[Review] THE ESSE SUKHUMVIT 36 คอนโดติด BTS ทองหล่อ เชื่อมต่อความสุขที่แตกต่างอย่างลงตัว

วิถีชีวิตของเมืองในปัจจุบันย่อมผูกพันอยู่กับความสะดวกสบาย การจะเลือกที่อยู่อาศัยจึงเน้นไปที่การตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการคมนาคม แหล่งช็อป ชิม ชิลล์ ความปลอดภัย หรือแม้กระทั่งเรื่องดีไซน์ที่แสดงให้เห็นถึงความทันสมัยในแบบที่แตกต่าง 

'คอนโดมิเนียม' จึงเป็น Residential ทางเลือกสำหรับคนสมัยใหม่ หลายโครงการของคอนโดพยายามฉีกกฎเกณฑ์ในการสร้างและหาเอกลักษณ์ที่น่าดึงดูดใจเหล่าคนทันสมัย อย่างคอนโดที่ Estopolis ของเราจะพาไปทำความรู้จักในวันนี้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งคอนโดที่มีจุดน่าสนใจและนำเสนอ 'ความแตกต่าง' ออกมาได้อย่างลงตัว กับ  ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) คอนโด ระดับ Luxury ติด BTS ทองหล่อ บนทำเลพื้นที่สวยบริเวณปากซอยสุขุมวิท 36 จาก  SINGHA ESTATE

'THE ESSE SUKHUMVIT 36' กับความพิเศษที่คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยม

THE ESSE SUKHUMVIT 36 คอนโดมิเนียม High rise สูง 43 ชั้น จำนวน 338 ยูนิต ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทองหล่อ มาพร้อมกับคอนเซปต์ 'A Harmony of Contrast' หลอมรวมความแตกต่างของปัจจัยหลายๆ ด้านของโครงการและย่านทองหล่อเข้าไว้ด้วยกัน

ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวบวกกับความพิเศษที่ทาง SINGHA ESTATE ใส่ใจคัดสรรมาเพื่อผู้อยู่อาศัยทั้งการเลือกทำเล การออกแบบ และการก่อสร้าง ทุกอย่างน่าดึงดูดใจจนอดไม่ได้ที่จะนำความพิเศษเหล่านี้มาบอกต่อกัน

ที่ดินผืนสวยย่านทองหล่อ

ความพิเศษแรกคือ ที่ดินผืนสวยขนาดประมาณ 2 ไร่ครึ่ง บริเวณต้นซอยสุขุมวิท 36 ติดกับ BTS ทองหล่อ มากที่สุด ในอดีตเคยเป็นของ Fragrant Property แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนมือเจ้าของเป็น SINGHA ESTATE บริษัทด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่นำโครงการ 'THE ESSE SUKHUMVIT 36' เข้ามาบุกตลาดคอนโดระดับ Luxury บนทำเลฮอตยอดนิยมของชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนเพื่อซื้ออสังหาฯ ในประเทศไทย

สำหรับใครที่รู้จักที่ดินบริเวณปากซอยสุขุมวิท 36 อยู่แล้วอาจจะกังวลเรื่องการบดบังทัศนยีภาพทางทิศตะวันตก จากโครงการเพื่อนบ้านอย่าง Nobel remix ผู้ออกแบบจึงออกแบบให้ตัวอาคารของ THE ESSE SUKHUMVIT 36 วางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ และร่นยะอาคารเข้าไปด้านใน นอกจากจะช่วยเลี่ยงในเรื่องวิวแล้ว ยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว ย่นระยะให้ห่างจากตัวถนนและสถานีรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ส่วนทางทิศใต้จะเป็นวิวทางฝั่งพระราม 4 สำหรับชั้นสูงๆ จะมองเลยออกไปเห็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของบางกระเจ้าได้ เรียกว่า Take view กันได้ไกลๆ เลย

ทางฝั่งทางทิศตะวันออกจะเป็นวิวทางฝั่งย่านอ่อนนุช 

ทางทิศเหนือจะเห็นเป็นวิวของย่านสุขุมวิท ถือว่าเป็นทำเลทองที่มองเห็นวิวหลากหลายแบบทั้งแบบเมืองและเเบบธรรมชาติรอบกรุงเทพมหานครเลยทีเดียว

การลงทุนร่วมระดับโลก

'THE ESSE SUKHUMVIT 36' โครงการคอนโดหรูระดับพรีเมียม ติดรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ จาก SINGHA ESTATE และเป็นโครงการร่วมทุนระดับโลกกับ Hongkong Land ที่บริหารและจัดการธุรกิจด้านอสังหาฯ บนพื้นที่เกือบ 800,000 ตารางเมตรของอาคารสำนักงาน และพื้นที่เชิงพาณิชย์ในเมืองสำคัญๆ ของเอเชียโดยเน้นเฉพาะที่ฮ่องกงและสิงคโปร์เป็นหลัก  แต่วันนี้เข้ามาร่วมทุนสร้าง THE ESSE สุขุมวิท 36 เพื่อขยายตลาดด้านการลงทุนในทำเลใหม่ๆ ก็ต้องคิดกันแล้วว่า จะเป็นโครงการที่พิเศษและไม่ธรรมดามากขนาดไหน?

การดีไซน์เหนือระดับจากแบรนด์ดังระดับโลก

เช่นเดียวกับการออกแบบที่ใช้ทีมงานระดับโลกในการดีไซน์คอนเซปต์และการออกแบบภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น...

- Skidmore, Owings and Merrill (Thailand) Co. Ltd. (SOM) บริษัทด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุด และมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกที่ฝากฝีมือไว้กับสถาปัตยกรรมระดับแลนด์มาร์กของโลกไว้มากมายหลายแห่ง เช่น จอห์นแฮนคอค์กเซนเตอร์, เซียรส์ทาวเวอร์, บูร์จคาลิฟา, วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เป็นต้น โดย SOM เข้ามาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบหลัก ของโครงการ THE ESSE สุขุมวิท 36

- Tandem บริษัทสถาปนิกออกแบบงานสถาปัตยกรรม มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการออกแบบโครงการอสังหาฯ ต่างๆ เช่นบ้าน หมู่บ้าน อาคาร อาคารสูง คอนโดมิเนียม ตกแต่งภายใน โรงแรม รีสอร์ท เป็นต้น

- Shma บริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน Landscape Architecture and Urban Design ที่มีผลงานชื่อดังมากมายทั้งคอนโดหรูชื่อดัง พื้นที่ผังเมือง พื้นที่สาธารณะในเมือง รวมถึงพื้นที่ส่วนบุคคล

-  Design Worldwide Partnership (dwp) ผู้มีชื่อเสียงด้านการออกแบบ มีประสบการณ์ด้านการออกแบบให้กับโครงการหรูต่างๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศมามากมาย

การออกแบบตัวอาคารจึงมีความพิเศษมาก ผู้ออกแบบเน้นจุดเด่นตามคอนเซปต์ 'A Harmony of Contrast' โดยการหลอมรวมความแตกต่างระหว่างสถาปัตยกรรมแบบไทยกับการออกแบบที่เป็นสากลเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้สื่อถึงความอ่อนช้อยที่เป็นเอกลักษณ์แต่ก็ดูประยุกต์เข้ากับความทันสมัยของสังคมเมืองแบบใหม่ได้เป็นอย่างดี

อย่างเช่น ตัวอาคารที่ใช้กระจกขนาดใหญ่ หุ้มเกือบทั้งอาคาร แต่ยังมีการสอดแทรกความเป็นไทยเข้าไปด้วย Facade design ทรงโค้ง เลียนแบบหน้าจั่วของบ้านเรือนไทยในอดีต

ทุกรายละเอียดดีไซน์เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต

Master plan ของ THE ESSE SUKHUMVIT 36 มีขนาด 2-2-0 ไร่ แนวสี่เหลี่ยมผืนผ้า วางตัวในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ทางเข้าอาคารจะอยู่ด้านหน้าติดกับถนนใหญ่ ตัวอาคารย่นระยะจากถนนเข้ามา 84 เมตร พื้นทีี่ด้านหน้าจึงจัดทำเป็น Facility ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการออกแบบเรือนริมน้ำ เชื่อมต่อทางเดินด้านนอกด้วยชานทางเดิน แยกส่วน Facility ออกจากกันได้ชัดเจนดี ด้านในอาคารจะเป็นพื้นที่ล็อบบี้, Mailbox, ลิฟต์บริการ 4 ตัวแบบล็อกชั้นและลิฟต์ขนของแยกอีก 1 ตัว

ส่วนการจอดรถ ที่นี่เมื่อวนรถมาผ่านจุด Drop off ติดกันจะมีลิฟต์สำหรับการจอดรถแบบ Automatic Car Parking ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 จุด ส่วนการจอดรถธรรมดาก็สามารถขับรถวนขึ้นที่จอดด้านบนได้ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น

Master plan ของอาคารเป็นไปตามคอนเซปต์ 'A Harmony of Contrast' ตั้งแต่การสร้าง Space ความเป็นส่วนตัวด้านการอยู่อาศัยด้วยการย่นระยะการตั้งอาคารให้ห่างจากถนน พร้อมสร้างทัศนียภาพของโครงการให้สวยงามด้วยการออกแบบเนินดินด้านหน้าโครงการเลียนแบบเนินเขาตามธรรมชาติ เพื่อบังวิวถนน และเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สร้างความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี

พื้นที่ส่วนกลางด้านหน้าอาคารออกแบบตามบ้านเรือนไทยรายล้อมด้วยน้ำและต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ความร่มรื่น สำหรับในฤดูหนาวสามารถมานั่งรับลมเย็นๆ ได้เพราะทางโครงการออกแบบอาคารและ Facilities โดยการคำนึงถึงทิศทางลมและแดดเป็นจุดสำคัญ

ภายในล็อบบี้ตกแต่งร่วมสมัย สอดแทรกความเป็นไทยด้วยโทนสีน้ำตาลธรรมชาติ และลวดลายการตัดทอนลายไทย พร้อมแชนเดอร์เลียผ้าไหมพริ้วไหว ซึ่งทำขึ้นมาด้วยวัสดุพิเศษ เพื่อความสมจริง

ห้องสมุดโถงสูงกลางน้ำ เปิดมุมมองด้านความคิดด้วยการล้อมกระจกบานใหญ่มองออกไปเห็นทิวทัศน์สวยงาม ทุกพื้นที่จะสร้างแยกส่วนออกจากกัน เพื่อความเป็นส่วนตัวแต่ก็เชื่อมต่อถึงกันได้ง่ายด้วยชานทางเดิินทอดยาวสู่ตัวอาคาร
พื้นที่จอดรถของโครงการ THE ESSE SUKHUMVIT 36 จัดมาให้แบบพิเศษ คิดเป็น 100% รวมการจอดซ้อนคัน แถมยังแยกที่จอดรถแบบ Automatic Car Parking ให้ โดยคิดเป็น 70% ของจำนวนพื้นที่จอดรถทั้งโครงการอีกด้วย

พื้นที่จอดรถทั่วไปจะอยู่ในชั้น 2-4 คิดเป็น 30% ของพื้นที่การจอดรถทั้งโครงการ

ส่วนในชั้น 5-7 จะเป็นพื้นที่จอดรถแบบ Automatic Car Parking

สำหรับชั้น 7 จะเป็นชั้น Facility ขนาดใหญ่ มีสวนสีเขียวรายล้อม และมีห้องสำหรับเด็กเล่นแยกให้เฉพาะ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นกิจกรรมทางน้ำอย่าง สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก ขนาด 25x6 เมตร, ห้องสปา, ห้องอบไอน้ำ และที่เป็นจุดเด่นเลยคือ ออนเซ็นแยกชาย-หญิง เนื่องจากย่านทองหล่อขึ้นชื่อเรื่องการเป็นย่านที่มีชาวญี่ปุ่นและยุโรปอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ Facilities จึงมีกลิ่นอายของความเป็นนานาชาติเข้ามาผสมผสานกับความเป็นไทยอยู่ด้วย

ส่วนของ Water Garden บนชั้น 7 จะยกสูงเหนือสถานีรถไฟฟ้าขึ้นมาถึง 2 เท่า เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านที่ลงมาใช้พื้นที่ส่วนกลางมากขึ้น 

พื้นที่สระว่ายน้ำรายล้อมด้วยสวนสีเขียวออกแบบมาให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแม้จะอยู่ใจกลางย่านทองหล่อ

ภาพจำลองบรรยากาศออนเซ็นแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แยกส่วนชาย-หญิงอย่างชัดเจน

ส่วนห้องเด็กเล่นจัดไว้สำหรับพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเล็กๆ แล้วอยากได้พื้นที่สำหรับนันทนาการลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่า มีพื้นที่ส่วนกลางรองรับกิจกรรมของทุกคนในครอบครัวเลย

สายออกกำลังกายก็มีห้องฟิตเนสวิวสวย กินพื้นที่ 2 ชั้นคอยให้บริการ โดยในชั้นที่ 9 นี้เองเริ่มจะมียูนิตที่พักอาศัยเข้ามาด้วย 4 ยูนิต เป็นยูนิตที่เหมาะสำหรับคนชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางบ่อยๆ
ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องฟิตเนส มีเครื่องเล่นออกกำลังกายครบครัน พร้อมมองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำด้านนอก

เริ่มจำนวนยูนิตจริงๆ จะเป็นชั้นที่ 10 ขึ้นไปจนถึงชั้นที่ 40 โดยยูนิตสูงสุดต่อชั้นอยู่ที่ 12 ยูนิต/ชั้น ซึ่งถือว่ามีความเป็นส่วนตัวสูงมาก นอกจากนั้นตัวโถงอาคารยังออกแบบมาพิเศษโดยสร้างช่องลมผ่านกลางตัวอาคารทำให้อากาศไหลผ่านได้ดี ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากใต้ถุนสูงของบ้านไทย โถงทางเดินจึงไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเลย

ชั้นทีี่ 41 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางแยกอีกส่วน แบ่งเป็นพื้นที่ Indoor, Semi-indoor และ Outdoor

ประกอบด้วยพื้นที่ทำกิจกรรมในร่มอย่าง Sky Lounge, The Residence Lounge, space for private parties และ Sky Theatre พื้นที่พักผ่อน ดูหนัง อ่านหนังสือ หรือพบปะสังสรรค์กันระหว่างเพื่อนบ้าน ส่วน Semi-indoor จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นรับลมจากด้านนอกได้ และพื้นที่ Outdoor จะเป็นส่วนของสวนสีเขียวของโครงการ

ชั้นทีี่ 41 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เรียกว่า Rice Field Garden ได้แรงบันดาลใจมาจากการแบ่งไร่นาของชาวสวนที่เป็นลักษณะขั้นบันได

Sky Theatre โรงชมภาพยนตร์ส่วนตัวของโครงการบนชั้นที่ 41 ของโครงการ THE ESSE SUKHUMVIT 36

Sky Lounge สนุกกับทุกกิจกรรม พักผ่อนกันแบบเต็มที่ บนชั้น 41 

The Residence Lounge, space for private parties  พื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถจัดเลี้ยง จัดปาร์ตี้กันได้แบบสนุกสุดเหวี่ยง

บนชั้นที่ 43 เป็นพื้นที่ Roof Orchard พื้นที่กิจกรรมสำหรับการปลูกพืชด้วยตัวเอง อีกหนึ่งพื้นที่สร้างเสริมชุมชนน่าอยู่โดยโครงการ THE ESSE สุขุมวิท 36 ทำแปลงไว้สำหรับให้ลูกบ้านได้เข้ามาใช้งาน ถือเป็นกิจกรรมดีๆ ที่คนเมืองสมัยใหม่อาจจะไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว

การออกแบบ Roof Orchard ไล่เป็นขั้นบันไดคล้ายลักษณะการทำไร่ ทำสวนตามต่างจังหวัด ซึ่งก็ถือเป็นหนึ่ง Iconic อย่างหนึ่งของโครงการ THE ESSE SUKHUMVIT 36

สำหรับห้องของโครงการ ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) ได้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการแต่ละบุคคล โดยมียูนิตตาม type ห้อง ดังนี้

- 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 38.50-43.25 ตร.ม.

- 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 73.50-77.00 ตร.ม.

- 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 38.50-43.25 ตร.ม.

- ห้องเพนท์เฮาส์ พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม.

ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted ให้วัสดุระดับพรีเมียม คัดสรรมาเพื่อให้เหมาะกับการอยู่อาศัย แถมยัง Built-in มาให้เรียบร้อย ทั้งชุดครัว, ชุดสุขภัณฑ์, Digital Door Lock และเฟอร์นิเจอร์ Built-in แต่ห้องตัวอย่างที่จะพาเข้าไปชมจะมีอยู่ทั้งหมด 3 type ดังนี้

1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 38.5 ตารางเมตร

ห้องขนาดเล็กที่สุดของโครงการ THE ESSE SUKHUMVIT 36 จะเป็นขนาด 38.5 ตร.ม. ก็ถือว่าได้ขนาดที่ใหญ่พอสมควรเมื่อเทียบกับทำเลในย่านใจกลางเมือง ด้านการจัดวางเลย์เอาท์แบ่งพื้นที่ห้องเป็นส่วนของงานระบบและส่วนพักผ่อนชัดเจน นอกจากนี้ทางโครงการออกแบบฝ้าของห้องทุกยูนิตมาให้สูงถึง 3 เมตร เพื่อช่วยเพิ่มความโล่ง โปร่ง สบาย สำหรับการอยู่อาศัยให้มากที่สุด

เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบส่วนของครัวเป็นอันดับแรก และเชื่อมต่อไปถึงส่วนของห้องนั่งเล่น ทำให้พื้นที่ห้องดูกว้าง นอกจากนี้ยังได้รับแสงธรรมชาติจากภายนอกอย่างเต็มที่ด้วยการวางระเบียงไว้ติดกับส่วนห้องนั่งเล่น ห้องจึงสว่างแม้จะไม่ได้เปิดไฟ ส่วนห้องนอนทางโครงการจัดมาให้ขนาดใหญ่ มี Walk through closet กั้นกลางระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ เพื่อความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

เริ่มต้นตั้งแต่หน้าประตูห้อง ประตูของทางโครงการ THE ESSE SUKHUMVIT 36 เป็นประตูปิดผิว Vinyl สีเข้ม ขนาด 90x260 เมตร ออกแบบมาพิเศษให้สามารถกันอัคคีภัยได้นานถึง 1 ชม. 

ทางโครงการติดตั้ง Digital Door Lock ของ Sumsung หรือเทียบเท่าให้ทุกยูนิต เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการอยู่อาศัย โดยสามารถใช้ได้ทั้งระบบคีย์การ์ด รหัส แสกนลายนิ้วมือ 

เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเจอพื้นที่ห้องครัวระบบเปิด ทางโครงการคำนึงถึงความสะดวกในการเดินเข้าห้องมาในเวลากลางคืน จึงมีการติดตั้งไฟ Welcome Light มาให้ และหน่วงเวลาเปิดไฟไว้สักพักเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้มีเวลาวางของและเปิดไฟภายในห้อง

ส่วนเคาน์เตอร์ทอดตัวยาววางเป็นรูปตัว L แยกส่วนการประกอบอาหารและการเตรียมวัตถุดิบออกจากกันชัดเจน แต่ครัวเป็นระบบเปิด เวลาทำอาหารอาจจะต้องคอยระวังเรื่องกลิ่นและควันกันสักเล็กน้อย แต่ทางโครงการก็แถม Hood ของ Kuppersbusch ให้สำหรับช่วยกำจัดกลิ่นและควันในการประกอบอาหารไปส่วนหนึ่ง

เคาน์เตอร์และหน้าบานตู้ต่างๆ ออกแบบมาให้ดูหรูหรา โดยหน้าบานของตู้กรุด้วยกระจกเงาสีชาทองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางของด้านบนที่ใช้ระบบ HYDRAULIC เป็นบานพับข้อศอกเเทนการเปิด-ปิดแบบทั่วไป เพื่ออำนวยความสะดวกในการหยิบจับของ จะได้ไม่มีบานประตูมาเกะกะให้เสียอารมณ์ หรือแม้กระทั่งตู้เย็นก็ซ่อนเรียบเนียนไปด้วยหน้าบานกระจกเหมือนส่วนอื่นๆ 

ท็อปของเคาน์เตอร์ครัวเป็นควอซต์ลายหินอ่อนสีดำ ดูเข้ากันกับวัสดุหน้าบาน ทางโครงการให้เตาไฟฟ้า 2 หัวจาก Kuppersbusch Built-in มาติดกับเคาน์เตอร์สำหรับเป็นอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร

ส่วนอ่างล้างจานแยกส่วนออกมา เพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยอ่างเป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม หลุมเดี่ยว ของ Franke มีก๊อกน้ำที่สามารถปรับทิศทางซ้าย-ขวาได้

ส่วนเตาไมโครเวฟจะได้ของยี่ห้อ Kuppersbusch ตำแหน่งตั้งอยู่ด้านล่างเตาไฟฟ้า หยิบจับทำอาหารได้ค่อนข้างสะดวกเลย

โต๊ะรับประทานอาหารก็ Built-in มาเป็นชิ้นเดียวกับเคาน์เตอร์ครัว นั่งกันได้ประมาณ 2 คน

ติดกันเป็นตู้วางเครื่องซักผ้า วัสดุหน้าบานยังเป็นการกรุกระจก ซึ่งช่วยทำให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น จากมุมนี้จะเห็นทางเข้าของห้องนอนที่อยู่ทางฝั่งขวามือด้วย
พื้นครัวจะปูด้วยกระเบื้องขนาด 600x600 มม. เพื่อให้ง่ายต่อการเช็ดล้างทำความสะอาด ส่วนพื้นในส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะปูด้วยไม้ Engineering Wood ออกแบบลายก้างปลามาพิเศษให้คล้ายกับพื้นเรือนไทยในสมัยก่อน ซึ่งถือเป็นการออกแบบผสมผสานทั้งความเป็นไทยและความเป็นสากลที่ทาง THE ESSE SUKHUMVIT 36 ออกแบบมาให้ได้อย่างลงตัว

พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อมาจากห้องครัวพอดี นอกจากนี้ยังอยู่ติดกับพื้นที่ระเบียงซึ่งนับเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ช่วยทำให้ห้องสว่างแม้ไม่เปิดไฟ ทางโครงการ THE ESSE SUKHUMVIT 36 จะทำการ Built – in ผนังด้านหลังทีวีทั้งหมดด้วยหินจริง ซึ่งสีจะเป็นไปตาม Type ของห้อง อย่างเช่นห้องนี้จะเป็นสี  White Marmara หรือเทียบเท่า ซึ่งสร้างเอกลักษณ์ในการตกแต่งได้เป็นอย่างดี ส่วนช่องวางทีวีกว้างพอให้วางทีวีได้ขนาดใหญ่ถึง 49 นิ้วเลยทีเดียว

นอกจากนี้ โครงการ THE ESSE สุขุมวิท 36 ยังเอาใจคนทันสมัยมากขึ้น โดยทุกยูนิตจะมีการติดตั้งระบบ Smart Home ซึ่งควบคุมการเปิด-ปิดได้ทั้งระบบไฟ แอร์และผ้าม่าน สามารถควบคุมได้ผ่านรีโมทหรือว่าแอพพลิเคชั่นของทางโครงการ

เพิ่มกลิ่นอายของความเป็นไทยลงไปอีกนิดด้วยการเลือกผ้าม่านจาก Jim Thompson สำหรับตกแต่งห้อง โดยสีจะเป็นน้ำตาลเหลือบเทา เข้ากับสไตล์การตกแต่งห้องได้ทุกรูปแบบ 

ในห้องนอนเองก็มีช่องแสงขนาดใหญ่ เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ผสมบานกระทุ้ง สามารถเปิดรับลมธรรชาติด้านนอกได้ ส่วนเตียงนอนในห้องก็สามารถวางได้ถึงขนาด 6 ฟุตซึ่งถือว่าใหญ่กว่ามาตรฐานทั่วไป ปลายเตียงยังคงเหลือพื้นที่ให้เดินและติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังได้สบายๆ 

พื้นที่ข้างหัวเตียงฝั่งหนึ่งกว้างพอให้ตั้งโต๊ะทำงาน มีจุดปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้สำหรับเสียบโคมไฟ หรือชาร์จเเบตโทรศัพท์ได้ ติดกันนั้นจะเป็น Walk through closet กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน

ภายในห้อง Walk through closet จะเป็นพื้นที่แต่งตัวมีตู้เสื้อผ้าแบบเปิดโล่ง Built-in มาให้ ติดกันอีกฝั่งเป็นห้องน้ำ เวลาอาบน้ำเสร็จแล้วก็สามารถเดินออกมาเเต่งตัวได้เลย

ห้องน้ำของโครงการ ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) ตกแต่งผนังและกระเบื้องด้วยลายหินอ่อนสวยงาม และสร้างความพิเศษให้กับการอาบน้ำของคุณด้วยอ่างอาบน้ำในทุกยูนิต ส่วนสุขภัณฑ์ที่เหลือจะมี อ่างล้างหน้า ตู้กระจกเงา โถสุขภัณฑ์ ที่ใส่กระดาษทิชชู่ และฝักบัว

อ่างล้างหน้าที่ได้เป็นยี่ห้อ TOTO หรือเทียบเท่า ทรงสี่เหลี่ยมพร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่าง Top แบบ Undermount บนอ่างมีพื้นที่สำหรับวางของพวกเครื่องประทินผิว หรือของใช้ส่วนตัวได้พอประมาณ ส่วน Top ก็กรุหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown หรือเทียบเท่า เพื่อความสวยงาม

อ่างอาบน้ำมีขนาดใหญ่พอดีให้ลงไปนอนแช่ได้สบายๆ สำหรับระบบทำน้ำร้อนของที่นี่จะฝังไว้บนฝ้าเพื่อความสวยงามและช่วยทำให้ระบบน้ำร้อนมีความเสถียรในการทำงานมากยิ่งขึ้น

สำหรับโถสุขภัณฑ์ เป็นแบบ toto washlet ซึ่งเป็นสุขภัณฑ์ที่ติดตั้งไว้กับผนัง ข้อดีของสุขภัณฑ์แบบนี้คือทำให้เราทำความสะอาดสะดวกเพราะว่าเป็นสุขภัณฑ์แบบลอยตัว จะไม่ยึดเกาะอยู่กับพื้นทำให้ทำความสะอาดพื้นใต้โถสุขภัณฑ์ได้สะดวก ส่วนด้านข้างจะเป็นพื้นที่โซนเปียกกั้นแยกออกไปด้วย Shower box เป็นสัดส่วนดี

พื้นโซนเปียกจะลดระดับลงจากพื้นโซนแห้งเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนกลับออกไปด้านนอก ส่วนกระเบื้องที่ใช้จะเป็นกระเบื้อง porcelain เป็นกระเบื้องที่มีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั้งแผ่น เนื้อกระเบื้องเป็นสีขาว มีความแข็งแรงและไม่มีการดูดซึมน้ำเลยก็ว่าได้

สำหรับฝักบัวทางโครงการให้ทั้งแบบ Rain shower และ Hand Shower เป็นของ Gessi นำเข้ามาจากอิตาลี ด้านข้างมีการเจาะช่องสำหรับวางของไว้ให้ ส่วนผนังด้านหนึ่งจะกรุหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown หรือเทียบเท่ามาให้เพื่อความสวยงามอีกด้วย จะเห็นว่า ทุกอย่างสั่งทำมาเป็นแบบพิเศษเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในทุกยูนิต

1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 43.25 ตารางเมตร

มาถึงยูนิต Type ขนาดกลางเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 43.25 ตารางเมตร ผังห้องเป็นห้องหน้ากว้าง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเห็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ส่วนห้องครัวจะได้เป็นครัวแนวยาวขนานกับผนัง ห้องนอนจะแยกตัวออกไปอีกฝั่งหนึึ่ง มี Walk through closet กั้นกลางระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ ด้านฟังก์ชันส่วนใหญ่เหมือนห้อง 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 38.5 ตารางเมตร ต่างแค่เรื่องขนาดและมุมของห้องที่จะได้เท่านั้น

เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาด้านใน ส่วนแรกที่เจอจะเป็นพื้นที่ครัวปูด้วยกระเบื้องสีขาวอมครีมดูเรียบหรู แต่ก็เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายด้วยเช่นกัน ส่วนเคาน์เตอร์ครัวใช้วัสดุและมีหน้าตาเหมือนกันกับห้องขนาด 38 ตร.ม. ด้านหลังเคาน์เตอร์ทำผนังกันเปื้อนกรุหินควอทส์ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

สำหรับตู้ระบบ HYDRAULIC ด้านบนในห้องจริงจะแบ่งแยกออกเป็น 2 ตู้ด้วยกันเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน หน้าบานตู้ยังคงกรุกระจกเพื่อความสวยงามและช่วยตกแต่งให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น ด้านล้างมีตู้และลิ้นชักสำหรับเก็บของ บานพับเป็นแบบ Soft-close ทั้งหมด ซึ่งช่วยลดแรงกระแทกจากการเปิด-ปิดได้ดี

ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้จะเป็นตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันครบชุดของ Kupperbusch ส่วนอ่างล้างจานยังเป็นแบบหลุ่มเดี่ยวติดมาให้พร้อมก๊อกเหมือนห้องที่เเล้ว

ตู้เย็นได้ขนาดใหญ่แยกช่องฟรีซและช่องแช่ธรรมดา กรุหน้าบานด้วยกระจกเงา 

เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันเป็นระบบปล่อยออกนอกอาคาร ช่วยขจัดกลิ่นอาหารภายในห้องได้ดียิ่งขึ้น

พื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อมาจากห้องครัวแต่พื้นจะปูด้วยไม้ Engineering wood ลวดลายก้างปลาสี คล้ายพื้นเรือนไทย ผนังส่วนใหญ่จะติดวอลเปเปอร์ ของ Jim Thompson สีน้ำตาลอมเทา ส่วนบริเวณชั้นวางทีวีจะเปลี่ยนเป็นผนังหิน สี Black Marquina ช่วยดึงจุดเด่น และสร้างความโมเดิร์นให้ห้องมากขึ้น

ด้านข้างห้องนั่งเล่นจะมีตู้บานเปิด Built-in สำหรับวางเครื่องซักผ้าใช้ในงานซักล้าง ด้านในจะมีการวางระบบไฟและท่อมาให้เรียบร้อย

ด้านหลังโซฟามีพื้นที่ว่างพอสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารหรือโต๊ะทำงาน ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดสังสรรค์ของครอบครัวที่ต้องการใช้เวลาพูดคุยกัน นอกจากนี้ยังได้รับแสงสว่างจากภายนอกด้วยประตูระเบียงและหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ห้องดูโปร่งและโล่งมากขึ้น

มุมนี้เหมาะสำหรับคนชอบทานข้าวไปด้วยดูโทรทัศน์ไปด้วยได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานก็ดูเหมาะสมดี เพราะตำแหน่งโต๊ะอยู่ใกล้ช่องแสงธรรมชาติ ซึ่งช่วยถนอมสายตาได้อีกทางหนึ่ง

เข้ามาดูส่วนของห้องนอน ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น จึงได้ห้องนอนขนาดใหญ่ขึ้น หากวางเตียงขนาด 6 ฟุตไปแล้วรอบด้านของเตียงก็ยังเหลือพื้นที่ไว้ให้เดินผ่านอีกเยอะ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด

นอกจากบริเวณห้องนั่งเล่นจะติดม่านให้เเล้ว ห้องนอนก็ติดตั้งม่านมาให้เช่นเดียวกัน โดยม่าน แอร์และระบบไฟ จะติดตั้งระบบควบคุมห้องอัตโนมัติสำหรับเปิด-ปิดม่าน แอร์และไฟ สำหรับม่านจะได้รางมาทั้งหมด 2 ราง แต่ผ้าม่านจะได้แค่ชั้นม่านทึบเท่านั้น 

สวิตซ์ไฟและปลั๊กที่ใช้ในห้องหน้าตาก็ออกมาโมเดิร์น เป็นของ Schneider 

ถัดจากเตียงนอนไปจะเป็น Walk through closet กั้นแยกบริเวณส่วนแต่งตัว ห้องน้ำ ออกจากห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน การวางห้องน้ำไว้ภายในห้องนอนแบบนี้ค่อนข้างสะดวกสำหรับผู้อยู่อาศัยก็จริง แต่ถ้าหากมีแขกมาเยี่ยมการขอเข้าใช้ห้องน้ำอาจจะทำให้ความเป็นส่วนตัวลดลงได้ เพราะก่อนเข้าห้องน้ำจำเป็นต้องผ่านห้องนอนเข้าไปก่อน

พื้นที่จากเตียงไปจนถึง Walk through closet กว้างพอจะหาโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือมาตั้งเพิ่มเติมได้เลย

สำหรับห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกและแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน ทางโครงการ THE ESSE สุขุมวิท 36 ให้สุขภัณฑ์มาครบชุดมีมาตรฐาน ส่วนพื้นและผนังก็ปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain) สวยงามดูเหมือนปูด้วยแผ่นหินธรรมชาติเลยทีเดียว

ฝักบัวได้มาทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower สามารถปรับระดับอุณหภูมิของน้ำได้ตามใจชอบ ส่วนผนังด้านหนึ่งก็กรุหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown ขนาด 400x800 มม. หรือเทียบเท่า เพื่อความสวยงาม

ส่วนแห้งจะมีทั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าแบบแขวนกับผนัง ด้านล่างเป็นตู้สำหรับเก็บของปิดหน้าบานด้วย Veneer ส่วนกระจกเงาก็จะได้เต็มพื้นที่เหมือนเดิม พร้อมชั้นเก็บของด้านหลังบานกระจก และที่สำคัญได้อ่างอาบน้ำขนาดค่อนข้างกว้าง

โถสุขภัณฑ์จะได้เป็นแบบ toto washlet ของ TOTO ดูทันสมัยและใช้งานได้ง่ายในเวลาเดียวกัน

2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 73.50 ตารางเมตร

มาถึงห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายเป็นห้อง 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 73.50 ตารางเมตร เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กๆ ที่ต้องการห้องมีพื้นที่ในย่านใจกลางเมือง ส่วนคอนเซปต์ก็ยังคงเน้นความเป็นไทยผสมผสานความเป็นโมเดิร์น และความเป็นส่วนตัว

ด้านฟังก์ชัน เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอครัวเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเหมือนห้องอื่นๆ ส่วนห้องนอนจะเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นด้วยโถงทางเดินเล็กๆ การแบ่งโถงแยกทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยภายในโถงทางเดินจะแบ่งเป็นห้องน้ำรับรอง, ห้องนอนเล็ก และห้อง Master Bedroom โดยห้องน้ำรับรองที่โถงทางเดินจะได้เป็นห้องน้ำที่มีฟังชั่นครบ แยกส่วนแห้ง-ส่วนเปียกมาให้ ภายในห้องนอนเล็กมีขนาดกว้าง จัดวางฟังก์ชันการใช้งานมาครบ และห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัวพร้อม Walk through closet 

พื้นที่ครัวที่ได้จะมีขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปถึงพื้นที่ห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ติดกับระเบียง สำหรับใครที่ชอบทำอาหารบ่อยๆ ห้องนี้เหมาะมาก เพราะได้เคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ อาจจะกั้นประตูกระจกแยกครัวออกมาก็จะช่วยทำให้การทำอาหารง่ายดายขึ้น เพราะกลิ่นและควันจะไม่ลอยไปติดกับเฟอร์นิเจอร์ที่บริเวณห้องนั่งเล่น

ประตูตู้ต่างๆ กรุกระจกสีชาทองเพิ่มความหรูหรา ทางโครงการ THE ESSE สุขุมวิท 36 แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าจำพวกตู้เย็น เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และไมโครเวฟมาให้ ส่วนอ่างล้างจานจะได้มาเเบบ 2 หลุมแยกส่วนล้างได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และ Top ครัวยังเป็นหินควอซต์สีดำเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายเช่นเดิม

ตู้เย็นจะได้แบบบนเปิดคู่ แยกกส่วนช่องฟรีซและช่องแช่ธรรมดามาให้

จุดเด่นของครัวห้องนี้คือ Island ตรงกลางที่ใช้สำหรับเตรียมอาหารหรืออาจจะใช้สำหรับจัดปาร์ตี้ในวันพิเศษก็ได้

สำหรับเครื่องซักผ้าจะวางไว้ใกล้กับประตูทางเข้า เก็บมิดชิดไว้ในตู้กรุบานกระจกสีชาทอง

ห้องนั่งเล่นดูโปร่งโล่งเพราะฝ้าสูงถึง 3 เมตร แถมยังอยู่ใกล้กับช่องแสงของระเบียงห้อง ทำให้ห้องดูสว่างแม้จะไม่ได้เปิดไฟ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มช่องแสงเป็นหน้าต่างด้านหลังโซฟาอีก 1 จุด โดยทางโครงการจะติดตั้งมู่ลี่มาให้สำหรับปรับลดแสงสว่างภายในห้อง

สำหรับห้องนี้ผนังฝั่งชั้นวางทีวียังคงกรุด้วยผนังหิน Atlantic Grey หรือเทียบเท่า ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของห้อง บ่งบอกถึงเอกลักษณ์และสไตล์ของเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี 

ห้องน้ำรับรองเองก็ตกแต่งออกมาสวยงาม มีีการแยกส่วนเปียกและแห้งออกจากกันเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ได้ชุดสุขภัณฑ์ครบถ้วนเหมือนกับห้องอื่นๆ ด้านข้างมีจุดปลั๊กไฟไว้ให้สำหรับเสียบไดร์เป่าผมเพิ่มเติมให้ด้วย

โซนเปียกติดตั้งฝักบัวทั้งแบบ Hand shower และ Rain Shower มาให้ เรียกว่า ให้ครบชุด แม้จะเป็นห้องน้ำรับรองด้านนอกก็ตาม

ห้องนอนเล็ก แต่ขนาดไม่เล็กเลย เพราะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ ภายในห้องมีช่องแสงขนาดใหญ่เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ 2 บานและบานกระทุ้ง 1 บาน

พื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือกว้างพอให้วางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่ง นอกจากนี้ยังได้ตู้เสื้อผ้าบานสไลด์ Built-in มาให้อีกหนึ่งบาน

มาถึงห้อง Master Bedroom กันต่อ ห้องนี้ได้ขนาดใหญ่เป็นพิเศษกว้างพอให้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ ส่วนปลายเตียงเองก็มีชั้นวางทีวีแบบลอยตัวมาให้

ความพิเศษของห้อง Master Bedroom คือการเปิดรับวิวทิวทัศน์มุมกว้างด้วยกระจกเข้ามุม สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ 2 ทิศทาง เหมาะสำหรับคนอยากซื้อคอนโดวิวสวย ทำเลดี และมีฟังก์ชันการอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

สำหรับ Walk through closet ของห้องขนาด 73.50 ตร.ม. จะไม่ได้กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน แต่ใช้วิธีบังสายตาด้วยตู้เสื่้อผ้า Built-in สองฝั่ง และทำทางเดินผ่านตรงกลาง แต่ตู้เสื้อผ้านั้นออกแบบมาให้เป็นกระจกสีชา สามารถมองทะลุเห็นด้านหลังได้ เพื่อทำให้ห้องดูโปร่งและเชื่อมต่อพื้นที่ถึงกันมากขึ้น

เดินผ่านบริเวณตู้เสื้อผ้าเข้ามาจะเป็นมุมแต่งตัว มีกระจกบานเล็กเป็นช่องแสง แต่ทางโครงการมีมู่ลี่ติดมาให้เพื่อช่วยอำพรางสายตาจากด้านนอก

ถัดไปเป็นส่วนสุดท้ายของห้องนั่นก็คือห้องน้ำ ด้านในห้องน้ำปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain) สีเทาดูแล้วคล้ายหินธรรมชาติดี

พื้นที่ห้องน้ำค่อนข้างกว้างและสว่างด้วยช่องแสงขนาดใหญ่เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบานฟิิกซ์ เป็นมุมชมวิวอีกมุมที่ทางโครงกรจัดทำไว้ให้ แต่สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มก็อาจจะลองหามู่ลี่มาติดตั้งเพิ่มได้ ถัดมาจะเป็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่กำลังพอดี และอ่างล้างหน้าแบบ His&Her จาก TOTO

รอบอ่างมีพื้นที่สำหรับให้วางของค่อนข้างกว้าง Top อ่างจะเป็นหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown หรือเทียบเท่า ดูเรียบหรูและทำความสะอาดได้ง่าย มีจุดปลั๊กไฟแยกให้ซ้ายขวา เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน

ติดกับอ่างล้างหน้าจะเป็นโถสุขภัณฑ์ติดผนัง และโซนเปียกที่กั้นด้วยกระจกบานผลักกรอบอลูมิเนียม พื้นที่ของโซนเปียกเป็นแนวยาวกว้างพอให้ยืนอาบน้ำได้สบายๆ

ส่วนฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower และ Rain Shower ปรับระดับอุณหภูมิน้ำได้ตามใจชอบ 

ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) คอนโดเดินทางสะดวกทุกเส้นทาง

ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) ตั้งอยู่บนที่ดินผืนสวยบริเวณปากซอยสุขุมวิท 36 ในย่านทองหล่อ ซึ่งเป็นใจกลางของ CBD (Central Business District) หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ แน่นอนว่า ความเจริญและความสะดวกสบายต้องมีมาก โดยเฉพาะด้านการคมนาคมที่ไปไหนมาไหนได้สะดวก เพราะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าและถนนเส้นหลักถึง 2 สาย 

การเดินทางด้วยรถยนต์

คอนโด THE ESSE สุขุมวิท 36 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 36 ซึ่งเชื่อมต่อถึงถนนเส้นสำคัญถึง 2 สายไม่ว่าจะเป็น...

- ถนนสุขุมวิท ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท ซึ่งเชื่อมต่อถึงถนนพระรามสี่ ถนนอโศกมนตรี และถนนเพชรบุรี หรือจะขับเข้าซอยทองหล่อ หรือซอยฝั่งเลขคี่ไปออกเพชรบุรีเลยก็ได้ ส่วนตัวซอยสุขุมวิท 36 ยังสามารถขับรถยนต์ลัดเลาะผ่านซอย AP เพื่อตรงไปยังซอยสุขุมวิท 38 และ 40 ซึ่งสะดวกต่อใครที่ต้องขับรถไปยังทางฝั่งอโศก ไม่จำเป็นต้องกลับรถให้เสียเวลา 

- ถนนพระราม 4 ตัวโครงการตั้งอยู่ห่างจากถนนพระราม 4 ประมาณ 1 กม. ซึ่งเชื่อมต่อถึงถนนสุขุมวิทและถนนรัชดาภิเษก ไปลุมพินี หรือย่านพระโขนงได้ และเส้นทางที่สำคัญที่จะเดินทางเชื่อมต่อไปยังทางด่วนเฉลิมมหานครเพื่อเข้า-ออกเมืองได้อย่างสบายๆ

การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

จุดเด่นของ THE ESSE SUKHUMVIT 36 อยู่ที่การเป็นคอนโดใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ เพียง 20 เมตร ถือเป็นโครงการที่ใกล้ BTS ทองหล่อที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ โดยจาก BTS สถานีทองหล่อ ให้เลือกเดินลงมาจากสถานีบริเวณทางออกที่ 2 เดินย้อนจากบันไดเลื่อนมา 20 เมตรเท่านั้นก็จะเป็นทางเข้าของโครงการ

ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) คอนโดทำเลดีระดับพรีเมียม

ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) ตั้งอยู่ในย่านทองหล่อ บริเวณซอยสุขุมวิท 36 ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวธุรกิจด้านอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการก่อสร้างที่เพิ่มการขยายตัวธุรกิจอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้นทุกพื้นที่ในย่านทองหล่อ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมหรือคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งราคาการซื้อขายของคอนโดมิเนียนมต่อตารางเมตรแถบนี้สูงขึ้นทุกปี เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 2 – 3 แสนบาท/ตรม. นอกจากนี้ยังมีการปรับขึ้นของราคาคอนโดอย่างต่อเนื่องประมาณปีละ 10-15% เพราะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้น ทั้งหมดนี้จึงทำให้ใครหลายๆ คนอยากจับจองมีที่พักอาศัยในย่านทองหล่อ ย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร

ส่วนบรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท 36 จะดูเรียบง่าย เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่อยู่อาศัยไม่ได้มีความพลุกพล่านในแบบที่ย่านทองหล่อควรจะเป็น เพราะซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ (ซอยสุขุมวิท 36-38) ดูจะเน้นการพัฒนาที่ดินให้เป็นที่อยู่อาศัย ทำให้มีความสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ 

ด้านในซอยสุขุมวิท 36 ก็ไม่ได้เงียบเหงาซะทีเดียวยังมีร้านอาหาร โรงเรียน ร้านนวดไทยต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้ทำแก้เบื่อ นอกจากนี้ก็ยังมีคอนโดมิเนียมเตรียมเปิดใหม่อีกหลายเจ้าภายในซอย รับรองว่า ในอนาคตซอยสุขุมวิท 36 จะกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่คึกคักมากขึ้นอย่างแน่นอน

ส่วนด้านการเดินทางก็สะดวกสบายเพราะมีซอยลัดเลาะเชื่อมต่อถึงกันได้หลายเส้นทางอย่างเช่นซอย AP ที่เชื่อมต่อถึงซอยสุขุมวิท 38 และ 40ได้

นอกจากจะตั้งอยู่บนทำเลทองแล้ว ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) ยังตั้งอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกของการใช้ชีวิตที่ครบครัน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันดังนี้

โซนทองหล่อ : คึกคักด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ โดยเฉพาะบริเวณซอยสุขุมวิท 55 

โซนพระราม 4 : เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้พื้นที่ด้วย Community Mall ห้างสรรพสินค้า และตลาดนัด

สนุกทุกไลฟ์สไตล์แบบคนรุ่นใหม่ที่ 'ทองหล่อ'

สภาพแวดล้อมของ 'ทองหล่อ' มีความเป็นสังคมเมืองอย่างแท้จริง มีอาคารตึกสูงระฟ้า เต็มไปด้วยคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ อาจเรียกเป็นทำเลทองของแหล่งพักอาศัยสไตล์คนเมืองเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็พบเจอแต่ความอุดมสมบูรณ์ แหล่งความเจริญ และเดินทางเข้า-ออกเมืองก็สะดวก นอกจากนี้ด้านไลฟ์สไตล์ในย่านทองหล่อก็ยังขึ้นชื่อในเรื่องของแหล่งช็อป ชิม ชิลล์ ที่มีให้เลือกมากมาย ทำให้ย่านทองหล่อมีความคึกคักทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

โดยเฉพาะทำเลติดรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อดูจะเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ครบเครื่องเรื่องการกิน-เที่ยว และรวบรวมความศิวิไลของกรุงเทพมหานครเอาไว้ได้ครบจบในทำเลเดียว

ไม่ใช่ย่านแสงสีเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัว

แน่นอนว่า เมื่อพูดถึง 'ทองหล่อ' หลายคนอาจจะนึกถึงแสงสียามค่ำคืน แต่เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของทองหล่อคือ ร้านอาหารที่มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารไทย ร้านอาหารนานาชาติและคาเฟ่หลากสไตล์ เหมาะสำหรับการพาครอบครัวมาพักผ่อนในช่วงวันหยุด นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยพื้นที่น่านั่งอย่าง Co-working Space และ Community Mall ดีๆ อีกหลายจุดด้วยกัน

ชมความน่ารักของน้องหมี ได้ที่ Teddy Castle คาเฟ่ ใกล้ BTS ทองหล่อ

Teddy Castle เป็นร้านคาเฟ่หมีๆ ในซอยทองหล่อ 5 พื้นที่คาเฟ่น่ารักๆ สำหรับครอบครัวที่ควรชวนลูก จูงหลานมานั่งเล่นในช่วงวันหยุด

ภายในร้านตกแต่งในสไตล์ Fairy Tale อิงนิยาย เหมือนยกปราสาททั้งหลังมาไว้บนทองหล่อ แถมยังเอาใจคนรักตุ๊กตาหมี ทุกมุมของร้านคาเฟ่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีทั้งไซส์เล็ก ไซส์ใหญ่ เลือกกอดกันได้ตามใจชอบ

ส่วนอาหารก็มีให้เลือกลิ้มชิมรสหลากหลาย แต่ที่เป็น Signature ของทางร้านที่ไม่ควรพลาดจะเป็นเมนูขอองหวาน อย่าง Cheese Pancake (ราคา 195 บาท) แพนค้กรสชาติพอดีๆ ไม่หวานมาก กลมกล่อมด้วยรสของเนยและไข่ ปรุงเเต่งกลิ่นด้วยชีสหอมๆ ทานพร้อมชากุหลาบ Rose Tea (ราคา 135 บาท) กลิ่นหอม สีสันสวยงามดูเข้ากันดี 

เข้าถึงรสชาติขนมปังแสนอร่อยที่ Maison Eric Kayser  คาเฟ่ ใกล้ BTS ทองหล่อ

Maison Eric Kayser ตั้งอยู่ระหว่างทองหล่อซอย 3 และ 5 เป็นร้านขนมปังอาร์ทิซานเจ้าดังจากฝรั่งเศส เปิดขายกันตั้งแต่ช่วงเช้า ลากยาวไปจรดหัวค่ำ 

ส่วนบรรยากาศภายในร้านก็เน้นความเรียบง่าย โปร่ง สบาย เน้นการตกแต่งแนวอบอุ่นใช้โทนสีน้ำตาลตัดขาว เข้ากันกับขนมปังหอมๆ ซึ่งถือเป็น signature ของทางร้านที่ทุกคนต้องไปลอง 

ขนมปังของที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกรรมวิธีการทำและการใช้วัตถุดิบแบบธรรมชาติในการปรุงแต่ง ทำให้รสชาติออกมาดี สมกับเป็นสูตรที่สืบต่อๆ กันมาตั้งแต่สมัยรุ่นทวด 

จับจ่ายคล่องตัวกับแหล่ง Community Mall ชื่อดัง ย่านทองหล่อ

เอาใจครอบครัวขาช็อปกับแหล่ง Community Mall รสนิยมดีในย่านทองหล่อ อย่าง เจ อเวนิว ซอยทองหล่อ 15 , Maze ทองหล่อ, FIFTY FIFTH Thonglor , มาร์เก็ต เพลส ซอยทองหล่อ 4, Eight Thonglor , Seen Space ซอยทองหล่อ 13, The Commons ซอยทองหล่อ 17 ทีี่เป็นทั้งพื้นที่เดินเล่น ช็อปปิง และยังมีพื้นที่ Co-working Space สำหรับการทำกิจกรรมรวมไปถึงนั่งพักผ่อนในช่วงวันหยุดของวันด้วย

เรียบง่ายแต่ครบครันทางฝั่งพระราม 4

ฝั่งถนนพระราม 4 เป็นอีกหนึ่งโซนที่อยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 36 เป็นอีกหนึ่งด้านของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากย่านทองหล่ออย่างเห็นได้ชัด เพราะฝั่งนี้ไม่ได้คึกคักด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ด้านอาหารการกินที่เน้นรสนิยมเป็นหลัก แต่จะเป็นแหล่งของอาคารสำนักงานที่กระจายตัวอยู่รอบๆ พื้นที่อย่างคึกคัก

ยกตัวอย่างอาคารสำนักงานใหญ่ๆ เช่น อาคารมาลีนนท์ (ช่อง 3) อาคารกรีนทาวเวอร์ อาคารสิรินทร์รัตน์ เป็นต้น ทำให้ย่านนี้คึกคักไปด้วยหนุ่ม-สาวชาวออฟฟิศ

แหล่งช็อป ชิม ชิลล์ของทางฝั่งพระราม 4 จึงเน้นเอาใจกลุ่มพนักงาน หรือคนอยู่อาศัยในพื้นที่แตกต่างจากทางฝั่งทองหล่อที่เรื่องของเน้นรสนิยมที่ต้องตอบโจทย์กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 

Community Mall หลักๆ ของทางฝั่งพระราม 4 เลยก็คือ สวนเพลิน Market แหล่งช็อปปิงที่ให้สะดวกสบายไม่เหมือนใคร พร้อมเพลิดเพลินไปกับโซนต่างๆ ที่รวบรวม ร้านค้าไว้มากมาย ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น รวมทั้งมีลานกิจกรรมกว้างขวางพื้นที่ใช้สอย 700 ตร.ม.

ส่วนห้างสรรสินค้าจะมี Tesco Lotus และ Big C Extra จับจ่ายใช้สอยกันแบบเรียบง่าย แต่ว่าก็ครบวงจร

ใกล้แหล่งสถานศึกษาและโรงพยาบาล

ข้อดีอีกหนึ่งข้อของ ซอยสุขุมวิท 36 คือการอยู่ใกล้แหล่งสถานศึกษาชื่อดังหลายๆ แห่ง เหมาะสำหรับใครที่มีบุตรหลาน แล้วต้องการซื้อคอนโดไว้ให้สะดวกต่อการรับส่ง

นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสถานพยาบาลใหญ่ๆ อีกหลายแห่ง โดยเฉพาะสถานพยาบาลชั้นนำที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรที่คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท (สุขุมวิท 49) โรงพยาบาลคามิลเลียน ซอยทองหล่อ 25 เป็นต้น 

สถานที่สำคัญใกล้เคียง ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36)

Education :

Bangkok Prep International School 120 m.

Trinity International School 450 m.

Srinakharinwirot (Prasarnmit) University 3.2 km.

Wattana Wittaya Academy 3.2 km.

Ekkamai International School 3.2 km.

Bangkok University 2.2 km.

Lifestyle :

Rainhill 550 m.

Gateway Ekkamai 1.1 km.

Suanplearn Market 1.8 km.

Seenspace 2 km.

J Avenue 2.1 km.

K Village 2.2 km.

Terminal 21 3.2 km.

SINGHA COMPLEX 3.6 km.

Makkasan Mega Project 4 km.

Health & Wellness : 

Sukhumvit Hospital 1.2 km.

Samitivej Sukhumvit Hospital 1.3 km. 

Camillian Hospital 2.6 km.

Rutnin Eye Hospital 3.3 km.

Bangkok Hospital 3.9 km.

Bumrungrad International Hospital 4 km.

Asoke Skin Hospital 5.3 m.  

วิเคราะห์โครงการ ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36)

จุดเด่นของโครงการ

- ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) คอนโดระดับ Luxury ใกล้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ระยะ 20 เมตร

-THE ESSE สุขุมวิท 36 เป็นโครงการร่วมทุนกันระหว่าง Singha Estate และ Hongkong Land บริษัทด้านการลงทุนการจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำธุรกิจในฮ่องกง

- การผสมผสานดีไซน์ของสภาปัตยกรรมไทยๆ เข้ากับความเป็นสากล จนกลายเป็น Iconic ของตัวโครงการ THE ESSE SUKHUMVIT 36 จากฝีมือของบริษัทออกแบบระดับโลก

- ความใส่ใจในการออกแบบทุกขั้นตอนส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยได้รับประสบการณ์ที่แตกต่าง แม้จะอยู่ในย่านทองหล่อแต่โครงการกลับมีความสงบและเป็นส่วนตัว แถมยังออกแบบยูนิตทุกห้องมาให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของแต่ละบุคคลอีกด้วย

การเดินทาง

ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) โดดเด่นในเรื่องของการคมนาคมทั้งระบบขนส่งสาธารณะและการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : คอนโด THE ESSE SUKHUMVIT 36 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 36 ซึ่งเชื่อมต่อถึงถนนเส้นสำคัญถึง 2 สายไม่ว่าจะเป็น... 

- ถนนสุขุมวิท เชื่อมต่อถึงถนนพระรามสี่ ถนนอโศกมนตรี และถนนเพชรบุรี โดยซอยสุขุมวิท 36 ยังสามรถขับรถยนต์ลัดเลาะผ่านซอย AP เพื่อตรงไปยังซอยสุขุมวิท 38 และ 40 ซึ่งสะดวกต่อใครที่ต้องขับรถไปยังทางฝั่งอโศก ไม่จำเป็นต้องกลับรถให้เสียเวลา

- ถนนพระราม 4  เชื่อมต่อถึงถนนสุขุมวิทและถนนรัชดาภิเษก ถือเป็นเส้นทางที่สำคัญที่จะเดินทางเชื่อมต่อไปยังทางด่วนเฉลิมมหานครเพื่อเข้า-ออกเมืองได้อย่างสบายๆ

การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ : จุดเด่นของ THE ESSE SUKHUMVIT 36 อยู่ที่การเป็นคอนโดใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อเพียง 20 เมตร ถือเป็นโครงการที่ใกล้  BTS ทองหล่อที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้

สภาพแวดล้อม

ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างอย่างลงตัว

ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) ตั้งอยู่ใจกลางของย่าน CBD (Central Business District) หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจอย่างทองหล่อ ทำให้เข้าถึงความเจริญและความสะดวกสบายได้โดยง่าย เพราะอยู่ใกล้กับแหล่งไลฟ์สไตล์ทั้งย่านแฮงค์เอาท์ และแหล่งช็อปปิงทั้งย่านทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศกและพระราม 4 

แต่ก็ไม่ได้มีแค่แสงสีเท่านั้น THE ESSE สุขุมวิท 36 ยังเลือกทำเลทางฝั่งเลขคู่ของทองหล่อ อย่างซอยสุขุมวิท 36 ที่มีความสงบและเพิ่มฟังก์ชันความเป็นส่วนตัวด้วยการออกแบบอาคารให้ห่างจากตัวถนนและรถไฟฟ้า พร้อมทั้งสร้างความสุนทรีย์สุด Exclusive ด้วย Facilities ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจากบริษัทระดับโลก

สิ่งอำนวยความสะดวก

Society and Exclusivity

ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ผ่านการออกแบบของบริษัทออกแบบสัญชาติไทยและบริษัทสถาปนิกระดับโลก ทำให้ทุกพื้นที่ส่วนกลางมีเรื่องราวที่บอกเล่าถึงความเป็น 'เรือนไทย' ที่ผสมผสานความเป็นสากลทำให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการนี้เข้าขั้นสมบูรณ์แบบ 

แบบห้อง

แบบห้องของคอนโด THE ESSE SUKHUMVIT 36 มีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

- 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 38.50-43.25 ตร.ม.

- 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 73.50-77.00 ตร.ม.

- 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 38.50-43.25 ตร.ม.

- ห้องเพนท์เฮาส์ พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม.

ด้านวัสดุของโครงการก็จัดเต็มระดับพรีเมียม มีการคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานส่วนต่างๆ ภายในห้องด้วยการติดตั้งระบบ Smart Home เพื่ออำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น ส่วนรูปแบบของแปลนห้องจัดมาหลากหลายแบบและเน้นความเป็นส่วนตัว เพราะจำนวนยูนิตต่อชั้นมีไม่กี่ยูนิตเท่านั้น 

ราคา

ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) เปิดเผยราคาประมาณเริ่มต้นอยู่ที่ 12 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเรทราคาที่ตกตารางเมตรละประมาณ 311,000 บาท ก็ถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับสภาพทำเลในย่านทองหล่อ เป็นหนึ่งในคอนโดติด BTS ทองหล่อ ระยะแค่ 20 เมตร นับเป็นคอนโดที่ใกล้ BTS ทองหล่อมากที่สุดเลยก็ว่าได้ และด้วยการดีไซน์ Facilities รวมถึงฟังก์ชันภายในห้องก็จัดมาให้เต็ม การันตีด้วยบริษัทออกแบบและผู้ร่วมลงทุนระดับโลก

ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอนโดระดับ Luxury ติด BTS ทองหล่อ บนทำเลสวยเดินทางสะดวกในย่านทองหล่อ รายล้อมด้วยไลฟ์สไตล์คนเมือง สนใจเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชันเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ต้องการทั้งความสงบและสีสันไปพร้อมๆ กัน

สำหรับผู้ที่สนใจคอนโด THE ESSE SUKHUMVIT 36 เตรียมตัวพบกับงาน Pre-Sale ในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2560 นี้ โดยสามารถกดลงทะเบียน เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมและสิทธิพิเศษได้ที่ http://www.singhaestate.co.th/condominium/the-esse-sukhumvit-36/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 1221