[Review] ไอ-บิซา คอนโดมิเนียม (i-Biza Condominium) คอนโดสังคมคอมมูนิตี้ ย่าน RCA กับโปรโมชั่นเอาใจคนเมืองที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย
ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
Review Info
ข้อมูลโครงการ ไอ-บิซา คอนโดมิเนียม (i-Biza Condominium) โดยละเอียด
ชื่อโครงการ
ไอ-บิซา คอนโดมิเนียม (i-Biza Condominium)
ราคาห้องเริ่มต้น
2.19 ล้านบาท (สำหรับห้องแบบ fully fitted ขนาด 32 ตารางเมตร)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม.
684000 บาท/ ตร.ม.
เว็บไซต์โครงการ
เบอร์โทรติดต่อ
021602121
วงเงินกู้ 100%
N/A
ราคาเมื่อวันที่ 1/11/2016
สำหรับโปรโมชั่น Smart Home Package ห้องขนาด 32 ตารางเมตร จะเริ่มต้นที่ 2.53 ล้านบาท (เฉพาะอาคาร A) โดยภายในห้องจะได้เฟอร์นิเจอร์ Built in พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบ สามารถย้ายกระเป๋าเข้าได้เลย
เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ สามารถสอบถามจากพนักงานขายได้ ณ วันทำการค่ะ
Location
ที่ตั้งโครงการ ไอ-บิสซา อาร์.ซี.เอ (i-Biza RCA)
สำหรับการเดินทางที่ง่ายที่สุดในการมายังโครงการ ไอ-บิซา (i-Biza RCA) คือการขับรถยนต์ส่วนตัวมาค่ะ แต่ถ้าใครนั่งรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรีหรือสถานีพระราม 9, แอร์พอร์ตลิงค์สถานีมักกะสัน จะต้องต่อรถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ หรือแท็กซี่เข้ามาก็ได้ค่ะ
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากแยกพระราม 9 โดยใช้ถนนเส้นพระราม 9 มุ่งหน้าตรงไปยังซอย RCA เพื่อเข้าสู่ตัวโครงการค่ะ
ขับรถมาตามทางเรื่อยๆ ค่ะ จะเจอกับแยกอ.ส.ม.ท. ให้ขับมุ่งหน้าตรงไปตามทิศลูกศรเลยค่ะ
ต่อมาจะเจอกับแยกผังเมืองค่ะ ให้ชิดขวาเตรียมตัวเลี้ยวเข้าสู่ ถนนพระราม 9 ซอย 8 ซึ่งเชื่อมกับซอย RCA
ด้านหน้าทางเข้าจากถนนพระราม 9 ซอย 8 ค่ะ
จากถนนพระราม 9 ซอย 8 ให้วิ่งผ่านแยกทางพิเศษศรีรัชไป จะเข้าสู่ซอย RCA เดินทางต่อเข้าไปอีกประมาณ 750 เมตร จะถึงตัวโครงการค่ะ
และแล้วเราก็มาถึงประตูทางเข้าฝั่ง RCA ของโครงการ ไอ-บิซา อา.ซี.เอ (i-Biza RCA) แล้วค่ะ
ถ้าจะเดินทางเข้าจากทางฝั่งโรงพยาบาลปิยะเวท ก็ให้มุ่งหน้าตรงมาจากแยกผังเมืองค่ะ ทางฝั่งขวามือจะเห็นตึกสูงๆ จะเป็นตึกของคอนโด TC Green แสดงว่าเรามาถูกทางแล้วค่ะ ให้วิ่งตรงไปตามทางเลย
จากถนนพระราม 9 ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนริมคลองสามเสน ผ่านโรงพยาบาลปิยะเวทเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตรค่ะ
และแล้วเราก็ถึงทางเข้าของโครงการ i-Biza RCA จากทางฝั่งโรงพยาบาลปิยะเวท ซึ่งเป็นทางที่ใช้รวมกับคอนโด ไอ-เฮาส์ LAGUNA GARDEN อาร์.ซี.เอ (i-House LAGUNA GARDEN RCA) ด้วยค่ะ
Insight
เจาะลึกภาพรวมโครงการ ไอ-บิสซา อาร์.ซี.เอ (i-Biza RCA)
คอนโด i-Biza RCA ตั้งอยู่ในย่านพระราม 9 และ RCA ซึ่งเมื่อเข้าไปที่โครงการครั้งแรก จะให้ความรู้สึกร่มรื่น ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และพื้นที่สีเขียวในแบบที่ไม่ค่อยพบเห็นได้ตามคอนโดมิเนียมอื่นๆ ทั่วไป เนื่องจาก i-Biza RCA จะมุ่งเน้นการอยู่อาศัยร่วมกันแบบคอมมูนิตี้ โดยตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับ คอนโด i-House RCA ใช้ทางเข้า-ออกเดียวกัน เนื่องจากทั้งสองคอนโดมี Developer เจ้าของเดียวกัน แต่จะแบ่งการบริหารออกจากกันอย่างชัดเจนค่ะ
คอนโด i-Biza RCA มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีความเป็นคอมมูนิตี้ อาคารทั้ง 4 อาคารจะตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันทั้งหมด โดยทางเข้าคอนโดสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง คือ ทางฝั่ง RCA และฝั่งพระรามเก้า ที่เป็นทางเข้าหลักของคอนโดนั่นเอง ซึ่งหากเราเข้าทางฝั่ง RCA จะเจอกับอาคาร Aอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งอาคารนี้จะเหมาะสำหรับผู้พักอาศัยที่ชอบใช้บริการ Facilities เป็นเนื่องจากห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และห้องซาวน่า จะอยู่ที่อาคารนี้ทั้งหมด แต่สำหรับอาคาร Bจะให้ความรู้สึกสงบ และสะดวกในการเข้าออกคอนโดมากกว่า เนื่องจากอยู่ใกล้ทางเข้าหลักฝั่งพระรามเก้าอีกทั้งยังใกล้กับตึกจอดรถ 8 ชั้น ส่วน อาคาร C กับ D จะอยู่ติดกัน เนื่องจากเป็นอาคารสำหรับปล่อยเช่า ตรงส่วนนี้จะมีบริการแม่บ้านที่เข้ามาดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งจะแยกออกจากอาคาร A กับ B ชัดเจนค่ะ
สำหรับเรื่องการจอดรถของคอนโดi-Biza RCAจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ตึกจอดรถ 8 ชั้น ทางขวามือตรงทางเข้าฝั่งพระรามเก้า (คิดเป็น 33 %) บวกกับบริเวณหน้าอาคารต่างๆ และด้วยความที่พื้นที่คอนโดค่อนข้างมากกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไป จึงต้องมีการจัดสรรเส้นทางเดินรถไว้อย่างเป็นระเบียบ หน้าทางเข้าอาคารทั้ง 2 ทาง จะตั้งป้อมยามพร้อมไม้กั้น เพื่ออำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้พักอาศัยค่ะ
ในส่วนของทิศการตั้งอาคาร จะสังเกตเห็นว่า อาคาร A จะเป็นอาคารที่มีทำเลดีที่สุด เนื่องจากลักษณะอาคารที่วางไปตามทิศตะวันออก-ตะวันตก ทำให้แต่ละห้องหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ ส่งผลให้ห้องไม่ร้อนมาก เหมาะการแก่อยู่อาศัย ซึ่งหากใครสนใจ แนะนำให้ดูห้องที่อาคารนี้ก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ ถึงกระนั้นใช่ว่าอาคาร B จะไม่ดี เพราะถึงลักษณะอาคารจะวางไปในทิศเหนือใต้ แต่จะได้ร่มเงาจากอาคาร C ช่วยบังแสงอาทิตย์ไว้ส่วนหนึ่ง ทำให้ห้องไม่ร้อนมากอย่างที่ควรจะเป็นค่ะ ส่วนอาคาร C และ D คงไม่มีปัญหามาก เนื่องจากเป็นอาคารไว้สำหรับปล่อยเช่าเท่านั้น
ทาง i-Biza RCA ได้แยกการจัดสรรคอนโดไว้เป็น 2 ส่วน คืออาคาร A กับ B ไว้สำหรับการซื้อขาย ส่วนอาคาร C กับ D ไว้สำหรับปล่อยเช่าค่ะ เนื่องจากลูกค้าของ i-Biza RCA มีความต้องการที่แตกต่างกัน และทางพนักงานขายได้บอกกับทางทีมงานว่า การแบ่งลักษณะนี้จะช่วยในเรื่องการดูแลรักษาอาคารให้มีความพร้อมอยู่เสมอ และง่ายต่อการดูแลอีกด้วยค่ะ
ภายในโครงการจะประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัย High Rise ทั้งหมด 4 อาคาร ได้แก่
อาคาร A จำนวน 13 ชั้น
อาคาร B จำนวน 16 ชั้น
อาคาร C กับ D จำนวน 16 ชั้น
ซึ่งวันนี้เราจะไปชมในส่วนของอาคาร A กันค่ะ
ทางเข้าตัวคอนโดจะใช้ระบบ Key card ในการเข้าออกทุกครั้ง ซึ่งตรงส่วนนี้จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยอำนวยความสะดวกอยู่
ห้องนิติบุคคลจะอยู่หน้าสุดของโครงการ เยื้องๆ กับ แฟมมิลี่ มาร์ท ค่ะ
สำหรับ facilities ต่างๆ ไม่ว่าจะสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และห้องซาวน่า จะอยู่ภายในอาคาร A โดยผู้พักอาศัยอาคารอื่น สามารถเข้ามาใช้บริการได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องจัดสรรเวลาให้ดี เพราะหากเทียบจำนวน facilities กับจำนวนผู้พักอาศัย จะค่อนข้างน้อยไปสักหน่อยค่ะ
สำหรับตึกจอดรถมี 8 ชั้น หรือคิดเป็น 33 % (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ซึ่งอาจจะดูน้อยเมื่อเทียบกับอัตราส่วนผู้พักอาศัย แต่ทางพนักงานขายได้บอกกับทางทีมงานว่า ผู้พักอาศัยของคอนโด i-Biza RCA ส่วนใหญ่จะลูกค้าชาวต่างชาติ กับบุคลากรโรงพยาบาลปิยะเวช ซึ่งลูกค้าเหล่านี้จะไม่ได้ใช้รถส่วนตัว ทำให้ที่จอดรถเพียงพอต่อผู้พักอาศัยค่ะ
ไม่เช่นนั้น ผู้พักอาศัยก็สามารถจอดรถที่หน้าอาคารได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่พักอาศัยอยู่ชั้น 1 ยิ่งสะดวกเข้าไปใหญ่ค่ะ สำหรับอาคารที่ทีมงานได้ขึ้นไปเยี่ยมชมในวันนี้คือ อาคาร A ค่ะ ซึ่งจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตรทั้งหมด โดยชั้น 1 ของอาคาร จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่ สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และห้องซาวน่า ส่วนห้องชุดพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 2 ขึ้นไปจนถึงชั้นที่ 13 ค่ะ รวมจำนวนห้องทั้งหมด 180 ห้อง แบ่งเป็นชั้นละ 15 ห้องค่ะ
การเข้าออกคอนโดจะใช้ระบบ Keycard ทั้งหมดค่ะ อย่างด้านหน้าคอนโด ผู้พักอาศัยก็ต้องใช้ Keycard ในการเปิดไม้กั้น ถึงจะเข้าไปยังลานจอดรถได้ พร้อมมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยให้อำนวยความสะดวกอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
เมื่อเข้าไปยังภายในโครงการ ตึกสูงที่เห็นทางซ้ายมือคือ อาคาร B ที่จะขายห้องแบบ Fully Fitted ส่วนทางขวามือเป็นอาคาร D และ C ที่ไว้สำหรับปล่อยเช่าเท่านั้น ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าหน้าอาคารแต่ละอาคาร จะมีที่จอดรถให้ ทำให้จำนวนที่จอดรถเพียงพอต่อผู้ผักอาศัย และที่พิเศษกว่าห้องอื่นๆ คือห้องที่อยู่ตรงชั้น 1 จะมีสวนส่วนตัวเล็กๆ อยู่ทางด้านหน้าด้วยค่ะ
ส่วนห้องนิติบุคลจะอยู่หน้าสุดของคอนโด ข้างๆ ร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่ มาร์ท
หากใครหิวยามดึก ไม่อยากเดินออกไปหาร้านค้าด้านนอกก็สามารถใช้บริการแฟมิลี่ มาร์ท แทนได้ เพราะอยู่ใกล้ เดินแปปเดียวถึง
หากมองจากภายนอกจะสังเกตเห็นว่าไม่มีระเบียงยื่นออกมา เนื่องจากระเบียงของ i-House RCA จะเป็นแบบปิด ทำช่องระบายอากาศไว้ให้เพื่อไม่ให้ห้องอับทึบเกินไปค่ะ
สำหรับชั้น 1 ของอาคาร A จะเป็นส่วน facilities ทั้งชั้น โดยมีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ยื่นออกจากตัวอาคาร ใกล้กับห้องฟิตเนสและห้องซาวน่า หากอยากใช้บริการก็สามารถเข้าจากทางหน้าอาคารได้เลย มีเจ้าหน้าที่ให้บริการอยู่หน้าทางเข้า
สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดไม่ใหญ่มาก ต้องผลัดกันใช้ ซึ่งตอนที่ทีมงานไปเป็นเวลาช่วงเที่ยง จะไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการสักเท่าไรค่ะ พื้นที่รอบสระตั้งเก้าอี้ไว้เป็นจุดๆ ซึ่งทางปลายสระจะทำหลังคาบังแดด ตอนเย็นๆ จะมีคนมาเล่นโยคะตรงนี้บ้าง บริหารร่างกายบ้าง
อ่างจากุชชี่เล็กๆ มีน้ำพุอยู่ด้านใน น้ำตรงบริเวณนี้จะไม่ลึกมาก แต่ถ้าเป็นเด็กๆ ก็ควรระวังนิดนึง เพราะทางคอนโดไม่ได้แยกสระเด็กไว้ให้
ห้องกระจกที่เห็นในภาพ เป็นห้องฟิตเนสของคอนโด ซึ่งต่อให้ทำหน้าต่างเป็นกระจกบานเลื่อน ก็ไม่ค่อยได้เปิดใช้งานสักเท่าไร เนื่องจากอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลย เวลามีคนมาว่ายน้ำ น้ำจะกระเด็นเข้าห้องค่ะ
ก่อนถึงบันไดลงสระเป็นที่ล้างตัวก่อนลงสระ เป็นระบบ Rain Shower กับ Hand Shower พื้นกับผนังปูกระเบื้องเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษา
ระบบ Rain Shower ด้านบน
ฝักบัวอยู่ข้างล่าง ในระดับที่เด็กสามารถที่จะหยิบจับใช้งานเองได้
จริงๆ แล้วต่อให้สระไม่กว้างมาก แต่ค่อนข้างยาวอยู่ค่ะ หากว่ายติดกันรอบสองรอบก็เหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ
ด้านหลังสระเป็นทางลงไปยังพื้นที่สีเขียวรอบๆ อาคาร
สำหรับห้องฟิตเนสจะเป็นห้องกระจกอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ หน้าต่างเป็นบานเลื่อนสามารถเลื่อนเปิิดระบายอากาศได้ แต่ดูแล้วไม่ค่อยได้เปิดสักเท่าไรค่ะ เนื่องจากเป็นห้องแอร์ และน้ำในสระยังกระเด็นเข้ามาในห้องอีกด้วย
อุปกรณ์ภายในห้องค่อนข้างเยอะกว่าคอนโดมิเนียมอื่นๆ พื้นปูลามิเนจเพื่อป้องกันแรงกระแทก และการชำรุดเสียหายของพื้น
ทางคอนโดเลือกใช้อุปกรณ์ของ Fitness Life เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและค่อนข้างได้รับการยอมรับในสากลค่ะ
แต่ละจุดจะมีโทรทัศน์สำหรับต่อสาย USB ดูหนัง ฟังเพลง คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ
หากใครต้องการออกกำลัง เวทหนักๆ ก็มีอุปกรณ์รองรับอยู่ด้านในสุดค่ะ และเนื่องจากอุปกรณ์ของคอนโดค่อนข้างเยอะ ทำให้ผู้พักอาศัยไม่ต้องแย่งกันมากนัก
ผนังติดกระจกเงา ช่วยเพิ่มความกว้างให้แก่ห้อง และดูไม่อึดอัดเวลามาออกกำลังกายค่ะ
ภายในแบ่งโซนเวท โซนคาดิโอ กั้นไว้เป็นส่วนๆ สามารถเลือกใช้บริการได้ตามต้องการ
ดัมเบลก็มีหลากหลายขนาดค่ะ
เพดานติดเครื่องช่วยระบายอากาศ เนื่องจากเวลาคนมาใช้บริการจำนวนมากๆ อาจเกิดปัญหาเรื่องอากาศภายในห้อง กลิ่นเหงื่อขึ้นได้
นอกจากนั้นยังติดระบบป้องกันอัคคีภัยไว้ด้วยเช่นกัน
เรื่องอัตราการใช้บริการ เนื่องจากทีมงานไปช่วงกลางวัน ทำให้คนใช้บริการน้อย แต่ทาง i-House RCA ได้บอกกับทีมงานว่าคนจะมาใช้บริการมากเป็นพิเศษในช่วงเย็นของแต่ละวันค่ะ อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องพื้นที่บ้างในช่วงเวลานั้น
ส่วนเวลาเปิดบริการ จะเปิดตั้งแต่ 07.00 - 22.00 น. ทั้งในส่วนของห้องฟิตเนส ,สระว่ายน้ำ และห้องซาวน่าค่ะ แต่ห้องฟิตเนสจะพิเศษกว่าตรงที่ทางเข้าห้องจะต้องแสกนนิ้ว เพื่อจำกัดสิทธิ์ไว้สำหรับผู้พักอาศัยคอนโดเพียงเท่านั้น และที่สำคัญคือที่นี่จะมีเทรนเนอร์คอยให้แนะนำ โดยไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมค่ะ
หน้าห้องฟิตเนสมีที่นั่งเล็กๆ ให้นั่งพัก
หากใครมาคนเดียวก็ไม่ต้องห่วงเรื่องข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวค่ะ เพราะทางคอนโดมีล็อกเกอร์เก็บของให้
ล็อกเกอร์มีกุญแจล็อกให้เรียบร้อย หากต้องใช้ให้ติดต่อที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ค่ะ แต่จำนวนล็อกเกอร์อาจไม่เยอะมาก แนะนำว่าให้พกแต่ของจำเป็นลงมาจะสะดวกกว่า
สำหรับห้องน้ำส่วนกลางก็จะอยู่บริเวณนี้เช่นเดียวกัน แยกห้องชายหญิงให้เรียบร้อย ส่วนห้องด้านในที่เห็นเป็นประตูไม้ คือ ห้องซาวน่า ที่จะมีให้ในห้องน้ำแบบนี้เลย ทำให้ชายหญิงไม่ต้องสลับกันใช้ และยังปลอดภัยกว่าการใช้ห้องซาวน่าร่วมกันด้วยค่ะ
ห้องน้ำชายก็แยกโถปัสสาวะให้ปกติ
มีอ่างล้างหน้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำครบ
ห้องอาบน้ำจะเป็นระบบ Rain Shower แบบนี้ มีให้ 1 ห้อง และห้องน้ำอีก 2 ห้องค่ะ
ห้องซาวน่าแยกชายหญิงอย่างที่บอกไว้ข้างต้น ภายในห้องให้อารมณ์เหมือนอยู่ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นผนัง พื้น เพดาน และที่นั่งล้วนทำเป็นไม้สวยงาม ห้องกว้างนั่งได้ประมาณ 5-10 คน ซึ่งปกติผู้พักอาศัยก็จะชวนกันมานั่งเป็นกรุ๊ปๆ ไปค่ะ
ผนังติดที่วัดอุณหภูมิไว้ สำหรับตรวจวัดอุณหภูมิห้องและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้บริการ
เตาถ่านสำหรับทำความร้อนค่ะ เวลาใช้งานก็ให้ตักน้ำราดที่เตา เพื่อให้ไอร้อนระอุขึ้นมา
หน้าตาที่ตักน้ำค่ะ
มีช่องระบายความร้อนออกมายังภายนอกห้อง
ถัดออกมายังโถงลิฟต์ของคอนโด ซึ่งจะมีอาคารละ 2 ตัว แบบไม่ล็อกชั้น
โดยหน้าทางเข้าโถงลิฟต์จะมีประตูระแนงไม้ปิด จะต้องใช้ Key card ในการเข้าออกเช่นเดียวกัน โดยตัว Key card จะเป็นคนละตัวกับที่ใช้ตรงไม้กั้นหน้าทางเข้าคอนโดค่ะ เพื่อความปลอดภัยของผู้พักอาศัย
ปุ่มกดหน้าลิฟต์
แผงปุ่มกดด้านในลิฟต์
โถงทางเดินคอนโดค่อนข้างเงียบสงบ โดยแต่ละชั้นจะมีประตูหนีไฟอยู่ตรงริมสุดทางเดิน
พร้อมกับตู้ดับเพลิงที่กระจายอยู่บริเวณต่างๆ ในคอนโด
1 BR 32 sq.m
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 32 ตารางเมตร
สำหรับประเภทห้องของอาคาร A จะมีเพียง Layout เดียว คือ 1 ห้องนอน ขนาด 32 ตารางเมตรทั้งหมด แต่มีการแบ่งพื้นที่ห้องออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ให้สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยห้องนี้จะขายแบบ Fully Furnished ครบทั้งเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันที เรียกว่าเป็นโปรโมชั่น Smart Home Package ค่ะ จะประกอบด้วย เฟอร์นิเจอร์ครบชุด ได้แก่ โซฟา, โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว, ชั้นวางโทรทัศน์, ชั้นวางของ, ตู้รองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะหัวนอน, ผ้าม่าน, ฐานเตียงพร้อมฟูก และเครื่องนอน ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับจะได้แก่ เครื่องซักผ้าฝาบน LG ขนาด 10 กก., เตาไฟฟ้า, โทรทัศน์ LG 43 นิ้ว, ไมโครเวฟ, ลำโพง, เครื่องปรับอากาศ, ตู้เย็นขนาด 6.9 คิว และเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ
โซนพักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะอยู่ตรงกับประตูห้อง โดยส่วนของห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงพักผ่อนจะอยู่ทางขวามือของประตูนั่นเอง สำหรับห้องนอนจะมีแพลทติชั่นกระจกกั้นไว้เรียบร้อย เช่นเดียวกับห้องครัวและระเบียงพักผ่อนค่ะ ทำให้ได้ห้องครัวแบบปิด ป้องกลิ่นอาหารรบกวนเข้าไปยังห้องอื่นๆ และด้วยความที่ห้องครัวอยู่ติดกับระเบียง ยิ่งทำให้การถ่ายเทอากาศ ระบายกลิ่น ทำได้ค่อนข้างดี
เริ่มกันที่ห้องนั่งเล่นกลางห้อง ที่มีระดับฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.5 เมตร ตามแบบคอนโดมิเนียมทั่วไป แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกอึดอัดมากนัก อาจจะด้วยการจัดวางและเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์ของทางคอนโด ที่เน้นแบบ Built in เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการใช้สอย อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์บางตัว อย่างโซฟา ,โต๊ะทานข้าว ,เก้าอี้ทานข้าว และโต๊ะกลาง ยังเป็นแบบลอยตัว เคลื่อนย้ายง่าย ให้ความรู้สึกโปร่ง สบายตาค่ะ
ส่วนพื้นห้องเป็นลามิเนจสีธรรมชาติ ผนังทาสีฉาบเรียบปกติ
ภาพห้องนั่งเล่นจากฝั่งประตู จะสามารถมองทะลุไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านในได้เลย อาจจะทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวไปบ้าง หากใครไม่ชอบ แนะนำให้หาฉากหรือสติ๊กเกอร์กระจกขุ่นมาติด เพื่อช่วยบังสายตาได้ค่ะ
การเข้าออกห้องใช้กุญแจ ที่จับก้านโยก มีกลอนหมุนล็อกพร้อมช่องตาแมวตามปกติค่ะ ประตูจะค่อนข้างหนา แข็งแรงอยู่เหมือนกัน
ช่อองตาแมวตรงประตู
สวิตซ์ไฟกลางห้องจะอยู่ข้างประตู เมื่อเปิดห้องเข้ามาสามารถกดเปิดได้เลย
เพดานติดไฟทรงซาลาเปาสีส้ม พร้อมระบบป้องกันอัคคีภัยเรียบร้อย
คราวนี้เราเขยิบมาดูเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในห้องนั่งเล่นกันค่ะ สำหรับโต๊ะทานข้าว ทางคอนโดจะตั้งไว้ใกล้ประตู ซึ่งก็ไม่ได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าใครอยากได้พื้นที่เพิ่ม อาจจะย้ายโต๊ะออกจากนอกกำแพง จะได้ไม่อึดอัด หรือจะซื้อเก้าอี้มาเพิ่มก็ได้เช่นกัน เพราะเก้าอี้ที่ทาง i-Biza RCA ให้มามีเพียง 2 ตัวเท่านั้น
โต๊ะทานข้าวขนาดค่อนข้างใหญ่ นั่ง 4 คนได้สบายๆ ค่ะ
มีปลั๊กไฟอยู่บริเวญโตีะทานข้าว 1 จุด
โต๊ะทานข้าวและเก้าอี้ล้วนเป็นแบบลอยตัวทั้งคู่ เคลื่อนย้ายจัดวางได้ตามต้องการ
เมื่อมองจากมุมนี้ ห้องนั่งเล่นดูกว้าง มีพื้นที่ใช้สอยให้ทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวก โซฟาที่ตั้งกลางห้องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาก นั่งได้ 2-3 คน ซึ่งห้องจริงจะไม่มีโต๊ะวางของซ้ายมือกับโคมไฟ ทำให้พื้นที่ทางซ้ายมีพื้นที่เหลือเฟือ เหลือเยอะ โดยมีระยะห่างจากโซฟาถึงห้องนอนกว้าง 90 เซนติเมตร และระยะจากโซฟาถึงโต๊ะทานข้าวกว้าง 70 เซนติเมตร ซึ่งหากเราขยับโซฟาไปใกล้กับห้องนอนมากกว่านี้ ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ทานอาหารให้เยอะยิ่งขึ้น เพียงแต่ระยะหน้าโซฟากับชั้นวางโทรทัศน์จะไม่ตรงกันเท่านั้นค่ะ หรือจะย้ายโต๊ะกระจกไปไว้ด้านข้าง ก็จะมีที่ให้นั่งเล่นที่พื้นด้านล่างด้วย
ส่วนระยะจากหน้าโซฟาจนถึงชั้นวางโทรทัศน์อยู่ที่ประมาณ 1.7 เมตร ถือว่ากว้างพอสมควร สามารถติดตั้งโทรทัศน์ขนาดใหญ่ได้เลย โดย i-Biza RCA จะให้โทรทัศน์ขนาด 43 นิ้ว พร้อมลำโพง Soundbar มากับห้องจริงด้วยเช่นกันค่ะ
ด้านหลังมีปลั๊กไฟ ปลั๊กสัญญาณ และปลั๊กสาย LAN อย่างละ 1 เต้า
สำหรับชั้นวางโทรทัศน์ทำเป็นลิ้นชัก Built in ลามิเนจ เข้าเซตกับชั้นวางของด้านบน มีหน้าชั้นกว้างให้ตั้งโทรทัศน์กับลำโพงได้สะดวก ส่วนกล่องด้านในลิ้นชักเก็บของได้ค่อนข้างเยอะดีค่ะ
ชั้นด้านบนก็ Built in มาให้คู่กัน โดยตำแหน่งของชั้น ถ้าเป็นคนตัวเล็กจะต้องเอื้อมเล็กน้อย มีช่องตรงกลางไว้สำหรับของใช้จำเป็น เพื่อสะดวกในการใช้งาน หรือไว้วางของตกแต่ง ของสะสมต่างๆ
ส่วนด้านข้างทั้ง 2 ข้างทำบานเลื่อนเปิด-ปิดแบบนี้ค่ะ
i-Biza RCA ติดเครื่องปรับอากาศของ Panasonic ขนาด 12,000 BTU ไว้ตรงด้านหน้าโซฟา
จะเห็นว่าผนังหลังโซฟาประดับด้วยของตกแต่งเก๋ๆ ตามไลฟ์สไตล์ผู้พักอาศัย แทนการติดวอลล์เปเปอร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไอเดียแต่งคอนโดที่น่าสนใจทีเดยวค่ะ
ตรงข้างห้องนอน ทางคอนโดได้นำโต๊ะเล็กๆ มาตั้งตกแต่งไว้ แต่ในห้องจริงเราอาจเปลี่ยนเป็นชั้นวางของ หรือตู้หนังสือเล็กๆ แทน ก็ช่วยให้ห้องเป็นระเบียบ เรียบร้อยยิ่งขึ้น เพราะอย่างที่บอกข้างต้นค่ะ ว่าบริเวณนี้มีที่ว่างเหลือประมาณ 90 เซนติเมตร ใช้วางชั้นเล็กๆ ได้สบายเลย
ภาพห้องนั่งเล่นจากทางห้องนอนค่ะ จะสังเกตเห็นเบรกเกอร์อยู่สูงเหนือตู้รองเท้าขึ้นไปอีก ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะลำบากในการใช้งานนิดนึง
ถัดเข้ามายังห้องนอน เป็นห้องนอนเตียงเดียวขนาด 5 ฟุต นอน 2 คนกำลังดีค่ะ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็ค่อนข้างครบตามมาตรฐานคอนโดทั่วไป อย่างตู้เสื้อผ้า โต๊ะหัวนอน โต๊ะเครื่องแป้ง ที่ Built in มาให้เรียบร้อย แต่คอนโด i-Biza RCA จะแถมเตียงพร้อมฟูก และผ้าม่านมาให้ด้วย
เพดานติดไฟซาลาเปาสีส้มให้ 1 ดวง พร้อมระบบป้องกันอัคคีภัย ซึ่งให้แสงสว่างสลัวๆ เหมาะสมต่อการนอน
พื้นห้องนอนปูไม้ลานิเมจ ผนังทาสีฉาบเรียบแบบเดียวกับห้องนั่งเล่น โดยจะมีแพลทติชั่นกระจกกั้นเพื่อความเป็นสัดส่วน
แพลทติชั่นที่ใช้กั้นห้องเป็นกระจกบานเลื่อนแขวน กรอบอบขาว โดยใช้บานกลางในการเปิดปิด ลักษณะการเลื่อนจากปลายเตียงไปหัวเตียง มีบาน Fix 2 บานซ้ายขวา ซึ่งแพลทติชั่นแบบรางแขวนเช่นนี้มีโอกาสที่บานเลื่อนจะหลุดหรือชำรุดได้ง่ายกว่ารางเลื่อนแบบปกติ ยิ่งพื้นเป็นลามิเนจด้วยแล้ว ยิ่งควรระวังเรื่องความชื้นภายในห้อง เพราะอาจส่งผลให้พื้นเกิดการบวมได้ในอนาคตค่ะ
แพลทติชั่นมีตัวล็อกเรียบร้อย
โดยอาศัยการล็อกจากด้านในค่ะ
แพลทติชั้นกระจกแบบเต็มบานอย่างนี้จะทำให้ห้องโปร่ง สบายตาขึ้นก็จริง แต่ความเเป็นส่วนตัวก็จะถูกลดลงไปด้วยเช่นกัน แต่สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว แนะนำว่าให้หาสติ๊กเกอร์ติดกระจกแบบขุ่นมาติดเพิ่มได้
หัวเตียงฝั่งขวามือเป็นจุดที่ติดสวิตซ์ไฟห้องนอน ซึ่งจะสะดวกในการใช้งานมากๆ แม้ยามนอนอยู่
แต่หากจะเดินเข้าไปเปิดไฟ คนตัวใหญ่อาจลำบากเล็กน้อย เพราะพื้นที่ตรงนี้กว้างแค่ 30 เซนติเมตรค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะกว้างกว่า เดินสะดวกกว่าเล็กน้อย อยู่ที่ 55 เซนติเมตร
เนื่องจากได้ตั้งตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนกับโต๊ะเครื่องแป้งไว้ ทำให้ต้องมีพื้นที่กว้างพอให้ยืนแต่งตัว หรือนั่งทำงานต่างๆ ได้สะดวกนั่นเอง
สำหรับตู้เสื้อผ้าจะเป็นลามิเนจเช่นเดียวกับโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ข้างๆ ตัวตู้ยกขึ้นเล็กน้อยทำให้มีช่องว่างข้างใต้ เอาไว้เก็บรองเท้า Sleeper ได้ และทำให้การเลื่อนลิ้นชักง่ายขึ้น ไม่ติดพื้นแน่นอน
ประตูตู้ทำเป็นบานเลื่อนสลับ เพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่ห้อง
ด้านในมีฟังก์ชั้นการใช้งานเพียงราวแขวนเสื้อข้างบน และลิ้นชักข้างล่างเท่านั้น แนะนำว่าให้หากล่องอเนกประสงค์มาใส่เพิ่ม ก็จะช่วยเรื่องการจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ
ข้างๆ กันเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ยาวตั้งแต่ตู้เสื้อผ้าจนถึงผนังอีกด้านหนึ่ง พร้อมเก้าอี้ 1 ตัว
เนื่องจากทางคอนโดต้องการให้ตรงนี้ไว้สำหรับแต่งตัว จึงติดกระจกส่องหน้าเข้าไป
แต่ถ้าใครไม่ต้องการ ก็สามารถติดตั้งโทรทัศน์แบบแขวนได้ เพราะมีปลั๊กไฟกับปลั๊กสัญญาณให้พร้อมค่ะ
หรือเปลี่ยนโต๊ะนี้ให้เป้นโต๊ะทำงานแทนก็เวิร์คค่ะ เพราะมีลิ้นชักเก็บของให้ มีปลั๊กไฟไว้สำหรับใช้งานโน๊ตบุ๊คส์ หรือโคมไฟ ทั้งยังใกล้หน้าต่างทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ตลอดทั้งวัน หรือจะเปิดผ้าม่านเพื่อชมวิวเมือง เป็นการพักผ่อนสายตาจากการทำงานที่เคร่งเครียดค่ะ
เครื่องปรับอากาศของ Panasonic เช่นเดียวกับตัวข้างนอก แต่มีขนาดเล็กกว่าคือ 9,000 BTU โดยติดไว้ทางปลายเตียง ทำให้ลมแอร์เป่าจากเท้าไปศีรษะ อาจส่งผลทำให้ไม่สบายได้ง่าย ฉะนั้นควรห่มผ้าและปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ไม่เย็นจนเกินไป
สำหรับการแขวนผ้าม่านจะเป็น 2 ราว ใช้แขวนผ้าม่านทึบและโปร่ง โดยแบบโปร่งทาง i-Biza RCA จะติดมาให้เลย แต่ผ้าม่านทึบ ผู้พักอาศัยสามารถเลือกแบบที่ชอบได้เองกับทางพนัก
งานขายค่ะ
ฝั่งซ้ายมือของห้องทำเป็นหน้าต่างบานใหญ่ เต็มบาน ประกอบด้วยบานเลื่อน 2 บานและบาน Fix อีก 4 บาน ทำให้แสงสว่างจากนอกอาคารส่องเข้ามาในห้องได้เต็มที่ ช่วยให้ห้องดูกว้างกว่าเดิม และยังช่วยประหยัดการใช้ไฟในช่วงกลางวันอีกด้วย
บานเลื่อนจะอยู่ด้านบน ขนาบข้างด้วยบาน Fix 2 บานซ้ายขวา กับบานใหญ่ด้านล่างอีก 2 บานค่ะ เมื่อเลื่อนบานหน้าต่างเปิดแล้ว ลมจะโกรกเข้ามาในห้องได้เยอะ
พื้นที่ตรงนี้กว้าง 55 เซนติเมตร ถือว่าเดินได้สะดวกเลย และตรงหัวเตียงได้ตั้งโต๊ะเล็กๆ เพื่อความสะดวกในการวางของใช้จำเป็นเล็กๆ น้อยๆ อย่าง แว่นสายตาหรือโทรศัพท์มือถือ เป็นต้นค่ะ
ฝั่งนี้จะมีปลั๊กไฟให้ 1 จุด ไว้ใช้เสียบโคมไฟหรือชาร์ตแบตโทรศัพท์ได้อย่างสะดวก
ออกมาที่ห้องน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับประตุ ถัดไปจะเป็นห้องครัว และระเบียงพักผ่อนตามลำดับค่ะ โดยสุขภัณฑ์ต่างๆ จะเป็นของ American Standard ประกอบด้วย อ่างล้างหน้า ,ชักโครก พร้อมสายฉีดชำระกับที่ใส่กระดาษทิชชู่ และราวแขวนติดผนังค่ะ พื้นกับผนังจะปูด้วยกระเบื้องทั้งหมด ส่วนห้องอาบน้ำของคอนโด i-Biza RCA จะใช้เป็น Shower Box แทนการกั้นด้วยแพลทติชั่นกระจกอย่างคอนโดอื่นๆ ทั่วไป ทำให้ลดปัญหาเรื่องน้ำไหลออกมายังโซนแห้งค่ะ
ไฟที่ใช้ก็เป็นไฟซาลาเปา 1 ดวงเช่นเดิม
ประตูห้องนอนเป็นที่จับก้านโยกแข็งแรง หมุนล็อกจากด้านใน โดยตัวประตูตรงกลางทำกระจกขุ่น เพื่อไม่ให้ห้องดูอึดอัด และยังปลอดภัยไม่สามารถมองทะลุเข้ามาด้านในได้ค่ะ ไม่ต้องกังวล
ระหว่างประตูห้องกับบานเลื่อน Shower Box กั้นด้วยตัวกันกระแทก ไมให้ประตูทั้ง 2 บานชนกัน
สำหรับอ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ ค่อนข้างมีความแข็งแรงทนทาน ทั้งยังซ่อมแซมง่ายหากเกิดการชำรุดขึ้นในภายภาคหน้า ส่วนพื้นที่หน้าเคาน์เตอร์กว้าง วางของได้เยอะ หากมีปลั๊กไฟตรงนี้ด้วยจะดีมากค่ะ
กระจกส่องหน้าติดอยุ่เหือนอ่างขึ้นไป กว้างประมาณ 1 * 1.1 เมตร ส่องได้เกือบทั้งตัว
ก้นอ่างลึกพอสมควร มีก๊อกน้ำติดอยู่บนอ่าง โดยสะดืออ่างเป็นแบบดึงล็อก ไว้ซักผ้าชิ้นเล็กๆ ได้
ก๊อกน้ำเป็นแบบวาล์วหมุนเปิดปิด
ใต้เคาน์เตอร์จะระบบท่อแบบนี้ ทำให้ง่ายเวลาทำการซ่อมแซม โดยไม่ต้องรื้ออ่างล้างหน้าออกมาทั้งหมด และข้างใต้ยังมีพื้นที่ให้วางถังขยะ หรือของใช้อื่นๆ ได้
ชักโครกตั้งอยู่ระหว่างอ่างกับ Shower Box มีสายฉีดชำระกับที่ใส่กระดาษทิชชู่อยู่ใกล้ๆ
ชักโครกเป็นของ American Standard ปุ่มปล่อยน้ำ 2 ปุ่ม ซึ่งจะประหยัดการใช้น้ำมากกว่าแบบปุ่มเดียว เพราะจะแบ่งปริมาณน้ำออกเป็น 2 ระดับ คือ หากกดปุ่มเล็ก ปริมาณที่ปล่อยจะน้อยกว่า ไว้สำหรับการปัสสาวะ
สายฉีดน้ำโครเมี่ยม จะมีความทนทานกว่าหัวพลาสติกที่เวลากระแทกจะแตกร้าวได้ง่าย
ท่อระบายน้ำอยู่ใกล้กับชักโครก
ด้านบนเป็นราวแขวนติดผนัง ซึ่งเวลาอาบน้ำเสร็จแล้ว จะต้องเดินมาหยิบตรงนี้ อาจทำให้พื้นเปียกเล็กน้อย
สำหรับ Shower Box หรือกล่องอาบน้ำ เป็นบานกระจกเลื่อนเปิดปิด
โดยตัวกล่องเป็นสุขภัณฑ์ของ Mogen เชื่อมติดกับห้องน้ำ ไม่โยกเยกอย่างที่คิดไว้ในตอนแรกค่ะ
พื้น Shower Box ยกสูงขึ้นมาจากระดับพื้นห้องน้ำปกติ บวกกับมีประตูปิดเรียบร้อย ป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอก
ตัว Shower Box ทำจากพลาสติก มีชั้นวางของสำเร็จรูปด้านใน ซึ่งตอนแรกไม่ค่อยแน่ใจเรื่องความทนทาน แต่จากการลองยืน เดินไปเดินมาแล้ว ค่อนข้างแข็งแรงในระดับหนึ่งค่ะ
มีที่นั่งให้สำหรับการถูสบู่ ขัดตัว จริงๆ แล้วตัวพลาสติกค่อนข้างหนาค่ะ เวลานั่งก็ไม่มีการยุบตัวแต่อย่างใด พื้นทำเป็นร่องๆ ให้น้ำไหลลงท่อระบายน้ำได้สะดวก เวลาเดินก็ไม่ลื่นด้วยเช่นกัน
การอาบน้ำเป็นระบบ Rain Shower อย่างเดียว ซึ่งหากใครไม่ถนัด อาจจะต้องพิจารณาตรงส่วนนี้เพิ่ม สำหรับการตัดสินใจซื้อค่ะ
วาล์วหมุนปรับระดับน้ำอยู่ด้านล่าง ใช้ง่ายไม่ต้องเอื้อม
มองขึ้นไปจะเห็นหน้าต่างบานเลื่อนแบบนี้อยู่ด้านบน (ค่อนข้างสูง ทางทีมงานไม่สามารถเอื้อมปิดได้) ซึ่งในห้องน้ำจะใช้ช่องนี้เป็นช่องระบายอากาศแทน เครื่องดูดอากาศ
ต่อมาคือส่วนของห้องครัว ที่ทำเป็นครัวปิด มีประตูแพลทติชั่นกั้นระหว่างห้องนั่งเล่น ไม่ให้กลิ่นลอยฟุ้งเข้าไปรบกวนการอยู่อาศัย ส่วนอีกฝั่งจะเชื่อมกับระเบียงพักผ่อนค่ะ พื้นครัวปูกระเบื้อง เพดานติดไฟโคมซาลาเปา 1 ดวง พร้อมระบบป้องกันอัคคีภัยเรียบร้อย ขนาดห้องครัวกว้างเหมาะสำหรับผู้อาศัย 2-3 คน หรือคนที่ชอบการทำอาหารค่ะ
เพดานครัวติดไฟโคมซาลาเปา พร้อมระบบป้องกันอัคคีภัย ซึ่งจะสังเกตได้ว่าทุกห้องจะมีระบบป้องกันอัคคีภัยติดให้หมด
พื้นครัวปูกระเบื้องร่องชิด ช่วยลดการเกิดคราบสกปรกฝังตามร่องได้
แพลทติชั่นครัวเป็นกระจกบานเลื่อนเดี่ยวรางบน โดยข้อดีจะประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง แต่อาจหลุดตกได้ง่ายกว่ารางล่างแบบปกติค่ะ
แพนทรีครัวเป็นรูปแอล (L) เข้ามุมห้อง ทำให้ชุดครัวมีพื้นที่เก็บของกับพื้นที่ประกอบอาหารเยอะ หน้า Top ครัว วางซิงค์ล้างจานสแตนเลสไว้ริมสุด ส่วนเตาไฟฟ้าของคอนโดจะเป็นเตาแบบพกพามาให้ สามารถเคลื่อนย้ายไปตรงไหนก็ได้ ง่ายต่อการประกอบอาหาร
Top ครัวทำจากหินสังเคราะห์สีขาว เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย และทนทานต่อการทำอาหารมื้อหนัก ส่วนตัวเคาน์เตอร์เป็นลามิเนจ แบบไม่ Soft close ต้องถนอมเวลาใช้งานมากขึ้น
สำหรับปลั๊กไฟจะอยู่ตรงข้างใต้ช่องวางไมโครเวฟ ไว้สำหรับใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่าง เครื่องปิ้งขนมปัง หรือกาต้มน้ำร้อน เป็นต้น
ตัวเคาน์เตอร์ครัวมีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย อย่างลิ้นชักในภาพ ลิ้นชักบนสุดจะเป็นช่องไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์จำพวกช้อนส้อม ส่วน 2 ลิ้นชักล่างไว้เก็บข้าวของทั่วไป
สำหรับตู้อเนกประสงค์ใต้ซิงค์ จะมีขนาดใหญ่กว่าเพื่อน เนื่องจากได้ซ่อนระบบท่อน้ำไว้ด้านใน ซึ่งก็ยังมีเนื้อที่เหลือ ให้ใช้เก็บของได้ด้วยเช่นกันค่ะ
ชั้นบน Built in เป็นตู้เก็บของ 2 ขนาด ให้ง่ายการจัดเก็บ จัดเรียงเครื่องมือและอุปกรณ์ โดยชั้นล่างๆ เราอาจใช้เก็บของที่ต้องใช้จำเป็น เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้ ส่วนชั้นบนอาจเก็บอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยได้ใช้ พราะตำแหน่งค่อนข้างสูง ต้องเอื้อมมือเปิดตู้
ช่องวางไมโครเวฟอยู่ด้านบนอย่างนี้ เวลาใช้งาน วางอาหารของร้อน ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุอาหารหกใส่ได้
สำหรับที่วางตู้เย็น ทางคอนโดเว้นไว้ให้เยอะ สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ หรือไม่ถ้าเป็นตู้เย็นขนาดเล็ก ก็สามารถเขยิบตู้เย็นออกห่างจากผนังได้ เป็นการช่วยไม่ให้ตู้เย็นทำงานหนักจนเกินไป
ด้านหลังตู้เย็นมีปลั๊กไฟ 1 จุด
อาจจะสงสัยว่าทำไมห้องครัวของ i-Biza RCA ถึงไม่ติดเครื่องดูดควันมาให้ ซึ่งทางพนักงานขายได้บอกกับทางทีมงานมาว่า เนื่องจากห้องครัวอยู่ติดกับระเบียง ทำให้การระบายกลิ่น ระบายควัน ทำได้ค่อนข้างดี ในระดับที่ไม่ต้องใช้เครื่องดูดควันค่ะ และอีกเหตุผลหนึ่งคือการติดเครื่องดูดควันไว้ใต้ตู้ จะทำให้พื้นที่ประกอบอาหารดูอึดอัดไปด้วย ทางคอนโดจึงเลือกที่จะไม่ติดเครื่องดูดควัน แล้วหันมาใช้การเปิดระเบียงเพื่อระบายควันอทนนั่นเอง แต่หากผู้พักอาศัยท่านใด ต้องการติดเครื่องเอง ก็สามารถติดตั้งได้ ไม่มีปัญหา แล้วแต่ความพึงพอใจของลูกค้าค่ะ
ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน กรอบอบขาว กดล็อกประตูจากด้านในห้องครัว
ปูพื้นระเบียงด้วยกระเบื้อง แล้วทำการยกธรณีประตูขึ้นมา 3 นิ้ว เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้ามายังโซนด้านในค่ะ
คอมเพรสเซอร์แอร์จะตั้งไว้ที่พื้นตัวหนึ่ง
อีกตัวจะแขวนไว้ข้างบนแบบนี้ โดยหันหน้าออกไปทางนอกอาคาร แต่ยังรู้สึกร้อนๆ อ้าวๆ อยู่เหมือนกัน เนื่องจากตรงระเบียงค่อนข้างทึบ ก่ออิฐสูงจนถึงเพดานค่ะ
ตรงระเบียงได้ก่ออิฐสูงจนถึงเพดานแบบนี้ แต่จะเจาะช่องไว้ให้สำหรับถ่ายเทอากาศ ซึ่งทางพนักงานขายบอกบอกว่าการทำลักษณะนี้แทนการทำราวกันตก จะช่วยรักษาความปลอดภัยได้มากกว่า และเวลาฝนตกก็จะไม่ค่อยสาดเข้ามาในระเบียงด้วย
ไฟระเบียงเป็นไฟหลอดนีออน ให้ความสว่างกว่าไฟโคมซาลาเปาที่ใช้ในห้อง เพื่อความสะดวกในการทำงาน
ทาง i-Biza RCA จะให้เครื่องซักผ้ามากับห้องด้วยค่ะ โดยในห้องนี้จะเป็นเครื่องซักผ้าของ LG ขนาด 10 กก. หรือเทียบเท่า แล้วแต่ของในการตลาดค่ะ ด้านบนก็มีปลั๊กไฟพร้อมใช้งานได้เลย
ระบบท่อน้ำ ก๊อกน้ำต่างๆ ทางคอนโดเดินระบบให้เรียบร้อบแล้วค่ะ
Environment
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ไอ-บิซา อาร์.ซี.เอ (i-Biza RCA)
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ไอ-บิซา อา.ซี.เอ (i-Biza RCA) จะเป็นแหล่งสถานบันเทิงมากมายจะค่อนข้างเสียงดังค่ะ ไม่เหมาะกับผู้อาศัยที่ต้องการความสงบ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์เสียงจะดังมากเนื่องจากเป็นสถานที่คอนเสิร์ตใหญ่ แต่ก็มีสถานที่ให้ผ่อนคลายอย่างร้านคาเฟ่ สถานที่ปั่นจักรยาน และออกกำลังกาย รวมอยู่ด้วย
ในวันนี้เราจะพาไปสำรวจสภาพแวดล้อมกันที่ ถนนพระราม 9 ซอย 8 (ซอย RCA) ถนนพระราม 9 ซอย 6 (ซอยทะเลกรุงเทพ) และ ถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นถนนหลักที่เราจะใช้ในการเดินทาง
ถนนพระราม 9 ซอย 8 (ซอย RCA)
สถานที่สำคัญบน ถนนพระราม 9 ซอย 8 (ซอย RCA) มีดังนี้ค่ะ
-RCA Plaza
-โรงภาพยนตร์ House RCA
-Route 66
-Onyx Bangkok
-ร้านอาหารดังหลากหลายสัญชาติ
เมื่อตรงมาจะเป็นทางแยกเข้าสู่ Royal Avenue City (RCA)
รถค่อนข้างเยอะบริเวณทางแยก มีทางรถไฟตัดผ่านด้วยค่ะ
ทางเข้า RCA เป็นถนนสองเลน มีรปภ.รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ซึ่ง Rca เป็นแหล่งย่านสถานบันเทิง อยู่ในเขตห้วยขวาง เป็นถนนสายเชื่อมระหว่างถนนพระราม 9 กับถนนเพชรบุรี
ในช่วงเวลากลางวัน ซอย RCA จะมีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่นค่ะ เพราะพนักงานออฟฟิศและผู้อาศัยในละแวกนั้นออกมาทานอาหารในย่านนี้
ด้านใน RCA มีชื่อเสียงด้านสถานบันเทิงในเวลากลางคืน แต่ในช่วงเวลากลางวันก็มีร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่มากมายค่ะ
มี Rca Plaza อยู่ในซอย ซึ่งในห้างก็จะมีร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ ,Tops Market,มงคลสตูดิโอ ซึ่งเป็นสถานที่จัดอีเวนท์และคอนเสิร์ตเล็กๆ, Go kart และโรงภาพยนตร์ เฮาส์ RCA เป็นโรงหนังเล็กๆ บรรยากาศค่อนข้างอบอุ่น ส่วนใหญ่จะนำหนังแนวอินดี้ หนังที่ได้รับรางวัลและหนังญี่ปุ่นมาฉาย
ส่วนทางเข้าโครงการจากทางฝั่งซอย RCA จะอยู่กลางๆ ซอย ระยะทางจากปากซอยเข้ามาจะอยู่ที่ 750 เมตร
ในซอย Rca มีรถของ Rca ให้บริการฟรี
เมื่อเดินออกมาถนนพระราม 9 ฝั่งทางไปโรงพยาบาลปิยะเวทก็จะพบ คอนโด TC Green
TC Green เป็นคอนโดติดถนนใหญ่ 2 ด้านทำให้สามารถเดินทางได้หลากหลายรูปแบบ และอยู่ใกล้สนามบิน
ถนนพระราม 9
บนถนนพระราม 9 มีสถานที่สำคัญดังนี้
-โรงพยาบาลพระรามเก้า
-คอนโดมิเนียมต่างๆ เช่น Ideo Mobi, Rhythm, PG Rama 9, LPN Rama 9, TC Green
-รถไฟฟ้าสถานี รฟม.(โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม)
-ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพระราม 9
-บริษัท จีเอ็มเอ็ม ซี เจโอ ช้อปปิ้ง จำกัด
-ร้านอาหาร เช่น Kingkong Buffet Rama 9, Shibuya Shabu, ตลาดร่มเปิด
-ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนพระราม 9
-TNP Import luxury car
เริ่มกันที่โรงพยาบาลพระรามเก้าค่ะ ตั้งอยู่ในซอยโรงพยาบาลพระรามเก้า ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
บริเวณซอยโรงพยาบาลพระราม 9 ฝั่งถนนพระราม 9 จะเจอธนาคารไทยพาณิชย์สาขาพระราม 9
เมื่อเดินเลี้ยวซ้ายออกมา จะเจอตลาดร่มเปิดค่ะ ซึ่ง ตลาดร่มเปิดเป็นตลาดนัดกลางวัน ย่านพระราม 9 ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 9 อยู่ข้างอาคารว่องวานิชก่อนถึงแยก อสมท. โดยจะเปิดจันทร์-ศุกร์ เวลาตั้งแต่ 6.00-14.00 น. ในช่วงเช้าค่อนข้างจะเงียบ และจะคึกคักและมากันเยอะเวลาประมาณบ่ายๆ กลุ่มลูกค้าที่มักจะมาเดินเลือกซื้อของจะเป็นพนักงานออฟฟิศและผู้อาศัยในละแวกนั้นค่ะ
ตลาดร่มเปิดเป็นตลาดนัดและศูนย์อาหารที่มาอยู่รวมกัน โดยในตลาดจะแบ่งเป็น 4 โซน ด้วยกัน ได้แก่
-โซนของกินเล่นมีทั้งขนม ของหวาน เครื่องดื่ม ผลไม้ต่างๆ อาหารมีให้เลือกหลากหลายดีค่ะ
-โซนตลาดนัดเป็นโซนร้านค้าที่ขายสินค้าทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องสำอางค์ รองเท้า สินค้ามือสอง เรียกว่าเน้นเอาใจสาวๆ ชาวออฟฟิศในละแวกนั้นเลยทีเดียว
-โซนศูนย์อาหารเป็นศูนย์อาหาร มีร้านค้าประมาณ 28 ร้านค้า ที่นั่งส่วนกลางประมาณ 500 ที่นั่ง เน้นเป็นอาหารจานเดียว เหมาะกับเวลาพักกลางวันของพนักงาน
-โซน Event มีสินค้าจากร้านค้าดังจากไอจีมากมาย มีโครงบูทไม้ขนาด 2*2 เมตร ตกแต่งแนวอินดี้ ภายใน Event มีจุดสำหรับถ่ายรูป มีรถ Food truck
สำหรับทางเข้า ลูกค้าจะสามารถจอดรถเพื่อแวะซื้อข้างหน้าได้ค่ะ แต่พ่อค้าหรือแม่ค้าขนของเสร็จแล้วจะต้องรีบนำรถออกไปจอดบริเวณอื่นเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับลูกค้า
บรรยากาศภายในตลาดค่ะ ตลาดร่มเปิดจะเป็นตลาดแบบ Open-Air บนพื้นคอนกรีต และหลังคาเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ มีที่นั่งสำหรับรับประทานอาหาร
ในตลาดจะมีร้านค้าอาหารให้เลือกเยอะ เช่น สุกี้ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ดูแล้วน่าอร่อยมากๆ
นอกจากนี้ยังมีร้านขายของหวาน เครื่องดื่มให้เลือกซื้อมากมาย จุดเด่นของที่นี่คือหลายร้านจะนำร่มมากางบริเวณหน้าร้าน
ขนมไทยที่เดี๋ยวนี้หาซื้อได้ค่อนข้างยาก สามารถมาแวะซื้อที่นี่ได้ค่ะ สีสันสดใสน่าทานมาก
นอกจากของกินแล้วยังมี เสื้อผ้า รองเท้าและ เครื่องสำอาง ที่สาวออฟฟิศชื่อชอบก็มีให้เลือกซื้อเยอะพอสมควร
เมื่อเดินออกจากตลาดร่มเปิดก็จะเจออาคารวรสมบัติ เป็นอาคารสำหรับให้เช่าสำนักงาน ภายในอาคารจะมีร้านชาบูชื่อดังอย่าง Shibuya Shabu ใครขับรถมาสามารถไปจอดในตึกอาคารวรสมบัติ ประทับตราร้านจอดฟรี 2 ชม.ค่ะ ส่วนชั้น 2 จะเป็นร้าน King Kong Yakiniku Buffet ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ปิ้งย่าง บุฟเฟ่ต์หลากหลาย มีทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว แซลมอน กุ้งแม่น้ำและอาหารทะเล
ถนนพระราม 9 ซอย 6 (ซอยทะเลกรุงเทพ)
สถานที่สำคัญบนถนนพระราม 9 ซอย 6 (ซอยทะเลกรุงเทพ) มีดังต่อไปนี้ค่ะ
The Deck Karaoke
Long Beach
Ztudio Live Hall
Share Seabar @Rama9
ตลาดนัดซอย 6
ที่หน้าปากทางเข้าถนนพระราม 9 ซอย 6 จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ค่ะ
มีร้านอาหารริมถนนในซอย 6 ยาวจนไปถึงสะพานข้ามคลองเลยค่ะ โดยร้านอาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารอิสาน หรืออาหารปักษ์ใต้
มีคาเฟ่ของหวานเล็กๆ บรรยากาศร่มรื่นให้พักผ่อน
ประมาณกลางซอยตรงสะพานข้ามคลองก็จะเจอตลาดนัดกลางซอย 6 ค่ะ
ตลาดนัดกลางซอย 6 เป็นศูนย์อาหารและตลาดนัด เหมาะสำหรับมาทานอาหารช่วงกลางวันของพนักงานออฟฟิศและผู้อาศัยในเขตย่านพื้นที่พระราม 9
ภายในศูนย์อาหารจะมีโต๊ะส่วนกลางสำหรับนั่งทานอาหาร แต่จำนวนไม่ค่อยเยอะมาก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อกลับไปทานที่ออฟฟิศมากกว่า แต่ก็ยังมีลูกค้านั่งอยู่เยอะ บรรยากาศในช่วงกลางวันจะคึกคักมาก
นอกจากของกินแล้วยังเป็นแหล่งชอปปิงราคาย่อมเยาของคนในย่านนี้อีกด้วยค่ะ
สำหรับใครที่ชอบออกมาหาอะไรทานตอนกลางคืน ก็มีร้าน ข้าวต้มรอบดึก เป็นร้านอาหารและร้านนั่งดื่ม ซึ่งเปิดยาวตั้งแต่ 17.00-03.00 น.
Long Beach เป็นสถานบันเทิงสำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบการนวด ด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว พร้อมการตกแต่งด้วยสไตล์ที่หรูหรา
เดินมาสุดซอยจะเห็น Ztudio Live Hall เป็นสถานที่สำหรับจัดปาร์ตี้ อีเวนท์และคอนเสิร์ตต่างๆ
Analysis
วิเคราะห์โครงการ ไอ-บิซา อาร์.ซี.เอ (i-Biza RCA)
ทำเล : คอนโด i-Biza RCA เรียกได้ว่าตั้งอยู่ในทำเลที่มีความเจริญ ความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง เนื่องจากย่าน RCA เป็นแหล่งความเจริญที่รวบรวมร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่บันเทิงไว้มากมาย ส่วนอีกฝั่งจะใกล้กับโรงพยาบาลปิยะเวท ทำให้สามารถลัดเลาะไปยังถนนเพชบุรีตัดใหม่ได้ โดยทางเข้า-ออกคอนโดมี 2 ทาง คือ ฝั่งพระราม 9 ที่ถือเป็นทางเข้า-ออกหลักของคอนโด จุดนี้จะอยู่ตรงใต้ทางด่วนพระราม 9 พอดีค่ะ ส่วนทางฝั่ง RCA ผู้พักอาศัยจะต้องเสียค่าบริการให้กับทาง RCA ในอัตราเดือนละ 500 บาท ซึ่งค่อนข้างสะดวกมาก สำหรับคนที่มีรถส่วนตัว หรือใช้บริการแท็กซี่สาธารณะเป็นประจำ แต่หากใครใช้บริการระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า BTS หรือรถไฟใต้ดิน MRT ก็จะลำบากเล็กน้อย ต้องต่อรถเข้ามายังตัวคอนโด เนื่องจากระยะทางจากสถานีถึงคอนโดไม่สามารถเดินถึงได้ค่ะ
สภาพแวดล้อม : ด้วยความที่คอนโดอยู่ในย่าน RCA จึงจะมีเสียงรบกวนอยู่แล้วเป็นปกติ แต่เนื่องจากตัวอาคารของ i-Biza อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับ i-House RCA ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ที่ตั้งอาคารของ i-Biza จะถูกคั่นด้วย i-House RCA อีกทอดหนึ่ง ทำให้เสียงเพลงหรือเสียงดนตรีจากร้านค้าใน RCA ส่งมาไม่ค่อยถึงตัวคอนโด แต่จะมีเสียงดังกว่าปกติบ้างในช่วงเทศกาลเท่านั้น ถ้าใครไม่ชอบความวุ่นวาย แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการอยู่คอนโดในช่วงนี้ค่ะ และทางฝั่งทิศเหนือของคอนโดยังใกล้กับโรงพยาบาลปิยะเวท ทำให้ระแวกนี้กลายเป็นพื้นที่ปลดเสียงไปโดยปริยาย บรรยากาศภายในคอนโดจึงค่อนข้างสงบเงียบ มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่คิด และ i-Biza RCA ยังเหมาะสำหรับคนที่ชอบปาร์ตี้ หาความสนุกตามแหล่งสถานบันเทิงยามค่ำคืน เพราะสามารถเดินไป RCA ได้ ไม่ไกล
แบบห้อง : ห้องของคอนโด i-Biza RCA จะแบ่งการขายออกเป็น
อาคาร A มีเพียง Layout เดียว คือ 1 ห้องนอน ขนาด 32 ตารางเมตร ขายแบบ Fully Furnished มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ครบ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built in และเครื่องใช้ไฟฟ้า
อาคาร B ขายแบบ Fully Fitted ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ แต่จะได้รับ ชุดครัว Built in , Shower Box , เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง และเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ
ส่วนอาคาร C และ D จะไว้สำหรับปล่อยเช่าเท่านั้น
จากห้องตัวอย่างจะเหมาะสำหรับผู้พักอาศัย 2-3 คน ที่ต้องการห้องที่ตกแต่งครบ ไม่ต้องวุ่นวายหาของตกแต่ง ของใช้เพิ่มเติม อีกทั้งยังเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำครัว เนื่องจากทางคอนโดได้ทำครัวแบบปิด มีพื้นที่ในการประกอบอาหารค่อนข้างเยอะ สามารถทำอาหารมื้อหนักได้ค่ะ และห้องที่ชั้น 1 จะพิเศษกว่าห้องชั้นอื่นตรงที่ได้สวนส่วนตัวขนาดเล็ก ตรงหน้าทางเข้า สะดวกในการจอดรถ สามารถจอดที่ลานหน้าอาคารได้เลย โดยเรทราคาของห้องชั้นนี้ก็จะต่างจากห้องของชั้น 2-13 สามารถสอบถามรายละเอียดจากพนักงานขายได้ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก : คอนโด i-Biza RCA มี facilities เอาใจคนรักสุขภาพ อย่างห้องฟิตเนสขนาดกลาง แต่กลับมีจำนวนเครื่องเล่นที่เยอะกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไป มีเครื่องเล่นของ fitness life ที่ได้การยอมรับจากมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเล่นเป็นเวทหนักๆ หรือเล่นคาดิโอ พร้อมมีเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำ และห้องฟิตเนสที่นี่ก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ผู้พักอาศัยจะต้องแสกนนิ้วเพื่อเข้าใช้บริการค่ะ ส่วนสระว่ายน้ำก็จะอยู่ใกล้ๆ กัน ห้องซาวน่าแยกชายหญิง เพื่อความปลอดภัย และยังมีพื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่นให้วิ่งออกกำลังกาย ซึ่งจุดนี้จะใช้พื้นที่ร่วมกับคอนโด I-House RCA ค่ะ
ราคา : ตอนนี้ราคาโปรโมชั่นของคอนโด i-Biza RCA จะมี 2 โปรโมชั่นด้วยกัน คือ
ห้องแบบ Fully Fitted จะเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท
ห้องแบบ Fully Furnished จะเริ่มต้นที่ 2.53 ล้านบาท
สำหรับห้องขนาด 32 ตารางเมตร ที่อยู่ในย่านพระราม 9 ซึ่งเป็นย่านหนึ่งใน New CBD อุดมไปด้วยความเจริญเติบโตและมีศักยภาพในการพัฒนาค่อนข้างสูง ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า เพราะห้องแบบ Fully Furnished จะได้รับเฟอร์นิเจอร์พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย ส่วนพื้นที่รอบคอนโดก็ค่อนข้างเงียบสงบ มีสิ่งอำนวยสะดวกครบ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนกรุงค่ะ
ไอ-บิซา คอนโดมิเนียม อาร์-ซี-เอ (i-Biza Condominium RCA) เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนกรุงที่ชอบสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และต้องการมุมสงบให้กับชีวิตของตัวเอง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ยากจนเกินไป หากต้องการออกไปหาความสำราญยามค่ำคืน ตามสถานบังเทิงค่ะ และผู้ที่สนใจ i-Biza RCA ควรมีรถยนต์ส่วนตัว หรือทำงานอยู่ในย่านพระราม 9 หรือย่าน RCA ค่ะ เนื่องจากคอนโดมีทางเข้า-ออก 2 ทาง วิ่งเข้าสู่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้ ทำให้การเดินทางสะดวก แต่ถ้าหากใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ อาจจะต้องเสียเวลาต่อวินมอไซต์ หรือแท๊กซี่เข้ามายังคอนโดค่ะ