[Review] รีวิว The Estate Thapra คอนโด Low rise ใกล้รถไฟฟ้า 250 เมตร

The Estate Thapra คอนโด Low rise 8 ชั้น พร้อมอยู่ สไตล์ Modern ทำเลอยู่ในย่านชุมชน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีจรัญสนิทวงศ์ 13 เพียง 250 เมตร โครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วจึงสามารถเข้าอยู่ได้ทันที พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าพร้อมสวนลอยฟ้า ฟิตเนส ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. บริเวณรอบๆ โครงการ The Estate Thapra มีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร อยู่ในระยะที่สามารถเดินได้

ที่ตั้งโครงการ The Estate Thapra

ซอยจรัญสนิทวงศ์ 6 ( ซอยเสรี ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ)

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว

จากถนนสาธรใต้มุ่งหน้าไปสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน

จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ ตามถนนราชพฤกษ์ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปจนถึงทางแยกก่อนสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู ให้เลี้ยวไปสู่ถนนรัชดาภิเษก

เนื่องจากทางแยกมีถนนตัดผ่านหลายเส้นจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังตอนเลี้ยวให้ดีๆ พอพ้นจุดนี้ไปก็ตรงต่อไปเรื่อยๆขึ้นทางยกระดับ

ตรงต่อไปจนหมดทางยกระดับ จากนั้นจะผ่านแยกท่าพระให้ขับตรงไปก่อน

โครงการจะอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 6 ทางขวามือ ให้ตรงไปกลับรถข้างหน้า

หลังจากกลับรถให้มองทางซ้ายมือจะเห็นชื่อซอยจรัญสนิทวงศ์ 6 เลี้ยวซ้ายเข้าไปก็จะเจอกับโครงการ

The Estate Thapra ซึ่งจะอยู่ทางซ้ายมือเช่นกัน

จะเห็นได้ว่าโครงการอยูใกล้กับถนนใหญ่และสถานีรถไฟฟ้าซึ่งทำให้สะดวกต่อการเดินทางและการเข้าถึงโครงการ อาคารสามารถมองเห็นได้โดยง่ายจากต้นซอย เนื่องจากช่วงต้นซอยเป็นห้องแถวจึงไม่มีอะไรมาบดบังตัวอาคาร

environment สำรวจโลเคชั่น The Estate Thapra

ต้นซอยจรัญสนิทวงศ์ 6 จะมีวินมอเตอไซต์อยู่ข้างหน้า

เมื่อเดินลึกเข้าไปในซอยก็จะเจอกับตึกแถวเรียงตัวอยู่มีทั้งร้านซัก-รีด และร้านขายของ

เดินเข้าไปสุดซอยก็จะพบกับเวสต วิงแมนชั่น

จะเห็นได้ว่าอยู่ใกล้ถนนใหญ่ เดินตรงไปอีกไม่ไกลก็จะพบกับสะพานลอย

หากเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะพบกับร้านสะดวกซื้อ รวมถึงธนาคารต่างๆ และป้ายรถเมล์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

บริเวณใกล้เคียงกับซอยจรัญสนิทวงศ์จะเห็นได้ว่ามีความเป็นชุมชนอยู่มากเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมี วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามอยู่ห่างไปไม่ไกล

มีการขนส่งรูปแบบอื่น นอกจากรถไฟฟ้า ยังมีรถเมลล์และรถกระป้อ

เจาะลึกภาพรวมโครงการ The Estate Thapra

คอนโด The Estate Thapra มีเพียงหนึ่งอาคาร ซึงเป็นอาคารทรงตัวยู สูง 8 ชั้น เฉลียจะตกอยู่ที่ 28 ห้องต่อหนึงชั้น แบ่งห้องเป็นสองฝั่งโดยมีพื้นที่ทางเดินกั้นตรงกลาง ซึ่งห้องชั้นในจะหันหน้าเข้าหากัน โดยมองเห็นที่นั่งส่วนกลางในชั้นล่าง ในส่วนของห้องชั้นนอกจะได้รับวิวที่แตกต่างกันไปตามทิศทางของห้องในแต่ละโซน เพิ่งความหลากหลายของวิวตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า ซึ่งคอนโด The Estate Thapra จะมีลิฟต์สองตัว ซึ่งตัวหลักจะอยู่ตรงทางเข้าของอาคาร ส่วนอีกตัวจะอยู่ทางด้านหลัก

โครงการ The Estate Thapra เป็นคอนโดแบบ Low Rise จากโมเดลในรูปจะเป็นฝั่งที่เข้ามาจากซอยจรัญสนิทวงศ์ 6 ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลัก ซึ่งมองจากมุมถนนจะเห็นเพียงด้านเดียวของตึกเท่านั้น ถนนจะค่อนข้างเล็กต้องระมัดระวังเวลามีรถสวนกันเข้า-ออก

ทางเข้า-ออกเดียวของโครงการซึ่งต้องผ่านจุดรักษาความปลอดภัยทุกครั้ง คนที่ไม่ใช่ลูกบ้านจะต้องแลกบัตรทุกครั้งก่อนเข้า-ออกอาคาร นอกจากนี้ยังมีกล้อง CCTV ติดอยู่ด้วย สำหรับรถยนต์จะต้องมีตัวเปิดที่กั้นแบบบลูธูท ซึ่งสามารถส่งสัญญาณได้จากภายในรถ ซึ่งต่อจากส่วนนี้เป็นลานจอดรถคิดเป็น 40% มีทั้งที่จอดสำหรับรถยนต์ และรถจักรยานยนต์

ในส่วนของที่จอดรถจะเป็นแนวตัวยูไปตามตัวอาคาร สามารถเลือกจอดให้ใกล้เคียงกับที่พักของลูกบ้านได้ ซึ่งนอกจากลานจอดรถแล้วก็จะมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไว้บริการอีกด้วย และที่ทิ้งขยะก็จะอยู่ข้างล่างเช่นกัน ซึงจะช่วลดปัญหาทางเรื่องกลิ่นตามทางเดินลงไปได้

การเข้าตัวอาคารต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้า-ออก ซึ่งจะอยู่ตรงกับฝ่ายนิติบุลคล เป็นกระจกโดยรอบจึงทำให้สามารถมองเห็นคนที่จะเข้ามาได้ตั้งแต่ข้างนอก ส่วนของ Lobby จะมีที่นั่งรองรับเล็กน้อย มี wifi ฟรีในบริเวณชั้นนี้ด้วย และถัดไปทางซ้ามือจะเป็น mail box ของห้องต่างๆซึ่งจะมีกุญแจล้อคไว้อีกหนึ่งชั้นด้วย ถัดมาทางขวามาจะเป็นลิฟต์ตัวหลักของอาคาร

ภายในลิฟต์มีความสว่างด้วยแสงไฟ Downlight แบบ Cool White เมื่อสะท้อนกับผนังแสตนเลสภายในตัวลิฟต์จะช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัดและทำให้พื้นที่ในลิฟต์สว่างขึ้นด้วย แผงแสดงเลขชั้นเป็นแบบดิจิตอลสามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีการเตือนหากน้ำหนักเกินและมีปุ่มขอความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดเหตุขัดข้อง

เมื่อออกมาจากลิฟท์ก็จะเจอกับป้ายบอกทางที่มีเลขห้องเขียนกำกับไว้อย่างชัดเจน พื้นสีเขียวตัดกับพื้นผนังสีขาวทำให้ง่ายต่อการมองเห็น อีกทั้งพื้นผนังสีขาวทำให้ไม่รู้ว่าทางเดินมีความคับแคบมากนัก บนเพดานจะมีไฟ Downlight ตลอดทางเดิน นอกจากนี้ยังมี CCTV ติดตั้งในจุดหลักของทางเดินอีกด้วย

แน่นอนว่าทุกชั้นก็จะมีตู้ดับเพลิง ซึ่งมีทั้งสายดับเพลิงและถังดับเพลิงอยู่ภายในตู้ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ตัดกับพื้นผนังสีขาว ไม่มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าตู้สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก

ในส่วนของบันไดหนีไฟนั้นจะอยู่กระจายกันไปตามแนวตึก มีป้ายไฟที่สองสว่างตลอดทั้งวันทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน บันไดหนีไฟเป็นพื้นปูนทำให้ไม่ลื่นหากอยู่ในภาวะเร่งรีบ มีราวจับตลอดทาง และมีไฟฉุกเฉินติดอยู่ทุกๆชั้น

ชั้นสองจะมีฟิตเนส และมีห้องน้ำอยู่ในตัว ซึ่งเป็นห้องกระจกโดยรอบอาจจะไม่รู้สึกเป็นส่วนตัวเท่าไหร่เพราะคนจากชั้นล่างสามารถมองขึ้นมาเห็นห้องนี้ได้ จำนวนเครื่องออกกำลังกายมีไม่มากนัก อาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานหากลูกบ้านมาเล่นในเวลาพร้อมกัน

พื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งจะอยู่ชั้น 8 จะมีสวนที่นั่งข้างนอกไว้สำหรับพักผ่อนตอนเย็นๆได้เป็นอย่างดี พื้นเป็นหญ้าปลอมจึงไม่เก็บความร้อนมากนัก จากข้างบนนี้สามารถมองเห็นวิวโดยรอบบริเวณได้ เนื่องจากอาคารโดยรอบเป็นตึกแถวจึงมีความสูงไม่มากนัก ทำให้ไม่มีอาคารมาบดบังทัศนียภาพ

เมื่อเดินขึ้นไปบนบันไดทางด้านซ้ายมือจะพบกับสระว่ายน้ำขนาด 3x6 เมตร ลึก 1.2 เมตร การยกระดับช่วยในเรื่องการแบ่งพื้นที่ออกจากสวนข้างล่างได้เป็นอย่างดี มีบันไดขึ้น-ลงสระเพียงทางเดียว รอบๆปูด้วยทรายล้างซึ่งจะช่วยลดการลื่นล้มได้ มีระแนงไม้กันอยู่สองฝั่งซึงทำให้ลมสามารถไหลผ่านเข้ามาได้และเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่มีร่มบังในตอนกลางวันอาจจะร้อนเกินไปสำหรับลงเล่นน้ำได้ ติดกับบันไดทางขึ้นมีที่อาบน้ำกลางแจ้งไว้บริการก่อน และ หลังลงเล่นน้ำ มีไฟอยู่ด้านข้างคอบริการหากใช้งานในตอนกลางคืน พื้นและผนังเป็นทรายล้างเช่นกันซึ่งช่วยกันลื่น และลดการเกิดคราบสกปรก

ห้องพัก จะมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน โดยเกือบทั้งหมดจะเป็นแบบหนึ่งห้องนอน จะมีแบบสองห้องนอนเพียง 2 ห้องเท่านั้น

TYPE A 25 ตร.ม

TYPE B 29 ตร.ม

TYPE C 30 ตร.ม

TYPE D 35 ตร.ม

ในส่วนของสำนักงานขายนั้นจะอยู่คนละที่กับโครงการ โดยจะอยู่ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ทางซ้ายมือก่อนเลี้ยวเข้าสู่โครงการ The Estate Thapra

รีวิวห้องตัวอย่าง TYPE A ขนาด 25 ตารางเมตร The Estate Thapra

ห้องแรกที่จะมารีวิวเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 25 ตารางเมตร ซึ่งสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางเมตรเลทีเดียว มีทุกอย่างครบครันภายในพื้นที่ทั้งหมด

เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะเจอกับส่วนของที่นั่งเล่นก่อนเป็นอันดับแรก มีพื้นที่เหลือข้างๆประตูสามารถเพิ่มตู้ใส่ของ หรือทำเป็นมุมทำงานเล็กๆได้ไม่ยาก ข้างๆยังมีปลั๊กไฟไว้รองรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคต่างๆด้วย หรืออาจจะเพิ่มพื้นที่ด้วยการติดตู้ใส่ของเหนือศีรษะขึ้นมาอีกสักอัน

ล้อคประตูเป็นแบบหมุน โดยใช้กุญแจไข ภายในมีล้อคเหล็กอีกชั้นหนึ่ง ในส่วนของพื้นจะเป็นพื้นไม้ลามิเนตลายไม้เข้มปานกลาง ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้ห้องทำให้ไม่ดูเรียบจนเกินไปอีกทั้งยังดูแลรักษาไ้ด้ง่ายด้วย ในส่วนทางเข้ามีการกั้นตรงประตูเล็กน้อยช่วยกั้นฝุ่นจากภายนอกได้ระดับหนึ่ง ภายในห้องจะมีไฟ Downlight โ์ทน Warmwhite ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ห้องมากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วมีความสว่างเพียงพอ แต่อาจจะเพิ่มโคมไฟเฉพาะจุด เช่น ในส่วนของโต๊ะทำงาน หรือจุดอ่านหนังสือ และภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะมี Smoke Detactor ไว้ให้ด้วย

สามารถวางโซฟาเล็กๆ กับโต๊ะข้างๆโซฟาได้แทนการวางโต็ะข้างหน้าโซฟา เพื่อจะได้ไม่ขวางพื้นที่ทางเดิน ตรง

ข้ามก็โซฟาจะมีจุดวางทีวี ซึ่งไม่ควรมีขนาดใหญ่มากนัก เนื่องจากระยะระหว่างโซฟาและทีวีมีเพียงประมาณ 60 เซนติเมตรเท่านั้น ตู้วางทีวีเป็นแบบติดผนังช่วยให้ทำความสะอาดพื้นได้ง่ายขึ้น เพดานและผนังเป็นสีอ่อนช่วยให้ห้องไม่รู้สึกอึกอัดมากนักตัดกับลายไม้ของพื้นลามิเนตรซึ่งง่ายต่อการทำความสะอาด ภายในส่วนนั่งเล่นจะมีเครื่องปรับอากาศหนึ่งตัวแยกกับห้องนอนสามารถควบคุมการเปิดปิดเป็นส่วนๆได้

จากทางเข้านี้สามารถมองเห็นห้องนอนได้ ซึ่งเป็นประตูกระจกเป็นเลื่อนทำให้แสงธรรมชาติจากห้องนอนส่องสว่างมาถึงส่วนนั่งเล่นนี้ได้แม้จะไม่เปิดไฟก็ตาม

มองจากมุมนี้จะเห็นตู้เย็นในส่วนของห้องครัวได้ จะไม่มีประตูกั้น เวลาทำอาหารจึงควรปิดประตูห้องนอนเอาไว้ทุกครั้ง เพื่อกันกลิ่นที่อาจจะเข้าไปรบกวนได้ เหนือประตูจะเป็นเครื่องปรับอากาศสำหรับส่วนภายนอกห้องนอน ซึ่งพื้นที่ไม่มากนัก สามารถกระจายความเย็นได้ทั่วถึง บริเวณทีวีจะมีปลั๊กไฟอยู่ข้างหลังทั้งหมด 4 เต้าเสียบและมีที่เสียบสำหรับรองรับสัญญาณทีวีด้วย สวิชท์ไฟอยู่ในตำแหน่งใกล้ประตู

ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานในวลากลางคืนด้วย

ถัดจากนั่งเล่นเราจะพบกับส่วนของห้องนอนที่มีตู้เสื้อผ้าอยู่ในตัวด้วย พร้อมเครืองปรับอากาศ มีพื้นที่พอสำหรับจะวางเตียงขนาด Queen size ได้สบายๆ ข้างเตียงยังมีที่เหลือให้วางโต๊ะข้างเตียงได้อีกด้วยและมีปลั้กไฟให้พร้อม เหมาะสำหรับขาร์ตอุปกรณ์โทรศัพท์ในตอนกลางคืน ตรงปลายเตียงมีปลั้กและที่เสียบสัญญาณทีวี รองรับการติดตั้งได้ในอนาคต

เนื่องจากตำแหน่งของห้องตัวอย่างนี้อยู่ชั้นใน จะได้วิวของห้องเพื่อนบ้านข้างๆ ซึ่งควรจะติดผ่านเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในส่วนของห้องนอน และกันแสงแดดในบางเวลาของวัน หน้าต่างครึ่งล่างจะเป็นเป็นบาน fix เปิดไม่ได้ ส่วนครึ่งบนจะเป็นบาน Slide สามารถเลื่อนได้ทั้งสองฝั่งควบคุมการเปิด-ปิดได้ง่าย

ตู้เสื้อผ้าจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงซึ่งใกล้กับประตูที่อยู่ใกล้กับห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า Build in เป็นประตูแบบบานเปิดคู่ทำให้สามารถมองเห็นของทั้งหมด หรือเลือกเปิด-ปิดได้ อาจจะขนาดเล็กหากมีของเยอะ แต่สามารถเก็บของเพิ่มที่ช่องว่างใต้เตียงได้

ในส่วนของประตูสไลด์นี้จะมีทีล้อคไว้ให้ด้วย และมีปลั้กไฟเพิมเติมบริเวณทางเข้าอีกหนึ่งจุด

มาต่อกันในส่วนของห้องน้ำจะมีการยกพื้นขึ้นจากส่วนพื้นปกติเล็กน้อย ทางขวามอจะมีที่ให้แขวนผ้าเช็ดตัว เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะเจอกับอ่างล้างหน้าแบบ Build in ซึ่งจะมีชั้นเก็บของอยู่ใต้อ่างเพิ่มขึ้นมาด้วยและมีที่ว่างใต้อ่างสามารถวางของชื้นใหญ่ได้ เช่น ถังขยะ หรือ น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ เนื่องจากเวลาส่องกระจกไฟจะอยู่ด้านหลัง ฉะนั้นจะไม่เหมาะกับการแต่ง เพราะจะเกิดเป็นเงาขึ้นมาได้

ทางซ้ายมือจะมีชักโครก สายชำระ และที่แขวนทิชชู่เอาไว้ให้ โดยติดกันจะเป็นส่วนอาบน้ำที่เป็นกระจกล้อมรอบ

โซนอาบน้ำมีการยกพื้นเล็กน้อยช่วยให้แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันได้ ถึงแม้จะเป็นห้องกระจกแต่มีการเว้นพื้นที่้ข้างบนเอาไว้ทำให้สามารถสามารถระบายอากาศและความชื้นจากการอาบน้ำได้เป็นอย่างดี ภายในห้องน้ำยังมีพื้นที่สำหรับวางของไว้ให้ด้วย พร้อมฝักบัวและมีจุดรองรับหากต้องการติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเติม

เมื่อเปิดออกมาจากห้องน้ำก็จะพบกับส่วนของห้องครัว โดยเริ่มตั้งแต่ตู้เย็นที่มีการเว้นพื้นที่เอาไว้ให้อย่างเพียงพอ สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ แต่หากวางขนาดไม่ใหญ่มากก็จะมีพื้นที่เหลือให้สามารถวางถังขยะหรือสิ่งของอย่างอื่นได้ ซึ่งในจุดนี้จะมีปลั้กไฟเอาไว้รองรับอยู่แล้ว ส่วนประตูห้องเปิดเข้าจึงไม่มีปัญหาในเรื่องการเปิดเข้า-ออก

ต่อจากตู้เย็นก็จะเป็นส่วนครัว มีอ่างล้างจาน และชุดตู้สีขาวทั้งข้างล่างและข้างบน Topเป็นลามิเนตสีขาว อ่างล้างจานมาพร้อมที่พักจาน สะดวกในการใช้งานทำให้พื้นที่อื่นๆไม่เปียกไปด้วย

ตู้ข้างบนมีทั้งแบบบานเปิด-ปิดทั้งหมด 3 ตู้ และไม่มีบานปิด 1 ตู้ ทำให้สามารถเลือกวางของที่ใช้งานบ่อยๆในช่องที่ไม่มีบานเปิด เพื่อสะดวกต่อการใช้งานได้ ช่องว่างข้างบนเป็นแบบไม่มีลิ้นชักทำให้ไม่ลำบากในการหยิบของและสามารถมองเห็นได้ง่ายกว่า ขอบล่างของบานเปิดทียื่นออกมาเป็นที่สำหรับเปิด ปิดแทนมือจับ

เหนือเค้าเตอร์ที่จะต่อปลั้กไฟ สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆได้เล็กน้อย เนื่องจากโครงการไม่มีเตาสำหรับทำอาหารมาให้ จึงจะคำนึงถึงตำแน่งการวางให้ดี บริเวณซ้ายมือนอกจากจะใกล้ปลั้กแล้วยังใกล้ประตู ซึ่งสามารถเปิดเพื่อระบายความร้อนและกลิ่นขณะทำอาหารได้ อีกทั้งยังมีช่องว่างใต้ตู้ที่สูงกว่าจุดอื่นด้วย บริเวณรอบต่อของเค้าเตอร์กับผนังมีแถบแสตนเลสติดไว้ช่วยให้รักษาความสะอาดง่ายขึ้นเล็กน้อย

ในส่วนตู้ด้านลา่งนั้นมีชั้นวางสำรับวางของไมโครเวฟได้พอดี ส่วนชั้นที่เหลือจะเป็นแบบตายตัวไม่สามารถปรับขึ้น-ลงได้ อีกทั้งยังมีทั้งลิ้นชักและตู้แบบมีบานเปิดด้วย

ติดกันจะเป็นประตูที่เปิดออกไปยังส่วนของระเบียงห้อง ซึ่งเป็นประตูกระจกทำให้มีแสงธรรมชาติลอดผ่านเข้ามาระหว่างวันได้แต่อาจจะเกิดคราบจากการทำอาหารได้เช่นกัน ขวามือใกล้ๆประตูจะมีสวิชไฟสำหรับระเบียงอยู่

ประตูจะเป็นบานกระจกกรอบเหล็ก ซึ่งเปิดออกไปยังระเบียง และมีที่ล้อคแบบหมุนอยู่ มีการยกพื้นประมาณ 10 ซม. ช่วยกั้นฝั่นที่สามารถลอดเข้ามาจากระเบียงหรือ น้ำจากการซักล้างได้ จะเห็นได้ว่าระเบียงเป็นแบบโครงเหล็กและสามารถมองออกไปเห็นห้องฝั่งอื่นๆของอาคารได้

พื้นที่ภายนอกระเบียงมีขนาดประมาณ 1.00 1.20 ม. ประกอบไปด้วยก๊อกน้ำและท่อน้ำรองรับการางเครื่องซักผ้าได้ พื้นกระเบื้องลาดเอียงเล็กน้อยช่วยในเรื่องของการระบายน้ำได้ในระดับหนึ่ง เหนือบริเวณท่อระบายน้ำมีท่อปล่อยน้ำจากเครื่องปรับอากาศทำให้ไปหยดกระจายไปบริเวณอื่น และบริเวณผนังด้านขวามือมี Compressor ของเครื่องปรับอากาศทั้งสองตัว พร้อมทั้งมีการติดตั้ง Grill ช่วยระบายความร้นออกไปข้างนอก เนื่องด้วยประตูที่เปิดออกจึงต้องคำนึงในการวางที่ตากผ้าด้วย เพื่อให้ไม่ขวางกับการเปิดเข้า-ออก

โดยรวมแล้วโครงการ เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา เนื่องจากขนาดห้องเล็กกระทัดรัด ดูแลง่ายแต่ก็มีส่วนต่างๆครบครัน พร้อมย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย แต่อาจจะมีที่เก็บของไม่มากนัก หากจะอยู่ระยะยาวควรติดตู้เพิ่มในส่วนต่างๆ

รีวิวห้องตัวอย่าง TYPE B ขนาด 28.46 ตารางเมตร

ห้องแรกที่จะมารีวิวเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 28.46 ตารางเมตร

ต่อไปเป็นห้อง TYPE B ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย จะเห็นได้ชัดในส่วนของที่ทำอาหาร และห้องนั่งเล่น ซึ่งห้องตัวอย่าง TYPE B นี้จะเป็นห้องชั้นนอกของตัวอาคาร ซึ่งจะได้วิวอีกแบบหนึ่ง

เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปจะเห็นห้องในลักษณะนี้ ซึ่งสามารถมองเห็นห้องนอนได้โดยตรงเลยเช่นกัน และได้รับแสงธรรมชาติผ่านเข้ามาจนถึงบริเวณห้องนั่งเล่นนี้ด้วย ทางขาวมือจะเป็นส่วนนั่งเล่นและทางซ้ายจะเป็นส่วนของที่ทำอาหาร

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอที่กั้นตรงพื้นช่วยกันฝุ่นจากทางเดินภายนอกได้ระดับหนึ่ง ประตูจะเปิดปิดด้วยการใช้กุนแจไข ข้างหลังบานประตูจะมี Door Stop ข้างในช่วยลดแรงกระแทกจากการเปิด-ปิด หรือการเหวี่ยงของประตู

เหนือด้ามจับปรตูจะมีกลอนเหล็กล้อคอีกหนึ่งตัวสามารถใช้แง้มดูได้หรือจะเลือกดูตาแมวที่ติดมากับประตูก็ได้ด้วยเช่นกัน ใกล้กับประตูจะมีสวิชไฟภายในห้องนั่งเล่นติดเอาไว้ ซึ่งสะดวกเมื่อเข้ามาในห้องยามค่ำคืน

ภายโดยรวมของห้องนั่งเล่นจะเห็นได้ว่ากว้างขวางพอสมควร ข้างๆประตูสามารถวางตู้เตี้ยๆได้อีกหนึ่งใบ หรือ โต๊ะเล็กๆที่ไม่สูงมาก เนื่องจากมีจุดต่อสายแลนด์อยู่ และควรคำนึงถึงทิศทางการเปิด-ปิดของตู้เพื่อจะได้ไม่ชนกับประตู หรือหากไม่ได้ใช้งานสายแลนด์ก็สามารถเพิ่มขนาดของโซฟาได้

พื้นที่ระหว่างที่วางทีวีและโซฟาเหลือมากพอให้สามารถวางโต๊ะเตี้ยได้ ไม่ควรสูงมากเนื่องจากจะบังการมองเห็นทีวี นอกจากนี้ยังสามารถรองรับทีวีขนาดใหญ่ขึ้นได้ด้วย ด้านหลังมีปลั้กที่สามารถรองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมได้และมีชองเสียงรับสัญญาณ

ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกันด้วยประตูกระจกแบบ Sliding Glass Door ซึ่งสามารถเลื่อนได้ทั้งสองบานทำให้ควบคุมการเปิด-ปิดได้สะดวกขึ้น โดยมีล้อคเป็นแบบสลักเลื่อนขึ้น-ลง

ภาพนี้จะแสดงให้เห็นการเชื่อมต่อของพื้นที่ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น

ฝั่งของหัวเตียงจะมีพื้นที่ด้านข้างเหลือเพียงพอให้วางโต๊ะเตี้ยๆได้ หรืออาจจะวางเป็นโต๊ะทำงานหรือใช้สำหรับแต่งหน้าได้

บริเวณด้านขวาของหัวเตียงจะมีปลั้กไฟและที่ช่องเสียบสายแลนด์ไว้ให้ การเลือกวางโต๊ะจึงควรเป็นโต๊ะที่ด้านล่างโล่งจะได้ไม่บังปลั้กไฟ เช่นเดียวกันกับฝั่งซ้ายของหัวเตียงที่จะมีปลั้กไว้ให้เช่นกัน

ฝั่งปลายเตียงจะมีเครืองปรับอากาศและตู้เสื้อผ้าแบบ Built in ไว้ให้ ซึ่งข้อดีของการ Built in ทำให้ไม่มีตู้ออกมายื่นเกะกะ ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้ประดับหนึ่ง แต่ตำแหน่งของตู้อยู่ลึก ไกลจากห้องน้ำพอสมควร ขวามือของเตียงจะมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ หน้าต่างสามารถเลื่อนได้ทั้งสองฝั่งและมีตัวล้อคเป็นสลักเลื่อนขึ้น-ลง ส่วนครึ่งบานล่างเป็นบาน Fixed ไม่สามารถเปิดได้

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิดคู่ สามารถเปิดพร้อมกันทำให้เห็นของทั้งหมดได้ ภายในมีที่แขวนเสื้อข้างบน ที่แขวนข้างล่าง ลิ้นชัก 3 ชั้น และที่วางของเหนือตู้

จะเห็นได้ว่ามีปลั้กและชองรองรับสัญญาณโทรทัศน์รองรับอยู่ สามารถติดทีวีแบบติดผนังได้แต่ต้องอย่าลืมคำนึงถึงระยะการเปิด-ปิดของตู้เสื้อผ้า ช่องว่างของทางเดิน และระยะสายตาจากเตียงด้วย เหนือขึ้นไปมีเครื่องปรับอากาศอีกหนึ่งเครื่องที่แยกออกมาจากส่วนของห้องนั่งเล่น

วิวจากหน้าต่างของห้องนอน จะเห็นได้ว่าไม่มีตึกสูงมาบดบัง เนื่องจากพื้นที่รอบเป็นชุมชนบ้านเรือนที่ไม่สูงมากนัก จากมุมนี้สามารถมองเห็นรถไฟฟ้าได้ หากใครชอบดูวิวก็อาจจะเลือกห้องที่อยู่ชั้นสูงหน่อย

ภายในห้องนอนจะมีไฟ Downlight โทน Warmwhite อยู่สามจุด เพื่อให้ความสว่างแก่ห้องในเวลากลางคืน และมี Smoke Detector ติดไว้หนึ่งจุด ซึ่งในกลางวันแถบจะไม่จะเป็นต้องใช้เลย เนื่องจากมีแสงธรรมชาติที่พอเพียง

ออกมาจากห้องนอนจะเป็นทางเชื่อมไปยังส่วนของห้องครัว ซึ่งเปลี่ยนจากพื้นลามิเนตเป็นพื้นกระเบื้องแทน เนื่องจากทนต่อความร้อนและทำความสะอาดได้ง่ายกว่า เหนือช่องประตูจะมีเครื่องปรับอากาศอีกหนึ่งตัว ที่แยกออกจากห้องนอน ส่วนนี้จะไม่มีประตูปิดจึงต้องระวังเรื่องกลิ่นระหว่างการทำอาหารด้วย

เมื่อมองเข้าไปจะเห็นส่วนของครัวสีขาวสะอาด และห้องน้ำที่อยู่ทางซ้ายมือ

บริเวณประตูยกขอบขึ้นเล็กน้อย และประตูเป็นแบบลูกบิดล้อคจากข้างในได้ ซึ่งจะมี Grill ระบายอากาศอยู่ในส่วนครึ่งล่างของประตู

เมื่อเปิดมาก็จะเจอกับโถส้วมที่อยู่ข้างหน้าประตู ตามมาด้วยห้องอาบน้ำและอ่างล้างหน้าทางขวาสุด มีราวแขวนผ้าอยู่ทางซ้ายมือ ขนาดห้องน้ำและรายละเอียดจะใกล้กันกับห้อง TYPE A

เหนือชักโครกจะมีที่แขวนผ้าเช็ดตัว และส่วนของชักโครกจะมีที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระอยู่ด้านข้าง

ห้องอาบน้ำมีการยกพื้นขึ้นกันน้ำจากการอาบน้ำ และเว้นช่องไว้ระบาอากาศข้างบน มือจับมีลักษณะกลมละสั้น อาจจะไม่สะดวกในการจับ ภายในเจาะช่องไว้สามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำได้เอะพอสมควร

ส่วนของอ่างล้างหน้าเป็นแบบ Built in มาในตัว เหนืออ่างติดกระจกบ บริเวณขอบอ่างมีพื้นที่ให้วางของได้เล็กน้อย และด้านล่างมีชั้นวางของอีกหนึ่งช่อง ส่วนข้างใต้เป็นพื้นที่โล่ง

หลังประตูจะมี Door Stop และตะขออยู่ ส่วนบนเพดานก็มีพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้า และไฟ Downlight ติดตั้งอยู่

จากนั้นจะเป็นส่วนของห้องครัวซึ่งมี ที่นั่งทานอาหารขนาดกำลังพอดีวางไว้อีกฝั่งหนึ่งและเว้นทางเดินไว้ตรงกลางจนไปถึงประตูที่เปิดออกไปยังระเบียงข้างนอกได้

ซ้ายมือเหมาะกับการวางตู้เย็น เนื่องจากมีปลั้กเตรียมไว้ให้ข้างหลังแล้ว ซึ่งมีที่เหลือมากพอหากต้องการวางตู้เย็นที่ขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งในแนวลึกและแนวกว้าง

ในส่วนของเค้าเตอร์ข้างล่างนั้นจะมีอ่างล้างจานพร้อมทีพักจานวางอยู่ พร้อมตู้และลิ้นชักวางของ สามารถเลือกวางได้ตามสะดวก และมีช่องที่พอดีกับการวางไมโครเวฟได้

เช่นเดียวกันกับตู้ด้านบน ที่จะมีช่องเก็บของที่หลากหลาย เลือกวางได้ตามความถี่ของการใช้งาน

ส่วน Top ของเค้าเตอร์จะมีการเว้นระยะจากผนังเล็กน้อย ช่วยกนการกระเด็นจากทางทำอาหารและการล้างจานได้เล็กน้อย และมีปลั้กไฟรองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เล็กน้อย

ประตูกระจกทำให้ได้รับแสงธรรมชาติจากภายใน ทำให้พื้นทีไม่รู้สึกอึดอัด และช่วยระบายกลิ่นออกไปได้ด้วย

พื้นระหว่างห้องครัวและระเบียงยกพื้นขึนเล็กน้อย ช่วยกันฝุ่นและน้ำจากระเบียงข้างนอกได้ ประตูเป็นล้อคแบบหมุนเปิดออกไปสู่ระเบียง

ภายนอกระเบียงเป็นพื้นกระเบื้องและรั้วโครงเหล็ก สามารถมองออกไปเห็นวิวรถไฟฟ้าได้เช่นเดียวกับห้องนอน

ข้างนอกมี Compressor ของเครืองปรับอากาศทั้งสองตัวอยู่พร้อมกับติด Grill ระบายความร้อนไปด้านข้าง ผนังฝั่งติดกับห้องครัวมีปลั้กไฟที่มีฝาปิดกันน้ำติดอยู่ ข้างล่างมีก๊อกน้ำสำหรับซักล้างติดอยู่ด้วย

บนเพดานมีไฟติดอยู่หนึ่งดวง และปลายท่อระบายอากาศ

สำหรับห้อง TYPE B นี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้อง TYPE A แม้จะไม่มากนัก แต่จะรู้สึกถึงความเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่า พื้นที่ของการใช้งานแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของที่ทำอาหารและส่วนนั่งเล่น ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล

วิเคราะห์โครงการ The Estate Thapra

ทำเล : โครงการ The Estate Thapra อยู่ในทำเลที่น่าสนใจ ใกล้รถไฟฟ้า สถานศึกษาและแหล่งชุมชน อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 250 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ใกล้มากสามารถเดินได้ง่ายๆอีกทั้งซอยที่เข้ามายังมีรถไม่พลุกพล่านมากนัก อยู่ห่างจาก The Mall ท่่าพระไม่มากนัก พื้นที่รอบๆเป็นบ้านหรือ อาคารขนาดเล็ก ทำให้ไม่บดบังวิวทิวทัศน์ เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา หรือวัยทำงานที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

สภาพแวดล้อม : ใกล้โครงการเป็นแหล่งชุมชน ทำให้บริเวณโดยรอบมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของ และตลาดกระจายอยู่หลายจุด ตัวโครงการอยู่ในซอยเข้ามาเล็กน้อยจากถนนใหญ่จึงช่วยลดเรื่องเสียลงไปได้มาก ได้ความเป็นส่วนตัว และไม่ถูกรบกวนมากนัก จำนวนห้องที่มีเพียง 185 ห้องทำให้ไม่รู้สึกพลุกพล่านมากนัก อาคารมีชั้นในและ ชั้นนอกทำให้เพิ่มตัวเลือกของวิวทิศทัศน์ที่ลูกบ้านต้องการเลือกได้ ด้วยาคารที่เป็นรูปตัวยูทำให้ แต่ละห้องหันหน้าไปในหลากหลายทิศทางด้วยกัน

แบบห้อง : โครงการศสูง 8 ชั้นมีทั้งหมด 185 ยูนิต แบบห้องแต่ละห้องมีความแตกต่างกันพอสมควรขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า โดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน TYPE A ขนาด 25 ตร.ม TYPE B ขนาด 29 ตร.ม TYPE C ขนาด 30 ตร.ม และ TYPE D ขนาด 35 ตร.ม โดยทางโครงการขายทั้งแบบห้องพร้อมอยู่ ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ และ ห้องเปล่า ซึ่งทุกห้องจะมาพร้อมกับชุดครัว Built in ตู้เสื้อผ้า ชุดสุขภัณฑ์ พื้นปูลามิเนต ผนังฉาบเรียบทาสี

สิ่งอำนวยความสะดวก : ภายในโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม ฟิตเนส สวนลอยฟ้าและสระว่ายน้ำ ถึงแม้จะดูมีไม่มากแต่ก็เรียกได้ว่าครบครันสำหรับความต้องการของชีวิตคนเมืองในระดับหนึ่งเลยทีเดียว บวกกับทำเลทีอยู่ใกล้ชุมชนทำให้มีความสงบอยู่ในตัวของโครงการ

ราคา: ราคาของโครงการเริ่มต้นที่ 1.4 ล้านบาท ส่วนแบบพร้อมอยู่จะอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท โครงการสร้างเสร็จแล้วสามารถเข้าอยู่ได้ทันที ซึ่งตอนนี้เหลือขายเพียงแค่ 40 ห้องเท่านั้น ด้วยทำเลและความสะดวกสบายจากรถไฟฟ้าที่จะแล้วเสร็จก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ด้วยความหลากหลายของห้องจึงช่่วยปรับตามกำลงซื้อของผู้ซื้อได้

สำหรับคอนโด The Estate Thapra นี้เหมาะสำหรับการอยู่ 1-2 คน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย หากมองถึงอนาคต เมื่อรถไฟสายสีน้ำเงินสร้างเสร็จ ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทางเป็นอย่างมาก หรือหากมองในเรื่องของการลงทุน โดยปล่อยให้เช่าก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีสถานศึกษาอยู่ใกล้ๆ อักทั้งโครงการยังมีบริการปล่อยเช่าให้ด้วย ซึ่งหากใครที่ชอบความสงบก็นับได้ว่าโครงการ The Estate Thapra เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองตัวเลือกหนึ่ง