[Review] รีวิว Centric Ratchada - Huai Khwang Station ( เซ็นทริค รัชดา - ห้วยขวาง ) คอนโดมิเนียมหรู ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินห้วยขวาง 120 เมตร ติดถนนรัชดาภิเษก
ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
information
รีวิวโครงการ Centric รัชดา-ห้วยขวาง รีวิวคอนโดมิเนียมโครงการ Centric รัชดา-ห้วยขวาง คอนโดมิเนียมหรูมีรสนิยม บนพื้นที่ที่ไม่เคยหลับไหล ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินห้วยขวางเพียง 120 เมตร ในบางครั้งโครงการนี้ก็ถูกเขียนหรือเรียกโดยการเขียนว่า Centric ห้วยขวาง หรือ Centric Rachada - Huai Kwang แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนมันคือโครงการเดียวกันครับ
เพราะทุกดีไซน์ล้วนตอบโจทย์ต่อการดำเนินชีวิต
CENTRIC เปรียบเสมือนคำแทนความหมายของศูนย์กลางที่พักอาศัยแห่งใหม่ในอนาคต อันเป็นต้นแบบของอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดสมัยใหม่ ที่นิยมตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ย่านธุรกิจสำคัญของเมืองหลวง ซึ่งคงคอนเซ็ปต์ถึงการตอบโจทย์ด้านการรวมฟังก์ชันการใช้งาน ความสวยงาม และความสะดวกสบายจากการเดินทางไว้ ณ พื้นที่แห่งเดียวกันอย่างครบวงจร
More info
ราคาเริ่มต้น : 3,090,000 บาท (ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2559)
ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 120,000- 140,000 บาท
เงินกองทุนส่วนกลาง : 550 บาท ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน
จอง 30,000 บาท ทำสัญญา 70,000 บาท
ดาวน์ 10% ของราคาขาย ผ่อนชำระ 24 งวด
Location
Centric ห้วยขวาง : การเดินทาง
สำหรับการเดินทางไป Centric Huai khwang station ไม่มีความซับซ้อนครับ เนื่องจากตัวคอนโดอยู่ติดถนนรัชดาภิเษกใกล้กับแยกห้วยขวาง แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหลงเลยครับ สำหรับการเดินทางไปยังไง ดูได้ตามนี้เลยครับ
แผนที่ที่จัดทำโดยทางโครงการอาจจะดูยากหน่อยนะครับ เนื่องจากเป็นแผนที่เพื่อการโฆษณาด้วย จริง ๆ ในย่านนี้ชาวกรุงน่าจะรู้จักกันดี แค่บอกว่าแถวแยกห้วยขวางก็เข้าใจกันแล้ว
ถ้ามาโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ให้ลงสถานีห้วยขวาง ทางออกที่ 1 แล้วเดินไปทางลาดพร้าว พรือเดินสวนกับทิศที่รถวิ่ง เดินผ่านโชว์รูมฮอนด้า แล้วจะพบกับโครงการ Centric ห้วยขวาง ตั้งอยู่ถัดไปครับ
ถ้าขับรถมาจากฝั่งลาดพร้าว ให้วิ่งเข้ามาในถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้าอโศกตรงมาเรื่อย ๆ เลยครับ ช่วงที่ใกล้ถึงแยกรัชดา บริเวณ Mansion 7 ให้ขับชิดซ้ายเอาไว้ครับไม่ต้องลงอุโมงค์ ถัดจาก Masion 7 จะเป็นตลาดห้วยขวางเดินชิล และจะเป็นโครงการ Centric Rachada - Huay Kwang ครับ
ถ้าขับรถมาจากฝั่งอโศก ให้วิ่งเข้าถนนรัชดาภิเษกขาออก ข้ามแยกห้วยขวางไปเลย และไปกลับรถที่แยกสุธิสาร วิ่งกลับมาที่แยกห้วยขวางอีกที เมื่อใกล้ถึงแยกห้วยขวางชิดซ้ายเอาไว้ครับ ไม่ต้องลงอุโมงค์ใด ๆ สังเกต Mansion7 หรือ Life คอนโด ถัดจาก Masion 7 จะเป็นตลาดห้วยขวางเดินชิล และจะเป็นโครงการ Centric Rachada - Huai Kwang ครับ
การเดินทางด้วย MRT
เป็นวิธีการเดินทางที่เราแนะนำเลยครับ เนื่องจากง่าย และไม่ต้องเสียงปัญหารถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนด้วยครับ
เมื่อลงรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีห้วยขวางให้เดินย้อนกลับไปทางลาดพร้าวครับ หรือเดินย้อนทิศที่รถวิ่ง ตามลูกศรสีเหลือง
เดินมาได้นิดหน่อยเราจะเห็น โชว์รูมฮอนด้าอยู่ทางขวามือครับ ส่วนตึกสูง ๆ ที่ใกล้ที่สุดที่เห็นในภาพ คือ Centric ห้วยขวาง สเตชัน ครับ
เลยโชว์รูมฮอนด้ามาไม่กี่ก้าว ก็จะเห็นโครงการ Centric ห้วยขวาง สเตชันอยู่ถัดไป ไม่ต้องตกในนะครับที่ป้ายเขียนว่า Centric Ratchada - Huai Khwang เพราะมันคือโครงการเดียวกันครับ
ขับรถมาจากลาดพร้าว
วิ่งเข้า ถ.รัชดาภิเษก ฝั่งขาเข้าไปทางอโศก ผ่านแยกสุธิสารมุ่งหน้าไปยังแยกห้วยขวาง
สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นแมนชั่น 7 ให้ชิดซ้ายเลยครับ อย่าลอดอุโมงเด็ดขาด ไม่งั้นต้องไปยูเทิร์นไกลเลย
ถัดจาก Mansion 7 จะเป็น Centric ห้วยขวาง แล้วครับ
ขับรถมาจากฝั่งอโศก
ให้วิ่งเข้าถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาออกวิ่งไปทางลาดพร้าวครับ วิ่งฝ่ายแยกห้วยขวางไปเลย เพื่อไปกลับรถที่แยกสุธิสารครับ หลังจากกลับรถที่แยกสุธิสารแล้ว ให้วิ่งเผื่อชิดซ้ายมาเรื่อย ๆ โดยให้มองหา Mansion7 เอาไว้ครับ
สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นแมนชั่น 7 ให้ชิดซ้ายเลยครับ อย่าลอดอุโมงเด็ดขาด ไม่งั้นต้องไปยูเทิร์นไกลเลย
ถัดจาก Mansion 7 จะเป็น Centric ห้วยขวาง แล้วครับ
insight
เจาะลึกภาพรวมโครงการ Centric Huai Khwang Station
MASTER PLAN แปลนพื้นที่บริเวณชั้น G ในรูปตัว L ฝั่งซ้ายคือโซนทาวเวอร์ 31 ชั้น ติดถนนรัชดา
ประกอบไปด้วย Lobby และร้านค้าบริเวณชั้นล่าง 3 ยูนิตห้อง
ส่วนฝั่งขวาคือโซนโพเดียม 21 ชั้น ชั้นล่างถูกโอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวเล็กๆ รอบบริเวณโครงการ
และเป็นพื้นที่จอดรถภายในของอาคาร
ฟอร์มของอาคารถูกออกแบบให้อยู่ในรูปตัว L ลักษณะตัวอาคารเป็น 1 อาคารสูง จำนวน 31 ชั้น คุมบรรยากาศโทนสีในสไตล์ Earth Tone ในภายนอก แต่ภายในตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น อบอุ่น เรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งานตัวอาคารแบ่งระดับยูนิตการใช้งานออกเป็น 2 โซน ได้แก่โพเดียม 21 ชั้น และทาวเวอร์ 31 ชั้น หันหน้าโครงการตัวอาคารไปทางทิศตะวันตกติดกับถนนรัชดา ฝั่งด้านหลังอาคารจรดกับทางทิศตะวันออกติดกับอพาร์ทเมนต์ความสูง 10 ชั้น
Centric Huai Khwang Station มียูนิตห้องพักอาศัย 674 ห้อง และ 3 Shop ร้านค้าบริเวณชั้น G คิดรวมเป็น 677 ห้องจากจำนวนยูนิตทั้งหมด
เมื่อแรกพบต้องบอกก่อนว่าเป็นโครงการคอนโดที่มีขนาดกระทัดรัด เน้นใช้งานเป็นหลักจริงๆ ซึ่งโครงสร้างตัวอาคารถูกสร้างด้วยอิฐมวลเบาทั้งหมด โดดเด่นด้วยการดึงดูดสายตาจากการสลับช่องว่างไปมาระหว่างห้องและระหว่างชั้น ให้ดูมีความเคลื่อนไหว (หลายๆ ห้องจะไม่มีพื้นที่ระเบียงสำหรับใช้งาน เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่อันจำกัด) พร้อมคุมโทนสีในแบบ Earth Tone เรียบๆ ทึมๆ ทั้งนี้ด้วยจุดประสงค์เพื่อไม่ให้อาคารดูเก่าจนเกินไปเมื่อผ่านไปเป็นระยะเวลานานหลายปี อีกทั้งยังช่วยเสริมให้ภาพลักษณ์ของตัวอาคารให้ดูแข็งแกร่งมั่นคง มีระดับ และดูสบายตาในการอยู่อาศัย
การเล่นสลับสีสันบริเวณผนังอาคารด้านล่าง พื้นที่ของโครงการทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3.2 ไร่ มูลค่ารวมของโครงการ 2,600 ล้านบาท เจาะกลุ่มเป้าหมายประเภท High Class ที่มีกำลังซื้อสูง โครงการแห่งนี้ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Magic Movement โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการดีไซน์ระหว่างแสงและกาลเวลา เพื่อให้เกิดมุมมองใหม่ๆ จากเฉดสีที่ถูกตกแต่ง พร้อมสร้างสรรค์ลูกเล่นเท็กซ์เจอร์จากเงาของตัวอาคารให้เเมตช์ไปกับไลฟ์สไตล์อันไม่เคยหยุดนิ่งย่านรัชดาได้อย่างกลมกลืน
บริเวณหน้าทางเข้าสู่อาคารฝั่งโพเดียม จากลานจอดรถ ชั้น 3 ซึ่งสามารถทะลุเข้าสู่ตัวอาคารได้ 2 ทาง
ทางซ้ายสุดจะมีทางเดินและประตูบานเล็กๆ เพื่อเข้าสู่ฝั่งทาวเวอร์ ซึ่งใกล้กับห้อง Library Room
โครงการมีลิฟท์ทั้งหมด 6 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ลิฟเซอร์วิส 1 ตัว ลิฟต์ดับเพลิง 1 ตัว อัตราส่วน 168 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว ชั้น 1 - 21 = 3 ตัว (ฝั่งโพเดียม) ชั้น 1 - 31 = 2 ตัว (ฝั่งทาวเวอร์) ยูนิตพักอาศัยทั้งหมดจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ชั้นที่ 4 เป็นต้นไป โดยมีด้วยกันอยู่จำนวน 9 ห้อง จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนเป็น 42 ห้องตั้งแต่ชั้น 5 ไปจนถึงชั้นที่ 12
โดยตั้งแต่ชั้นที่ 20 เป็นต้นไป ในส่วนของฝั่งทาวเวอร์ ยูนิตจะเริ่มลดลงเรื่อยๆ เหลือเพียง 12 ห้อง ส่วนชั้น 24 - 25 จะเหลือประมาณ 8 ห้องต่อชั้น ส่วนชั้นที่มียูนิตพักอาศัยน้อยที่สุดก็คือชั้น 30 - 31 ที่มีเพียงชั้นละ 6 ห้องเท่านั้น ซึ่งข้อดีก็คือผู้อยู่อาศัยจะได้รับความเป็นส่วนตัวมากขึ้นจากเดิม บรรยากาศเงียบสงบและสามารถเปิดรับชมวิวอันสวยงามจากระดับชั้นที่สูงขึ้นไป
บริเวณ Single Corridor ซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ห้องที่อยู่บริเวณนี้ จะมีความเป็นส่วนตัวมาก เงียบสงบ แต่ราคาก็จะสูงเพิ่มขึ้นตามลักษณะการออกแบบและประเภทของห้อง
ทางเข้าสู่ลานจอดรถภายในอาคาร
ระดับความสูงของเพดานลานจอดรถอยู่ที่ 2.10 เมตร
เส้นทางวนรถรอบอาคารด้านข้าง และชั้นบนสุดที่เห็นเป็นแนวต้นไม้สีเขียวคือส่วนของโซนสระว่ายน้ำ สวนลอยฟ้าเล็กๆ และห้องออกกำลังกายบริเวณชั้น 5
บริเวณลานจอดรถภายในอาคารที่ดูกว้างขวาง พื้นที่โครงการถูกยกสูงขึ้นจากฟุตบาทริมถนน โดยเป็นการออกแบบไล่ระดับความสูงขึ้นไป เพื่อป้องกันปัญหาจากน้ำท่วมในอนาคต โดยรอบของตัวอาคารรายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวเล็กๆ โอบล้อมตลอดแนว
บริเวณทางเข้าถูกออกแบบให้รถสามารถเข้าออกอาคารแบบ One way วนขวาเพียงทางเดียว แต่ขนาดความกว้างของเส้นทางเดินรถก็ได้มาตรฐานไม่กว้างและไม่คับแคบจนเกินไป และในส่วนของพื้นที่จอดรถจะอยู่บริเวณชั้น 1 - 2 - 3 โดยสามารถรองรับจำนวนรถได้กว่า 287 คัน (แบบไม่จอดซ้อน) ลักษณะภาพรวมของภายนอกทั้งหมดจึงดูไม่คับแคบ ขนาดการใช้งานถูกออกแบบได้เหมาะสมกับพื้นที่สเปซอันจำกัดอย่างลงตัว
LOBBY ZONE
ออกแบบด้วยลักษณะห้องโถงกว้าง Double Floor ยกพื้นฝ้าเพดานสูงต่างระดับ พร้อมตกแต่งด้วยการใช้ไม้ประกบตามผนังในรูปแนวตั้ง เน้นระยะห่างช่องไฟ เพื่อสร้างความเคลื่อนไหวและมิติการมอง ในส่วนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ จัดวางโซฟาตัวใหญ่สำหรับรองรับแขกที่เข้ามาติดต่อ และโต๊ะหินอ่อนสีขาวขนาดกว้าง พร้อมของประดับตกแต่งแจกันเก๋ๆ สีโทนเย็นให้ดูสมูทไปกับบริบทโดยรอบ ผสมผสานไปกับแสงจากหลอดไฟสีส้ม เพื่อสร้างความอบอุ่นผ่อนคลายไปในตัว ทั้งนี้ที่นอกจจะให้ความเป็นโมเดิร์นจากการนำสายตาสู่จุดสนใจแล้ว ยังเพิ่มอรรถรสแห่งโสตประสาทด้วยเสียงดนตรีเบาๆ คลอเสริมสร้างบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายและนุ่มนวลมากขึ้นจากเดิม
บริเวณทางเข้าด้านหน้าฝั่งทาวเวอร์ชั้น G
Lobby ส่วนกลางสำหรับติดต่อ (ฝั่งทาวเวอร์)
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์โมเดิร์น พร้อมการคุมโทนบรรยากาศจากแสงให้ดูอบอุ่นเรียบง่ายสบายตา
MAILBOX ROOM
ถูกจัดแบ่งเป็น 2 โซน ระหว่างทางฝั่งทาวเวอร์กับฝั่งบริเวณโพเดียม ซึ่งดีไซน์ถูกออกแบบเป็นห้องขนาดกระทัดรัด ต่อเติมด้วยตู้ไม้ตามผนังห้อง ให้ความรู้สึกเหมือนผนังกล่องไม้หลากหลายร้อยชิ้นตั้งเรียงรายอยู่เบื้องหน้าดูแปลกตาไปอีกแบบ อีกทั้งยังใช้เทคนิคการซ่อนแอร์ในผนังให้ดูไม่เกะกะรกตาในทัศนียภาพการมองภาพรวมทั้งหมด
ช่องสำหรับใส่จดหมายติดต่อของลูกบ้าน
การติดตั้งบานกระจกเพื่อเปิดรับแสงจากธรรมชาติช่วยให้บรรยากาศภายในดูปลอดโปร่งไม่อุดอู้
LIBRARY ROOM
ห้องสมุดแห่งนี้ถูกวางแปลนไว้ที่ชั้น 3 ออกแบบด้วยการใช้วัสดุจากไม้ต่อเติมเป็นแนวผนังครึ่งวงกลมของห้อง พร้อมผนังกระจกด้านข้าง ที่เปิดโล่งเพื่อรับแสงอันนุ่มนวลในตอนกลางวัน ที่ห้องนี้จะมีกฎระเบียบเข้มงวดในเรื่องของความเงียบ เนื่องจากต้องการให้ลูกบ้านที่อยู่อาศัยได้นั่งอ่านหนังสือหรือนั่งพักผ่อนแบบสงบๆ ในช่วงเวลายามว่าง
ลักษณะการดีไซน์ที่เพิ่มลูกเล่นให้ดูสนุกจากการปีนบันไดไม้ขึ้นไปหยิบหนังสือ
โต๊ะและเก้าอี้สำหรับรองรับลูกบ้านที่เข้ามาใช้บริการภายใน
มุมสำหรับลูกบ้านที่ต้องการนั่งพิงหรือเหยียดตัวรีแล็กซ์ ก็สามารถทำได้ ณ พื้นที่เล็กๆ แห่งนี้
ชั้นวางต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นจากไม้ขัดเรียบ พร้อมของประดับเล็กๆ เพิ่มเติมลูกเล่นให้ดูไม่จืดชืดจนเกินไป
SWIMMING POOL & FITNESS
ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 ด้านหลังของอาคารฝั่งโพเดียม หันหน้าออกไปทางทิศตะวันออก ดีไซน์พื้นที่ให้ผสมผสานไปกับพื้นที่สีเขียวด้วยพรรณไม้ประดับประดาร้อมรอบโซนตลอดชั้น อำนวยความสะดวกด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ และห้องออกกำลังกาย พื้นที่ส่วนนี้จึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางที่ลูกบ้านมักจะมาใช้บริการอยู่ตลอดเวลา สำหรับลูกบ้านที่ห้องอยู่ใกล้บริเวณนี้ อาจจะขาดความเป็นส่วนตัวไปบ้างแต่ก็ไม่มากจนเกินไป
สระว่ายน้ำระบบเกลือ
ระดับความกว้างของสระอยู่ที่ 4*38 เมตร พื้นที่รอบสระมีพื้นที่นั่งเล่นริมสระน้ำและทางเดินเล็กๆ ไว้สัญจรไปมา
**บริเวณห้องที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปทางฝั่งโพเดียม จะสามารถเห็นภาพรวมมุมสูงของสระว่ายน้ำทั้งหมด
ห้องออกกำลังกายและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกจัดพร้อมสำหรับลูกบ้าน
รอบบริเวณห้องถูกติดตั้งด้วยบานกระจกเพื่อสร้างความปลอดโปร่งจากแสงธรรมชาติ
1 Bed Room 25.70 - 39.10 ตร.ม.
1 Bed Room ขนาดพื้นที่ 25.70 - 39.10 ตร.ม. เริ่ม 4,252,000 บาท
เมื่อเปิดเข้ามาชมห้องตัวอย่างภายใน รู้สึกได้ว่าพื้นที่ใช้สอยดูเรียบง่าย ขนาดห้องเหมาะสำหรับอยู่ 1 - 2 คน ลักษณะการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในดูเรียบหรู ระยะห่างระหว่างพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.6 เมตร พร้อมการแบ่งโซนพื้นที่ และออกแบบแปลนของห้องให้ไม่มีระเบียง เพื่อเน้นประโยชน์จากการใช้งานพื้นที่อันจำกัดเป็นหลัก
เฟอร์นิเจอร์ Built - in ถูกติดตั้งตามผนังห้อง อาทิ ตู้เก็บรองเท้า ชั้นวางของ และชั้นวางทีวี
แอร์จะถูกติดตั้งบริเวณผนังประตูห้อง โซน Living Area
ห้องครัวพร้อมโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง หากสังเกตุตรงบานหน้าต่างทางฝั่งขวาของภาพหลังบานหน้าต่างนั่นคือที่ซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์ และมีราวเหล็กสำหรับไว้ตากเสื้อผ้าได้
บรรยากาศภายในห้องนอน พร้อมม่านกรองแสง 2 ชั้น
เตียงและตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอนพร้อมบานกระจกสูง
ที่ว่างทางเดินรอบเตียงมีพื้นที่กว้างประมาณ 0.8 เมตร ด้านตรงข้ามเตียงมีปลั๊กไฟแบบสามตามาให้ และช่องเสียบสายเคเบิ้ล สามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนขนาด 42 นิ้วได้พอดี
หน้าต่างในห้องจะเป็นกระจกสูงมีประตูยกออกได้ ไม่มีระเบียงห้องนอน
พื้นที่ห้องน้ำแบ่งเป็นโซนเปียกและแห้งแยกจากกัน ห้องอาบน้ำจะซ่อนอยู่ทางซ้ายมือเมื่อเปิดประตูเข้าไป
สุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าใช้ของ Cotto ทั้งหมด
ช่องสำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ พร้อมบานประตูเปิดปิดที่สามารถกันความร้อนจากภายนอกนอกจากนั้นยังมีราวเหล็กสำหรับไว้แขวนตากเสื้อผ้าของลูกบ้านได้
2 Bed Room 47.50 - 59.10 ตร.ม.
2 BEDROOM ขนาดพื้นที่ 47.50 - 59.10 ตร.ม. เริ่ม 7,177,000 บาท
เข้ามาในห้องจะเจอกับโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งและมุมสำหรับนั่งเล่นดูทีวี ด้านขวามือจะเป็นห้องครัวและห้องนอน
โต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง ติดบริเวณหน้าประตูห้อง ออกแบบเป็นพื้นที่เปิดซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและโถงทางเชื่อมไปยังส่วนต่างๆ โดยตรง
Living Area พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built - in ชั้นวางไม้ โต๊ะไม้ ชั้นวางทีวี โซฟา พรม ตกแต่งคล้ายกับห้อง 1 Bedroom เกือบทั้งหมด แต่ดูมีสีสันและดูมีของประดับตกแต่งมากกว่า (เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดมาจาก Index แต่ทาง SC Asset เป็นฝ่ายกำหนดคอนเซ็ปต์ของการออกแบบ )
2 Bedroom จะมีพื้นที่ระเบียงภายนอกเล็กๆ ยื่นออกมาโดยสามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกไปใช้งานได้จากโซนห้องนั่งเล่น
ทางเชื่อมจากส่วนกลางไปยังโซนต่างๆ ซ้ายคือห้องครัวแบบปิด กั้นด้วยบานเลื่อนกระจก ห้องฝั่งขวาคือห้องน้ำ ส่วนห้องนอนจะอยู่ด้านบนสุด 2 ห้อง ด้านซ้ายบนสุดเป็น Master Bedroom และบนสุดเป็นห้องนอนขนาดเล็กเหมาะสำหรับไว้ต้อนรับแขกหรือทำเป็นห้องนอนเด็ก
Master Bedroom เตียงนอนขนาด 5 ฟุตพอดีกับพื้นที่ห้อง
ด้านข้างเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้าจะมีมุมลึกเข้าไปเป็นสัดส่วนสำหรับเลือกเสื้อผ้า มุมส่วนนี้สามารถติดกระจกเป็นมุมแต่งตัวได้ โดยมีปลั๊กไฟแบบสามตาไว้รองรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติม
ด้านข้างตู้เสื้อผ้าสามารถวางโต๊ะไว้สำหรับทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานเล็กๆได้
ห้องนอนอีกฝั่งซึ่งมีขนาดพื้นที่ไม่กว้างขวางมากเท่ากับ Master Bedroom หลักทางซ้ายมือ
ในส่วนของห้องนอนที่สองพื้นที่ค่อนข้างที่จะจำกัด สามารถวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุตได้ เหมาะสำหรับใช้เป็นห้องเด็ก
มุมมองจากฝั่งห้องนอน เมื่อมองไปยังโถงทางเชื่อมทางฝั่งห้องรับประทานอาหาร
Pantry มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ Built - in และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งตู้เย็น เครื่องซักผ้า เตาไมโครเวฟ และชั้นวางสำหรับเก็บอุปกรณ์เครื่องครัว (หลังประตูกระจกเล็กๆ ทางซ้ายมือสุดคือที่เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์)
ตู้ชั้นวางแบบ Build in มีประตูเปิดปิดสองช่องสามารถใส่ของที่ขนาดใหญ่ไม่มากนักได้
โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 คนถูกจัดไว้ที่ข้างนอกบริเวณประตูทางเข้าออก ข้างๆมุมนั่งเล่น
ห้องน้ำจะมีกระจกแบบเต็มบานมาให้ สุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าจะอยู่ส่วนเดียวกันทั้งหมด ก๊อกอ่างล้างหน้าแบบคันโยกขึ้น
สุขภัณฑ์และการแบ่งโซนเปียก - แห้ง ภายในห้องน้ำ (ห้องอาบน้ำถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาสู่บริเวณอ่างล้างมือที่เป็นโซนแห้ง)
DUPLEX 47.40 - 88.40 ตร.ม.
DUPLEX ขนาดพื้นที่ 47.40 - 88.40 ตร.ม. เริ่ม 8,709,000 บาท
สำหรับห้อง Duplex ตัวอย่างนี้ จะอยู่ระหว่างชั้นที่ 20 - 21 ฝั่งโพเดียม ประตูหน้าห้องหันไปทางฝั่งทิศตะวันออก ทางเดินบริเวณหน้าห้องจะเป็น Single Corridor ทางเดินยาว มีความเป็นส่วนตัวสูง ตัวห้องจะเชื่อมต่อกันเป็น 2 ชั้น สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ขนาดความสูงระหว่างพื้นและฝ้าเพดานอยู่ที่ 5.5 เมตร
Living Area ส่วนกลาง ชั้นที่ 20 พร้อมโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง และฝั่งห้องขวาคือห้องครัวใช้สำหรับทำครัวประกอบอาหาร
Living Area มุมกว้าง พร้อมบานกระจกเปิดรับแสงจากภายนอกลูกบ้านสามารถมองเห็นวิวจากฝั่งทิศตะวนตก ซึ่งติดกับทางฝั่งถนนรัชดาโดยตรง
ครัวที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built in และสิ่งอำนวยความสะดวกครบรูปแบบอาทิ ตู้เย็น เตาไฟฟ้า ไม่โครเวฟ อ่างล้างจาน และเครื่องซักผ้า
บันไดทางขึ้นสู่ชั้น 2 ของห้อง หรือชั้นที่ 21 ของอาคาร
Master Bedroom จะอยู่ที่ชั้น 2 ติดกับบานกระจกบริเวณฝั่งทิศตะวันตก
ทางเชื่อมจากห้องนอนไปยังส่วนต่างๆ ประตูทางซ้ายคือบันไดลงสู่ชั้นล่างและทางเดินขวาสามารถเปิดออกมาทะลุที่ชั้น 21 ได้ทันที
ประตูทางออกห้องชั้น 21 ตู้เสื้อผ้าฝั่งซ้าย ฝั่งขวาคือห้องน้ำ
สุขภัณฑ์อ่างล้างหน้า และห้องอาบน้ำที่ถูกกั้นโซนด้วยประตูบานเลื่อน
พื้นไม้ลามิเนตพร้อมพรมที่ถูกจัดแต่งเตรียมไว้
Environment
อย่างแรกเลยครับ ในตัวโครงการไม่มีร้านค้า ดังนั้นถ้าจะซื้อหาของใช้อะไร ต้องออกมาข้างนอก ดังนั้นเรื่องสิ่งแวดล้อมรอบโครงการจึงเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับสภาพแวดล้อมรอบ ๆ โครงการคงไม่ต้องบรรยายอะไรมากครับสำหรับ Centric ห้วยขวางสเตชั่น เพราะตั้งอยู่บนแแหล่งที่มีความเจริญและอุดมสมบูรณ์มากแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ทั้งยังรายล้อมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าใกล้ ๆ โครงการมีอะไรบ้าง
เริ่มกันที่ด้านหน้าโครงการ เป็นตลาดห้วยขวางเดินชิล ลักษณะเป็นตลาดนัดขายอาหารและของใช้ ซึ่งจะเปิดในตอนเย็นครับ
เดินจากตลาดนัดห้วยขวางเดินชิล จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีครับ ซึ่งที่ดังที่สุดจะเป็น Mansion 7 ข้างในเป็นร้านอาหาร ที่จัดบรรยากาศแบบสยองขวัญครับ เปิดตั้งแต่เที่ยงวัน - เที่ยงคืน
คราวนี้เรามาดูซอยที่ใกล้ที่สุด และน่าจะไปทางด้านหลังของตัวโครงการได้ นั่นก็คือซอยรัชดาภิเษก 14 กันดีกว่า
ต้นซอยจะมีร้านอาหารจีน และถัดเป็นเป็นศูนย์อาหารตามสั่งครับ ในซอยนี้จะมีหอพัก และอพาร์ทเม้นท์อยู่ค่อนข้างเยอะเลย
หน้าตาของศูนย์อาหารตามสั่ง ที่ติดกับร้านอาหารจีนครับ
7-11 ที่ใกล้ที่สุดสำหรับโครงการ Centric ห้วยขวาง อยู่ในซอยนี้ครับ สำหรับใครที่ชอบหิวตอนดึก ๆ สามารถเดินมาที่นี่ได้อย่างสบายใจเลยครับ เพราะมันติดกับ Mansion 7 ซึ่งปิดตอนเที่ยงคืน แถมในซอยนี้เต็มไปด้วยอพาร์ทเม้นท์ตอนกลางคืนมีเพื่อนเดินด้วยเยอะแน่นอนครับ
ถัดจาก 7-11 จะมีร้านยาครับ
จากนั้นเราเลี้ยวขวา เข้าไปด้านหลังของโครงการ _Centric ห้วยขวาง _กันครับ ด้านหลังจะมี You Mansion สูง 8 ชั้นตั้งอยู่ แลถ้าเดินต่อไป จะเป็นทางเข้าโชว์รูมฮอนด้าอีกทางหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าซอยนี้เป็นซอยตันครับ
ทีนี้เราวกกลับมาที่รถไฟฟ้าใต้ดินห้วยขวางประตู 1 ครับ ด้านหน้าตรงจะเป็น IDO รัชดา - ห้วยขวางครับ ซึ่งใต้ตึกจะมี MaxValue ซึ่งเปิดตลอด 24 ชม ใครที่ชอบซื้อของสดที่นี่น่าจะเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดในระยะเดินที่สามารถมาหาซื้อได้ครับ
สำหรับแหล่งที่คึกคักที่สุดของแยกห้วยขวาง คือ ถนนประชาสงเคราะห์ครับ ตรงนี้ในตอนกลางคืนจะเป็นแหล่งช็อปปิ้งทั้งของกินของใช้ และมีสถานบันเทิงหลายแห่งเปิดด้วย
ภาพบรรยากาศตอนโพล้เพล้ของถนนประชาสงเคราะห์
ร้านอาหารมีเยอะมากครับ เรียกได้ว่าถ้าจะทานให้ครบทุกร้านอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือน
Analysis
วิเคราะห์โครงการ Centric Huai Kwang Station
ทำเล : เซ็นทริก รัชดา-ห้วยขวาง หรือ Centric Huai kwang Station ตั้งอยู่ในย่านที่ไม่มีวันหลับของกรุงเทพมหานครครับ ในย่านนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่สำคัญ มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งแต่ street food จนไปถึงอาหารหรูของร้านอาหารระดับห้าดาว แถมเดินทางได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้าใต้ดิน และขนส่งสารธารณะต่าง ๆ
สภาพแวดล้อม : Centric ห้วยขวาง อยู่ในย่านที่คึกคักที่สุดของกรุงเทพมหานครครับ ในย่านนี้ไม่เคยหลับ ดังนั้นเรื่องเสียงอาจจะต้องทำใจ อาจจะไม่ใช่เสียงดังกระหึ่ม แต่เป็นเสียงรถ เสียงคนที่พึ่งเสร็จจากการเที่ยวราตรีครับ ย่านนี้ช่วงกลางคืนจะเจอชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน ฮองกง ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวครับ ในฝั่งที่เซ็นทริกตั้งอยู่จะไม่ใช่โซนที่เป็นสถานบันเทิงหนัก ๆ ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยมากกว่า ส่วน Mansion7 ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่ใช่แหล่งบันเทิงที่น่ากลัวอะไร ดังนั้นการเดินออกไปหาของกินในตอนกลางคืนจึงพอจะสบายใจได้ในระดับหนึ่งเลยครับ
แบบห้อง : สำหรับ 1 ห้องนอนอาจจะเป็นเรื่องน่าตกใจเลยครับ ตรงที่จะไม่ได้ใช้ระเบียง เนื่องจากระเบียงที่ได้มามีขนาดเล็กและใช้ในการวางคอมเพรสเซอร์แอร์โดยเฉพาะ เราไม่สามารถเดินออกไปได้ เราจะเห็นบางห้องมีการเอาผ้าไปแขวนตากกันอยู่บ้าง แต่ตรงนั้นก็ไม่ใช่ที่สำหรับตากผ้าโดยตรงครับ เครื่องอบผ้าจึงเป็นสิ่งที่ห้องแบบนี้ควรมีเอาไว้ สำหรับคนที่ชอบไปยืนรับลม ชมวิวยามค่ำคืนที่ระเบียง อาจจะต้องเลือกเป็นแบบ 2 ห้องนอนครับเพราะแบบ 2 ห้องนอนมีระเบียงมาให้
หลังจากที่ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ Centric Huai Khwang Station โดยรอบแล้ว ต้องขอชื่นชมและยกจุดเด่นให้กับเรื่องทำเลที่ตั้ง เป็นจุดแข็งที่โดดเด่นที่สุด ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถเดินทางไปมาได้สะดวกสบาย เนื่องจากอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT ห้วยขวางเพียง 120 เมตร เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้รถยนต์ในช่วงเวลาเร่งด่วน ชอบเดินทางสบายๆ ไม่ต้องมีภาระอะไรให้มากความ โดยส่วนตัวแล้ว ชื่นชอบคอนเซ็ปต์ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการเดินทางนี้มากที่สุด ( ให้ 9⁄10 คะแนน)
ในด้านของการดีไซน์ความสวยงามรูปลักษณ์อาคาร ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษหวือหวามากกว่าที่อื่นนัก เนื่องจากตัวอาคารเอง ก็ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานโดยเฉพาะ ทุกพื้นที่และทุกตารางเมตรภายใน จึงต้องสามารถประยุกต์ใช้งานให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพอย่างสูงสุด (เรื่องของการตัดระเบียงห้องออกไป โดยเฉพาะห้อง 1 Bedroom นี้ ต้องบอกเลยว่าส่วนตัวไม่ค่อยจะชอบใจสักเท่าไหร่ เพราะบางทีต้องการตากเสื้อผ้าเยอะๆ แต่ไม่มีพื้นที่รองรับการใช้งานได้เพียงพอ ก็ดูจะเป็นปัญหาได้เช่นเดียวกัน) (ให้ 7⁄10 คะแนน)
ความคุ้มค่าของวัสดุที่ใช้ด้านการตกแต่ง พร้อมการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ก็อยู่ในเกณฑ์ดี ได้มาตรฐาน มีความแข็งแรงทนทานตามที่ได้ไปลองสัมผัสดู (ให้ 8⁄10 คะแนน)
ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆ เท่าที่ได้เข้าไปชมก็จัดอยู่ในระดับเพียบพร้อมทุกสัดส่วน ทั้งห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ สวนลอยฟ้า ห้องสมุด พื้นที่จอดรถ ระบบรักษาความปลอดภัย แต่อาจจะมีที่แค่สัดส่วนบริเวณชั้น 5 ที่ดูจะแน่นจนเกินไป เนื่องจาก Facilities และยูนิตห้องพักต่างกระจุกรวมอยู่บริเวณชั้นนี้เยอะ จึงทำให้ดูอึดอัดและขาดความเป็นส่วนไปบ้าง (ให้ 7⁄10 คะแนน)
สุดท้ายความคุ้มค่าระหว่างราคากับโลเคชั่นบริเวณห้วยขวาง โดยส่วนตัวคิดว่ามีความสอดคล้องเหมาะสมกัน เนื่องจากกลุ่มเป้าหมาย High Class ย่อมมีความสามารถเพียงพอสำหรับจัดการกับอัตราการจ่ายของคอนโด ประเภท High Rise ได้อย่างไม่ขัดสน Centric Huai Khwang Station แบ่งระดับของยูนิตห้องและราคาเริ่มต้นไว้ตามตัวอย่าง 3 ระดับ ซึ่งในแต่ละขนาดห้องก็มีข้อดีในการเลือกใช้สอยพื้นที่แตกต่างกันตามแต่ผู้อยู่อาศัยจะเลือก จากการสัมภาษณ์กับทางเซลล์ดูแลโครงการ ทราบได้ว่าราคาต่อตารางเมตรภายในห้อง ณ ปัจจุบัน จะอยู่ที่ 120,000 - 140,000 บาท ต่อตารางเมตร ซึ่งถ้าให้เปรียบกับโลเคชั่นที่ใกล้กับรถไฟฟ้าเพียง 120 เมตรนี้ โดยส่วนตัวก็ถือว่าสมเหตุสมผลพอสมควรกับเรทราคา ทั้งนี้เพื่อแลกกับความสะดวกสบายและประหยัดเวลาจากการเดินทางช่วงวันทำงานได้มากขึ้น จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว (ให้ 8⁄10 คะแนน)