รูปหน้าปก เดอะ เมเปิ้ล @ รัชดา - ลาดพร้าว ( THE MAPLE )

[Review] เดอะ เมเปิ้ล @ รัชดา - ลาดพร้าว ( THE MAPLE )

ซอยลาดพร้าว 26 แยก 2 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

Project Info.

โครงการเดอะ เมเปิ้ล @ รัชดา-ลาดพร้าว (The Maple) เป็นโครงการจากบริษัท สิริทนง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เน้นเจาะกลุ่มตลาดเป้าหมายที่เป็นพนักงานออฟฟิศหรือบุคคลทั่วไปที่มีฐานกำลังซื้อในระดับกลางถึงระดับสูง โดยรูปแบบของโครงการเป็นอสังหาริมทรัพย์ “ประเภทคอนโดมิเนียม” ตกแต่งในสไตล์ทันสมัย สูง 8 ชั้น อัดแน่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางเข้าออกสะดวกสบาย และบรรยากาศอันแสนเงียบสงบภายในซอยลาดพร้าว 26

ภาพลักษณ์ของโครงการ เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการเฟ้นหาคอนโดในราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่เพียบพร้อมไปด้วยคุณภาพจากสิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก และการเดินทางที่สะดวกสบายใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน (โดยความคืบหน้าของโครงการ ณ ปัจจุบัน คาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมอยู่อาศัยประมาณเดือนเมษายน 2560)

ภายใต้คอนเซปด้วยความสุขที่ลงตัวในทุกวัน

More info

ราคาเริ่มต้น: 2,300,000 บาท (ข้อมูลสำรวจ ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2559)

ค่าส่วนกลาง: 50 บาท ต่อตร.ม. (จ่ายเป็นรายปี)

ค่าทำสัญญา: จอง 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2560 (โปรโมชั่นเบื้องต้น)

Location - ที่ตั้งโครงการ

image

image

โครงการ The Maple ตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 26  บริเวณกรอบสีเหลี่ยมด้านบนของภาพ

การเดินทางด้วยรถยนต์

image

หากขับรถมาจากถนนลาดพร้าว ให้ตรงมาเรื่อยๆ จนถึง * บริเวณสี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว จากนั้นให้เลี้ยวขวาวิ่งไปตามถนนรัชดาภิเษก 

image

 ให้สังเกตุทางขวามือจะพบสวนลุมไนท์บาซาร์ครับ   

image

ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านบุญถาวรฝั่งซ้าย เพื่อหาทางกลับรถ 

image

 เลยบุญถาวรมาไม่ไกลมาก จะมีป้ายบอกทางกลับรถ ให้ขับชิดซ้ายไว้ครับ 

image

ทางกลับรถจะอยู่บริเวณแยกสุทธิสาร 

image

 ขับตรงมาตามทาง ผ่านบุญถาวรอีกครั้ง 

image

เมื่อขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่าน MRT รัชดาภิเษกประตู 1 ให้สังเกตุทางซ้ายมือทันที

ตามลูกศร จะเป็นปากทางเข้าซอยรัชดาภิเษก 19

เส้นทางสำหรับเข้าสู่โครงการ 

image

 บรรยากาศภายในซอยรัชดาภิเษก 19 

image

เจอ 3 แยก ให้เลี้ยวขวาทันทีครับ 

image

สังเกตุอาคารทางซ้ายมือ ถัดจากตู้ ATM กสิกร จะเป็นตำแหน่งที่ตั้งของสำนักงานขายครับ แต่ไม่ใช่ที่ตั้งจริงของโครงการ เนื่องจากโครงการอยู่ในระหว่างก่อสร้าง 

image

สำหรับที่ตั้งจริงของโครงการให้ตรงไปอีกครับ จะพบกับทางโค้งขับต่อไปได้เลย 

image

เลี้ยวมาตามทาง จะพบ 3 แยก ให้เลี้ยวขวาเลยครับ ตัวโครงการคืออาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่ตามภาพนั่นเอง 

ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการเดอะ เมเปิ้ล @ รัชดา-ลาดพร้าว (THE MAPLE) อยู่ภายในซอยลาดพร้าว 26 โดยเส้นทางเข้าถึงตัวโครงการได้นั้นมีอยู่ 4 ช่องทางคือมาจากซอยรัชดาภิเษก 19, ซอยลาดพร้าว 18 และซอยลาดพร้าว 26 โดยตามแต่ระยะทางเข้าจะห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินโดยประมาณ 500 เมตร หรือมาจากถนนวิภาวดีรังสิต ทะลุเข้าทางออกของซอยวิภาวดี 16 ซอยวิภาวดี 20 และซอยวิภาวดี 22 เส้นทางเดินรถภายในซอยเป็นถนน 2 เลนส์แคบๆ ตามแบบถนนในซอย อาจจะคับแคบไปหน่อยเมื่อมีรถยนต์ขับสวนกัน

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT

image

ตำแหน่งสถานีรถไฟฟ้า MRT รัชดาภิเษก

image

ออกทางประตูที่ 2 และเลี้ยวขวาเดินไปตามทางสู่ซอยรัชดาภิเษก 19

image

ซอยรัชดาภิเษก 19

image

หากลงสถานี MRT ลาดพร้าว ให้ออกทางประตูที่ 2 และเลี้ยวซ้าย ให้เดินไปตามทางเพื่อมุ่งหน้าสู่ซอยลาดพร้าว 18 

image

สำหรับผู้สนใจเข้าชมโครงการ ขอแนะนำวิธีที่สะดวกรวดเร็วที่สุดคือเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีรัชดาภิเษกครับ ออกทางประตูที่ 2 แล้วเลี้ยวขวา จากนั้นเดินมุ่งหน้ามาเรื่อยๆ จนถึงปากทางซอยรัชดาภิเษก 19 และต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างหน้าปากซอย เพื่อเข้าสู่ลาดพร้าว 26 จะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือลงจากสถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว ออกทางประตูที่ 2 เดินเลี้ยวซ้ายและมาต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างหน้าปากซอยลาดพร้าว 18 หรือ 26 ก็ได้เช่นกัน 

enviroment - สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

image

สภาพแวดล้อมรอบโครงการเป็นบรรยากาศในซอยแคบครับ บริเวณทางเข้าของแต่ละเส้นทางก็จะมีโครงการคอนโดอื่นๆ ตั้งอยู่มากมายในตอนกลางคืนบริเวณที่ตั้งโครงการจะเงียบสงบ หรืออาจจะเปลี่ยว เนื่องจากบริเวณนี้จะเป็นแหล่งที่พักอาศัย ดังนั้นหากต้องเดินทางเข้าออกในตอนกลางคืน การเดินทางด้วยรถน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และ หากใครที่ต้องการเดินในตอนกลางวันไม่มีปัญหาครับ แต่ต้องระวังรถยนต์ที่สวนไปมานิดนึง เนื่องจากเป็นซอยขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ถ้าให้แนะนำก็ใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างจะสะดวกที่สุดครับ

image

image

Family Mart ที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 18 ตำแหน่งที่ตั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และของกินส่วนมากจะอยู่ฝั่งทางเข้าซอยลาดพร้าว 18 มากที่สุด (แต่ข้อเสียคือระยะเส้นทางจากหน้าปากซอยจนถึงคอนโดจะไกลที่สุดด้วยเช่นกัน) และที่ใกล้สุดๆ กับตัวโครงการเดอะ เมเปิ้ล คือร้าน Family Mart กับร้านอาหารล้านแซ่บ

image

บริเวณ 3 แยกภายในซอยรัชดาภิเษก 19 ก็มี 7-11 ตั้งอยู่เช่นกัน

image

ร้าน 7 - 11 ภายในซอยลาดพร้าว 18 ฝั่งทางเข้าซอยรัชดาภิเษก 19 กับซอยลาดพร้าว 26  ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อมีน้อยครับ มีประปรายบ้างตามริมทางถนนในซอย

image

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ ส่วนมากจะเป็นบ้านสำหรับอยู่อาศัย

image

เส้นทางทะลุออกไปทางซอยลาดพร้าว 18 ความสว่างรอบๆ โครงการมีไม่มากและไม่น้อยครับ ตามลักษณะถนนหนทางภายในซอยทั่วไปของกรุงเทพ บริบทแวดล้อมโดยรอบส่วนมากจะเป็นบ้านสำหรับอยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยวเสียมากกว่า การเดินเท้าเข้าออกภายในซอยก็สามารถทำได้แต่ก็ต้องระวังรถยนต์กันนิดนึง (ถ้าเป็นผู้หญิงก็ไม่แนะนำให้เดินครับ)

image

บริเวณซอยลาดพร้าว 26 เส้นทางนี้สามารถเดินทางไปถึงตัวโครงการได้เช่นกัน


สถานที่ใกล้เคียงกับโครงการมีดังนี้ครับ

  • MRT

    รัชดาภิเษก 600 เมตร

  • MRT

    ลาดพร้าว 600 เมตร

  • สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก 800 เมตร

  • อาคารโอลิมเปีย ไทย ทาวเวอร์ 800 เมตร

  • โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค รัชดา 1 กม.

  • บิ๊กซี เอ็กตร้า ลาดพร้าว 1.2 กม.

  • ยูเนียนมอลล์ 2.2 กม.

  • เซ็นทรัลลาดพร้าว 3 กม.

Insight

CONCEPT

image

โครงการเดอะ เมเปิ้ล @ รัชดา-ลาดพร้าว (THE MAPLE) ถูกกำหนดคอนเซ็ปต์การตกแต่งไว้แบบผสมผสานครับ (Mixed Style) โดยไม่เน้นสุดโต่งไปจุดใดจุดเดียว เน้นความสวยงามจากภาพลักษณ์ด้วยธีมสีส้มจากใบเมเปิ้ล เน้นความเรียบง่ายจากการเลือกใช้วัสดุตกแต่ง และเน้นความสวยงามจากการแบ่งแยกโซนใช้งานภายในให้เป็นหลักแหล่งไว้อย่างชัดเจน

ภาพลักษณ์การตกแต่งที่สวยงามจะเน้นไปบริเวณทิศใต้ของอาคารเป็นหลัก ภายนอกอาคารตกแต่งด้วยพื้นผนังสีเทา เล่นสลับสีสันไปมาด้วยเฉดสีส้มและเฉดสีเหลือง อันมาจากสีของใบเมเปิ้ลตามชื่อของโครงการ พร้อมโอบล้อมรอบโครงการด้วยงานตกแต่งพื้นที่สีเขียวให้ดูร่มรื่นย์เป็นธรรมชาติ

image

งานตกแต่งภายในเน้นความเรียบง่ายและทันสมัย พื้นที่ส่วนกลางและเฟอร์นิเจอร์เน้นโทนสีขาว เพื่อความสะอาดตา ตกแต่งมุมนั่งอ่านหนังสือด้วยการกรุผนังไม้ลวดลายวินเทจ เพื่อสร้างความมีระดับและบรรยากาศให้ดูนุ่มนวลและผ่อนคลายในทัศนียภาพทางสายตา

อย่างไรก็ตาม ในวันทีมงาน Estopolis เข้ามาสำรวจ ทางโครงการมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ใกล้จะแล้วเสร็จสามารถเข้ามาอยู่ได้แล้วครับ อาจจะเหลืองานตกแต่งและเก็บรายละเอียดเล็กน้อย ดังนั้นเรามามาชมในส่วนของรายละเอียดของโครงการ เดอะ เมเปิ้ล @ รัชดา-ลาดพร้าว (THE MAPLE) กันครับ

image

การออกแบบฟอร์มของอาคารถูกออกแบบให้เป็นรูปตัว U โดยส่วนเว้าของตัวอาคารจะหันไปทางทิศใต้

  • ทิศตะวันออก หันหน้าประตูทางเข้าโครงการไปทางถนนรัชดาภิเษก

  • ทิศใต้ ซึ่งเน้นการใช้งานของ Facilities outdoor เป็นหลัก โดยเป็นตำแหน่งของสระว่ายน้ำภายนอกอาคารชั้น 2 จะหันออกไปทางซอยลาดพร้าว 26 แยก 2

  • ทิศเหนือหันหน้าไปทางสวนลุมไนท์บาซาร์ ถนนลาดพร้าว

  • ทิศตะวันตกหันไปทางเส้นวิภาวดี

image

เส้นทางเดินรถภายในอาคาร

image

พื้นที่จอดรถภายในโครงการแบ่งเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นใต้ดิน ชั้น 1 และชั้นลอย ลักษณะของอาคารเป็นอาคารสูง 8 ชั้น โดยมียูนิตห้องพักอาศัยทั้งหมด 156 ยูนิต ต่อเติมชั้นล่างสุด (ชั้น G) เป็น Lobby สำหรับติดต่อ มีพื้นที่สำหรับจอดรถ 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นใต้ดิน ชั้น 1 และชั้นลอย รองรับจำนวนรถทั้งหมดได้ถึง 60 คัน และสามารถจอดซ้อนคันได้มากถึง 80 คัน หรือประมาณ 40% - 50%

image

จำนวนลิฟต์สำหรับรองรับลูกบ้านของที่นี่จะมีเฉพาะลิฟต์โดยสาร 2 ตัว เอาไว้สำหรับขึ้นลงไปมาระหว่างชั้น 1 - 8 สำหรับโครงการนี้จะไม่มีลิฟต์เซอร์วิสหรือหนีไฟรองรับครับ อีกทั้งลิฟต์ก็ไม่ใช่ระบบล็อกชั้นด้วยเช่นกัน

Facilities และพื้นที่ส่วนกลางจะรวมอยู่ที่ชั้น 2 ทั้งหมด หันหน้าออกไปทางทิศใต้ ขนาบด้านซ้ายขวาและด้านหลังด้วยตัวอาคารครับ มีประโยชน์จากการบังแสงพื้นที่ส่วนกลางช่วงเวลากลางวันได้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องนั่งหลบแดดตามมุมในขณะลงไปว่ายน้ำ

image

ตำแหน่งที่ตั้งสระว่ายน้ำฝั่งทิศใต้ของอาคาร

image

สระว่ายน้ำมีการกั้นทำสระว่ายน้ำสำหรับเด็กรวมไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้สระแคบลงครับ เป็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่พอสำหรับว่ายออกกำลังกายได้เลย

image

มุมมองและทิวทัศน์ของสระว่ายน้ำ พร้อมพื้นที่นั่งเล่น   จากภาพจะเห็นว่าห้องที่อยู่ในชั้นนี้และเป็นวิวสระจะมีกำแพงลูกกรงกั้นอยู่เพื่อความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว แต่จุดนี้ก็มีข้อเสียครับ เพราะทำให้ห้องในโซนนี้ดูอึดอัดพอสมควร หลายโครงการแก้ปัญหานี้ด้วยการทำให้ห้องริมสระว่ายน้ำมีลักษณะคล้ายบ้าน สามารถเดินลงจากระเบียงมาที่สระว่ายน้ำได้เลย พร้อมเพิ่มกล้องวงจรปิดให้ห้องเหล่านั้นด้วย

image

image

ห้องน้ำสำหรับรองรับลูกบ้านบริเวณริมสระน้ำ และยังเป็นห้องน้ำส่วนกลางของพื้นที่ Facilities ที่ชั้น 2 ทั้งหมด Swimming Pool ของโครงการ เป็นพื้นที่ Outdoor ชั้น 2 ครับ รอบสระมีพื้นที่ทางเดินและโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งตามบริเวณริมสระ เหมาะสำหรับนั่งเล่นยามเย็นๆ หรือผู้ปกครองมานั่งเฝ้าเด็กๆ ขณะเล่นน้ำ โดยไม่ต้องนั่งหลบแดด (เนื่องจากสระถูกขนาบด้วยตัวอาคารทั้ง 3 มุม และหน้าสระหันไปทางทิศใต้) ระดับของความลึกของสระแบ่งเป็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่เพื่อให้เลือกใช้บริการ นอกจากนั้นยังมีห้องน้ำชาย - หญิงสำหรับรองรับลูกบ้านเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือทำธุระส่วนตัว

image

ฟิตเนสก็อยู่ชั้น 2 เช่นเดียวกันครับ ถัดออกมาจากสระว่ายน้ำ

image

มุมมองทางฝั่งทิศตะวันออกและฝั่งทิศใต้จากห้องฟิตเนส

image

อีกมุมหนึ่งของห้องฟิตเนส สามารถเห็นวิวทางฝั่งทิศใต้และพื้นที่สระว่ายน้ำภายนอกอาคาร Fitness ห้องออกกำลังกายแบบปิด บริเวณชั้น 2 หันหน้าออกทางทิศตะวันออกและทิศใต้ ผนังห้องเป็นกระจก มองเห็นทิวทัศน์ 2 ฝั่งขณะออกกำลังกาย อุปกรณ์ภายในฟิตเนสมี ลู่วิ่งไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า ดัมเบล และอุปกรณ์เวทเทรนนิ่ง อุปกรณ์มีไม่เยอะครับ ถ้าลูกบ้านใจตรงกันอาจจะต้องรอคิว นอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์ติดตั้งไว้ให้เปิดดูแก้เบื่อด้วย

image

บริเวณล็อบบี้ชั้น G สำหรับติดต่อ

image

ประตูทางเข้าสู่อาคารและช่องตู้จดหมายลูกบ้าน ตู้จดหมายอาจจะยังทำไม่เสร็จครับ เพราะถ้าเป็นตู้จดหมายแบบเปิดไว้แบบนี้ค่อนข้างไม่เป็นส่วนตัวครับ

image

พื้นที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางและมุมนั่งอ่านหนังสือ

มุมพื้นที่ส่วนกลางและมุมอ่านหนังสือ ทั้ง 2 พื้นที่นี้ จะเป็นพื้นที่เปิดครับ แต่กั้นด้วยผนังไม้ แบ่งสัดส่วน ฝั่งมุมอ่านหนังสือจะมีชั้นวางไม้ และโซฟาไว้รองรับ ตกแต่งออกในสไตล์วินเทจ ส่วนฝั่งพื้นที่ส่วนกลางจะเป็นห้องโถงที่มีโซฟาและโต๊ะ สำหรับรองรับเฉยๆ ครับ ตกแต่งเรียบง่ายสบายตา ทั้ง 2 ห้อง จะเป็นผนังกระจกหันออกสู่ทิศตะวันออก ทำให้มองเห็นวิวภายนอกและถนนหน้าโครงการได้ครับ

PLAN FLOOR

image

Floor Plans 2 แปลนบริเวณชั้น 2 มียูนิตสำหรับพักอาศัยรวม 18 ห้อง และ Facilities ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้นนี้ทั้งหมด ยูนิตห้องพักส่วนมากจะเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาดห้อง 29.89 ตร.ม. หันหลังห้องออกไปทางทิศเหนือ สภาพแสงช่วงเวลากลางวันจึงไม่เป็นปัญหาครับ ที่ชั้น 2 จะมี ห้อง 2 Bedroom อยู่ 2 ห้อง เป็นห้องหัวมุมขนาด 37.69 ตร.ม. ฝั่งมุมทิศเหนือและระเบียงจะหันไปทางทิศตะวันออก (ผังห้องสีส้ม ขวาบนสุด) และอีกห้องจะเป็นขนาด 45.85 ตร.ม. (สีม่วงอ่อน ซ้ายล่างสุด) ผนังห้องติดกับทางทิศใต้และทิศตะวันตก ห้องทางฝั่งนี้อาจจะมีการสะสมความร้อนในช่วงกลางวันสูงได้เช่นกันครับ

ปัญหาของยูนิตในชั้นนี้ที่หลาย ๆ โครงการให้ความสำคัญคือความเป็นส่วนตัวครับ สำหรับโครงการนี้จะกั้นโซนโถงทางเดินให้เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ด ในส่วนของส่วนที่ติดกับสระว่ายน้ำ จะมีกำแพงลูกกรงกั้นเอาไว้ ซึ่งลูกบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัว แต่กลับกันจะรู้สึกอึดอัด เพราะโดนบล็อกวิวไปเต็มๆ จริงๆ แล้วมีหลายโครงการที่แก้ปัญหานี้โดยการทำให้ห้องในชั้นนี้เป็นเหมือนบ้าน สามารถเดินลงจากระเบียงห้องมาที่สระว่ายน้ำได้เลย

image

Floor Plans 3 แปลนบริเวณชั้น 3 มียูนิตรวม 22 ห้อง

ห้องแบบ 2 Bedroom มีจำนวน 3 ห้องครับ คือห้องหมายเลข 310, 311, 322 ในภาพครับ (ห้อง 310 ขนาด 43.06 ตร.ม. และ 311 ขนาด 37.69 ตร.ม.ระเบียงห้องจะหันไปทางทิศตะวันออก ส่วนห้อง 322 ขนาด 45.85 ตร.ม. ระเบียงจะหันสู่ทิศตะวันตก) ส่วนห้องแบบ 1 Bedroom มีตั้งแต่ขนาด 29.89 ตร.ม. ถึง 37.18 ตร.ม.และห้องพิเศษขนาดใหญ่สุดๆ หมายเลขห้อง 309 ขนาด59.53 ตร.ม. ฝั่งทิศตะวันออก มุมขวาล่างสุดเลยครับ

image

Floor Plans 4 แปลนบริเวณชั้น 4 มียูนิตรวม 23 ห้อง มีห้อง 2 Bedroom 3 ห้องเช่นเคย คือห้องหมายเลข 411, 412, 423 (ห้อง 411 ขนาด 43.06 ตร.ม. และ 412 ขนาด 37.69 ตร.ม.ระเบียงห้องจะหันไปทางทิศตะวันออก ส่วนห้อง 423 ขนาด 45.85 ตร.ม. ระเบียงจะหันสู่ทิศตะวันตก) สำหรับชั้นนี้จะตัดห้องพิเศษทางทิศตะวันออกไป (ผังสีแดงกับสีเทา ด้านขวาล่างสุด) ให้กลายเป็นห้องขนาด 1 Bedroom แทนที่ โดยมีขนาดเล็กสุดที่ 28.45 ตร.ม. หมายเลขห้อง 410 ไปจนถึงขนาดใหญ่สุดที่ห้อง 37.18 ตร.ม. หมายเลขห้อง 422

image

image

image

image

Floor Plans 5 - 8 แปลนบริเวณชั้น 5 - 8 มียูนิตรวมทั้งหมด 23 ห้อง ออกแบบดีไซน์ขนาดพื้นที่เหมือนกันทั้งหมดครับ ห้องแบบ 2 Bedroom จะอยู่ฝั่งหัวมุมเหมือนชั้น 4 โดยมีขนาดตั้งแต่ (37.69 ตร.ม - 45.85 ตร.ม. เช่นเคย)

ส่วนห้องแบบ 1 Bedroom มีตั้งแต่ขนาด 28.45 ตร.ม. ไปจนถึงขนาดใหญ่สุด 37.00 ตร.ม.โดยเริ่มปรับเปลี่ยนขนาดห้องให้เล็กลงมาในชั้นนี้ครับ (ห้องแบบ 1 Bedroom ที่ถูกปรับขนาดลง จะอยู่บริเวณระเบียงห้องหันสู่ทิศตะวันตก ผังห้องสีชมพูเข้ม ติดกับห้อง 2 Bedroom แบบ 45.85 ตร.ม.ซ้ายล่างสุดครับ)

PLAN ROOM (1 Bedroom)

image

แปลนห้องนอนประเภท 1 Bedroom มียูนิตรวมทั้งหมดภายในอาคาร 134 ยูนิต โดยห้องขนาด 29.89 ตร.ม. จะมียูนิตมากที่สุดในโครงการถึง 49 ยูนิต  ตำแหน่งผนังห้องนอนและริมระเบียงตั้งอยู่ทางฝั่งทิศเหนือของอาคาร ภายในประกอบไปด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 1 ห้องน้ำ และระเบียงห้องครับ ได้แอร์ 2 ตัว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,300,000 บาท  จุดเด่นห้อง 1 Bedroom เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัย 1 - 2 คน ระยะห่างระหว่างพื้นและฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.4 เมตร เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นและทุกชนิดเลือกใช้จาก Index และสุขภัณฑ์ห้องน้ำใช้ของ American Standard ทั้งหมด  * โดยรวมของแปลนแบบ 1 ห้องนอนมีความลงตัวสำหรับการใช้ชีวิตมากครับ โดยที่ครัวจะเป็นครัวปิดและติดระเบียงสามารถเปิดประตูเพื่อระบายควันได้ ห้องนั่งเล่นมีความกว้างสามารถวางทีวีขนาดใหญ่ได้ รวมถึงห้องน้ำที่มีประตูทางเข้าจากห้องนั่งเล่นทำให้แขกที่เข้ามาเยี่ยมเราไม่ต้องเดินเข้าไปที่ * ห้องนอน หรือหากเรามีรูมเมทโดยที่รูมเมทต้องอยู่ดึก เขาก็จะไม่รบกวนการนอนของเราเพราะไม่ต้องเข้าห้องน้ำผ่านทางห้องนอน

  สำหรับห้องขนาด 29.89 ตร.ม. จะหันตำแหน่งหลังห้องและระเบียงไปทางฝั่งทิศเหนือ ด้วยเหตุนี้ เรื่องของปริมาณแสงและความร้อนในช่วงเวลากลางวันจึงไม่เป็นปัญหาต่อผู้อยู่อาศัย เนื่องจากไม่โดนแสงแดดจากทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกโดยตรง บรรยากาศแสงภายในห้องจึงให้ความรู้สึกซอร์ฟ นุ่มนวล และน่าอยู่อาศัยมากครับ (สำหรับลูกบ้านที่อยู่ชั้น 8 บนสุด อาจจะได้รับผลกระทบจากความร้อนสูงได้)  ขอแนะนำตำแหน่งห้องอีกฝั่งที่หันไปทางทิศใต้ครับ นอกจากจะได้เปรียบกับทิศทางและลดอุณภูมิจากแสงอาทิตย์แล้ว ยังได้วิวทิวทัศน์จากพื้นที่สระว่ายน้ำชั้น 2 ด้วยครับ ซึ่งขนาดห้องที่แนะนำคือ 31.75 ตร.ม. และ 32.10 ตร.ม. (ชั้น 3 ขึ้นไป) ห้องจะอยู่บริเวณตรงกลางคู่กันไม่ติดกับลิฟต์และบันไดหนีไฟด้วยครับ (เรียกได้ว่าได้ทั้งวิว ได้ทั้งความเงียบสงบ และห้องไม่ร้อนเกินไป  โดยขนาดห้อง 1 Bedroom มีแปลนขนาดให้เลือกตั้งแต่ 28.42 ตร.ม. - 38.00 ตร.ม. หากจำแนกออกจากประเภททั้งหมดจะแบ่งได้ดังนี้ (ไล่จากพื้นที่เล็กสุดไปหาพื้นที่ใหญ่สุด)

image

1 Bedroom 28.42 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต

image

1 Bedroom 28.45 ตร.ม. จำนวน 5 ยูนิต

image

1 Bedroom 29.11 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต

image

1 Bedroom 29.89 ตร.ม. จำนวน 49 ยูนิต

image

1 Bedroom 30.00 ตร.ม. จำนวน 7 ยูนิต

image

1 Bedroom 30.15 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต

image

1 Bedroom 30.78 ตร.ม. จำนวน 5 ยูนิต

image

1 Bedroom 31.33 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต

image

1 Bedroom 32.10 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต

image

1 Bedroom 32.64 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต

image

1 Bedroom 32.92 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต

image

1 Bedroom 37.18 ตร.ม. จำนวน 7 ยูนิต

จากแปลนของ 1 ห้องนอนทางด้านบนทั้งหมด มีจุดที่ต้องคำนึกนิดหนึ่งครับ คือบริเวณที่นั่งดูทีวี เพราะผนังที่จะวางทีวีมันจะตรงกับประตูห้องน้ำ ดังนั้นการวางทีวีจริง ๆ ควรจะต้องขยับไปวางในฝั่งที่ติดกับประตูครับ ซึ่งจะต้องระวังเรื่องการเปิดปิดไม่ให้ชนเฟอร์นิเจอร์  แต่สำหรับโครงการนี้ขายแบบ fully furnish ดังนั้นแต่ละห้องจะมีการตกแต่งเพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้ไว้ให้แล้ว

ห้องตัวอย่าง : 1 ห้องนอน 30 sq.m.

สำหรับห้องที่เราจะพามาชมเป็น 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. ครับ

image

image

บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom เมื่อเปิดประตูเข้ามาฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งติดกับโต๊ะวางทีวีเลย อย่างที่ได้บอกไปตอนที่แนะนำเรื่องแปลนห้องนะครับ ว่าโต๊ะวางทีวีจะต้องวางชัดกับประตู ซึ่งทางโครงการก็ได้ทำ door Stoper ไว้ให้ด้วยครับ ส่วนขนาดของทีวี จริง ๆ แล้วผนังด้านนี้มีความกว้างพอจะวางทีวีขนาด 60 นิ้วได้ครับ

image

พื้นที่ส่วนแรกหลังเปิดประตูเข้ามาก็คือห้องนั่งเล่นส่วนกลางและโซฟาตั้งชิดกับผนังกำแพงห้อง โครงการให้โซฟาผ้าขนาด 2 ทีนั่งมาให้  แต่พื้นที่ของห้องสามารถวางโซฟาเบดรูปตัว L ได้ไม่ยากครับ หรือบางคนอาจจะไม่อยากซื้อโซฟาใหม่ แต่หาโต๊ะทานข้าวมาวางเพิ่ม โต๊ะทานข้าวขนาด 2 คน ก็น่าจะวางตรงพื้นที่ว่างข้างโซฟาได้ไม่ยากครับ

image

ภาพรวมของห้องนั่งเล่นทั้งหมดครับ ในห้องนี้ลูกบ้านจะได้โต๊ะวางทีวีและโซฟาผ้าขนาด 2 ที่นั่ง ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีอยู่ที่ประมาณ 3 เมตรครับ สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ถึง 60 นิ้วได้โดยที่ดูแล้วไม่รู้สึกเวียนหัวครับ

image

ประตูจะเป็นแบบ Digital Doorlock  ของ Sumsung แบบกดรหัส คีย์การ์ด และกุญแจในเวลาฉุกเฉิน

image

โซนครัวเชื่อมต่อไปยังระเบียงหลังห้อง กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ส่วนพื้นยังคงเป็นพื้นไม้ลามิเนต ซึ่งอาจจะต้องระวังเรื่องการเปรอะเปื้อน

image

โซนครัว จะได้ตู้เย็น เคาน์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน และชั้นวางแบบ Built-in ครับ โดยที่ชั้นวางถูกออกแบบให้สามารถวางไมโครเวฟได้ด้วย การวางไมโครเวฟด้านบนแบบนี้อาจจะอันตรายสำหรับผู้หญิง หรือคนที่ไม่ค่อยสูงมากครับ เนื่องจากมองไม่เห็นของที่อุ่น อาจจะทำให้หกใส่ตัวเองขณะที่ยกออกมาได้

image

ท็อปของเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียมทนต่อการทำครัวหนักๆ ได้ มีการปูผนังด้วยกระเบื้องโมเสกเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด อ่างล้างจานเป็นสีดำดูแปลกตาดี มีปลั๊กสำหรับอุปกรณ์ครัวด้วย โครงการไม่ได้ติดตั้งเตามาให้นะครับ ซึ่งตรงนี้เป็นข้อดีมากกว่าข้อเสียตรงที่เราสามารถเลือกอุปกรณ์ทำอาหารได้เอง และไม่เปลืองพื้นที่ด้วยเนื่องจากหลาย ๆ โครงการจะทำเตาฝังมาให้ซึ่งจะต้องเสียพื้นที่ทำครัวไปส่วนหนึ่ง

image

ตู้เก็บของแบบ Built-in สามารถใช้เก็บของได้อย่างอเนกประสงค์ โดยระยะการเอื้อมเก็บของไม่สูงมากเท่าใด

image

ครัวจะติดกับระเบียงครับ ทำให้สามารถเปิดประตูกระจกบานเลื่อนออกเพื่อระบายอากาศได้ดังนั้นครัวของยูนิตนี้จึงไม่จำเป็นต้องติดเครื่องดูดควันเลย ส่วนตู้เย็นจะวางติดกับประตูกระจกครับ อาจจะทำให้ได้รับความร้อนจากระเบียง และต้องทำงานหนักขึ้นด้วยเหมือนกัน ถ้าตู้เย็นโดนแดดจริง ๆ แนะนำให้ติดม่านที่ในด้านที่ตู้เย็นวางอยู่ครับ ค่าไฟจะได้ถูกลง ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะติดตั้งแบบแขวนไว้ที่ระเบียง และเป่าออกด้านข้างครับ ค่อนข้างดีสำหรับคนที่ต้องการให้ผ้าที่ตากไว้แห้งเร็วๆ

image

โครงการให้เตียงแบบควีนไซส์ หรือ 5 ฟุต มีช่องสำหรับใส่ของได้บาง ๆ ได้เช่นพวกหนังสือ

image

ช่องหน้าต่างแบบบานเลื่อนสามารถเลื่อนเปิดปิดเพื่อระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้

(หน้าต่างสามารถเปิดออกพร้อมกันได้ 2 บาน)

image

แอร์ถูกติดตั้งบนผนังฝั่งตรงข้าม ทำให้การกระจายความเย็นทั่วถึงทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวาของเตียง แต่การติดเครื่องปรับอากาศของห้องนี้ค่อนข้างแปลกครับ ตรงที่ติดสูง แล้วมีการดดรอปฝ้าขึ้นไป จริงๆ แล้วเครื่องปรับอากาศแบบนี้ควรเว้นระยะห่างจากเพดานประมาณ 1 ฟุต เพื่อให้เครื่องสามารถถ่ายเทอากาศเข้าเครื่องได้ และง่ายต่อการที่ช่างจะมาล้างแอร์ด้วย  การติดแบบในภาพช่างที่มาล้างแอร์เจอปัญหาอย่างแน่นอน ถ้าเป็นช่างที่ดีก็คงจะทำงานลำบาก แต่ถ้าเป็นช่างที่ไม่ค่อยใส่ใจอาจจะล้างได้ไม่สะอาดครับ

image

ปลั๊กไฟสองช่อง บริเวณฝั่งตรงข้ามเตียง และช่องสำหรับต่อสายเคเบิลทีวีครับ สำหรับใครที่ต้องการจะวางทีวีในห้องนอน แนะนำให้ติดตั้งแบบแขวนนะครับ เพราะพื้นที่ทางเดินปลายเตียงค่อนข้างแคบหากจะตั้งตู้วางทีวี

image

ลักษณะของแสงภายในห้องช่วงเวลาเที่ยงตรงครับ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและน่าอยู่พอสมควร ด้านข้างเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนกระจกขุ่นสีเขียว พอจะมองรู้ว่าอะไรอยู่ด้านใน สหรับตู้เสื้อผ้าแบบนี้เหมาะกับคนที่เป็นระเบียบนะครับ ถ้าเป็นคนไม่ค่อยมีระเบียบใช้ตู้เสื้อผ้าแบบนี้อาจจะดูไม่จืดครับ

image

ห้องน้ำถูกกั้นโซนเปียก -  แห้ง  ด้วยบานกระจกครึ่ง หากต้องการให้ชัวร์กว่านี้สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำจะเป็นแบบม่าน หรือจะให้ช่างมาทำเป็นประตูเพิ่มก็ได้ครับ เนื่องจากแปลนห้องน้ำเอื้ออยู่แล้ว  อุปกรณ์ทั้งหมดเป็นของ American standard

ห้องตัวอย่าง : 2 ห้องนอน 45 sq.m.

ก่อนจะดูห้องตัวอย่าง ขออนุญาติพาชม plan แบบ 2 ห้องนอนก่อนนะคะ

PLAN ROOM (2 Bedroom)

แปลนห้องนอนประเภท 2 Bedroom มียูนิตรวมทั้งหมดภายในอาคารเพียง 21 ยูนิต โดยยูนิตขนาด 37.69 ตร.ม. และ 45.85 ตร.ม. จะมียูนิตมากที่สุด ตกเฉลี่ยห้องละ 7 ยูนิต  ตำแหน่งผนังห้องนอนและริมระเบียงส่วนมากจะเป็นห้องหัวมุมครับ โดยห้องขนาด 45.85 ตร.ม. ผนังห้อง 2 ด้าน จะหันสู่ทางฝั่งทิศตะวันตกและทิศใต้ ส่วนห้องขนาด 37.69 ตร.ม. ผนังห้องจะหันสู่ฝั่งทิศเหนือและทิศตะวันออกเป็นหลักครับ ตำแหน่งที่ตั้งจะเป็นห้องหัวมุมทั้งคู่เลย

ภายในห้องประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 1 ห้องน้ำ และระเบียงห้องครับ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,900,000 บาท ได้แอร์ 3 ตัว เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นและทุกชนิดเลือกใช้จาก Index และสุขภัณฑ์ห้องน้ำใช้ของ American Standard เช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom ทั้งหมด

จุดเด่นห้อง 2 Bedroom เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัย 2 - 4 คน ครอบครัวเล็กๆ สัดส่วนพื้นที่ภายในห้องดูกว้างขวางมาก ระยะห่างระหว่างพื้นและฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.40 ม. ออกแบบเป็นพื้นที่ปิด แต่ละห้องจะมีประตูกั้นพื้นที่การใช้งานชัดเจนมากครับ ขนาดพื้นที่ของห้องมีให้เลือกตั้งแต่ 37.69 - 60.40 ตร.ม. และจุดพิเศษของแปลนห้อง 43.06 ตร.ม. พื้นที่ริมระเบียงห้องจะมีมากกว่าห้องขนาดอื่นครับ ดีไซน์เป็นขนาดทางยาวแต่ไม่กว้างมาก ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยตากเสื้อผ้ามากขึ้นกว่าเดิมเลย ส่วนห้องขนาด 60.40 ตร.ม. ใหญ่มาก ใหญ่สุดๆ และโถงพื้นที่นั่งเล่นห้องรับแขกกว้างที่สุดครับ ตามแปลนตัวอย่างห้องด้านล่างเลย โดยลักษณะห้องถูกจำแนกออกดังนี้

image

2 Bedroom 37.69 ตร.ม. จำนวน 7 ยูนิต  ห้องนี้ที่วางโซฟากับที่วางทีวีจะเอียง ๆ หน่อยนะครับอาจจะต้องเอียงคอดู ส่วนครัวจะเป็นครัวเปิดแต่สามารถระบายควันโดยการเปิดประตูระเบียงได้

image

2 Bedroom 43.06 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต ห้องรับแขกมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะเลยครับ แต่ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาอาจจะอยู่ที่ 2 เมตรกว่าๆ มีระเบียง 2 ส่วนเป็นส่วนที่ไว้ใช้งานกับระเบียงพักผ่อน

image

2 Bedroom 45.85 ตร.ม. จำนวน 7 ยูนิต ห้องนี้จะเป็นแบบไม่เน้นระเบียงครับ จะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น ในห้องรับแขกระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีอยู่ที่ประมาณ 3 เมตรครับ วางทีวีขนาด 60 นิ้วได้โดยที่ดูแล้วไม่เวียนหัว

image

2 Bedroom 60.40 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต ยูนิตนี้จะใหญ่ขึ้นมาหน่อย ได้ห้องรับแขกที่สามารถชมวิวได้แต่ก็ใช้ร่วมกับการตากผ้านะครับ พื้นที่ใช้สอยในห้องรับแขกค่อนข้างเยอะ วางโต๊ะทานข้าวได้ และมีห้องน้ำสองห้องเพิ่มความสะดวกสบาย  แต่ครัวเป็นครัวเปิด อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารหนัก ๆ ครับ

สำหรับห้องที่เราพามาชมเป็นห้องตัวอย่างขนาด 45 ตร.ม. ในโครงการนี้มีอยู่ 7 ยูนิตครับ

image

image

พื้นที่ภายในออกแบบในลักษณะปิด แยกสัดส่วนการใช้งานห้องอย่างชัดเจน

image

ภาพรวมของบรรยากาศห้องครับ ห้องซ้ายมือที่ติดกันคือห้องนอนและห้องบนสุดคือห้องน้ำส่วนกลางห้องนั่งเล่นสามารถเชื่อมต่อไปยังห้องต่างๆ ได้

image

แอร์ของห้องนั่งเล่นจะถูกติดตั้งบนผนังหน้าห้องน้ำ ลักษณะการกระจายความเย็นจึงมีความทั่วถึงทั้งห้อง

image

ประตูห้องใช้แบบ Digital Doorlock ของ Sumsung

image

บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่น ระยะห่างระหว่างทีวีและโซฟาประมาณ 3 เมตร สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ถึง 60 นิ้วได้ โดยที่ชมแล้วไม่เวียนหัว   ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังโซนครัว โดยแบ่งสัดส่วนพื้นที่ด้วยการกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก

image

พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนตทั้งหมด

image

เมื่อเปิดประตูเข้ามาสิ่งแรกที่จะพบคือห้องนอน 2 ห้องทันทีเลยครับ ฝั่งซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นและฝั่งขวาคือห้องน้ำ

image

เตียงแบบควีนไซส์ พร้อมช่องเก็บของบริเวณใต้เตียง ข้อดีคือสามารถเก็บของกระจุกกระจิก และกล่องต่างๆ ได้ ทำให้มีพื้นที่เก็บของภายในห้องนอนได้มากขึ้น

image

ทั้งสองฝั่งของเตียง ยังมีที่ว่างให้เดินขึ้นลงเนื่องจากเตียงในกรณีที่นอนกันสองคน หรือใช้ประโยชน์อื่น ๆ เช่นการวางโต๊ะข้างเตียง หรือโคมไฟได้ครับ แต่ข้างเตียงฝั่งหน้าต่างไม่มีปลั๊กไฟ

image

แอร์ในห้องนอน จะถูกซ่อนบริเวณเหนือบานประตู มีการเลื่อนฝ้าขึ้นไป ซึ่งอาจจะทำให้การล้างแอร์ของช่างทำได้ลำบาก ดีไซน์ตู้เสื้อผ้าออกแบบเป็นบานเลื่อนกระจกขุ่น ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ไม่เป็นระเบียบเท่าไร ปลายเตียงมีปลั๊กไฟและช่องต่อสายเคเบิล แต่หากจะติดตั้งทีวีจริง ๆ แนะนำให้แขวนครับ เพราะทางเดินปลายเตียงค่อนข้างแคบแล้ว

image

โต๊ะเครื่องแป้งที่ให้มาเป็นแบบยืนครับหลังกระจกเป็นประตูปิดเปิดเพื่อเก็บของได้ด้วย สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งแบบยืนจะเหมาะกับคนที่แต่งหน้าไม่นาน และต้องการเห็นทั้งตัวครับ แต่สำหรับคนที่สูงมาก ๆ ประมาณ 170 ซม. ขึ้นไปอาจจะใช้งานได้ลำบากเพราะหัวเลยกระจก

image

ห้องนอนเล็กจะได้ตู้เสื้อผ้าแบบบานปิดเปิด โต๊ะเครื่องแป้ง โครงเตียงขนาด3.5 ฟุตครับ ห้องนี้จะอยู่ติดกับห้องนอนใหญ่

image

บานหน้าต่างสามารถเลื่อนเปิดปิดเพื่อระบายอากาศได้พร้อมกันสองบาน

image

เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในครบเซ็ต ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจก และเตียงนอน

image

การเว้นช่องทางเดินสำหรับขึ้นลงเตียง ทำให้สามารถขึ้นลงได้ทั้งสองฝั่งครับ

image

แอร์ถูกติดตั้งไว้บนผนังห้องเหนือหัวเตียง ซึ่งวิธีการติดทำให้การล้างแอร์ทำได้ยาก และการไหลเวียนอากาศของเครื่องจะไม่ดีด้วยครับ

image

โต๊ะเครื่องแป้งข้างเตียงพร้อมกระจกเงา และช่องลิ้นชักใส่ของ

image

ตู้เสื้อผ้าภายในห้องและช่องเก็บของขนาดไม่คอยใหญ่เท่าไหร่ครับ ตู้เป็นแบบบานเปิดปิดนะครับ ไม่ใช่แบบบานเลื่อนเหมือนห้อง Master Bedroom

image

บรรยากาศห้องครัวถึงริมระเบียงถูกกั้นด้วยบานเลื่อนกระจกเพื่อแบ่งสัดส่วนการใช้งานพื้นที่ ครัวไม่ได้ติดตั้งเครื่องดูดควันมาให้ แต่สามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายควันได้ครับ

image

เคาน์เตอร์ครัวมีท็อปเป็นหินเทียมครับ ไม่ได้ฝังเตามาให้ ส่วนช่องวางไมโครเวฟที่อยู่ด้านบนอาจจะอันตรายสำหรับคนไม่สูง เนื่องจากมองไม่เห็นอาหารที่อุ่น

image

ตู้เก็บของบนเคาน์เตอร์ครัวมีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถจุของได้เยอะ ระยะการเอื้อมถึงก็ไม่ได้สูงมากนัก

image

คอมเพรสเซอร์แอร์ 3 ตัว ถูกติดตั้งที่ระเบียงทั้งหมด ดังนั้นพื้นที่ระเบียงร้อนมากแน่นอนครับ หากเปิดพร้อมกัน 3 ตัว

image

ระเบียงมีก็อกน้ำและปลั๊กไฟสำหรับวางเครื่องซักผ้าครับ ปลั๊กไฟมีกล่องกันน้ำเอาเอาไว้ให้ด้วย แต่กล่องแบบนี้เหมาะกับคนที่ขยันถอดสายเครื่องซักผ้าครับ เพราะถ้าเสียบคาเอาไว้เวลาที่ฝนสาดเปียกน้ำแน่นอน ไม่เหมือนกับฝาครอบที่เป็นฝาด้านบน ตัวนั้นสามารถเสียบคาเอาไว้ได้

image

มุมมองจากห้องครัว สู่พื้นที่ห้องนั่งเล่นภายใน

image

การแบ่งสัดส่วนการใช้งานภายในห้องน้ำ ห้องอาบน้ำถูกกั้นด้วยกระจกเพียงด้านเดียวครับ แต่สามารถติดตั้งม่านเพิ่มได้ครับ ถ้ากลัวน้ำกระเด็น

image

อ่างล้างมือแบบจตุรัส และสุขภัณฑ์ชักโครก ขนาดไม่ใหญ่มากครับ กลางๆ ตามมาตรฐานคนไทย

image

สุขภัณฑ์ห้องน้ำทั้งหมดใช้ของ American Standard

image

เครื่องทำน้ำอุ่นและฝักบัวอาบน้ำแบบ Hand Shower

image

ก๊อกน้ำแบบกากบาททำให้เวลาเปิดปิดจับถนัดกว่าแบบหัวกลม แต่ไม่ถนัดมือเท่าแบบก้านโยก

image

ราวแขวนเสื้อผ้า ถูกติดตั้งบริเวณผนังโซนแห้ง

Analysis : วิเคราะห์โครงการ

การเดินทาง:

การเดินทางเข้าออกโครงการ  ลูกบ้านสามารถเลือกเข้าออกได้หลากหลายช่องทางตามแต่สะดวกครับ หลักๆ ก็มีทางเลือกให้อยู่ 4 ช่องทาง ดังนี้

หากมาด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีรัชดาภิเษกให้ออกทางประตูที่ 2 และต่อรถจักรยนต์รับจ้างเข้ามาจากทางปากซอยรัชดาภิเษก 19

หากมาด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว ให้ออกทางประตูที่ 2 หากเลี้ยวขวาสามารถเข้าจากทางปากซอยลาดพร้าว 26 ได้

จากจุดเดิม MRT ลาดพร้าว ประตู 2 หากเลี้ยวซ้ายแล้วเดินมาเรื่อยๆ ก็สามารถเข้าทางปากซอยลาดพร้าว 18 ได้เช่นกัน (หากเข้าทางซอยลาดพร้าว 18 จะมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อเยอะกว่าทางเข้าอื่น)

หากมาจากถนนวิภาวดี สามารถทะลุเข้ามาทางซอยวิภาวดี 16, 20, 22

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ ไม่ว่าจะเข้ามาจากฝั่งไหนก็มีค่าเท่ากันครับ เนื่องจากระยะทางจากหน้าปากซอยเข้าสู่โครงการก็ประมาณ 600 เมตร แต่ละเส้นทางแทบไม่ต่างกันเลย การเดินทางภายในซอยควรระมัดระวังในการขับขี่มาก เนื่องจากสภาพถนนภายในซอยค่อนข้างคับแคบ เวลามีรถสวนกันอาจจะต้องหยุดในบางจุดเพื่อเปิดทางให้อีกฝ่ายไปก่อน โดยภาพรวมของการเดินทางแล้ว ก็อาจจะลำบากนิดนึงครับ เนื่องจากอยู่ข้างในซอยพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากหรือเป็นปัญหามากมายนัก

สำหรับคนที่ไม่ใช้รถส่วนตัว ในตอนกลางคืนแนะนำให้ใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างครับ เนื่องจากใกล้ ๆ โครงการค่อนข้างเงียบ และเปลี่ยวเนื่องจากเป็นบ้านคนโดยส่วนใหญ่

โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่อยู่ในตัวเมืองและสามารถเดินทางได้สะดวกโครงการหนึ่งเลยครับ

สิ่งแวดล้อม:

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ ถ้าเอาตามจริงก็มีน้อยมากหากจะหาร้านอาหารทั่วไปหรือร้านสะดวกซื้อ ส่วนมากจะเป็นบ้านเรือนอยู่อาศัยเสียมากกว่า ที่ใกล้สุดคือร้านอาหารล้านแซ่บฝั่งขาออกถนนลาดพร้าว และถ้าต้องการไปร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุดก็คงต้องไปทางลาดพร้าวซอย 18 รอบๆ โครงการ ส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัย โฮมออฟฟิศ และโครงการคอนโดนตามละแวกเส้นทาง แม้ในซอยอาจจะไม่อุดมสมบูรณ์มาก แต่ปากซอยอย่างแยกรัชดา-ลาดพร้าว เป็นแหล่งของกิน และตลาดนัดกลางคืนเลยครับ ใครที่เคยผ่านแถวนั้นจะรู้ดี

หากลูกบ้านมีจักรยานยนต์ส่วนตัวจะตอบโจทย์ความสะดวกในส่วนนี้มากครับ สามารถขับเข้าออกไปซอยใกล้ๆ ได้สบาย ซึ่งบริเวณทางฝั่งซอยลาดพร้าว 18 ของกินจะเยอะกว่าทางเข้าอื่นมาก ในซอยมีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ 7 -11 และ Family Mart ตั้งอยู่ ภาพรวมจากซอยทางเข้าไปจนถึงรอบโครงการบรรยากาศไม่เปลี่ยว แต่ก็ควรระมัดระวังตัวครับ (ถ้าเป็นผู้หญิงกลับดึกๆ ก็ไม่แนะนำให้เดินครับ นั่งรถรับจ้างเข้ามาจะดีที่สุด)

แบบห้อง:

รูปแบบห้องของโครงการมีให้เลือกหลักๆ อยู่ 2 ประเภทคือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ยูนิตห้องส่วนมากจะเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 29.89 ตร.ม. เหมาะสำหรับอยู่ 1 - 2คน มากครับ หันหลังห้องสู่ตำแหน่งทางทิศเหนือ จึงทำให้สภาพแสงในช่วงเวลากลางวันไม่ส่องเข้าภายในห้องโดยตรง

ตำแหน่งที่ตั้งยูนิตห้องน่าสนใจเลยทีเดียว แต่ขอแนะนำให้อยู่ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไป เนื่องจากไม่ต้องไปกระจุกตัวอยู่ที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางและ Facilities ครับ อีกทั้งห้องที่อยู่สูงขึ้นไปจะได้เปรียบในเรื่องของสภาวะการไหลเวียนของอากาศได้ดีกว่าห้องชั้นล่าง อีกเหตุฟลหนึ่งคือโดยรอบโครงการจะเป็นบ้านเรื่อนสูงประมาณ 1-2 ชั้นขนาบข้าง ดังนั้นชั้น 3 ขึ้นไปจะรู้สึกสบายกว่า เป็นส่วนตัวมากกว่า

แบบห้อง 2 Bedroom เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 2 - 3 คน เป็นครอบครัวขนาดเล็ก พ่อ แม่ ลูก หรือคู่รักที่พึ่งแต่งงานกัน ขนาดห้องมีให้เลือกตั้งแต่ 37.69 ตร.ม. - 60.40 ตร.ม. ตำแหน่งของยูนิตห้องจะเน้นไปที่บริเวณห้องหัวมุมเป็นหลักหันผนังห้องสู่ทางทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก (ตามแต่ละฝั่ง)

โดยแต่ละชั้นจะมีห้องแบบ 2 Bedroom อยู่จำนวน 3 ห้องต่อชั้น หากสนใจห้องประเภทนี้ แนะนำให้เลือกห้องบริเวณหัวมุม เป็นห้องขนาด 37.69 ตร.ม. ผนังห้องจะหันออกไปทางทิศเหนือและทิศตะวันออก ความร้อนสะสมจึงมีไม่มาก แต่ถ้าเลือกห้องที่มีผนังติดกับทางทิศตะวันตก อย่างห้องขนาด 45.85 ตร.ม. อาจจะได้รับผลกระทบจากความร้อนสะสมได้มาก และสุดท้ายแนะนำให้เลือกห้องที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปเช่นเดิมครับ เพื่อสร้างสภาวะและการไหลเวียนของอากาศที่ดีขึ้นภายในห้องให้น่าอยู่

สิ่งอำนวยความสะดวก:

สำหรับ Facilities ของโครงการ สามารถรองรับลูกบ้านตามมาตรฐานทั่วไป ตามที่คอนโดประเภท Low Rise ควรพึงมี

โดยลูกบ้านสามารถมาใช้บริการได้ที่ชั้น 2 ซึ่งมีทั้งห้องฟิตเนส พื้นที่ส่วนกลาง มุมอ่านหนังสือ และสระว่ายน้ำบริเวณภายนอก สำหรับจำนวนเครื่องออกกำลังกายอาจจะต้องต่อคิวกัน เนื่องจากมีจำนวนไม่มาก (ในช่วงเวลาหลังเลิกงานตอนเย็น)

สำหรับการใช้บริการสระว่ายน้ำ มีการแบ่งระดับออกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ ริมสระมีที่นั่งโต๊ะเก้าอี้สำหรับรองรับลูกบ้านเพียงไม่กี่ตัว ตำแหน่งที่ตั้งของสระหันออกสู่ทิศใต้ ตัวอาคารล้อมรอบสระจากทางทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก การใช้บริการในช่วงเวลากลางวันจึงไม่ร้อน ไม่ต้องไปนั่งหลบแดดตามมุม แต่ลูกบ้านอาจจะขาดความเป็นส่วนตัว เนื่องจากห้องชั้นบนฝั่งทิศใต้จะสามารถมองลงมาเห็นภาพรวมพื้นที่สระว่ายน้ำได้ทั้งหมด

พื้นที่ส่วนกลางและมุมนั่งอ่านหนังสือจะอยู่ภายในตัวอาคาร สามารถมองเห็นวิวบริเวณหน้าโครงการซึ่งหันออกไปทางทิศตะวันออกผ่านบานกระจก พื้นที่ส่วนกลางและมุมนั่งอ่านหนังสือจะถูกกั้นด้วยผนังไม้และเปิดพื้นที่สเปซสำหรับเดินไปมาหาสู่กัน สไตล์การตกแต่งให้ความรู้สึกเรียบง่ายและแฝงความเป็นวินเทจไว้ในบางมุม

ราคา:

จากการเยี่ยมชมห้องตัวอย่างโครงการเดอะ เมเปิ้ล@รัชดา-ลาดพร้าว คุณภาพของห้องเหมาะสมและสอดคล้องกับราคาดีครับ โดยอัตราเริ่มต้นถูกกำหนดราคาไว้ที่ 2,300,000 บาท (ประเภท 1Bedroom ซึ่งได้ 1 ห้องนอน พร้อมครัวแบบปิด และเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งพร้อมอยู่อาศัย)

ส่วนห้องประเภท 2 Bedroom เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กๆ เริ่มต้นที่ราคา 2,900,000 บาท พื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น บรรยากาศปลอดโปร่ง ห้องส่วนมากเป็นหัวมุม ราคาก็เพิ่มขึ้นตามขนาดพื้นที่ใหญ่ขึ้นครับ โดยจะได้ 2 ห้องนอน 1ห้องนั่งเล่น 1ห้องครัว 1ห้องน้ำ ระเบียง และเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งพร้อมอยู่อาศัย)

จากราคาภาพรวมทั้งหมดเหมาะสำหรับผู้ที่มีกำลังการผ่อน ตกอยู่ประมาณ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป (คำนวนในอัตราล้านละ 7000 บาท) พนักงานออฟฟิศที่มีอัตราเงินเดือนประมาณ 30,000 บาท ขึ้นไปน่าจะผ่อนได้สบายไม่มีปัญหาครับ

สรุป:

 โครงการเดอะ เมเปิ้ล@รัชดา-ลาดพร้าว (The Maple) เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการ

คอนโดในเมืองหลวงราคาไม่สูงมาก เน้นความเงียบสงบ เน้นใช้งานพื้นที่ภายใน ไม่ต้องหรูหรามากมาย สามารถเดินทางไปรถไฟฟ้าใต้ดินหรือแหล่งพื้นที่บันเทิงตามย่านธุรกิจสำคัญได้หลากหลายช่องทาง ดังนั้นพนักงานออฟฟิศหรือบุคคลทั่วไปที่มีกำลังซื้อและมีกำลังผ่อนจะตอบโจทย์ในส่วนนี้มาก

ภาพรวมของโครงการก็ตามมาตรฐานคอนโด Low Rise ครับ ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในซอย เดินทางเข้าออกก็เน้นใช้บริการรถสาธารณะหรือรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก หากมีรถจักรยานยนต์ส่วนตัวจะดีมาก ทางด้าน Facilities ก็รองรับลูกบ้านอย่างครบครัน วัสดุเฟอร์นิเจอร์รวมถึงคุณภาพของการออกแบบห้องก็สอดคล้องไปกับราคาที่ถูกกำหนดขึ้นจากโครงการ สิ่งแวดล้อมรอบโครงการก็เป็นบรรยากาศแบบอยู่อาศัยภายในซอยเงียบสงบ โดยส่วนตัวแล้วสิ่งที่ติดขัดก็มีเพียงแค่สภาพการจราจรทางเข้าออกภายในซอยครับที่ดูจะคับแคบไปหน่อย

สรุปสุดท้าย เป็นโครงการที่เรียบง่ายดีครับ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ตามมาตรฐานทั่วไปจนถึงเกณฑ์ดี หากท่านคิดจะหาคอนโดที่เน้นความเงียบสงบ ราคาไม่แพง และอยู่ใกล้บริเวณย่านพื้นที่ธุรกิจสำคัญสำหรับอยู่อาศัย ใกล้แยกรัชดา-ลาดพร้าวที่อุดมสมบูรณ์  เดอะ เมเปิ้ล @ รัชดา-ลาดพร้าว (The Maple) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้โครงการอื่นใดเลยทีเดียว

แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ