[Review] ขยายความสุขให้ชีวิตได้กว้างกว่าที่เคยกับ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) คอนโดใหม่ย่านบางนา พร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้!
ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
VDO Review
Review Info
อย่าให้ขอบเขตของความสุขกระจุกอยู่แค่ในห้องสี่เหลี่ยม ลองเปลี่ยนช่วงเวลาจำเจให้มีความสุขเพิ่มขึ้น ด้วยการเปิดประตูห้องให้กว้าง แล้วก้าวขาออกมาทำกิจกรรมดีๆ ในพื้นที่ที่เป็นของคุณกับ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) คอนโด High Rise จากบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ยังคง Concept การสร้างคอนโดให้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า
แต่คราวนี้ IDEO กลับมาพร้อมกับอีกหนึ่งความพิเศษ อย่างการเพิ่ม ‘ออกซิเจน’ (O2) ที่จะช่วยเติมเต็มพลังงานบวกให้กับการใช้ชีวิตของชาวคอนโด ด้วยพื้นที่ส่วนกลางในสไตล์ธรรมชาติที่รวมแล้วกว้างกว่า 10 ไร่ ให้ทุกกิจกรรมอยู่ใกล้พื้นที่สีเขียวแค่เอื้อม ในราคาเริ่มต้นที่ 2.39 ล้านบาท* สำหรับ 1 ห้องนอน
ถ้ายังไม่รู้ว่าคอนโดนี้ใช่สำหรับคุณหรือไม่? ตาม Estopolis ไปชมโครงการในบรรยากาศจริงกันเลยดีกว่า!
รายละเอียดของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
ชื่อโครงการ : IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
ที่ตั้ง : ถนนสรรพาวุธ
ขนาดพื้นที่ : 14-1-51.2 ไร่
ลักษณะอาคาร : อาคารพักอาศัยจำนวน 3 อาคาร สูง 33-34 ชั้น
จำนวนยูนิต : ห้องพักอาศัย 1,559 ยูนิต และร้านค้า 10 ยูนิต
จำนวนที่จอดรถ : คิดเป็น 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
รูปแบบห้อง :
- Studio พื้นที่ใช้สอย 26.20 ตารางเมตร
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 32.40 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 46.00 - 52.00 ตารางเมตร
กำหนดการแล้วเสร็จ : สร้างแล้วเสร็จ พร้อมเข้าอยู่
ราคาเริ่มต้น : 2.39 ล้านบาท*
ลงทะเบียน : สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษและข้อมูลอัพเดทก่อนใครได้ที่ https://www.ananda.co.th/th/condominium/ideo-o2
Insight
ถ้าความสุขสามารถหาได้รอบตัว แล้วทำไมเราจะต้องนั่งอยู่แต่ในห้องด้วยล่ะ?
วันนี้ Estopolis ขอแนะนำให้รู้จักกับโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) คอนโด High rise พร้อมอยู่ที่เรียกได้ว่าเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ อย่างคน GEN C ที่กำลังค้นหาโอกาสด้านการทำงาน และด้านการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ
ภายใต้โครงการขนาดใหญ่กว่า 14-1-51.2 ไร่ ช่วยเติมเต็มความสุขได้ในทุกวันด้วย Facilities ขนาดใหญ่ รายล้อม 3 อาคารสูง วางเรียงตัวกันตามแนวยาวของที่ดิน และถึงแม้โครงการจะมียูนิตเยอะ แต่จัดวางพื้นที่อย่างดี ทุกอาคารไม่มีการบดบังทัศนียภาพกันและกัน ส่วนรายละเอียดภายในโครงการจะมีอะไรและน่าอยู่ขนาดไหนนั้น ตามเราไปชมบรรยากาศจริงภายในคอนโดกันได้เลย
แผนผังอาคารของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
ก่อนจะเริ่มเข้าสู่ตัวโครงการกัน มาดู Master Plan กันสักนิด สำหรับแปลนที่ดินของโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จะวางตัวเป็นแนวลึกเข้าไปจากถนนสรรพาวุธ โดยอาคารที่อยู่ติดกับถนนจะเป็น อาคาร A ซึ่งบริเวณด้านหน้าอาคาร A จะเป็นส่วนของ Commercial มีร้านค้าให้เช่า ส่วนทางเดินรถจะอยู่ทางฝั่งขวาของอาคาร โดยแต่ละอาคารจะมีพื้นที่จอดรถแยกให้เป็นสัดส่วน เพื่อความสะดวกของผู้พักอาศัย
ถัดจากอาคาร A เข้าไปจะเจอพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่โอบล้อมรอบอาคาร B และ C ซึ่งเป็นสองอาคารที่อยู่ติดกัน แต่มีการแยกส่วนของ Tower ออกจากกันชัดเจน
แผนผังอาคาร A ของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
อาคาร A สูง 34 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 424 ยูนิต (แบ่งเป็นห้อง 419 ยูนิตและร้านค้า 9 ยูนิต) ด้านล่างบริเวณชั้น G จะรายล้อมไปด้วยสวนหย่อมที่ช่วยสร้างบรรยากาศอันสดชื่นให้กับคนอยู่อาศัย มีร้านค้าให้เช่า (Commercial Unit) ถัดเข้าไปจะเป็นตัวอาคารด้านในที่มี Lobby, Mailbox Area และโถงลิฟต์ตั้งอยู่ ทั้งหมดเป็นระบบ Keycard Access แบบล็อกชั้นเพื่อความปลอดภัยในการขึ้น-ลงอาคาร
เมื่อขึ้นมาบนชั้น 2 จะเป็นส่วน Facilities หลักของอาคาร A ประกอบไปด้วยห้องนิติบุคคล, ห้องฟิตเนส พร้อมห้องน้ำ-ล็อกเกอร์ แยกชาย-หญิง
สำหรับชั้น 3-5 จะเป็นพื้นที่จอดรถของอาคาร A ซึ่งถ้าคิดรวมๆ แล้ว พื้นที่จอดรถของโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ถือว่าให้ตามมาตรฐานทั่วไปของโครงการใกล้รถไฟฟ้า และหลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว เรายังสามารถขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นตรงไปยังห้องพักได้เลย
ชั้นพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 6-34 โดยแปลนส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆ กันและหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ โดยเฉลี่ยแล้วต่อชั้นจะตกอยู่ที่ประมาณ 15 ยูนิต/ชั้น
แผนผังอาคาร B และ C ของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
ด้านอาคาร B และ C จะอยู่ติดกัน บริเวณชั้น 1-5 จะสามารถเชื่อมถึงกันได้ แล้วค่อยแยก Tower B และ C ออกจากันในชั้นที่ 6 เป็นต้นไป โดย 'อาคาร B' จะสูง 34 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 580 ยูนิต (แบ่งเป็นห้องพัก 579 ยูนิต และร้านค้าอีก 1 ยูนิต) ส่วน 'อาคาร C' จะสูง 33 ชั้น และมีจำนวนห้องพักรวม 561 ยูนิต ด้านหน้าอาคารเป็นพื้นที่ส่วนกลางและมี Facilities หลักกระจายตัวอยู่บริเวณใต้อาคารด้วย
สำหรับแผนผังของอาคาร B ส่วนมุมของอาคารจะวางห้อง 2 ห้องนอน มีห้อง Studio และแบบ 1 ห้องนอนอยู่ตรงกลาง เฉลี่ยต่อชั้นแล้วจะมีจำนวนยูนิตประมาณชั้นละ 19 ยูนิต ส่วนโถงลิฟต์จะอยู่ตรงกลางอาคาร เพื่อความสะดวกในการเข้าใช้งานของผู้พักอาศัยทั้งสองฝั่ง
มาถึงอาคาร C จะเป็นอาคารที่มีจำนวนยูนิตต่อชั้นมากที่สุด อยู่ที่ชั้นละประมาณ 21 ยูนิต โดยตัวอาคารจะวางตัวเป็นแนวยาว และวางผังให้ห้องแบบ 2 ห้องนอนเป็นห้องมุมที่ได้ทั้งวิวฝั่งทิศตะวันตกและทิศใต้
ชมภาพบรรยากาศจริงของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
เริ่มต้นสำรวจโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) กันที่อาคาร A ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่หน้าสุดติดกับถนนสรรพาวุธ ซึ่งแค่เราเห็นตัวอาคารก็สัมผัสได้ถึงความเขียวชอุ่มของธรรมชาติที่ทางโครงการตั้งใจจัดไว้ให้
ถัดมาติดกับอาคาร A จะเป็นส่วนของสำนักงานขาย (Sales Gallery) และ Commercial มีร้านค้าให้เช่าอยู่บริเวณด้านหน้า
สำหรับทางเดินรถเข้าสู่ตัวโครงการจะอยู่ด้านข้างอาคาร A โดยบริเวณนี้จะมีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งกล้อง CCTV และรปภ. คอยตรวจตราและดูแลความปลอดภัยให้ตลอดเวลา ซึ่งในอนาคตการเข้า-ออกโครงการนั้น จะใช้เป็นรั้วไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ คู่กับระบบ Keycard Access เพิ่มเติมด้วย
และหมดกังวลเรื่องเดินไกล เพราะทางคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) แบ่งพื้นที่จอดรถไว้ที่อาคาร A, B และ C ให้เรียบร้อย โดยจำกัดความสูงของรถยนต์อยู่ที่ 2.10 เมตร ด้านในแบ่งช่องจอดรถไว้เป็นระเบียบ พื้นลานจอดเป็นพื้นปูนขัดมัน ซึ่งทั้งโครงการจะสามารถจอดรวมกันได้ประมาณ 40 % ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน
เข้ามาภายในอาคาร A จุดแรกจะเป็นพื้นที่ต้อนรับอย่างโถง Lobby ขนาดใหญ่ ใครที่มีเพื่อนหรือแขกมาหาบ่อยๆ ก็สามารถให้มานั่งรอกันบริเวณนี้ก่อนได้
ถัดเข้ามาอีกหน่อยจะเป็น Mailbox Area ของโครงการที่จัดแยกจดหมายให้ตามเลขห้องเรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีรถเข็นของและวีลแชร์เตรียมไว้ให้เพื่อความสะดวกในด้านต่างๆ
สำหรับโถงลิฟต์ของแต่ละอาคารจะตั้งอยู่ประมาณช่วงกลางของอาคาร เพื่อให้ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย โดยลิฟต์ทุกตัวจะต้องใช้ Keycard Access ในการขึ้น-ลงเพื่อความปลอดภัย
บนชั้น 2 ของอาคาร A จะเป็นส่วน Facilities โดยเริ่มจากห้องฟิตเนสที่ต้องใช้ Keycard ในการเข้าใช้งานทุกครั้ง
ให้เราเต็มอิ่มกับการออกกำลังกายด้วยเครื่องออกกำลังกายที่ทาง IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) เตรียมไว้ให้เล่นเรียกเหงื่อกันแบบครบเครื่อง พร้อมจัดโซนเวทเทรนนิ่งไว้เรียบร้อย แถมเรายังสามารถมองออกไปชมวิวของสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านหลังอาคาร A ได้ด้วย
หลังจากออกกำลังกายกันมาอย่างหนัก ใกล้ๆ กันจะมีห้องน้ำให้เราอาบน้ำได้ทันที โดยทางโครงการจะแยกชาย-หญิงให้เพื่อความปลอดภัย
จากโซนฟิตเนสชั้น 2 ไป เราสามารถเดินลงบันไดเพื่อไปยังโซนสระว่ายน้ำได้ โดยสระว่ายน้ำของโครงการจะเป็นรูปทรงแบบ Free Form ระบบน้ำเกลือ ความยาวรวม 200 เมตร พร้อมแบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ให้ลงเล่นกันได้ทั้งครอบครัว
ส่วนสาวๆ คนไหนที่กลัวร้อน กลัวแดดจะทำให้ผิวเสีย ทางโครงการก็มีโซนนั่งเล่นริมสระแบบ Semi-Outdoor ให้นั่งอ่านหนังสือชิลล์ๆ ได้ด้วย
และแล้วมาถึงส่วนของอาคาร B และ C ของโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) กันบ้าง ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความสงบและเป็นส่วนตัว รวมถึงรายล้อมด้วย Facilities ขนาดใหญ่ ทั้งส่วน Indoor และ Outdoor ให้เราทำกิจกรรมกันมากมาย เรียกได้ว่าช่วยขยายพื้นที่การอยู่อาศัยให้ชาวคอนโดมีอะไรทำได้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
เริ่มกันที่สระว่ายน้ำระบบเกลือ รูปทรง Free Form ลดเลี้ยวแนวยาวตามอาคาร B
ข้างสระมีที่นั่งเล่นแบบ Pool Deck ให้อยู่บริเวณริมสระ รวมถึงที่นั่งหลบร้อนรับลมเย็นอย่าง Semi-Outdoor เช่นเดียวกับสระของอาคาร A
ส่วนมุมนั่งเล่นของโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) มีให้เลือกเยอะมากทั้งแบบ Indoor และ Outdoor แต่ถ้าใครอยากจะลองนั่งเล่นบนพื้นที่ Semi-Outdoor แบบกึ่งเปิด-กึ่งปิด ที่นี่เขาก็จัดให้เป็นชุดโซฟายาวตลอดเเนว เปิดโล่งทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก สร้างความปลอดโปร่ง โล่งสมองแก่ผู้ที่มานั่งพัก
แต่ถ้าถึงเวลาที่ต้องจริงจังกับการทำงานทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จึงไม่พลาดจัดห้อง Meeting Room ไว้ให้เหล่าคนทำงานได้เข้ามานั่งแชร์ไอเดียกันได้แบบเป็นส่วนตัว ซึ่งต้องทำการจองก่อนการใช้บริการกับนิติบุคคล
หรือถ้าจะเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเงียบๆ แบบเป็นส่วนตัวกันใน Co-Working Space ที่ประกอบไปด้วยมุมนั่งเล่นแบบอเนกประสงค์ พร้อมบริการ Wi-fi ฟรี และพื้นที่ห้องประชุมที่สามารถจุคนได้มากถึง 20 คน ซึ่งห้องประชุมสามารถทำการจองล่วงหน้ากับทางนิติบุคคลได้เลย
หากเราเครียดกับการทำงานมากเกินไปคงไม่ดีแน่ๆ วันไหนว่างๆ ก็ลองชวนเพื่อน หรือคนในครอบครัวมาสนุกกันที่ห้อง Social Club ซึ่งคุณผู้ชายน่าจะถูกใจเป็นพิเศษ เพราะมีทั้งโต๊ะสนุ๊ก และโต๊ะโกล์ให้ประลองฝีมือกันแก้เครียด
สำหรับใครที่อาศัยอยู่อาคาร B และ แล้วอยากออกกำลังกายก็ไม่ต้องเดินไปใช้บริการฟิตเนสไกลถึงอาคาร A เพราะใต้อาคาร C จะมีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องเล่นกว่า 20 เครื่องไว้คอยรองรับลูกบ้านที่รักการออกกำลังกาย
อุปกรณ์ในการออกกำลังกายก็จัดมาให้ครบ วางแบ่งออกเป็นสองฝั่ง โดยพวกลู่วิ่งต่างๆ จะหันหน้าออกไปยังผนังกระจกใสให้เราออกกำลังกายไป ดูวิวสระว่ายน้ำไปเพลินๆ
ขึ้นมาบนลานจอดรถของอาคาร B และ C ซึ่งจะจอดได้ตั้งแต่ชั้น 2-5 โดยลานจอดรถของทั้งสองอาคารจะเชื่อมต่อถึงกัน แล้วไปแยกเป็นส่วนของที่พักกันอีกทีในชั้น 6
และแล้วก็มาถึงฝั่งอาคาร C กันบ้าง โดยด้านหน้าอาคารจะออกแบบให้เป็นส่วนของสระว่ายน้ำเช่นเคย แล้วจึงรายล้อมด้วยสวนสีเขียว เมื่อมองจากบนอาคารก็รู้สึกได้ถึงความสดชื่น จนอยากลุกออกไปทำกิจกรรมต่างๆ มากกว่านั่งเล่นอยู่ในห้องเพียงอย่างเดียว
ริมสุดของสระจะเป็นบริเวณของสระเด็ก ซึ่งด้านบนมีการดีไซน์ให้ Extreme Bike Track ยื่นออกมาให้ร่มเงา ดูแล้วก็เป็นงานดีไซน์ที่สวยงาม แถมด้วยฟังก์ชั่น โดยสามารถบังแดดให้เด็กๆ ที่ลงมาเล่นน้ำในช่วงเวลากลางวันได้อีกด้วย
ด้านล่างของอาคารมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้บริการ โดยด้านในจะประกอบด้วยห้องน้ำและห้องอาบน้ำ เพื่อใช้หลังจากออกกำลังกายเสร็จ
นอกจากนี้ก็ยังมีล็อกเกอร์ให้เก็บของ รวมถึงห้องซาวน่าแยกชาย-หญิงให้ใช้งานอีกด้วย
มุมนี้นับว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของโครงการ สำหรับคนที่ชอบความผาดโผนเล็กน้อย สนุกกันต่อแบบชิลล์ๆ ด้วยการปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติบน Extreme Bike Track ซึ่งออกแบบโดย Peppermint Bike Park เรียกว่า ตั้งใจออกแบบมาเพื่อเป็นไฮไลท์ของโครงการอย่างแท้จริง
สำหรับคุณพ่อ-คุณแม่คงจะอยากได้พื้นที่ไว้ให้ลูกน้อยออกมาเล่นด้วยกัน ทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จึงสร้างสนามเด็กเล่นไว้ในโครงการ เรียกว่าตอบโจทย์คนทุกเพศ ทุกวัย เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยกันแบบครอบครัวเลยทีเดียว
ใครที่เป็นคอฟุตซอลไม่ควรพลาดกับ สนามฟุตซอลมาตรฐานกลางแจ้ง ที่ทางโครงการจัดไว้ให้ลูกบ้านมาท้าดวลแข้งกันทุกช่วงวันหยุด ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการที่เราไม่ค่อยพบเห็นในโครงการอื่นๆ
ในเมื่อคุณพ่อบ้านมีพื้นที่สำหรับดวลแข้งแล้ว คุณแม่บ้านเองก็มีเครื่องออกกำลังกายแบบกลางแจ้งไว้ให้ขยับร่างกายกันระหว่างเชียร์ฟุตซอลข้างสนาม
การจะหาสนามเล่นสเก็ตบอร์คงไม่ใช่เรื่องง่าย อีกหนึ่งอย่างที่แตกต่างจากโครงการอื่น ทาง IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จึงยกลานสเก็ตบอร์ดมาไว้ในโครงการซะเลย โดยตัวลานก็ขนาดใหญ่พอให้ชวนชาวแก๊งค์มาเล่นกันได้สบายๆ
ติดกับลานสเก็ตบอร์ดเป็นประตูทางออกด้านหลังของโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) โดยจะเป็นทางเดินเลียบคลองบางนา ออกไปยัง BTS สถานีบางนา ได้ ซึ่งหากนับจากระยะทางแล้ว จะใกล้กับสถานีบางนามากกว่า ทำให้คนที่ใช้ BTS หลายคนเลือกเส้นทางนี้ในการเดินทางออกไปทำงานกันบ่อยๆ
กลับมาต่อกันบนอาคาร B และ C ที่ด้านบนชั้น 6 นั้นจะออกแบบพื้นที่มาให้เป็นจุดชมวิว พร้อมตกแต่งเป็นสวนหย่อมสวยๆ ให้ลูกบ้านชั้นนี้ได้เพลิดเพลินและใกล้ชิดไปกับบรรยากาศของธรรมชาติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี Pocket Garden เปิดออกไปรับลมชมวิวมุมสูงกันได้ในบางชั้นอีกด้วย
มองเลยออกไปจะเห็นไกลถึง BTS สถานีบางนาเลยทีเดียว
แบบห้องของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
Studio พื้นที่ใช้สอย 26.20 ตารางเมตร ซึ่งเป็นแบบห้องที่เหมาะสำหรับการอยู่คนเดียว แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการ Space ของการอยู่อาศัยที่เชื่อมต่อถึงกัน โดยทางโครงการจะมีให้เลือกหลายขนาด และแบ่งเลย์เอาท์ไว้ค่อนข้างแตกต่าง เพื่อรองรับการใช้งานหลากสไตล์
และที่พิเศษสุดคือ ห้อง Studio ของที่นี่จะทำครัวระบบปิดมาให้ เพื่อให้เหมาะกับการประกอบอาหารมากขึ้นอีกด้วย
แบบห้อง 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 46.00 - 52.00 ตารางเมตร เริ่มขยับเข้าใกล้พื้นที่ของครอบครัวมากขึ้นด้วยห้องขนาดใหญ่ แบ่งเป็น Type C ที่ออกแบบเป็นห้องพักอาศัยแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
และ Type D ที่ออกแบบมาให้เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จัดเลย์เอาท์ห้องให้เป็นแบบหน้ากว้าง เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว ให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากขึ้น
1 BR 32.40 SQ.M.
เริ่มต้นการอยู่อาศัยที่ลงตัวด้วยแปลนห้องแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยขนาด 32.40 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ หรือคนวัยทำงานที่ต้องการห้องขนาดไม่กว้างมากนัก ดูแลง่าย แถมได้ฟังก์ชันที่เป็นสัดส่วน
*โดยทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จะขายทุกห้องเป็นแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่
เริ่มสำรวจห้องกันตั้งแต่หน้าประตู โดยประตูห้องของทุกยูนิตจะเป็นแบบบานสำเร็จรูป โครง Hollow Core ติดตั้งมือจับแบบก้านโยกและตาแมวเพื่อความปลอดภัย พร้อมตัวล็อกแบบกุญแจ โดยสิ่งสำคัญที่ทุกห้องจะได้รับเหมือนๆ กันคือ การติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung มาช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับการพักอาศัย
เปิดประตูพบกับความสวยของห้องตัวอย่าง ความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.5 เมตร โดยเราจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นก่อนเป็นอันดับแรก มีห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ เมื่อมองตรงไปจะเป็นห้องครัวที่เชื่อมออกไปยังระเบียงได้ และที่ติดกับห้องครัวก็จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนตามลำดับ
โดยทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จะแถมเครื่องปรับอากาศให้ทั้งหมด 2 เครื่อง ติดตั้งไว้ให้ตรงห้องนั่งเล่นและในห้องนอน
เงยหน้ามองขึ้นไปตรงเพดาน จะเจอการติดตั้งสปริงเกอร์และเครื่องตรวจจับควันไฟ ส่วนไฟที่ใช้ภายในห้องจะเป็นไฟดาวน์ไลท์สี Warm White ตามภาพ
จัดสรรพื้นที่นั่งเล่นไว้อย่างลงตัวด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์สำหรับการพักผ่อน อย่างโซฟาขนาด 2 ที่นั่งสีเทาเข้าคู่กันดีกับโต๊ะ Coffee table ขนาดกระทัดรัด ที่ออกแบบให้ด้านล่างสามารถใช้เก็บนิตยสารเล่มโปรดได้
เพิ่มความสุขให้วันพักผ่อนด้วยชั้นวางทีวีแบบ Built-in บริเวณด้านล่างสามารถเก็บของได้เยอะ ส่วนด้านหลังก็มีการติดตั้งปลั๊กไฟและช่องเสียบสายเคเบิลไว้ให้เราเชื่อมต่อกับทีวีได้ทันที ซึ่งเราสามารถซื้อทีวีจอใหญ่มาใช้ได้เลย เพราะมีระยะห่างจากชั้นถึงโซฟาค่อนข้างกว้าง รับรองว่าต้องถูกใจคอหนัง สาวกซีรีส์อย่างแน่นอน
ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนของห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำจะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 30x30 ซม. มีลวดลายเป็นช่องตารางเล็กๆ ส่วนผนังจะปูด้วยกระเบื้องสีขาวขนาด 30x30 ซม. ทำให้ห้องน้ำของเราดูสว่างและสะอาดตา พร้อมแบ่งโซนแห้งและเปียกให้เรียบร้อย เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
มุมอ่างล้างหน้ามาพร้อมกับกระจกบานใหญ่กว้างเต็มผนัง ส่องแล้วเห็นได้ถึงครึ่งตัว
อ่างล้างหน้าที่ทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ให้จะเป็นของแบรนด์ American Standard ติดตั้งแบบแขวนผนังพร้อมก๊อกน้ำจากยี่ห้อเดียวกัน
ส่วนข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ สามารถนำมาเก็บไว้ที่เคาน์เตอร์ด้านล่างอ่างได้
พอเงยหน้าขึ้นมองด้านบน จะเห็นว่าทางโครงการได้ติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย จึงหมดกังวลเรื่องกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
สำหรับโถสุขภัณฑ์ก็เป็นของ American Standard เช่นเดียวกัน โดยข้างๆ โถจะทำการติดตั้งสายฉีดชำระพร้อมที่ใส่กระดาษทิชชู่มาให้ครบ
ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่โซนเปียกที่ทาง IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ได้ติดตั้ง Shower Box แบบประตูบานผลักมาให้ บริเวณพื้นด้านหน้าประตูจะยกธรณีสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนออกมาด้านนอก ส่วนฝักบัวที่ได้จะเป็นแบบ Hand Shower ของ American Standard
กลับออกมาด้านนอกกันอีกรอบ เพื่อเข้าสู่ส่วนพิเศษของห้องนั่นก็คือ โซนครัวที่ทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ออกแบบมาให้รองรับการทำอาหารมากขึ้นด้วยการกั้น Partition แบบประตูบานเลื่อน
ตัวประตูจะเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ห้องของเรายังคงดูสว่างและปลอดโปร่ง แม้จะกั้นห้องแล้วก็ตาม นอกจากนี้ทางโครงการยังเลือกใช้การติดตั้งแบบรางคู่เพื่อความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน
ตัวกรอบประตูจะเป็นอลูมิเนียมสีดำ มือจับเป็นแบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อก ส่วนพื้นครัวจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 30x30 ซม. แทนพื้นไม้ลามิเนต เพื่อให้ง่ายต่อการเช็ดล้างทำความสะอาด
ใครที่ชอบทำครัวคงถูกใจกับห้อง Type นี้ไม่น้อย เพราะจากที่ดูแล้วครัวค่อนข้างมีขนาดกว้างขวางพอดีกับการอยู่อาศัย สามารถยืนประกอบอาหารได้สบายๆ โดยเว้นทางเดินตรงกลางระหว่างเคาน์เตอร์ครัวกับโต๊ะรับประทานอาหารไว้ประมาณ 90 ซม. ให้เราเดินไปยังระเบียงที่อยู่ติดกันได้สะดวก
นอกจากนี้ยังเว้นพื้นที่ด้านข้างเคาน์เตอร์ให้วางตู้เย็นได้อีกด้วย โดยขนาดตู้เย็นที่เหมาะกับครัว Type นี้จะอยู่ที่ประมาณ 11.3 คิวบิกฟุต
เคาน์เตอร์ครัวที่ทาง IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ให้ จะเป็นครัวบิลท์อิน (Built-in) ที่แยกส่วนเป็นชั้นลอยกับส่วนประกอบอาหารชัดเจน โดยด้านหลังเคาน์เตอร์จะกรุกระเบื้องทำเป็น Back splash ไว้ป้องกันการเกิดคราบสกปรกจากการประกอบอาหารให้ด้วย
สำหรับชั้นลอยด้านบนจะประกอบด้วยชั้นวางของ แบ่งการใช้งานเป็นตู้แบบบานเปิดเดี่ยวที่ปิดหน้าบานด้วยลามิเนตลายไม้สีมาตรฐาน พร้อมจุดวางไมโครเวฟในตัว
Top ครัวจะใช้เป็น Particle เคลือบเมลามีนสีเทา มีพื้นที่ประกอบอาหารให้ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยอ่างล้างจานแบบหลุมเดี่ยวพร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยก และเตาไฟฟ้าขนาด 2 หัวมาคู่กับเครื่องดูดควันแบบปล่อยนอกอาคารจากแบรนด์ MEX นอกจากนี้ยังมีตู้เก็บของเพิ่มเติมให้อีกบริเวณด้านล่าง พร้อมช่องวางเครื่องซักผ้าเเบบฝาหน้า
และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องครัว ทางโครงการจะมีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม รวมถึงถังขยะตรงตู้ใต้อ่างล้างจาน ช่วยประหยัดพื้นที่และดูสวยงามไปพร้อมๆ กัน
ประกอบอาหารกันเสร็จแล้ว ก็ถึงคราวจัดปาร์ตี้เพื่อมอบความสุขให้กับตัวเองและคนที่เรารัก ด้วยชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งที่ทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จัดเตรียมไว้ให้
ถัดไปเป็นส่วนของระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกแบบ 2 ตอน บานกระจกแบบสีเขียวตัดแสง เวลาอยู่ในห้องจึงแทบไม่รู้สึกถึงความร้อนหรือแสงจากด้านนอกเลย
ส่วนกรอบจะเป็นอลูมิเนียมทำสี ด้ามจับเเบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อก ตรงพื้นระเบียงมีการลดระดับลง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนหรือสิ่งสกปรกเข้ามายังห้อง ส่วนพื้นด้านนอกระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30x30 ซม.
คอมเพรสเซอร์แอร์หันหน้าเข้าหาระเบียงตามภาพ แต่ไม่ถึงกับทำให้ระเบียงร้อนเกินไป เหมาะสำหรับคุณแม่บ้านที่ต้องซักผ้าบ่อยๆ หากตากผ้าทิ้งไว้รับรองว่าแห้งไวเเน่นอน
เข้ามายังส่วนสุดท้ายนั่นก็คือ “ห้องนอน” ที่แยกไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน ดูแล้วให้ความเป็นส่วนตัวดีเหมาะสำหรับการพักผ่อน โดยทางโครงการจะแถมฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ซึ่งเป็นขนาดเตียงที่พอเหมาะกับ Space ของห้อง สังเกตได้จากบริเวณปลายเตียงที่เหลือทางให้เดิน และติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังได้สะดวก ส่วนตรงฐานเตียงจะมีลิ้นชักซ่อนไว้ให้เราเก็บของเพิ่มเติมได้โดยไม่ได้เกะกะพื้นที่
พื้นที่ข้างเตียงจัดเป็นโซนโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกะทัดรัด โดยทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ได้ให้กระจกทรงสูงพร้อม Built-in เคาน์เตอร์มาให้เรียบร้อย
หันกลับมาอีกฝั่งจะเจอประตูทางเข้าห้องนอน ซึ่งทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้ 1 ตัว พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ครบ
2 BR 46.20 SQ.M.
เพิ่มความสุขให้มากขึ้นอีกขั้นด้วยฟังก์ชั่นของห้องพักอาศัยแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใข้สอยขนาด 46.20 ตารางเมตร ที่แบ่งสัดส่วนให้เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว มีการจัดวางพื้นที่ให้สอดรับกับการใช้ชีวิตร่วมกันในห้องนั่งเล่นและห้องครัว โดยไม่ลืมให้ความเป็นส่วนตัวยามเราเข้าสู่ห้องนอน พร้อมแยกห้องน้ำออกมาด้านนอกเพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อน
เมื่อเปิดประตูเข้าห้องพัก เราจะได้พบกับโซนรับประทานอาหาร ,ห้องนั่งเล่น เรื่อยไปจนถึงระเบียง ซึ่งถือเป็นพื้นที่ส่วนรวมที่ทุกคนใช้ร่วมกัน แล้วค่อยแยกส่วนของห้องน้ำกับห้องครัวที่เป็นงานระบบออกมาไว้ทางด้านขวา ก่อนจะจัดห้องนอนทั้งสองให้อยู่ด้วยกันทางซ้ายมือ เพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น
ส่วนแรกเราจะได้พบกับพื้นที่ความสุขของการใช้ชีวิตร่วมกันอย่าง “มุมทานอาหาร” ที่จัดพื้นที่ไว้พอดีสำหรับ 4 คน ให้เราใช้เวลาร่วมกันได้สบายๆ
ภายในบริเวณเดียวกันจะมีพื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่าง “ห้องนั่งเล่น” ที่เชื่อมติดกับระเบียง ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งจากแสงที่สาดส่องเข้ามา ช่วยประหยัดไฟและสร้างบรรยากาศให้ห้องน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
ถัดจากโซนพักผ่อนมาจะเป็นส่วนของงานระบบอย่าง “ห้องน้ำและห้องครัว” ที่ทาง IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) แยกออกมาให้อยู่บริเวณเดียวกัน เพื่อที่เราจะได้ดูแลและจัดการความเรียบร้อยได้สะดวก
เมื่อผ่านประตูเข้ามา ทางซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของเคาน์เตอร์ครัว ที่บิลท์อินชั้นวางของไว้ให้เรียบร้อย พร้อมพื้นที่ให้เราสามารถเคลื่อนย้ายและขยับตัวได้สะดวก
ภายในห้องน้ำจะทำการติดกระจกบานใหญ่ให้ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างมิติให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณสำรวจความเรียบร้อยได้ง่ายขึ้น พร้อมแยกพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งเรียบร้อย ทำให้การดูแลทำความสะอาดง่ายดายมากขึ้น
ถัดไปยังฝั่งตรงข้ามจะเป็นโซนของการพักผ่อนที่เป็นหัวใจหลักของห้องอย่าง “ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง” ที่ถูกจัดวางพื้นที่ให้สามารถรับแสงจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ด้วยตำแหน่งที่อยู่ตรงมุมอาคารพอดิบพอดี
เปิดประตูเข้าสู่ “ห้องนอนหลัก” พื้นที่ของการพักผ่อนที่ใหญ่ที่สุด พร้อมเปิดรับแสงจากด้านนอกอาคาร ช่วยให้ห้องนอนของเรานั้นดูโปร่งโล่งและสว่างมากขึ้น แต่สำหรับใครที่ต้องการพักผ่อนในที่ๆ มืดขึ้นมาหน่อย แนะนำให้ติดผ้าม่านแบบป้องกันยูวี จะมีความหนาและป้องกันแสงได้ดีกว่า
นอกจากนี้โครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ยังสร้างพื้นที่ให้รับวิวได้มากกว่าด้วยช่องแสงแบบเข้ามุม ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความสุข สร้างความผ่อนคลายไปกับการมองวิวที่มากกว่า 180 องศา
เมื่อหันไปมองอีกฝั่งเตียงจะเป็นพื้นที่สำหรับการแต่งตัว ที่ทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ได้ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้ง ทำให้คุณสามารถแต่งตัว แต่งหน้า ได้อย่างสะดวก
มาถึงห้องสุดท้ายของการพักผ่อนในห้อง Type นี้ อย่าง “ห้องนอนเล็ก” ที่จัดเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบครันไม่แพ้ห้องนอนใหญ่ มีความเป็นส่วนตัวเหมาะสำหรับการพักผ่อนคนเดียว
Studio 26.20 SQ.M.
ปิดท้ายด้วยห้องตัวอย่างแบบ Studio ที่แม้จะมีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็เล็กพริกขี้หนูเพราะทางโครงการได้แบ่งสัดส่วนไว้ให้ลงตัวกับการใช้ชีวิตคนเดียว พร้อมเพิ่มพื้นที่พิเศษอย่าง “ห้องครัวแบบปิด” ที่ทำให้เราสามารถประกอบอาหารได้เต็มอิ่มโดยไม่รบกวนพื้นที่พักผ่อนส่วนอื่นๆ
เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้องพักอาศัย เราจะได้พบกับโซนนั่งเล่นเป็นโซนแรก ทางโครงการจัดชุดโซฟา, โต๊ะกลางและชั้นวางทีวีบิลท์อิน (Built in) มาให้เสร็จสรรพ และด้วยการออกแบบห้องแบบ Studio นี่เอง จึงทำให้เรามองเห็นพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของห้องเกือบทั้งหมดโดยไม่มีพาร์ทิชั่นใดๆ มากั้น เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ห้องที่มี Space เชื่อมต่อถึงกัน
พื้นที่ตรงกลางจะมีโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งแถมมาให้ ซึ่งเราสามารถปรับมุมนี้ให้กลายเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ ก็ดูเข้าท่าดีเหมือนกัน
มาถึงส่วนของห้องนอน ที่ทางโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ได้แถมฐานเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบบิลท์อิน (Built-in) มาให้ตรงบริเวณปลายเตียง และถึงแม้จะวางเฟอร์นิเจอร์ให้ครบชุด แต่ในห้องก็ยังมีพื้นที่กว้างพอให้เดินอ้อมเตียงไปฝั่งหน้าต่างได้สะดวก
ส่วนบริเวณหัวเตียงก็สามารถตกแต่งเองได้ตามใจ จะเปลี่ยนจากกำแพงโล่งๆ ให้เป็นชั้นเก็บของ หรือติดวอลเปเปอร์สไตล์เท่ก็น่าสนใจไม่น้อย
ตู้เสื้อผ้าที่ได้รับจะเป็นตู้บานสไลด์แบบสองบานเปิดสลับกัน ทำให้ประหยัดเนื้อที่ห้อง แล้วจึงกรุหน้าบานด้วยกระจกเงาทรงสูงที่เราสามารถใช้ส่องได้เต็มตัว นอกจากนี้ก็ยังบิลท์อินโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกะทัดรัดไว้ข้างๆ ให้เราใช้งานได้สะดวก
สำหรับส่วนของเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นแบบบิลท์อิน (Built-in) ไปกับผนัง พร้อมติดชั้นลอยและพื้นที่เก็บของตรงเคาน์เตอร์ให้เช่นเดียวกับห้องอื่นๆ
ส่วน Top ครัว เป็นที่วางอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าขนาด 2 หัว และเครื่องดูดควันระบบปล่อยออกนอกอาคารจาก MEX นอกจากนี้ก็มีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟและเครื่องซักผ้าให้ในตัว พร้อมเดินระบบไฟให้เราเสียบปลั๊กใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ตามจุดต่างๆ
ถัดจากห้องครัวไปจะเป็นพื้นที่ของระเบียง ที่มีขนาดค่อนข้างกว้างเหมาะสำหรับงานซักล้าง โดยจะกั้นส่วนนี้ด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน สามารถเปิดออกไปยืนรับลมหรือเปิดเพื่อระบายอากาศขณะทำอาหารก็ได้
มาต่อกันที่ฝั่ง “ห้องน้ำ” โดยบริเวณหน้าประตูจะมีพื้นที่เว้นว่างไว้ให้วางตู้เย็นขนาดประมาณ 7 คิวบิกฟุตได้ ส่วนพื้นหน้าห้องน้ำจะทำการลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนออกมาเปื้อนพื้นลามิเนตด้านนอก และอาจทำให้พื้นบริเวณนี้เกิดอาการบวมน้ำได้ แนะนำให้หาพรมเช็ดเท้ามาวางไว้ก็จะช่วยป้องกันได้อีกวิธีหนึ่ง
ภายในห้องจะแบ่งโซนเปียกและโซนแห้งออกจากกันด้วย Shower Box เพื่อเราให้ง่ายต่อการทำความสะอาด โดยสุขภัณฑ์ห้องน้ำทั้งหมดจะเป็นของแบรนด์ American Standard มาตรฐานเดียวกับห้องอื่นๆ
Location
หากพูดถึงทำเลของ “ย่านบางนา” แล้วล่ะก็ เราจะเริ่มเห็นเค้าโครงความเจริญมาตั้งแต่ช่วงเปิดตัวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจาก “สถานีอ่อนนุช สู่ สถานีแบริ่ง” ในปี 2554 ทำให้ตลาดอสังหาฯ เริ่มขยายตัวจากเขต CBD ออกมายังทำเลใกล้เคียงมากขึ้น
ส่งผลให้โครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ เริ่มหันมาเปิดตัวอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า เกิดเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ นอกจากนี้ “ย่านบางนา” ยังเป็นทำเลแห่งใหม่ในการสร้าง Mega Project อีกมากมาย ยิ่งทำให้ศักยภาพด้านการพัฒนาของย่านนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคตก็มีแนวโน้มจะกลายเป็น ศูนย์รวมของการใช้ชีวิตแบบฉบับคนเมืองอีกด้วย!!
การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
คอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) เลือกปักหมุดสร้างคอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนาในระยะเดินถึง ซึ่งถ้าเราลองนับจากตัวสถานีไปถึงด้านหน้าโครงการแล้วล่ะก็ จะมีระยะการเดินอยู่ที่ประมาณ 750 เมตร แต่หากเปลี่ยนไปใช้ทางเดินเลียบคลองบางนาที่ อยู่ด้านหลังแล้ว จะเหลือระยะทางเพียงประมาณ 350 เมตรเท่านั้น
โครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จึงเป็นคอนโดพร้อมอยู่ ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกระชับการเดินทางให้สะดวกขึ้นด้วยการเลือกอาศัยอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยาย ซึ่งในปัจจุบันก็มีการก่อสร้างเส้นรถไฟฟ้าไปถึงจังหวัดสมุทรปราการแล้ว จึงช่วยลดความวุ่นวายของสถานีกลางทางที่มีคนอาศัยอยู่เยอะๆ ลงได้
นอกจากนี้สถานีรถไฟฟ้า BTS บางนายังอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ต้องการเข้าไบเทค บางนา (ฺBitec Bangna) ด้วย Sky Walk ทางเชื่อมที่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 - 22.30 น.
ส่วนในอนาคต...คนบางนาจะสามารถเดินเท้าไปยังสถานีอุดมสุขที่อยู่ใกล้เคียงกันได้ง่ายๆ ด้วย Sky Walk รวมระยะทางกว่า 1.7 กิโลเมตร สามารถเดินได้สะดวกด้วยทางเชื่อมขนาดใหญ่กว้าง 4 เมตร โดยคาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการได้ภายในปี 2561 นี้
ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่บริเวณทางลงสถานีในแต่ละฝั่ง รวมไปถึงรถโดยสารประจำทาง, รถแท็กซี่ และรถสองแถวที่วิ่งอยู่ตลอดทั้งเส้นสุขุมวิท, บางนา-ตราด และถนนสรรพาวุธ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ถ้าพูดถึงการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้ว เส้นทางหลักๆ คงจะเป็นถนนสุขุมวิท ถนนเส้นยาวที่นิยมใช้ในการเดินทางเข้า-ออกเมือง ซึ่งก็เป็นปกติที่เราอาจจะต้องเผชิญกับการจราจรที่หนาแน่นบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่เราสามารถเลี่ยงปัญหารถติดได้ด้วยการขึ้นมาใช้ “เส้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร” เพื่อวิ่งตรงไปลงย่านพระราม 9 - ดินแดง-ออกอนุสาวรีย์ หรือจะวิ่งไปเส้นรัชดาฯ - อโศกก็ได้เช่นกัน และนอกจากถนนสุขุมวิทแล้ว เรายังมีถนนอีกหลายสายให้เลือกใช้ในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น...
ถนนสรรพาวุธ เป็นถนนขนาด 6 เลนที่แยกออกมาจากถนนสุขุมวิท ซึ่งเราสามารถใช้ถนนเส้นนี้วิ่งออกไปยังโซนต่างๆ ของกรุงเทพฯ ได้มากมาย อย่าง
- ถนนสรรพาวุธ ไปพระราม 4 - อโศก : ใช้เส้นทางถนนรางรถไฟเก่าเพื่อมุ่งหน้าไปสู่ถนนอาจณรงค์ และเลี้ยวเข้าสู่ถนนเกษมราษฎร์ เพื่อตรงเข้าสู่ย่านใจกลางเมือง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีเท่านั้น
- ถนนสรรพาวุธ ไปพระราม 3 - สาทร : จากถนนสรรพาวุธให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนรางรถไฟเก่า ขับตรงไปเรื่อยๆ ทางฝั่งสำโรงหลังจากนั้นให้เลี้ยวขวาถนนปู่เจ้าสมิงพราย หลังจากนั้นใช้สะพานวงแหวนอุตสาหกรรมเพื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และลัดลงไปยังถนนพระราม 3 ได้ทันที หรือจะใช้เส้นทางถนนรางรถไฟเก่า แล้ววิ่งเข้าถนนกล้วยน้ำไท ออกสู่ถนนพระราม 4 เพื่อตัดเข้าสู่ถนนพระราม 3 หรือวิ่งตรงไปถนนสาทรใต้ได้เลย
- ถนนสรรพาวุธ ไปเอกมัย-ทองหล่อ : ใช้เส้นทางถนนรางรถไฟเก่า ลัดเข้าซอยสุขุมวิท 55 หรือหากจะไปย่านอ่อนนุช, พระโขนงก็วิ่งลัดเข้าซอยสุขุมวิท 62 ได้เลย
การเดินทางมายังคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
โครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จะตั้งอยู่บนถนนสรรพาวุธ ซึ่งเป็นถนนสายรองที่แยกออกมาจากถนนสุขุมวิท
สำหรับการเดินทางมา IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จากถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกเมือง เมื่อถึงสี่แยกบางนา ให้เราเลี้ยวขวาตรงสี่แยก ขับรถตรงมาเพียง 200 เมตร โครงการจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ หากขับเลยสถานีบางนาไป ไม่ต้องตกใจ สามารถกลับรถเข้าสู่ถนนสรรพาวุธ โดยโครงการจะอยู่บริเวณซอยสรรพาวุธ สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายเพราะโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนหลักเลย หรือถ้าใครอยากเลี่ยงรถติด แนะนำให้ใช้ทางลัดวิ่งมายังถนนรางรถไฟเก่า ก็ช่วยให้เราถึงตัวโครงการได้ง่ายขึ้น
ส่วนคนไหนที่เดินทางมาจากถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าเมือง ให้ขับรถเลยตัวสถานีบางนามาประมาณ 500 เมตร จะเจอสี่แยกบางนาให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสรรพาวุธ หลังจากนั้นให้ขับตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเจอโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) อยู่ฝั่งซ้ายมือ
Lifestyle
ขยายขอบเขตการใช้ชีวิตในเมือง ออกมาอีกนิดกับย่านบางนา
สำหรับการเลือกที่อยู่อาศัยสักแห่ง...นอกจากความชอบส่วนตัวแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ “ทำเล” เพราะต่อให้โครงการจะออกแบบมาดีแค่ไหน หากทำเลไม่ซับพอร์ตหรือช่วยเติมเต็มความสุขให้เราได้ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องออกไปตามหาทำเลใหม่ๆ ที่เหมาะกับเราจริงๆ
ฉะนั้นเราควรเลือกทำเลที่ตรงใจและสามารถเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราให้ได้ อย่าง ‘ทำเลบางนา’ ซึ่งเป็นที่ตั้งของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ก็เป็นหนึ่งทำเลใหม่ที่รายล้อมไปด้วยแหล่งกิน เที่ยว ช็อป พร้อมมีกิจกรรมสนุกสุดมันส์ให้เลือกทำหลากหลาย และสิ่งเหล่านี้เองที่เป็นแรงดึงดูดให้ใครหลายคนอยากขยับเข้ามาอยู่บริเวณนี้แทนเขตตัวเมือง ที่ทั้งพลุกพล่านและวุ่นวาย เต็มไปด้วยการจราจรที่หนาแน่น
ในเมื่อบอกไปขนาดนี้แล้ว เราอาจจะยังเห็นภาพไม่ชัดเจน ยังไงก็ลองมาผ่อนคลายและทำความรู้จักกับย่านบางนาไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า
กระจายความสุขบนถนนเส้นบางนา-ตราด
อย่างที่บอกไปแล้วว่า ถนนเส้นหลักๆ ที่ชาวบางนานิยมใช้กันคือ ถนนสุขุมวิท แต่ถ้าจะให้เราพูดถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ของคนย่านนี้จริงๆ แล้วล่ะก็ ส่วนใหญ่มักรวมตัวอยู่บนถนนเส้นบางนา-ตราด
ยกตัวอย่างเช่น ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ที่เป็นทั้งศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้าขนาดใหญ่กว่า 50,400 ตารางเมตร เหมาะสำหรับใครที่ไม่รู้จะไปไหนในช่วงวันหยุด ก็อาจลองเดินมาชมนิทรรศการเล่นๆ ก็ดูแฮปปี้ดีเหมือนกัน เพราะมีนิทรรศการสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้เดินกันได้ตลอดปี
*สามารถตรวจสอบตารางงาน Event ดีๆ ที่ขนกันมาจัดในไบเทค บางนาได้ที่ http://www.thailandexhibition.com/TradeShow/PRAM=2018_0_0_0_11_t
ฝั่งตรงกันข้ามไบเทค บางนาจะเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ อีกหนึ่งโรงเรียนนานาชาติชั้นนำที่ผู้ปกครองหลายต่อหลายคนไว้วางใจส่งลูกหลานเข้ามาเรียน ด้วยสัดส่วนของนักเรียนชาติตะวันตกมากกว่า 60%, เอเชียประมาณ 10% และนักเรียนไทยที่คัดสรรแล้วอีกประมาณ 30% พร้อมครูประจำชั้นชาวตะวันตกผู้เป็นเจ้าของภาษา ทำให้คุณพ่อคุณแม่อยากส่งเจ้าตัวเล็กเข้าเรียน เพื่อปูพื้นฐานและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับบุตรหลานตั้งแต่เด็ก
และปัจจัยที่ทำให้ย่านบางนาน่าสนใจขึ้นมาอีกระดับ ก็คือ โครงการ Mega Project ต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ยกตัวอย่าง โครงการในอนาคตที่โด่งดังมากๆ เลยก็คือ โครงการ Bangkok Mall ศูนย์การค้ายิ่งใหญ่ระดับโลกบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด และตั้งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ภายในจะประกอบด้วยอาณาจักรของศูนย์การค้าและที่อยู่อาศัย รวมถึงออฟฟิศแบบครบวงจรที่ยิ่งใหญ่ ทันสมัยและสมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย
เปิดโลกของขาช็อปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ให้เรามีความสุขได้แบบไม่รู้จบ
นอกจากสถานที่ที่บ่งบอกถึงความเจริญของ “บางนา” ทำเลแห่งอนาคตแล้ว พื้นที่นี้ยังเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ดีๆ ที่ขาช็อปอย่างเราๆ ไม่ควรพลาด เริ่มช็อปกันที่แรกที่ เซ็นทรัลพลาซ่า บางนา ห้างสรรพสินค้าที่รวบรวม ‘สินค้า’ ตอบโจทย์ทั้งคุณสาวๆ ไปจนถึงหนุ่มๆ หรือแม้แต่น้องหนูเองก็มีครบ เรียกว่าเหมาะสำหรับทุกคนทุกวัยเลยก็ว่าได้
ใครที่มาเดินเล่นห้างนี้ในช่วงเย็น อยากให้ลองแวะไปเยือน เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์’ (Central Food Hall) ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงามและหรูหราเท่านั้น แต่ยังครบครันด้วยสินค้าระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์นำเข้า, ผักผลไม้, ชีสคุณภาพดี, ช็อกโกแลต ตลอดจนถึงสินค้าอื่นๆ อีกมากมายที่ส่งตรงมาจากประเทศต้นกำเนิด
สำหรับใครที่เป็นขาช็อปตัวยงต้องไม่พลาดกับ โซนเสื้อผ้าแฟชั่นและเครื่องสำอางจากแบรนด์ชั้นนำ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นโซน ‘บิวตี้ แกเลอรี’ (Beauty Galerie) และ ‘ลักซ์ แกเลอรี’ (LUXE Galerie) ไว้เอาใจสาวๆ นักช็อป ส่วนหนุ่มๆ เองก็ไม่น้อยหน้า เพราะมีโซนดีๆ อย่าง ‘เมนส์ แกดเจ็ต’ (Men’s Gadget) ที่รวบรวมแกดเจ็ตสนุกๆ ไว้ในที่เดียว ให้คุณได้ดำดิ่งเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบที่รอคอยพวกเขาอยู่
นอกจากโซนสำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆ แล้ว ทาง เซ็นทรัลพลาซ่า บางนา ยังจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้เจ้าตัวน้อยได้สนุกสนามกันที่สนามเด็กเล่นกลางห้าง รวมถึงใครที่อยากฝึกลูกให้ว่ายน้ำเก่งๆ ตรงชั้นบนสุดก็มีสวนน้ำชื่อดัง อย่าง “Pororo Aquapark Bangkok” ให้บริการ รับรองว่าถูกใจเด็กๆ แน่นอนด้วยการตกแต่งที่เน้นความสนุก ให้สีสันสดใสเต็มไปด้วยตัวการ์ตูนน่ารัก
ส่วนอีกห้างที่อยู่ใกล้กับเซ็นทรัลพลาซ่า บางนา ก็คือ บิ๊กซี บางนา แหล่งรวมอาหารสดและสำเร็จรูปราคาย่อมเยา ใครสะดวกไปฝั่งไหนหรืออยากซื้อของแนวไหนก็เลือกเดินกันได้ตามใจชอบ
และหากมีเวลามากหน่อย แนะนำให้แวะไปเดินเล่นที่ เมกา บางนา แหล่งไลฟ์สไตล์ที่มีของให้เลือกเยอะ เป็นศูนย์รวมของแบรนด์ชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น IKEA, Big C, Home pro, Robinson
ภายในห้างเต็มไปด้วยร้านค้าที่ขนกันอวดสินค้ากันเต็มทุกตารางนิ้ว เช่น Zara, Uniqlo, Converse, Lacoste เป็นต้น ซึ่งที่นี่ก็มีทางเดินเชื่อมไป Robinson Department Store ได้ ให้ขาช็อปเดินวนเล่นเพลินๆ กันในห้างได้ทั้งวัน
และต้องตื่นตาตื่นใจกับการเปิดตัวของ อาณาจักร Marvel แห่งแรกในประเทศไทยและในอาเซียนกับ The Marvel Experience เอาใจสาวกซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งรุ่นเล็ก-รุ่นใหญ่ ด้วยศูนย์บัญชาการมาร์เวลฮีโร่ที่ออกแบบมาในธีมสวนสนุก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนจัดแสดงอยู่ในเมกา บางนาด้วยเช่นกัน
เมกา บางนา เป็นศูนย์รวมของทุกสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน เพราะข้างกันมี IKEA บางนา แหล่งรวมแบรนด์สินค้าชื่อดังจากสวีเดน ในราคาที่เราพอเอื้อมถึง เรียกว่า มาที่นี่ที่เดียวก็ช็อป ชิม ชิลล์ ได้ครบจุใจ ไม่จำเป็นต้องเข้าเมืองไปไกลก็มีความสุขได้เช่นกัน
ขยับมาสู่ความเรียบง่าย...บนถนนสรรพาวุธ
หลังจากเต็มอิ่มกับสีสันแห่งไลฟ์สไตล์กันไปเรียบร้อยแล้ว ก็ขอขยายพื้นที่ความสุขอันแสนเรียบง่ายกันต่อที่ ถนนสรรพาวุธ เริ่มตั้งแต่บริเวณต้นถนนกับ ตลาดสี่แยกบางนา ตลาดเล็กๆ ของคนในชุมชน ที่ขายทั้งของสดและอาหารปรุงสุก ส่วนใครที่ไม่ค่อยมีเวลาไปไหนไกลๆ ก็ลองแวะมาชิมร้านอาหารแนว Street food อร่อยๆ กันได้ที่นี่
นอกจากนี้ถนนสรรพาวุธยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานต่างๆ มากมายทั้งเอกชนและรัฐบาล นับว่าเป็นแหล่งงานสำคัญในย่านบางนาอีกหนึ่งจุด
ส่วนด้านการศึกษาก็ไม่แพ้ย่านไหน เพราะมีโรงเรียนให้คุณพ่อคุณแม่เลือกส่งบุตรหลานเข้าเรียนกันได้ตั้งแต่ระดับชั้นประถม เรื่อยไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียนอรรถวิทย์, วิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก, โรงเรียนรุ่งเรื่องวิทยา เป็นต้น
ส่วนแหล่งไลฟ์สไตล์ของถนนสรรพาวุธ จะอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเราก็ได้ไปเจอกับร้านกาแฟเล็กๆ ที่ให้กลิ่นอายแบบวินเทจอย่าง ‘ร้านวันวานที่บางนา’
เมื่อก้าวเข้าสู่ตัวร้านเราก็จะพบกับกลิ่นอายและบรรยากาศแบบเก่าๆ ชวนให้หวนคิดถึงความหลัง ทั้งโต๊ะไม้สมัยเรียน, ปิ่นโต, กรอบรูป และฝาผนังหลากสีที่ทำจากไม้เก่า เหมาะจะมานั่งชิลล์พูดคุยเรื่องวันวาน แล้วอย่าลืมสั่งเครื่องดื่มอร่อยๆ มานั่งดื่มกันเพลินๆ ด้วยนะ
แต่ถ้าใครอยากใช้ชีวิตแบบชิลล์ๆ แต่กลับให้ความสนุกมากขึ้นล่ะก็...แนะนำให้ไปที่ท่าเรือโดยสาร วัดบางนานอก ซึ่งเป็นจุดขึ้นลงของเรือข้ามฟากไปยัง คุ้งบางกระเจ้า ส่วนอัตราค่าโดยสารก็แค่ 4 บาท แต่ความสุขที่ได้รับรองว่าคุ้มเกิน 4 บาทแน่นอน
สำหรับ คุ้งบางกระเจ้า ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีแต่ต้นไม้เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ รวมถึงร้านอาหาร และที่พักแบบโฮมสเตย์ให้เราเข้าไปเลือกชม ชิม อิ่มอร่อย พร้อมนอนพักค้างคืนกันได้ ส่วนใครอยากเช่าจักรยานปั่นเล่นก็ไม่ต้องกลัวหลง เพราะพี่ๆ เขามีเเผนที่และคำแนะนำสถานที่เที่ยวรอบๆ บางกระเจ้าให้เสร็จสรรพ
ใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มเช็คอินที่ไหนก่อนดี เราแนะนำให้มาเริ่มต้นที่ ศรีนครเขื่อนขันธ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นแหล่งศึกษาระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ของบางกระเจ้า ที่สามารถเดินทอดน่องสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ง่ายๆ เพียงเดินข้ามสะพานไม้ยาวที่ทอดผ่านบึงใหญ่ไป
และยังมีจุดให้เราขึ้นไปชมวิวมุมกว้างที่ “หอดูนกสูง 7 เมตร” ซึมซับบรรยากาศแห่งความสุขในรูปแบบที่เรียบง่าย แถมยังเป็นกิจกรรมที่ทุกคนในครอบครัวสามารถร่วมสนุกได้
ทั้งหมดนี้คือ ไลฟ์สไตล์ของย่านบางนา ที่หลายคนยังไม่เคยมีโอกาสมาสัมผัส เหมาะสำหรับคนที่อยากลองเปลี่ยนวิถีชีวิตจากเขตเมืองธุรกิจ CBD อันแสนวุ่นวาย มาเป็นวิถีสงบโน้มตัวลงซบธรรมชาติได้แค่เอื้อม ก็ต้องมาเยือนพื้นที่แห่งนี้เลย เรารับรองว่า...มีสถานที่กิน แหล่งที่เที่ยวดีๆ ไว้คอยต้อนรับทุกคนอยู่
Analysis
วิเคราะห์โครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
จุดเด่นของโครงการ
- IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) เป็นคอนโด High Rise ขนาดใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางนา ในระยะเดินถึง
- เป็นคอนโดของคนรักกิจกรรมด้วยพื้นที่ส่วนกลางรวมเกือบ 10 ไร่ ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้ครบจบได้ในโครงการเดียว
- ทางโครงการขายแบบ Fully-Furnished พร้อมเข้าอยู่ได้แล้ววันนี้
- ราคาเริ่มต้น 1 ห้องนอน 2.39 ล้านบาท* จ่ายเบาๆ จอง + ทำสัญญาเพียง 10,000 บาท (ทุกขนาดห้อง)
ทำเลของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ใกล้กับ ‘สี่แยกบางนา’ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพที่ได้รับอิทธิพลด้านความเจริญจากการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เริ่มเปิดให้บริการส่วนต่อขยายจากสถานีอ่อนนุชถึงแบริ่งตั้งแต่ปี 2554
โดยคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) จะตั้งอยู่บนถนนสรรพาวุธ หนึ่งเส้นทางที่นิยมใช้เชื่อมต่อกับย่านอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องออกไปใช้ถนนสุขุมวิท แถมในปัจจุบันยังเริ่มเห็นภาพของการพัฒนาด้านอสังหาฯ มากขึ้น หากเทียบจากราคาประเมินที่ดินของถนนสรรพาวุธแล้ว จะอยู่ที่ตารางเมตรละ 80,000 - 170,000 บาทและคาดว่าจะมีเเนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากย่านบางนาเตรียมจะสร้าง Mega Project อีกหลายโครงการ เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองที่เริ่มขยับมาจากทางอ่อนนุช-อุดมสุขที่อยู่ใกล้เคียงกัน
การเดินทางของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) ตั้งอยู่บริเวณซอยสรรพาวุธ 1 เป็นโครงการติดถนนหลัก สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือ ทางเดินรถติดถนนสรรพาวุธ (ด้านหน้าโครงการ) และทางเลียบคลองเดินออกไปเจอกับสถานี BTS พอดี จึงถือได้ว่า สะดวกทั้งกับคนใช้รถและผู้ที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
สำหรับวิธีการเดินทางหลักๆ ของคนย่านนี้คงหนีไม่พ้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS บางนา หากนับจากด้านหน้าโครงการเดินไปยังตัวสถานีจะอยู่ที่ระยะประมาณ 750 เมตร แต่ถ้านับจากระยะทางด้านหลังโครงการเดินเลียบคลองของกทม. ไป จะอยู่ที่ประมาณ 350 เมตรเท่านั้น
ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ จะมีให้บริการวินมอเตอร์ไซค์และสองแถว รวมไปถึงแท็กซี่คอยให้บริการอยู่ตลอดทั้งวัน ส่วนใครที่โดยสารรถโดยสารประจำทางและรถตู้นั้น อาจจะต้องเดินไปขึ้นรถที่แยกบางนา ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการไม่มากนัก อยู่ในระยะเดินถึงเช่นกัน
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ถนนสรรพาวุธ เป็นถนน 6 เลนที่แยกออกมาจากถนนสายหลัก “สุขุมวิท” สภาพการจราจรจึงไม่ได้หนาแน่นนัก
แต่ถ้าหากมองในแง่ของความสะดวกสบายที่พ่วงเข้ามาด้วยล่ะก็...ถนนสรรพาวุธ ถือเป็นถนนที่ใช้เลี่ยงรถติดบนถนนสุขุมวิทได้ค่อนข้างดี เพราะเราสามารถขับไปยังย่านเอกมัย, ทองหล่อ, พระราม 4, อโศก หรือจะไปยังย่านสาทรก็ได้ทั้งสิ้น
แบบห้องของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) เป็นคอนโดพร้อมอยู่ เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวก็ได้ เพราะมีแบบห้องที่ครอบคลุมและรองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น…
- Studio เป็นห้องไซส์เล็กเหมาะสำหรับการอยู่คนเดียว มี Space ของการอยู่อาศัยแบบเชื่อมต่อถึงกัน และถึงแม้จะเป็นห้อง Studio แต่ทางโครงการก็ได้ทำครัวระบบปิดมาให้ เพื่อให้รองรับการประกอบอาหารมากขึ้น
- 1 Bedroom ขยับรูปแบบการใช้ชีวิตให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน ที่มีห้องให้เลือกหลายแปลนหลากขนาด เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นห้องหน้ากว้าง, ห้องระเบียงกว้าง, ห้องครัวปิด หรือแม้แต่ห้องที่เน้นการเชื่อมต่อของพื้นที่ก็มีให้เลือก
- 2 Bedrooms เริ่มเข้าใกล้พื้นที่ของครอบครัวมากขึ้นด้วยพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 2 Type ได้แก่
- ห้อง Type C ที่เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
- ห้อง Type D ที่เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
สิ่งอำนวยความสะดวกของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) สร้างความพิเศษให้กับการอยู่อาศัยในคอนโดด้วยพื้นที่ส่วนกลางรวมกันกว่า 10 ไร่ เพื่อให้เพียงพอต่อการพักผ่อน ซึ่งแต่ละอาคารจะมีพื้นที่ส่วนกลางแยกให้เพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ขณะเดียวกันเราก็สามารถเดินไปใช้งานที่ส่วนกลางของอาคารอื่นได้ด้วย โดยพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะมีดังนี้
- พื้นที่ส่วนกลางรวมเกือบ 10 ไร่
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ 3 โซน ยาว 200 เมตร
- ลู่ปั่นจักรยาน (Extreme Bike Track) ขนาด 700 เมตร
- สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง
- สนามฟุตซอล
- ลานสเก็ตบอร์ดกลางแจ้ง
- ห้องฟิตเนส 2 โซน
- Co-Working Space พร้อมฟรี WiFi
- Social Club
- Meeting Room
- Laundry
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- Terrace จุดชมวิวบนอาคาร
- Lobby & Mailbox Area
ราคาของคอนโด IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
ราคา IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) เริ่มต้นที่ 2.39 ล้านบาท* สำหรับ 1 ห้องนอน เบ็ดเสร็จแล้วจะเหมาะกับคนที่มีงบประมาณของราคาคอนโดรวมๆ อยู่ที่ 2.6 – 5.5 ล้านบาท หรือมีกำลังในการผ่อนประมาณ 18,200 – 44,000 บาท/เดือน
ซึ่งหากเทียบกับศักยภาพทำเลที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต บวกกับทำเลคอนโดอยู่ใกล้ BTS ในระยะเดินถึง และยังเป็นโครงการใหญ่อัดแน่นด้วย Facilities ก็ถือว่าคุ้มค่า เหมาะสำหรับคนที่ตามหาคอนโดขนาดใหญ่ย่านบางนา ชอบการทำกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS อีกด้วย
หากใครสนใจโครงการ IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู) คุณสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษและข้อมูลอัพเดทก่อนใครได้ที่ https://www.ananda.co.th/th/condominium/ideo-o2 และสามารถเข้าชมโครงการจริงได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00-18.00 น.