[Review] กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) คอนโด High Rise พร้อมอยู่ย่านแจ้งวัฒนะ ลงตัวด้วยทำเล ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

สวัสดีค่ะ สำหรับรีวิวคอนโดในครั้งนี้จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับคอนโดมิเนียม High Rise แถวแจ้งวัฒนะกันค่ะ นั่นก็คือ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) คอนโดมิเนียมที่มาพร้อมกับแนวคิด Young Executive Life Style เดินทางง่าย ใกล้ทางด่วน ติดถนนหลักถึง 2 สายแถมอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูอีกด้วย…เกริ่นมาถึงขนาดนี้แล้ว เราลองไปชมรีวิวโครงการกันดีกว่าว่าจะน่าสนใจขนาดไหน จะถูกใจชาว Estopolis กันบ้างหรือเปล่า ตามไปดูพร้อมๆ กันในรีวิว กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) เลยดีกว่าค่ะ

ข้อมูลโครงการกรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) โดยละเอียด

ชื่อโครงการ

กรีเน่ คอนโด (Grene Condo)

ราคาห้องขนาด 59 ตร.ม. อยู่ที่ 5.98 ล้านบาท (อัพเดต 24/1/2023)

เว็บไซต์โครงการ

http://www.grenecondo.com/chaengwattana/th/

เบอร์โทรติดต่อ

02-980-8811

วงเงินกู้ 100%

N/A

ราคาเมื่อวันที่ 24/1/2023

2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 59 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 5.98 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana)

แผนที่จาก โครงการ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana)

ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนแจ้งวัฒนะและถนนประชาชื่น (ถนนเลียบคลองประปา) มีประตูทางเข้าโครงการจากทั้งทางฝั่งถนนแจ้งวัฒนะและถนนประชาชื่นทำให้เดินทางได้สะดวกมากขึ้น

‘ถนนแจ้งวัฒนะ’

ถือเป็นถนนสายหลักของคนที่อยู่อาศัยในโซนนี้ เพราะเป็นถนนที่เชื่อมต่อเส้นทางจากกรุงเทพมหานครตอนบนกับจังหวัดนนทบุรีเข้าด้วยกัน แถมยังเชื่อมต่อกับถนนอีกหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธิน, ถนนติวานนท์, ถนนรามอินทราซึ่งเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี-รังสิต หรือใกล้ๆ กันหน่อยก็เป็นถนนประชาชื่น (ถนนเลียบคลองประปา) เป็นต้น ด้วยการคมนาคมที่ค่อนข้างสะดวกทำให้พื้นที่บนถนนแจ้งวัฒนะกลายเป็นเป็นทำเลยอดฮิตอีกแห่งสำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดดีๆ เดินทางสะดวกสบายและอยู่ในเรทราคาที่จับต้องได้ง่ายด้วย

สำหรับด้านการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากโครงการไปยังถนนและสถานที่สำคัญต่างๆ ถือว่าสะดวกมากค่ะ เหมาะสำหรับคนที่อยู่อาศัยหรือทำงานอยู่ในโซนนี้อยู่แล้ว ส่วนใครที่ทำงานในเมืองก็มีจุดขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ใกล้ๆ เดินทางถึงไวพอสมควร ยกเว้นชั่วโมงเร่งด่วนนะคะที่รถจะติดมาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าที่ฝั่งขาเข้าเมืองจะแน่นเอี๊ยด ยิ่งถ้ามีงานที่อิมแพคเมืองทองธานีด้วยแล้ว รับประกันความติดแน่นอนค่ะ ส่วนในตอนเย็นเองก็ไม่น้อยหน้าทุกคนแย่งกันกลับบ้าน ฝั่งขาออกจึงมีปริมาณรถหนาแน่น แนะนำให้เผื่อเวลาในการเดินทางให้ดีๆ กะเวลาออกให้เช้าหน่อย กลับค่ำสักนิดก็ช่วยเลี่ยงรถติดได้เยอะเเล้วค่ะ

การเข้าถึงตัวโครงการสามารถทำได้จากทั้งทางฝั่งถนนแจ้งวัฒนะและถนนประชาชื่น (ถนนเลียบคลองประปา) จะเข้าเมือง ออกนอกเมืองถือว่าสะดวกทั้งสองเส้นทาง จากถนนแจ้งวัฒนะฝั่งเข้าเมืองจะใช้ทางด่วนหรือวิ่งออกถนนรามอินทรา เข้าถนนวิภาวดี-รังสิตตรงยาวเข้ารัชดา-ลาดพร้าวก็ได้ แต่ถ้าออกนอกเมืองก็มุ่งหน้าไปทางปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีสะดวกพอกัน

ส่วนถนนประชาชื่น (ถนนเลียบคลองประปา) ใช้เส้นออกนอกเมืองไปปทุมธานี ดอนเมือง ก็ขับรถเลียบคลองวิ่งเลี่ยงรถติดออกไปได้ หรือจะอาศัยเส้นเลียบคลองวิ่งไปงามวงศ์วาน แยกพงษ์เพชร ก็ได้เหมือนกัน

ใครที่ไม่ใช้รถยนต์แล้วหวังจะใช้รถไฟฟ้าในย่านนี้ ก็คงต้องทำใจร่มๆ รอกันไปก่อน เพราะเส้นรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดยังไม่เริ่มการก่อสร้าง โดยเส้นรถไฟฟ้าที่พูดถึงนี้ เป็นรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี สถานีที่ใกล้กับตัวคอนโดมากที่สุดจะเป็น สถานีศรีรัช ตั้งอยู่บริเวณหน้าแมคโคร สาขาแจ้งวัฒนะ จากคอนโดถึงสถานี ระยะทางประมาณ 500-750 เมตรไม่เกินนี้ ดังนั้นการเดินทางแบบไม่ใช้รถยนต์จึงต้องพึ่งพารถโดยสารสาธารณะอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถแท็กซี่ รถตู้หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์กันไปก่อน แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากค่ะ เพราะป้ายรถเมล์นี่อยู่ใกล้กับโครงการเลย ส่วนพี่วินก็มีวินใหญ่อยู่เลียบคลองประปา เรียกใช้บริการได้สบายๆ

การเดินทาง

เราเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวโดยการขึ้นทางด่วนเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ขับไปลงที่ถนนแจ้งวัฒนะและวิ่งตรงไปเรื่อยๆ ตัวโครงการจะตั้งอยู่ก่อนถึงแยกซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนแจ้งวัฒนะและถนนประชาชื่น สังเกตให้ดีนะคะ ทางเข้าอยู่ติดถนนใหญ่ซ้ายมือเลย

เริ่มต้นการเดินทางกันที่จุดขึ้นทางด่วนขั้นที่สอง ด่านเก็บเงินทางพิเศษประชาชื่นที่ถนนประชานุกูลมุ่งสู่ถนนแจ้งวัฒนะ คิดค่าบริการทางด่วนอยู่ที่ 15 บาทเท่านั้นค่ะ

ขึ้นทางด่วนมาแล้วก็ให้ขับไปตามป้ายบอกทางเลย

ทางด่วนนี้สามารถวิ่งไปยังถนนแจ้งวัฒนะก็ได้ หรือจะลงที่ถนนงามวงศ์วานก็ได้เช่นกัน

ทางแยกระหว่างถนนงามวงศ์วานและถนนแจ้งวัฒนะ เรายังคงขับตรงไปตามป้ายเหมือนเดิม

ให้ลงที่ทางออกน.2-11 ถนนแจ้งวัฒนะเลยค่ะ

ลงทางด่วนมาแล้วให้ขับชิดขวา มุ่งหน้าตามป้ายถนนแจ้งวัฒนะ (หลักสี่-ศูนย์ราชการ)

ขับขึ้นสะพานไปเลยค่ะ

เมื่อเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะแล้วก็ขับตรงต่อไปเรื่อยๆ

แลนด์มาร์กแรกที่เจอจะเป็นแมคโคร แจ้งวัฒนะ ซึ่งต่อไปจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้บริการอยู่ด้านหน้าห้างพอดี

ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดกลับรถถนนสรงประภาและถนนประชาชื่นเลยค่ะ ส่วนตึกสูงที่เราเห็นอยู่ไกลๆ นั้นเป็นคอนโดศุภาลัย ลอฟท์ แจ้งวัฒนะ

ขับมาจะเจอทางแยกระหว่างถนนกับสะพานข้ามแยก ให้วิ่งชิดซ้ายนะคะ อย่าเผลอไปขึ้นสะพานเชียว ไม่อย่างนั้นต้องตีรถกลับมาไกลเลยค่ะ

ถ้าขับมาเจอเจอโชว์รูมรถของ Mitsubishi แล้ว แสดงว่าอีกไม่ไกลก็ถึงตัวคอนโดแล้วค่ะ

เลยโชว์รูม Mitsubishi มาแล้วจะเจอจุดตัดระหว่างถนนแจ้งวัฒนะ และถนนประชาชื่น (ถนนเลียบคลองประปา) อยู่ด้านหน้า

ตัวโครงการจะอยู่ก่อนถึงแยกนิดหน่อยค่ะ อยู่ติดกับซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 47 ถ้ากลัวเลยก็สังเกตป้ายซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 47 ก็ได้ค่ะ

และแล้วเราก็มาถึงทางเข้าโครงการ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) เป็นที่เรียบร้อย ตัวอาคารตั้งโดดเด่นสูง 22 ชั้น สังเกตเห็นได้ในระยะไกล

สภาพแวดล้อมรอบโครงการกรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana)

รอบข้างของ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านปากท้องอยู่เยอะแยะเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าอย่างเทสโก้ โลตัส แจ้งวัฒนะสาขาใหญ่ที่อยู่ใกล้มากแค่ 200 เมตรก็เดินถึง ถัดจากเทสโก้ โลตัส แจ้งวัฒนะสาขาใหญ่ มาอีก 200 เมตรก็จะเป็น Community mall อย่าง The Avenue ถ้ายังชอปปิงไม่จุใจอีก เดินต่อไปอีก 200 เมตรจะเจอกับ บิ๊กซี แจ้งวัฒนะสาขาใหญ่อีกห้าง เรียกว่าอุดมสมบูรณ์เต็มที่กับการชอปได้ไม่มีเบื่อเลยค่ะ ส่วนใครที่ห่วงเรื่องสุขภาพก็มีโรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆ คือ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ห่างจากโครงการไปประมาณ 800 เมตรค่ะ

มาดูสภาพแวดล้อมตามทิศที่ตั้งกันบ้างนะคะ โครงการหันหน้าทางเข้า-ออก (ฝั่งถนนแจ้งวัฒนะ) ในทาง ทิศใต้  (ความจริงก็เป็นใต้ที่เฉียงตะวันตกนิดๆ), ทาง ทิศเหนือ จะอยู่ติดกับที่ดินเปล่า,  ทิศตะวันตก จะอยู่ติดกับบริษัทนำเข้ารถยนต์ และซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 47 ส่วนในทิศตะวันออกจะอยู่ติดกับถนนประชาชื่น (ถนนเลียบคลองประปา) ค่ะ

ดูแผนที่รวมแบบใกล้ๆกันไปแล้ว ไปดูภาพจริงกันดีกว่าค่ะ เป็นภาพจากชั้นดาดฟ้าของ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) มุมนี้เป็นมุมทางทิศตะวันตกของโครงการ มองย้อนขึ้นไปตามเส้นถนนแจ้งวัฒนะ

ฝั่งตรงข้ามจะมีห้างแมคโคร สาขาแจ้งวัฒนะ ซึ่งในอนาคตตรงนั้นจะเป็นจุดขึ้น-ลงของสถานีศรีรัช ซึ่งเป็นสถานีของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ดูจากระยะทางก็ยังพอเดินถึงได้อยู่นะคะ

ทิศตะวันตกนี้จะอยู่ติดกับ TSL Auto Corporation Co., Ltd. (สำนักงานใหญ่) เป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์และศูนย์ซ่อมบำรุงรถแบบครบวงจร

สำหรับคอนโดมิเนียมในย่านนี้เท่าที่เห็นในภาพจะมี คอนโดศุภาลัย ลอฟท์ แจ้งวัฒนะ (ตึกทางซ้ายมือ) และคอนโด เดอะเบส แจ้งวัฒนะ (ตึกทางขวามือ) ทั้งคู่เป็นคอนโด High Rise เหมือนกันค่ะ

พื้นที่ของคอนโด Grene Chaengwattana อยู่ติดกับจุดตัดระหว่างถนนแจ้งวัฒนะและถนนประชาชื่น (ถนนเลียบคลองประปา) อย่างที่เห็น ใครที่กำลังคิดว่าอยู่ติดคลองแบบนี้น้ำจะท่วมไหม? บอกเลยว่าไม่มีท่วมแน่นอนค่ะ เพราะโครงการตั้งอยู่หลังแนวคลองประปา ซึ่งเป็นคลองสำคัญของคนกรุงเทพ เป็นเแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ จะปล่อยให้น้ำเข้ามาท่วมได้ยังไง จริงไหมคะ

ทิศใต้จะได้วิวเป็นชุมชนแนวราบ ถ้ามองจากทางทิศตะวันออกจะเห็นเป็นวิวคลองประปาและวิวเมืองค่ะ

ทางทิศเหนือก็จะเป็นวิวเลียบคลองประปาและวิวชุมชนแนวราบเช่นเดียวกันค่ะ

มาดูทางฝั่งทิศตะวันออกเลียบถนนแจ้งวัฒนะกันบ้างนะคะ ฝั่งนี้จะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านปากท้องและการชอปปิง ใกล้ๆ กับคอนโดจะมีเทสโก้ โลตัส แจ้งวัฒนะ ถัดไปเป็น The Avenue และบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ ตามลำดับ

อยากจะเดินเลือกซื้อสินค้า หรืออาหารการกินก็ง่ายๆ เพียง 200 เมตร จะเจอกับเทสโก้ โลตัส แจ้งวัฒนะ หรือจะชอปปิงเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์เพื่อตกแต่งคอนโดให้สวยเช้งวับก็มี Index Livingmall ให้เดินเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สวยๆ ด้วยเหมือนกัน

The Avenue เป็นศูนย์รวมของร้านค้า ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือแม้กระทั่งน้ำหอม มีร้านอาหารชั้นนำให้ฝากท้องและโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

ถ้าชอปปิงที่เทสโก้ โลตัสไม่จุใจ ก็มาต่อกันที่บิ๊กซี แจ้งวัฒนะได้ มีทั้งซุปเปอร์และร้านอาหารชื่อดังมากมาย อยู่แถวนี้อุดมสมบูรณ์และเป็นทำเลที่ครบวงจรเพื่อการอยู่อาศัยที่แท้จริง

เจาะลึกภาพรวมโครงการ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana)

กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) อีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมประเภท High Rise สูง 22 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 376 ยูนิตย่านแจ้งวัฒนะ จากบริษัท ปรีดา โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทในเครือของ

ปรีดาก่อสร้าง อาจจะเป็นชื่อของดิเวลลอปเปอร์ที่เราไม่เคยคุ้นสักเท่าไรนะคะ แต่ตัวบริษัทปรีดานี้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มาแล้วหลายโครงการอยู่เหมือนกัน มีทั้งโครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว เช่น กรีเน่ คอนโด สุทธิสาร คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น, บ้านศรีสุวรรณ โครงการบ้านเดี่ยว เฟส 1 - เฟส 2 , ใกล้นิคมอมตะนครฯ – ชลบุรี เป็นต้น

ปรีดาโฮลดิ้งมีคอนเซปต์ในการประกอบธุรกิจที่ว่า “การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม” ซึ่งดูแล้วทำได้ค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ แต่จะดีแบบไหน เราลองไปชมรีวิวพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

ผังอาคาร

มาดู Master Plan กันก่อนนะคะ ทางเข้า-ออกของโครงการมีให้ 2 ทางจากทั้งถนนแจ้งวัฒนะและถนนประชาชื่น (ถนนเลียบคลองประปา) ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยในเรื่องของการเดินทางได้มากทีเดียวค่ะ ส่วนพื้นที่ในโครงการจะมีล็อบบี้, พื้นที่นั่งเล่นทั้งด้านนอกอาคารและด้านในอาคาร, มีสวนหย่อมรอบโครงการ, มีจำนวนร้านค้าใต้อาคารให้ 4 ยูนิต และมีพื้นที่จอดรถให้บางส่วนที่ชั้น 1 แต่หลักๆ จะจอดได้ที่ชั้น 2-5 คิดพื้นที่การจอดรถเป็น 49% ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน

ดูภาพ Master Plan ไปเเล้วมาดูภาพจริงประกอบกันไปเลยนะคะ ภาพจากด้านหน้าโครงการฝั่งทางเข้าจากถนนแจ้งวัฒนะ ซ้ายมือจะมีป้อมรปภ.คอยดูแลผู้อยู่อาศัยตลอด 24 ชั่วโมง

รูปแบบของอาคารอาจจะดูเรียบๆ ธรรมดาๆ ไปสักหน่อยค่ะ แต่ว่าโครงการนี้มีทีเด็ดในเรื่องของรูปแบบห้องและวัสดุภายในห้องที่เน้นเพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง

มุมขวามือจัดเป็นที่นั่งพักผ่อนแบบ Outdoor รอบๆ จัดเป็นสวนหย่อมเล็กๆ ให้เดินเล่นได้ค่ะ

หน้าตาของทางเข้าโครงการค่ะ ส่วนแรกที่เข้าไปเจอจะเป็นโถงรับรองและเคาน์เตอร์ติดต่อประชาสัมพันธ์ ถัดจากนั้นจึงจะเป็นส่วนของห้องพักค่ะ

แวะเข้ามาชมภายในอาคารสักนิด จะเห็นว่ามีประตูทางเข้า-ออกให้ทางขวามือด้วย ส่วนทางเข้าในส่วนของห้องพักจะอยู่ทางซ้ายมือ และเข้า-ออกด้วยระบบคีย์การ์ด เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน

ด้านข้างเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์จะเป็นตู้ Mail Box ค่ะ

เดินออกมาจากประตูด้านข้างจะเจอยูนิตร้านค้าจำนวน 4 ยูนิต เริ่มมีร้านค้าอย่างร้านกาแฟเข้ามาเปิดบ้างแล้ว

สำนักงานขายจะตั้งอยู่ใกล้กับยูนิตร้านค้าค่ะ

ด้านล่างจะมีพื้นที่ให้จอดรถรอบอาคารได้บางส่วน

แต่พื้นที่จอดรถส่วนใหญ่จะอยู่บนชั้น 2-5 โดยทางเข้่า-ออกลานจอดจะต้องแสกน Key Card ก่อนเพื่อความปลอดภัย

สำหรับชั้น 6 เป็นชั้นแรกที่มีห้องพักอาศัย มีทั้งหมด 15 ยูนิต และแบ่งพื้นที่อีกส่วนเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมอ่างจากุซซี่, สนามเด็กเล่น, พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน, ห้องซาวน่าแบบแยกชายหญิง, ฟิตเนส และห้องเอนกประสงค์ค่ะ สำหรับใครที่เลือกซื้อห้องในชั้นนี้จะได้รับความสะดวกสบายในการเข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ต้องขึ้น-ลงลิฟต์ให้เสียเวลา แต่ก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปเล็กน้อย เพราะจะพบเจอกับความพลุกพล่านและเสียงจอแจในบางช่วงเวลา จึงไม่เหมาะกับคนรักสงบสักเท่าไรค่ะ

มาดูสถานที่จริงกันเลยดีกว่าค่ะ โถงทางเข้าใช้ Facilities จะแยกส่วนออกมาจากส่วนของห้องพักชัดเจน ออกมาจากลิฟต์ก็เจอเลย

ถ้าอยากจะเข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางก็อย่าลืมพก Key Card มาด้วยนะคะ เพราะประตูติดตั้งระบบแสกน Key Card ไว้ให้เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ใครไปใครมาก็เข้าใช้งานได้ง่ายๆ นะ

ผ่านพ้นประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นชมวิว ทางคอนโดจัดโต๊ะไม้มาให้เป็นชุดๆ จะมานั่งอ่านหนังสือ พูดคุยหรือชมวิวเลียบคลองประปาก็ได้ค่ะ

ด้านข้างจัดเป็นสนามเด็กเล่นเล็กๆ สำหรับน้องหนูวัยหัดเดินหรือโตไม่เกิน 3 ขวบค่ะ มีเครื่องเล่นให้อยู่นิดหน่อย

สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นสระระบบเกลือพร้อมจากุซซี่ ข้อดีของสระระบบเกลือคือดีต่อผิวของเราและดีต่อเด็กๆ ด้วย

ตัวสระเป็นแบบ Infinite Edge Pool ไร้ขอบสระ ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ ด้านทัศนียภาพก็ไม่มีตึกสูงบดบังให้เสียบรรยากาศ ด้านข้างสระจัดวางที่นั่งริมสระไว้ให้ สำหรับพักผ่อนหลังจากว่ายน้ำมาเหนื่อยๆ

ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ เปิดประตููเข้าไปสำรวจกันหน่อยดีกว่าค่ะ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่โล่งๆ แถมมีทีวีติดไว้ให้ อาจจะจัดเป็นส่วนเต้นแอโรบิกแบบเบาๆ หรือเล่นโยคะก็น่าจะได้นะคะ

ด้านข้างมีเก้าอี้สำหรับนั่งพัก และเครื่องออกกำลังกายตั้งแยกอยู่

อุปกรณ์กก็หลากหลายดีค่ะ มีทั้งเครื่องเพาะกล้าม ซิทอัพ ดัมเบล และลู่วิ่ง แต่ก็แอบเสียดายที่ตั้งอุปกรณ์ออกกำลังกายติดกับกระจกเงามากไปหน่อย ถ้าเว้นที่ด้านหน้ากระจกสำหรับเล่นโยคะแทนหน้าประตูอาจจะเวิร์กกว่าก็ได้

จากมุมห้องฟิตเนสสามารถมองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำและวิวรอบๆ คอนโดได้

ด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีจุดล้างตัวมาให้ 1 จุด ติดกันเป็นห้องซาวน่าแบบแยกชาย-หญิง ตรงนี้เป็นฝั่งของผู้หญิงค่ะ

ด้านในมีอ่างล้างหน้า ติดกระจกเงาบานใหญ่ไว้ให้ และมีซาวน่าให้ 1 ห้อง

จากทางเข้าประตู จะเห็นว่าห้องจะอยู่ทางขวามือ

ส่วนห้องอาบน้ำจะมีให้ 2 ห้องอยู่ทางฝั่งซ้ายมือค่ะ

ส่วนฝั่งผู้ชายจะอยู่ท้ายสระติดกับห้องเอนกประสงค์ ซึ่งมีโต๊ะยาวตัวใหญ่ตั้งไว้ให้สำหรับนั่งประชุม หรือสังสรรค์กันก็ได้

สำหรับลิฟต์ภายในอาคารจะมีให้ 4 ตัวค่ะ และแยกลิฟต์ขนของออกไปอีก 1 ตัว ด้านความหนาแน่นของการใช้ลิฟต์ตกอยู่ที่ 94:1 ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานค่ะ ไม่หนาแน่นมากจนเกินไป

ลิฟต์เองก็สร้างความอุ่นใจให้กับผู้อาศัยอีกขั้น โดยการใช้ระบบล็อกชั้น ต้องมี Key Card จึงจะใช้งานลิฟต์ได้

ขึ้นลิฟต์มาต่อกันที่ชั้น 7 ชั้นนี้จะเป็นชั้นของห้องพักทั้งหมดแล้วค่ะ เริ่มมีห้องหลากหลายขนาดมากขึ้น ตัวอาคารจะเป็นรูปตัว U เว้าทางฝั่งตะวันออกไว้ ทำให้ห้องบางส่วนได้วิวสระที่อยู่ในชั้น 6 ส่วนการวางผังห้องในอาคารจะวางหันหน้าชนกัน โถงลิฟต์จะอยู่ค่อนมาทางทิศใต้ ใครที่อาศัยอยู่ทางทิศเหนือของอาคารอจจะต้องเดินมาใช้บริการลิฟต์กันไกลหน่อยนะคะ มีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และมีห้องทิ้งขยะให้ทางฝั่งทิศเหนือค่ะ

ผังห้องในชั้น 8-9 จะมีห้องขนาดที่ใหญ่กว่าชั้น 7 เล็กน้อย แต่ยังคงมีจำนวนยูนิตเท่ากันคือ 23 ยูนิต/ชั้น ผังโดยรวมคล้ายกับชั้น 7 แต่จะต่างที่ห้องทางฝังทิศตะวันตกจะเปลี่ยนจากห้องแบบ Duplex มาเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. ซึ่งทางคอนโดกรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) ออกแบบมาให้มีระเบียงเป็นรูปตัว L เพื่อใช้บังแดดในช่วงเวลาบ่าย-เย็น

ผังชั้น 10-11 และชั้น  12-14เหมือนกับชั้น 8-9 ยกเว้นขนาดของห้องจะมีการเปลี่ยนแปลงไป

ผังในชั้นที่ 15-18 และชั้น 19-22 ห้องส่วนใหญ่จะมีการทำระเบียงให้เป็นรูปตัว L เพื่อบังแดด เหนือขึ้นไปจากชั้น 22 จะมีสวนดาดฟ้า ซึ่งเป็น Facility อีกจุด โดยเราจะต้องเดินขึ้นบันไดไปแทนการใช้ลิฟต์

ขึ้นมาบนดาดฟ้ากันแล้วค่ะ สวนดาดฟ้าดูแล้วแห้งแล้งไปสักหน่อย อาจจะไม่ค่อยมีคนขึ้นมาใช้งานหรือเปล่าก็ไม่ทราบนะคะ ตรงประตูเข้า-ออกจะตั้งเก้าอี้ไว้ให้นั่งเล่น ส่วนรอบๆ จะปูพื้นด้วยหญ้าค่ะ

บรรยากาศรอบๆ ดาดฟ้าค่ะ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร ถ้าตกแต่งเป็นสวนให้น่านั่งกว่านี้จะดีมากเลย เพราะวิวบนนี้เป็นวิวเมืองทางฝั่งถนนแจ้งวัฒนะ และวิวบ้านเรือนทางฝั่งถนนเลียบคลองประปา ดูแล้วน่าสนใจและเหมาะจะเป็นจุดชมวิวที่ดีของคอนโดได้

ทางคอนโด Grene Chaengwattana จัดเตรียมพื้นที่จอดเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้ สำหรับเวลาเกิดเหตุแล้วจำเป็นต้องหลบหนี หรือต้องการความช่วยเหลือทางอากาศ

ผังห้อง

กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) มี Type ห้องที่หลากหลายถึง 4 Type และมีขนาดที่ค่อนข้างหลากหลายค่ะ ห้องเล็กที่สุดจะเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 22 ตารางเมตร และใหญ่สุดจะมีแบบ 2 Bedrooms ขนาด 61 ตารางเมตร หรือใครใฝ่ฝันอยากจะได้ห้อง Duplex ที่นี่ก็มีนะคะ ขนาดจะอยู่ที่ 59 ตารางเมตรค่ะ ทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์มาครบครัน พร้อมเข้าอยู่ได้เลย

ห้องแบบ Studio จะมีขนาด 22 ตารางเมตรและ 23 ตารางเมตร ซึ่งเป็นไซส์ยอดฮิตของคอนโดมิเนียมสมัยนี้ 2 Type นี้จะแตกต่างกันที่ขนาดของห้องและรูปแบบการวางผังของห้อง โดยห้อง ขนาด 22 ตารางเมตร จะเป็นห้องแนวยาวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนห้องขนาด  23 ตารางเมตร จะเป็นทรงคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส ด้านฟังก์ชันภายในและเฟอร์นิเจอร์จะได้เหมือนกันหมดค่ะ

ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดเล็กที่สุดจะเป็น 32 ตร.ม. ซึ่งได้ครัวแบบปิดแถมกว้างเป็นพิเศษ เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารมากค่ะ เพราะทำแล้วจะไม่เกิดกลิ่นรบกวนในส่วนอื่นๆ ของห้อง ด้านฟังก์ชันภายในห้องก็วางไว้ 5 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำและระเบียง

1 Bedroom แบบต่อมาจะพิเศษตรงที่ระเบียงจะทำเป็นตัว L เพื่อช่วยในการบังแดด จะมี 2 ขนาดด้วยกันค่ะคือ 33 ตร.ม. และ 34 ตร.ม.

แบบต่อมาของ 1 Bedroom จะเป็นขนาด 33 ตร.ม. เหมือนเดิม แต่ใน Type A2N จะเน้นพื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นพิเศษและได้ครัวแนวยาวดูแล้วแคบกว่าห้องแบบอื่นๆ ส่วนใน Type A2S จะเน้นห้องนอนและให้พื้นที่ห้องครัวเหมือนกับห้องอื่นๆ สามารถประกอบอาหารและนั่งทานข้าวรวมกันไปในห้องเดียวได้เลย ไม่ต้องแยกออกมาทานด้านนอกเหมือนกับห้อง Type A2N

ยังไม่หมดกับแบบห้องของ 1 Bedroom Type นี้เป็น แบบสุดท้ายขนาดใหญ่ที่สุดถึง 35.5 ตร.ม. ได้พื้นที่ในส่วนต่างๆ ของห้องแบบกว้างขวาง และแยกส่วนออกจากกันชัดเจน ระเบียงเป็นระเบียงยาวเชื่อมถึงทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้อง Type นี้จะเป็นห้องมุมหันหน้าไปทางฝั่งทิศตะวันออก ได้วิวเป็นคลองประปาและชุมชนรอบๆ ถนนเลียบคลองค่ะ

มาต่อกันที่ห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาดเล็กที่สุดจะเป็น 59 ตร.ม. เป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จัดวางเลย์เอาท์ได้ดีค่ะ เสียอย่างเดียวห้องแบบ  2 Bedrooms จะได้ครัวแบบเปิด เหมาะกับการทำอาหารเบาๆ ไม่มีกลิ่นหรือควันเยอะๆ

ห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 61 ตร.ม. เป็นขนาดที่เหมาะจะอยู่กันเป็นครอบครัวเล็กๆ ฟังก์ชันภายในห้องจะแบ่งเป็น ห้องครัว เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นระเบียง ด้านนอกมีห้องน้ำแยกสำหรับแขก ส่วนพื้นที่พักผ่อนจะเป็นห้องนอน 2 ห้อง โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำให้ภายในตัวด้วย

สำหรับใครที่อยากจะอยู่คอนโดแต่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น ห้องสุดท้ายจะเป็น Duplex ซึ่งตอบโจทย์ในข้อนี้ได้ดีค่ะ ห้องนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 59 ตร.ม. เป็นห้องที่มี Void (เพดานโปร่งจากชั้น 1 ไปชั้น 2) ในช่วงห้องนั่งเล่น จึงกลายเป็นพื้นที่ Double Volume ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งและโล่งดีค่ะ

ห้องจริงแบบ 1 Bedroom ขนาด 34 ตารางเมตร

ทางโครงการ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) จัดเตรียมห้องไว้ให้เราชมถึง 3 Type ด้วยกัน ทั้งห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34 ตารางเมตร, 2 Bedrooms ขนาด 59 ตารางเมตร และDuplex ขนาด 59 ตารางเมตร เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปเยี่ยมชมห้องทั้ง 3 แบบกันเลยนะคะ

ห้องแบบแรกที่จะพาไปชมจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34 ตารางเมตร ทางคอนโดขายแบบ Fully Fernished ซึ่งห้องที่ได้เข้าไปชมเป็นห้องจริงที่ทางโครงการขายเลยค่ะ เราจะได้เห็นถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ และสภาพห้องจริงที่ซื้อ-ขายกันเลย ส่วนด้านแผนผังห้องเมื่อเปิดประตูเข้าไป ส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่ครัวซึ่งกั้นให้เป็นระบบปิด ครัวแบบนี้คงจะถูกใจคุณแม่บ้านกันถ้วนหน้าเพราะช่วยป้องกันกลิ่นและควันได้ดี แถมครัวยังดูกว้าง มีการทำสตู Built-in ชิดหน้าต่างเป็นโต๊ะทานข้าว แต่ใครที่ชอบดูทีวีอาจจะไม่สะดวกเท่าไรนะคะ เพราะจากมุมครัวจะมองออกไปดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นระยะค่อนข้างไกลค่ะ ส่วนห้องนอนจะอยู่ทางขวามือติดกับระเบียงและห้องน้ำ ดูแล้วไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไร เพระใครไปใครมาจะเข้าใช้ห้องน้ำจะต้องผ่านเข้าห้องนอนของเราก่อน

เริ่มกันที่ทางเข้าห้องนะคะ ประตูห้องเป็นประตูไม้บานสำเร็จรูป สีตามภาพเลยค่ะ ติดตาแมวเอาไว้ให้เรียบร้อย

หน้าห้องมีการยกพื้นภายในห้องให้สูงกว่าโถงทางเดินเล็กน้อย เพื่อป้องกันฝุ่นจากภายนอกปลิวเข้ามาภายในห้อง มีการทำตัวจบเก็บงานขอบพื้นได้เรียบร้อยดี

ด้ามจับประตูเป็นก้านโยกสเตนเลสสีเงิน พร้อมกับตัวล็อกแบบเสียบลูกกุญแจจากด้านนอก ถ้าใครอยากจะเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น แนะนำให้ติดตั้ง Digital Door Lock ไปเลยค่ะ

ด้านหลังประตูติดตัว Door Stopper ไว้ให้ เวลาเปิด-ปิดก็ไม่ต้องกลัวบานประตูกระแทกกับเฟอร์นิเจอร์ทางด้านหลัง

ด้านบนติดตั้งแผงควบคุมไฟไว้ให้ อยู่สูงไปหน่อยนะคะ สาวๆตัวเล็กๆ อาจจะเอื้อมมือใช้งานได้ยาก

มาชมภาพ 360 องศากันสักหน่อย จะเห็นว่าห้องนั่งเล่นจะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องครัว แยกจากกันด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น พื้นภายในห้องนั่งเล่นปูด้วยลามิเนตลายไม้ ผนังฉาบเรียบทาสีขาวมาให้ ด้านบนมีการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัย เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะมีโซฟา แอร์และชั้นแบบ Built-in

ส่วนห้องนอนจะอยู่ทางฝั่งขวามือ กั้นเป็นห้องแยกออกไปเลยค่ะ

หน้าตาของชั้นวางทีวีแบบ Built-in ที่ทางคอนโดแถมมาให้ค่ะ จะเป็นชั้นวางและมีลิ้นชักไว้ให้เก็บของ เหนือชั้นวางมีการทำปลั๊กไฟและช่องรับสัญญาณทีวีไว้ให้แล้ว

ความยาวของชั้นวางทีวีอยู่ที่ 1.2 เมตร มีลิ้นชักให้เก็บของไม่ได้เป็นแบบ Soft-close เวลาใช้งานก็ต้องระมัดระวังเรื่องการเปิด-ปิดหน่อยนะคะ ไม่อย่างนั้นหน้าบานลิ้นชักจะเสียไว

ด้านข้างมีชั้นวางของกระจุกกระจิก หรือของตกแต่งมาให้อีกชิ้น

หน้าตาของโซฟาที่ได้ เป็นแบบ 3 ที่นั่ง ไม่มีที่พักแขน ขนาดใหญ่ดีค่ะ นั่งกันได้สบายๆ เลย ด้านข้างโซฟามีการทำปลั๊กไฟให้อีก 1 จุดด้วย

ระยะห่างระหว่างชั้นวางทีวีจนถึงโซฟาอยู่ที่ 1.05 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมคือ 26 นิ้ว ถ้าซื้อมาใหญ่กว่านี้เวลานั่งดูจะทำให้รู้สึกไม่สบายตาได้

มาต่อกันที่ห้องครัวเลยนะคะ ห้องครัวจะกั้นประตูบานเลื่อน 2 ตอนแบบกระจกใสมาให้ เลื่อนจาฝั่งขวาไปซ้าย แต่ถ้าทางคอนโดทำประตูมาให้แบบ 3 ตอนจะดีขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะทางเข้าครัวจะกว้างขึ้นอีก

ส่วนด้ามจับจะเป็นแบบเซาะร่องตามมาตรฐาน

ประตูเป็นแบบชนิดรางเลื่อนด้านล่าง แต่ตัวรางทำออกมาเกือบเสมอพื้นไม่ต้องกลัวว่าจะเดินสะดุด ส่วนพื้นภายในห้องครัวจะเป็นพื้นกระเบื้องขนาด 30x30 ซม. ซึ่งมีข้อดีคือ ทำความสะอาดได้ง่าย ทนน้ำและทนต่อความชื้น เหมาะที่จะใช้เป็นพื้นห้องครัวที่ต้องมีการใช้น้ำและเกิดคราบสกปรกจากการทำอาหารบ่อยๆ

บบรยากาศภายในห้องครัวค่ะ ได้ครัวที่ถือว่ากว้างพอสมควร เหมาะสำหรับการทำอาหาร แต่ทางโครงการไม่ได้แถมเตาไฟฟ้าและเครื่อดูดควันมาให้ แนะนำให้ซื้อติดเพิ่มเติมนะคะ จะได้ใช้ครัวแบบเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวน บนฝ้าก็ทำการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยมาให้เช่นกัน ส่วนไฟภายในห้องจะได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยม ดูแล้วโมเดิร์นดี

มาดูสิ่งที่ได้ในห้องครัวกันนะคะ สิ่งที่ได้จะมีเคาน์เตอร์ครัวทั้งชิ้นบนและชิ้นล่าง มีอ่างล้างจานติดตั้งไว้ให้ และมีชุดโต๊ะรับประทานอาหารมาให้ Built-in ติดกับหน้าต่างเลยค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวจะแถมตู้ลอยแบบ Built-in ด้านบนมาให้

ตู้เป็นแบบบานเปิดคู่ ด้านในแบ่งเป็นชั้นให้วางของ ส่วนตู้เปล่าอีกใบทำท่อสำหรับรองรับเครื่องดูดควันมาให้เรียบร้อย

ชุดครัวได้มาแค่อ่างล้างจาน มีปลั๊กไฟบนเคาน์เตอร์สำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนผนังก็เป็นแบบฉาบเรียบทาสีธรรมดา ไม่ได้ทำแบบกันคราบไว้ให้ แนะนำให้กรุกระจกหรือกระเบื้องผนังเพิ่มนะคะ เวลาทำอาหารจะได้ไม่เลอะกำแพงจนเป็นคราบ

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุ่มเดี่ยว มีที่พักจาน และก๊อกน้ำแบบก้านโยกมาให้ จากยี่ห้อ Teka

เทียบขนาดอ่างกับฝ่ามือค่ะ ก็ตามมาตรฐานไม่เล็กจนเกินไป

สะดืออ่างสามารถถอดออกมาล้างทำความอะอาดได้

ตู้ชิ้นล่างเป็นตู้แบบบานเปิดคู่ใต้อ่างล้างจาน มีไว้เพื่อให้ซ่อมแซมอ่างได้ง่าย แถมยังใช้เก็บของได้ด้วย ส่วนด้านข้างเป็นช่องวางไมโครเวฟและลิ้นชักเอนกประสงค์

พื้นที่สำหรับวางตู้เย็นเป็นแบบ Fix ที่มาให้ ขนาดพื้นที่ประมาณ 60x85 ซม. แนะนำให้เลือกซื้อตู้เย็นขนาดที่เล็กกว่าพื้นที่และสามารถวางห่างออกมาจากกำแพงประมาณ 6 นิ้วจะช่วยประหยัดไฟได้เยอะเลยค่ะ

มุมทานข้าวจะอยู่ติดกับหน้าต่าง เป็นโต๊ะแบบ Built-in ย้ายไปไหนไม่ได้ ด้านบนติดตั้งปลั๊กไฟเอาไว้ให้อีกหนึ่งจุดด้วย

มุมมองจากครัว มองออกไปยังห้องนั่งเล่น ด้านข้างโซฟานี่เหลือพื้นที่เยอะอยู่เหมือนกันนะคะ หาตู้หนังสือสวยๆ มาตั้ง หรือใครที่อยากจะเปลี่ยนมุมทานข้าวมาอยู่ในห้องนั่งเล่นก็ซื้อโต๊ะทานข้าวมาตั้งเพิ่มได้

ถัดจากห้องครัวก็จะพาไปชมห้องนอนกันต่อ

พื้นของห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้ เชื่อมต่อมาจากพื้นที่ห้องนั่งเล่น ไม่มีการทำตัวจบกั้นแยกค่ะ

ภายในห้องนอนดูกว้างและน่าอยู่ดีค่ะ มีช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่จากระเบียงทำให้ห้องดูสว่าง ผนังจะมาแบบฉาบเรียบทาสีขาว มีการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยให้เหมือนส่วนอื่นๆ สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะมี โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้สตู ตู้เสื้อผ้า เตียง แอร์และชั้นวางทีวี

ขนาดฐานเตียงที่ได้จะเป็น 5 ฟุตวางชิดกับตู้เสื้อผ้าที่อยู่ด้านข้าง พื้นที่รอบๆ เตียงก็เหลืออยู่ให้เดินเยอะเหมือนกัน

ใต้เตียงมีลิ้นชักให้สำหรับเก็บของเพิ่มได้

หัวเตียงเองก็มีพื้นที่ให้วางของได้เล็กน้อย

หัวเตียงจะเป็นมุมเสาอย่างที่เห็น ทำให้เป็นช่องวางของได้ ส่วนด้านข้างเป็นโต๊ะข้างหัวเตียง ติดตั้งปลั๊กไฟ และสาย Lan มาให้สำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์บ้านและอินเทอร์เน็ตได้

ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นแบบบานเปิดคู่ หน้าบานด้านหนึ่งเป็นแบบกรุกระจกใช้แต่งตัวได้

ภายในตู้เสื้อผ้าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ถ้าอยู่กันสักสองคนอาจจะใส่ไม่พอ ด้านในแบ่งชั้นไว้สำหรับเก็บของ แขวนเสื้อผ้า และเก็บเครื่องประดับได้

ส่วนมุมโต๊ะเครื่องแป้งจะทำเป็นชั้น Built-in ด้านล่างเป็นช่องเก็บเก้าอี้สตู แต่ทางคอนโดไม่ได้ติดกระจกที่ผนังมาให้ ต้องซื้อมาติดเพิ่มเติมเองค่ะ โต๊ะเครื่องแป้งจะอยู่ใกล้กับห้องน้ำและตู้เสื้อผ้า เวลาอาบน้ำเสร็จก็มานั่งแต่งหน้า ทำผม แต่งตัวได้เลย ถือว่าจัดวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

ที่โต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชักให้สำหรับเก็บเครื่องประดับและเครื่องสำอาง

บริเวณปลายเตียงจะเป็นชั้นวางทีวี พร้อมกับทำปลั๊กไฟและช่องรับสัญญาณทีวีมาให้เรียบร้อย

ด้านบนติดตั้งแอร์มาให้ 1 เครื่องขนาด 9000 BTU

ระยะห่างระหว่างชั้นวางทีวีกับปลายเตียงประมาณ 40 ซม. เวลาเดินผ่านอาจจะลำบากนิดหน่อย

ห้องนอนไม่จำเป็นต้องมีหน้าต่างเพราะอยู่ติดกับระเบียงเลยค่ะ ประตูระเบียงจะเป็นแบบบานเลื่อน 2 ตอน ส่วนผ้าม่านที่เห็นจะแถมให้เฉพาะห้องที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกนะคะ

ราวกันตกเป็นเหล็กพ่นสีดำ สูงประมาณ 1.15 เมตร ก็ถือว่าทำมาให้สูงอยู่นะคะ เวลาไปยืนใกล้ๆ ก็รู้สึกปลอดภัย ไม่หวาดเสียว

พื้นระเบียงจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องด้านในประมาณ 4 ซม. เพื่อป้องกันความชื้นและน้ำฝนจากด้านนอกไหลเข้าสู่ภายในห้อง พื้นระเบียงจะเป็นพื้นหินทรายล้างกันลื่นได้ดี ทนทาน ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ต้องมานั่งบรรจงขัดเพราะกลัวว่าพื้นจะเสีย แต่บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะดูไม่ไฮโซ ไม่เรียบร้อยเหมือนพื้นกระเบื้อง

ระเบียงห้องนี้จะทำเป็นรูปตัว L เพื่อช่วยกันแดดบางส่วน คอมเพรสเซอร์แอร์จึงติดตั้งไว้ริมสุด เพื่อความเรียบร้อยและสวยงาม แถมทำกริลบังสายตาเพิ่มให้ด้วย ส่วนพื้นที่ติดตั้งเครื่องซักผ้าก็สามารถติดตั้งได้นอกระเบียงเลยเพราะทำปลั๊กไฟและก๊อกน้ำมาให้แล้ว

คอมเพรสเซอร์แอร์เป็นแบบหันหน้าเข้าระเบียง แต่การที่ติดตั้งไว้ตรงนี้ก็ไม่ได้ทำให้ระเบียงร้อนเลยค่ะ เพราะความร้อนจากลมแอร์ไม่ได้เป่าโดนระเบียงโดยตรง

ส่วนสุดท้ายของห้องที่จะพาไปชมกันคือห้องน้ำค่ะ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปจากห้องนอนเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลออกมาทำให้พื้นลามิเนตชื้นและเกิดการบวมน้ำ ส่วนพื้นในห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องกันลื่นสีเทาขนาด 60x60 ซม.

มือจับประตูห้องน้ำจะเป็นลูกบิดธรรมดาค่ะ

ห้องน้ำให้สุขภัณฑ์มาครบชุดทั้งอ่างล้างหน้า กระจกเงา โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระ ราวแขวนผ้า ที่ใส่กระดาษทิชชู่ และฝักบัว แถมแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ด้วย

อ่างล้างหน้าเป็นแบบแขวนผนัง ทรงสี่เหลี่ยมของ Mogen พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยก ขอบอ่างมีพื้นที่ให้วางของได้เล็กน้อย

ใต้อ่างมีตู้บานเปิดเดี่ยวไว้สำหรับเก็บของเพิ่มเติม และมีราวแขวนผ้าเช็ดมือมาให้ด้วย

ติดกับอ่างล้างหน้าจะเป็นโถสุขภัณฑ์จาก American Standard ด้านข้างติดสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระ สามารถหยิบใช้ได้สะดวก

โถสุขภัณฑ์ที่ได้มีระบบปล่อยน้ำ 2 ระบบ ช่วยในการประหยัดน้ำได้ดี

สายฉีดชำระและโถสุขภัณฑ์ใช้วาล์วในการเปิด-ปิดแยกออกจากกัน ข้อดีคือเวลาอย่างใดอย่างหนึ่งเสีย สุขภัณฑ์อีกอย่างจะยังใช้งานได้อยู่

สายฉีดชำระสีขาวจาก SHR

สำหรับพื้นที่ส่วนเปียกทางคอนโดไม่ได้ติดกระจกกั้นมาให้ ต้องติดตั้งเพิ่มกันเอง แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเงินเยอะก็อาจจะเลือกซื้อเป็นฉากกั้นอาบน้ำมาใช้ก็ได้ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 90x130 ซม. ยืนอาบได้แบบสบายๆ ผนังปูกระเบื้องมาให้สวยงามและเช็ดล้างคราบสกปรกออกได้ง่าย

เงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนก็ยังมีการติดสปริงเกอร์ดับไฟไว้ให้ ด้านข้างจะเป็นเครื่องระบายอากาศภายในห้องน้ำ

ฝักบัวที่ได้จะเป็นแบบ Hand Shower ของ KUDOS ขนาดกำลังดีค่ะ

ห้องจริงแบบ 2 Bedrooms ขนาด 59 ตารางเมตร

ห้องต่อมาจะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 59 ตารางเมตร เป็นห้องจริงที่ทางคอนโดเปิดขายเช่นเดียวกันค่ะ เมื่อเปิดประตูเข้ามาส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องครัว เคาน์เตอร์ครัวจะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า สะดวกเวลาที่เราถืออะไรมาแล้วสามารถนำมาวางเก็บที่ครัวได้เลย แต่ครัว 2 ห้องนอนจะเป็นครัวเปิดนะคะ ทำอาหารหนักๆ ไม่เหมาะเท่าไร เพราะส่วนที่เชื่อมต่อกับครัวจะเป็นห้องนั่งเล่น ทำอาหารที่มีกลิ่นและควันคงจะลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ คราวนี้ก็สนุกเลยค่ะ กำจัดกลิ่นกันยังไงก็ไม่หมด ระหว่างครัวและห้องนั่งเล่นจะมีโต๊ะทานข้าวตั้งอยู่ แต่เป็นตำแหน่งที่ขวางทางเข้า-ออกห้องอื่นๆ อาจจะย้ายหลบไปสักมุมจะดีกว่า ส่วนห้องน้ำจะมีให้ 2 ห้องค่ะ อยู่ด้านนอก 1 ห้องและในห้องนอนใหญ่อีก 1 ห้อง ส่วนระเบียงจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น และยังมีระเบียงเล็กแยกออกไปสำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ โดยระเบียงเล็กจะอยู่ติดกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ด้วย

พื้นห้องยกระดับขึ้นสูงกว่าพื้นโถงทางเดินด้านนอก ช่วยป้องกันฝุ่นปลิวเข้ามาในห้อง เวลาแม่บ้านทำความสะอาดพื้นโถงทางเดินได้ พื้นในห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้ สีตามภาพค่ะ

ที่ประตูติดตาแมวไว้ให้ส่องตรวจสอบความปลอดภัยจากในห้อง

ด้ามจับประตูเป็นสเตนเลสก้านโยก พร้อมตัวล็อกด้านล่าง

ด้านหลังประตูติด Door Stopper ไว้ให้กันประตูกระแทกกับผนังด้านหลังจนเกิดเสียงดัง และป้องกันประตูชำรุดอีกชั้น

เดินเข้ามาในห้องส่วนแรกที่เห็นจะเป็นโซนครัวก่อน ได้พื้นที่ครัวค่อนข้างกว้างเลยค่ะ ส่วนสิ่งที่ได้จะมีเคาน์เตอร์ครัว และโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่ง

เคาน์เตอร์ครัวจะได้มาแบบ Built-in กับผนังด้านบนจะเป็นตู้และชั้นวางของหน้าตาแบบนี้

เปิดให้ดูด้านในสักนิด ตู้แบ่งออกเป็นชั้นๆ เก็บของ เก็บอุปกรณ์ทำครัวได้เยอะเชียวค่ะ

ส่วนตู้บานเปิดเดียวด้านข้างจะเป็นตู้ติดตั้งเครื่องดูดควัน หามาติดตั้งได้เลยค่ะ จะได้ช่วยดูกลิ่น ดูดควันอันไม่พึงประสงค์ออกจากห้อง

ส่วนทำครัวก็มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารให้เล็กๆ ด้านข้างเป็นอ่างล้างจาน ถ้าใครอยากจะติดเตาไฟฟ้าแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ก็ทำได้ค่ะ แต่อาจจะไม่เหมาะเพราะจะทำให้พื้นที่ทำครัวแคบลง แนะนำให้ซื้อเตาไฟฟ้าเดี่ยวๆ แบบยกไปไหนมาไหนได้ มาใช้จะดีกว่าค่ะ นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่การติดตั้งเเล้วยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย เพราะมันไม่ค่อยกินไฟ

อ่างล้างจานเป็นอ่างของ Teka แบบหลุมเดี่ยว ด้านข้างมีที่พักจานมาให้ ล้างจานก็ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะกระเด็นเลอะด้านนอกมาก เพราะหลุมอ่างดูลึกใช้ได้ แถมมีที่พักจานช่วยรับน้ำที่กระเด็นออกมาอีกชั้นหนึ่ง

ด้านล่างของเคาน์เตอร์ครัวจะแบ่งเป็นตู้บานเปิดคู่ ปิดหน้าบานด้วยลามิเนต เปิดออกมาเป็นระบบอ่าง ซึ่งซ่อมแซมได้ง่ายหากเกิดการชำรุด ส่วนด้านข้างจะเป็นช่องวางไมโครเวฟและลิ้นชักเอนกประสงค์ค่ะ

พื้นที่วางตู้เย็นจะอยู่ข้างเคาน์เตอร์ครัว Fix พื้นที่มาให้ ถ้าจะหาตู้เย็นาใช้ก็ต้องวัดพื้นที่วางกันไปให้ดีนะคะ ไม่อย่างนั้นจะได้ตู้เย็นที่ขนาดไม่เหมาะสม เวลาจะใช้งานก็ไม่สะดวก ส่วนโต๊ะทานอาหารเป็นแบบ 4 ที่นั่ง

น่าจะย้ายโต๊ะทานข้าวไปสักมุมหนึ่งนะคะ เพราะโต๊ะตั้งขวางทางเข้า-ออกประตูห้องนอนมากไปหน่อย

ส่วนห้องนั่งเล่นจะได้ ชั้น Built-in สำหรับวางทีวีและของตกแต่งห้อง แถมชั้นยังสามารถเปิดออกมาเป็นลิ้นชักเก็บของเพิ่มได้ด้วย

บนชั้นติดตั้งปลั๊กไฟ สาย Lan และช่องรับสัญญาณทีวีมาให้เรียบร้อย

โซฟาที่ได้จะเป็น โซฟารูปตัว L ขนาดใหญ่ ใช้นอนเล่นได้เลย

ชั้นวางทีวีห่างจากโซฟาพอสมควรเลยค่ะ สามารถซื้อทีวีขนาดใหญ่มาวางได้ ห้องนั่งเล่นจะได้แอร์เพิ่ม 1 ตัว ติดอยู่เหนือชั้นวางทีวี ส่วนบนฝ้าก็มีติดระบบป้องกันอัคคีภัยมาให้เรียบร้อยแล้ว

ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นระเบียงยาว กั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้ทางเข้า-ออกกว้างกว่าประตูบานเลื่อน 2 ตอน ห้องนี้อยู่ทางทิศใต้ค่ะก็เลยจะไม่มีผ้าม่านแถมมาให้

ด้ามจับประตูบานเลื่อนเป็นแบบเซาะร่อง พร้อมตัวล็อกดูแน่นหนาดี

พื้นด้านนอกเป็นนพื้นหินทรายล้าง ลดระดับจากพื้นในห้องเล็กน้อย ทางขวามือมีก๊อกน้ำติดไว้ให้สำหรับซักล้างหนึ่งจุด

ระเบียงห้องนี้จะเป็นแบบยาว คอมเพรสเซอร์เป็นแบบแขวนผนังหันหน้าเป่าออกนอกระเบียง ทำให้ระเบียงไม่ร้อน ใต้คอมเพรสเซอร์มีก๊อกน้ำและปลั๊กไฟให้สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า

ส่วนระเบียงก็สูง 1.15 เมตร ไปยืนใกล้ๆ ไม่รู้สึกหวาดเสียว

ส่วนต่อไปที่จะพาไปชมคือห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนเล็ก โดยประตูที่อยู่ตรงกลางคือตำแหน่งห้องน้ำ ส่วนประตูฝั่งขวามือจะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำและความชื้น พื้นห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องกันลื่นสีเทาขนาด 60x60 ซม.

ห้องน้ำด้านนอกนี้ดูแล้วมีขนาดเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดห้อง มีการแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ ส่วนแห้งจะมีสุขภัณฑ์อย่างอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระ ราวแขวนผ้าและที่ใส่กระดาษทิชชู่

อ่างล้างหน้าเป็นของ Mogen เทียบกับขนาดฝ่ามือแล้วค่อนข้างใหญ่นะคะ เวลารีบๆ ล้างหน้าแล้วไม่กระเด็นเลอะเทอะแน่นอน รอบๆ อ่างมีที่ให้วางของเล็กน้อย ก๊อกของอ่างจะเป็นแบบปรับน้ำร้อน-เย็นได้ด้วย ดูดีเชียวค่ะ

ด้านล่างมีตู้เก็บของ ราวแขวนผ้าเช็ดมือ และทำระบบติดตั้งน้ำร้อนมาให้ด้านหลังด้วย

โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard พร้อมติดสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่มาให้

ฝั่งส่วนเปียกก็ยกธรณีขึ้นมาประมาณ 8 ซม. กันน้ำไหลย้อนออกมาด้านนอก ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องสีเทาขนาด 30x60 ซม. แต่ในส่วนเปียกด้านหนึ่งจะปูด้วยกระเบื้องโมเสค เพื่อเพิ่มสีสันให้กับห้องน้ำ

ฝักบัวที่ได้จะเป็นแบบ Hand Shower

ฝักบัวเป็นของ KUDOS ขนาดพอดีมือ

จากห้องน้ำเข้ามาในห้องนอนเล็กต่อเลยนะคะ ห้องนอนเล็กจะมีเฟอร์นิเจอร์เป็นฐานเตียงขนาด 5 ฟุต

นอกจากเตียงก็จะมีตู้เสื้อผ้าขนาดปานกลาง กรุกระจกหน้าบานมาให้ ใช้ได้ในเวลาแต่งตัว ส่วนข้างหัวเตียงก็จะมีโต๊ะเล็กๆ สำหรับวางโคมไฟ หรือจะใช้วางโทรศัพท์ขณะชาร์จตอนกลางคืนก็ได้

โต๊ะข้างตัวเตียงมีลิ้นชักด้วยค่ะ

ตู้เสื้อผ้าจะเป็นตู้แบบบานเลื่อน

เปิดได้ทั้งจากฝั่งซ้ายและฝั่งขวาเลยค่ะ ด้านในแบ่งเป็นช่องเก็บของด้านบน ช่องแขวนเสื้อผ้า และช่องเก็บของเล็กๆ ด้านล่าง

ปลายเตียงทำปลั๊กไฟไว้ให้ 2 จุดพร้อมช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ ถ้าใครอยากจะติดโทรทัศน์ แนะนำให้ติดเป็นโทรทัศน์แขวนผนังจะดีกว่าแบบตั้งโต๊ะนะคะ เพราะพื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่มาก ถ้าซื้อเฟอร์นิเจอร์มาวางเพิ่มอาจจะไม่เหลือทางให้เดินเลย

หน้าต่างของห้องนอนเล็กจะได้ผ้าม่านมาด้วยเพราะเป็นห้องที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ส่วนหน้าต่างจะเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ผสมบานกระทุ้ง ขนาดใหญ่อยู่เหมือนกัน แต่ในทิศตะวันตกแบบนี้ ห้องจะโดนแดดตลอดช่วงบ่าย-เย็น ถ้าไม่ปิดม่านไว้ห้องจะโดนเเดดเต็มๆ ทำให้ห้องร้อนอบอ้าว

ห้องนอนใหญ่ทางเข้าจะอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำด้านนอกเลยค่ะ

ห้องกว้างดีค่ะ แถมมีห้องน้ำในตัวด้วย เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะมีฐานเตียง ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า แอร์ 1 เครื่องและโต๊ะทำงาน

ฐานเตียงที่ได้ขนาดเท่ากับห้องนอนเล็กค่ะ หัวเตียงมีโต๊ะเล็กๆให้ทั้งสองฝั่ง พร้อมปลั๊กไฟ ช่องสาย LAN ให้ 1 จุด

ใต้เตียงมีลิ้นชักให้เก็บของเพิ่มเติม

มุมโต๊ะทำงานค่ะ ถ้าไม่อยากทำเป็นโต๊ะทำงาน สาวๆ ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นมุมแต่งหน้าแทนก็ได้ เพราะมีปลั๊กไฟให้ 1 จุด ใช้เสียบไดร์เป่าผมก็ได้ แถมโต๊ะจะอยู่ใกล้กับหน้าต่าง แสงธรรมชาติจะช่วยในเรื่องของการแต่งหน้าได้เยอะเลยค่ะ

หน้าต่างเป็นบานฟิกซ์ผสมบานกระทุ้ง ติดผ้าม่านมาให้เรียบร้อย

ตู้เสื้อผ้าที่ได้หน้าตาเหมือนในห้องนอนเล็กค่ะ แต่จะได้บานที่ใหญ่กว่านิดหน่อย

ประตูทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องค่ะ

พื้นห้องน้ำลดระดับลจากพื้นห้องนอนประมาณ 4 ซม. วัสดุปูด้วยกระเบื้องกันลื่นสีเทาขนาด 60x60 ซม. ทำตัวจบเก็บงานให้เรียบร้อย

ห้องน้ำแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันชัดเจน ติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน และขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำด้านนอก

อ่างล้างหน้าได้ของ Mogen ทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สะใจ ล้างหน้าไม่ต้องกลัวน้ำกระเด็นเลอะพื้น

ด้านล่างมีตู้ให้สำหรับเก็บของ ไม่ต้องติดชั้นวางของเพิ่มเลย

โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ด้านข้างติดสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่มาให้

ส่วนเปียกจะก่อธรณีที่พื้นมาให้ สามารถติดตั้ง Shower Box เพิ่มหรือใครที่ไม่มีงบก็ใช้เป็นฉากกั้นอาบน้ำก็ได้ค่ะ

ฝักบัวเป็นแบบบ Hand Shower ของ KUDOS

มุมมองจากอีกฝั่งค่ะ ห้องน้ำเป็นทรงยาว แต่ก็มีความกว้างที่พอดี ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด

ห้องตัวอย่างแบบ Duplex ขนาด 59 ตารางเมตร

ห้องสุดท้ายที่จะพาไปชมจะเป็นห้องตัวอย่างแบบ Duplex พื้นที่ใช้สอย 59 ตร.ม. เป็นห้อง Duplex ที่ขนาดไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดสรรพื้นที่ห้องได้ลงตัวดีค่ะ ทางโครงการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบครันพร้อมเข้าอยู่

ในชั้น 1 เปิดประตูเข้าไปจะเจอพื้นที่ส่วนครัว ได้แบบครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับส่วนของห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร โดยฝ้าบริเวณห้องนั่งเล่นนี้เองที่ทำ Void ยกฝ้าให้สูงเป็น Double Volume ทำให้ห้องดูโปร่ง ด้านล่างมีห้องน้ำและห้องเก็บของให้ ในชั้นนี้มีระเบียงอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ซึ่งระเบียงถือเป็นจุดเด่นอย่างของห้องอย่างหนึ่งคือ ได้ระเบียงที่กว้าง เราสามารถนำโต๊ะทานข้าวมาตั้งที่ระเบียงแทน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในการรับประทานอาหาร ส่วนพื้นที่ชั้น 2 จะมีบันไดเชื่อมขึ้นไป ชั้น 2 จะเป็นห้องนอนแบบมีห้องน้ำให้ในตัว ไม่ต้องเดินมาใช้ห่องน้ำร่วมกับแขกทางด้านล่าง ห้องนอนจะติดกระจกใสบานใหญ่มาให้ สามารถมองลงไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างได้ค่ะ

เปิดประตูเข้ามาก็เจอกับส่วนครัวก่อนเลยค่ะ มองเลยถัดไปจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และระเบียงตามลำดับ พื้นในชั้นล่างจะปูด้วยลามิเนตลายไม้สีตามภาพยาวต่อเนื่องกันไป แต่พื้นลามิเนตอาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานภายในห้องครัวสักเท่าไร ดูสวยก็จริงแต่ถ้าโดนน้ำบ่อยๆ อาจจะทำให้บวมน้ำได้ ถ้าทำน้ำหกหรือล้างจานแล้วน้ำกระเด็นเลอะพื้นก็ให้รีบเช็ด จะได้ช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นลามิเนตให้นานขึ้น

ครัวจะอยู่ชิดกับผนัง สิ่งที่ได้จะมีเคาน์เตอร์ครัว ขนาดไม่ได้ใหญ่มากค่ะ พอให้เตรียมอาหารแบบง่ายๆ ได้

เคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบ Built-in มีให้ทั้งตู้ลอยและเคาน์เตอร์ด้านล่าง ส่วนพื้นที่วางตู้เย็นจะอยู่ด้านข้าง บริเวณโคมไฟ พื้นที่ค่อนข้าง Fix มาให้นะคะ เลือกซื้อตู้ก็อย่าลืมวัดขนาดพื้นที่กันไปก่อน ถ้าซื้อขนาดที่ใหญ่เกินไป นอกจากจะดูเทอะทะไม่เหมาะกับห้องของเราแล้วยังจะขวางประตูทางเข้า เวลาดินเข้า-ออกจะลำบากได้ค่ะ

ตู้ชิ้นบนจะเป็นตู้แบบบานเปิด-ปิด หน้าบานปิดด้วยลามิเนต มีชั้นวางของด้านข้างมาให้อีกชิ้น ด้านในตู้จะมีแผงควบคุมไฟติดตั้งไว้ให้ ติดไว้ในตำแหน่งที่ใช้งานได้ค่อนข้างยากนะคะ ต้องเอื้อมมือเข้าไปสับสวิตช์ คนตัวเล็กๆ คงต้องปีนเก้าอี้ขึ้นไป ถึงจะทำได้

ส่วนพื้นที่ประกอบอาหารก็ให้มาแบบเล็กๆ เหมาะกับการทำอาหารง่ายๆ เพราะพื้นที่เตรียมอาหารมีให้มากน้อย ทางโครงการจะแถมอ่างล้างจานมาให้เป็นของ Teka ค่ะ

เคาน์เตอร์ด้านล่างจะเป็นตู้บานเปิดคู่ ซ่อนระบบอ่างไว้ด้านใน ด้านข้างเป็นช่องวางไมโครเวฟและลิ้นชักเอนกประสงค์

ครัวขนาดกะทัดรัดไปหน่อยเหมาะกับคนที่ทำอาหารไม่บ่อยนัก เน้นซื้อมาจากข้างนอกมากกว่า หรือทำกันเฉพาะอาหารทานเล่น

โต๊ะรับประทานอาหารเป็นแบบ 4 ที่นั่ง รอบๆ พื้นที่ยังเหลืออีกเยอะ ใครที่ชอบปาร์ตี้อาจจะหาซื้อโต๊ะมาเก็บไว้ แล้วเอาออกมาตั้งเพิ่มให้กลายเป็นโต๊ะยาว ใช้สังสรรค์ได้เลยค่ะ

ใต้บันไดจะมีห้องเก็บของ (ฝั่งซ้าย) และมีห้องน้ำสำหรับรับแขก (ฝั่งขวา)

พื้นห้องน้ำดรอปลงไปเล็กน้อย ส่วนประตูจะเป็นประตูบานเลื่อน ช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน

ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำเล็กๆ สำหรับรับแขก มีแค่อ่างล้างหน้า และชุดโถสุขภัณฑ์มาให้ ไม่มีส่วนเปียกค่ะ

โถสุขภัณฑ์ตั้งอยู่ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้าพร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องสีเทา สามารถเช็ดล้างและทำความสะอาดได้ง่าย

โซนที่ติดกับห้องครัวจะเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนนี้จะได้โซฟารูปตัว L ขนาดใหญ่ นอนเล่นได้สบายเลยค่ะ

ติดกับบันไดจะเป็นชั้นวางทีวีแบบ Built-in เป็นชั้นยาว ต่อให้วางทีวีไปแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ให้วางของตกแต่งได้ค่ะ ส่วนระยะห่างระหว่างโซนจนถึงชั้นวางถือว่ากว้างมาก สามารถซื้อทีวีขนาดใหญ่มาตั้งได้เลยค่ะ

ห้องนั่งเล่นสว่างได้ด้วยประตูระเบียงค่ะ ในเวลากลางวันก็แทบไม่ต้องเปิดไฟ แค่เปิดม่านออกกว้างๆ ห้องก็สว่างแล้ว

ระเบียงห้องกว้างอยู่นะคะ สามารถจัดเป็นมุม Outdoor เปลี่ยนบรรยากาศได้ในเวลาเบื่อๆ ส่วนประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน กระจกเป็นกระจกเขียวใสตัดแสงได้ดี

ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะตั้งอยู่อีกมุมหนึ่ง ห่างจากจุดนั่งเล่นอยู่เยอะ รับรองว่านั่งเล่นได้โดยไม่โดนความร้อนจากคอมแอร์เป่าแน่นอน ด้านหน้าที่ตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์มีการติดกริลบังสายตาเอาไว้ให้เพื่อความสวยงาม

ต่อไปเราจะพาขึ้นไปชมชั้น 2 กันนะคะ สำหรับบางคนอาจจะไม่ชอบห้องแบบ Duplex เพราะมันทำให้เสียพื้นที่บางส่วนของห้องในการติดตั้งบันไดไป แต่บางคนอาจจะใฝ่ฝันอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง เลยเลือกซื้อห้อง Duplex ที่มีขนาดใหญ่และให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านมากกว่าคอนโด ก็เเล้วเเต่ความชอบส่วนบุคคล ใครชอบแบบไหนก็เลือกซื้อห้องแบบที่เป็นสไตล์เราคือดีที่สุด

ด้านบนจะเป็นพื้นที่ห้องนอนค่ะ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้เช่นเดียวกับพื้นด้านล่าง ส่วนประตูห้องจะเป็นประตูกระจกบานเปิดเดี่ยว บานประตูค่อนข้างหนักค่ะ เปิดด้วยมือเดียวลำบาก เวลาเปิดต้องคอยระวังหน่อยนะคะ ผลักไม่ดีนี่มีหวังโดนประตูดันหกล้มตกบันไดได้เลย

เดินเข้ามาสิ่งแรกที่เจอจะเป็นตู้เสื้อผ้า

ด้านในแบ่งเป็นเป็นช่องให้จัดเก็บเสื้อผ้าแบบนี้ ขนาดไม่ใหญ่มากนะคะ สาวๆ ที่ชอบชอปเสื้อผ้าบ่อยๆอาจจะต้องหาซื้อตู้มาใส่เพิ่ม

ส่วนเตียงนอนเป็นเตียง 5 ฟุต ปลายเตียงมีชั้นวางทีวี ตรงเข้าไปเป็นห้องน้ำ

ชั้นวางทีวีจะตั้งอยู่ปลายเตียง พร้อมทำปลั๊กไฟและช่องรับสัญญาณทีวีมาให้ ผนังด้านหลังชั้นจะเป็นกระจกใส สามารถมองเห็นห้องนั่งเล่นได้จากมุมสูง

เตียงนอนจะจัดชิดกำแพงให้ด้านหนึ่ง ฝั่งที่ไม่ชิดกับกำแพงจะมีโต๊ะข้างหัวเตียงให้ พร้อมปลั๊กไฟและสาย LAN

ห้องน้ำชั้นบนจะมีการแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งให้ชัดเจน สุขภัณฑ์อ่างล้างหน้าเป็นของ mogen มีกระจกเงาบานใหญ่ติดมาให้เหมือนในภาพ

โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ด้านข้างมีสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่ แต่หยิบใช้ได้ยาก เพราะพื้นที่ใช้งานแคบและอยู่ในฝั่งเดียวกัน

ส่วนเปียกในห้องตัวอย่างมีการกั้น Shower Box มาให้ แต่ในห้องจริงนี่ต้องลองสอบถามพนักงานดูนะคะว่าจะมีติดมาให้ด้วยไหม

ฝักบัวที่ได้เป็นแบบ Hand Shower ของ Kudos เหมือนในห้อง Type อื่นค่ะ

วิเคราะห์โครงการ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana)  

ทำเล : โครงการ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana) ถือว่ามีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลเลยค่ะ เพราะตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณที่ตัดกับถนนประชาชื่น (ถนนเลียบคลองประปา) พอดี พร้อมกับอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ  ทำให้เข้า-ออกจากคอนโดได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น แต่ถึงแม้จะอยู่ใกล้กับถนนหลักถึง 2 สาย เรื่องรถติดก็ยังเป็นปัญหาของคนที่อยู่อาศัยในย่านนี้ค่ะ ยิ่งถ้าเป็นช่วงโมงเร่งด่วนบวกกับมีงานที่เมืองทองธานีแล้วล่ะก็ รับรองเลยว่าได้จอดแช่กันบนถนนยาวๆ ยังไงก็ต้องหาทางหนีทีไล่หรือเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางไว้ด้วย แต่ถ้าใครไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักในอนาคตบริเวณนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูตัดผ่าน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีศรีรัช เดินทางไปถึงได้ในระยะ 500 เมตรค่ะ ส่วนในช่วงที่รอรถไฟฟ้าแบบนี้ก็มีรถโดยสารประเภทต่างๆ ให้เลือกใช้บริการ ป้ายรถเมล์ก็มีให้ที่หน้าโครงการเลยค่ะ วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ก็เรียกหาง่าย เพราะเป็นคอนโดติดถนนใหญ่

สภาพแวดล้อม : โดยรอบของโครงการก็ถือว่าอุดมสมบูรณ์มากค่ะ ในระยะเดินถึงมีห้างอยู่ใกล้ๆ หลายห้างด้วยกันค่ะ ใกล้ที่สุดเห็นจะเป็น เทสโก้ โลตัส แจ้งวัฒนะ เดินไปแค่ 200 เมตรก็ถึงแล้ว เลยไปอีกหน่อยก็เป็น The Avenue และบิ๊กซี แจ้งวัฒนะก็ยังถือว่าอยู่ในระยะเดินถึงเหมือนกัน เหมาะสำหรับขาชอป ขาชอบเที่ยวที่ไม่อยากขับรถไปไหนไกลๆ แต่ถ้าอยากจะเดินห้างใหญ่จริงๆ ก็มี เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ขับรถไปประมาณ 3 กม.ก็ถึงค่ะ เรียกว่าไปทางไหนก็ไม่มีเบื่อ หาของกินง่ายมากด้วยค่ะ

แบบห้อง : ที่นี่มีห้องให้เลือกตั้งแต่ Studioไปจนถึง Duplex ส่วนขนาดก็หลากหลาย เล็กสุดจะอยู่ที่23 ตร.ม. (ตอนนี้ทางโครงการเหลือแค่แบบห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 59 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.98 ล้านบาท ) ทางโครงการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบครัน ส่วนการวางฟังก์ชันต่างๆ ภายในห้องทำออกมาได้ค่อนข้างดีค่ะ เน้นการอยู่อาศัยแบบสบายๆ เป็นหลัก เสียก็ได้แบบครัวได้มาแบบระบบเปิด ทำอาหารมีควัน หรือมีกลิ่นอาจจะไม่เหมาะเท่าไร

สิ่งอำนวยความสะดวก : ด้านสาธารณูปโภทของคอนโดก็ได้มาตามมาตรฐานของคอนโดมิเนียม High Rise ทั่วไปค่ะ มีให้ทั้งล็อบบี้ด้านล่าง, สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมอ่างจากุซซี่, ห้องฟิตเนส, ซาวน่า, สวนหย่อม, สนามเด็กเล่น, สวนดาดฟ้า และห้องเอนกประสงค์ ส่วนด้านความปลอดภัยก็อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง, กล้อง CCTV, มีระบบ Key Card เพื่อความเป็นส่วนตัว และมีระบบป้องกันอัคคีภัยติดตั้งให้ภายในห้อง

ราคา : เทียบสิ่งที่ได้จากโครงการ และทำเลที่ตั้งกับราคาเริ่มต้นที่ 2.2 ล้านบาท เฉลี่ยต่อตารางเมตรแล้วตกอยู่ที่ 67,000 บาท/ตร.ม. ก็ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ เพราะได้ทั้งการคมนาคมที่สะดวก อนาคตจะมีรถไฟฟ้าตัดผ่าน ทำเลอยู่ใกล้กับแหล่งของกิน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และได้ห้องแบบ Fully Furnished มาด้วย โดยรวมแล้วให้มาเยอะกว่าระดับราคาอีกนะคะ

โครงการ กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ (Grene Chaengwattana)

เป็นโครงการที่โดดเด่นด้านทำเลเพราะอยู่ติดกับถนนใหญ่ทั้งถนนประชาชื่นและถนนแจ้งวัฒนะ ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าตัดผ่าน อยูใกล้กับแหล่งของกินในระยะเดินถึง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จึงเหมาะกับใครที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่อาศัยในย่านแจ้งวัฒนะ, ทำงานอยู่แล้วในละเเวกนี้ หรือมองศักยภาพในการพัฒนาของที่อยู่ในแถบชานเมือง มีงบประมาณในกระเป๋าประมาณ 2.3 ล้านขึ้นไป