[Review] คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) - คอนโดหรูระดับ Super luxury ย่านพระราม 3 ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

สวัสดีค่ะ สำหรับรีวิวคอนโดในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับ คอนโดมิเนียมสุดหรูระดับ  Super luxury บนทำเลที่ดีที่สุด ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) คอนโด High rise สูง 57 ชั้น แต่มีความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนยูนิตทั้งหมดเพียง 188 ยูนิต มาพร้อมกับ Facilities ที่หลากหลาย และอยู่บนทำเลที่เดินทางง่ายทั้งทางบกและทางน้ำ โครงการมีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบอาคารที่รองรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ถึง 270 องศา ตอบโจทย์สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดวิวสวย มีระดับ และสัมผัสบรรยากาศติดริมแม่น้ำได้อย่างแท้จริง ตัวโครงการจะมีรายละเอียดปลีกย่อยอย่างไร ติดตามได้ใน Estopolis รีวิวคอนโด ได้เลยค่ะ

ราคาเมื่อวันที่ 24/1/2017 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 45-68 ตร.ม. เริ่มต้น 10.5 ล้านบาท

2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 85-90 ตร.ม. เริ่มต้น 22 ล้านบาท

3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 92-159 ตร.ม. เริ่มต้น 34 ล้านบาท

4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 234-248 ตร.ม. เริ่มต้น 60 ล้านบาท

Penthouse พื้นที่ใช้สอย 192-502 ตร.ม. เริ่มต้น 80-90 ล้านบาท

คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)

ชื่อโครงการ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) ที่ตั้งโครงการ ถนนพระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ราคาเริ่มต้น 10.5 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)

แผนที่จากโครงการ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร

ถนนพระราม 3 เป็นถนนที่เชื่อมต่อฝั่งธนบุรีและย่านธุรกิจอย่างสาทร-สีลม เข้าไว้ด้วยกัน ถนนเส้นนี้เป็นพื้นที่เก่าเเก่ที่มีความสงบเป็นทุนเดิม ผู้อาศัยอยู่ในแถบนี้ส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะทางการเงินดี มีกิจการอยู่ในย่านชานเมือง หรือต้องเข้า-ออกทางฝั่งสาทรอยู่บ่อยๆ ค่ะ
ด้วยเส้นทางการคมนาคมที่สะดวกและรองรับการขยายตัวของเมืองจากฝั่งสาทร-สีลม ทำให้พื้นที่บริเวณพระราม 3 เป็นที่น่าจับตามองจากกลุ่มผู้ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เข้ามาจับจองทำเลในย่านนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงาม ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ง่าย ใกล้กับสะพานพระราม 9 ทางฝั่งขาออกเมืองมุ่งหน้าสู่สะพานกรุงเทพ อยู่ใกล้จุดกลับรถถึงสองจุด กลับรถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก นอกจากนั้นยังมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนในระยะใกล้อีก เรียกว่า ครบเครื่องด้านการคมนาคมเลยก็ว่าได้

ถนนที่เชื่อมต่อกับถนนพระราม 3 มีอยู่ด้วยกันหลายเส้นทางเลยค่ะ ถ้าเป็นทางฝั่งย่านธุรกิจ ถนนพระราม 3 จะเชื่อมต่อกับถนนรัชดาภิเษก (มีทางด่วนและสะพานพระราม 9 เป็นเส้นคู่ขนานอยู่ทางด้านบน) ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อถึงถนนสาธุประดิษฐ์ (ถนนเส้นนี้สามารถวิ่งถึงถนนพระราม 3 ได้โดยจากถนนจันทร์ คนที่ใช้เส้นนี้มักจะเป็นคนในพื้นที่ ใช้เลี่ยงรถติดได้ดีค่ะ), ถนนเจริญราษฎร์ (ถนนเชื่อมต่อกับสะพานตากสิน), ถนนนราธิวาส, ถนนนางลิ้นจี่, ผ่านแยกคลองเตยวิ่งยาวไปจนถึงอโศกเลยก็ได้ค่ะ
ทางฝั่งขาออกเมืองสามารถมุ่งหน้าไปยังฝั่งธนบุรีได้ด้วยถนนเจริญกรุง วิ่งขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา ออกสู่ถนนพระราม 4 ต่อยาวไปถึงหัวลำโพงได้ ส่วนอีกทางจะเป็นถนนวงแหวนอุตสาหกรรม เป็นถนนพิเศษที่ตัดผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่จังหวัดสมุทรปราการได้
สำหรับจุดขึ้น-ลงทางด่วนจะมีอยู่ด้วยกัน 3 จุด คือ ทางด่วนบางโคล่ หลักๆ ใช้เป็นทางลงจากทางด่วน มุ่งหน้าสู่โครงการ, ทางด่วนถนนจันทร์ เป็นจุดขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะ ถึงพระราม 9 ได้ และทางด่วนสาธุประดิษฐ์ เป็นจุดขึ้น-ลงทางด่วนมุ่งหน้าไปยังบางนา ถึงแยกพระราม 9 ได้ค่ะ

ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้กับสะพานพระราม 9 ทางฝั่งขาออกมุ่งหน้าสู่สะพานกรุงเทพ หากข้ามสะพานกรุงเทพไปก็เป็นย่านอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามองอีกจุดย่าง เจริญนคร ซึ่งในอนาคตจะจะมีรถไฟฟ้าสายสีทองวิ่งตัดผ่าน เชื่อมต่อถึงไอคอนสยาม ศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งใหม่ ที่จะเปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2560 นี้
ส่วนบริเวณโครงการจริงๆ ตอนนี้ก็มี รถ BRT สถานีสะพานพระราม 9 อยู่ในระยะที่เดินถึง แต่ก็ไม่ได้สะดวกสบายสักเท่าไร เพราะเลนรถ BRT จะมีบางช่วงที่ต้องใช้งานรวมกับรถยนต์ส่วนตัวทั่วไป ทำให้เผชิญหน้ากับรถติดบนท้องถนนอยู่บ้าง คนส่วนมากจึงเน้นไปที่การใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ถ้าถามถึงรถไฟฟ้าสายอนาคที่ตัดผ่านบริเวณโครงการก็จะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเทาช่วงพระราม 3 - ท่าพระ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาการก่อสร้างอยู่ ก็ต้องอดใจรอว่าจะมีความคืบหน้าไปในทิศทางไหน

การเดินทางไปยังคอนโด คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)

ในวันนี้เราเริ่มต้นการเดินทางไปยังคอนโด Canapaya Residences โดยใช้ถนนพระราม 3 มุ่งหน้าไปทางฝั่งขาออกเมือง ตัวโครงการจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ สังเกตเห็นได้ไม่ยากค่ะ

เรามุ่งหน้ามาจากทางฝั่งอโศก ให้ขับตรงไปตามป้ายสะพานกรุงเทพ เพื่อข้ามแยกพระราม 3 - นราธิวาส แต่ถ้าขับมาจากทางฝั่งถนนนราธิวาส เมื่อถึงแยกให้เลี้ยวขวา เพื่อเข้าสู่ถนนพระราม 3 ค่ะ

เมื่อข้ามแยกมาก็จะเข้าสู่ถนนพระราม 3 เต็มตัวเเล้ว หลังจากนั้นให้ขับลงสะพานเลยค่ะ

ขับลงมาจากสะพานข้ามแยกพระราม 3 - นราธิวาส เล็กน้อย ให้สังเกตป้ายสะพานกรุงเทพ เมื่อเจอแล้วเตรียมตัวชิดขวา

ขึ้นมาบนสะพานจะเห็นตึกของ ศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ อยู่ทางขวามือ ให้เราขับข้ามสะพานผ่านไปเลยค่ะ

ลงมาจะเจอกับ BRT สถานีวัดด่าน หลังจากผ่านสะพานภูมิพล และวงแหวนอุตสาหกรรม ก็จะเจอกับ BRT สถานีวัดปริวาส

ต่อมาจะเจอกับป้ายสะพานกรุงเทพ ให้ขับชิดขวาตามป้ายเพื่อข้ามแยกสาธุประดิษฐ์ค่ะ

ลงจากสะพานข้ามแยกสาธุประดิษฐ์มาจะเจอกับ BRT สถานีวัดดอกไม้

เลยจาก BRT สถานีวัดดอกไม้ ให้วิ่งขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 3 - รัชดา ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ทางซ้ายมือจะเห็นสะพานพระราม 9 และสำนักงานใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย

ทางลสะพานจะเจอกับคอนโดเพื่อนบ้านอย่างสตาร์วิว พระราม 3 อยู่ทางขวามือ ส่วน คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) จะเป็นตึกสีส้มๆ (ในภาพ) อยู่ทางซ้ายมือค่ะ

ลงมาจากสะพานจะเจอกับ BRT สถานีสะพานพระราม 9 ขับตรงไปอีก 150 เมตรจะเจอกับทางงเข้าของคอนโดค่ะ

ตัวโครงการมีขนาดพื้นที่กว้างกว่า 12 ไร่ คอนโดจะอยู่ย่นระยะเข้าไปด้านใน ห่างจากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 350 เมตรค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)

คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) คอนโดระดับ Super Luxury ตั้งอยู่ในทำเลวิวสวย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แผนผังที่ดินในทางทิศเหนือของโครงการจะเป็นถนนพระราม 3 เยื้องจากโครงการไปประมาณ 150 เมตรจะเป็นสถานี BRT สะพานพระราม 9 แลนด์มาร์กสำคัญที่สังเกตเห็นได้ง่าย คือ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ อยู่บริเวณเชิงสะพานพระราม 9 ในทางทิศใต้จะหันหน้าโครงการออกมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา ทางฝั่งทิศตะวันตก จะมีอาคารสำนักงานสูง 8 ชั้น อยู่ติดกับที่ดินของโครงการ แต่ไม่ต้องห่วงในเรื่องของการโดนบล็อกวิว เพราะห้องพักจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นที่ 8 เป็นต้นไป และส่วนทางฝั่งตะวันออกทางโครงการจัดสรรพื้นที่เปล่าไว้สำหรับสร้างเป็นอาคาร Mixed use กว้าง 8 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่โรงแรม และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านและคนที่อาศัยอยู่ในโซนพระราม 3 ในอนาคต

เราเดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศของการก่อสร้างมาให้ชมกัน ตอนนี้เริ่มมีตัวตึกขึ้นมาให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ส่วนของอาคารสำนักงานขายจะอยู่ทางด้านหลัง ซึ่งในอนาคตจะทำการรีโนเวทอาคารสำนักงานขายให้เป็น club house ของโครงการ

พื้นที่ว่างด้านข้างที่ในอนาคตจะทำการสร้างอาคาร mixed use ตอนนี้มีร้าน shakariki 432 เข้ามาขอเช่าพื้นที่เปิดร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นอยู่ด้วย

พื้นที่ตรงส่วนร้านอาหารในอนาคตจะเปิดเป็นศูนย์การค้า ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับริมแม่น้ำเจ้พระยาเลย

คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) โดดเด่นในเรื่องของวิวเป็นพิเศษ มองออกไปไกลๆ ในทางทิศตะวันออกจะมองเห็นวิวสะพานพระราม 9

บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าจะมีท่าเรือ ซึ่งในอนาคตทางโครงการแง้มว่าจะมีแผนการทำเรือรับ-ส่งจากท่าของโครงการถึงแหล่งชอป ชิม ชิล ต่างๆ ที่อยู่ติดกับริมเเม่น้ำเจ้าพระยาให้ด้วย

บรรรยากาศริมน้ำบริเวณท่าเรือ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นแหลงชุมชนริมแม่น้ำแนวราบเสียส่วนใหญ่

มองจากบนคลับเฮาส์จะเป็นวิวสะพานพระราม 9 ใกล้เข้ามาอีกนิดจจะเป็นตึกสูงประมาณ 20 ชั้น

ด้านหน้าคลับเฮาส์เองก็มีท่าเรือไว้สำหรับบริการจอดเรือยอร์ช ซึ่งท่าเรือทั้งสองท่า รองรับเรือได้ประมาณ 20-30 ลำเลยทีเดียว

สำรวจสภาพแวดล้อมบริเวณเซ็นทรัลพระราม 3

ถ้าเป็นในด้านอาหารการกิน รอบโครงการดูจะหาอะไรอร่อยๆ ทานกันยากสักหน่อย แต่สำหรับคนมีรถคงจะไม่ใช่ปัญหา แค่ขับออกไปไม่ไกลก็เจอกับแหล่งชอปปิงต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ ศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรืออยากจะเที่ยวย่านกรุงเก่า อย่างย่านธนบุรี เลยหัวลำโพงไปก็จะเป็นถนนเยาวราช ซึ่งเป็นแหล่งซื้อ-ขายอาหารมากมาย หรือถ้าใครไม่อยากไปไหนไกลก็มีห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล พระราม 3 อยู่ห่างจากคอนโดไปประมาณ 4.2 กิโลเมตรเท่านั้น เดี๋ยวตามเราไปชมกันเลยดีกว่าว่า สภาพแวดล้อมแถวห้างเซ็นทรัล พระราม 3 จะเป็นอย่างไรบ้าง

เซ็นทรัล พระราม 3 อาจจะไม่ได้คึกคักมากนัก แต่ก็เป็นแหล่งชอปปิงที่ใกล้ที่สุดในย่านนี้

นอกจากจะมีรถแท็กซี่ให้บริการ ก็ยังมีรถตู้รับ-ส่งผู้โดยสารอยู่ด้วย

ด้านหน้าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่

มีป้ายรถโดยสารประจำทางอยู่ด้านหน้า

ถัดไปอีกหน่อยเป็นคิวรถตุ๊กๆ เรียกว่ามียานพาหนะให้เลือกใช้บริการกันครบทุกรูปแบบเลยทีเดียว

ใกล้กับห้างเซ็นทรัล พระราม 3 จะเป็นร้านคาเฟ่ Hokkaido farm

บริเวณใต้ทางด่วนก็มีคิววินรถตู้อยู่อีกหนึ่งจุด

สำหรับการจราจรบริเวณสี่แยกรัชดาตัดสาธุประดิษฐ์ก็ไม่ได้ติดอะไรมากนัก ขับรถในย่านนี้สบายกว่าการขับรถในตัวเมืองเยอะเลยค่ะ

ข้ามมายังอีกฝั่งของถนนจะเป็นย่านชุมชนของถนนสาธุประดิษฐ์ แถวนี้ตอนเย็นๆ หรือกลางคืนน่าจะมีของขายเยอะพอสมควรค่ะ

เดินเลยถนนสาธุประดิษฐ์ไปไม่ไกลจะเจอจุดขึ้น-ลงทางด่วนสาธุประดิษฐ์ ใช้วิ่งไปถึงบางนา ดินแดง หรือจะไปแยกพระราม 9 ก็ได้ค่ะ

เจาะลึกภาพรวมโครงการ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)

คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) คอนโดในเครือบริษัท คณาพญา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 888 ตามหลักฮวยจุ้ยของคนจีนถือเป็นเลขมงคล และในความเชื่อจากทาฝั่งยุโรปเองก็ยกให้เลข 8 เป็น Lucky number ซึ่งมีรูปร่างความคล้ายคลึงกับเครื่องหมาย infinity ที่หมายถึง ความไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยทำเลที่ติดกับโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้รับขนานนามว่า ท้องมังกร โครงการจึงออกแบบตัวอาคารให้สามารถรับชมวิวแม่น้ำได้แบบพาโนรามา ไม่มียูนิตไหนได้เปรียบ หรือเสียเปรียบกัน

นอกจากเรื่องวิวแล้ว ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือการมีท่าเรือส่วนตัว (Canapaya Marina) มีไว้เพื่อรองรับเรือยอร์ชได้ถึง 20-30 ลำ เนื่องจากบริเวณคุ้งน้ำในย่านพระราม 3 ไม่ได้รับผลกระทบจากการสัญจรของเรือโดยสาร เรือขนส่งต่างๆ เหมือนอย่างฝั่งเจริญกรุง หรือเจริญนคร ทำให้ผู้พัฒนาโครงการสามารถสร้างท่าเรือได้โดยไม่ต้องกังวลว่า เรือที่จอดอยู่จะได้รับความเสียหายค่ะ

มาดู Master Plan ของโครงการกันค่ะ พื้นที่ทั้งหมด 12 ไร่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เฟส โดยคอนโดมิเนียมจะอยู่ในพื้นที่เฟสที่ 1 ทางด้านหน้าของโครงการจะอยู่ติดริมแม่น้ำ ด้านหน้ามีท่าจอดเรือยอร์ช ถัดเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นส่วนของคลับเฮาส์ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชั้น และที่อยู่ติดกันนั้นจะเป็นส่วนของอาคารสูง 57 ชั้น จำนวน 188 ยูนิต ก็ถือว่า เป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียวค่ะ ทางเข้าของโครงการจะอยู่ติดกับถนนพระราม 3 โดยเเยกทางเข้า-ออกของ Riverfront (พื้นที่ของศูนย์การค้าและโรงแรม) ออกจากฝั่ง Residences (คอนโดมิเนียม) ไว้ชัดเจน ส่วนในเฟสที่ 2 จะเเบ่งเป็นพื้นที่ของศูนย์การค้าและโรงแรมตามแผนผังเลยค่ะ กินพื้นที่ของโครงการไปประมาณ 8 ไร่ ตรงกลางระหว่าง 2 เฟสจะมีคลองสาธารณะผ่ากลาง และมีคลองเล็กๆ ทางด้านข้างของตัวคอนโดอีกหนึ่งจุด คลองทั้ง 2 สายคือ คลองสำหรับดึงน้ำเจ้าพระยาเข้าไปใช้งานในเมือง ซึ่งในอนาคตทางคอนโดก็มีโครงการที่จะปรบปรุงให้เป็นคลองสวย ปลูกต้นไ้ไว้รอบๆ ทำเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับผู้อยู่อาศัยในคอนโด

ส่วนของโมเดลจำลองพื้นที่ของ Canapaya ค่ะ อย่างที่บอกว่ามี 2 เฟสบนพื้นที่เดียวกันแต่ไม่ต้องกังวลว่า ตึกในทางฝั่ง Riverfront จะบล็อกวิวของคอนโดนะคะ เพราะทางโครงการออกแบบตึกมาให้เยื้องกันพอดีจึงไม่มีปัญหาด้านการโดนบล็อกวิวค่ะ

ตัวอย่างภาพวิวของ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) ชั้น 18 ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

ตัวอย่างภาพวิวของ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) ชั้น 32 ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

ตัวอย่างภาพวิวของ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) ชั้น 50 ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

มาดูรายละเอียดส่วนต่างๆ ของคอนโดกันนะคะ ตัวอาคารของ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) สูง 57 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 188 ยูนิต เฉลี่ยต่อชั้นมีจำนวนยูนิตสูงสุดอยู่ที่ 6 ยูนิต ซึ่งถือว่ามีน้อยมาก เมื่อเทียบกับโครงการในระดับ Super luxury ด้วยกัน ในชั้นล่างๆ จะเป็นลานจอดรถ จนถึงชั้น 6 ในชั้น 7 จะเป็นพื้นที่ของ Lounge และส่วนของที่พักอาศัยของคอนโด จะเริ่มต้นที่ชั้น 8 เป็นต้นไป ส่วนรูปแบบของห้องพักจะมีตั้งแต่ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 45-68 ตร.ม. 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 85-90 ตร.ม. 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 92-159 ตร.ม. 4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 234-248 ตร.ม. Penthouse พื้นที่ใช้สอย 192-502 ตร.ม.

นอกจากจำนวนยูนิตที่น้อยกว่าคอนโดอื่นๆ แล้ว ทางโครงการยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นด้วยการแยก facilities ออกมาจากตัวอาคาร กลายเป็น Club House ไว้ให้สำหรับลูกบ้านและเเขกที่มาเยี่ยมเยือนได้ใช้งาน และมีการแยก facilities อีกส่วนไว้ให้ลูกบ้านต่างหากที่ชั้น 50 เป็นชั้นที่มีสระว่ายน้ำรับวิวในมุมสูง แต่เน้นในการเเช่น้ำเล่นมากกว่าการว่ายจริงจังนะคะ เพราะสระไม่ได้กว้างมาก ถ้าอยากว่ายออกกำลังกายก็แนะนำให้ใช้สระด้านล่างจะดีกว่า

ผังอาคารของ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)

สำหรับในชั้นที่ 8-49 จะเป็นส่วนของที่พักอาศัย เริ่มต้องแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน ไปจนถึงห้องแบบ 4 ห้องนอน โดยในชั้นที่ 8 และ 29 จะมีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ทำสวนระหว่างชั้นไว้ให้ใช้พักผ่อน ซึ่งสวนนี้จะทำการเปิดเพดาน (Void) สูงขึ้นไปอีกประมาณ 10 ชั้น เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับคอนโด ส่วนด้านวิวทางโครงการจะวางผังห้องไว้ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งห้องจะรองรับการเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วยการทำระเบียงยื่นเหลื่อมกันออกมา จึงไม่มีห้องไหนโดนบล็อกวิว

และถัดจากชั้นที่ 50 ซึ่งเป็นชั้นของ facilities ขึ้นไป จากชั้น 51-57 จะเริ่มเป็นห้องพักแบบ Duplex และ Pent house โดย จะมีบริการ Service Elevator ให้ใช้งานต่างหาก ส่วนจำนวนยูนิตของ Pent house ก็มีประมาณ 7 ยูนิตเท่านั้น ทำให้ห้องในชั้นบนๆ มีความเป็นส่วนตัวสูงมากขึ้นอีก

ภาพจริงของ Canapaya Residences ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ค่ะ ส่วนฝั่ง Riverfront (พื้นที่ของศูนย์การค้าและโรงแรม) ยังไม่ได้มีการก่อสร้างใดๆ

มาดูฝั่งของ Club house ซึ่งในปัจจุบันทางโครงการใช้เป็นสำนักงานขายกันต่อเลยนะคะ

แผนผัง club house ของ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)

สำหรับ Club house จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ชั้น โดยในชั้น 1 จะเป็นส่วนของโซนพักผ่อนอย่าง โซนเบเกอรี โซนอ่านหนังสือ ห้องดูหนังฟังเพลง และพื้นที่นั่งเล่นที่มีทั้งแบบ In door และ Out door มีห้องน้ำแยกชายหญิงให้ มีห้องประชุมสำหรับพูดคุยกัน รวมถึงมีสระว่ายน้ำไว้ให้ว่ายออกกำลังกายได้

ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายอย่างฟิตเนส ซาวน่าแบบแยกชาย-หญิง ห้องแอโรบิก ห้องนวดสปาและแผนไทย มีร้านซาลอนสำหรับสาวๆ และสุดท้ายก็จะเป็นห้องของนิติบุคคลของโครงการค่ะ

ต่อไปเราจะพาเข้าไปชมสำนักงานขายของโครงการกันนะคะ ในอนาคตอาคารนี้จะรีโนเวทเปลี่ยนไปเป็นคลับเฮาส์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของ facilities หลักของทางโครงการค่ะ

คลับเฮาส์จะตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โอบล้อมด้วยสระว่ายน้ำที่ทอดยาวจากด้านหน้าสู่ด้านข้างของอาคาร

บริเวณที่นั่งพักผ่อนแบบ out door สัมผัสวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบใกล้ชิด เพียงแค่เอื้อม

ด้านในของอาคารจัดทำเป็นเก้าอี้นั่ง เน้นความหรูหราและใช้สี น้ำตาล ชมพู ทอง ในการตกแต่งเป็นหลัก

มีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์สำหรับติดต่อสอบถามข้อมูลของโครงการ

มองออกไปด้านอกจะเป็นของสระว่ายน้ำ และวิวเเม่น้ำเจ้าพระยา

เดินตรงมาอีกฝั่งจะเป็นที่ตั้งของโมเดลจำลองอาคารของ Canapaya Residences ซึ่งโซนนี้จะรื้อออกไปเมื่อโครงการสร้างเสร็จแล้วค่ะ

เลี้ยวมาด้านหลังจะเป็นบันไดหินอ่อน ทอดตัวยาวสู่ชั้นบน ซึ่งตอนนี้จัดทำเป็นห้องตัวอย่างของคอนโดค่ะ

ถ้าใครไม่อยากขึ้นบันไดที่นี่ก็มีลิฟต์ให้บริการอยู่ด้วยค่ะ

ข้ามขึ้นมาดูชั้น 3 กันก่อนนะคะ ชั้นนี้จะมีห้องตัวอย่างให้ชมหนึ่งห้อง และมีจุดสำหรับชมวิวด้วย

เปิดออกมาด้านนอกจะเป็นชุดเก้าอี้ที่จัดเป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ในอนาคตก็ยังไม่ทราบว่าจะจัดทำเป็นอย่างอื่นเพิ่มเติมหรือเปล่า

วิวทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางทิศเหนือจะเห็นอาคารสูงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้บดบังวิวอะไร

ส่วนทางด้านทิศตะวันตกจะติดกับอาคารสำนักงานสูงประมาณ 8 ชั้น

วิวทางทิศตะวันออกจะเป็นวิวเเม่น้ำติดกับสะพานพระราม 9 เวลากลางคืนก็ดูสวยงามเนื่องจากแสงไฟจากถนน

บรรยากาศช่วงใกล้ค่ำ เเสงไฟจากร้านอาหารด้านล่างก็ทำให้วิวดูสว่างสดใสดีค่ะ

ติดกับสะพานพระราม 9 จะเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคารกสิกร

ก้มมองด้านล่างจะเป็นวิวสระว่ายน้ำค่ะ

ถ้ามองตรงไปทางทิศใต้จะเป็นท่าเรือ และวิวเเม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งช่วงโค้งน้ำบริเวณนี้จะมีความกว้างมากกว่าปกติ จึงมีพื้นที่สำหรับการทำท่าเรือจอดเรือยอร์ช

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นวิวขอาคารสูง 8 ชั้น ถ้าเป็นในชั้นสูงๆ ก็จะมองเลยไปเห็นวิวชุมชนดั้งเดิมของย่านพระราม 3

แถมท้ายด้วยวิวสวยๆ ของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงเวลากลางคืน

เวลาเปิดไฟแล้วได้บรรยากาศสวยๆ เหมาะกับการดินเนอร์

อาคารของสำนักงานกสิกรในเวลากลางคืนก็สาดแสงไฟทำให้บริเวณนี้สว่างไปทั่วบริเวณ

สำหรับห้องตัวอย่างที่ทาง คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) จัดเตรียมไว้ให้ชม มีทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ 1 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม., 2 ห้องนอน ขนาด 85 ตร.ม. และ 3 ห้องนอน ขนาด 147 ตร.ม.

1 Bed 45 SQ.M

เริ่มต้นการรีวิวห้องตัวอย่างของทางโครงการ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) กับห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 45 ตารางเมตร ทางโครงการขายแบบ Fully fitted เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการตกแต่งห้องด้วยตัวเอง ด้านแผนผังห้องจัดวางออกมาได้เป็นสัดส่วน เมื่อเปิดประตูเข้าไปส่วนแรกที่เจอจะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ติดกันเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งอยู่ติดกับระเบียงยาว ทางด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำที่สามารถเปิดเข้าออกได้ทั้งจากฝั่งห้องนั่งเล่นและห้องนอน เดินต่อเข้าไปอีกหน่อยเป็นพื้นที่ห้องนอน ซึ่งมีสัดส่วนที่เล็กกว่าทางฝั่งห้องนั่งเล่น แต่ก็ไม่ได้เล็กจนน่าอึดอัดอะไรค่ะ

นี่เป็นภาพ 360 องศา แสดงให้เห็นบรรยากาศรอบๆ ห้องขนาด 45 ตารางเมตร ถือว่ามีขนาดใหญ่เหมือนกันนะคะสำหรับ 1 ห้องนอน บวกด้วยเพดานห้องสูง 3 เมตรยิ่งทำให้ห้องดูกว้างและไม่อึดอัดค่ะ พื้นห้องและพื้นครัวปูด้วยหินแกรนิตโต้ การปูพื้นด้วยหินแกรนิตโต้ทำให้ห้องเย็นขึ้น

ประตูห้องเป็นแบบ Digital Door lock ของ Yale ค่ะ มีความปลอดภัยสูง

เข้ามาในห้องจะเจอกับห้องครัวที่ตั้งอยู่มุมซ้ายมือ มีการจัดโต๊ะรับประทานอาหารแบบสองที่มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ถัดไปก็เป็นมุมที่นั่งเล่น ถูกจัดมาเป็นสัดส่วน

ครัวจะเป็นแบบครัวฝรั่งค่ะ Pantry จะแยกมุมทำอาหารกับล้างจานออกจากกัน ท็อปครัวทำจากหินสังเคราะห์ ทนต่อกรดและด่างได้ดี

โดยโครงการจะมีเตามาให้เป็นเตาแบบ 2 หัว เป็นเตาเซรามิกพร้อมกับเครื่องดูดควัน อ่างล้างจานแบบ 1 หลุมยี่ห้อ Blanco และก๊อกน้ำยี่ห้อ Hansgrohe ไม่มีที่พักจานมาให้ค่ะ มีชั้นสำหรับวางไมโครเวฟซึ่งฝังมาให้กับครัวเลยและช่องสำหรับวางตู้เย็น ประตูตู้เก็บของเป็นบานกระจกพ่นสีไฮกลอสค่ะ

ตู้เก็บของแต่ละตู้จะมีชั้นเก็บของที่เยอะสามารถเก็บของได้เป็นระเบียบ แต่จะเก็บของชิ้นใหญ่ๆ ไว้ด้านบนไม่ได้ค่ะ บานประตูของตู้และลิ้นชักทั้งหมดภายในครัวจะเป็น Soft-close ทั้งหมด

สำหรับเครื่องปรับอากาศจะเป็นแบบซ่อนฝ้า ดูแล้วสวยงามและเป็นระเบียบมากกว่าการติดตั้งแบบแขวนผนัง

ด้านซ้ายบริเวณตรงข้ามกับครัวจะเป็นมุมไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้า พร้อมติดตั้งระบบท่อระบายน้ำและปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย

มุมมองจากฝั่งห้องนั่งเล่นค่ะ ตรงข้ามกับโซนครัวจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งใช้ร่วมกันกับห้องนอน

ทางคอนโด คณาพญา เรสซิเดนซ์ ทำการลดระดับพื้นห้องน้ำลงมาจากพื้นด้านนอกเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำและความชื้นจากภายในห้องน้ำกระเด็นออกไปยังด้านนอก

ห้องน้ำแยกส่วนเปียกเเละส่วนแห้งออกจากกันชัดเจนค่ะ

ต่อไปมาดูห้องนั่งเล่นกันต่อนะคะ มุมนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาดนั่งสามคนได้ มุมที่ได้จะติดกับระเบียงพอดี ช่วงกลางวันจะได้แสงสว่างจากข้างนอกสาดเข้ามา ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟในห้องเพิ่มค่ะ

ระยะห่างระหว่างชั้นวางทีวีกับโซฟามีระยะห่าง 2.5 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 42 นิ้วได้อย่างสบายๆ เลยค่ะ

ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กระจกตัดแสงได้ดี มีน้ำหนักมาก เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่ใกล้ริมแม่น้ำ เวลาเจอลม เจอฝนจะได้แข็งแรง ทนทาน ไม่สั่นจนทำให้บานประตูหลุดลงมาได้

ระเบียงด้านนอกจะปูด้วยไม้เทียมกันลื่นได้ดี ส่วนราวกันตกทำจากกระจกใส พื้นที่ระเบียงกว้างพอให้วางชุดเก้าอี้เล็กๆ สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวได้

พื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ข้างๆ พื้นที่ระเบียง กั้นด้วยระเเนงไม้สีขาว ดูเป็นสัดส่วนและเรียบร้อยดีค่ะ ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์มาให้ดูแต่ในห้องจริงคอมเพรสเซอร์แอร์จะตั้งหันเป่าออกไปนอกระเบียง ทำให้ระเบียงไม่ร้อน สามารถออกมานั่งเล่นได้สบายๆ เลยค่ะ

กลับเข้ามาในห้องกันอีกรอบ ด้านข้างมุมชั้นวางทีวี จะเป็นห้องนอนค่ะ ประตูห้องนอนจะอยู่ติดกันเลย

มองจากด้านในห้องนอนออกมาด้านนอกกันบ้างค่ะ จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นค่ะ

ภาพ 360 องศา บรรยากาศห้องนอนโดยรอบๆ พื้นห้องนอนจะปูด้วยไม้ Engineering wood ไม่มีระเบียงห้อง มีแค่หน้าต่างเอาไว้ให้แสงสว่างเท่านั้นค่ะ

ขนาดห้องนอนดูจะเล็กไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับสัดส่วนของห้องนั่งเล่น และส่วนของระเบียงห้อง ห้องจริงจะเป็นห้องเปล่านะคะ สามารถตกแต่งห้องเองได้ตามใจชอบ ขนาดเตียงที่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ของห้องคือ 6 ฟุต แถมด้านข้างยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะหัวเตียงด้านข้างได้ด้วย

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านสบายๆ สำหรับใครที่อยากติดตั้งทีวีไว้ในห้องนอน ก็แนะนำให้ติดแบบแขวนผนังจะดีกว่าเเบบตั้งโต๊ะนะคะ จะได้เหลือทางให้เดินแบบกว้างๆ

หน้าต่างของห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง ยกสูงจะพื้นขึ้นมาประมาณ 60 เซนติเมตร ความสูงจรดเพดาน บานหน้าต่างจะเป็นออกได้ยากหน่อยนะคะ เพราะมีน้ำหนักมาก แต่ก็เพื่อการกันลม และกันกระเเทกที่ดี เวลาเปิดก็แนะนำให้ใช้วิธีแง้มๆ เอาจะดีกว่าการผลักออกไปจนสุด เพราะมันปิดยากพอสมควร

ส่วนพื้นที่อีกฝั่งของเตียงจะเป็นพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ที่โครงการแถมให้ เป็นตู้บานสไลด์อยู่ติดกับห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

ตู้เสื้อผ้ามีขนาดที่เหมาะกับการอยู่อาศัยคนเดียว ถ้าใครมีเสื้อผ้าเยอะๆ อาจจะต้องซื้อตู้อีกสักใบมาเสริม ด้านในตู้ก็แบ่งออกเป็นสามส่วน ทั้งส่วนเก็บของด้านบน ราวแขวนผ้า และลิ้นชักสำหรับการเก็บของ เหนือประตูและตู้เสื้อผ้าขึ้นไปจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ซึ่งทำมาให้แบบซ่อนฝ้าดูแล้ววยงามดีค่ะ

ชมภาพแบบ 360 องศากันค่ะ ห้องน้ำจะปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายหิน ดูหรูหรา ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้เป็นจุดๆ เพื่อความสว่าง และมีการเเบ่งฟังก์ชันการใช้งานแยกเป็นส่วนเปียกและโซนเเห้งอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ด้านอุปกรณ์และสุขภัณฑ์ให้มาครบถ้วนตามมาตรฐานของคอนโดมิเนียมระดับ Super luxury

ติดกับประตูจะเป็นอ่างล้างหน้า พร้อมกับกระจกบานสูง ส่วนทางซ้ายมือของตัวอ่างจะมีปลั๊กไฟให้หนึ่งจุดสำหรับเสียบไดร์เป่าผม เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า ฯลฯ

อ่างล้างหน้าเป็นของ Villeroy & Boch แบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ ขอบอ่างมีพื้นที่เล็กน้อยไว้ให้วางของ ใต้อ่างจะเป็นตู้บานเปิดคู่

ก๊อกน้ำเป็นแบบก้านโยกขึ้น-ลงของ hansgrohe สามารถปรับระบบน้ำร้อน-เย็นได้ค่ะ

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Villeroy & Boch แบบ Wall-Hung ซ่อนตัวถังไว้ในผนัง ด้านข้างติดตั้งสายฉีดชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ของ HAFELE มาให้เรียบร้อย ถัดจากโถสุขภัณฑ์จะเป็นส่วนเปียก ซึ่งกั้นด้วย Shower box ยี่ห้อ Showerlux Duscholux จากเยอรมันนี

ด้านในโซนเปียกติดตั้งฝักบัวแบบ hand shower จาก hansgrohe หัวก๊อกน้ำสามารถปรับระดับน้ำร้อน น้ำเย็นได้ตามใจชอบด้วยค่ะ

2 Bed 85 SQ.M

ต่อมาจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 85 ตารางเมตร เป็นขนาดห้องที่ถือว่าใหญ่ทีเดียวเลยค่ะ ห้องนี้ขายแบบ Fully fitted ไม่ได้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว แต่ได้ชุดครัวแบบจัดเต็ม ส่วนผังของห้องจะเเยกส่วนของการทำกิจกรรมและส่วนพักผ่อนออกจากกัน เพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องจะเจอโซนครัวแบบเปิดอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ซึ่งเหมาะกับการทำอาหารเบาๆ ที่ไม่มีกลิ่นฉุนมากนัก ถัดไปจะเป็นโซนห้องนั่งเล่นที่แบ่งพื้นที่ไว้ให้เป็นโซนรับประทานอาหารด้วยครึ่งหนึ่ง ติดกับโซนห้องนั่งเล่นจะเป็นระเบียงยาว จัดไว้ให้เป็นจุดชมวิวค่ะ และเมื่อหันมามองทางฝั่งขวามือของห้อง จะเป็นโซนพักผ่อน นั่นก็คือ ห้องนอน ในห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำแยกให้ในตัว พร้อมอ่างอาบน้ำเพิ่มเข้ามาให้ ส่วนห้องนอนเล็กจะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องรับแขก แต่ก็ไม่ได้ใช้งานลำบากนักค่ะ

เริ่มจากหน้าประตูทางเข้าห้อง พื้นภายในห้องปูด้วยกระเบื้องแกรนนิตโต้ลายหินอ่อน ในห้องตัวอย่างไม่ได้ทำตัวจบเก็บงานมาให้ดู ก็ต้องลองสอบถามกับทางโครงการดูนะคะว่า ในห้องจริงจะมีการยกพื้น หรือทำธรณีตัวจบเก็บงานมาให้แบบไหน

ประตูห้องเป็นประตูสีขาว ติด Digital door lock ของ Yale มาให้เรียบร้อย

ภาพ 360 องศาภายในห้องค่ะ ส่วนแรกที่จะพาไปชมก็คือโซนห้องครัว ซึ่งทางคอนโด Canapaya Residences จัดวางมาให้ในรูปตัว U มีเกาะกลางสำหรับประกอบอาหาร ครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบเปิดมีพื้นที่เชื่อมต่ออยู่กับห้องนั่งเล่น การประกออบอาหารจึงไม่เหมาะกับการทำอาหารที่ควันเยอะ หรือมีกลิ่นฉุนนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้กลิ่นของอาหารลอยไปติดกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนั่งเล่นได้

ทาง คณาพญา เรสซิเดนซ์ จัดชุดครัวมาให้ครบเซ็ตตามที่เห็นในภาพ แถมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน และตู้ Built-in

ตู้เย็นที่ทางโครงการแถมให้เป็นยี่ห้อ Siemens พอดีกับช่องที่จัดมาให้พอดี ด้านข้างจะเป็นไมโครเวฟจาก Siemens เช่นเดียวกันเป็นแบบฝังตู้ ดูกลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์ครัว ส่วนด้านล่างเป็นเตาอบสำหรับอุ่นอาหารของ Siemens เรียกว่าให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามาครบ แทบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมเลยค่ะ

สำหรับตู้ใส่ของทั้งหมดเป็นแบบ soft-clse หน้าบานเป็น Acrylic สีขาวเรียบ ขนาดใหญ่และใส่ของได้เยอะเลยค่ะ ส่วนเคาน์เตอร์ครัวที่วางตัวเป็นรูปตัว U จะเเบ่งเป็นพื้นที่ประกอบอาหาร และพื้นที่สำหรับวางของเพิ่มเติมได้ วึ่งพื้นที่ว่างด้านข้างเตาไฟฟ้า เราสามารถจัดเป็นโต๊ะทานอาหาร วางของทานเล่น หรือใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารก็ได้เหมือนกันค่ะ

ถัดจากเตาไมโครเวฟ จะเป็นอ่างล้างจานแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ มีตู้ให้สำหรับใส่ของทางด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นตู้บานเปิดคู่ ซ่อนระบบอ่างไว้ด้านใต้ พร้อมกับมีถังขยะติดตั้งมาให้ด้วย

อ่างล้างจานเป็นแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ ของ Blanco แบ่งเป็น 2 หลุมสำหรับวางแก้วและจาน-ชามแยกกัน ด้านข้างไม่มีที่พักจานมาให้ ส่วนท็อปครัวทั้งหมดทำจากหินสังเคราะห์ ซึ่งทนทานต่อกรด-ด่างได้ดีค่ะ

ก๊อกน้ำเป็นของ Hansgrohe แบบก้านโยก สามารถเปลี่ยนทิศทางของหัวก๊อกได้ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

ติดกับอ่างล้างจานจะมีปลั๊กไฟติดตั้งไว้ สำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าให้หนึ่งจุด

สำหรับเตาไฟฟ้าสำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน จะได้มา 4 หัวจากยี่ห้อ Siemens

เหนือเตาไฟฟ้าจะเป็นเครื่องดูดควันของ Siemens แบบปล่อยออกนอกอาคาร

ใต้เคาน์เตอร์เตาไฟฟ้าจะเป็นลิ้นชักสำหรับใส่ช้อน ส้อม และมีลิ้นชักเอนกประสงค์สำหรับใส่จาน ชาม หรือเครื่องใช้ที่ต้องหยิบใช้บ่อยๆ

มุมมองจากฝั่งห้องนั่งเล่น มองไปยังครัว เหนือพื้นที่ครัวจะเป็นระบบเครื่องปรับอากาศแบบฝังผนังค่ะ

สำหรับห้องนั่งเล่น ในห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ แต่ก็สามารถนำไอเดียจากให้ตัวอย่างไปปรับปรุงพื้นที่ภายในห้องให้สวยงามขึ้นได้ด้วยเช่นกัน โดยทางคอนโด Canapaya Residences ได้แบ่งพื้นที่ของห้องนั่งเล่นให้เป็นพื้นที่พักผ่อน และพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งขนาดของห้องนั่งเล่นก็กว้างพอที่จะว่างโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านได้อีกด้วย

ส่วนห้องนั่งเล่นจัดวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ระยะห่างระหว่างโซฟาถึงทีวีอยู่ที่ 1.5 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 26-42 นิ้ว แต่ถ้าใครชื่นชอบการดูทีวีจอใหญ่ ก็สามารถขยับโซฟาเลื่อนออกให้ไกลขึ้นได้ค่ะ

ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่ระเบียง ซึ่งกั้นด้วยกระจก tempered glass หนาถึง 3 เซนติเมตร ทำให้บานประตูมีน้ำหนักมาก แต่ก็เพื่อป้องกันลมที่พัดมาจากแม่น้ำ ซึ่งในบางช่วงลมก็แรงมาก ถ้าใช้ประตูบานเลื่อนธรรมดาอาจจะทำให้ประตูแกว่งและเกิดการชำรุดได้

วงกบประตูมีการใช้สักหลาดในการกันฝุ่น เสียงและแมลงเข้ามาภายในห้องด้วย

ประตูบานเลื่อนเป็นแบบรางเลื่อนด้านล่าง ยกสูงขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อย

พื้นที่ระเบียงด้านนอกกว้างกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน สามารถวางเก้าอี้ตัวใหญ่ไว้ได้เลยค่ะ ส่วนพื้นห้องเป็นพื้นไม้สังเคราะห์ ราวกันตกเป็นกระจกใส เพื่อให้มองเห็นวิวด้านนอกได้ชัดขึ้น

จำลองบรรยากาศของวิวทางฝั่งทิศตะวันออกจากระเบียงของห้อง ซึ่งมองออกไปจะเห็นวิวเเม่น้ำ และสะพานพระราม 9 ค่ะ

กลับเข้ามาในห้องกันอีกรอบ ต่อไปเราจะพาไปชมโซนพักผ่อนอย่างห้องนอน รวมถึงห้องน้ำด้วยค่ะ ตามมาชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

ห้องเเรกที่เราเจอจะเป็นห้องนอนเล็ก ไม่มีห้องน้ำในตัว เเต่สามารถเดินไปใช้งานห้องน้ำที่ใช้รวมกับห้องรับแขก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องได้ ขนาดห้องไม่กว้างมากค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 3-4 ฟุตได้ กำลังพอดี พื้นห้องจะปูด้วย Engineering wood ผนังจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวมาให้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะมีเพียงตู้เสื้อผ้า ส่วนเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอื่นๆ ทางโครงการไม่ได้เเถมมาให้ค่ะ

2 ฝั่งข้างเตียงกว้าง 70 เซนติเมตร กว้างพอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ และติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้เเล้วเรียบร้อย

บริเวณปลายเตียงในห้องจริงจะโล่งๆ จะมีให้แค่ตู้เสื้อผ้า ไม่มีโต๊ะทำงานมาให้ แต่เราสามารถนำไอเดียการจัดวางโต๊ะทำงานมาใช้ในการแต่งห้องจริงของเราได้นะคะ ซึ่งการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in นอกจากจะประหยัดพื้นที่ในการจัดวางแล้ว ยังดูสวยงาม และกลมกลืนเป็นธรรมชาติอีกด้วย

ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นบานประตูแบบสไลด์ กรุกระจกสีชา การทำประตูแบบบานสไลด์ก็เพื่อประหยัดพื้นที่ในการเปิด-ปิด เนื่องจากพื้นที่บริเวณปลายเตียงมีค่อนข้างจำกัดค่ะ ส่วนในตู้เสื้อผ้าก็แบ่งเป็นช่องเก็บของทางด้านบน ตรงการเป็นราวแขวนเสื้อ และด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับเก็บของมาให้ ขนาดก็กำลังพอดีค่ะ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไปสำหรับขนาดของห้องนี้

สำหรับห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนเล็ก พื้นของห้องน้ำจะทำการลดระดับจากพื้นด้านนอกเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลออก พื้นและผนังห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ พื้นผิวค่อนข้างลื่นนะคะ แนะนำให้นำผ้าเช็ดเท้ามาวางไว้เช็ดเท้าก่อนเข้าออกจากโซนเปียก จะได้ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากพื้นลื่นๆ แบบนี้ได้

สุขภัณฑ์ที่ได้ก็ครบครันค่ะ อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ของ Villeroy & Boch มีพื้นที่ให้วางของรอบอ่างเยอะพอสมควร เเถมใต้อ่างมีตู้ไว้สำหรับเก็บของเพิ่มเติมให้ด้วย

ก๊อกน้ำเป็นของ hansgrohe ส่วนโถสุขภัณฑ์จะตั้งอยู่ด้านข้างเป็นของ Villeroy & Boch แบบ Wall-Hung

พื้นที่ฝั่งเปียกขนาด 1.3 x 0.9 เมตร กั้นแยกส่วนด้วย Shower box พร้อมติดตั้งฝักบัวแบบ Hand shower ของ hansgrohe มาให้เรียบร้อย

เดินตรงมาชม Master Bedroom กันต่อนะคะ ห้องนี้จะได้เฉพาะตู้เสื้อผ้า นอกนั้นจะเป็นพื้นที่ห้องโล่งๆ มีห้องน้ำให้ในตัวพร้อมอ่างอาบน้ำให้นอนแช่กันสบายๆ ส่วนพื้นห้องปูด้วยไม้ Engineering wood ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบา ฉาบปูนทาสีขาวมาให้

ห้องนี้ขนาดกว้างพอให้วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ

ห้องของโครงการนี้โดดเด่นในเรื่องของวิว ดังนั้นจึงออกแบบให้หน้าต่างมีความกว้างและสูงเต็มผนัง เพื่อเปิดรับวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มที่ค่ะ ส่วนหน้าต่างจะเป็นบานกระทุ้ง สามารถเปิดออกไปรับลมจากด้านนอกได้

พื้นที่ข้างเตียงเหลือที่ว่างให้วางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย

พื้นที่ปลายเตียงกว้างพอให้วางชั้นวางทีวีได้ แต่ขนาดก็ไม่ควรหนาเกิน 20-30 เซนติเมตรนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะกินพื้นที่ทางเดินมากเกินไป หรือใครอยากจะได้พื้นที่หน้าเตียงกว้างๆ ก็แนะนำให้เลือกซื้อทีวีแบบแแขวนผนังแทนการวางบนชั้นไปเลย

ติดกับเตียงจะเป็นห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำนี้เป็นกระจกใส แบบ Sexy Bath อาบไปชมวิวไปเพลินๆ หรือถ้าใครรู้สึกเขินๆ ก็อาจจะหาสติกเกอร์กระจกขุ่นมาปิดทับสักหน่อยก็ได้ค่ะ

สำหรับตู้เสื้อผ้าห้องนี้มีให้ 2 ตู้ จุกันไปแบบเต็มๆ เป็นตู้บานเปิดคู่ ด้านในก็กว้างพอสมควร แบ่งกันไปเลยคนละตูู้ ดูแล้วเป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ

ก้าวเข้ามาดูในห้องน้ำกันเลยนะคะ ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดกว้าง และส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกัน แต่ที่พิเศษขึ้นมาอีกหน่อยคือ มีอ่างอาบน้ำมาให้ ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์อื่นๆ มีมาให้เหมือนกับห้องน้ำด้านนอกค่ะ

มุมอ่างล้างหน้า มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ ตัวอ่างเป็นแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ของ Villeroy & Boch

ขนาดอ่างค่อนข้างกว้างและลึก แถมมีพื้นที่วางของด้านข้างให้เพิ่มเติมอีก เวลารีบๆ ล้างหน้าแล้วรับรองว่า ล้างหน้าแล้วน้ำไม่กระเด็นแน่นอน

อ่างอาบน้ำเป็นของ Kaldewi ขนาดเล็กกะทัดรัด สำหรัคนตัวใหญ่ๆ อาจจะใช้งานได้ลำบากหน่อยนะคะ

ชุดก๊อกน้ำของอ่างสามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิของน้ำได้ พร้อมกับมีฝักบัวอยู่ด้านข้าง สามารถดึงยืดออกมาใช้ล้าง เนื้อล้างตัวได้ค่ะ

ถัดจากอ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้าเข้าไป จะเป็นโถสุขภัณฑ์และโซนอาบน้ำค่ะ

ที่ตั้งโถสุขภัณฑ์ดูจะแคบไปสักหน่อย คุณผู้ชายตัวใหญ่อาจจะรู้สึกอึดอัดเวลาต้องใช้งาน ด้านข้างติดตั้งที่ใส่กระดาษทิชชู่และสายฉีดชำระของ HAFELE หยิบใช้งานสายฉีดชำระได้ลำบากนิดหน่อยเพราะพื้นที่ค่อนข้างน้อยค่ะ

สำหรับโซนเปียกจะกั้นด้วยกระจก Shower Box เหมือนกับห้องน้ำด้านนอกค่ะ

ฝักบัวเป็นแบบ hand shower ของ hansgrohe

3 Bed 147 SQ.M

ห้องสุดท้ายที่ทางคอนโด Canapaya Residences เปิดให้เข้าชมกันจะเป็นห้องแบบ 3 ห้องนอน ขนาด 147 ตารางเมตร ถือเป็นขนาดห้องที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาห้องอยู่ต่ำกว่าชั้น 50 ทางโครงการขายแบบ Fully fitted ได้เพียงเฟอร์นิเจอร์ Built-in อย่างตู้เสื้อผ้า และชุดครัวครบชุด ส่วนเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่เห็นภายในห้องจะเป็นเพียงตัวอย่าง ซึ่งนำมาเป็นไอเดียในการแต่งห้องได้ค่ะ
สำหรับฟังก์ชันภายในห้องจะแบ่งเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องนอน ทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำให้ในตัว ห้องครัวจะมีเเบ่งให้ทั้งครัวแบบไทย และครัวแบบฝรั่ง พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียง ทำให้มองเห็นวิว Riverfront ได้ชัดเจน ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะมีอะไรบ้าง ตามไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

เริ่มต้นกันที่ประตูทางเข้าเลยนะคะ ประตูทางเข้าจะเป็นประตูบานสูง เนื่องจากห้องของทางคอนโดมีความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 3 เมตร ทาด้วยสีขาว ดูแล้วสะอาดตา

ที่ประตูติด Digital door locck ของ Yale มาให้ เพื่อความปลอดภัยค่ะ

พื้นภายในห้องจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนสีขาว พื้นระหว่างโถงทางเดินในห้องและด้านนอกไม่ได้ทำการยกธรณีประตู หรือทำตัวจบกั้นให้ดู อันนี้ต้องลองสอบถามกับทางโครงการอีกทีนะคะว่า ในห้องจริงจะมีการยกพื้นให้หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นเวลาเเม่บ้านทำความสะอาดเศษฝุ่น หรือสิ่งสกปรกอาจจะปลิวเข้ามาในห้องได้ค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับโถงทางเดิน ซึ่งแบ่งฟังก์ชันของห้องออกเป็นสองฝั่ง ทางเดินฝั่งขวามือจะทอดตัวไปสู่ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง แต่ถ้าเดินตรงไปจะเจอกับพื้นที่ครัว Master bedroom ห้องนั่งเล่น และระเบียงค่ะ

เดินเลี้ยวขวามาเเยี่ยมชมห้องนอนเล็กก่อนนะคะ การเเยกห้องนอนเล็กออกมาต่างหากแบบนี้ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แขกไปใครมาก็ไม่ต้องเดินผ่านมาเห็น สำหรับพื้นภายในห้องทั้ง 2 ห้องจะปูด้วย Engineering wood ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานสูง ทนต่อการบิดงอและมีอัตราการหดตัวต่ำ

เดี๋ยวเราเข้าไปสำรวจห้องทางฝั่งซ้ายมือกันก่อนเลยดีกว่าค่ะ

ห้องนี้ตกแต่งสไตล์ luxury มีการกรุกระจกเพิ่มที่ผนัง ทำให้ห้องดูกว้าง แต่ก็เป็นเพียงการตกแต่งในห้องตัวอย่างนะคะ ห้องจริงจะเป็นผนังก่ออิบมวลเบา ฉาบปูน ทาสี แทน ห้องทุกห้องจะมีการติดที่ตรวจจับควันไฟ เพื่อป้องกันอัคคีภัยมาให้ที่เพดาน ไฟในห้องเป็นไฟดาวน์ไลท์ สี Worm light ด้านเฟอร์นิเจอร์ทางคอนโด Canapaya Residences จะแถมตู้เสื้อผ้าให้ นอกนั้นจะได้มาเป็นห้องโล่งๆ ค่ะ

แม้จะเป็นห้องนอนเล็กแต่ก็สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ

ข้างหัวเตียงเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างเตียงได้ พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย

บริเวณปลายเตียงในห้องจริง จะเป็นพื้นที่โล่งๆ ผนังฉาบเรียบ ทาสีขาวมาให้ ที่ว่างตรงนี้สามารถวางโต๊ะทำงานแบบ Buit-in หรือจะวางชั้นวางทีวีก็ได้ แต่อย่างลืมกะระยะวางเก้าอี้ให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะชนกับขอบเตียงได้

ระยะห่างของเตียงอยู่ที่ประมาณ 50 เซนติเมตร เหลือไว้ให้เดินผ่านได้สบายๆ เลยค่ะ

ถัดจากเตียงไปจะเป็น walk-in closet เล็กๆ มีตู้เสื้อผ้าขนาบข้างทั้งองข้าง แต่สามารถเปิดได้ทีละด้านนะคะ ถัดเข้าไปอีกจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำ ซึ่งสะดวกในการใช้งานเวลาอาบน้ำเสร็จเเล้วก็สามารถเดินออกมาเเต่งตัวได้เลยทันที

ภายในตู้เสื้อผ้าจะเเบ่งเป็นช่องตามนี้ค่ะ มีให้สองตู้ ใส่เสื้อผ้าได้จุใจเลยทีเดียว

เข้ามาชมห้องน้ำกันต่อเลยนะคะ พื้นที่ห้องน้ำค่อนข้างกว้าง ถึงแม้จะเป็นห้องน้ำในห้องนอนเล็ก ด้านสุขภัณฑ์ก็ให้มาครบถ้วนทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู่ และมีการกั้นเเยกส่วนเปียกให้ ด้านในจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand shower มาให้เรียบร้อย

พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องลงมาเล็กน้อย พื้นห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนแบบเดียวกับพื้นด้านนอก

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างฝังลงบนเคาน์เตอร์ของ Villeroy & Boch ทอดตัวยาวขนานไปกับผนัง ให้สำหรับวางของ รวมถึงมีตู้ใต้อ่างสำหรับเก็บของเพิ่มเติมด้วย ด้านข้างมีปลั๊กไฟสำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผม ที่โกนหนวดไฟฟ้า เป็นต้น

สำหรับโถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำจะซ่อนอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

โถสุขภัณฑ์ตั้งอยู่มุมหนึ่ง มีสายฉีดชำระและ ที่ใส่กระดาษทิชชู่มาให้พร้อม พื้นที่ตรงนี้ดูแล้วค่อนข้างเล็กนะคะ แต่ทางคอนโดแจ้งว่า อาจจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการวางโถสุภัณฑ์ ให้ขยับมาทางขวาอีก ก็ต้องลองสอบถามทางคอนโดดูว่า เปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบไหน

สำหรับโซนเปียกจะทำเป็น Shower box แบบบานผลักเข้าด้านใน สำหรับท่อระบายน้ำก็เป็นสเตนเลส ทรงสี่เหลี่ยม ป้องกันเศษผม หรือสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันภายในท่อได้

พื้นที่ภายในห้องน้ำโซนเปียกค่อนข้างเล็กนะคะ ประมาณ 1.3x0.9 เมตร

ย้ายมาห้องทางด้านขวาต่อนะคะ ห้องนี้มีขนาดไม่ต่างจากห้องแรกเท่าไร แต่จะมีพื้นที่ช่วงปลายเตียงที่กว้างขึ้นมาเล็กน้อย นอกนั้นมีรูปแบบเหมือนกับห้องแรกทุกประการค่ะ

ห้องนี้สามารถวาเตียงขนาด 6 ฟุตได้เหมือนกันค่ะ เหลือพื้นที่ข้างเตียงให้เดินผ่านได้พอประมาณ

ห้องที่นี่มีหน้าต่างบานใหญ่ที่ให้ทั้งเเสงสว่าง และเป็นจุดชมวิว ซึ่งมองออกไปสามารถเห็นวิวเเม่น้ำได้หลายหลายมุมมอง

หน้าต่างสามารถเปิดออกไปได้นะคะ แต่ไม่ควรเปิดให้กว้างมาก เพราะหน้าต่างค่อนข้างหนัก เปิดออกไปมากๆ แล้วจะปิดยากเอานะคะ

หันกลับมาที่ปลายเตียง ในห้องจริงจจะเป็นที่โล่งๆ สามารถหาเฟอร์นิเจอร์มาวางแบบนี้ หรือจะเปลี่ยนเป็นทีวีเเขวนผนังสักเครื่อง เพื่อสร้างความสุนทรีย์ให้เกิดภายในห้องแทนก็ได้ค่ะ

อีกฝั่งของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานสไลด์ ด้านในมีช่องให้เก็บของตามภาพค่ะ และถ้าเดินเลยตู้เสื้อผ้าไปจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำ เดี๋ยวตามไปชมพร้อมๆกันเลยนะคะ

พื้นห้องน้ำลดดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย

ห้องน้ำเหมือนกับห้องแรกค่ะ ต่างแค่รูปแบบการวางเล็กน้อย ทางโครงการบอกว่า อาจจะมีการแก้ไขรูปแบบอีกนิดหน่อย โดยการทำประตูเชื่อมกับโถงทางเดินด้วย

อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ของ Villeroy & Boch พร้อมกระจกเงาบานสูง ส่องเห็นได้เกินครึ่งตัว

ขนาดอ่างกว้างและลึกพอสมควร เมื่อเทียบกับขนาดของฝ่ามือ

อ่างวางตัวแนวยาวขนานกับผนัง มีปลั๊กไฟติดตั้งมาให้แล้ว แต่อาจจะทำฝาครอบเพิ่มก็ได้นะคะ จะได้ปลอดภัยในการใช้งาน

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Villeroy & Boch แบบ Wall-Hung แบบฝังตัวถังเข้ากับผนัง ด้านข้างเป็นสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่ของ HAFELE หยิบใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

หัวของสายฉีดชำระเป็นสเตนเลส แข็งแรงดีค่ะ

ข้างโถสุขภัณฑ์จะเป็น Shower box ขนาดพอๆ กับห้องที่แล้วเลยค่ะ

แต่ประตูเป็นแบบผลักออกมาด้านนอก ซึ่งดูจะแปลกไปสักหน่อย เพราะปกติมักจะเป็นแบบผลักเข้าด้านใน การผลักออกไปด้านนอก หลังจากอาบนน้ำเสร็จ หยดน้ำที่เกาะอยู่บนกระจกก็จะไหลเปียกพื้น ทำให้เสียเวลาในการเช็ดถู ทำความสะอาดเพิ่มขึ้นอีก

ฝักบัวเป็นแบบ Hand shower พร้อมที่วางสบู่ ของ hansgrohe

ก๊อกน้ำสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้ ส่วนขนาดของฝักบัวก็พอดีมือ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป

ย้อนกลับมาที่โถงทางเดินภายในห้องอีกรอบนะคะ โถงทางเดินในห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบ ทาสีขาวมาให้ ไม่ได้มีการตกแต่งแบบในห้องตัวอย่างนะคะ และต่อไปจะพาเดินไปชมโซนห้องครัว ห้องนั่งเล่น และ Master bedroom กันตต่อเลยนะคะ

ชมภาพ 360 องศากันเล็กน้อย โซนห้องครัวจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น โดยห้องครัวของห้อง 3 ห้องนอนจะทำการเเยกเป็นครัวไทยและครัวฝรั่งให้ เพื่อความสะดวกสำหรับการทำอาหารค่ะ

ภาพรวมของห้องครัวจะได้ชุดครัวแบบจัดเต็มเหมือนในภาพเลยค่ะ

มาดูส่วนของการเตรียมวัตถุดิบกันก่อนนะคะ ตรงนี้จะมีอ่างล้างจาน ด้านล่างมีตู้เเช่ไวน์แถมมาให้ด้วยยี่ห้อ Gorenje สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ เหมาะกับคนที่ชอบดื่มไวน์โดยเฉพาะ ส่วนด้านข้างจะเป็นตู้เย็นที่ทางคอนโด Canapaya Residences แถมให้ ของ Siemens ขนาดใหญ่จุใจเลยค่ะ

อ่างล้างจานเป็นแบบ 2 หลุมของ Blanco ส่วนหัวก๊อกน้ำจะเป็น hansgrohe สามารถดึงส่วนหัวออกมาเป็นสายยางได้ ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดมากขึ้น

ตัวอ่างเทียบกับขนาดฝ่ามือ ถือว่ากว้างและลึกพอสมควรเลยค่ะ

เหนือเคาน์เตอร์ล้างจานจะมีตู้สำหรับวางวัตถุดิบ หรือของใช้จำเป็นในการทำครัว

ด้านล่างจะเป็นพื้นที่ให้วางของ และซ่อมแซมอ่าง ด้านข้างติดถึงขยะมาให้แล้วด้วย

หันมาดูฝั่งประกอบอาหาร ที่ทางคอนโดแยกออกมาเป็นเกาะลอยกันดีกว่าค่ะ ลักษณะเคาน์เตอร์จะเหมือนกับ 2 ห้องนอน คือมีจุดทำอาหารและจุดวางจาน ซึ่งอาจจะทำเป็นโต๊ะรับประทานอาหารไปเลยก็ได้

เตาที่ทางคอนโดให้เป็นเตา 4 หัวของ Siemens ด้านบนติดตั้งเครื่องดูดควันมาให้เรียบร้อย ยี่ห้อ Siemens เช่นเดียวกันค่ะ สามารถประกอบอาหารหนักได้ระดับหนึ่ง แต่ทางที่ดีทำในครัวไทยจะดีกว่า จะได้ช่วยกันกลิ่นและควันได้ดี

ใต้เคาน์เตอร์เป็นลิ้นชักวางช้อน ส้อมและลิ้นชักเอนกประสงค์สำหรับเก็บของใช้จำเป็นสำหรับการทำอาหาร เช่น จาน ชาม เป็นนต้น

ติดกับเตาไฟฟ้าจะเป็นไมโครเวฟและตู้อบ แบบฝังกับผนัง สองชิ้นนี้ทางโครงการก็ใจดีเเถมให้ ส่วนข้างๆ เตาอบ จะเป็นที่ตั้งเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าของ Siemens ซึ่งทางโครงการแถมให้ฟรีด้วยเหมือนกันค่ะ

ถัดจากครัวฝรั่ง มองเข้าไปจะเจอกับครัวไทย ซึ่งในห้องจริงจะทำประตูกั้นให้ สามารถทำอาหารหนักๆ ได้ตามสบายเลยค่ะ

บรรยากาศในครัวไทย ก็มีพื้นที่ล้างจาน และทำครัว แถมมีหน้าต่างที่สามารถเปิดออกไประบายกลิ่นได้อีกด้วย

ครัวไทยจะได้เตาไฟฟ้า 4 หลุมแบบขดลวดของ HAFELE พร้อมเครื่องดูดควันแบบปล่อยออกนอกอาคาร

ส่วนถัดมาจะเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ อยู่ติดกับห้องครัวเลย ในห้องจริงจะมาเป็นพื้นที่โล่งๆ สามารถจัดวางได้ตามใจชอบ แต่ถ้าใครไม่รู้จะเเต่งห้องยังไงดี ก็สามารถตกแต่งได้ตามห้องตัวอย่างเลย โดยในห้องตัวอย่างจะจัดวางให้ระยะทีวีอยู่ที่ 2 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมอยู่ที่ 26-50 นิ้ว ได้จอค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ แต่ถ้าใครอยากได้ใหญ่กว่านี้ก็อาจจะลองขยับโซฟาออกมาให้ไกลขึ้นอีกก็ได้

ด้านหลังโซฟามีที่ว่างเหลือ อาจจะจัดเป็นมุมทานข้าว ซึ่งมองเห็นวิวสวยๆ ได้จากหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง

วางโต๊ะทานข้าวได้ไม่พอ ยังสามารถวางตู้หลังใหญ่ๆ ได้อีกด้วย

นอกจากหน้าต่างเต็มความกว้างของผนังทางด้านหลังแล้ว ห้องนั่งเล่นยังมีช่องเเสงขนาดใหญ่อย่างระเบียงอยู่ด้วย ทำให้ห้องสว่าง และยังมองเห็นวิวสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน

นั่งชมภาพยนตร์เรื่องโปรดไป ชมวิวแม่น้ำไปก็สุนทรีย์ไปอีกแบบนะคะ

ออกมาดูระเบียงด้านนอกกันบ้าง ระเบียงจะทอดตัวยาวเป็นรูปตัว L ปูพื้นด้วยไม้เทียมสังเคราะห์ กันลื่นได้ดี และทำราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย เพื่อให้มองเห็นวิวด้านนอกได้ชัดเจน

ระเบียงไม่มีคอมเพรสเซอร์เเอร์ตั้งอยู่เลย แล้วคอมเพรสเซอร์แอร์ไปตั้งไว้ที่ไหน ทางโครงการจัดการนำคอมเพรสเซอร์แอร์ไปวางที่ระเบียงอีกฝั่งใกล้กับห้องครัวแล้วค่ะ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่า ระเบียงจะร้อน สามารถหาเก้าอี้มาตั้ง จัดเป็นที่นั่งชมวิวได้เลย

กลับเข้ามาในห้องอีกรอบ ต่อไปจะเป็น Master bedroom ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับโซนห้องครัวพอดีค่ะ

เข้ามาในส่วนของ Master bedroom ก็จะเจอกับโถงทางเดิน ฝั่งซ้ายมือจัดให้เป็นตู้เสื้อผ้าเเบบ walk-in closet เล็กๆ ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นห้องน้ำ เดินตรงไปถึงจะเป็นห้องนอนค่ะ สำหรับการตกแต่งผนัง ในห้องจริงจะมาเเบบเรียบๆ ไม่ได้ตกแต่งวงกบ หรือขอบบัวเเต่อย่างใด

ตู้เสื้อผ้าเเบบ walk-in closet มีบานกระจกปิดมาให้แบบนี้ ทางคอนโด Canapaya Residences จะเเถมให้หน้าตาเเบบนี้เลยค่ะ

สามารถเดินเข้ามาแต่งตัว วางเครื่องประดับ เเขวนเสื้อผ้า หรือเก็บเครื่องนอนได้

ตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้าจะเป็นห้องน้ำค่ะ ห้องนี้ได้ห้องน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่ ให้สุขภัณฑ์มาครบชุด พร้อมมีอ่างอาบน้ำแถมให้อีกด้วย

อ่างอาบน้ำเป็นของ Kaldewi วางตัวติดกับอ่างล้างหน้าแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ของ Villeroy & Boch ส่วนผนังด้านข้างในห้องตัวอย่างจะทำเป็นประตูบานสไลด์ ส่วนในห้องจริงจะทำเป็นกระจกใสแบบ Sexy Bath แทนค่ะ

ติดกับอ่างล้างหน้าอีกฝั่ง จะเป็นโถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ ด้านบนมีหน้าต่างบานเล็กๆ ที่สามารถเปิดออกไปมองเห็นวิวเเม่น้ำได้ด้วยเช่นเดียวกัน

อีกมุมของห้องน้ำจะเป็นโซนเปียก กั้นด้วยกระจกนิรภัยแบบเข้ามุมจากเยอรมันนี

พื้นที่ของโซนเปียกดูจะเเคบไปสักหน่อยนะคะ

สำหรับฝักบัวจะเป็นแบบ Hand shower แต่พิเศษหน่อยตรงที่ฝักบัวมีรางเลื่อนสามารถเลื่อนระยะของก๊อกน้ำได้ตามความสูง และสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้เหมือนกับห้องอื่นๆ

ฝักบัวมีขนาดใหญ่ อาบน้ำทีสะใจเลยค่ะ

มาถึงส่วนสุดท้ายกันแล้วนะคะ นั่นก็คือ Master bedroom ห้องจริงจะมาเป็นห้องโล่งๆ ไม่ได้ตกแต่งมาให้

ห้องกว้างพอสมควร สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต และจัดเก้าอี้ day bad มาวางสักตัวที่ด้านข้างได้สบายๆ

เปิดหน้าต่างสักหน่อย ห้องนี้จะได้วิวของสะพานพระราม 9 และวิวเเม่น้ำเจ้าพระยา

ด้วยการทำหน้าต่างแบบ Bay Window นี่เองที่ทำให้ห้องมีวิวที่โดดเด่น มองเห็นวิวได้ในมุมที่กว้างมากขึ้น บริเวณปปลายเตียง แต่มุมหน้าต่างสามารถนำเฟอร์นิเจอร์มาจัดวางเพิ่มได้ ดูแล้วไม่เกะกะ แต่แนะนำให้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบมีขา เหมือนในห้องตัวอย่างก็ดีนะคะ จะได้ทำให้ห้องเราดูกว้างขึ้นได้ แม้จะวางเฟอร์นิเจอร์ไว้แล้วก็ตาม

วิเคราะห์โครงการคณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences)

ทำเล : คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการทำเลสวยระดับ Super luxury ที่อยู่ติดทั้งถนน และติดทั้งแม่น้ำบริเวณช่วงโค้งของแม่น้ำพอดิบพอดี ด้วยลักษณะของที่ดินที่มีความพิเศษกว่าคอนโดในแถบเดียวกันคือ เป็นแปลงที่ดินหน้ากว้าง ขนาดที่ดินใหญ่ถึง 12 ไร่ จึงมีการวางแผนทำ Mixed use building โดยการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับสร้างคอนโด และทำโรงแรมรวมกับห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้นอีกในบริเวณเดียวกัน พื้นที่ 12 ไร่จึงแยกออกจากการกันเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟส 1 สร้างเป็น Canapaya Residences (คอนโดมิเนียมขนาด 4 ไร่) และเฟส 2 สร้างเป็น Canapaya Riverfront (โรงแรมและห้างสรรพสินค้าขนาด 8 ไร่) เพื่อสร้างเป็นพื้นที่อำนวยความสะดวกแบบครบวงจรสำหรับผู้ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโด

ด้านการเดินทางบนถนนพระราม 3 เน้นอำนวยความสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้รถ ใช้ถนนเป็นหลักค่ะ ถนนพระราม 3 เป็นถนนที่เชื่อมต่อถึงเขต CBD ของกรุงเทพมหานครอย่างสาทร-สีลม และอโศกได้ง่าย ใช้เวลาขับรถไปไม่กี่นาที (ในช่วงเวลาปกติ) ก็ถึง ตัวโครงการอยู่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นสะพานกรุงเทพเชื่อมต่อสู่ฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นฝั่งขาออกนอกเมือง ใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจในแถบชานเมืองนี่เดินทางไปได้สะดวกมากค่ะ, อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับสะพานพระรามเก้า มุ่งสู่ถนนพระราม 2 ได้ หรือจะใช้สะพานภูมิพลข้ามไปยังจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมแถบชานเมืองอีกหนึ่งจุดก็สะดวกสบายไม่แพ้การเดินทางไปยังฝั่งธนบุรีเลย นอกจากนั้นคอนโดยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วน และจุดกลับรถ อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการค่ะ คอนโด คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) ยังเชื่อมต่อกับถนนสายรอง ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น ถนนสาธุประดิษฐ์ ถนนจันทน์ ถนนนนทรี ถนนยานนาวา หรือซอยต่างๆ ซึ่งส่วนมากเป็นที่ตั้งของที่ยู่อาศัยประเภททาวน์โฮมเป็นหลักค่ะ ในเรื่องของปัญหารถติดก็มีบ้างในชั่วโมงเร่งด่วน มักจะติดแถวบนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสะพานกรุงเทพและสะพานภูมิพล แต่ถ้าใครชำนาญทางมากๆ ก็มักจะรู้จักซอกซอยที่สามารถลัดเลาะเลี่ยงพื้นที่รถติดได้เหมือนกัน

ด้านการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ บนถนนพระราม 3 ยังเน้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักค่ะ การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร ด้านหน้าโครงการมี BRT สถานีสะพานพระรามเก้า แต่ก็ยังไม่เรียกว่าสะดวกสบายมากนัก คงต้องรอให้รถไฟฟ้าสายสีเทาจากวัชรพล รามอินทรา ถึงท่าพระที่มีกำหนดการจะสร้างในอนาคตเข้าถึงก่อน รับรองว่า ความเจริญจะเข้าถึงมากขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

สภาพแวดล้อม : สภาพแวดล้อมรอบคอนโด คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) นอกจากวิวสวยติดริมแม่น้ำแล้ว ความอุดมสมบูรณ์ยังถือว่ามีน้อยอยู่ค่ะ รอบๆ โครงการยังมีแปลงที่ดินว่างอยู่มาก และเป็นพื้นที่ของร้านค้าและโรงงานเกี่ยวกับเหล็กซะส่วนใหญ่ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีแผนการปรับปรุงพื้นที่บริเวณนี้ให้เข้าถึงความเจริญมากขึ้น ในด้านอสังหาริมทรัพย์การสร้างคอนโดระดับไฮเอนท์ยังไม่ค่อยมีให้เห็น โครงการ คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) จึงเป็นคอนโดเจ้าเดียวที่โดดเด่น และอาจจะกลายเป็นแลนด์มาร์คที่สังเกตเห็นได้ง่ายๆ ในอนาคต ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเช่น ห้างสรรพสินค้าอาจจะมีให้เลือกเดินไม่เยอะ ใกล้ที่สุดจะเป็นเซ็นทรัล พระราม 3 ระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 3.4 กม. แต่ในอนาคตถ้าหากโครงการสร้าง Canapaya Riverfront (โรงแรมและห้างสรรพสินค้าขนาด 8 ไร่) ในเฟสที่ 2 แล้วเสร็จ พื้นที่บริเวณคอนโดจะคึกคักและกลายเป็นจุดดึงดูดของถนนพระราม 3 แห่งใหม่เลยก็ว่าได้ค่ะ

แบบห้อง : ทางคอนโด คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) วางรูปแบบของผังอาคารให้มีความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 188 ยูนิต สูงสุดต่อชั้นมีแค่ 6 ยูนิตเท่านั้น แบบห้องทั้งหมดจึงมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ และมีให้เลือกหลากหลาย Type ด้วยกัน ห้องทุกห้องจะเป็นห้องหน้ากว้าง เปิดรับทัศนียภาพจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากทุกมุมมอง ดูแล้วเหมาะจะเป็นคอนโดพักตากอากาศสำหรับอยู่อาศัยเองโดยเฉพาะ การวางผังอาคารระมัดระวังเรื่องของการ บล็อกวิว เป็นพิเศษ ซึ่งก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี รับประกันว่า ห้องทุกห้องในโครงการจะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งห้องที่เลือกซื้อด้วยนะคะว่า อยากจะได้มุมไหน

ด้านวัสดุ โครงการเลือกใช้แต่วัสดุมีระดับ ทางคอนโดขายกันแบบ Fully fitted สิ่งที่ได้จะมีชุดเครื่องครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และสุขภัณฑ์ที่คัดสรรมาให้ในเกรดดี สมราคาระดับสิบล้านบาทอัพค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก : ทางโครงการจัด Facilities แยกมาให้เป็น 2 ส่วน คือในส่วนของ คลับเฮาส์ และ Faciities บนชั้น 50 เพื่อเน้นความเป็นส่วนตัวให้มากยิ่งขึ้น โดยคลับเฮาส์ด้านล่างจะตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำ ประกอบไปด้วย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวน ห้องสมุด และห้องเอนกประสงค์ ใครที่จะมาใช้งานจะได้สัมผัสถึงความสวยงามของวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบใกล้ชิด แถมด้านหน้าคลับเฮาส์ยังมีท่าเรือยอร์ชให้บริการ สำหรับเช่าจอดเรือได้สูงสุดถึง 30 ลำ ส่วนบนชั้น 50 ก็จัดสร้างสระว่ายน้ำรองรับให้อีก 1 จุด และทำเป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำบนตึกสูง ก็ถือว่าจัดทำมาให้สมกับราคาดีค่ะ

ราคา : เริ่มต้นอยู่ที่ 10.5 ล้านบาท หรือ 220,000 บาท/ ตร.ม. เป็นราคาที่สูงระดับ Super luxury ถ้าใครชื่นชอบวิวริมแม่น้ำ และห้องที่กว้างขวางให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศ แถมถูกหลักฮวยจุ้ย โครงการนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ

คอนโด คณาพญา เรสซิเดนซ์ (Canapaya Residences) อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคอนโดหรู ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนพื้นที่กว้างกว่า 4 ไร่ เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณสูงกว่าสิบล้านบาท ตามหาทำเลที่เดินทางสะดวกและวิวสวย เน้นการขับรถยนต์ส่วนตัวไปทำงานเพราะรอบๆ โครงการยังไม่มีรถไฟฟ้าสร้างแบบจริงจังในเวลานี้ และสนใจทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาในอนาคต