[Review] ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) คอนโด High rise ย่านรามคำแหง ช่วงแยกลำสาลี ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายอนาคต

สำหรับวันนี้ เราพาทุกท่านไป รีวิวคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) คอนโด High rise สูง 33 ชั้น จำนวน 535 ยูนิต ติดถนนรามคำแหง จาก บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) เป็นโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมเข้าอยู่ มีให้เลือกอยู่ 2 รูปแบบ เหลือเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งคอนโดมิเนียมที่มีศักยภาพด้านการพัฒนา และมีคุณภาพเหมือนกับคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง หากใครสนใจก็สามารถติดดตามรายละเอียดในส่วนต่างๆ ได้ในรีวิวคอนโดฉบับนี้ได้เลย

ข้อมูลโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng)

ราคาเมื่อวันที่ 2/3/2017
- 1 ห้องนอน ขนาด 36 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3.7 ล้านบาท
- Combine room ขนาด 60 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท

ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng)
ชื่อโครงการ ชีวาทัย (Chewathai)
ที่ตั้งโครงการ ถนนรามคำแหง (รามคำแหง ⁷⁹⁄₁) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
ราคาเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng)

ทำเลของคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เดินทางสะดวก มีศักยภาพในการพัฒนาสูง เนื่องจากในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าตัดผ่าน และอยู่ใกล้กับศูนย์กลางเมืองอย่างย่านรัชดาภิเษก พระราม 9 และอโศก ทำให้กลายเป็นทำเลที่น่าจับตามอง เหมาะที่จะทำเป็นแหล่งอสังหาริมทรัพย์ รองรับการขยายตัวของเมือง

แผนที่จากโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร อยูระหว่างซอย รามคำแหง ⁷⁹⁄₁ และซอยรามคำแหง ⁷⁹⁄₂ เลยจากราชมังคลากีฬาสถานมาประมาณ 700 เมตร

สำหรับใครที่ทำงาน หรือกำลังศึกษาอยู่ในย่านรามคำแหง ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) ถือเป็นคำตอบที่ใช่ เนื่องจากตั้งอยู่ติดกับถนนรามคำแหง สามารถขับเข้า-ออกเมืองได้สบาย เป็นย่านหนึ่งที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองอย่างสุขุมวิท พระราม 9 รัชดาภิเษก หรือจะเดินทางไปทางฝั่งรังสิตก็ทำได้โดยออกไปทาง ถนนนวมินทร์และถนนลาดพร้าว ส่วนใครทำงานอยู่ย่านถนนพัฒนาการ หรือถนนศรีนครินทร์ก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน เพราะเชื่อมต่อถึงได้ทั้งหมด แต่อาจจะต้องทนรถติดในชั่วโมงเร่งด่วนบ้าง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของถนนในตัวเมือง แต่ถ้าใครรีบๆ จำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ อาจจะเลี่ยงการใช้ถนนด้านล่างขึ้นทางยกระดับและต่อขึ้นทางด่วนที่ถนนพระราม 9 ก็ได้เหมือนกัน หรือจะใช้ทางมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี) ในการเดินทางเเทน

ส่วนใครที่ไม่ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวไปไหนมาไหน อาจจะต้องอดใจรอการบรารที่รวดเร็วอย่างรถไฟฟ้าสายอนาคตกันหน่อย สายที่ผ่านแถวโครงการจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 ช่วงนี้ก็ใช้บริการรถเมล์ รถแท็กซี่ รถสองแถว และพี่วินมอเตอร์ไซค์กันไปก่อน หรือถ้าใครทำงานในช่วงแอร์พอร์ตลิงค์ก็อาจจะต้องนั่งรถต่อไปแอรพอร์ตลิงค์หัวหมาก ซึ่งก็ไม่ใช่ระยะทางที่ใกล้สักเท่าไร ถ้าเป็นไปได้การโดยสารเรือคลองแสนแสบที่ท่าเรือวัดกลาง ในซอยรามคำแหง 81 ดูจะรวดเร็วมากกว่า แถมยังไปได้ไกลถึงผ่านฟ้า ต่อยาวข้ามไปปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรีได้เลยทีเดียว

การเดินทางไปยังโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng)

สำหรับการเดินทางไปยังโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) ในวันนี้จะเริ่มจากถนนเพชรบุรี วิ่งผ่าน สถานีรถไฟฟ้า MRT เพชรบุรี และสถานีแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน วิ่งตามป้ายรามคำแหง พัฒนาการ และศรีนครินทร์ไปเรื่อยๆ เมื่อเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าสู่ถนนรามคำแหง บนเส้นรามคำแหงจะผ่านทั้งห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ เมเจอร์ และมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้วิ่งโดยใช้เส้นทางปกติ หากขึ้นทางยกระดับจะเลยตัวโครงการไปไกล ต้องเสียเวลาในการกลับรถกันอีกยาว ให้สังเกตทางซ้ายมือไว้ เมื่อผ่าน วิทยาลัยเทคโนโลยีเซนเทเรซา ช่วงซอยรามคำแหง 73 ให้เตรียมชิดซ้ายไว้ เพราะโครงการอยู่อีกไม่ไกลแล้ว สามารถดูเส้นทางการเดินรถและสถานที่ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญได้ในแผนที่ด้านล่างได้เลย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng)

ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) ตั้งอยู่ในย่านที่เป็นแหล่งชุมชน รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญของรามคำแหง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการอย่าง โรงพยาบาลรามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือโรงเรียนสาธิตรามคำแหง อยู่ม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า สามารถขับรถไปถึงได้ ใกล้กับสนามราชมังคลากีฬาสถาน สนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยรวมเป็นพื้นที่คึกคักมีผู้คนอยู่เยอะ แต่เมื่อเทียบกับทำเลที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยรามคำแหงมากกว่านี้ ความอุดมสมบูรณ์อาจจะยังมีไม่มากมายนัก แต่ถ้ามีรถไฟฟ้าตัดผ่าน พื้นที่แถวนี้คงมีการปรับผังเมืองและมีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ด้านทิศที่ตั้ง โครงการหันหน้ามาทาทิศใต้ติดกับถนนรามคำแหง ทิศเหนือจะติดกับคลองแสนแสบ ส่วนทิศตะวันตกและตะวันออกจะติดกับอาคารบ้านเรือนของคนในชุมชน ไม่ได้มีปัญหาในการบล็อกวิวในระยะใกล้ ได้วิวสวยสมกับเป็นคอนโด High rise ในย่านรามคำแหง

เริ่มต้นการสำรวจสภาพแวดล้อมในย่านนี้กัน เริ่มกันแถวซอยรามคำแหง ⁷⁹⁄₁

ติดกับปากซอยจะเป็นมินิมาร์ทของคนในชุมชน เป็นร้านสะดวกซื้อเล็กๆ ไม่ได้มีของจัดเต็มเท่า 7-11 แต่ก็พอให้ฝากท้องได้ในเวลาวันหยุดที่ไม่อยากออกไปไหนไกล

ด้านข้างโครงการทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นประตูระบายน้ำคลองจิก กว้างประมาณ 3 เมตร น้ำไม่ได้ใสมาก แต่ไม่ได้มีกลิ่นเหม็นรบกวนการอยู่อาศัยค่ะ

เดินตรงมาจากซอยรามคำแหง ⁷⁹⁄₁ ทางฝั่งแยกลำสาลี จะเจอกับป้ายซอย รามคำแหง ⁷⁹⁄₂ จะเป็นตำแหน่งของะพานลอย

ขึ้นสะพานลอยมาดูบรรยาศของถนน และสำรวจฝั่งตรงข้ามกันเล็กน้อย

โครงการตั้งอยู่ช่วงทางยกระดับ น่าเสียดายที่จุดทางลงทางยกระดับอยู่เลยโครงการไป ไม่อย่างนั้นจะได้ใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงรถติดด้านล่างได้

ฝั่งตรงข้ามจะมีปั๊มน้ำมันเปิดให้บริการอยู่ แวะจอดเติมก่อนขับไปทำงานในเมืองได้สบาย

ตรงข้ามกับโครงการจะมี Community mall เล็กๆ ของ ABC world ซึ่งเป็นพื้นที่เช่าสำนักงานทั่วไป มีร้านสะดวกซื้อเปิดอยู่ใต้อาคาร และในบางครั้งก็มีการจัดกิจกรรมด้านหน้าอาคาร ขายอาหาร ขายเสื้อผ้าด้วย

เดินต่อไปยังซอยรามคำแหง 81 จะมีร้านอาหาร โรงเรียน และท่าเรือตั้งอยู่

ย่านนี้จะเป็นย่านที่ชาวมุสลิมอาศัยอยู่เยอะ มีโรงเรียนสุเหร่าคลองเงินเปิดสอนอยู่ด้านในซอย

บรรยากาศภายในซอยรามคำแหง 81 เงียบสงบดี ซอยนี้จะมีรถแท็ซี่วิ่งเยอะ เนื่องจากเชื่อมต่อถึงซอยลาดพร้าว 130 ทะลุถึงถนนลาดพร้าวได้

บริเวณปากซอยนี้มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ วันไหนรีบๆ ก็เรียกใช้ได้

เดินเข้าไปอีกหน่อยจะมีคาเฟ่เล็กๆ อย่าง Andra cafe’ bee มีกาแฟ นม ชา น้ำผลไม้ และของว่างขาย บรรยากาศน่านั่ง จัดร้านได้น่ารักดี ส่วนด้านข้างจะเป็นร้านล้างรถเล็กๆ

ต่อไปจะเป็นสะพานข้ามคลองแสนแสบ

เดินลอดใต้สะพานมาจะเป็นสะพานลอย ข้ามไปจะเป็นท่าเรือของคลองแสนแสบ

ที่มาภาพ http://www.paidobaan.com/the-cube-condo-ramkhamhaeng/sansabboat/
ท่านี้เป็นท่าเรือวัดกลางสามารถใช้บริการนั่งเขาเมืองไปทาฝั่งอโศก ประตูน้ำ เลยไปจนถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศได้ เป็นเส้นทางเลี่ยงรถติดได้ดี

ในซอยนี้เป็นย่านชุมชน จึงมีโรงเรียนและสถานที่ราชการเปิดอยู่เลียบสองฝั่งคลองแสนแสบ ก็ดูเป็นวิถีชีวิตที่หาชมไม่ได้จากในตัวเมือง

เป็นชุมชนที่ผสมผสานระหว่างศาสนาที่ลงตัว ตั้งอยู่ริมคลองสะท้อนความเป็นไทยในสมัยก่อนที่ต้องอยู่อาศัยใกล้กับสายน้ำ

เจาะลึกภาพรวมโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng)

คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) เป็นคอนโด High rise สูง 33 ชั้น จำนวน 1 อาคาร เป็นโครงการจาก บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) ดิเวลลอปเปอร์ผู้คร่ำหวอดด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการสร้างคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่คุณภาพเยี่ยมแบบคอนโดหรูใจกลางเมือง บนถนนรามคำแหง ช่วงก่อนถึงแยกลำสาลี มีศักยภาพด้านทำเลที่สูงพอจะพัฒนาได้ต่อ เหมาะจะทั้งขาย ทั้งเช่า และอยู่อาศัยเอง

แผนผังของโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng)

คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) ตั้งอยู่ติดกับถนนรามคำแหง บนพื้นที่ 3-3-32 ไร่ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โครงการหันหน้าไปทางทิศใต้ติดกับถนนใหญ่ ย่นระยะเข้ามาจากถนนประมาณ 200 เมตร ส่วนด้านหลังซึ่งเป็นฝั่งทิศเหนือ จะจัดให้เป็นสวนไว้สำหรับพักผ่อนย่นระยะมาจากคลองแสนแสบเช่นเดียวกัน รอบอาคารจะแบ่งพื้นที่ว้สำหรับจอดรถด้วย แต่หลักๆ จะจอดบนอาคารตั้งแต่ชั้น 1-5 คิดเป็น 40% รวมการจอดแบบซ้อนคัน

ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 6 โครงการนี้มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 535 ยูนิต จำนวนสูงสุดต่อชั้นคิดเป็น 21 ยูนิต/ชั้น ก็ไม่ได้หนาแน่นมากเท่าไร ยูนิตส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน วางตัวทางทิศตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่ร้อนกว่าห้องที่วางตัวทางทิศเหนือ-ใต้ แต่ก็ทดแทนด้วยวิวสวยๆ แทน

ขึ้นมาที่ชั้น 30 อาคารจะลดจำนวนยูนิตลงมาอีก 4 ยูนิต ตามกฎหมายการสร้างอาคารสูง ลิฟต์โดยสารของอาคารมีให้ 3 ตัว แบบล็อกชั้น อัตราส่วนต่อการใช้ลิฟต์อยู่ที่ 1:180 ก็ถือว่าหนาแน่นพอสมควร ใช้งานครั้งหนึ่งอาจจะต้องรอนานกันหน่อย

ชั้นที่ 31-32 เหลือยูนิตน้อยลง โดนย่นระยะทั้งทางฝั่งทิศเหนือ และทิศใต้ เป็นชั้นที่มียูนิตไซส์ใหญ่ทั้งหมด

ชั้น 33 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ แบบ Infinity edge pool ระบบคลอรีนขนาด 22×5 เมตร มีฟิตเนส ห้องซาวน่า ห้องอาบน้ำ และมุมนั่งเล่น การวาง Facilities ไว้บนชั้นสูงแบบนี้ทำให้ได้วิวในมุมสูง คนที่อยู่ชั้นล่างๆ อาจจะขึ้นมาใช้งานลำบากหน่อย แต่ก็ได้โอกาสชมวิวในมุมสูงบ้าง

โครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) เป็นคอนโดสร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2555 พร้อมเข้าอยู่ได้เลย สำหรับใครที่อยากเข้าไปเยี่ยมชมโครงการก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 086-066-0007 ส่วนวันนี้เราจะพาไปชมบรรยากาศรอบโครงการกันแบบคร่าวๆ พอเป็นน้ำจิ้ม ยังไงก็ลองติดตามชมไปพร้อมๆ กันเลย

หน้าตาของอาคารเป็นอาคารสูง 33 ชั้น ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและเทาเป็นหลัก ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ในย่านชุมชนของรามคำแหง

ด้านหน้าทางเข้าจะเป็นป้อมรปภ. การจะเข้าสู่ตัวโครงการได้จะต้องทำการแสกน Key card ในการเข้า-ออกก่อน เพื่อความปลอดภัย

ถนนภายในโครงการย่นระยะถนนเข้ามาเล็กน้อย ตรงที่ยืนอยู่จะเป็นจุด drop off และเป็นทางเข้าล็อบบี้ มุ่งหน้าสู่ภายในอาคาร

ลานจอดรถมีทั้งด้านในและด้านนอกอาคาร

ภาพมุมสูงของทางเดินรถด้านหน้าอาคาร มีที่จอดรถแบบกลางแจ้งอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนทางขึ้นลานจอดรถจะอยู่ด้านหลัง โดยขับตรงไปตามทางด้านขวามือ

เข้ามาชมด้านในอาคารกันต่อ เมื่อเดินเข้ามาส่วนแรกจะเป็นล็อบบี้ มีโซฟาวางไว้รับรองแขกที่มาเยี่ยมเยือนหลายจุด

ส่วนถัดมาจะเป็นห้องนิติบุคคลของทางโครงการ

ก่อนทางเข้าโถงลิฟต์จะมี Mail box ตั้งอยู่ แยกจดหมายตามหมายเลขห้องให้เรียบร้อย

ที่นี่มีตู้น้ำและตู้เติมเงินตั้งไว้ให้ใช้บริการด้วย

ถัดมาจะเป็นโถงลิฟต์ การเข้าใช้ลิฟต์จะต้องผ่านประตูกระจก ซึ่งใช้ระบบคีย์การ์ดในการเปิด-ปิด ที่นี่ให้ลิฟต์มา 3 ตัวตามภาพ

ลิฟต์ใช้ระบบล็อกชั้น เพื่อความปลอดภัย โดยเราจะสามารถจอดได้แค่ชั้นที่เราพักอาศัย ชั้นล็อบบี้ ลานจอดรถ และชั้น facilities เท่านั้น

ลานจอดรถในอาคารจะอยู่ที่ชั้น 1-5 อัตราของที่จอดรถคิดเป็น 40% รวมการจอดแบบซ้อนคัน

ทางวนรถจากชั้นล่าง ด้านหลังลานจอดจะเป็นสวนหย่อม มีรั้วกั้นเป็นประตูให้ใช้คีย์การ์ดในการเปิดเข้า-ออกด้วย

ขึ้นมาถึงชั้นที่ 33 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของทางคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) บนนี้จะประกอบด้วยสระว่าน้ำ ฟิตเนส และซาวน่า

ก่อนเข้าใช้ก็อ่านกฎการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางสักหน่อย การจัดวาง facilities เหล่านี้ไว้ชั้นนสุดก็มีข้อดีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเป็นส่วนตัวที่จะมีเพียงลูกบ้านเท่านั้นที่สามารถเข้าใช้ได้ มีความเป็นส่วนตัว เพราะทั้งชั้นจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ไม่ได้แบ่งเป็นพื้นที่ห้องพัก นอกจากนั้นยังได้ชมวิวสวยๆ ไปพร้อมกับการออกกำลังกายอีกด้วย

ด้านหน้าทางเข้าพื้นที่ส่วนกลางจะต้องแสกนคีย์การ์ดในการเข้าใช้งาน เมื่อเข้ามาด้านในจะมีรปภ. คอยดูแลความปลอดภัยให้ด้วย

ส่วนขาออกไม่ต้องใช้คีย์การ์ด แค่กดปุ่มออกก็พอ

หันมาดูฝั่งตรงข้ามทางเข้าจะเป็นฝักบัวสำหรับล้างตัวมีให้ด้วยกัน 3 จุด แต่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานยากหน่อย ใกล้ทั้งประตูทางเข้า และไกลกับห้องน้ำสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า

ซ้ายมือของจุดล้างตัวจะเป็นเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อน

จุดที่เก้าอี้ตั้งอยู่ใกล้กับกระจกใส ซึ่งทำไว้เพื่อเป็นจุดชมวิว

สำหรับสระว่ายน้ำ ทั้งสองฝั่งของสระจะวาง Deck pool ไว้ให้นอนอาบแดด

ฝั่งขวามือของสระว่ายน้ำจะเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง และห้องฟิตเนส

สำหรับห้องน้ำจะมีห้องสตีมให้ใช้บริการด้วย ใครอยากอบผิวให้กระชุ่มกระชวยก็เข้าไปใช้งานกันได้

ฟิตเนสจะอยู่ในห้องกระจก เมื่อเปิดม่านขึ้นสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้

ภายในฟิตเนสมีเครื่องเล่นอยู่เยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน เครื่องเพาะกาย และดัมเบล ฝั่งหนึ่งเป็นวิวสระว่ายน้ำ แต่อีกด้านจะเป็นวิวเมืองมองเห็นบรรยากาศรอบๆ ของโครงการได้จากมุมสูง

สระว่ายน้ำของทางโครงการเป็นระบบคลอรีน แยกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ให้ ขนาดโดยรวมอยู่ที่ 22×5 เมตร ฝั่งสระเด็กลึกประมาณ 0.45 ซม. ส่วนฝั่งผู้ใหญ่มีความลึกอยู่ที่ 1.5 ม.

นอกจากจะได้เล่นน้ำออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพแล้ว ยังได้ชมวิวสวยๆ เพื่อผ่อนคลายความเครียดหลังจากการทำงานมาทั้งวันได้อีกด้วย

เข้ามาดูโถงทางเดินในอาคารกันต่อ โถงจะเป็นแนวยาวแบบนี้ มีบันไดหนีไฟให้ 2 จด และติดตั้งสายดับเพลิงให้แล้วเรียบร้อย

ริมทางเดินของโถงจะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้โถงทางเดินสว่าง แต่ช่วงกลางๆ อาคารก็จำเป็นต้องเปิดไฟอยู่บ้าง เพราะแสงสว่างส่องไปไม่ถึง

ทางโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) เปิดให้เข้าชมห้องทั้งหมด 2 ห้อง ซึ่งเป็นห้องที่ขายจริงอยู่ในตอนนี้ เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 36 ตารางเมตร และห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร

1 ห้องนอน ขนาด 36 ตารางเมตร

สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 36 ตารางเมตร ทางโครงการขายแบบ Fully furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบครัน ห้องที่เหลืออยู่ 2 ห้องจะเป็นห้องมุมทั้งคู่ ทำให้ได้วิวสวยๆ แบบพาโนรามา เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอพื้นที่ห้องครัวก่อน ขวามือจะเป็นโซนครัว ถัดไปเป็นโซนห้องนั่งเล่น และตั้งอยู่ติดกับระเบียงแบบเข้ามุม ส่วนห้องนอนจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอน ห้องดูโปร่งเพราะล้อมรอบด้วยกระจกรับแสงสว่างจากภายนอกได้เต็มที่

ระหว่างพื้นห้องพักและโถงทางเดินมีธรณีประตูยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากภายนอกปลิวเข้าไปภายในห้อง พื้นด้านในห้องจะปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ตามภาพ

ด้ามจับเป็นสเตนเลสก้านโยก พร้อมตัวล็อกทั้งแบบลูกบิดและแบบพับ แต่ถ้าให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นอาจจะเปลี่ยนเป็นการล็อกด้วย digital door lock จะสะดวกสบายและปลอดภัยมากกว่า

ด้านหลังประตูจะติด Door stopper ไว้ให้ เพื่อกันประตูกระแทกผนังจนเกิดเป็นรอย

ประตูทางเข้าจะอยู่ติดกับพื้นที่ครัว และพื้นที่ห้องน้ำ มาดูส่วนของครัวก่อน ครัวที่ได้เป็นระบบเปิด ขนาดของเคาน์เตอร์ก็ค่อนข้างกะทัดรัด ดูแล้วอาจจะไม่เหมาะสำหรับการประกอบอาหารที่ใช้วัตถุดิบเยอะๆ หรือมีกลิ่นควันมากนัก เพราะนอกจากจะทำได้ไม่ถนัดเพราะขนาดของเคาน์เตอร์แล้ว กลิ่นของอาหารอาจจะลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ในส่วนอื่นๆ ได้ด้วย

เนื่องจากเปนห้องมุม พื้นที่ครัวจึงมีหน้าต่างขนาดใหญ่อยู่ด้วย ถ้าทำอาหารแล้วอาจจะเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทมากขึ้นได้ แถมวิวด้านนอกยังเป็นวิวตัวเมืองสวยๆ นั่งทานอาหารไป ชมวิวไปก็สุนทรีย์และโรแมนติกไปอีกแบบ

ทางคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง ให้โต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งและเคาน์เตอร์ครัวสเปคตามภาพ

ด้านบน Built-in เป็นตู้เก็บของขนาดใหญ่ เป็นแบบ Soft-close ซึ่งช่วยรักษาหน้าบานของตู้ให้ใช้งานได้นานขึ้น นอกจากจะเป็ฯตู้สำหรับวางของแล้ว ยังเป็นช่องต่อเครื่องดูดควัน และช่องวางไมโครเวฟ แต่แนะนำให้ย้ายตำแหน่งวางไมโครเวฟลงมาด้านล่างจะดีกว่า เพราะถ้าอบอาหารจำพวกน้ำแกง หรือของร้อนมากๆ เวลายกออกมาจากเตาอาจจะหกรดตัวเราได้ง่ายๆ

เคาน์เตอร์ชิ้นล่างจะเป็นส่วนประกอบอาหาร ด้านล่างมีลิ้นชัก และตู้สำหรับซ่อมบำรุงอ่าง ฝั่งซ้ายมือของเคาน์เตอร์จะมีปลั๊กไฟมาให้ 1 จุดสำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าได้

อ่างล้างจานจะเป็นแบบหลุ่มเดี่ยว ไม่มีที่พักจาน ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กมากจนเกินไป ห้องนี้ไ่ม่มีเตาไฟฟ้ามาให้ ต้องติดตั้งเพิ่มเติมกันเอาเอง

ติดกับทางเข้าห้องน้ำจะเป็นตู้สำหรับวางรองเท้า ตำแหน่งห้องน้ำอยู่ในตำแหน่งที่เข้าใช้งานได้ง่ายจากทั้งห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอนที่อยู่ใกล้ๆ กัน

บรรยากาศภายในห้องน้ำ ผนังปูด้วยกระเบื้องเซราามิก ดูสวยโมเดิร์นดี ส่วนสุขภัณฑ์ก็ให้มาครบครัน

อ่างล้างหน้าเป็นแบบแขวนผนังของ Cotto แต่มีเคาน์เตอร์มาให้สำหรับวางของได้ไม่ต้องติดชั้นเพิ่มเติม ด้านข้างมีปลั๊กไฟมาให้เสียบไดร์เป่าผม เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าได้ แต่แนะนำให้ซื้อฝาครอบมาปิดรูปลั๊กไฟไว้สะักหน่อย เพ่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรจากการโดนน้ำได้

โถสุขภัณฑ์เป็นของ cotto เช่นเดียวกัน ด้านข้างติดตั้งสายฉีดชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่มาให้หยิบใช้งานได้สะดวก

ส่วนถัดมาจะเป็นโซนอาบน้ำกั้นด้วย shower box วัสดุกระจกเป็น Tempered glass ที่จับเปิดเป็นรูปตัว U พื้นส่วนนี้จะลดระดับลงจากพื้นส่วนแห้งเล็กน้อยเพื่อป้องกันการไหลซึมของน้ำออกมาด้านนอก

ฝักบัวที่ทางโครงการให้จะเป็นแบบ Hand shower ของ cotto ด้านข้างติดที่วางสบูมาให้เรียบร้อย

มาดูโซนนั่งเล่นกันบ้าง ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ต่อเนื่องจากส่วนครัวไปเลย และอยู่ใกล้กับช่องแสงขนาดใหญ่อย่างประตูระเียง แต่ด้วยตำแหน่งห้องที่หนไปทางทิศะวันตก ห้องอาจจะโดนแดดมากเกินไป แนะนำติดผ้าม่านกัน UV เพื่อป้องกันแสงแดดเอาไว้จะดีกว่า

โซฟาที่ได้จะเป็นแบบ 2 ที่นั่ง ขนาดกะทัดรัด คนตัวใหญ่นั่งอาจจะรู้สึกเบียดเกินไป อาจจะเปลี่ยนเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง หรือเปลี่ยนเป็น day bed ไปเลยก็ยังมีพื้นที่ให้วางได้สบายๆ

ระยะห่างระหว่างโวฟาจนถึงชั้นวางทีวีเท่ากับ 1.4 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมคือ 26-42 นิ้วกำลังสบายตา

ชั้นวางทีวีที่ได้จะเป็นแบบ Built-in พร้อมตู้แบบบานเปิด ติดตั้งปลั๊กและช่องรับสัญญาณทีวีมาให้เรียบร้อย สำหรับใครที่ชอบตกแต่งคอนโด แนะนำให้ซื้อทีวีแบบแขวนผนังแทนทีวีแบบตั้งโต๊ะ จะได้ใช้พื้นที่บนชั้นในการวางของตกแต่งห้องแทน

หรืออาจจะเพิ่มชั้นแบบ Built-in เพิ่มที่กำแพง ใช้สำหรับวางของตกแต่ง เช่น กรอบรูป หนังสือ โคมไฟ เป็นต้น

ระเบียงห้อง 1 ห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะเป็นระเบียงแบบเข้ามุม ทำให้ห้องดูกว้างและรับแสงสว่างได้เต็มที่ ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน กระจกเขียวตัดแสงได้ดี ที่พื้นที่จะยกธรณีประตูขึ้นสูงเพื่อป้องกันน้ำจากด้านนอกไหลย้อนเข้ามาภายในห้อง

พื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องสีเทาผิวหยาบ กันลื่นได้ดี ขนาด 30x30 ซม.

ด้ามจับประตูเป็นแบบเซาะร่องตามมาตรฐาน

คอมเพรสเซอร์แอร์จะเป็นแบบแขวนผนังหันหน้าเข้าระเบียง ตรงนี้จะทำให้ระเบียงร้อน แต่ก็เหหมาะที่จะใช้สำหรับตากผ้า ยิ่งในหน้าฝนที่ผ้าแห้งยากๆ คอมเพรสเซอร์แอร์นี่แหละสามารถช่วยเราได้

วิวในชั้นนี้ทางทิศใต้ ด้านหน้าโครงการจะเป็นวิวเมือง และวิวถนนรามคำแหง

IMG_1861
ฝั่งทางทิศตะวันตกจะเห็นทางยกระดับและวิวชุมชนในละแวกนี้

ฝั่งทางทิศเหนือจะเป็นวิวคลองแสนแสบ มองเลยไปอีกจะเป็นวิวเมือง ยิ่งอยู่ในชั้นที่สูงมากขึ้นเท่าไร วิวยิ่งสวยมากขึ้นเท่านั้น

ส่วนต่อไปจะเป็นห้องนอน อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ทางโครการกั้นเป็นห้องแยกออกไป ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

พื้นห้องนอนเชื่อมต่อจากห้องนั่งเล่น ไม่มีการทำตัวจบกั้น ปูด้วยลามิเนตเช่นเดียวกัน

ห้องนอนได้ขนาดที่กว้างพอสมควร แต่รับแดดแบบเต็มๆ ในช่วงบ่ายจนถึงเย็น ยิ่งในหน้าร้อนคงจะร้อนอบอ้าวน่าดู แนะนำให้ติดฟิล์ม ติดผ้าม่านแบบกัน UV เพิ่ม เพื่อลดความร้อนอบอ้าวของห้อง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ อย่างแรกจะเป็นเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ด้านข้างติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้เสียบโคมโฟ หรือชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์มาให้เรียบร้อย

จากฝั่งเตียงมองออกไปที่ประตู จะเห็นว่า ห้องติดตั้งแอร์ไว้ฝั่งประตู เพื่อหลบแดดจากฝั่งหน้าต่าง ทำให้แอร์ไม่ทำงานหนักมากจนเกินไป พื้นที่หน้าเตียงเหลือพอให้เดินได้ แต่ไม่กว้างพอให้ตั้งชั้นวางทีวี ควรติดตั้งทีวีแบบแขวนกับผนังจะสะดวกกว่า

ทางฝั่งหน้าต่างมีพื้นที่ว่างให้วางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ

หน้าต่างห้องเป็นบานฟิกซ์ผสมบานเลื่อน กระจกตัดแสงสีเขียว กรอบอลูมิเนียม ในยามเช้าหลังตื่นนอน ลกขึ้นจากเตียงมาก็มองเห็นวิวสวยๆ ของอาคารบ้านเรือนด้านล่าง ถือเป็นมุมต้อนรับวันใหม่ที่ดี เหมาะกับชีวิตสไตล์คนเมือง

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานสไลด์ กรุกระจกหน้าบานด้านหนึ่ง เอาไว้ใช้แต่งตัวได้เลย ไม่ต้องติดเพิ่ม ขนาดตู้พอให้ใส่เสื้อผ้าได้ประมาณ 1 คน ถ้าอยู่กันมากกว่านี้อาจจะต้องพับเก็บ หรือซื้อตู้เสริมเข้ามาใช้บ้าง

พื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้า เหลือให้ยืนแต่งตัวได้สบายๆ แถมกว้างพอให้หาโต๊ะข้างหัวเตียงมาวางไว้อีกสักตัวได้อีกด้วย

2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร

ห้องต่อมาเป็นห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร เป็นห้องที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่อยากได้ห้องขนาดใหญ่ จึงจับห้องแบบ 1 ห้องนอนมา combine กัน กลายเป็นห้องใหญ่หนึ่งห้อง แต่ก็ยังมีบางส่วนของห้องที่ยังแบ่งกันอยู่ อย่างเช่น พื้นที่ระเบียงที่ไม่สามารถทำต่อกันไป ทำให้เป็นระเบียงสั้น 2 ฝั่ง แทนที่จะเป็นระเบียงยาวต่อกันไปเลย

พื้นที่โถงหน้าห้องกับพื้นภายในห้องจะกั้นธรณีประตุขึ้นมาเล็กน้อย พื้นภายในห้องเป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลอ่อน

ประตูห้องเป็นประตูไม้ ด้านนอกจะทาด้วยสีเทา ส่วนด้านในจะเป็นสีขาว มีตาแมวและติดตั้งมือจับสเตนเลสเขาควายมาให้

ด้านหลังประตูติด door stopper มาให้ กั้นประตูกระแทกกับเคาน์เตอร์ครัวที่อยู่ด้านหลัง

ขวามือของประตูจะเป็นพื้นที่ครัว ได้เคาน์เตอร์ขนาดใหญ่มา พร้อมกับตู้แบบ Built-in ทางด้านบนหน้าบานตู้ปิดผิวด้ายเมลามีนสีอ่อนดูสวยงาม

เปิดช่องเก็บช้อนส้อมและลิ้นชักเก็บจานชามและวัตถุดิบให้ดูสักหน่อย ทั้งหมดเป็นแบบ Soft-close ป้องกันการกระแทกที่ทำให้หน้าบานของตู้เสียหาย นอกจากตู้และลิ้นชักยังมีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟให้อยู่ด้านล่างด้วย ส่วนผนังด้านหลังจะกรุแผ่นอคลิลิคแบบขุ่นมาให้ เพื่อป้องกันการเกิดคราบสกปรกที่จะกระเด็นโดนผนัง

บนเคาน์เตอร์มีเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Teka ติดตั้งมาให้

ได้อ่างล้างจานแบบหลุมเดี่ยว ไม่มีที่พักจาน ท็อปของครัวจะเป็นหินสังเคราะห์ เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย ทนทาน และโดนน้ำได้โดยไม่มีการซึมลงในแผ่นหิน

ติดกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง

ตำแหน่งการจัดวางดูจะอยู่ใกล้กับเคาน์เตอร์ครัวมากไปหน่อย เปิดตู้ออกมาก็ติดเข้ากับพนักพิงของเก้าอี้ หยิบจับอะไรอาจจะไม่สะดวก

เปิดตู้ทางด้านบนให้ดู นอกจากช่องวางของยังมีเครื่องดูดควันของ Teka ให้ด้วย

ตรงข้ามครัวจะเป็นโซนนั่งเล่น จะได้โซฟาสีครีมแบบ 2 ที่นั่ง ตรงข้ามเป็นชั้นวางหนึงสือ วางทีวี ตกแต่งได้ตามใจชอบ ด้านบนติดแอร์มาให้ 1 จุด ห้องนั่งเล่นตั้งติดกับระเบียง สามารถมองออกไปเห็นวิวสวยๆ ด้านนอกได้

ระยะห่างระหว่างชั้นจนถึงทีวีคือ 1.2 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมจะเป็น 32 นิ้ว

หน้าตาของชั้นวางทีวีสูงจรดเพดาน ใช้เป็นฉากกั้นห้องไปในตัว รอบๆ ชั้นสามารถวางของตกแต่งได้เลยจบในชิ้นเดียว ด้านหน้ามีโต๊ะกลางไว้ให้สำหรับวางของว่างได้

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบสองตอน

พื้นด้านนอกจะเป็นพื้นกระเบื้องผิวหยาบสีดำ ที่พื้นระเบียงจะยกธรณีขึ้นสูงอีกนิดหน่อยเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าสู่ในห้อง ส่วนกระจกประตูเป็นแบบกระจกเขียวตัดแสงได้ดี ทำให้ห้องไม่ร้อนมาก แต่แนะนำให้ติดม่านเพื่อบังแดดเพิ่มไว้ด้วย จะช่วยป้องกันแสง UV ได้อีกชั้น

คอมเพรสเซอร์แอร์เป็นแบบแขวนเข้ากับผนัง หันหน้าเข้าระเบียง

วิวมุมระเบียงจะเป็นวิวเมือง มองเห็นคลองแสนแสบอยู่ไกลๆ

อีกฝั่งของชั้นวางจัดทำเป็นส่วนทำงานมีชุดเก้าอี้ให้ แต่ขนาดดูจะกะทัดรัดไปหน่อย อาจจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะขนาดใหญ่กว่านี้ก็ได้ แต่ต้องทำใจว่าจะเกะกะทางเข้าออกประตูระเบียงไปบ้าง

ระเบียงจะเป็นระเบียงสั้นๆ มีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าได้ ทั้งสองระเบียงไม่ได้เชื่อมถึงกัน ก็น่าเสียดายอยู่นิดหน่อยถ้าต่อกันเป็นระเบียงยาวได้ ห้องจะมีจุดชมวิวที่สวยงามทีเดียว

หันกลับมาดูฝั่งทางเข้าจะเป็นช่องวางตู้เย็น สามารถวางได้ถึงขนาด 10 คิวบิกฟุตเลยทีเดียว ด้านข้างเป็นตู้ใส่รองเท้า สำหรับใครที่ถือเรื่องการวางรองเท้ามากๆ อาจจะหาตู้เสริมมาใช้เก็บรองเท้าเเทน ห้องน้ำจะอยู่ทางด้านขวามือและอยู่ติดกับห้องนอนเล็ก

ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ครบชุด อ่างล้างหน้าจะเป็นอ่างแบบแขวนผนังของ Cotto มีปลั๊กไฟให้ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ส่องได้ครึ่งตัว

มุมซ้ายมือเป็นที่ตั้งโถสุขภัณฑ์ของ Cotto ด้านข้างเป็น Shower box ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาก  พื้นและผนังของห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องเซารมิค ขนาด 60x60 ซม.

ฝักบัวเป็นแบบ hand shower ของ Cotto ด้าานบนติดตั้งระบบทำน้ำอุ่นมาให้ สามารถซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดเพิ่มได้เลย

ห้องนอนเล็กก็ไม่ได้เล็กเหมือนชื่อ ถือว่ากว้างพอสมควร ขนาดพื้นที่เพียงพอสำหรับการวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ แถมด้านข้างยังมีชุดโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนแถมมาให้ด้วย

ห้องนอนมีช่องแสงขนาดใหญ่เป็นหน้าต่างบานกว้างเต็มผนัง ามารถเปิดรับลมเย็นๆ ในช่วงหน้าหนาวได้ แถมวิวที่เห็นยังเป็นวิวเมือง มองเห็นถึงสนามกีฬาราชมังคลาได้เลยทีเดียว

พื้นที่ปลายเตียงกว้างประมาณ 40 ซม. พอให้เดินผ่านได้สบายๆ ปลายเตียงมีปลั๊กไฟให้เสียบต่อทีวีได้ แนะนำให้ซื้อทีวีแบบแขวนผนังติดตั้งแทนแบบการวางบนชั้น เพราะจะได้เหลือพื้นที่หน้าเตียงไว้สำหรับเดินผ่านได้บ้าง

หัวเตียงก็กว้างพอให้วางโต๊ะหัวเตียง หรือเดินผ่านไปมา เพื่อชมวิว

ต่อไปเราจะพาไปชมห้องนอนใหญ่กันต่อ อยู่ทางฝั่งขวามือของห้อง

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์เหมือนกับห้องที่แล้ว คือได้เตียง 5 ฟุต วางใกล้กับหน้าต่างบานเลื่อนผสมบานฟิกซ์ เต็มความกว้างของผนัง

ขนาดห้องใกล้เคียงกับห้องที่แล้วมากๆ จัดวางเตียงแล้วก็เหลือพื้นที่ปลายเตียงให้พอเดินผ่านได้

หัวเตียงเหลือที่ว่างของวางชั้น วางโต๊ะข้างหัวเตียงได้

ส่วนของตู้เสื้อผ้าจะหลบมุมเข้าไป ตั้งอยู่ตรงข้ามห้องน้ำ เป็นตู้บานสไลด์สองทางบานใหญ่ กระจกประตูเป็นสีชา จุเสื้อผ้าได้พอประมาณ

ติดกับตู้เสื้อผ้าจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง จัดวางโซนแต่งตัวให้เป็นสัดส่วนดี ออกจากห้องน้ำมาก็สามารถแต่งหน้า แต่งตัวพร้อมออกไปทำงานได้เลย

เข้ามาดูห้องน้ำกันต่อ ห้องนี้มีห้องน้ำในตัว การจัดวางสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำด้านนอก มีอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง พร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่

มุมโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งให้พร้อมกับสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่ หยิบใช้งานได้สะดวก ไม่ติดขัดอะไร

พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยกระจก Shower box แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

ส่วนฝักบัวก็ได้แบบ hand shower ของ Cotto ขนาดกำลังพอดี จับแล้วถนัดมือ

วิเคราะห์โครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng)

ทำเล : โครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) ตั้งอยู่ระหว่างซอยรามคำแหง ⁷⁹⁄₁ และรามคำแหง ⁷⁹⁄₂ ติดกับถนนใหญ่ อย่างถนนรามคำแหง ทำให้เดินทางสะดวกสบายทั้งฝั่งขาเข้าเมืองและขาออกเมือง แต่น่าเสียดายตรงที่คอนโดไม่ได้อยู่ในช่วงที่ใช้สะพานยกระดับเพื่อข้ามแยกได้ ก็ต้องทนรถติดกันนิดหนึ่ง
ด้านเส้นทางการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นสะดวกดี เพราะถนนรามคำแหงเชื่อมต่อถึงถนนหลักอีกหลายสายไม่ว่าจะเป็นถนนพระราม 9 ถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก ถนนพัฒนาการ และถนนศรีนครินทร์ อยู่ใกล้กับแยกลำสาลี รวมถึงทางด่วนพิเศษ และมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี) อีกด้วย แต่การเชื่อมต่อไปยังถนนได้มากมายก็มาพร้อมกับปัญหารถติดในชั่วโมงเร่งด่วนนะคะ ควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางไว้บ้างก็ดี

ส่วนการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง ก็ยังถือว่าสะดวก เพราะโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่ รอบๆ บริเวณมีทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว รถเมล์ รถแท็กซี่คอยให้บริการ หรือถ้าขยันหน่อยจะเดินไปใช้บริการเรือที่คลองแสนแสบในซอย รามคำแหง 81 แทนก็ได้ ถือเป็นเส้นทางเลี่ยงรถติดได้ดีทีเดียวเลยค่ะ ด้านรถไฟฟ้าใกล้ที่สุดจะเป็นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีหัวหมาก แต่ก็ถือว่าอยู่ในระยะที่ค่อนข้างไกล จะไปใช้งานก็คงไม่สะดวกเท่าไร ในอนาคตจึงมีแผนการสร้างรถไฟฟ้าในย่านรามคำแหง ตัดผ่านไม่ไกลจากโครงการเป็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 คงต้องอดใจรอกันหน่อย

สภาพแวดล้อม: รอบโครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ อาคารพาณิชย์ และอาคารสำนักงาน ด้านหน้าโครงการอยู่ติดกับถนนราทคำแหง ด้านหลังมีคลองแสนแสบไหลผ่าน ส่วนซ้าย-ขวาของอาคารจะขนาบข้างด้วยบ้านเรือน อาจจะไม่ใช่พื้นที่คึกคักมากมาย แต่ก็ไม่เงียบเหงาจนเกินไป ใกล้กับโครงการก็พอจะมีร้านอาหารตามสั่ง และร้านสะดวกซื้อให้เห็นอยู่บ้างแต่ถ้าอยากจะเดินห้างจริงๆ ต้องนั่งรถไปอีกหน่อยจะมี The mall บางกะปิ และ Big C เปิดให้บริการอยู่

แบบห้อง : แบบห้องของโครงการ เหลืออยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ 1 ห้องนอน ขนาด 36 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร เหลืออยู่อย่างละ 2 ห้อง โดยห้องแบบ 1 ห้องนอนจะเป็นห้องมุมอยู่ที่ชั้น 14 และชั้นที่ 20 มองเห็นวิวเมืองและทางยกระดับชัดเจน ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอน เป็นห้องใหญ่ Combine ที่รวมเอาห้องแบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องเข้าไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องใหญ่ และวิวสวย โดยจะอยู่ที่ชั้น 12 และ 12A ทางโครงการขายแบบ Fully fernished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่ได้เลย

ราคา : เฉลี่ยอยู่ที่ 89,000 บาท/ ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 3.7 ล้านบาท ด้วยขนาดพื้นที่ถึง 36 ตารางเมตรและเป็นห้องมุมวิวสวย รวมถึงได้วัสดุที่ค่อนข้างดีมีมาตรฐาน ก็ถือว่า คุ้มกับราคาสำหรับคอนโดระดับ high rise ที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ และมีศักยภาพในอนาคตที่มีแนวโน้มจะเจริญขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งถ้ามีรถไฟฟ้าสายอนาคตวิ่งผ่านด้วยแล้ว รับรองว่า ราคาจะอัพพุ่งขึ้นอีกแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นราคาซื้อ หรือราคาสำหรับปล่อยเช่า

สิ่งอำนวยความสะดวก : โครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) จัดสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ครบครันอยู่บนชั้นดาดฟ้า ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำแบบ infinity edge pool ฟิตเนส และซาวน่าแยกชาย-หญิง ส่วนด้านล่างก็จัดพื้นที่สีเขียวไว้ให้เดินเล่นได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของโครการ มีล็อบบี้รองรับสำหรับผู้มาเยี่ยมเยียน ส่วนระบบความปลอดภัยก็จะมีกล้อง CCTV รปภ. คอยตรวจตราความเรียบร้อยให้ การเข้า-ออกใช้ระบบแสกนคีย์การ์ดทั้งหมด ลูกบ้านจึงปลอดภัย หายห่วงเรื่องการโจรกรรมต่างๆ

โครงการ ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai Ramkhamhaeng) เหมาะสำหรับคนที่กำลังตามหาคอนโดห้องใหญ่ ในย่านรามคำแหง อาจจะเป็นคนวัยทำงานที่มีครอบครัวเล็กๆ หรือเตรียมตัวจะสร้างครอบครัว เน้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก มีงบประมาณในกระเป๋าเกิน 3.7 ล้านขึ้นไป