเกล้า ช่วงที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนรัตนาธิเบศร์และถนนราชพฤกษ์ (วงเวียนรัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์)

เนื่องจากเป็นคอนโด High Rise ที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ จึงถือเป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่ทำงานหรืออยู่อาศัยในโซนรัตนาธิเบศร์, งามวงศ์วาน-แครายที่ต้องการจะเป็นเจ้าของคอนโดราคาเบาๆ จับต้องได้ง่าย เพียงแค่คุณเลือกที่จะขยับมามองหากันไกลจากถนนงามวงศ์วาน-แครายอีกสักนิด ก็จะได้คอนโดที่ราคาประหยัดและคุ้มค่ากว่า แถมยังได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาและเดินทางได้ง่ายหลากหลายรูปแบบ คอนโด โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยในการเลือกซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัย

image

ด้านการเดินทางโดยการใช้รถยนต์ก็ค่อนข้างสะดวก แต่จะติดในช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะอยู่ใกล้กับสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นคอขวดของสะพานข้ามแม่น้ำ ผ่านสะพานไปแล้วก็ยังจะไปเจออีกหนึ่งด่านรถติดบริเวณแยกแคราย ใครที่จะใช้รถ-ใช้ถนนในการเดินทางเข้าตัวเมืองก็ต้องศึกษาทางหนีทีไล่ในย่านนี้กันให้ดีสักหน่อย เผื่อจะเลี่ยงรถติดได้บ้าง

ถนนรัตนาธิเบศร์ยังเชื่อมต่อกับถนนอีกหลายเส้นทาง ดังนี้

เส้นทางที่ 1 ถนนราชพฤกษ์ ถ้าขับมุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือจะมุ่งไปบางคูวัด ลงทิศใต้ก็ไปเพชรเกษมเข้าถึงสาทร ซึ่งเป็นตัวเมืองของกรุงเทพมหานครได้

เส้นทางที่ 2 ถนนบรมราชนนีฝั่งขาออกเมืองมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม หากจะเข้าเมืองก็วิ่งเส้นบรมราชชนนีผ่านปิ่นเกล้า เข้าถนนราชวิถี ถึงอนุสาวรีย์ได้สบายๆ 

เส้นทางที่ 3 ส่วนถ้าใครจะไปบางบัวทองก็เลือกใช้เส้นทางต่อไปยังถนนบางกรวยไทรน้อย หรือใครจะขับไปเที่ยวสุพรรณบุรีก็เลือกใช้ถนนกาญจนาภิเษกก็ได้เช่นเดียวกัน 

เรียกว่าเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลักๆ หลายสาย เป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางได้ ก็ต้องลองศึกษาดูว่าเส้นทางไหนเร็วที่สุด และเหมาะสมกับเวลาของเรามากที่สุด จะได้เลี่ยงปัญหารถติดของย่านนี้ไปได้

image

การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์นั้นสะดวกสบายมาก เนื่องจากคอนโดอยู่ในทำเลที่ติดกับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีไทรม้า ใกล้กับบันไดขึ้น-ลงสถานี ในระยะเดินถึงเพียง 140 เมตรเท่านั้น เรียกว่าออกมาจากคอนโดก็เจอรถไฟฟ้าเลย

ส่วนการโดยสารระบบขนส่งมวลชนด้านอื่นๆ ก็มีรถโดยสารประจำทางให้บริการอยู่มากมาย มีป้ายรถเมล์อยู่ในระยะเดินถึง นอกจากนั้นก็มีแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ รวมไปถึงในอนาคตมีโครงการที่จะสร้างท่าเทียบเรือใต้สะพานพระนั่งเกล้าเพิ่มขึ้นอีก 1 จุด เพื่อรองรับการโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาของคนในย่านนี้ ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในปลายปี 2560 ก็ถือว่ามีความหลากหลายด้านการคมนาคมที่ช่วยเลี่ยงรถติดบนท้องถนนหลายๆ ชั่วโมงต่อวันได้

การเดินทาง

image

เราเลือกการเดินทางด้วยวิธีการขับรถยนต์ส่วนตัว โดยเริ่มจาก ถนนวิภาวดี-รังสิต → แยกแคราย → ถนนรัตนาธิเบศร์ → ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า → ถึงโครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet)

image

จากถนนวิภาวดี-รังสิตให้สังเกตป้ายมุ่งหน้าไปยังแคราย โดยเลี้ยวซ้ายไปตามลูกศร

image

มาถึงแยกแครายซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรถติดกันแล้ว จากแยกแครายจะใช้ระยะทางอีกประมาณ 6.3 กม. จึงจะถึงที่ตั้งของคอนโด ถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนนี่รถคงจะจอดรอไฟแดงกันนานหน่อย ถ้าจะไปเยี่ยมชมคอนโดก็ควรเลือกช่วงเวลาในการมาให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะได้เผชิญกับรถติดบริเวณแยกนี้ได้

image

จากแยกแครายจะผ่านห้างเอสพลานาด รัตนาธิเบศร์ และเทสโก้ โลตัส รัตนาธิเบศร์ ทางขวามือ ใครอยากจะเเวะก็ต้องชิดซ้ายไปเพื่อกลับรถทางด้านหน้า

image

ขับรถตามรอยเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงไปเรื่อยๆ

image

มาถึงสถานีบางกระสอกันแล้ว

image

บริเวณสถานีบางกระสอนี้เองมีห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี รัตนาธิเบศร์อยู่บริเวณประตูทางออกที่ 2 เดินจากสถานีไปไม่นานก็ถึง

image

ขับตรงมาจะเจอป้ายมุ่งสู่บางบัวทอง ถนนกาญจนาภิเษก ขับตามป้ายไปเลย

image

หลังจากนั้นจะเจอกับห้างหลักของคนแถวนี้นั่นคือ เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์

image

เลยเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์มาอีกหน่อยจะเป็นสถานีแยกนนทบุรี 1

image

ให้ยึดการเดินทางตามป้ายบางบัวทอง ถนนกาญจนาภิเษกไปเรื่อยๆ อีกไม่นานเราจะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยสะพานพระนั่งเกล้ากัน

image

ข้ามสะพานลงมาเรียบร้อย ให้ขับเบี่ยงออกเลนขนานและชิดซ้ายเข้าไว้ เพราะสำนักงานขายของ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) อยู่อีกไม่ไกล

image

เบี่ยงออกมาเลนขนานเเล้ว จะเจอโชว์รูมของ IZUZU และสถานีไทรม้า สำนักงานขายจะอยู่ก่อนสะพานเชื่อมทางขึ้น-ลงด้านหน้าเล็กน้อย

image

สำนักงานขายจะอยู่ติดกับถนนรัตนาธิเบศร์เลย แต่ต้องระวังว่าจะขับเลยกันสักนิด ส่วนในอนาคตบริเวณสำนักงานขาที่เห็นจะรื้อถอนเเละกลายเป็นทางเข้า-ออกของโครงการ

Environment

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet)

image

คอนโด โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) วางผังอาคารในแนวทิศเหนือ-ใต้ หันทางโครงการเข้าถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งอยู่เยื้องกับรถไฟฟ้าสถานีไทรม้า หากดูสภาพแวดล้อมตามทิศที่ตั้งของอาคารจะเป็นดังต่อไปนี้

ทิศเหนือ ติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ สถานีรถไฟฟ้าไทรม้า ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่า

ทิศใต้ ติดกับที่อยู่อาศัยและหมู่บ้านนราธิป

ทิศตะวันออก ติดกับแหล่งที่อยู่อาศัยทั้งอาคารบ้านเรือนและคอนโดมิเนียม

ทิศตะวันตก ติดกับซอยเข้า-ออกของหมู่บ้านนราธิป

ดูภาพรวมแล้วเป็นนทำเลที่ไม่มีปัญหาในเรื่องของการสร้างตึกสูงในระยะประชิด วิวทางด้านทิศเหนือ-ใต้ และตะวันตกไม่มีอาคารใดบดบัง แต่ในทางทิศตะวันออกอาจจะโดนคอนโดมิเนียม D-Condo ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้นที่อยู่ใกล้ๆ กัน บังวิวทิวทัศน์ของชั้น Facilities ไปบ้างบางส่วน แต่ในส่วนของห้องพักอาศัยนั้นไม่มีปัญหา จะได้ชมวิวเเม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแน่นอน

image

เราลองมาเดินดูรอบๆ โครงการกันสักหน่อย เริ่มจากทางขวามือของโครงการ เลยสถานีรถไฟฟ้ามาจะมีจุดหยุดรถประจำทางอยู่ เอาจริงๆ ป้ายรถเมล์แถวนี้อยู่ค่อนข้างห่างกันตามสไตล์ชานเมือง แต่จากตัวโครงการมาก็ไม่ได้ถือว่าไกลอยู่ในระยะเดินถึงได้สบายๆ

image

สถานีที่อยู่ใกล้กับคอนโดมากที่สุดคือ สถานีไทรม้า ซึ่งเป็นสถานีที่ 7 ของรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน

image

บรรยากาศของสถานี ทางขึ้น-ลงอยู่ใกล้กับคอนโดมากๆ แค่ 140 เมตรเท่านั้น

image

เวลาเดินก็ไม่ต้องกลัวเปียกฝนเพราะมีทางเชื่อมต่อจากสถานีลงมาถึงด้านล่าง เดินต่อเข้าโครงการอีกหน่อยเดียว

image

สภาพท้องถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออกเมือง รถที่ใช้ถนนสายนี้ปกติจะมีทั้งรถเล็กและรถใหญ่ เพราะเป็นถนนที่เชื่อมต่อออกไปยังต่างจังหวัดอย่างจังหวัดสุพรรณบุรี (วิ่งผ่านถนนกาญจนาภิเษก) จังหวัดนครปฐม (วิ่งผ่านถนนราชพฤกษ์เข้าถนนบรมราชชนนี) หรือจะวิ่งออกบางกรวย-ไทรน้อยก็ได้

image

ฝั่งขาเข้าเมืองอาจจะมองไม่ชัดเท่าไร เอาเป็นว่าในช่วงเวลาเร่งด่วนปริมาณรถนี่เยอะไม่แพ้ในตัวเมืองเลย เวลาจะออกไปทำงานก็ควรเผื่อเวลากันดีๆ ส่วนฝั่งขาออกเมือง ใกล้ๆ กับสถานีไทรม้าจะมีปั๊ม บางจากอยู่ไม่ไกลกันนัก

image

บริเวณคอนโดไม่ได้คึกคักคึกครื้นสักเท่าไร อาจจะไม่ได้อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยของกิน แต่ก็พอมีร้านอาหารตั้งให้เห็นอยู่บ้าง

image

ฝั่งตรงข้ามจะมีหมู่บ้านลัดดารมย์ ร้านค้าและที่อยู่อาศัยแนวราบ

image

เดี๋ยวเราลองไปสำรวจทางซ้ายมือของโครงการกันดูบ้าง

image

ทางซ้ายมือหรือทางทิศตะวันตกของโครงการจะอยู่ติดกับทางเข้า-ออกของหมู่บ้านนราธิป มีร้านอาหารครัวแม่ทิพย์เปิดให้บริการอยู่ ยังไงก็ลองมาฝากท้องกันได้

image

ดูแผนที่ระยะไกลกันสักนิด จะเห็นว่าบริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ไม่ได้อุดมสมบูรณ์ด้านอาหารการกินมากนัก เน้นการอยู่อาศัยแบบสงบๆ เป็นส่วนตัวมากกว่า ดังนั้นสถานที่ยอดนิยมในการเดินเลือกซื้อของและท่องเที่ยวของคนในย่านนี้จึงอยู่ไกลออกไปอีกหน่อย เกือบจะถึงแยกแคราย หรือไม่ก็ช่วงบางใหญ่ไปเลย

image

สถานที่ยอดนิยมก็จะเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังทั้งหลาย ใกล้ๆ หน่อยก็จะมีเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ เดินทางไปประมาณ 5.1 กม.ก็ถึง

image

ห้างเอสพลานาด รัตนาธิเบศร์ และเทสโก้ โลตัส รัตนาธิเบศร์ ห่างจากโครงการไป 7.3 กม. หรือถ้าใครไม่อยากขับรถก็ขึ้นรถไฟฟ้าไปลงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีแล้วต่อรถเมล์ หรือรถสองแถวก็ได้เหมือนกัน

image

ไกลหน่อยก็จะเป็นห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านบางใหญ่ ว่างๆ ก็ไปเดินเล่นได้ ระยะทางอยู่ที่ 9.3 กม.

Showroom

สำนักงานขายของโครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet)

image

มาเยี่ยมชมสำนักขายของโครงการกันบ้าง สำนักงานขายของ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) จะตั้งอยู่ติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ สังเกตเห็นได้ง่ายอยู่ใกล้ๆ กับสถานีไทรม้า

image

ป้ายด้านหน้าสำนักงานขาย ตั้งโดดเด่น ย้ำให้รู้ว่ามาถูกที่แล้ว

image

เดินเลาะมาด้านข้างจะเห็นที่ตั้งของคอนโด ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง เดี๋ยวตามไปดูความคืบหน้ากันสักหน่อยดีกว่า

image

คอนโด โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 ที่ผ่านมาตอนนี้ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างให้เห็นกันแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จพร้อมให้ลูกบ้านเข้าอยู่ได้ประมาณเดือน มิถุนายน 2561

image

ย้อนกลับมาที่สำนักงานขาย เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปเยี่ยมชมด้านในและสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคอนโดมาฝากกัน

image

เปิดประตูเข้ามาด้านในเรียบร้อยก็เจอกับชุดเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้สำหรับแขกที่เข้ามาเยี่ยมชม และมีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ให้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคอนโด ใครแวะมาก็สามารถซักถามข้อสงสัยจากพนักงานได้เลย

image

ที่นี่ตั้งโมเดลไว้ให้เยี่ยมชมกันด้วย สเกลโมเดลค่อนข้างใหญ่ ครอบไว้ด้วยกระจกอะคลินิคใส

image

เริ่มกันที่ทางเข้าของโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าเพียง 140 เมตร เป็นระยะที่เดินถึงได้สบายๆ

image

เป็นข้อดีของโครงการที่อยู่ใกล้กับตัวสถานี เวลาฝนตกก็ไม่ต้องกลัวเปียกเดินลงมาจากทางเชื่อมนิดเดียวก็ถึงหน้าคอนโดแล้ว

image

จุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้คือการจัดสรรพื้นที่จอดรถให้กับผู้อยู่อาศัยถึง 100% โดยที่จอดรถจะอยู่ในชั้น 2-7

image

Facilities หลักๆ จะอยู่ที่ชัั้น 8 ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ และทำการแยกสระเด็กให้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน, ห้องฟิตเนส, พื้นที่เอนกประสงค์สำหรับนั่งเล่น อ่านหนังสือหรือชมวิว,สวนลอยฟ้า และสนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่น

Insight

เจาะลึกภาพรวมโครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet)

image

โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) เป็นคอนโดมิเนียมประเภท High Rise สูง 34 ชั้น 1 อาคาร จากบริษัท โกรว พร็อพเพอตี้ จำกัด ลักษณะอาคารเป็นเเนวโมเดิร์น การใช้สีจะเป็นไปในโทนสีขาว, เทาและดำ เน้นความเรียบง่ายแต่ร่วมสมัย และยังโดดเด่นในเรื่องของวิวสวยใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา

image

จัดเป็นคอนโดมิเนียมที่ตอบสนองความต้องการของชีวิตได้ดีในด้านการเดินทาง เพราะโครงการอยู่ติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ ไม่ต้องเข้าซอยกันให้เสียเวลา

image

นอกจากจะอยู่ติดกับถนนใหญ่แล้วยังอยู่ติดกับสถานีไทรม้า สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน ตอบโจทย์การเดินทางหลากหลายรูปแบบ

image

จุดขึ้น-ลงของสถานี ในทางออกที่ 4 จะอยู่ใกล้กับด้านหน้าโครงการระยะประมาณ 140 เมตร เดินถึงได้สบายๆ

ผังอาคาร

image

เริ่มต้นการเจาะลึกภาพรวมกันที่ Master Plan ของคอนโด หน้าโครงการอยู่ติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ การเข้า-ออกโครงการจะเป็นในลักษณะของการขับรถสวนกัน โดยถนนทางเข้าโครงการจะกว้างประมาณ 12 เมตร สำหรับใครที่ไม่ใช้รถ ด้านหน้าโครงการจะมีจุดขึ้น-ลงรถไฟฟ้า สถานีไทรม้า ภายในโครงการด้านหน้าเป็นพื้นที่ของอาคารสำนักงานใหญ่ ด้านล่างจัด Facility เป็นสวนหย่อมให้สำหรับพักผ่อน ด้านซ้ายของสวนหย่อมจะเป็นทางเข้าสู่ล็อบบี้ มีร้านค้าและร้านกาแฟเปิดให้บริการอยู่ด้านใน เดินเลี้ยวซ้ายไปจะเจอลิฟต์โดยสาร, บันไดหนีไฟและลิฟต์ขนของ ส่วนลานจอดรถจะเป็นลานจอดตั้งแต่ชั้น 2-7 โดยคิดเป็น 100% หรือ 374 คัน (ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน) ตกห้องละ 1 คน ใช้ระบบคีย์การ์ดในการเข้า-ออก เพื่อความปลอดภัย

image

ภาพจำลองบรรยากาศทางเข้า-ออกของคอนโด โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) ด้านข้างเป็นทาเชื่อมขึ้น-ลงจากสถานีไทรม้า

image

บรรยากาศจำลองสวนหย่อมของโครงการ

image

กระโดดขึ้นมาที่ชั้น 8 กันต่อ ชั้นนี้เป็นชั้นที่รวบรวมพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ ของคอนโดเอาไว้ ประกอบด้วยสระว่ายน้ำผู้ใหญ่ระบบเกลือ ขนาด 27 เมตร และแยกสระเด็กให้เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ด้านข้างสระจัดเป็นเตียงนอนริมสระไว้ให้นอนอาบเเดด หรือพักผ่อนหลังจากเล่นน้ำเสร็จ นอกจากนั้นยังจัดพื้นที่เอนกประสงค์ไว้ให้สำหรับนั่งพบปะ สังสรรค์ อ่านหนังสือ หรือจะเดินชมวิวรอบๆ สวนลอยฟ้าก็ได้ แต่ถ้าใครอยากได้มุมสงบๆ เหมาะกับการอ่านสักหน่อยก็มีห้องอ่านหนังสือจัดแยกไว้ให้อีก ใครที่ชอบออกกำลังกายก็มีห้องฟิตเนส พร้อมเครื่องเล่นครบครันจัดไว้ให้บริการ และในชั้นดาดฟ้าเองก็มีสวนดาดฟ้าและทางเดิน-วิ่งจ๊อกกิงเพิ่มให้ด้วย

image

ภาพจำลองบรรยาศของ Facilities ในชั้น 8 จากมุมสูง

image

ภาพจำลองบรรยากาศของสระว่ายน้ำ ด้านข้างตั้งเตียงริมสระไว้ให้นอนชมวิวและพักผ่อน

image

ภาพจำลองพื้นที่เอนกประสงค์ที่จัดเตรียมไว้ให้เป็นโซฟายาว สำหรับนั่งสังสรรค์ร่วมกัน อยู่ติดกับสระว่ายน้ำพอดี

image

ด้านข้างโซฟาทำเป็นกระจกใสสูง เพื่อให้มองเห็นทัศนียภาพจากภายนอก เวลาเย็นๆ ก็ได้บรรยากาศดีๆ ในอีกรูปแบบหนึ่ง

image

บรรยากาศจำลองภายในห้องฟิตเนส มีอุปกรณ์เตรียมไว้ให้ครบครัน พร้อมกับติดกระจกใสให้ด้านหนึ่งสำหรับชมวิวด้านนอก

image

โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 364 ยูนิต เฉลี่ยจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นอยู่ที่ 14 ยูนิต ก็ถือว่าไม่หนาแน่นและมีความเป็นส่วนตัวดี โดยรูปแบบห้องในแต่ละชั้นจะคละแบบกันไป แต่รูปแบบที่มีมากที่สุดจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. ส่วนห้องมุมจะเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ทั้งขนาด 58 ตร.ม. และ 76 ตร.ม. ด้านการวางโถงลิฟต์จะค่อนมาทางทิศตะวันตก ผู้อาศัยที่อยู่ทางตะวันออกต้องเดินมาใช้งานลิฟต์กันไกลสักหน่อย บันไดหนีไฟมีให้ทั้งหมด 2 จุด อยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกและตรงข้ามกับโถงลิฟต์ของอาคาร

ผังห้อง

image

image

ขนาดห้องที่เล็กที่สุดของทางโครงการจะเป็นแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. จะมีอยู่ด้วยกัน 2 Type คือ A1 และ A2 โดยต่างกันตรงที่การวางผังห้อง ห้องใน Type นี้เป็นแบบห้องที่มีมากที่สุดในโครงการ มีการวางผังห้องออกเป็น 5 ส่วนคือ ส่วนครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำและระเบียง

image

แบบต่อมาก็เป็นห้องแบบ 1 Bedroom เช่นกัน แต่พื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่าห้องแรกเป็น 42 ตร.ม. ห้องไซส์นี้จะเป็นห้องมุมที่อยู่ติดกับโถงลิฟต์ คนชอบความเป็นส่วนตัวอาจจะไม่ชอบสักเท่าไร เพราะใครจะมาขึ้นลิฟต์ก็ต้องเดินผ่านหน้าห้องเป็นประจำ แต่ก็มีข้อดีคือ อยู่ใกล้กับลิฟต์ ตื่นปั๊บออกจากห้องมาก็เจอลิฟต์ปุ๊บ ไม่ต้องเสียเวลาเดินไกล ด้านฟังก์ชันภายในห้องจะมีเพิ่มในส่วนของห้องทำงานเข้ามา และได้พื้นที่ในส่วนต่างๆ เยอะขึ้นจากห้องขนาด 35 ตร.ม.

image

image

สำหรับ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 58 ตร.ม. จะมีด้วยกัน 2 Type ได้แก่ B1 และ B2 ต่างกันแค่ห้องที่สลับด้านกัน เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวก่อน ห้องแบบ 2 Bedroom จะได้ครัวแบบปิด ป้องกันกลิ่นอาหารลอยมาติดเฟอร์นิเจอร์ ห้องน้ำจะมีให้ห้องเดียว ถ้าเดินมาจากห้องนอนเล็กจะค่อนข้างไกลสักหน่อย

image

ห้องสุดท้ายเป็นห้องแบบ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 76 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้าง ถ้าแบ่งครึ่งห้องตามแนวยาวจะแยกเป็นส่วนของงานระบบและโซนพักผ่อน มีห้องน้ำให้ 2 ห้องตั้งอยู่ในมุมที่เข้าใช้งานได้สะดวก ครัวที่ได้เป็นครัวระบบปิด ซึ่งดีต่อการทำอาหาร และในโซนพักผ่อนจะออกแบบให้ห้องนอนทั้ง 2 ห้องและห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียงและหน้าต่างที่สามารถชมวิวในมุมพาโนรามาได้เต็มตา

1 BR 35 sq.m. (A1)

ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. (A1)

สำหรับห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดไว้ให้เข้าชมจะมีแค่ห้องแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. แต่จะมีให้ชมทั้งแบบ A1 และ A2 ทางโครงการขายห้องทุกห้อง (ทั้ง 1 Bedroom และ 2 Bedroom) แบบ Fully Fitted สิ่งที่โครงการให้จะมีแค่ ชุดครัว สุขภัณฑ์ แอร์และฉากกั้นห้อง ดังนั้นผู้ซื้อควรจะเผื่องบประมาณสำหรับตกแต่งกันไว้สักหน่อย

image

เริ่มต้นกันที่ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. (A1) กันก่อน ห้องที่นี่ทำฝ้าค่อนสูงอยู่ที่ 2.7 เมตร ทำให้ภายในห้องดูกว้างและโปร่งกว่าห้องในคอนโดมิเนียมโดยทั่วไป และเมื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้อง ส่วนเเรกที่เจอจะเป็นห้องครัวแบบเปิด เคาน์เตอร์ครัววางยาวไปกับผนัง ซึ่งครัวแบบเปิดนี้เหมาะกับการทำอาหารเบาๆ มากกว่าทำอาหารกันเเบบจริงจัง ตรงข้ามครัวจะเป็นห้องน้ำมีสุขภัณฑ์ให้ครบ ติดกับห้องครัวจะเป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่ค่อนข้างเล็กไปสักหน่อยระยะห่างระหว่างทีวีถึงโซฟาแค่ 90 ซม. เท่านั้น ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นระเบียง ส่วนห้องนอนจะอยู่ตรงข้ามกับห้องนั่งเล่นกั้นด้วยกระจกใสแบบบานเลื่อน 3 ตอน และประตูไม้แบบเลื่อนทำเป็นมุมชนกัน ซึ่งประตูไม้นั้นเป็นประตูชิ้นเดียวกันกับที่ใช้ปิดช่องตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ก็ถือว่าค่อนข้างแปลก และอาจจะสร้างปัญหาให้คุณในการจัดสรรพื้นที่ภายในห้องได้

image

เมื่อเปิดประตูเข้ามาส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องครัว ทางโครงการจัดทำเคาน์เตอร์ครัวแบบ Built-in มาให้ ส่วนพื้นที่ฝั่งตรงข้ามในห้องจริงจะเป็นผนังโล่งๆ ชุด Built-in ที่เห็นติดตั้งมาให้ดูเป็นไอเดีย สำหรับเพิ่มพื้นที่เก็บของภายในห้อง พื้นครัวปูด้วยกระเบื้องสีครีมผิวด้านขนาด 60x60 ซม. การปูกระเบื้องนั้นเหมาะจะทำเป็นพื้นห้องครัวเพราะเช็ดล้างและทำความสะอาดได้ง่าย

image

เคาน์เตอร์ครัวจะให้มาทั้งชิ้นบนและชิ้นล่างตามภาพ

image

ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ซึ่ง Fix ขนาดตู้เย็นมาให้ ขนาดที่เหมาะสมจะเป็น 9.5 คิวบิกฟุต ตั้งอยู่ติดกับประตูทางเข้า

image

ด้านบนตู้เย็นมีตู้ Built-in มาให้ แต่ดูจะอยู่สูงเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะเอื้อมใช้งานถึง

image

มาดูส่วนของเคาน์เตอร์ชิ้นบนกันก่อน ชุดครัวชิ้นบนจะเป็นตู้ Built-in บานเปิด ปิดทับผิวหน้าบานด้วยลามิเนตหรือเมลามีน ส่วนบานพับเป็นแบบ Soft-close ทั้งหมด

image

ด้านในตู้แบ่งเป็นช่องๆ ไว้สำหรับวางอุปกรณ์และวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหาร

image

ทางคอนโดติดตั้งเครื่องดูดควันของ Hafele แบบระบบหมุนเวียนมาให้

image

ด้านข้างทำเป็นชั้น Built-in เพิ่มและเป็นจุดที่ติดแผงควบคุมระบบไฟภายในห้อง

image

มาดูพื้นที่ทำครัวกันต่อ ท็อปครัวเป็นลามิเนต ทางคอนโดให้อ่างล้างจานสเตนเลสแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ และเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Hafele ติดตั้งในระยะห่างกันพอสมควร แต่พื้นที่บนเคาน์เตอร์ถือว่าเล็กไปสักหน่อยสำหรับการจัดเตรียมวัตถุดิบ หรือทำอาหารแบบจริงจัง ดูแล้วเหมาะกับการทำอาหารเบาๆ มากกว่า

image

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียว ไม่มีที่พักจาน ขนาดก็กำลังพอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป

image

สะดืออ่างสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้

image

ก๊อกน้ำแบบหันเปลี่ยนทิศทางของหัวก๊อกได้ เพื่อความสะดวกสบายในการล้าง

image

เตาไฟฟ้าที่ได้จะเป็นประเภท hot plate หรือ solid plate จะให้ความร้อนค่อนข้างช้าและกินไฟมาก เวลาใช้งานแนะนำให้ปิดเตาตอนที่ทำอาหารใกล้จะเสร็จ เพราะเตาจะยังหลงเหลือความร้อนอยู่เป็นเวลาค่อนข้างนาน สามารถใช้ทำอาหารต่อได้

image

ด้านล่างจะแบ่งเป็นชั้น, ตู้ใต้อ่างล้างจานและลิ้นชักสำหรับใช้เก็บช้อน-ส้อม ทั้งหมดเป็นแบบ Soft-close เวลาดึงหรือเปิด-ปิดตู้หรือลิ้นชักจะนิ่มนวลและไม่เกิดเสียงกระแทก ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ให้นานขึ้น

image

ตำแหน่งการวางไมโครเวฟจะวางอยู่ระดับเดียวกันกับเคาน์เตอร์ประกอบอาหาร

image

ด้านหลังไมโครเวฟจะมีปลั๊กไฟให้ 1 จุดสำหรับใช้เสียบอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าภายในห้องครัว

image

ชั้นวางด้านล่างจะแบ่งเป็นช่อง สำหรับใช้วางของเพิ่มเติมได้

image

อาคารสูงจะติดตั้งระบบตรวจจับควันไฟและสปริงเกอร์เพื่อป้องกันเหตุอัคคีภัย ที่นี่ก็จัดการติดตั้งมาให้ภายในห้องเรียบร้อย ส่วนไฟภายในห้องจะเป็นไฟดาวน์ไลท์ หลอด LED ทรงสี่เลี่ยมดูโมเดิร์นดี

image

พื้นที่ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นเหลือค่อนข้างกว้าง อาจจะหาโต๊ะรับประทานอาหารมาตั้งเพิ่มเติมเหมือนในห้องตัวอย่างก็ได้

image

มุมจากห้องนั่งเล่นหันออกไปมองประตูทางเข้าและห้องครัว ส่วนทางขวามือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ

image

ประตูห้องน้ำจะหันหน้าชนกับประตูห้องนอนทางด้านขวา ทำให้เกิดพื้นที่เหลือใช้ในส่วนนี้เพราะไม่สามารถนำอะไรมาวางได้ แต่ที่ผนังอาจจะพอหาตู้มาวางหรือทำชั้น Built-in เพิ่มได้

image

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นห้องครัวเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนออกมาส่วนอื่นๆของห้อง ในพื้นที่ส่วนแห้งของห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องสีครีมผิวด้านขนาด 60x60 ซม.เหมือนกับพื้นห้องครัว

image

จากหน้าประตูมองเข้าไปจะเจอกับอ่างล้างหน้าและกระจกเงาบานสูง ซ้ายมือติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวไว้ให้เรียบร้อย

image

กระจกเงาเป็นแบบติดกับผนัง

image

ส่วนอ่างจะเป็นแบบอ่างทรงกลมวางลงบนเคาน์เตอร์ ของ Cotto อ่างแบบนี้มีข้อดีตรงที่ซ่อมแซมได้สะดวกและดูสวยงาม

image

สะดืออ่างเป็นแบบกด Pop-up ข้อดีของสะดืออ่างแบบนี้คือ ความสวยงามและไม่ต้องกลัวว่าจะไปลืมจุดอุดน้ำไว้ที่ไหน

image

โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto ด้านข้างติดตั้งสายฉีดชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่มาให้แล้ว

image

ระบบโถสุขภัณฑ์ที่นี่เป็นแบบ 2 ปุ่มกดแบ่งเป็นปุ่มประหยัดน้ำสำหรับถ่ายเบา และปุ่มปกติ ช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำในการใช้งานได้ดี

image

หน้าตาของสายฉีดชำระแบบใกล้ๆ เป็นสีโครเมียมจาก Cotto เช่นเดียวกัน

image

ด้านบนติดตัวระบายอากาศมาให้ และแยกพื้นที่ส่วนเปียกออกจากส่วนแห้งด้วยการกั้นกระจก การแยกพื้นที่ห้องน้ำออกจากกันแบบนี้ก็เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด พื้นของส่วนเปียกจะปูด้วยกระเบื้องเหมือนกัน แต่จะเป็นกระเบื้องสีเทา ผิวด้านขนาด 60x60 ซม.

image

กระจกที่ใช้จะเป็นกระจก Tempered Glass หนา 9 มิลลิเมตร สูง 2 เมตร

image

ภายในส่วนเปียกทำช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้

image

ธรณีของส่วนเปียกยกสูงขึ้นมาเเค่นิดเดียว แต่ก็กั้นกระจกไว้แน่นหนา น้ำไม่กระเด็นออกไปด้านนอกแน่นอน

image

image

สำหรับฝักบัวในห้องตัวอย่างติดตั้งมาให้ดูทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower แต่ในห้องจริจะได้แค่ Hand Shower ของ Cotto เท่านั้น

image

ในห้องจริงจะไม่ได้ติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เหมือนในห้องตัวอย่างจะต้องติดตั้งเพิ่มกันเอง

image

ส่วนต่อไปที่จะพาไปชมกันจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ซึ่งในห้องจริงจะได้มาเเบบห้องโล่งๆ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์แถมให้

image

แต่ทางคอนโด โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) แถมแอร์มาให้ 1 เครื่อง ขนาด 9,000 BTU

image

พื้นที่ของห้องนั่งเล่นสามารถจัดวางโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้ ด้านหน้าจะเป็นตำแหน่งสำหรับวางทีวี ระยะห่างระหว่างทีวีจนถึงโซฟาอยู่ที่ 90 ซม. แต่ถ้าเลือกติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังก็จะยืดระยะห่างออกไปได้อีกเป็น 1 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมจะเป็น 26 นิ้ว ด้านหลังทำปลั๊กไฟและช่องรับสัญญาณทีวีมาให้เรียบร้อย

image

มุมจากห้องนั่งเล่นมองออกไปยังส่วนครัวและห้องน้ำ

image

ส่วนต่อมาที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นก็คือพื้นที่ระเบียง

image

ประตูระเบียงจะเป็นประตูวงกบอลูมิเนียมพ่นสี แบบบานเลื่อน 2 ตอน กระจกเป็นกระจกใสอย่างที่เห็น

image

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องสีเทา ผิวด้าน กันลื่นได้ดี ขนาด 60x60 ซม.

image

พื้นที่ระเบียงกว้างพอให้วางเครื่องซักผ้าได้ โดยวางระบบมาให้แล้ว

image

ด้านข้างเครื่องซักผ้าติดตั้งปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้

image

ราวกันตกสูงประมาณ 1 เมตร ด้านข้างทำการติดกริลบังสายตาจากภายนอกให้ แถมยังติดหน้าต่างเพิ่มให้อีกชั้น เพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก แต่ห้องที่จะได้หน้าต่างแบบนี้จะมีแค่ห้องทางฝั่งทิศใต้เท่านั้น

image

หน้าต่างเป็นแบบบานเลื่อน 2 ตอน ช่วยป้องกันฝุ่นละอองและเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี รวมถึงใครที่อยากจะใช้พื้นที่ระเบียงสำหรับสังสรรค์ก็สามารถเปิดประตูระเบียงออกเพิ่มพื้นที่นั่งจากห้องนั่งเล่นยาวมาจนถึงระเบียง แถมยังเปิดแอร์ไว้ได้ด้วย

image

ส่วนสุดท้ายของห้องจะเป็นห้องนอน แยกส่วนออกไปด้วยการกั้นกระจกบานเลื่อนฝั่งหนึ่งและประตูไม้บานเลื่อนจากอีกฝั่ง เมื่อเลื่อนเข้ามาแล้วจะบรรจจบกันกลายเป็นมุมห้องตามทิศลูกศร

image

ประตูฝั่งหนึ่งจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แบบรางแขวนด้านบน เวลาใช้งานก็ต้องเบามือกันสักนิด ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์บานประตูหล่นลงมาได้

image

เมื่อปิดประตูไม้เข้ามาจะได้ผนังห้องนอนด้านหนึ่งในลักษณะแบบนี้

image

พื้นห้องนอนจะเเตกต่างกับพื้นส่วนอื่นๆ ของห้อง โดยทางคอนโดเลือกปูพื้น ด้วย ลามิเนตลายไม้ หนา 8 มิลลิเมตร

image

เมื่อไม่ได้ใช้งานประตูไม้เพื่อกั้นห้อง ประตูก็จะกลายเป็นประตูสำหรับตู้เสื้อผ้า ซึ่งในห้องจริงจะไม่ได้ทำตู้เสื้อผ้ามาให้ ส่วนที่เราเห็นว่าเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ในตอนน้จะเป็นพื้นที่โล่งๆ ให้ตกแต่งเอง

image

ความยากในการตกแต่งมันอยู่ตรงนี้แหละ เพราะพื้นที่ของตู้เสื้อผ้า(รวมกับโต๊ะเครื่องแป้งในห้องตัวอย่าง) มีขนาดกว้างประมาณ 75 ซม. ส่วนความยาวประมาณเมตรหน่อยๆ ซึ่งไม่มีตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปขนาดที่พอดี อาจจะต้องทำการ Built-in ตู้เสื้อผ้ากันขึ้นมา และจัดพื้นที่ให้ดี เพราะตู้มีขนาดเล็กกว่าปกติ ใครที่เสื้อผ้าเยอะๆ อาจจจะเก็บได้ไม่หมด

image

ตรงนี้มีการทำปลั๊กไฟไว้ให้ 1 จุด แนะนำให้หามุมใหม่ในการตั้งโต๊ะเครื่องแป้งแทน ถ้า Built-in โต๊ะเครื่องแป้งในมุมนี้เหมือนห้องตัวอย่าง ก็ต้องหารพื้นที่กับตู้เสื้อผ้าเข้าไปอีก หรือถ้าใครไม่จำเป็นต้องตั้งโต๊ะเครื่องแป้งก็กรุกระจกติดผนังเพิ่ม ใช้สำหรับแต่งตัวก็พอ

image

ขนาดตู้เสื้อผ้าตามการตกแต่งในห้องตัวอย่าง ดูไว้เป็นไอเดียหรือนำไปปรับปรุงให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง

image

ลักษณะการเลื่อนประตูเปิด-ปิดของห้อง ถ้าปิดประตูไม้ ตู้เสื้อผ้าจะเปิดออกอย่างที่เห็น ส่วนฝั่งกระจกบานเลื่อนจะเป็นกระจกใส ใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวก็อาจจะหาม่านหรือฟิล์มขุ่นมาติดกระจกเพิ่มเติมได้

image

เวลาเลื่อนประตูมาปิดตู้จะเป็นลักษณะแบบนี้

image

ห้องตัวอย่างวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ใครอยากจะเพิ่มเป็นเตียงขนาด 6 ฟุตก็ยังไหว

image

ถ้าวางเตียงขนาด 5 ฟุต ระยะห่างจากประตูไม้บานเลื่อนจนถึงพื้นที่วางเตียงจะอยู่ที่ 80 ซม. สามารถหาโต๊ะข้างหัวเตียงมาวางได้สบายๆ

image

มุมมองจากห้องนั่งเล่น

image

ระยะจากปลายเตียงจนถึงกระจกบานเลื่อนอยู่ที่ 70 ซม. เดินผ่านได้ชิวๆ สำหรับใครที่ชอบดูทีวีบนเตียง คงต้องทำใจหน่อยเพราะระยะจากห้องนอนไปจนถึงทีวีในห้องนั่งเล่นค่อนข้างไกล นอนดูทีวีจากในห้องนอนคงมองไม่เห็นแน่ๆ

image

ระยะจากเตียงไปจนถึงหน้าต่างอยู่ที่ 1.15 เมตร กว้างพอที่จะจัดเป็นมุมโปรดอีกมุมหนึ่งได้เลย

image

สาวๆ อาจจะเลือกมุมนี้เป็นมุมแต่งหน้า ซึ่งก็เหมาะมากเพราะอยู่ใกล้กับช่องแสงธรรมชาติ แต่งหน้าออกมาจะได้สวยๆ ไม่วอก หน้าไม่เทา หรือถ้าใครชอบอ่านหนังสือหรือนั่งทำงานก็ปรับเป็นโต๊ะเหมือนในห้องตัวอย่าง ทำงานไป อ่านหนังสือไป ดูวิวไปก็สุนทรีย์ไปอีกแบบ แถมไม่เสียสายตาด้วยเพราะโต๊ะได้รับแสงสว่างที่เพียงพอ

image

ที่โต๊ะทำงานนี้ทำปลั๊กไฟและช่องเสียบสาย Lan สำหรับอินเตอร์เน็ตไว้ให้

image

ขนาดหน้าต่างภายในห้องกว้างประมาณ 85.5 ซม. แบ่งเป็นหน้าต่างบาน fix 3 บาน และบานกระทุ้งอีก 1 บาน

image

สามารถเปิดหน้าต่างบานกระทุ้งออกไปรับลมธรรมชาติจากภายนอกได้

image

หน้าตาของปลั๊กไฟภายในห้องเป็นของ SIEMEN รวมถึงปลั๊กไฟในห้องด้วย

1 BR 35 sq.m. (A2)

ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. (A2)

image

ห้องตัวอย่างอีกห้องที่ทางคอนโด โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) จัดไว้ให้ชมเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. แต่เป็น Type A2 จะต่างกับห้องใน Type A1 ตรงการจัดวางผังห้อง

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับห้องน้ำอยู่ทางขวามือ ตรงข้ามห้องน้ำจะเป็นห้องนอนซึ่งทำประตูเปิด-ปิดด้วยประตูบานเลื่อนแบบชนกันให้เป็นมุมห้องเหมือนกับห้องแรก ถัดมาจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว และห้องนั่งเล่น ห้องนี้ได้ห้องนั่งเล่นที่กว้างกว่าเดิมเล็กน้อย และได้ห้องครัวอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งช่วยในการระบายกลิ่นและควันได้เล็กน้อย แต่ครัวแบบเปิดเช่นนี้ก็ยังไม่เหมาะที่จะทำอาหารแบบจริงจังอยู่ดี  ทางโครงการขายห้องนี้แบบ Fully Fitted วัสดุและสิ่งที่ได้จะเหมือนกับห้องแรกทุกประการคือ ได้ชุดครัวแบบ Built-in, อ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน, ชุดสุขภัณฑ์ แอร์ และฉากกั้นห้องทั้งในห้องน้ำ และห้องนอน

image

จากประตูทางเข้ามองตรงไปจะเห็นห้องน้ำอยู่ทางขวามือ ส่วนซ้ายมือจะเป็นห้องนอน เดินตรงไปจะเป็นพื้นที่ครัว ห้องนั่งเล่น และระเบียง

image

ติดกับประตูทางเข้ามีพื้นที่ว่างสำหรับวางตู้เก็บรองเท้า หรือตู้เก็บของ ซึ่งห้องตัวอย่างจัดวางตู้ไว้ให้ดูเป็นไอเดียด้วย

image

มุมมองจากด้านในห้อง มองออกไปที่ประตูทางเข้า เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าไปสำรวจห้องน้ำกันเล็กน้อย

image

จากประตูห้องน้ำมองเข้าไปจะเจอส่วนแห้งก่อน ถัดเข้าไปด้านในอีกนิดจะเป็นส่วนเปียกที่กั้นด้วยกระจก Tempered Glass หนา 9 มิลลิเมตร สูง 2 เมตร

image

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีครีมผิวด้านขนาด 60x60 ซม. เหมือนกับพื้นห้องด้านนอก และทำการลดระดับพื้นห้องน้ำลงเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนออกมาด้านนอก

image

ส่วนเปียกจะได้แค่ ฝักบัวแบบ Hand Shower ของ Cotto ส่วนฝักบัวแบบ Rain Shower และเครื่องทำน้ำอุ่นจะไม่ได้แถมมาให้

image

หันมาฝั่งส่วนแห้งจะมีกระจกเงาและอ่างล้างหน้ามาให้

image

อ่างล้างหน้าเป็นแบบวางลงบนเคาน์เตอร์ของ Cotto ดูแล้วสวยงามดี

image

ขนาดอ่างค่อนข้างเล็ก เวลาใช้งานก็ต้องระวังน้ำกระเด็นออกมาเลอะด้านนอก ที่ขอบอ่างไม่มีพื้นที่ให้วางของ แต่รอบๆ เคาน์เตอร์ด้านล่างเหลือที่ให้วางของได้เล็กน้อย สะดืออ่างจะเป็นแบบกด Pop-up ส่วนก๊อกน้ำเป็นแบบก้านโยกของ Cotto ทั้งหมด

image

โถสุขภัณฑ์จะอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่ส่วนเปียก ด้านข้างติดสายฉีดชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู่ และที่ผนังก็ติดราวแขวนมาผ้าให้แล้วเรียบร้อย ตัวโถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 ปุ่มกดรุ่นประหยัดน้ำ ของ Cotto

image

ห้องนอนกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน2 ด้านกลายเป็นผนังห้องนอนแบบนี้ ใครที่อยากเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนก็อาจจะหาผ้าม่านทึบหรือฟิล์มกระจกขุ่นมาติดเพิ่มเติม

image

ประตูบานเลื่อนเป็นแบบแขวนรางบน ข้อดีคือไม่มีรางด้านล่างทำให้ปัดกวาดทำความสะอาดพื้นได้ง่าย เวลาเปิด-ปิดประตูก็ลื่นและเงียบ แต่เวลาใช้ต้องทะนุถนอมกันหน่อย ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดปัญหาบานประตูตกลงมาได้

image

ในห้องจริงห้องนอนจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เเถมมาให้ ส่วนพื้นก็ปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มิลลิเมตร เหมือนกับห้อง Type A1

image

ภายในห้องนอนทางคอนโดตั้งเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ห้องนอนของ type นี้ดูจะเล็กกว่าห้องตัวอย่างแรกเล็กน้อย แต่พื้นที่ปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีไว้ดูภายในห้องได้

image

พื้นที่จากปลายเตียงถึงกำแพงกว้างประมาณ 50 ซม. ส่วนชั้น Built-in ที่เห็นทางคอนโดไม่ได้เเถมให้ เป็นเพียงไอเดียสำหรับตกแต่งห้องเท่านั้น

image

ที่ผนังทำปลั๊กไปและช่องรับสัญญาณทีวีมาให้เรียบร้อย

image

หัวเตียงฝั่งหนึ่งจะอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ติดผนัง บังสายตาด้วยผ่านม่านผืนใหญ่ และโต๊ะนั่งทำงาน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงไอเดียในการตกแต่งเท่านั้น ห้องจริงนจะมาเป็นพื้นที่โล่งให้จัดตกแต่งเองตามใจชอบ

image

บริเวณหัวเตียงทำปลั๊กไปและช่องเสียบสาย LAN ไว้ให้

image

ห้องครัวจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ทางคอนโดจะให้ชุดครัว Built-in ตู้เก็บของชิ้นบนและชิ้นล่าง พร้อมเตาไฟฟ้า อ่างล้างจานและเครื่องดูดควัน

image

พื้นที่วางตู้เย็นจะ Fix ขนาดมาให้ วางตู้เย็นได้ขนาด 9.5 คิวบิกฟุตจึงจะพอดี ส่วนท็อปครัวจะเป็นลามิเนต สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ แต่ในระยะยาวสีจะซีดจาง เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย เหมาะกับครัวที่ไม่เน้นการทำอาหารเท่าไร

image

ด้านบนจะแบ่งเป็นตู้แบบบานเปิดและชั้นวางของแบบ Built-in

image

ตอนแรกเห็นปล่องของเครื่องดูดควันก็นึกว่าจะเป็นแบบระบบปล่อยออกนอกอาคาร แต่เมื่อสอบถามก็ได้คำตอบว่าเครื่องดูดควันที่ได้จะเป็นระบบหมุนเวียนภายในของ Hafele

image

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวแบบไม่มีที่พักจานของ Hafele พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยก สามารถหันเปลี่ยนทิศของหัวก๊อกได้ เพื่อความสะดวกในการล้างจาน

image

เตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัว ประเภท hot plate หรือ solid plate

image

ระยะห่างระหว่างเตาไฟฟ้ากับอ่างล้างจาน เป็นพื้นที่เล็กๆ เว้นไว้สำหรับทำครัว ซึ่งมันก็เล็กจริงๆ เหมาะกับการทำอาหารเบาๆ ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ เมนูไหนที่อลังการ วัตถุดิบล้านแปดชนิดคงต้องพับเก็บไปก่อน

image

ด้านข้างเตาไฟฟ้าเป็นที่วางไมโครเวฟ ดูแล้วอยู่ชิดกันมากๆ เวลาทำอาหารอาจจะไม่สะดวกและก่อให้เกิดอันตรายได้

image

ด้านล่างเคาน์เตอร์จะเป็นตู้สำหรับเก็บของ บานพับเป็นแบบ Soft-close ทั้งหมด

image

มีลิ้นชักไว้ให้ใส่ช้อน-ส้อมเป็นแบบ  Soft-close เช่นเดียวกัน

image

ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นพื้นที่โล่ง อาจจะจัดสรรพื้นที่ให้ดีแล้วนำโต๊ะอาหารมาวางแบบในห้องตัวอย่าง ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของห้องนี้คือครัวอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งช่วยระบายกลิ่นและควันจากการทำอาหารออกไปด้านนอกได้บางส่วน

image

มุมมองจากฝั่งห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับห้องครัว ด้วยรูปแบบครัวที่เป็นแบบเปิด จึงเหมาะกับการทำอาหารเบาๆ กลิ่นไม่แรงและควันน้อยๆ เพื่อป้องกันกลิ่นที่จะลอยมาติดกับเฟอร์นิเจอร์ในส่วนของห้องนั่งเล่น

image

สำหรับห้องนั่งเล่นในห้องจริงจะได้เป็นห้องโล่ง ไม่มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ ต้องซื้อเข้ามาตกแต่งเพิ่มกันเอง

image

ห้องนี้ดูจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นได้ง่ายกว่าห้องแบบแรกเพราะด้านหลังเป็นห้องครัว ไม่ได้ติดกับประตูบานเลื่อนของห้องนอนเหมือนห้องที่แล้ว จึงสามารถขยับและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อิสระมากกว่า แต่ถ้าใครอยากจะโซฟาและทีวีในตำแหน่งเดียวกับห้องตัวอย่าง ก็ขอแนะนำให้เลือกซื้อทีวีขนาด 26-42 นิ้วกำลังพอดี เพราะระยะห่างระหว่างทีวีถึงโซฟาอยู่ที่ 1.5 เมตร

image

ที่ห้องนั่งเล่นจะได้หน้าต่างบานใหญ่เป็นบาน Fix 3 บานและบานกระทุ้ง 1 บาน ซึ่งเราสามารถจัดให้เป็นมุมนั่งพักผ่อนอีกมุมหนึ่งได้

Analysis

วิเคราะห์โครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet)

ทำเล : โครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) เป็นคอนโดมิเนียมประเภท High Rise โดดเด่นเรื่องวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และสะดวกสบายด้านการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงในระยะเดินถึง ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลย่านชานเมือง โซนปริมณฑลของกรุงเทพมหานครที่ค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัย แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเงียบจนเกินไป เพราะในปัจจุบันความเจริญเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่ย่านนี้จนกลายเป็นแลนด์มาร์กที่คอนโดมิเนียมหลายๆ เจ้าต้องรีบเข้าไปจับจองพื้นที่กัน

ด้านการเดินทาง คอนโด โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) ตั้งอยู่บนถนนรัตนธิเบศร์ ซึ่งเป็นถนนใหญ่สายสำคัญที่เชื่อมต่อกับถนนอีกหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถนนราชพฤกษ์ที่สามารถขับมุ่งหน้าไปยังถนนบรมราชนนีเพื่อออกสู่จังหวัดนครปฐมหรือจะเข้าเมืองก็ทำได้, ถนนกาญจนาภิเษกเองก็อยู่ไม่ไกล ขับไปโซนบางใหญ่ก็มีห้างเซ็นทรัล เวสต์เกตเปิดให้บริการอยู่ หรือถ้าจะขับรถจากถนนรัตนาธิเบศร์เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองเลยก็ต้องวิ่งผ่านสี่แยกแครายเข้าถนนงามวงศ์วาน ซึ่งก็รถติดหนึบในช่วงเวลาเร่งด่วน ยังไงก็อย่าลืมเผื่อเวลาในการเดินทางกันไว้ด้วย

ส่วนใครที่ไม่อยากเผชิญกับรถติดก็สามารถเลือกใช้บริการขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีไทรม้าที่อยู่ใกล้แค่ 140 เมตรเดินถึง ใครที่เดินทางแค่ระยะใกล้ๆก็มีรถเมล์ รถตู้ รถแท็กซี่ให้บริการอยู่ตลอด ทางน้ำก็มีโครงการจะทำท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้า เลี่ยงรถติดบนท้องถนนให้อีกทาง พูดได้ว่าเดินทางแบบไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวอาจจะสะดวกสบายกว่าด้วยซ้ำไป

สภาพแวดล้อม : โดยรวมแล้วถือว่าเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะเป็นย่านชานเมืองและตั้งอยู่บนถนนเส้นใหญ่ที่คนใช้สัญจรเพื่อออกต่างจังหวัด แต่รอบๆ โครงการก็พอจะมีร้านอาหารเปิดให้แวะฝากท้องกันอยู่บ้างประปราย คนที่อาศัยอยู่แถวนี้ส่วนใหญ่ก็จะขับรถไปเดินห้างในละแวกนั้นเสียมากกว่าไม่ว่าจะเป็นห้าง เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล เวสเกต์, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เอสพลานาด รัตนาธิเบศร์,เทสโก้ โลตัส รัตนาธิเบศร์, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เป็นต้น

แบบห้อง : มีให้เลือก 2 แบบคือ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 35-42 ตร.ม. และ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 58-76 ตร.ม. ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการตกแต่งห้องด้วยตัวเอง การวางผังห้องก็ทำออกมาค่อนข้างแปลก และอาจจะทำให้ขัดใจอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการได้ครัวได้แบบระบบเปิดในห้องแบบ 1 Bedroom ซึ่งไม่เหมาะกับการประกอบอาหารหนักๆ สักเท่าไร หรือการกั้นห้องนอนด้วยประตูแบบเข้ามุม ทำให้จัดสรรพื้นที่การตกแต่งได้ลำบาก และเหลือพื้นที่ไม่ได้ใช้งาน ทำให้ไม่สามารถใช้ space ภายในห้องได้เต็มที่ แต่ก็มีห้องที่เป็นจุดเด่นอยู่อย่างห้อง 2 Bedroom ที่ได้ห้องหน้ากว้างสามารถรับชมวิวได้เต็มตา ด้านวัสดุ ทางโครงการเลือกใช้วัสดุได้ดีและเหมาะสมกับพื้นที่ภายในห้อง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้เช่นเดียวกัน

สิ่งอำนวยความสะดวก : ทางคอนโดให้มาเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้, สวนหย่อม (ชั้นหนึ่ง), สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องอ่านหนังสือ, สนามเด็กเล่น, ลานนั่งเล่น ทั้งที่ชั้น 8และชั้นดาดฟ้า, สวนดาดฟ้า และ ลู่วิ่งออกกำลังกาย โดย Facilities ส่วนมากจะรวมอยู่ที่ ชั้น 8 และมีที่บนดาดฟ้าอีกจุด เพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน

ราคา : เริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 74,000 บาท/ตร.ม. เป็นเรทราคาที่ยังจับต้องได้ และคุ้มค่าที่จะลงทุนเพราะโครงการมีจุดเด่นทั้งเรื่องวิวสวยและอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า ซึ่งหาคอนโดในราคานี้ได้ค่อนข้างยาก ถ้าใครไม่ติดใจเรื่องความอุดมสมบูรณ์ หรือการอยู่อาศัยในย่านชานเมือง มีงบประมาณสำหรับตกแต่งของเองอยู่แล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้จากโครงการ

โครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet) เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมย่านชานเมือง ที่ตอบโจทย์เรื่องวิวสวยติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เน้นเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าเป็นประจำ อยู่อาศัยเพียงคนเดียวหรือเป็นครอบครัวเล็กๆ และมีงบประมาณในมือเหลือเพียงพอสำหรับตกแต่งห้องเพิ่มเติม

แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ