[Review] Dolce Udomsuk (โดว์เช่ อุดมสุข) คอนโดหรูไลฟ์สไตล์คนเมือง อยู่ใกล้ BTS อุดมสุข-บางนา กับความรู้สึกใหม่ในห้องสูงกว่า 2.85 เมตร เพื่อความเต็มอิ่มในการใช้ชีวิต

Dolce อุดมสุข คอนโด Low rise 7 ชั้น โดยบริษัท สิรยศ จำกัด เป็นคอนโดที่ต้องการเติมเต็มการใช้ชีวิตคอนโด ด้วยห้องที่สูงถึง 2.85 เมตร ทำให้ผู้พักอาศัยรู้สึกเหมือนกำลังนอนอยู่บ้าน ทำเลตั้งอยู่ในย่ายที่ค่อนข้างมีความสมบูรณ์สูง ทั้งด้านบริโภคและสาธารณูปโภค ตอบโจทย์คนกรุงที่ต้องเดินทางไปทำงานเพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าถึง 2 สถานี คือ สถานีอุดมสุข และ สถานีบางนา เพียง 600 เมตร

ที่ตั้งโครงการ Dolce อุดมสุข

การเดินทางไปคอนโด Dolce อุดมสุขเป็นไปอย่างสะดวก ไปได้หลากหลายเส้นทางค่ะ เพราะเส้นสุขุมวิทมีซอยให้ลัดเลาะค่อนข้างเยอะ แต่ทีมงานแนะนำให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS จะสะดวกที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรอันแสนวุ่นวายของถนนเส้นนี้ค่ะ

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า สถานีอุดมสุข

ด้วยความที่ตัวคอนโด Dolce อุดมสุขตั้งอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า สถานีอุดมสุขมากนัก ประมาณ 600 เมตรเท่านั้น ถ้าเดินจากสถานีก็พอไหวอยู่ค่ะ คิดซะว่าออกกำลังกาย หรือจะมาใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์จากหน้าซอยสุขุมวิท ¹⁰³⁄₂ แล้วนั่งต่อเข้าไปที่คอนโดก็ได้เช่นกัน

ลงสถานีอุดมสุข แล้วจากนั้นให้ออกทางออกที่ 3 จะสะดวกที่สุด

ข้ามทางม้าลาย ข้ามแยกถนนอุดมสุข

แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ จนถึงซอยสุขุมวิท ¹⁰³⁄₂ ให้เลี้ยวเข้าซอยไปเลยค่ะ คอนโด Dolce อุดมสุขจะอยู่ลึกเข้าไปประมาณ 300 เมตรเท่านั้น

สำนักงานขาย Dolce อุดมสุข จะอยู่สุดซอย ทางเข้าอยู่ทางด้านหลัง

หรือไม่ก็นั่งรถโดยสารประจำทางสาย 48 (วัดโพธิ์ - ม.รามคำแหง 2) มาลงที่ป้ายสุขุมวิท 103ก็ได้ค่ะ

การเดินโดยรถยนต์ส่วนตัว

ถนนสุขุมวิทเป็นถนนสายหลักในการวิ่งเข้าสู่ตัวเมือง จึงไม่ยากหากต้องการขับรถมาค่ะ โดยผู้อ่านสามารถวิ่งมาได้จากหลายเส้นทาง ทั้งจากถนนบางนา-ตราด,

ถนนศรีนครินทร์ และถนนอุดมสุขซึ่งแต่ละเส้นทางจะมีทางเชื่อมต่อกันหมด สามารถเดินทางได้สะดวก

หากผู้อ่านมาจากทางถนนบางนา-ตราดให้เลี้ยวขวาที่แยกบางนา เพื่อเข้าสู่ถนนสุขุมวิท ทางเข้าคอนโดDolce อุดมสุขจะอยู่ทางขวามือค่ะ ให้สังเกตสะพานลอยก่อนถึงโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 ตรงนั้นจะมีจุดให้กลับรถอยู่

หรือถ้าวิ่งมาจากทางอ่อนนุช-เอกมัย (บนถนนสุขุมวิท) เมื่อผ่าน สถานีรถไฟฟ้า BTS อุดมสุขแล้ว ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 300 เมตร จุดสังเกตก็จะเป็นสะพานลอยใกล้โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 เช่นกัน แต่ทางนี้ไม่ต้องกลับรถค่ะ ทางเข้าซอยจะซ้ายมือพอดี

จากนั้นให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท ¹⁰³⁄₂ ไปประมาณ 300 เมตร ก็จะเจอกับสำนักงานขายคอนโดDolce อุดมสุขค่ะ

เจาะลึกภาพรวมโครงการ Dolce อุดมสุข

คอนโด Low Rise 7 ชั้น มีจำนวนห้องเพียง 79 ห้องเท่านั้น จึงทำให้ผู้พักอาศัยค่อนข้างได้รับความเป็นส่วนตัวมาก และด้วยจำนวนชั้นที่มีเพียง 7 ชั้น ทำให้ห้องของDolce อุดมสุขมีระยะฝ้าเพดานสูงถึง 2.85 เมตร เทียบเท่าโรงแรม โดยแบบห้องของคอนโดDolce อุดมสุขจะเน้นเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด เริ่มต้นที่ 31 ตารางเมตร ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนจะมีอยู่แค่ห้องเดียวที่ชั้น 7 ค่ะ ฉะนั้นคอนโดDolce อุดมสุขจึงเหมาะสำหรับผู้พักอาศัย 1-2 คน หรือคนที่ทำงานในย่านอุดมสุข-บางนา และผู้ที่มีที่ทำงานอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสุขุมวิทค่ะ ที่่จอดรถอยู่ใต้อาคาร สามารถจอดได้ 30 คัน ไม่ร่วมจอดซ้อนคัน

พื้นที่ชั้น 1 ของคอนโดจะเป็นที่จอดรถใต้อาคารซะส่วนใหญ่ ซึ่งทางเข้าคอนโดจะมี 2 ทาง คือเข้าจากลานจอดรถ ด้วยระบบ Access Card สามารถจอดได้ 30 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน หรือคิดเป็น 40% ของจำนวนผู้พักอาศัยค่ะ ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ เนื่องจากคอนโด Dolce อุดมสุข อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ส่วนอีกทางหนึ่งคือทางเข้าล็อบบี้ด้านหน้าค่ะ โดยบริเวณนี้ก็จะจัดเป็นโซนพักผ่อนแก่ผู้พักอาศัยด้วยเช่นกัน ด้านในวางเก้าอี้รับรองกับชั้นหนังสือไว้ มีโถงลิฟต์อยู่ในสุดและทางซ้ายมือเป็นทางเชื่อมไปยังสระว่ายน้ำ ที่หันไปทางทิศเหนือ จึงได้รับเพียงแสงแดดอ่อนๆ เท่านั้น บวกกับทาง Dolce อุดมสุขได้ปลูกต้นไม้สูงเกือบ 3 เมตรรอบคอนโด เพื่อให้ความร่มเงา

ชั้น 2 จะมีทั้งพื้นที่ส่วนกลางและห้องชุดพักอาศัยอยู่รวมกัน โดยห้องฟิตเนสจะทางริมซ้ายมือ ผนังทำเป็นกระจกรอบด้าน แต่เนื่องจากห้องอยู่ทางทิศเหนือ จึงไม่ได้รับแสงแดดมากค่ะ ส่วนห้องชุดพักอาศัยจะมีทั้งหมด 10 ห้อง เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด ซึ่งผู้ที่พักอาศัยอยู่ชั้นนี้จะมีข้อดีตรงที่อยู่ใกล้ facilities จะออกมาใช้บริการตอนไหนก็ได้ แต่ก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวที่ลดลงด้วยเช่นกัน และถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ส่งผลต่อการอยู่อาศัยมากนัก เพราะจากการจัดแปลนจะเห็นว่าทางคอนโดได้เว้นพื้นที่ระหว่าง ห้องฟิตเนสกับห้องพักไว้ให้พอสมควร เวลามีคนมาใช้ห้องจึงช่วยลดเสียงรบกวนลงได้ และที่ชอบอีกอย่างคือการติดช่องแสงที่โถงทางเดินค่ะ ทำให้โถงทางเดินของคอนโดDolce อุดมสุขสว่างขึ้น ไม่อึดอัด

หากพูดถึงตำแหน่งทิศทางการวางห้อง ห้องทางทิศตะวันตก (ห้องที่ 4-8) จะได้เปรียบกว่าห้องทางทิศตะวันตก (ห้องที่ 9-12A) เล็กน้อย เนื่องจากอาคารวางตามแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ห้องที่ 4-8 (ฝั่งตะวันออก) ได้เพียงแสงแดดอ่อนๆ ไม่จัดมากในยามเช้า และเป็นฝั่งที่อยู่ติดถนน ได้เรื่องวิว เรื่องลมที่ดีกว่า ในขณะที่ห้องที่ 9-12A (ฝั่งตะวันตก) จะได้แสงแดดที่จัดกว่าในช่วงบ่ายถึงเย็น แต่โชคดีว่าอยู่กับบ้านเรือน เพราะฉะนั้นห้องที่อยู่ 2 จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแสงมากเท่าห้องที่อยู่ชั้น 3 ขึ้นไป แต่ก็จะไม่มองเห็นวิวอะไรด้วยเช่นกันค่ะ

แปลนชั้น 3-6 ของ Dolce อุดมสุข จะใช้แปลนเดียวกัน คือเป็นพื้นที่ของการพักอาศัยทั้งชั้น มีจำนวนห้องทั้งสิ้น 14 ห้อง เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมดค่ะ โดยห้องที่สีเหมือนกันนั้น จะมีขนาดและแบบห้องเหมือนกัน ส่วนห้องที่เพิ่มเข้ามา 4 ห้อง (ห้องที่ 1-3 และ 14 ) จะเข้ามาแทนที่ห้องฟิตเนส ซึ่งเรื่องทิศ ตำแหน่งห้องก็จะเหมือนๆ กับชั้น 2 คือห้องที่ 1-8 จะได้เปรียบเรื่องแสงและลมกว่า กลับกันห้องที่ 9-14 ของชั้น 3-6 จะเห็นวิวมุมกว้างได้ดีกว่า แต่หากมองในอนาคต พื้นที่ด้านหน้าคอนโดก็มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นตึกสูงได้มากกว่า จึงเสี่ยงที่จะโดนบดบังทัศนียภาพได้ค่ะ

ชั้น 7 จะมีแปลนคล้ายกับชั้น 3-6 แต่จะมีห้องเพียง 13 ห้อง เนื่องจากมีห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 66.76 ตารางเมตรเข้ามาตรงมุมอาคาร (ห้องในกรอบสีแดง) ซึ่งห้องนี้จะได้มุมมองทัศนียภาพที่กว้างขึ้น

ลักษณะอาคารจะตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนแบบนี้ และเนื่องจากมีซอยย่อยให้เข้าออกได้หลายทาง ทำให้รถสัญจรค่อนข้างเยอะค่ะ โดยทางเข้าจะแบ่งเป็น 2 ทางคือทางเข้า กับ ทางเข้าลานจอด ซึ่งผู้พักอาศัยสามารถขับรถเข้ามาจากเส้นสุขุมวิท ¹⁰³⁄₂ หรือจากทางบางนาตราด เข้าซอยบางนา-ตราด 1 ก็ได้

บริเวณลานจอดรถจะอยู่ใต้อาคาร ทางด้านหน้าคอนโด มีที่ให้จอดข้างนอกเล็กน้อย สถานที่จริงจะมีไม้กระดกกั้น และใช้ระบบ Access Card ในการเข้า-ออก

สระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง มีต้มไม้ล้อมรอบเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว

ด้านหน้าคอนโดจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ติดกับถนน สะดวกต่อการเข้า-ออกคอนโด

ด้านหลังจะติดกับบ้านเรือน ซึ่งบ้านเรือนแถวนั้นก็ไม่ได้สูงมากค่ะ ทำให้ชั้นสูงๆ จะมองเห็นวิวฝั่งถนนสุขุมวิทได้ แต่ในอนาคต คาดว่าพื้นที่ฝั่งนี้ก็มีโอกาสที่จะเติบโตเป็นอาคารสูงได้เหมือนกัน คราวนี้เรามาดูภาพจากสถานที่จริงกันบ้างดีกว่าค่ะ

เริ่มที่ลานจอดรถใต้อาคาร เพดานยกสูงพอสมควร โชว์งานระบบท่อที่คอนโดสมัยนี้นิยมทำกัน ฝั่งที่ติดกับบ้านเรือนมีกำแพงล้อมปิดมิดชิด

แบ่งช่องจอดชัดเจน ฝั่งที่ติดถนนจะปลูกต้นไม้ไว้เป็นแนว ทำให้ที่จอดรถไม่อึดอัดจนเกินไป มีแสงรอดเข้ามาถึงด้านในได้

นอกจากที่จอดรถใต้อาคารแล้ว ก็มีที่จอดรถกลางแจ้งให้ด้วย แต่ถ้าจอดตอนกลางวันจะร้อนนิดนึง

คอนโดDolce อุดมสุขมีบริการรถรับส่งค่ะ

และหากใครอยู่ชั้น 2 จะสามารถมองลงมายังที่จอดรถได้

facilities ของคอนโดDolce อุดมสุขจะมีโถงล็อบบี้พร้อมชั้นหนังสือ กับสระว่ายน้ำอยู่ตรงชั้น 1 และห้องฟิตเนสตรงชั้น 2 ค่ะ สำหรับสระว่ายน้ำกลางแจ้ง เป็นสระระบบน้ำเกลือ ยาว 15 เมตร รอบสระปลูกต้นไม้เพิ่ม เพื่อความเป็นส่วนตัว

มีห้องน้ำส่วนกลางแยกชายหญิงให้

กลับเข้ามาในคอนโด ตรงโถงลิฟต์จะตั้งตู้ไปรษณีย์ไว้ข้างๆ เรียงตามหมายเลขห้อง มีกุญแจปิดเรียบร้อย

ลิฟต์ของทางคอนโดเป็นลิฟต์โดยสาร 2 ตัว แบบไม่ล็อกชั้น เนื่องจากจำนวนชั้นที่ไม่เยอะ และมีอัตราการใช้งาน 1 ตัว : 40 ยูนิต ถือว่าความหนาแน่นในการใช้งานน้อย ทำให้ผู้พักอาศัยไม่ต้องเบียด ไม่ต้องรอนาน

ถัดมาเป็นห้องฟิตเนสที่อยู่ที่ชั้น 2 ของคอนโด พื้นปูลามิเนจกันการกระแทก รอบห้องกรุกระจกทั้งหมด ทำให้มองเห็นวิวข้างนอก และสระว่ายน้ำกับล็อบบี้ได้ และมีการเพิ่มความปลอดภัยด้วยราวกันตกอีกชั้นหนึ่ง

ในห้องมีอุปกรณ์แบบ commercial ประมาณ 5 ตัว ซึ่งจะค่อนข้างทนและใช้งานติดต่อกันได้นาน

ออกมายังโถงทางเดินในคอนโด จะปูกระเบื้องสวยงาม ติดไฟ Downlight คอยให้แสงสว่างตอนกลางคืน แต่ในช่วงกลางวัน จะได้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่จากทางช่องแสงที่อยู่ตรงริมอาคารค่ะ

และตรงบริเวณโถงลิฟต์ยังมีช่องแสงจากทางด้านบนอีกหนึ่งทาง ทำให้บรรยากาศในคอนโดสว่างกว่าคอนโดส่วนใหญ่ที่พบ

ช่องแสงทำเป็นที่ว่างเว้าเข้ามาในตัวคอนโดแบบนี้ค่ะ ทำให้แสงส่องลงมาถึงชั้นล่างเลย

มีการทำราวกันตกสูง 1 เมตร เพื่อความปลอดภัย

ใกล้กันๆ เป็นบันไดหนีไฟ ซึ่งจะมีอยู่ 2 จุดตามหลักกฎหมาย โดยจะอยู่ตรงโถงลิฟต์ 1 จุด และระหว่างห้องที่ 10 กับ 11 อีก 1 จุด ซึ่งแต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตที่น้อย จึงค่อนข้างสะดวก เวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

การเข้า-ออกห้องของคอนโดDolce อุดมสุขใช้ระบบ Keycard เช่นเดียวกับทางเข้าล็อบบี้และลานจอดรถค่ะ

สำนักงานขายโครงการ Dolce อุดมสุข

สำนักงานขายกับคอนโด จะตั้งอยู่ที่เดียวกันค่ะ คือในซอยสุขุมวิท ¹⁰³⁄₂ มีต้นไม้สูงรอบคอนโด เพื่อความเป็นส่วนตัว

ทางเข้าคอนโดเป็นประตูสูง ตกแต่งสไตล์อิตาเลียน โมเดิร์น ความหรูหราแบบกลิ่นอายตะวันตก

เมื่อเข้ามาจะเจอโถงล็อบบี้แบบ Double Volume ผนังกรุหินจริงผสมกระจก ดูหรูหรา ให้ความรู้สึกโปล่ง โล่ง สบายตา ไม่อึดอัดเวลานั่ง และมีการจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งทำโซนอ่านหนังสือ ตั้งชั้นหนังสือให้ผู้พักอาศัยมาใช้บริการ ส่วนริมอีกฝั่งเป็นทางเชื่อมไปยังสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือค่ะ

เพดานยกสูงไปถึงชั้น 2 ซึ่งเวลาผู้พักอาศัยใช้งานห้องฟิตเนส ก็จะสามารถมองลงมาเห็นโถงล็อบบี้กับสระว่ายน้ำได้ด้วย

ห้องของ Dolce อุดมสุขเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเป็นหลักค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 Type ใหญ่ๆ ได้แก่

• Type A1

• A1-1 : 1 ห้องนอน ขนาด 31.21 ตารางเมตร

• A1-2 : 1 ห้องนอน ขนาด 30.59 ตารางเมตร

• A1-3 : 1 ห้องนอน ขนาด 31.10 ตารางเมตร

• A1-4 : 1 ห้องนอน ขนาด 31.08 ตารางเมตร

• A1-5 : 1 ห้องนอน ขนาด 31.90 ตารางเมตร

• A1-6 : 1 ห้องนอน ขนาด 31.10 ตารางเมตร

• Type A2 : 1 ห้องนอน ขนาด 30.67 ตารางเมตร

• Type A3 : 1 ห้องนอน ขนาด 33.55 ตารางเมตร

• Type A2 : 2 ห้องนอน ขนาด 66.76 ตารางเมตร

ซึ่งแต่ละห้องจะเหมาะสำหรับผู้พักอาศัย 1-2 คนซะมากกว่า ห้องตัวอย่างที่เราจะได้ชมกันนั้นจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 31.21 ตารางเมตรค่ะ

1 BR sq.m. ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 31.21 ตารางเมตร

ห้องของคอนโดDolce อุดมสุขจะขายแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ Built in อย่าง ชั้นวางโทรทัศน์, ตู้เสื้อผ้า, ตู้วางรองเท้า, โต๊ะกินข้าว, โซฟา, เตียง และโต๊ะเครื่องแป้งให้ รวมถึงสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ชุดครัวพร้อมเตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควัน และเครื่องปรับอากาศของ TRANE ค่ะ

พื้นที่ภายในห้องแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน ห้องนอนกับห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งผู้พักอาศัยจะค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนโซนพักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัว จะอยู่ทางขวามือตรงกับประตูทางเข้าค่ะ ครัวเป็นแบบเปิด ไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารหนักๆ เท่าไร แต่การจัดพื้นที่ วางเฟอร์นิเจอร์  ทำได้ลงตัว มีพื้นที่ให้ใช้สอยได้อย่างไม่อึดอัด

โซนแรกที่เจอเมื่อเข้ามายังห้องจะเป็นโซนพักผ่อน โดยห้องครัวจะเชื่อมกับห้องนั่งเล่น และจะเห็นว่าที่พื้นมีการแบ่งโซนระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นไว้ หากมองจากทางหน้าประตู เราจะสามารถมองเห็นไปยังระเบียงที่ยื่นออกไปได้ การตกแต่งภายในดูสวยงาม ตามแบบโมเดิร์นสไตล์ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีให้เรียบร้อย ระดับฝ้าเพดานสูง 2.85 เมตร ซึ่งถือว่าสูงกว่าคอนโดทั่วไป ทำให้ห้องดูกว้างเป็นพิเศษ และยังเพิ่มพื้นที่ใช้งานแนวตั้งได้อย่างคุ้มค่า มีการต่อเติมชั้นวางของได้เยอะขึ้น

ประตูทางเข้าใช้ digital door lock ของ HAFELE  ซึ่งจะต้องใช้ key card ในการเข้า-ออกเหมือนกันทุกห้อง

ส่วนด้านในเป็นที่จับก้านโยก มีที่หมุนล็อกพร้อมกลอนรูดติดตั้งให้ เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับผู้พักอาศัย

ข้างประตูมีตู้เก็บของให้ โดยด้านในจะซ่อนแผงควบคุมวงจรไฟไว้แบบนี้ เพราะฉะนั้นของที่จะเก็บในตู้นี้ก็ควรเป็นของที่ไม่มีความชื้น

ห้องครัวจะเป็นห้องแรกที่เจอค่ะ พื้นครัวปูด้วยกระเบื้องสีดำ เพื่อให้สะดวกเวลาเช็ดล้างทำความสะอาด และสีดำก็จะเปื้อนยากกว่าสีอื่น โดยทางคอนโด Dolce อุดมสุขจะ Built in เคาน์เตอร์ครัวกับตู้เก็บของลามิเนตมาให้ลักษณะนี้ ค่ะ มีพื้นที่ใช้งานทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนเพดานติดตั้งไฟ Down light พร้อมระบบป้องกันอัคคีภัย

เพดานติดไฟ Down light สีส้มกับระบบป้องกันอัคคีภัย

เคาน์เตอร์ครัวมีลักษณะเป็นรูปตัวแอล (L) ทำให้พื้นที่ประกอบอาหารค่อนข้างเยอะ ชั้นบนและล่างเป็นตู้ให้เก็บอุปกรณ์ บานเปิดปิดแบบ Softclose ซึ่งเก็บของได้เยอะอยู่ค่ะ น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารทีเดียว

Top ครัวทำจากหินแกรนิตดํา หนา 20 มม. ของ HEFELE มีพื้นที่ตรงกลางระหว่างเตาไฟฟ้ากับซิงค์ล้างจาน ให้ประกอบอาหารเล็กน้อย ซึ่ง Top ครัวที่ทำจากหินแกรนิตจะให้ความสวยงาม หรูหรา แต่ไม่เหมาะสำหรับการทำอาหารหนักๆ ที่ต้องสับ ต้องหันแรงๆ  เพราะหินแกรนิตจะเป็นรอยได้ง่าย และด้านหลังเคาน์เตอร์ทางDolce อุดมสุขได้ปูกระเบื้องแกรนิตโต ขนาด 0.60x0.60 ม. เพิ่ม เพื่อป้องกันคราบน้ำมันเปื้อนผนัง และยังเช็ดทำความสะอาดง่ายด้วย

มีปลั๊กไฟให้ตรงเคาน์เตอร์ 2 จุด ไว้รองรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง กาต้มน้ำ หรือ เครื่องปิ้งขนมปัง เป็นต้น

ซิงค์ล้างจานสเตนเลสวางบนเคาน์เตอร์ อยู่ทางซ้ายมือ ซิงค์ไม่มีพื้นที่หน้าอ่าง อาจทำให้น้ำเปื้อนไปด้านนอกได้ง่าย

ก้นอ่างลึกทรงสี่เหลี่ยม เวลาจะแช่ผัก ผลไม้ก็ทำได้สบายๆ

ตะแกรงที่ก้นอ่าง ไว้กันเศษอาหารตกหล่นไปในท่อระบายน้ำ

ก๊อกน้ำทรงหูหระต่ายยกสูงเหนือขอบอ่างพอสมควร เวลาเปิดน้ำแรงๆ อาจเกิดการกระเด็นบ้าง แต่ดีที่ก้นอ่างลึก น้ำเลยกระเด็นขึ้นมาไม่ค่อยถึงเคาน์เตอร์ วาล์วเปิดปิดแบบหมุมปกติ ก๊อกน้ำก็หมุนได้ ทำให้เวลาใช้งานจะสะดวกยิ่งขึ้น

ใต้ซิงค์ทำเป็นตู้เก็บของ ซ่อนท่อระบายไว้ข้างใน แต่ยังมีเนื้อที่เหลือพอให้เก็บของได้เยอะอยู่เหมือนกันค่ะ

เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันที่ทางคอนโดDolce อุดมสุขใช้เป็นของ HEFELE ค่ะ

เตาไฟฟ้าสเตนเลสแบบ 2 หัว ฝังไว้บนเคาน์เตอร์ จากการวางเตาจะลำบากเล็กน้อย เวลาทำอาหารพร้อมกัน 2 อย่างค่ะ

เครื่องดูดควันเป็นระบบหมุนวนภายใน ซึ่งไม่เหมาะการประกอบอาหารที่มีควันมากๆ แต่สำหรับคนที่แค่ต้องการอุ่นอาหาร หรือต้มอาหารเล็กๆ น้อยๆ ก็จะไม่มีปัญหาสักเท่าไรค่ะ

ตู้เอนกประสงค์ด้านบนมีช่องให้เก็บของได้ บานเปิดปิดเป็นแบบ Softclose ช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้

ช่องวางไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง ทำให้สะดวกและปลอดภัยเวลายกของร้อนค่ะ

อีกฝั่งเป็นที่วางตู้เย็นคู่กับเครื่องซักผ้ามีตู้ไม้ลามิเนตให้เก็บของได้

กว้าง 30x180 เซนติเมตร สามารถวางตู้ขนาดใหญ่ได้สบายๆ อย่างในห้องตัวอย่างทางคอนโด Dolce อุดมสุขจะวางตู้เย็นขนาด 13.3 คิวไว้ ซึ่งจะเห้นว่าข้างบนก็ยังพอมีเนื้อที่เหลือเล็กน้อย

ตู้เก็บของเหนือตู้เย็น บานเปิดปิดก็เป็นแบบ Softclose เช่นกัน แต่ตำแหน่งตู้อยู่ค่อนข้างสูง ต้องเอื้อมถึงจะหยิบของชั้นบนสุดได้ จึงไม่แนะนำให้วางพวกแก้ว จานชามที่แตกง่ายไว้ตรงนี้

มีอีกตู้อยู่ข้างๆ ค่ะ แต่จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ใช้งานสะดวกกว่า

ล่างสุดเป็นช่องใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า กว้าง 65x90 เซนติเมตร

มุมมองห้องนั่งเล่นจากในห้องครัวค่ะ จริงๆ ห้องครัวที่ผู้อ่านจะได้รับเป็นครัวเปิด ไม่มีแพลทติชั่นกั้นให้แบบนี้ แต่ทางคอนโดDolce อุดมสุขได้ทำเพิ่มมา เพื่อให้ดูเป็นตัวอย่าง

แพลทติชั่นที่เพิ่มเข้ามาเป็นบานกระจก ในลักษณะเลื่อนไปทางฝั่งตู้เย็นค่ะ และสามารถเลื่อนเก็บเข้าไปชิดผนังได้ ไม่เกะกะขวางทางเดิน

และทางคอนโด Dolce อุดมสุข ได้เลือกใช้แพลทติชั่นแบบรางแขวนบน เพราะจะประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งมากกว่า แต่ก็มีโอกาสที่บานเลื่อนจะหลุดได้ง่ายกว่าเช่นกันค่ะ

ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นแบ่งพื้นที่กันด้วยพื้น คือโซนห้องครัวจะปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ ขนาด 0.60x0.60 ม. สีดำ แต่ห้องนั่งเล่นจะใช้พื้นลามิเนตหนา 8 มม. แทน

มีสวิตซ์ไฟกับปลั๊กไฟของ Panasonic อยู่ตรงข้างเคาน์เตอร์ไปทางห้องนั่งเล่น เวลาจะใช้งานจะลำบากนิดนึงเพราะไม่มีที่วาง ไม่มีที่นั่งอยู่ตรงจุดนี้ค่ะ

ขยับเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่มีระเบียงยื่นออกไป ทำให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาในห้องได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ดูกว้างและสว่างขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากระเบียงห้องหันไปทางทิศตะวันออก-ตะวันตกค่ะ ทำให้ได้รับแสงแดดเยอะ ทางแก้คือแนะนำให้ติดผ้าม่านเหมือนในห้องตัวอย่าง ยิ่งถ้าเป็นม่านแบบกัน UV จะช่วยบังแดดบังความร้อนได้ดีในระดับหนึ่ง

พื้นที่โซนนี้กว้างพอสมควรเลย สามารถตวางโซฟาคู่กับโต๊ะทานข้าวได้ แต่จะดูเบียดเล็กน้อย หากลดขนาดเก้าอี้ลงได้น่าจะดีขึ้นค่ะ ผนังติดวอลเปเปอร์ลายไม้กลมกลืนกับพื้นห้อง ให้ความรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่อาศัย ซึ่งห้องจริงจะไม่ได้ติดมาให้ ผู้พักอาศัยติดเพิ่มเองได้ค่ะ

เพดานห้องนั่งเล่นเพิ่มความหรูด้วยการดรอปฝ้าลงมา แล้วซ่อนไฟไว้ด้านใน ทำให้บรรยากาศนุ่มนวลขึ้น แต่ห้องจริงจะมีเพียงไฟ Downlight กับระบบป้องอัคคีภัยค่ะ

สำหรับเครื่องปรับอากาศในห้องนั่งเล่นเป็นของ Trane ขนาด 12,000 BTU โดยตำแหน่งที่ติดเครื่องปรับอากาศจะอยู่ตรงระเบียง ข้อดีคือสะดวกในการล้างทำความสะอาด แต่ก็เป็นจุดที่ได้รับความร้อนมาก ทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้น

โต๊ะทานข้าวที่ทางคอนโด Dolce อุดมสุขให้เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว สามารถเคลื่อนย้ายได้ตามต้องการ แต่จากภาพจะเห็นว่าทางคอนโดตั้งโต๊ะทานข้าวไว้ที่มุมห้อง ขนาดโต๊ะเข้ามุมห้องได้แบบพอดีๆ ทำให้เวลานั่งทานจะรู้สึกอึดอัด แถมฝั่งหนึ่งยังชนเสาอีกด้วย ถ้าใครไม่ถนัดก็แนะนำให้เลื่อนโต๊ะออกมาข้างนอกจะสะดวกกว่าค่ะ แล้วยังสามารถนั่งเพิ่มเป็น 4 คนได้ด้วย เผื่อแขกไปใครมา อาจหาซื้อเก้าอี้มาสำรองไว้ก็ได้ค่ะ

สำหรับโซฟาของ Dolce อุดมสุขเป็นโซฟาแบบหุ้มผ้าสีเบจ ไม่มีที่วางแขน นั่งได้ 2-3 คนค่ะ เป็นขนาดที่กำลังพอดีกับขนาดห้อง ไม่อึดอัดหรือติดโต๊ะทานข้าวจนเกินไป โซฟาลอยตัว โชว์ขาแบบนี้จะสามารถเคลื่อนย้ายได้และทำให้ห้องเราดูกว้างขึ้น

ระยะห่างระหว่างโซฟากับชั้นวางโทรทัศน์ประมาณ 1.6 เมตร ทำให้สามารถติดตั้งโทรทัศน์ขนาด 26-40 นิ้วได้โดยทำร้ายสายตา และในห้องจริง ทางคอนโด Dolce อุดมสุขจะไม่มีโต๊ะกลางมาให้ค่ะ แค่ไว้ให้ดูเป็นแนวทางแต่งห้องเฉยๆ ซึ่งหากเราเอาโต๊ะกลางออก ก็จะได้พื้นที่ใช้สอยหน้าสอยกว้างขึ้น หรืออาจหาโต๊ะเล็กๆ อย่างโต๊ะญี่ปุ่นมาตั้งแทนก็ได้ค่ะ

ชั้นวางลามิเนตที่ได้ในห้องจริง จะได้เพียงชั้นวางโทรทัศน์ด้านล่าง ไม่มีชั้นลอยข้างบนให้ค่ะ แต่ผู้พักอาศัยสามารถต่อเติมเองได้เลย เพราะกำแพงกั้นห้องนอนของ Dolce อุดมสุขจะก่อผนังอิฐเช่นเดียวกับผนังข้างนอก ทำให้ทนทานต่อการเจาะ ตอกตะปูได้ดีกว่าผนังยิปซัม

ออกมาที่โซนระเบียงพักผ่อน ระเบียงของที่นี่ไม่กว้างมากค่ะ กว้างเพียง 60 เซนติเมตรเท่านั้น พื้นปูกระเบื้องเซรามิก ขนาด 0.30x0.30  ม. ของ Cotto มีท่อระบายให้ตรงมุมนอก โดยประตูระเบียงจะเป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมแบบเต็มบาน 2 บาน ในลักษณะเลื่อนสลับค่ะ ทำให้แสงสว่างส่องผ่านเข้าไปในห้องได้อย่างเต็มที่ แต่กระจกของทางคอนโด Dolce อุดมสุขเป็นกระจกตัดแสงสีเขียว จึงช่วยกรองแสงได้พอสมควร ไม่ทำให้ห้องร้อนมาก และจะเห็นว่ามีคอมเพรสเซอร์แอร์แขวนอยู่ ให้หันหน้าออกนอกอาคาร พร้อมกับทำระแนงกั้นเพื่อความปลอดภัย และเมื่อมองจากนอกอาคารจะดูสวยงามอีกด้วย

ราวกันตกเป็นโครงเหล็กสูงประมาณ 1 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับมาตราฐานของคอนโดมิเนียมทั่วไป และเนื่องจากคอนโด Dolce อุดมสุขสูงแค่ 7 ชั้น จึงไม่ค่อยให้ความรู้สึกหวาดเสียวมากนัก ธรณีระเบียงยกสูง 2 นิ้ว ป้องกันน้ำไหลเข้าค่ะ

กลับเข้ามาในห้องนอน มีประตูเปิดปิดมิดชิดเพื่อความเป็นส่วนตัว บานประตูเป็นบานสําเร็จรูปกรุลามิเนตสวยงาม ขนาด 0.9x2.1 เมตรเท่ากับประตูทางเข้า

ลูกบิดสแตนเลสของ HEFELE มีปุ่มล็อกอยู่ด้านใน

สำหรับห้องนอนของ Dolce อุดมสุขจะตั้งเตียงขนาดคิงไซส์อยู่กลางห้องไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ภายในมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ได้แก่ ตู้เสื้อผ้า Built in ที่ให้มาถึง 3 ตู้ กับโต๊ะเครื่องแป้งลามิเนต พื้นห้องนอนจะปูลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตรเช่นเดียวกับโซนนั่งเล่น ผนังทาสีฉาบเรียบ เพดานติดไฟ Down light พร้อมระบบป้องกันอัคคีภัย โดยริมห้อง ติดหน้าต่างบานใหญ่กว้างเต็มผนัง ทำให้ห้องดูโปร่ง เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่กลับมาเพื่อนอนเพียงอย่างเดียวค่ะ

เตียงของคอนโดเป็นขนาดคิงไซส์นอนได้ 2 คนกำลังดี ไม่เบียดกันเกินไป ซึ่งในห้องจริงจะมีฐานเตียงให้ ยกเว้นแต่ฟูกและของตกแต่งหัวเตียงที่ไม่ได้ให้มา ส่วนผนังห้องจริงก็จะไม่ได้ติดวอลเปเปอร์ให้เช่นกัน

เครื่องปรับอากาศในห้องนอน ใช้ของ Trane ขนาด 9,400 BTU ติดอยู่ฝั่งหน้าต่าง อาจทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้นเล็กน้อย แต่ทิศทางของลมจะกำลังดี เป่าโดนช่วงลำตัวไม่ทำให้เป็นหวัดง่าย

หน้างต่างห้องนอนเป็นกรอบอลูมิเนียม บานเลื่อนสลับผสมกับบานฟิกซ์ 2 บานด้านล่าง เวลาเปิดหน้าต่างจะสามารถเปิดรับลมได้กว้าง ยิ่งห้องที่อยู่ทางทิศตะวันออก (ห้องที่ 1-8) จะยิ่งได้เปรียบ เพราะหนึ่งอยู่ติดฝั่งถนน และเป็นทิศที่มีลมพัดมากกว่าค่ะ

พื้นที่ฝั่งนี้กว้างเพียง 30 เซนติเมตร แค่ให้พอขึ้นลงจากเตียงได้

ส่วนฝั่งปลายเตียงกว้างประมาณ 55 เซนติเมตร เดินไปมาได้สะดวก แต่ไม่แนะนำให้วางชั้น วางข้าวของตรงบริเวณนี้ค่ะ

โดยทางคอนโด Dolce อุดมสุขจะติดตั้งปลั๊กไฟกับปลั๊กสัญญาณให้พร้อม ผู้พักอาศัยสามารถติดตั้งโทรทัศน์แบบแขวนผนังได้ ขนาดที่แนะนำจะอยู่ที่ 26-32 นิ้ว กำลังดี ไม่ทำให้เสียสายตาค่ะ

และฝั่งซ้ายมือของเตียง จะเป็นฝั่งที่มีพื้นที่กว้างที่สุด เพราะเป็นจุดที่ไว้สำหรับแต่งตัว แต่งหน้า ซึ่งคอนโด Dolce อุดมสุขได้ Built in โต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อม สวยงาม

โต๊ะเครื่องแป้งลามิเนตยื่นออกมาจากผนังห้อง มีพื้นที่หน้าโต๊ะกว้างพอสมควรค่ะ สามารถวางของใช้ เครื่องสำอางได้สะดวก และเพิ่มที่เก็บของด้วยลิ้กชักข้างใต้ แต่ทางคอนโดจะไม่มีเก้าอี้ตรงส่วนนี้ให้ ทางทีมงานแนะนำว่า ให้ใช้เป็นเก้าอี้สตูลจะเวิร์กกว่า เพราะมีขนาดกะทัดรัด เลื่อนเก็บสะดวกค่ะ

มีปลั๊กไฟซ่อนอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งด้วย เวลาใช้ไดร์เป่าผม เครื่องม้วนผม จะได้สะดวกขึ้น

สำหรับตู้เสื้อผ้าของทาง Dolce อุดมสุขจะออกแบบพิเศษเพื่อเข้ากับแบบห้อง ตู้สูงถึงเพดาน 2.85 เมตร เรียกว่าใช้พื้นที่แนวตั้งได้อย่างคุ้มค่า เก็บของได้เยอะกว่าเดิม ราวแขวนผ้าของที่นี่ก็อยู่สูงกว่าปกติเช่นกันค่ะ แต่ทางคอนโดจะทำไม้ไว้ให้เรียบร้อย เวลาจะใช้งานแค่ดึงไม้ลงมา ก็สามารถหยิบเสื้อผ้าได้อย่างสะดวก

แต่ตู้ที่อยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้งจะเล็กกว่า เหมาะสำหรับคุณผู้ชายที่มีของไม่เยอะมากเท่าคุณผู้หญิงค่ะ

มาถึงโซนสุดท้ายของห้องแล้วค่ะ ห้องน้ำของคอนโดจะเป็นระบบ Hand Shower เพียงอย่างเดียว มีการแบ่งพื้นที่โซนแห้งและเปียกออกจากกันอย่างชัดเจน ด้วยแพลทติชันกระจก โดยสุขภัณฑ์ห้องน้ำจะเป็นของ American Standrad ได้แก่ อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกส่องหน้า, ชักโครก พร้อมสายฉีดชำระกับที่แขวนกระดาษทิชชู่, ราวแขวนติดผนัง และฝักบัวด้านในค่ะ พื้นและผนังปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 0.60x0.60 ม. แต่พื้นจะใช้กระเบื้องสีเทากันลื่น เพื่อไม่ให้ห้องน้ำสกปรกง่าย เพดานติดไฟ Down light เรียบร้อย มีช่องดูดอากาศให้ 1 จุด

พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องค่อนข้าง ซึ่งจะช่วยลดการเกิดคราบสกปรกได้ ธรณีสูง 2 นิ้ว แนะนำว่าให้หาพรมเช็ดเท้ามาวาง เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นลามิเนตเกิดความชื้น แล้วการเกิดบวมน้ำต่อไปในอนาคตค่ะ

ประตูห้องน้ำก็เป็นบานสําเร็จรูป กรุลามิเนตเช่นเดียวกับของห้องนอน แต่เนื่องจากห้องน้ำมีความชื้นสูงกว่า ทำให้ประตูมีโอกาสที่จะชำรุด และบวมน้ำได้ง่ายกว่า ผู้พักอาศัยจึงต้องดูแลมากกว่าปกติ เวลาใช้ห้องนำเสร็จให้เปิดประตูห้องไว้ เพื่อช่วยระบายความชื้นอีกทางหนึ่ง ลูกบิดประตูสแตนเลสของ HEFELE ด้านบนทำ Door Stopper เพื่อป้องกันประตูชนแพลทติชั่นกระจก และสามารถใช้แขวนผ้าเพิ่มได้

เครื่องดูดอากาศของ Panasonic อยู่แถวชักโครก

โซนแห้งจะวางอ่างล้างหน้า ชักโครก ชั้นวางของอยู่ในแนวเดียวกัน ระยะการนั่งชักโครกพอดีตัวคน ไม่อึดอัด

อ่างล้างหน้าแบบเซรามิกเคลือบ ฝังในเคาน์เตอร์ ซึ่ง top หน้าเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตสีดำ สวยงาม มีที่ให้วางของได้เยอะมาก ก๊อกน้ำผิวโครเมียม วาล์วหมุนเปิดปิด สะดืออ่างเป้นแบบปุ่มกดป๊อปอัพค่ะ

มีปลั๊กไฟสำหรับใช้งานไดร์เป่าผม

ข้างใต้อ่างเห็นระบบท่อน้ำแบบนี้ จะสะดวกในการซ่อมแซมบำรุงรักษา

ส่วนชักโครกก็ตั้งอยู่ข้างๆ กัน ด้านบนเป็นผนังยื่นเชื่อมกับเคาน์เตอร์อ่าง ใช้วางของได้

และทางคอนโด Dolce อุดมสุข ได้เพิ่มชั้นลอยเข้ามาเป็นไอเดีย ซึ่งห้องจริงจะไม่มีให้ค่ะ เป็นไอเดียที่น่าทำตาม เพราะจัดช่วยให้เราวางของได้เป็นระเบียบขึ้น แต่แนะนำว่าควรใช้วัสดุอย่างอื่น เช่น พลาสติก หรือสเตนเลส จะเหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำมากกว่าค่ะ

ราวแขวนติดผนังสเตนเลส

ในห้องอาบน้ำ ทางคอนโด Dolce อุดมสุข จะติดตั้งระบบน้ำร้อนไว้ให้ มีฝักบัวเรียบร้อย ผู้พักอาศัยสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้เลย แล้วอย่าติดตั้งสายดินเพื่อความปลอดภัยด้วยนะคะ โดยแพลทติชั่นกั้นห้องอาบน้ำจะเป็น Frameles หนา 10 มิลลิเมตร มีตัวยึดบานกระจก 3 จุด เพื่อเพิ่มความเแข็งค่ะ

ห้องจริง 1 ห้องนอน ขนาด 31.21 ตารางเมตร

ในส่วนของห้องจริงจะมีเฟอร์นิเจอร์ Built in ให้เหมือนกับในห้องตัวอย่างค่ะ แค่ไม่ได้มีของตกแต่ง และไม่ได้ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น พื้นปูกระเบื้องสลับกับลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ตามห้องตัวอย่าง แต่ผนังห้องจริงจะก่ออิฐทาสีทั้งหมด ไม่ได้ติดวอลเปเปอร์ให้ค่ะ

เมื่อเปิดห้องมาการวางพื้นที่ การจัดวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะเหมือนกับของห้องตัวอย่างค่ะ

การเข้าออกห้องเป็นระบบ digital door lock ใช้ key card ในการเปิดปิด

ประตูด้านในเป็นที่จับก้านโยก มีตัวหมุนล็อก กับกลอนรูดให้ค่ะ

สวิตซ์ไฟแบบมาตราฐาน ของ Panasonic

ปลั๊กไฟก็เป็นของ Panasonic เช่นกันค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวก็เป็นรูปตัวแอล (L) Top ครัวด้วยหินแกรนิต หนา 20 มิลลิเมตรเช่นกัน ชั้นบนและล่าง Built in ตู้เก็บของลามิเนตให้เรียบร้อย บานเปิดปิด SoftClose ฝั่งตรงข้ามเป็นช่องใส่ตู้เย็นกับเครื่องซักผ้าตามที่เห็นในห้องตัวอย่างค่ะ

พื้นครัวปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 0.60x0.60 ม. สีดำ

เคาน์เตอร์ครัวฝังเตาไฟฟ้าสเตนเลส 2 หัว คู่กับเครื่องดุดควันระบบหมุนวน ของ HEFELE

เตาไฟฟ้าขนาด 268x495  มม.

ตู้ลามิเนตบนชุดครัวค่ะ

ด้านหลังชุดครัวมีปลั๊กไฟให้ 2 จุด ผนังตรงนี้จะปูกระเบื้องสีดำ ป้องกันคราบน้ำมันให้เรียบร้อย

พื้นที่ประกอบอาหารแบบเข้ามุม จึงทำให้มีที่วางของเยอะ

มีตู้เก็บรองเท้า Built in วางได้ประมาณ 6 คู่

ตู้ใต้ซิงค์ล้างจาน ซ่อนระบบท่อน้ำไว้แบบนี้ แต่ยังก็มีเนื้อที่ให้เก็บของได้อีกค่ะ

ช่องใส่ไมโครจะอยู่ด้านล่าง ซึ่งทางคอนโด Dolce อุดมสุข จะเดินระบบไฟไว้ให้แล้ว

มีปลั๊กไฟอยู่ในสุด

หันมาทางฝั่งตู้เย็นกันบ้างค่ะ โดยช่องใส่ตู้เย็นกับเครื่องซักผ้าจะฟิกซ์ขนาดมาให้แล้ว แต่ใหญ่พอสมควร สามารถใส่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้เลย

ช่องใส่ตู้เย็นขนาด 180x30 เซนติเมตร สามารถใส่ตู้เย็นขนาด 13.3 คิวได้

ด้านในมีปลั๊กไฟให้ 1 จุด

ส่วนช่องใส่เครื่องซักผ้าจะไว้สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบนเท่านั้น

ทางคอนโด Dolce อุดมสุข ได้เดินระบบประปา ท่อน้ำให้เสร็จสรรพ เรียบร้อย

ชั้นวางของ Built in ของคอนโดจะสูงติดเพดาน ตามความสูงห้อง 2.85 เมตร ทำให้มีที่เก็บของเยอะ แต่ก็ลำบากในการหยิบวางของเช่นกัน ชั้นสูงๆ จึงควรใช้เก็บของที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆ จะดีกว่าค่ะ

แต่ห้องจริงจะไม่ได้กั้นแพลทติชันกระจกตรงห้องครัวให้ค่ะ ถ้าใครไม่อยากมีมีกลิ่นรบกวน แนะนำว่าให้ติดตั้งแพลทติชันแบบห้องตัวอย่างจะดีกว่า ส่วนชุดโต๊ะทานข้าวก็จะมีหน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่างกัน ได้โต๊ะทานข้าว 1 ตัว กับเก้าอี้ 2 ตัว

โซนห้องนั่งเล่นก้มีการจัดวางที่เหมือนกัน แต่จะไม่มีโต๊ะกลางมาให้ค่ะ

พื้นห้องนั่งเล่นเป็นลามิเนตหนา 8 มม.

ชั้นวางโทรทัศน์ Built in มาให้เรียบร้อย ที่ต่างจากห้องตัวอย่างคือ ไม่มีชั้นลอยข้างบนค่ะ

ด้านล่างแบ่งเป็นช่องใส่ของ 2 ช่อง กับลิ้นชักอีก 2 ลิ้นชัก

ด้านในมีปลั๊กไฟกับปลั๊กสาย LAN พร้อม

และมีปลั๊กสัญญาณให้ติดตั้งโทรทัศน์

ฝั่งที่เชื่อมกับระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม ซึ่งบานเลื่อนจะเป็นกระจกตัดแสงสีเขียว ช่วยกรองแสงที่เข้ามายังตัวห้องได้ระดับหนึ่ง และเครื่องปรับอากาศที่ทางคอนโดให้กับห้องจริงก็จะเป็นของ Trane ขนาด 12,000 BTU เช่นกัน

จริงๆ ทางคอนโด Dolce อุดมสุข ได้ทำราวสำหรับแขวนผ้าม่านให้เรียบร้อยแล้ว ผู้พักอาศัยสามารถแขวนผ้าม่านทั้งแบบโปร่งและทึบได้

ที่ล็อกประตูระเบียงเป็นแบบเซาะร่องค่ะ

พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิก ขนาด 0.30x0.30 ม. ยกธรณีสูง 2 นิ้ว

ติดตั้งไฟระเบียงให้ เพื่อความสะดวกยามใช้งาน

ระเบียงกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตกจะตากผ้าได้ดีกว่า เพราะได้รับแสงแดดมากกว่าค่ะ

ราวกันตกสูง 1 เมตร

คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนไว้ด้านบนทั้ง 2 ตัว ทำให้ไม่เกะกะพื้นที่ระเบียง พร้อมทำระแนงกั้น เพื่อความปลอดภัยและสวยงาม หากมองจากนอกอาคารจะไม่เห็นคอมเพรสเซอร์แอร์ค่ะ

ที่เชื่อมไปยังห้องนอน พื้นห้องนอนจะปูพื้นลามิเนตแบบเดียวกับห้องนั่งเล่น ผนังกั้นห้องก็ก่ออิฐแล้วฉาบเรียบเช่นกัน

สวิตซ์ไฟห้องนอนจะอยุ่ตรงประตูพอดี

ทางคอนโด Dolce อุดมสุขจะให้ฐานเตียงมา แต่ไม่มีฟูกให้ค่ะ

หน้าต่างเป็นแบบเต็มบานเช่นกับของห้องตัวอย่างค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งหน้าต่างแคบ เดินไม่สะดวก

เครื่องปรับอากาศในห้องนอนเป็นของ Trane ขนาด 9,400 BTU

ส่วนปลายเตียงก็กว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ไม่แนะนำให้วางของเพิ่ม เพราะจะทำให้ห้องอึดอัดเกินไป

ตรงปลายเตียงมีปลั๊กไฟกับปลั๊กสัญญาณพร้อม ให้ผู้พักอาศัยติดตั้งโทรทัศน์แบบแขวนผนังได้

ภาพห้องนอนจากฝั่งหน้าต่างค่ะ จะเห็นตู้เสื้อผ้า Built in กับโต๊ะเครื่องแป้งตั้งอยู่ และมีเชื่อมไปยังห้องน้ำด้านในด้วย

โต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่ข้างเตียง แต่ห้องจริงจะไม่มีเก้าอี้เตรียมไว้ให้ ผู้พักอาศัยอาจหาเก้าอี้มาเพิ่มเอง อาจใช้เป็นเก้าอี้สตูลก็ได้ค่ะ ขนาดกะทัดรัดแถมยังเก็บเข้าที่ได้สะดวก ไม่เกะกะขวางทาง

โต๊ะเครื่องแป้งก็มีหน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ มีปลั๊กไฟให้พร้อมแบบนี้

และปลั๊กไฟอีก 1 จุดจะอยู่งตรงหัวเตียงฝั่งนี้เช่นกัน ไว้สำหรับชาร์จแบตมือถือ หรือเล่นโน้ตบุ๊กจะได้สะดวก

ตู้เสื้อผ้าของที่Dolce อุดมสุขจะ Built in มาให้ 3 ตัว แบ่งเป็น 2 ตู้ใหญ่กับ 1 ตู้เล็กตรงข้างโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

ตู้ใหญ่จะเก็บของได้เยอะมาก เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีเสื้อผ้าเยอะ ราวแขวนอยู่สูง แต่จะมีด้ามจับให้ดึงลงมาใช้งานได้สะดวก

เวลาดึงไม้ลงมา ราวจะตั้งฉาก 90 องศา ระดับประมาณหน้าอก เพราะฉะนั้นจะไม่มีปัญหาในการใช้งานสำหรับคุณผู้หญิงที่ตัวเล็กค่ะ

ล่างสุดของตู้เป็นลิ้นชักให้เก็บของ

ส่วนตู้เสื้อผ้าใบเล็กที่อยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้งจะไม่สูงมากค่ะ เป็นราวแขวนปกติ มีช่องเก็บของให้เช่นกัน

ทางเข้าไปยังห้องน้ำส่วนตัว

สุขภัณฑ์ห้องน้ำก็จะเป็นของ American Standard หน้าตาเหมือนกับในห้องตัวอย่าง

กระจกส่องหน้าบานใหญ่ และตรงส่วนนี้ทางคอนโด Dolce อุดมสุข จะตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค Cotto ขนาด 0.30x0.30 ค่ะ

อ่างล้างหน้าแบบฝั่งในเคาน์เตอร์ ที่มีให้วางของได้เยอะ

ก๊อกน้ำผิวโครเมียม วาล์วหมุนเปิดปิด

สะดืออ่างแบบปุ่มกดป๊อปอัพ แบบที่เห็นได้ทั่วไปตามคอนโดมิเนียมต่างๆ ค่ะ

ข้างๆ มีปลั๊กไฟ 1 จุด พร้อมที่ครอบกันน้ำ เพื่อความปลอดภัย

ชักโครกเป็นแบบเซรามิกเคลือบ มีระยะการนั่งไม่อึดอัด ซึ่งผู้พักอาศัยอาจหาถังขยะใบเล็กๆ มาวางเสริมได้เล็กน้อย

ระบบปล่อยน้ำเป็นแบบ 2 ระดับค่ะ คือสำหรับปล่อยหนักกับปล่อยเบา จะช่วยประหยัดน้ำได้ยิ่งขึ้น

สายฉีดชำระจับถนัดมือ

ด้านหลังชักโครกทำเป็นผนังยื่นออกมาเชื่อมกันเคาน์เตอร์อ่าง ทำให้วางของเล็กๆ น้อยๆ ได้สะดวก

ห้องอาบน้ำเป็นระบบ Hand shower อย่างเดียว ทางคอนโดจะติดตั้งฝักบัวผิวโครเมียม กับระบบน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย ผู้พักอาศัยสามารถติดเครื่องทำน้ำอุ่นได้ค่ะ

ฝักบัวก๊อกผสมยืนอาบ รุ่นเซวา ผิวโครเมียม ของ American Standard

วาล์วปรับระดับน้ำด้านล่าง

มีการยกพื้นตรงห้องอาบน้ำประมาณ 2 นิ้ว ป้องกันไม่ให้น้ำไหลไปยังโซนแห้ง

และหน้าห้องน้ำก็ยกธรณีเล็กน้อยค่ะ แนะนำว่าให้วางพรมเช็ดเท้ามาวางไว้บริเวณนี้ด้วย ไม่ให้น้ำเปียกไปนอกห้อง เพราะพื้นห้องนอนเป็นลามิเนตจะบวมน้ำได้ง่ายค่ะ

สำรวจโลเคชั่นรอบโครงการ Dolce อุดมสุข

บรรยากาศในซอยสุขุมวิท ¹⁰³⁄₂ จะเป็นพื้นที่ชุมชนสลับกับพื้นที่รอการพัฒนาค่ะ ซึ่งจะมีร้านค้า ร้านอาหารตั้งอยู่ตลอดทาง ทำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงามากนัก และถัดเข้าไปเกือบสุดซอยจะมีโรงเรียนรุ่งเรืองอุปถัมภ์ตั้งอยู่ จึงทำให้ช่วงกลางวันคึกคักกว่าปกติค่ะ แต่หากตรงช่วงไหนที่เป็นพื้นที่รอการพัฒนา บริเวณนั้นจะเงียบเล็กน้อย เวลากลางคืนอาจดูเปลี่ยวไปบ้าง ถ้าใครต้องกลับเข้าคอนโดดึกๆ แนะนำว่าให้ใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์หรือรถรับขนส่งของทางคอนโดจะสะดวกปลอดภัยกว่า

บรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท103/2

หน้าปากซอยมีร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่ มาร์ท แต่ถัดไปทาง BTS อุดมสุข จะเป็นเซเว่น อีเลเว่น อยู่ใกล้ๆ กันค่ะ

ถนนในซอยเป็นถนน 2 เลนวิ่งสวนกัน ขนาดไม่กว้างมากนักค่ะ ถ้าจุดไหนที่มีรถจอดอยู่ อาจจะต้องเบี่ยงรถเพื่อให้ทางกันเล็กน้อย

มีทางทะลุไปบางนา-ตราดได้ค่ะ

ร้านค้า บ้านเรือน และหอพักใกล้ๆ คอนโด

ส่วนใหญ่จะเป็นร้านแบบ Street food ราคาไม่แพง หากินง่าย

พื้นที่รอการพัฒนาจะอยู่สลับกับบ้านเรือนเป็นระยะๆ ค่ะ

มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงโรงเรียนรุ่งเรืองอุปถัมภ์ หากวิ่งเข้า-ออกซอย ค่าบริการจะอยู่ที่ 10 บาทเท่านั้น

สถานที่ใกล้เคียง

นอกจากร้านค้าต่างๆ ภายในซอย ย่านอุดมสุข-บางนาก็มีสถานที่แลนมาร์คอื่นด้วยเช่นกัน อย่าง ศูนย์แสดงสินค้า ไบเทค บางนา , โรงเรียนนานาชาติ เบอครี้ , โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 หรือเซ็นทรัล บางนา เป็นต้น

สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด คือสถานีอุดมสุขที่ห่างจากตัวคอนโด 600 เมตร

อีกสถานีคือสถานีบางนาค่ะ

โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 อยู่ฝั่งตรงข้ามซอยสุขุมวิท ¹⁰³⁄₂

(ภาพจาก http://www.berkeley.ac.th/)

โรงเรียนนานาชาติเบอครี้ ก็อยู่ไม่ไกลมาก เดินทางได้สะดวกค่ะ

(ภาพจาก www.patana.ac.th)

และโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา อาจส่งผลให้ถนนโซนนี้รถหนาแน่นเล็กน้อย ในช่วงเช้า

(ภาพจาก http://www.bitec.co.th)

ถัดไปมาทางแยกบางนาจะเจอศูนย์แสดงสินค้า ไบเทค บางนา ที่จะมีรถติดเป็นช่วงๆ เฉพาะเวลามีงานหรือพิธีพระราชทานปริญญาบัตรค่ะ

(ภาพจากเพจ CentralPlaza Bangna)

แหล่งอำนวยความสะดวกก็มีหลายที่อยู่ค่ะ อย่าง เซ็นทรัล บางนา , บิ๊กซี บางนา , อิเกีย และเมกะ บางนา

วิเคราะห์โครงการ Dolce อุดมสุข

ทำเล :คอนโดDolce อุดมสุข ตั้งอยู่ในย่านอุดมสุข-บางนา ซึ่งเรียกได้ว่าแหล่งธุรกิจแห่งใหม่ ที่น่าจับตามอง เนื่องจากพื้นที่บริเวณที่ตั้งคอนโดมีศักยภาพในการพัฒนาค่อนข้างสูง มีโอกาสที่จะเจริญเติบโตต่อไปได้อีกในอนาคต บวกกับสภาพแวดล้อมรอบโครงการก็ยังมีแผนพัฒนา ก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายเช่น The Bangkok Mall โดย The Mall Group ทำให้มูลค่าของที่ดินย่านนี้สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน และคอนโดDolce อุดมสุข ยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีอุดมสุขเพียง 600 เมตร จึงส่งผลให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว ระบบขนส่งมวลชน หรือแม้กระทั้งรถโดยสารสาธารณะก็ตาม

สภาพล้อมแวดล้อม : คอนโดDolce อุดมสุขตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท ¹⁰³⁄₂ ลึกเข้าไปประมาณ 300 เมตร บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างคึกคัก รถวิ่งผ่านสัญจรมาก มีความสมบูรณ์ทางด้านอาหารการกิน เนื่องจากเป็นแหล่งที่ตั้งของบ้านเรือน หอพัก โรงเรียน และร้านค้าต่างๆ โดยตัวคอนโดจะตั้งลึกเข้าไปในซอย อยู่ตรงบริเวณหัวมุมถนนพอดี ทำให้สามารถทะลุออกไปยังเส้น บางนา-ตราด ได้สะดวก และรอบรั้วคอนโดจะทำการปลูกต้นไม้สูงราว 3 เมตร เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้พักอาศัย

แบบห้อง : แบบห้องของทาง Dolce อุดมสุข มี 2 ประเภท คือห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 31 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน ขนาด 66.76 ตารางเมตรที่มีเพียงห้องเดียวเท่านั้นตรงชั้น 7 เพราะฉะนั้นห้องของคอนโดDolce อุดมสุขจึงเหมาะสำหรับผู้พักอาศัย 1-2 คน และผู้ที่ทำงานอยู่ในย่านสุขุมวิทโซนบางนาเสียมากกว่า โดยห้องแบบ 1 ห้องนอนนั้น จะมี Type ให้เลือกเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ ทั้งแบบ 1 Bedroom จนถึง 1 Bedroom plus ขนาด 34 ตารางเมตร(ห้องมุม) ซึ่งขนาดของแต่ละห้องก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรนักค่ะ แค่กลับด้าน สลับฝั่งกันเท่านั้น

สิ่งอำนวยความสะดวก : facilities ของDolce อุดมสุขมีให้พอๆ กับคอนโดมิเนียมอื่นทั่วไป คือห้องฟิตเนส ,สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ,โถงล็อบบี้แบบ Double Volume พร้อมชั้นหนังสือ, ระบบรักษาความปลอดภัย, กล้อง CCTV และบริการรถรับส่ง แต่ด้วยอุปกรณ์ที่ค่อนข้างมีคุณภาพ บวกกับอัตราส่วนของผู้พักอาศัยที่มีเพียง 76 ห้อง ทำให้การใช้งาน facilities ต่างๆ ของคอนโดมีความพอดี ผู้พักอาศัยไม่ต้องมาแย่งกันใช้บริการค่ะ

ราคา :ต้องบอกว่าราคาของคอนโดDolce อุดมสุขค่อนข้างถูกกว่าคอนโดในย่านใกล้กัน ซึ่งหากเทียบเป็นราคาต่อตารางเมตรแล้ว ตกอยู่ที่ตารางเมตรละ 85,000 บาท โดยห้องที่ได้รับจะเป็นห้องแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ Built in มาให้แล้วเรียบร้อย หากใครไม่ซีเรียสเรื่องการตกแต่งมากนัก ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินตกแต่งเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ เพราะเฟอร์นิเจอร์ของคอนโดนั้น มีความลงตัวกับรูปแบบห้องอยู่แล้ว และด้วยทำเลที่อยู่ในย่านธุรกิจใหม่ จึงเหมาะสำหรับคนเริ่มทำงาน เพราะเรทราคาไม่แรงมาก สามารถเอื้อมถึงได้สบายๆ แต่ก็ต้องยอมเดินเข้าซอยนิดนึง ไม่ก็ใช้บริการวินมอไซต์ 10 บาท หรือรถรับส่งของทางโครงการค่ะ

โครงการDolce อุดมสุขเหมาะสำหรับคนเริ่มทำงานในย่านสุขุมวิท โซนบางนา เพราะด้วยราคาที่ไม่สูงมากนัก เริ่มต้นที่ 2.7 ล้านบาท แต่ได้ห้องแบบ Fully Furnished จึงทำให้เป็นหนึ่งคอนโดที่น่าสนใจ น่าจับตามอง หากพูดถึงเรื่องความสะดวกสบายก็สบายในระดับหนึ่งค่ะ เพราะมี facilities ให้ใช้เพียงพอต่อความต้องการของผู้พักอาศัย ส่วนสถานที่ใกล้เคียงคอนโดDolce อุดมสุขก็จะมี Bitech บางนา ที่พอมีงานแสดงสินค้าหรืองานรับปริญญา รถจะติดเป็นพิเศษ แต่เวลาปกติก็สามารถเดินทางได้ปกติค่ะ แหล่งอำนวยความสะดวกแถวนั้นก็จะมี เมกะ บางนา ,บิ๊กซี ,โลตัส และ The Bangkok Mall ที่จะสร้างในอนาคต ซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกสบาย เพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินในย่านนั้นค่ะ ในเรื่องการเดินทางก็เป็นไปอย่างสะดวกเช่นกัน ทั้งรถไฟฟ้า Bts ,รถโดยสารสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว เพราะถนนหลักคือ ถนนสุขุมวิทที่วิ่งเข้าเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถีและวงแหวนรอบนอก