[Review] สัมผัสมนต์เสน่ห์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในราคาเอื้อมถึงกับ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) คอนโดพร้อมอยู่สไตล์รีสอร์ท

ใครที่กำลังตามหาความสุขสงบให้กับชีวิต หรือคิดที่จะผ่อนคลายด้วยการออกไปเที่ยวไกลๆ ตามที่ใจปรารถนา แต่ด้วยเวลาและหน้าที่ไม่เอื้ออำนวยให้เราออกไปคว้าความสุขให้กับตัวเองเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ถ้าเป็นแบบนี้ลองเปลี่ยนความคิดที่จะหายตัวไปไกลๆ แล้วมาใช้ชีวิตใกล้เมือง แต่ก็สามารถพักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ ได้จะดีกว่ามั้ย?

The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) เปลี่ยนการพักผ่อนในวันหยุดให้กลายเป็นเรื่องพิเศษได้ทุกๆ วัน ด้วยบรรยากาศโครงการที่ออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ทเหมาะกับการพักผ่อน บนทำเลใกล้ชิดริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างย่าน ‘สนามบินน้ำ’ พื้นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนอยากอยู่คอนโดวิวสวย ในราคาจับต้องได้เริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท

แล้วคุณจะรู้ว่า...การพักผ่อนไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเมืองอย่างที่คิด

รายละเอียดโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

ชื่อโครงการ : The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

เจ้าของโครงการ : บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน)

ที่ตั้ง : ซอยนนทบุรี 15 ถนนสนามบินน้ำ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

ขนาดพื้นที่ : 7-2-85 ไร่

ลักษณะอาคาร : อาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร และอาคารจอดรถสูง 7 ชั้น จำนวน 1 อาคาร

จำนวนยูนิต : 587 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต

จำนวนที่จอดรถ : ที่จอดรถทั้งหมดคิดเป็น 58% หรือ 343 คัน (รวมจอดซ้อนคัน)

รูปแบบห้อง :

- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29 ตารางเมตร

- 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 43 ตารางเมตร

- 2 Bedrooms Plus พื้นที่ใช้สอย 48 ตารางเมตร

- 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร

- 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร

เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาสแรกปี 2560

กำหนดการแล้วเสร็จ : ไตรมาสสาม ปี 2561

เว็บไซต์โครงการ : http://www.thepolitancondo.com/breeze/

ราคาเริ่มต้น : 1.99 ล้านบาท

โปรโมชัน : สำหรับในช่วง 21 - 22 ก.ค. นี้ ทาง The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) มีโปรโมชั่นพิเศษให้คุณเป็นเจ้าของลมหายใจแม่นํ้าเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาที่คุณเอื้อมถึง เริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท และรับฟรี! ชุดเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่นี่ คลิกลิงค์เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์  

หากใครนึกไม่ออกว่า การใช้ชีวิตบนทำเลใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาดียังไง วันนี้ Estopolis จะมาบอกเล่าประสบการณ์ดีๆ ของการเยี่ยมชมคอนโด Low Rise ที่ใกล้ชิดติดขอบผืนน้ำมากที่สุดอีกแห่งกับ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) หนึ่งใน 5 โครงการจากแบรนด์ The Politan ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูง ภายใต้การดูแลของ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ดีเวลลอปเปอร์ผู้พลิกทำเลสนามบินน้ำให้กลายเป็น HUB ที่อยู่อาศัยแบบเต็มตัว บนพื้นที่ขนาด 7-2-85 ไร่ แถมยังใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงในระยะเดินถึง

ซึ่งเราก็หวังว่า การรีวิวในครั้งนี้จะช่วยตอบคำถามได้ว่า “วิวริมแม่น้ำที่ทุกคนฝันถึงดีอย่างไร และทำไมหลายคนถึงอยากมีไว้ในครอบครอง”

แผนผังอาคารของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

ก่อนเข้าสู่ตัวโครงการ Estopolis ขอเปิดผังอาคารของ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) กันสักนิด เริ่มจากรูปที่ดินของโครงการที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า วางตัวอาคารในแนวทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งหากแบ่งกันตามทิศจริงๆ แล้ว วิวของแต่ละยูนิตในโครงการจะเป็นดังต่อไปนี้

ทางทิศตะวันตก : จะเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อมองเลยผืนน้ำไปจะเห็นเป็นบ้านเรือนแนวราบตั้งเรียงรายอยู่ตลอดแนวฝั่ง

ทางทิศตะวันออก : จะเป็นถนนทางเข้าโครงการ

ทางทิศเหนือ : จะเป็นวิวของคลองบางสร้อยทอง ถัดจากคลองไปจะเป็นเฟสใหม่ของโครงการ

ทางทิศใต้ : จะเป็นโครงการ The Politan Rive ซึ่งเป็นคอนโดสูง 56 ชั้น 

ส่วนกลุ่มอาคารพักอาศัยของโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) จะมีทั้งหมด 5 อาคาร แบ่งออกเป็น...

ลานจอดรถ

อาคารจอดรถสูง 7 ชั้น จำนวน 1 อาคาร สามารถจอดได้ถึง 343 คันหรือคิดเเป็น 58% รวมการจอดแบบซ้อนคัน

อาคาร A

เป็นอาคารที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยชั้นที่ 1 จะแบ่งเป็นส่วน Facilities อย่าง Main Lobby, Lift Lobby, ที่จอดรถ และส่วนของห้องพักอาศัยที่กั้นพื้นที่แยกออกจากส่วนกลางเพื่อความเป็นส่วนตัว ซึ่งในส่วนของชั้น 2-8 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยอาคารนี้จะมีแต่ห้องพักแบบ 2 ห้องนอนเท่านั้น

อาคาร B

สำหรับอาคาร B จะพิเศษขึ้นมาอีกนิดกับพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Library และฟิตเนสในชั้น 1 ส่วนยูนิตห้องพักอาศัยจะยังคงเป็นห้องพักแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งยูนิตในอาคาร A และ B จะอยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุด

อาคาร C

ขยับเข้ามาอีกนิดจะเป็นที่ตั้งของอาคาร C โดยฝั่งนี้จะเป็นอาคารของห้องชุดพักอาศัย Type 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29 ตารางเมตร ทำให้จำนวนยูนิตภายในอาคารเยอะกว่าอาคาร A และ B เล็กน้อย ในส่วนของชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ลานจอดรถและล็อบบี้ที่แต่ละอาคารจะตกแต่งไม่เหมือนกัน ส่วนชั้น 2-8 จะเป็นยูนิตของห้องพักอาศัยทั้งหมด

อาคาร D

ตรงข้ามกับอาคาร C จะเป็นที่ตั้งของอาคาร D ซึ่งเป็นอาคารของห้องพักอาศัย Type 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29 ตารางเมตรเช่นกัน แต่จะต่างกันตรงที่ชั้น 1 จะมียูนิตของห้องพักอาศัยรวมอยู่ด้วย ซึ่งเราไม่ต้องกังวลเรื่องความพลุกพล่านและความวุ่นวาย เพราะทางโครงการได้วางผังให้มีประตูกั้นแยกส่วนห้องพักออกไป แล้วเพิ่มความปลอดภัยให้กับการอยู่อาศัยด้วยระบบ Key Card Access ในการเข้า-ออกอีกด้วย

แบบห้องของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

สำหรับแบบห้องของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) จะมีให้เลือก 2 แบบ 5 ขนาด ดังนี้

ห้องแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29 ตารางเมตร เป็นห้องขนาดพอเหมาะ ที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ ซึ่งจะอยู่ภายในอาคาร C และ D ส่วนเลย์เอาท์นั้นจะเหมาะสำหรับซื้อไว้อยู่เองคนเดียว หรือเป็นคนในวัยเริ่มสร้างครอบครัว

ห้องแบบ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 43 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีขนาดกว้างขึ้นมาอีกนิด ซึ่งจะเป็นยูนิตของอาคาร A และ B โดยห้องที่ได้จะเป็นห้องแบบหน้ากว้าง แบ่งฟังก์ชันการใช้งานออกมาได้อย่างครบครันและลงตัว

ห้องแบบ 2 Bedrooms Plus พื้นที่ใช้สอย 48 ตารางเมตร เป็นห้องแบบหน้ากว้างและวางผังห้องเหมือนกับห้องขนาด 43 ตารางเมตร ต่างกันแค่ขนาดพื้นที่ภายในห้องเท่านั้น

ห้องแบบ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร เป็นยูนิตที่มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยจะเน้นการใช้งานภายในห้องเป็นหลัก ไม่ได้เน้นพื้นที่ส่วนระเบียงมากนัก

ห้องแบบ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร เป็นห้องมุม 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่ให้เราชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากภายในห้อง โดยจะมีระเบียงขนาดใหญ่ไว้รองรับความสุนทรียภาพด้านทัศนียภาพ เหมาะที่จะซื้อไว้ทั้งอยู่เอง และซื้อไว้เพื่อลงทุนปล่อยเช่าเป็นห้องพักตากอากาศ

ชมบรรยากาศจริงรอบโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

ถึงเวลาเยี่ยมชมโครงการจริงกันแล้ว วันนี้ Estopolis ได้เก็บภาพบรรยากาศรอบโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) และรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดมาฝาก ตามไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าว่า “การได้เป็นเจ้าของวิวแม่น้ำเจ้าพระยา จะสร้างความรู้สึกที่แตกต่างด้านการอยู่อาศัยให้กับเราได้ยังไงบ้าง?”

เริ่มต้นกันที่บริเวณด้านหน้าโครงการ จากปากซอยนนทบุรี 15 เข้าไป จะเจอกับกลุ่มอาคาร Low Rise สีเทา-ขาว ดูทันสมัยสไตล์โมเดิร์น และนี่ก็คือที่ตั้งของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) คอนโดพร้อมอยู่ที่เหมาะแก่การพักผ่อน ในบรรยากาศสไตล์รีสอร์ทนั่นเอง

เมื่อเข้ามาที่ด้านหน้าโครงการแล้ว จะพบกับระบบรักษาความปลอดภัย ที่ใครจะเข้าหรือออกก็ต้องผ่านเจ้าหน้าที่รปภ. และไม้กระดกก่อนเข้าสู่ตัวโครงการทุกครั้ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยให้แก่ลูกบ้าน

ถัดเข้ามาอีกหน่อยจะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถ หลักๆ แล้วจะเป็นการใช้พื้นที่ของอาคาร Car Park ที่อยู่ใกล้กับปากทางเข้า เพื่อลดมลภาวะและความจอแจในโครงการ ทำให้พื้นที่พักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ในบริเวณอาคารพักอาศัยเองก็ยังมีพื้นที่จอดรถบางส่วนให้บริการอยู่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ใต้อาคาร Car park ยังแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับเปิดเป็นร้านค้าเพิ่มอีก 3 ยูนิตด้วย

สำหรับพื้นที่จอดรถจะคิดเป็น 58% รวมการจอดแบบซ้อนคัน หรือจำนวน 343 คัน ซึ่งหากเทียบกับจำนวนลูกบ้านที่มีประมาณ 587 ยูนิตบวกกับราคาแล้ว ก็ถือว่าให้มาเยอะพอสมควร

ใต้อาคารทั้ง 4 ของโครงการจะมีการแบ่งพื้นที่เป็นลานจอดรถให้เช่นกัน โดยจะแบ่งเป็น...

• อาคาร A จอดได้ 24 คัน
• อาคาร B จอดได้ 19 คัน
• อาคาร C จอดได้ 42 คัน
• อาคาร D จอดได้ 20 คัน

พื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม เอาใจคนอยากพักผ่อน

ถัดจากอาคารจอดรถเข้ามา จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักขนาดกว่า 3 ไร่ และด้วยความเป็นคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา แน่นอนว่า...ความสวยงามที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ย่อมต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ

ทางโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) จึงออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมาให้เข้ากับบรรยากาศริมน้ำ โดยคงคอนเซ็ปต์คอนโดสไตล์รีสอร์ท ด้วยการวางผัง Facilities ไว้ตรงกลางโอบล้อมด้วยอาคารพักอาศัย ทำให้ผู้อาศัยสามารถเข้าใช้งานส่วนกลางได้ง่าย แถมในบางยูนิตยังมองเห็นวิวสวยๆ ของสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวที่อยู่บริเวณด้านล่างได้อีกด้วย

เริ่มชม Facilities ของโครงการด้วยเส้นทางสีเขียวชอุ่มกับ ‘Garden’ สวนพักผ่อนหย่อนใจที่เปลี่ยนบรรยากาศทางเดินกลางอาคารให้กลายเป็นจุดนั่งพักผ่อนด้วย Pavilion ที่วางสลับกับต้นไม้นานาพันธุ์ดูชุ่มชื่นและ Cover way ระแนงเหล็กสีน้ำตาลธรรมชาติ ที่มาช่วยสร้างเส้นสายและเน้นจุดสำคัญของบริเวณทางเข้าอาคารได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้รอบๆ อาคารยังมี Jogging Track ระยะทางประมาณ 250 เมตรไว้สำหรับวิ่งออกกำลังกาย หรือใครอยากออกมาปั่นจักรยานรับลม พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ของพื้นที่สีเขียวที่มีให้รอบโครงการก็ได้ ถือเป็นอีกสองจุดสบายตาที่ทางโครงการจัดมาเพื่อเอาใจคนรักการพักผ่อนแบบเต็มที่

ถัดจาก Garden จะเจอ The river breeze pond ขนาดความยาว 35 เมตร เป็นจุดเงียบสงบสำหรับคนอยากใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับกระแสน้ำและความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียว โดยทางโครงการได้จัดระเบียงพักผ่อน Sunken ที่ออกแบบมาในลักษณะขั้นบันไดลึกเข้าไปในตัวบ่อ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถมองเห็นได้จากล็อบบี้ที่อยู่ใต้อาคารทั้ง 4 อาคารเลย

ถัดไปทางฝั่งทิศเหนืออีกนิด...จะเป็นพื้นที่กิจกรรมอย่าง Kid pool สระเด็กรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ยาว 15 เมตร ลึก 60 เซนติเมตร และ Swimming Pool ขนาด 30 x 13 เมตร เป็นสระระบบเกลือแบบ Infinity Edge Pool พร้อมโซน Bubble Pool ที่คอยปล่อยฟองอากาศสำหรับใช้นวดตัว ให้ทุกคนได้สัมผัสกับคำว่าผ่อนคลาย แถมเข้าถึงบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างแท้จริง จากการมองเห็นวิวอยู่ตรงหน้า

สร้างบรรยากาศให้เหมือนกำลังพักอยู่ในรีสอร์ทหรู ด้วย “ระเบียงริมแม่น้ำเจ้าพระยา” ที่วางตัวยาวขนานกับขอบผืนน้ำบริเวณหน้าอาคาร A และ B โดยตรงนี้จะมี Pavilion จัดไว้ให้นั่งเล่นชิลล์ๆ เหมาะจะออกมานั่งกินลมชมวิวในตอนเย็นๆ เสียจริง

และถึงแม้โครงการจะมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดเด่น แต่ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ก็ยังไม่ลืมวางพื้นที่สีเขียวและ Jogging Track เลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไว้ให้ด้วย

นอกจากพื้นที่ Outdoor แบบกลางแจ้งแล้ว The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ยังจัดพื้นที่ส่วนกลางแบบ Indoor ไว้ให้ลูกบ้านได้ใช้หลบร้อนและพักผ่อนเพิ่มเติมกันได้ โดยส่วนแรกที่เราจะพาไปชมกันนั้นจะเป็น Multi-Purpose Library ห้องสมุดฟรี Wi-fi ที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ตั้งอยู่บริเวณอาคาร B ของโครงการ

โดยที่ Multi-Purpose Library จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ฉะนั้นจึงหมดกังวลเรื่องพื้นที่ไม่เพียงต่อการใช้งาน และด้วยการตกแต่งที่ออกแบบให้ฝั่งหนึ่งเป็นกระจกใสสูงจรดเพดาน เราจึงสามารถมองออกไปเห็นวิวด้านนอกได้ ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศเดิมๆ ขณะใช้งานพื้นที่ส่วนกลางให้ดูปลอดโปร่งมากขึ้น

หลังจากเรียกเหงื่อในพื้นที่กลางแจ้งไปแล้ว ก็ลองมาเล่นเวท ทำคาร์ดิโอในที่ร่มกันดูบ้าง กับ Fitness ใต้อาคาร B ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายหลากหลาย เอาใจสายรักสุขภาพกันแบบเต็มอิ่ม

*ซึ่งการเข้าใช้งาน Facilites บริเวณอาคารต่างๆ นั้น จะต้องใช้ระบบคีย์การ์ดทั้งหมด เพื่อความเป็นส่วนตัวและจำกัดสิทธิ์ไว้ให้สำหรับลูกบ้านเท่านั้น

และพื้นที่ความสุขสุดท้ายสำหรับคนเพื่อนเยอะ อย่าง Lobby ต้อนรับแขกในสไตล์โมเดิร์น ที่ทาง The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ออกแบบให้มีเพดานสูงเท่าตึก 2 ชั้น ดูเรียบหรู โดยจะแยกให้แต่ละอาคารเพื่อการใช้งานที่สะดวก

นอกจากนี้ก็ยังมี Mail box เป็นแบบกดรหัสโดยไม่ต้องใช้กุญแจแยกตามอาคารและตามห้องให้ลูกบ้าน ซึ่งจะตั้งไว้ที่บริเวณ Lobby ของแต่ละอาคาร

ดื่มด่ำบรรยากาศอันแสนสงบยามค่ำคืนที่ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

พอแดดร่มลมตก... The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ก็ยังไม่หลงลืมที่จะสร้างบรรยากาศดีๆ ให้กับการอยู่อาศัยในอีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยการประดับแสงไฟนวลตาตามทางเดินและพื้นที่ส่วนกลาง

เยี่ยมชมภายในอาคาร The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

ชมบรรยากาศภายนอกกันไปแบบหอมปากหอมคอแล้ว คราวนี้ถึงเวลาเข้าสู่ตัวอาคารเพื่อชมห้องตัวอย่างกันบ้าง สำหรับในการเข้า-ออกอาคารนั้นจะใช้ Key Card ทุกครั้ง โดยบริเวณชั้น 1 ของแต่ละตึกจะมีประตูกั้นแยกพื้นที่ส่วนที่พักและ Lobby ออกจากกันชัดเจน ส่วนการใช้ลิฟต์จะมีให้อาคารละ 2 ตัว โดยทั้งหมดจะเป็นแบบล็อกชั้นเพื่อความปลอดภัย

ภายในโถงทางเดินค่อนข้างสว่าง เนื่องจากมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานใหญ่ให้ทั้งหัวและท้ายอาคาร ซึ่งจะมีบางอาคารที่ชั้น 1 จะวางผังให้เป็นแบบ Single Corridor คือโถงทางเดินที่มีห้องอยู่แค่ฝั่งเดียว ทำให้ผู้พักอาศัยได้รับความเป็นส่วนตัวสูง โดยยูนิตส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Double Corridor (วางผังให้หันหน้าชนกัน)

สำหรับยูนิตแรกของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ที่เราจะเข้ามาสำรวจกันเป็นแบบ 1 Bedroom 29 Sq.m. ซึ่งเป็นยูนิตส่วนใหญ่ของโครงการ ตั้งอยู่เฉพาะอาคาร C และ D โดยทางโครงการมีโปรโมชั่น ฟรี เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินครบชุด จัดแบบ Fully Furnished เกือบครบ

ด้านการจัดวางเลย์เอาท์ของห้องนั้น เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น มองเลยไปเป็นห้องครัวแบบปิด ซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนที่กั้นผนังแยกเพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนห้องน้ำจะวางเลย์เอาท์ให้อยู่ภายในห้องนอนอีกที เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานของผู้อยู่อาศัย

ประตูทางเข้าห้องสีครีมติดตาแมวและด้ามจับแบบก้านโยกให้ครบ เมื่อเปิดเข้าไปจะพบกับบรรยากาศภายในห้องที่มาในโทนอบอุ่นสีเอิร์ธโทน วัดจากพื้นจนถึงฝ้าสูงประมาณ 2.5 เมตร และเมื่อเปิดประตูไปจนสุดแขนก็ไม่ต้องกลัวกระแทก เพราะด้านหลังมี Door Stopper ติดตั้งให้เรียบร้อยเช่นกัน

หันมาส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ที่ทางโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ซึ่งในห้องตัวอย่างที่เราได้เยี่ยมชมในวันนี้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์จาก Modernfrom โดยในห้องนั่งเล่น ทางโครงการจะแถมโซฟา, โต๊ะกลางและชั้นวางทีวีพร้อมตู้โชว์ให้

ห้องนั่งเล่นถือเป็นหนึ่งส่วนสำคัญสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ทางโครงการจึงให้โซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางมาให้นั่งดูทีวี จิบชา หรือจะหาเวลาชวนเพื่อนมาพบปะสังสรรค์กันก็ลงตัว โดยบริเวณด้านหน้าโซฟาไปจนถึงชั้นวางทีวีกว้างประมาณ 1.5 เมตร พอให้ติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้ถึง 43 นิ้ว ซึ่งเราอาจใช้พื้นที่นี้สำหรับการดูหนังเรื่องโปรดกับคนรู้ใจ หรือตั้งกลุ่มเชียร์เกมกีฬาแบบสนุกๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน

ส่วนวัสดุอื่นๆ นั้น ทางโครงการจะปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตสีธรรมชาติ มาช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับห้อง พร้อมติดวอลเปเปอร์มาให้เรียบร้อยใน Mood&Tone เดียวกัน พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้จำนวน 2 เครื่อง ทั้งในห้องนอนเเละบริเวณห้องนั่งเล่นด้านนอก

สำหรับคนไทย แน่นอนว่าจะปล่อยผ่านเรื่องอาหารการกินไปได้อย่างไร ที่ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) จึงจัดห้องครัวแบบปิดมาให้เพื่อเอาใจคนรักการทำอาหาร พร้อมกั้นประตูบานสไลด์ให้เพื่อป้องกันกลิ่นและควันจากการทำอาหาร ไม่ให้ลอยออกมาติดเฟอร์นิเจอร์ด้านนอก

แม้แต่พื้นห้องครัวก็ออกแบบให้ทำความสะอาดง่าย ด้วยการเลือกใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 30x30 ซม. ที่ทนน้ำและทนต่อการเช็ดล้างทำความสะอาด

ด้านชุดครัวก็ได้บิลท์อิน (bulit-in) เคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย โดยแยกออกเป็นส่วนของชั้นลอยสำหรับเก็บวัตถุดิบ และส่วนของเคาน์เตอร์ทำอาหารด้านล่าง โดยมีตำแหน่งไมโครเวฟอยู่ด้านบน ซึ่งเราอาจจะต้องระวังเรื่องการหยิบจับอาหารร้อนสักหน่อย ส่วนใต้อ่างล้างจานนั้นจะมีตู้สำหรับใส่อุปกรณ์ทำความสะอาด พร้อมลิ้นชักสำหรับใส่แยกช้อนส้อมให้อีกต่างหาก

วัสดุ Top ของเคาน์เตอร์เป็นหินควอซ์สีขาว โดยทาง The Politan Breeze จะแถมอ่างล้างจานแบบหลุมเดี่ยว พร้อมติดตั้งก๊อกน้ำมาให้เสร็จสรรพ ส่วนพื้นที่ด้านข้างก็มีพื้นที่เหลือให้ตั้งเตาไฟฟ้า หรือใช้ประกอบอาหารได้สะดวก

นอกจากนี้ยังมีจุดปลั๊กไฟติดไว้ตรงบริเวณมุมเคาน์เตอร์ สำหรับใช้เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เพื่อความสะดวกในการประกอบอาหาร

ด้านตำแหน่งวางตู้เย็นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว โดยทางคอนโดจะทำการเว้าผนังเป็นช่องเข้าไป เพื่อประหยัดพื้นที่ในการวางและไม่เกะกะขวางบริเวณทางเดิน

พอเงยหน้าขึ้นไปด้านบนจะเห็นไฟแบบดาวน์ไลท์ (Down Light) แสง Warm white ซึ่งติดตั้งให้ในทุกโซนของห้อง ส่วนข้างกันจะเป็นตัวตรวจจับความร้อนที่ติดตั้งให้ในห้องครัว และเครื่องดูดจับควันที่ทางโครงการติดตั้งให้ในห้องนอน

ถ้าใครยังกลัวว่า...การทำอาหารจะทำให้เกิดควันมาก ก็แนะนำให้เปิดประตูระเบียงเพื่อช่วยระบายอากาศดู ซึ่งทางโครงการจะทำระเบียงให้อยู่ติดกับห้องครัว แล้วกั้นด้วยประตูบานสไลด์ด้ามจับแบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อก

เมื่อเปิดออกมายังด้านนอกระเบียงจะเป็นพื้นที่สำหรับซักล้าง ปูพื้นด้วยกระเบื้องสีเทา พร้อมทำการวางระบบท่อระบายน้ำและก๊อกไว้สำหรับการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติม

ราวระเบียงเป็นราวเหล็กสีดำ สูงประมาณ 1.10 เมตร ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะหันเข้าในอาคาร เหมาะสำหรับคุณแม่บ้านที่ชอบซักผ้าตากบ่อยๆ รับรองว่าคอมเพรสเซอร์จะช่วยให้ผ้าแห้งไวขึ้นแน่นอน

เดินกลับเข้ามาภายในห้อง แล้วมุ่งหน้าสู่หัวใจของการพักผ่อนนั่นก็คือ “ห้องนอน” ที่กั้นปิดด้วยผนังเพื่อความเป็นส่วนตัว ซึ่งทางคอนโดจะแถมผนังหัวเตียง, โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้ามาให้ ส่วนเตียงนอนก็สามารถซื้อขนาดควีนไซส์ 5 ฟุตมาวางได้สบายๆ

ด้านข้างเตียงเองก็กว้างพอให้เราวางโต๊ะข้างหัวเตียง และติดผ้าม่านแบบสองชั้นทางฝั่งระเบียงได้

สำหรับสาวๆ คงถูกใจไม่น้อยกับตู้เสื้อผ้าแบบสามตอน โดยหน้าตู้จะติดเป็นบานกระจกสีชา และมีโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ที่ทางโครงการแถมมาให้ สามารถจุของได้พอดีกับคนอยู่อาศัย 1-2 คน

ในเมื่อ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) เป็นคอนโดพร้อมอยู่ในสไตล์รีสอร์ทั้งที ทางโครงการจึงจัดระเบียงชมวิวแยกส่วนออกจากระเบียงซักล้าง โดยวางผังระเบียงให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนอน เมื่อเปิดประตูกระจกบานสไลด์ออกมาจะเจอกับพื้นที่ระเบียงแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปูด้วยกระเบื้องสีเทาที่สามารถออกมายืนรับลม ชมวิวแม่น้ำได้

สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29 Sq.m. จะมีห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน เหมาะสำหรับวันเร่งรีบที่ตื่นขึ้นมาก็สามารถเข้าไปชำระล้างร่างกายได้ทันที โดยตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าพอดี

ธรณีประตูห้องน้ำจะยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมทำตัวจบขอบเก็บงานเรียบร้อยสวยงาม เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนออกมาสู่ภายนอก

พื้นและผนังของห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทา ยกเว้นโซนอาบน้ำที่ฝั่งหนึ่งจะปูด้วยโมเสกหินอ่อนเพื่อเพิ่มลูกเล่นด้านการตกแต่งให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

คอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ได้ทำการแยกโซนเปียกและโซนแห้งมาให้ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

ฝั่งโซนแห้ง ทางโครงการจะติดตั้งโถสุขภัณฑ์ไว้ใกล้ๆ กับอ่างล้างหน้า พร้อมติดราวแขวนผ้าให้เรียบร้อย โดยทั้งหมดนี้จะเป็นแบรนด์จาก Cristina ตามมาตรฐานของโครงการ ส่วนด้านหลังกำแพงมีการทำ Low Wall ไว้สำหรับวางของ พร้อมทำกระจกแบบเต็มบานให้สาวๆ ใช้งานกันได้แบบเต็มที่ทีเดียว

ตัวอ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังบนเคาน์เตอร์ครึ่งอ่าง ดูทันสมัย ติดตั้งมาให้พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยก ขนาดอ่างกว้างพอประมาณ มีพื้นที่รอบๆ ให้วางของเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ยังมีตู้สำหรับใส่ของเพิ่มเติมอยู่ด้านใต้อ่าง จึงไม่ต้องกังวลว่า ของกระจุกกระจิกที่หนุ่มๆ สาวๆ ใช้เป็นประจำจะไม่มีที่เก็บ

ด้านสุขภัณฑ์อื่นๆ ในห้องน้ำก็จะมีชักโครกแบบ Dual Flush ที่ช่วยในการประหยัดน้ำ, สายฉีดชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ติดตั้งมาให้ครบชุด

เรื่องการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้น ทางโครงการได้ติดตั้งระบบระบายอากาศมาให้แล้วเรียบร้อย

ติดกับโซนแห้งจะเป็นโซนเปียกที่ทางโครงการกั้นแยกโซนด้วยประตูกระจกบานผลัก เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก

พื้นโซนเปียกปูด้วยกระเบื้องเนื้อหยาบสีเทา กันลื่นได้ดี และทางคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ยังทำการลดระดับพื้นลงมาเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนออกไปทางโซนแห้งด้านนอก ช่วยให้เราทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

และเพิ่มความสดชื่นให้กับการอาบน้ำด้วยฝักบัวที่มีให้ทั้งแบบ Rain shower และ Hand shower จากแบรนด์ Cristina สามารถเลือกใช้งานได้ตามความชอบ

สำหรับใครที่ต้องการขนาดห้องที่กว้างขึ้นอีกสักนิด พร้อมแบ่ง space ให้ลงตัวขึ้นอีกสักหน่อย ห้องแบบ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 43 ตารางเมตร ก็ถือเป็นอีกหนึ่ง Type หนึ่งที่น่าลงทุนซื้อ เพราะคุณจะได้ห้องแบบหน้ากว้างที่มีการจัดเลย์เอาท์งานระบบและส่วนพักผ่อนออกจากกันแบบครึ่งต่อครึ่ง

สำหรับยูนิตแบบ 2 ห้องนอน ทุกห้องจะได้รับการติดตั้ง Digital Door Lock จาก Colt (หรือเทียบเท่า) มีแอร์ใ้ห้จำนวน 3 เครื่อง ยี่ห้อ Toshiba (หรือเทียบเท่า) และแถมเตาไฟฟ้า+เครื่องดูดควันของ Teka/Franke มาให้ พร้อมตกแต่งครบ

มาดูภาพรวมเลย์เอาท์ของห้องกันสักหน่อย เมื่อเปิดประตูเข้ามา...ส่วนแรกที่เราจะเจอเป็นพื้นที่ครัวแบบเปิด ตามสไตล์ตะวันตก พื้นปูด้วยกระเบื้องสีขาวดูแล้วสบายตา ทำความสะอาดง่าย โดยจะเชื่อมต่อกับพิ้นห้องส่วนอื่นๆ ที่เป็นไม้ลามิเนตได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านตรงข้ามเป็นห้องน้ำสำหรับรับแขก มองตรงไปเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งถูกขนาบด้วยห้องนอนทั้งสองห้อง

ดูแล้วก็แบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้ค่อนข้างลงตัว เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบคู่รัก หรือครอบครัวขนาดเล็กที่อยากมีห้องสวยๆ ไว้ชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา

พื้นที่ครัวแบบเปิดตกแต่งมาในโทนสีเทา-ขาว สร้างความหรูหราให้กับห้องได้เป็นอย่างดี โดยทางโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ได้บิลท์อิน (Bulit-in) เคาน์เตอร์ครัวและโต๊ะรับประทานอาหารมาให้ครบชุด ส่วนผนังก็ติดเป็นวอลเปเปอร์สีมาตรฐานของโครงการ

ฟังก์ชันของห้องครัวจะมีให้ทั้งตู้ลอยด้านบนและเคาน์เตอร์เก็บของด้านล่าง โดยจะเว้นพื้นที่ไว้สำหรับใส่ตู้เย็นและเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้พอดีๆ ด้านตำแหน่งไมโครเวฟนั้นจะอยู่ด้านบน ทำให้เวลาหยิบจับของร้อนจะต้องระมัดระวังสักหน่อย

Top ครัวเป็นหินควอซต์สีขาว พร้อมฝังอ่างล้างจาน 1 หลุมและติดตั้งก๊อกน้ำให้เสร็จสรรพ ส่วนผนังด้านหลังแนะนำให้กรุกระจกทำ Black Splash เพิ่มเติม จะได้ทำความสะอาดคราบน้ำมันที่กระเด็นใส่ผนังได้ง่าย

สำหรับห้องนี้จะแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวและเครื่องดูดควันจาก Teka/Franke ให้ ส่วนใครที่ชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ ก็สามารถใช้พื้นที่ด้านข้างเพื่อจัดเตรียมและตกแต่งจานอาหารได้ถนัดมือ

ฝั่งตรงข้ามกับห้องครัวถูกวางเลย์เอาท์ให้เป็น “ห้องน้ำรับแขก” ที่สามารถใช้งานได้ครบครัน เพราะทางโครงการแยกโซนเปียกและโซนแห้งมาให้เรียบร้อย

มาดูโซนแห้งกันก่อน...ทางคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ติดตั้งให้ทั้งกระจก, อ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์, สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่ จาก Cristina ภาพลักษณ์ดูทันสมัย และยังเสริมบรรยากาศห้องให้น่าใช้งานมากขึ้นด้วยกระจกเงาแบบเต็มผนัง ให้เราแต่งตัวสะดวก แถมยังดูโปร่งโล่งไปในตัว

ฝั่งโซนเปียกจะกั้นประตูกระจกบานผลักมาให้ โดยบริเวณด้ามจับประตูสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวเพิ่มได้อีกจุด ส่วนขนาดของห้องอาบน้ำนั้นก็กำลังพอดีๆ ไม่ได้เล็กจนทำให้รู้สึกอึดอัด และสร้างความผ่อนคลายให้มากขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยการอาบน้ำจาก Rain shower และ Hand shower จาก Cristina

ย้ายมาฝั่งห้องนั่งเล่นที่อยู่ตรงกลางห้องนอนกันบ้าง ส่วนนี้ทางคอนโดจะแถมโซฟา, โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวีและแอร์ที่ติดตั้งไว้ในตำแหน่งที่ค่อนข้างดี เพราะไม่ชิดกับระเบียงมากเกินไป ทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ช่วยเราประหยัดไฟได้มากขึ้น

นอกจากจะใกล้ห้องนอนแบบที่ลุกออกจากเตียงมาก็สามารถทิ้งตัวลงบนโซฟาได้ทันทีแล้ว ห้องนั่งเล่นยังอยู่ใกล้กับช่องแสงธรรมชาติอย่างประตูระเบียง ทำให้ห้องสว่างโดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ และสามารถเปิดออกไปชมวิวสวยๆ ได้สบายๆ

ขยับเข้าสู่พื้นที่พักผ่อนอย่างเต็มตัวที่ Master Bedroom ขนาดใหญ่ ซึ่งทางโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ได้แถมผนังหัวเตียงมาให้แล้ว ส่วนเตียงนอนเราก็สามารถซื้อหามาวางได้ใหญ่ถึง 5 ฟุต โดยที่ด้านข้างเตียงยังเหลือพื้นที่กว้างพอให้วางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ น่ารักๆ ได้อีก

ส่วนจุดเด่นของห้องนี้จะเป็นโซนระเบียงที่ทำยาวเชื่อมห้องนั่งเล่นกับห้อง Master bedroom เข้าไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับการออกมายืนรับลมชมวิวสวยๆ ของริมแม่น้ำเจ้าพระยา และวิว The river breeze pond ที่อยู่ด้านล่างของอาคาร

ทางโครงการแถมแอร์, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งให้ครบเซ็ต ส่วนปลายเตียงก็มีพื้นที่ให้ติดตั้งทีวีเพิ่มเติมได้ ดูเข้ากันดีกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ชอบทำอะไรเบ็ดเสร็จในพื้นที่เล็กๆ ที่เดียว

นอกจากห้อง Master Bedroom แล้ว ตรงข้ามก็เป็น “ห้องนอนเล็ก” ที่สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้สบายๆ ซึ่งทางโครงการได้แถมหัวเตียงเพื่อเป็นการตกแต่งให้อีกเช่นเคย โดยออกแบบให้วางชิดกับผนังฝั่งหน้าต่าง ที่เป็นบานสไลด์ 2 ตอนผสมกับบานฟิกซ์ สามารถเปิดรับลมเพื่อรับความสดชื่น และใช้ระบายอากาศภายในห้องได้ในตัว

มาถึงห้องใหญ่ที่สุดของโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) คือ ห้องแบบ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร ได้ห้องหน้ากว้างและยังเป็นห้องมุมที่สามารถ Take View แม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มๆ สายตา จากบริเวณห้อง Master Bedroom จะทำเป็นกระจกเข้ามุม ส่วนด้านการจัดวางเลย์เอาท์ก็คล้ายกับห้องขนาด 43 ตารางเมตร แต่ห้องนี้จะได้ระเบียงยาวที่เชื่อมต่อส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเล่นทั้งหมดเข้าด้วยกันเป็นรูปตัว L 

เริ่มต้นจากบริเวณทางเข้า โครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock จาก COLT (หรือเทียบเท่า) มาให้เพื่อเสริมความปลอดภัย และเมื่อเปิดประตูเข้ามาโซนแรกจะเห็นเป็นครัวแบบเปิด ตรงข้ามห้องครัวจะเป็นห้องน้ำรับแขก และหากมองตรงไปเจอห้องนั่งเล่นที่ขนาบด้วยห้องนอนทั้งซ้าย-ขวา จากพื้นถึงฝ้าสูง 2.5 เมตร พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ ส่วนผนังติดวอลเปเปอร์มาให้เรียบร้อย

ครัวที่ได้จะเป็นเคาน์เตอร์แบบบิลท์อิน (Built-in) ตามมาตรฐานของโครงการ จัดวางเป็นรูปตัว L มีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหาร แถมเตาไฟฟ้า+เครื่องดูดควันจาก Teka/Franke มาให้ ส่วนตำแหน่งเตาอบจะอยู่ด้านล่าง โดยบานตู้จะเป็นแบบ Soft-close ทั้งหมด ซึ่งภาพรวมของวัสดุต่างๆ จะเหมือนกับห้องอื่นที่ผ่านมา จะต่างกันก็เพียงส่วนของโต๊ะทานอาหารที่ Built-in เพิ่มเข้ามาให้ติดกับเคาน์เตอร์ครัว ทำให้เรามีพื้นที่ประกอบอาหารและนั่งทานอาหารได้สะดวกขึ้น

เข้ามาดูห้องน้ำรับแขกกันต่อ เมื่อเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์ครึ่งอ่าง พอปิดประตูแล้วถึงจะเจอกับโถสุขภัณฑ์ที่แอบอยู่ทางมุมซ้ายมือ มีการติดราวแขวนผ้า, สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่มาให้ โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดจะเป็นของ Chrstina ส่วนพื้นและผนังจะปูด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

ฝั่งโซนเปียก...ผนังด้านหนึ่งจะปูด้วยโมเสกหินอ่อนเพื่อความสวยงาม โดยทางโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ได้ทำฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย พร้อมกับติดฝักบัวของ Cristina ให้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower

ต่อมาเป็นมุมนั่งเล่นขนาดพอเหมาะ ระยะห่างจากโซฟาไปจนถึงทีวีกว้างพอให้ติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวที่ช่วยทำให้ห้องสว่างขึ้น โดยทางโครงการจะกั้นด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง เพื่อช่วยลดความร้อนจากแสงแดด ส่วนตัวกรอบเป็นอลูมิเนียมสี Autumn brown นับว่าดูดีทีเดียว

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการแถมให้จะมีโซฟา, โต๊ะกลางและชั้นวางทีวีที่เป็นเหมือนตู้โชว์ในตัว

ออกมายังโซนระเบียงจะเห็นว่ามีพื้นที่ยาวตั้งแต่ห้องนอนเล็ก, ห้องนั่งเล่นไปจนถึงห้อง Master Bedroom พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องสีเทา ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ก็เป็นแบบแขวนผนัง หันออกไปนอกอาคาร เพื่อกันระเบียงร้อน ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ระเบียงสำหรับชมวิวได้เต็มที่ 

กลับเข้ามาในห้องกันอีกรอบ คราวนี้จะเข้าสู่ส่วนห้องนอนโดยเริ่มที่ห้อง Master Bedroom ที่อยู่ทางฝั่งซ้ายมือของห้องนั่งเล่นก่อน

พักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่มกับบรรยากาศสไตล์รีสอร์ทที่เปิดผนังส่วนหนึ่งให้เป็นกระจกเข้ามุม สามารถมองออกไปเห็นวิวด้านนอกได้แบบเต็มตา แถมยังสามารถเดินออกไปรับลมจากระเบียงด้านนอกได้อีกด้วย แต่ถ้าวันไหนฝนตกก็อาจจะเปลี่ยนบรรยากาศจากวันเหงาๆ ให้เป็นความสนุกได้ด้วยการนอนดูหนังอยู่ในห้อง ก็ดูสุนทรียไปอีกแบบ

ทางโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) วางฟังก์ชันภายในห้องนอนมาให้ครบ โดยแถมหัวเตียง, ชั้น, โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อย นอกจากนี้ห้อง Master Bedroom ยังมีห้องน้ำในตัวจึงสะดวกสำหรับผู้อยู่อาศัย ไม่ต้องเดินเข้า-ออกห้องเพื่อไปใช้ห้องน้ำข้างนอกให้เสียเวลา

สำหรับห้องน้ำของ Master Bedroom วัสดุจะเหมือนกับห้องน้ำด้านนอก แต่จะกลับด้านที่ตั้งกันเล็กน้อยโดยโถสุขภัณ์จะวางอยู่ทางฝั่งขวามือของประตูแทน

ส่วนพื้นที่ Shower Box มีขนาดประมาณ 87 x 120 cm. กั้นด้วยกระจกนิรภัย พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ผิวด้านสีเทาขนาด 60 x 60 cm. และแถมฝักบัว Hand Shower และ Rain Shower ของ Cristina ให้ พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ และที่วางสบู่ครบเซ็ต

มาถึงห้องสุดท้ายนั่นก็คือ “ห้องนอนเล็ก” ที่ไม่ได้เล็กตามชื่อ เพราะห้องดูโปร่งด้วยการทำประตูกระจกที่สามารถเปิดออกไปชมวิวได้ แถมยังสามารถติดตั้งทีวีบริเวณปลายเตียงเพิ่มเติมได้อีกด้วย

ซึ่งโปรโมชั่นเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินทั้งหมด จะจัดให้ในช่วงวันที่ 21 - 22 ก.ค. นี้ ใครที่อยากเป็นเจ้าของลมหายใจแม่นํ้าเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาที่คุณเอื้อมถึง เริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท ก็อย่ารอช้า...รีบลงทะเบียนรับข้อมูลและสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ที่นี่เลย คลิกลงทะเบียน

โครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15 สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง ทั้งฝั่งปากซอยนนทบุรี 15 ออกไปยังถนนสนามบินน้ำ หรือจะใช้ทางลัดจากซอยรัตนาธิเบศร์ 42 เพื่อออกสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งเป็นถนนใหญ่ จึงสะดวกต่อผู้ใช้รถใช้ถนน

การเดินทางไปยัง The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว  

The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ถือเป็นคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เดินทางสะดวกไม่น้อย ถ้าหากไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้กับจุดตัดระหว่างถนนสนามบินน้ำและถนนรัตนาธิเบศร์ จนอาจจะกลายเป็น Gateway ด้านการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่ายๆ โดยถนน 2 เส้นนี้จะเชื่อมต่อถึงถนนสำคัญอีกหลายสาย ซึ่งถ้าหากแบ่งการเดินทางมายังตัวโครงการแล้ว ก็สามารถแยกออกได้เป็น 3 เส้นทางใหญ่ๆ ดังนี้

ถนนแจ้งวัฒนะ - The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

• จากถนนแจ้งวัฒนะ สำหรับใครที่ทำงานย่านแจ้งวัฒนะ สามารถขับรถตรงมายังถนนติวานนท์วิ่งตรงมาเรื่อยๆ เมื่อเจอแยกตัดกับถนนสนามบินน้ำให้เลี้ยวขวา หลังจากนั้นก็ขับผ่านสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ขับตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยนนทบุรี 15 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแยกระหว่างถนนสนามบินน้ำและรัตนาธิเบศร์มากนัก

ย่านบางใหญ่ - The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

• จากย่านบางใหญ่ การเดินทางจากย่านบางใหญ่ เมื่อใกล้ถึงโครงการจะเจอกับสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งมีทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ ให้ชิดซ้ายเพื่อขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเก่า เมื่อข้ามสะพานมาแล้วก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำ และเตรียมเลี้ยวเข้าซอยนนทบุรี 15 เพื่อเข้าสู่โครงการ

ทางพิเศษศรีรัช ทางด่วนขั้นที่ 2 - The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

• จากทางพิเศษศรีรัช ทางด่วนขั้นที่ 2 จุดนี้เมื่อลงทางด่วนแล้ว ให้ใช้ถนนงามวงศ์วาน หลังจากนั้นวิ่งขึ้นสะพานข้ามแยกแคราย โดยจุดสังเกตจะเป็นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ตามทางรถไฟฟ้า ก่อนจะถึงสะพานพระนั่งเกล้าจะมองเห็นเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ให้เตรียมเบี่ยงซ้ายเข้าทางคู่ขนานแล้วกลับรถใต้สะพานมาอีกฝั่ง หลังจากนั้นให้สังเกตป้ายซอยรัตนาธิเบศร์ 42 เตรียมเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่โครงการ หรือถ้าใครขับเลยก็ไม่ต้องกังวลเพราะขับตรงมาอีกหน่อยจะเจอแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสนามบินน้ำ ขับตรงเข้ามาอีกนิดก็สามารถเข้าโครงการได้ทางปากซอยนนทบุรี 15 ได้เช่นกัน

ส่วนด้านการพัฒนาในอนาคตก็มีโครงการที่จะก่อสร้าง ทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ซึ่งจะช่วยทำให้การเดินทางจากกรุงเทพมหานคร-เขตปริมณฑล-ต่างจังหวัดทางฝั่งตะวันตก มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยทางหลวงพิเศษนี้จะมีระยะทางรวมประมาณ 96 กิโลเมตร และคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2564

การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

รู้สึกสบายใจ เมื่ออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า

สำหรับใครที่มี The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) เป็นคำตอบในใจ แล้วคงรู้สึกว่าเป็นโครงการที่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงอยู่พอสมควร โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีสะพานพระนั่งเกล้า ห่างจากตัวโครงการโดยนับจากทางปากซอยรัตนาธิเบศร์ 42 อยู่ที่ประมาณ 400 เมตร แต่ถ้าใครเดินทางจากฝั่งถนนสนามบินน้ำจะอยู่ที่ 740 เมตร

แบ่งพิกัดตามทางขึ้น-ลงสถานี

• ทางออก 1 – สนามบินน้ำ/ซอยนนทบุรี 14 (พัฒนาการ), ฝั่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (จุดนี้ใกล้กับสะพานลอยข้ามไปยังตัวโครงการ)
• ทางออก 2 – ถนนสนามบินน้ำ/ซอย นนทบุรี 13/1, โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า
• ทางออก 3 – ท่าเรือพระนั่งเกล้า (จุดนี้ใกล้กับทางกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า)

ประหยัดได้เยอะเพราะเต็มไปด้วยรถโดยสารประจำทาง

เนื่องจากเป็นคอนโดพร้อมอยู่ใกล้ถนนใหญ่ การเดินทางด้วยรถสาธารณะจึงมีให้บริการอยู่ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่, รถตู้, รถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์ แต่ที่เห็นบ่อยๆ จะเป็นรถสองแถวสนาบินน้ำ-ท่าน้ำนนท์ ที่วิ่งให้บริการคนในย่านนี้อยู่ตลอดทั้งวัน ค่าบริการคนละประมาณ 7 บาทตลอดสายเท่านั้นเอง

แต่ในอนาคต...การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะจะไม่ได้มีแค่รถไฟฟ้าและรถโดยสารบนท้องถนนเท่านั้น แต่ยังมีแผนการเชื่อมต่อการเดินทางให้เป็นแบบ Commute Hub เน้นเดินทางได้ทั้งทางบก-ราง-และทางน้ำเข้าด้วยกัน โดยทำเลนี้จะมีการสร้างจุดเชื่อมต่อเรือด่วนเจ้าพระยา เพื่อรองรับผู้คนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และผู้คนในพื้นที่ให้มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น

เลาะริมแม่น้ำเจ้าพระยา ‘ตามหาไลฟ์สไตล์ที่ใช่ ในแบบที่เป็น’

หมดห่วงกับเรื่องการเดินทางกันไปแล้ว คราวนี้มาถึงเรื่องไลฟ์สไตล์ของคนในย่านสนามบินน้ำกันบ้าง ถ้ามองถึงภาพจำของย่านนี้ แน่นอนว่า ต้องนึกถึงความเป็นชุมชนเก่าแก่ ที่คงเสน่ห์ของบ้านเรือนริมน้ำเอาไว้ ทำให้การล่องเรือบนแม่น้ำเจ้าาพระยายังได้กลิ่นอายแบบไทยๆ ที่ชวนผ่อนคลายเหมือนได้ตัดขาดจากความวุ่นวายภายในเมืองอย่างสิ้นเชิง และถึงแม้จะเป็นวิถีชีวิตที่ดูเรียบง่าย แต่ที่นี่ก็ยังคงมีกิจกรรมหลากหลายแอบซ่อนตัวอยู่ รอให้เราเข้าไปค้นหาอยู่ตลอดเวลา

ในฐานะที่ Estopolis เองก็เป็นผู้ที่หลงใหลในบรรยากาศดีๆ เช่นนี้ เราจึงไม่พลาดที่จะพาไปตามหาไลฟ์สไตล์ที่ใช่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากริมแม่น้ำเจ้าพระยา เผื่อจะตรงใจคนเมืองที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศอันแสนวุ่นวาย มาอาศัยอยู่ในคอนโดวิวแม่น้ำที่สามารถเสพได้ทั้งบรรยากาศ และความสุขได้อย่างเต็มที่มานำเสนอกัน

อยู่กับธรรมชาติที่ ‘อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก’

เช้าๆ บรรยากาศดีๆ แบบนี้ แนะนำให้ลองมาเดินเล่นหรือออกกำลังกายกันที่ อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก อุทยานพักผ่อนริมแม่น้ำอันร่มรื่น ซึ่งเป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้น้ำ, ไม้ชายน้ำ, พืชสวนและสัตว์ชนิดต่างๆ จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี

ภายในอุทยานกว้างพอให้คนรักสุขภาพได้วิ่งออกกำลังกายเรียกเหงื่อ หรือจะใช้วิธีออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสายด้วยเครื่องเล่นที่มีให้หลากหลายชนิดภายในสวน ด้านบรรยากาศก็เงียบสงบมีต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ทั้งไม้ดอก, ไม้ประดับและไม้พันธุ์หายากที่ใกล้สูญพันธุ์ให้ศึกษา หรือจะพึ่งพาร่มเงาสำหรับนั่งพักผ่อนก็ได้เช่นกัน

นอกจากพื้นที่สีเขียวซึ่งเปรียบเสมือนปอดของคนในย่านนี้แล้ว ที่นี่ยังมีจุดเด่นอยู่ที่อาคารสวยงามที่เรียกว่า ‘วิมานสราญนวมินทร์พลับพลา’ โถงเครื่องยอดแหลมตั้งอยู่กลางสระน้ำ นอกจากนี้ยังมีเรือนไทยหมู่ เป็นเรือนไม้สักทั้งหลัง และมีส่วนของอาคารพลับพลาโถงจตุรมุข เป็นศาลาโล่งหลังคาลดชั้นสี่ทิศใช้สำหรับรับเสด็จระดับชั้นคหบดีแต่โบราณ

ใครที่ชอบทั้งสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ และชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ อาจจะลองขับรถมาเดินเล่นกันในช่วงวันหยุดดู รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด : 05.30-18.30 น.

ที่ตั้ง : ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : +66 2474 0656

ใกล้ชิดกับบรรยากาศดั้งเดิมที่ ‘ชุมชนบางรักน้อย’

ส่วนใครที่เป็นสิงห์ขาปั่น เน้นการท่องเที่ยวด้วยรถจักรยานสองล้อคู่ใจ ต้องลองมาทำความรู้จักกับ ‘ชุมชนบางรักน้อย’ ชุมชนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้และที่พักอาศัย โดยบ้านเรือนจะตั้งอยู่ริมคลองต่างๆ เช่น คลองอ้อม, คลองแม่ร่องกร่าง, คลองบางประดู่, คลองบางรักใหญ่ เป็นต้น จนทำให้กลายเป็นชุมนติดคลองใกล้แม่น้ำที่มีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานลัดเลาะตามคลองต่างๆ ยาวถึง 20 กิโลเมตร

ใครที่เคยไปเยือนบางกระเจ้าที่จังหวัดสมุทราปราการมาแล้ว อาจจะถูกใจบรรยากาศชุมชนบางรักน้อย เพราะที่นี่มีความสงบและคงความเป็นธรรมชาติของชุมชนดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ส่วนเส้นทางปั่นจักรยานนั้นอาจจะซับซ้อนเล็กน้อย แนะนำให้นัดกันไปเป็นกลุ่ม หรือสอบถามเส้นทางจากคนในชุมชนก่อนออกเดินทาง

ที่ตั้ง : ตำบลบางรักน้อย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

แวะพักหายใจที่ ‘Coffee Garden’ คาเฟ่เล็กๆ สไตล์ธรรมชาติ

เหน็ดเหนื่อยจากการออกกำลังกายในยามเช้าแล้ว ก็อย่าลืมแวะเติมพลังให้เต็มอิ่มที่ Coffee Garden ตัวร้านอยู่ภายในซอยไทรม้า 15 ใกล้กับวัดไทรม้าใต้ การันตีเรื่องบรรยากาศที่ตกแต่งตัวร้านให้ออกมาในสไตล์บ้านสวน รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่หลากหลายชนิด

นอกจากต้นไม้แล้ว ตัวร้านยังจัดโซนพื้นที่นั่งเล่นแบบไม่เหมือนใครด้วยโต๊ะไม้กลางแจ้ง ปะปนไปกับที่นั่งในร่มอย่างบ้านต้นไม้ ให้อารมณ์สงบ ชวนปลีกวิเวก จนอยากเอนกายลงพักผ่อนจริงๆ

สำหรับเมนูของร้านนี้จะมีหลากหลายทั้งอาหารตามสั่ง (ราคา 35-50 บาท), สเต็ก (99-120 บาท) และเครื่องดื่ม (40-50 บาท) เรียกว่า มานั่งเอาบรรยากาศกินของอร่อยๆ ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว

เวลาเปิด-ปิด : 8.30-17.00 น. 

ที่ตั้ง : 24/2 หมู่4 ซอยวัดไทรม้าใต้ ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลไทรม้า อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 085 364 4557

‘สนามบินน้ำ’ ย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

ส่วนใครที่ไม่มีเวลาไปไหนไกลๆ ย่านสนามบินน้ำก็ยังอยู่ในย่านที่ขับรถไปห้างสรรสินค้าได้ง่าย โดยตลอดเส้นถนนรัตนาธิเบศร์นั้นก็เต็มไปด้วยศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่ให้คุณเข้าไปเลือก ช็อป ชิม ชิลล์กันได้ทุกวันแบบไม่มีเบื่อ ยกตัวอย่างเช่น

• Big C Rattanathibet ห่างจากคอนโดประมาณ 3.7 km.
• Central Plaza Rattanathibet ห่างจากคอนโดประมาณ 4.8 km.
• Esplanade Ngamwongwan – Khae Rai ห่างจากคอนโดประมาณ 5.7 km.
• Tesco Lotus Rattanathibet ห่างจากคอนโดประมาณ 6 km. Central Plaza
• WestGate ห่างจากคอนโดประมาณ 7.9 km.
  

ลองมาชิมของอร่อยแถว ‘กระทรวงพาณิชย์’

ที่ไหนเป็นแหล่งทำงาน ที่นั่นย่อมมีของกินอุดมสมบูรณ์

ใครที่เลือกซื้อคอนโด The Politan Breeze นอกจากจะได้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาทุกวันแล้ว การเดินทางไปยังสถานที่ทำงานโดยเฉพาะสถานที่ราชการยิ่งง่าย โดยถนนสนามบินน้ำจะอยู่ใกล้ทั้งกองสลากฯ, กระทรวงพาณิชย์, กรมต่างๆ หรือถ้าข้ามไปยังถนนนนทบุรีก็จะเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ซึ่งบริเวณสถานที่ราชการต่างๆ ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย รองรับผู้คนหลังเลิกงานที่มักออกมาฝากท้อง หรือซื้อของกินกลับบ้านกัน

บรรดาร้านอาหารก็มีทั้งร้านแผงลอยและร้านน่านั่ง น่ารับประทาน สำหรับช่วงเวลาที่คึกคักจะเป็นช่วงเย็นๆ ไปจนถึงหัวค่ำ ซึ่งเป็นเวลาเลิกงานส่วนใหญ่ของคนในย่านนี้

บอกได้คำเดียวว่า มีของกินให้ชิม ‘เยอะ’ จนเลือกไม่ถูกเลยว่าจะกินอะไรก่อนดี

แวะทานมื้อเย็นแสนอร่อยวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ ‘บ้านระเบียงน้ำ’

ปิดท้ายวันด้วยบรรยากาศพิเศษกับคนพิเศษที่ ‘ร้านบ้านระเบียงน้ำ’ ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาในสไตล์ธรรมชาติ ตลอดทางเดินเข้าสู่ตัวร้านเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวที่ปลูกขนานไปกับสะพานไม้ที่ทอดยาวสู่โซนโต๊ะนั่งด้านใน

ส่วนในตัวร้านก็เป็นบรรยากาศบ้านไม้สมัยก่อน ที่ตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้แบบไทยโบราณ แถมยังมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบสุดลูกหูลูกตา ดูแล้วสดชื่นสมกับเป็นร้านอาหารริมน้ำขึ้นชื่อของย่านนี้

สำหรับอาหารก็รับรองว่าถูกปากชาวไทยแน่นอน เพราะเป็นอาหารไทยรสชาติอร่อย มีทั้งของคาวหวานให้เลือกรับประทานกันจนพุงกาง โดยเมนูเด็ดส่วนใหญ่จะเป็นอาหารซีฟู้ดอย่าง “ทะเลเผาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด” ที่มีให้เลือกหลายไซส์และหลายแบบ

แต่สำหรับวันนี้เรามาลองอาหารแบบพื้นบ้านแต่รสชาติดีจนต้องยกนิ้วให้กับ แกงส้มชะอมไข่, กุ้งทอดกระเทียมพริกขี้หนูสวน และสลัดคอหมูย่างสมุนไพร ไม่ลืมเพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำแตงโมปั่นชื่นใจ เบ็ดเสร็จมื้อนี้แค่ 600 บาทนิดๆ ถ้าใครพาครอบครัวหรือเพื่อนมารับรองว่า จัดเต็มแค่ไหนก็ยังอยู่ในเรทราคาที่จ่ายไหวแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด : 11:30–23:30 น. 

ที่ตั้ง : 50 ซอยนนทบุรี 23 แยก 4 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 02 968 1481

วิเคราะห์โครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

จุดเด่นของโครงการ

• The Politan Breeze คอนโด Low Rise เน้นความเป็นส่วนตัวสูงติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
• ด้านการออกแบบ The Politan Breeze เน้นบรรยากาศในสไตล์รีสอร์ทเอาใจคนอยากพักผ่อน
• The Politan Breeze เป็นหนึ่งในคอนโดย่านสนามบินน้ำที่ตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ระยะประมาณ 400 เมตร
• อยู่ The Politan Breeze เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกด้วยเส้นทางถนนที่เชื่อมถึงถนนเส้นหลักได้หลากหลายเส้นทาง
• เป็นคอนโดในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท

ทำเลของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพุมชนเก่าแก่ลิแทน บรีซ)

The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ตั้งอยู่บนทำเลย่านสนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งในย่านนี้แต่เดิมจะเป็นชุมชนเก่าแก่ริมน้ำ รวมถึงโครงการบ้านจัดสรรเสียส่วนใหญ่ แต่ด้วยความเจริญที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้เกิดเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในหลายๆ Segment และเลือกสร้างกันใกล้กับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะได้บรรยากาศดี แถมยังมีโอกาสปล่อยเช่าและขายได้มากกว่าโครงการอื่นๆ อีกด้วย

การเดินทางของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) เป็นอีกหนึ่งโครงการคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่โดดเด่นด้านการคมนาคมที่ครบครัน โดยเฉพาะการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ต้องการเชื่อมต่อการเดินทางให้เป็นแบบ Commuter Hub เน้นเดินทางได้ทั้งทางบก-ราง-และทางน้ำ ซึ่งในปัจจุบันตัวโครงการอยู่ใกล้กับการขนส่งระบบรางอย่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงในระยะเดินถึง และมีรถโดยสารทั้งรถแท็กซี่, รถสองแถว และวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ตลอดทั้งวัน

ส่วนต่อไปก็จะเป็นโครงการสร้างท่าเรือบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า เพื่อเชื่อมระบบขนส่งทางน้ำเข้ากับทางบก (รถยนต์) และระบบรางรถไฟฟ้าสายสีม่วงบริเวณสถานีสะพานพระนั่งเกล้าเข้าไว้ด้วยกัน ดังนั้นการเดินทางในย่านนี้จึงมีให้เลือกหลากหลาย พร้อมทั้งช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการเดินทางให้มีสูงขึ้นไปอีกขั้นด้วย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

ด้านการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ตั้งอยู่ใกล้กับจุดตัดของถนนสนามบินน้ำและถนนรัตนาธิเบศร์การเดินทางจึงสามารถเลือกใช้ได้ค่อนข้างหลากหลาย และน่าจะกลายเป็น Gateway ด้านการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่ายๆ เพราะเชื่อมถึงทั้งย่านบางใหญ่-รัตนาธิเบศร์-แจ้งวัฒนะ

ส่วนในอนาคตจังหวัดนนทบุรียังมีแผนพัฒนาเมืองให้ดียิ่งขึ้นเป็นโครงการสร้างมอเตอร์เวย์แห่งใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคนใช้รถใช้ถนน ซึ่งจะกลายเป็นทางหลักที่ทำให้ฝั่งตะวันตกติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาคึกคักขึ้นมาอีกเป็นกอง

แบบห้องของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

คอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) มีแบบห้องให้เลือกอยู่ 2 แบบ แต่หลายขนาด ดังนี้

- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29 ตารางเมตร

- 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 43 ตารางเมตร

- 2 Bedrooms Plus พื้นที่ใช้สอย 48 ตารางเมตร

- 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร

- 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร

ทางคอนโดแถมเฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully Furnished จากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Modernfrom มีเคาน์เตอร์ครัว, แอร์ และสุขภัณฑ์ แถมให้ครบ! เรียกว่า สามารถลากกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้เลย

สิ่งอำนวยความสะดวกของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

สร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยในสไตล์รีสอร์ท ให้โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ทอดยาวผ่านกลุ่มอาคารของ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) ทำให้ลูกบ้านสามารถเข้าใช้งานได้สะดวกจากทุกๆ อาคาร ไม่ว่าจะเป็น Riverfront Swimming pool, Kid Pool และ Garden ส่วน Fitnees และ Library รวมถึง Lobby จะอยู่บริเวณใต้อาคาร และจุดเด่นสุดท้ายจะเป็น River Breeze Pond จุดชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่หอบเอาความสดชื่นมาไว้ใกล้แค่เอื้อม

ราคาของคอนโด The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

ราคาของโครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) เริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท เป็นยูนิตแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร เหมาะสำหรับคนทำงานที่กำลังมองหาโอกาสในการซื้อคอนโดวิวสวย สไตล์ธรรมชาติที่ไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงต่างจังหวัด แถมยังเดินทางสะดวกด้วยระบบการคมนาคมที่ครบครัน เข้าเมืองได้ในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง สามารถสร้างได้ทั้งความสุขในด้านการอยู่อาศัย และกำไรสำหรับการลงทุนปล่อยเช่า โดยอัตราปล่อยเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 300-400 บาท/ตารางเมตร

สำหรับในช่วง 21 - 22 ก.ค. นี้ ทาง The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) มีโปรโมชั่นพิเศษให้คุณเป็นเจ้าของลมหายใจแม่นํ้าเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาที่คุณเอื้อมถึง เริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท และรับฟรี! ชุดเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินทั้งหมด สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ คลิกลิงค์ลงทะเบียน