[Review] The Tempo Grand วุฒากาศ คอนโด High Rise พร้อมอยู่ สะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า BTS ติดวิถีชีวิตริมน้ำ
ซอยกัลปพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
infomation
เดอะ เทมโป แกรนด์ วุฒากาศ คอนโด High Rise พร้อมอยู่ สไตล์ Modernized Luxury ติดรถไฟฟ้าเพียง 30 เมตร มีความลงตัวของไลฟ์สไตล์คนเมืองใกล้ชิดวิถีชีวิตริมน้ำ โดยตัวอาคารมีการแบ่ง 2 อาคาร คือ Tower A 24 ช้ัน และ Tower B 32 ช้ัน อีกทั้งยังมีอาคารพาณิชย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อาศัยได้ เช่น ร้านกาแฟ เบเกอรี รวมทั้งใกล้กับร้านสะดวกซื้อเพียง 20 เมตรเท่านั้น นอกจากนั้น โครงการ เดอะ เทมโป แกรนด์ วุฒากาศ โดย Built Land ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อาศัยไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส สระว่ายน้ำ ซาวน่า และอื่นๆ ที่ทำให้ผู้อาศัยใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว อีกทั้งการเดินทางยังสะดวกสบายใกล้แหล่งช้อปปิ้งด้วยการเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย คือ ถนนราชพฤกษ์ ถนนเพชรเกษม ถนนกัลปพฤกษ์ และ ถนนรัชดาภิเษก ทำให้ผู้อาศัยสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้อย่างสะดวกสบาย
Location
ที่ตั้งโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ
แผนที่โครงการ เดอะ เทมโป แกรนด์ วุฒากาศ ตั้งอยู่ห่างจากทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศเพียง 30 เมตร เท่านั้น ซึ่งสามารถเดินเข้าโครงการได้อย่างสบายค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ( การเดินทางไปโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ )
การเดินทางจะขอเริ่มจากแยกรัชดาภิเษก - ราชพฤกษ์นะคะ จากแผนที่คร่าวๆ ที่เห็นนี้จะมีลูกศรชี้ให้เห็นเส้นทางการเดินทางค่ะ และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาและไม่งงไปกว่านี้ ตามมาชมการเดินเข้าชมโครงการ เดอะ เทมโป แกรนด์ วุฒากาศ กันเลยค่ะ
เมื่อเดินทางมาจากแยกรัชดาภิเษก - ราชพฤกษ์ให้ขับขึ้นบนถนนยกระดับ เมื่อขับขึ้นมาเล็กน้อยก็จะเห็นสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลูทางด้านซ้ายมือค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 900 เมตร บนถนนยกระดับจะเห็นสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศด้านซ้ายมือค่ะ แนะนำให้ให้ขึ้นทางยกระดับนะคะ เพราะหากขับบนถนนปกติด้านล่างแล้วอาจจะสับสนในเรื่องของการเลือกใช้เส้นทางช่องจราจร หากเลือกช่องจราจรผิดต้องเสียเวลาขับรถไปไกลเพื่อยูเทิร์นกลับมาค่ะ
เมื่อเห็นสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศให้ขับเลยไปอีกนะคะ อาจสงสัยว่าถึงสถานีวุฒากาศแล้วก็แปลว่าถึงโครงการ เดอะ เทมโป แกรนด์ วุฒากาศ แล้วใช่มั้ยคะ จริงๆ แล้วก็ใช่ค่ะแต่ว่าเมื่อถึงสถานีวุฒากาศแล้วถนนยกระดับที่เราอยู่ด้านบนนี้ไม่มีทางลงที่ตรงกับสถานีนะคะ ทางลงจากถนนยกระดับจะอยู่เลยสถานีไปอีกค่ะประมาณ 500 เมตรค่ะ
เนื่องจากทางลงจากถนนยกระดับไม่ตรงกับทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศดังนั้น เมื่อขับรถลงมาจากถนนยกระดับแล้วให้ชิดซ้ายนะคะเพราะจะต้องไปขึ้นสะพานกลับรถค่ะ
ให้เลือกช่องจราจรเลนส์ซ้ายเพื่อตรงไปที่สะพานกลับรถค่ะ
จากนั้นให้เลือกช่องจราจรที่บอกทางไปถนนราชพฤกษ์ค่ะ
ขึ้บขึ้นสะพานกลับรถ
ขับลงจากสะพานกลับรถ
เมื่อลงจากสะพานกลับรถให้ขับชิดเลนซ้ายนะคะ
ขับตรงไปให้เลือกช่องจราจรด้านขวามือนะคะ สามารถเลือกด้านซ้ายได้เหมือนกันแต่ช่องจราจรด้านซ้ายนั้นจะไปเชื่อมถนนอีกสาย อาจทำให้ไม่ค่อยสะดวกนักเพราะเราจะยูเทิร์นใต้ถนนยกระดับดังนั้นจึงขอแนะนำให้ชิดเลนขวานะคะ สะดวกและรวดเร็วกว่าค่ะ
ให้ขับรถตรงไปค่ะ ด้านหน้าเป็นที่กลับรถใต้ทางยกระดับ
ขับรถตามเส้นทางโค้งบังคับค่ะ
ให้ขับตรงไปเรียบกับทางยกระดับค่ะ
ขับตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะเพื่อไปกลับรถ
ขณะขับรถตรงไปจะสังเกตเห็นบ้านกลางเมืองอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ
ให้เลือกช่องจราจรด้านซ้ายมือค่ะเพื่อไปกลับรถใต้ทางยกระดับใกล้ๆ กับสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศ ห้ามเผลอตรงไปขึ้นทางยกระดับเชียวนะคะไม่อย่างนั้นอาจจะต้องขับรถวนไปมาอีกรอบซึ่งค่อนข้างไกลพอสมควรค่ะ
เห็นทางกลับรถด้านหน้าก็แปลว่าใกล้จะถึงโครงการแล้ว ให้ขับไปตามเส้นทางเลยค่ะ
เมื่อกลับรถแล้วขับมาเล็กน้อยจะเห็นสถานีรถไฟ้ฟ้าวุฒากาศอย่างใกล้ชิดเลยล่ะค่ะ ไม่ต้องขับรถขึ้นสะพานแล้วนะคะทีนี้
ขับตรงไปรอดใต้สถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศได้เลยค่ะ แต่ให้ชิดเลนฝั่งซ้ายไว้นะคะ เพราะทางเข้าโครงการเดอะ เทมโป แกรนด์ วุฒากาศจะอยู่ด้านซ้ายมือเลยสถานีไปนิดเดียวเท่านั้นค่ะ
จะสังเกตเห็นป้ายโครงการ The Tempo Grand ด้านซ้ายมือให้ขับรถเข้าไปได้เลยค่ะ
ตัวโครงการมี 2 อาคารด้วยกันค่ะ ภายในจะออกแบบสวยงามขนาดไหนนั้นตามมาชมกันได้เลยค่ะ
Insight
เจาะลึกภาพรวมโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ
สำหรับโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ ตั้งอยู่ที่ ถ.ราชพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพ ( ห่างจาก BTS วุฒากาศ 30 เมตร ) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise มี 2 อาคารที่พักอาศัยด้วยกันค่ะ คือ Tower A ที่มีความสูง 24 ชั้น และ Tower B ที่สูงถึง 32 ชั้น มีลักษณะเป็นตัว L ค่ะ รวมแล้ว 1,004 ยูนิต อีกทั้งยังมีอาคารชุดเพื่อการพาณิชย์ 2 ชั้น 1 อาคารค่ะ
สำหรับทิศทางตัวโครงการนั้น ด้านหน้าจะหันไปทางทิศเหนือซึ่งติดกับ 7-11, สถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศ และถนนราชพฤกษ์ค่ะ ทิศใต้หรือด้านหลังของโครงการติดกับชุมชนค่ะ ทิศตะวันออกติดกับคลองบางขุนเทียน และทิศตะวันตกติดกับชุมชนค่ะ แต่ภาพรวมแล้วตัวอาคารไม่ติดกับตึกสูง ถือว่าวิวของโครงการค่อนข้างสวยเลยทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะที่นี่เขามีสวนลอยฟ้าให้ด้วยนะคะทำให้ลูกบ้านสามารถชื่นชมทัศนียภาพรอบๆ ได้ ยิ่งโดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่สามารถดื่มด่ำท้องฟ้า หมู่ดาว และแสงไฟของตัวเมืองได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
มาต่อกันด้วยการสำรวจภาพรวมของโครงการกันค่ะ เริ่มตั้งแต่ทางเข้าของโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ กันก่อนนะคะ ทางเข้าของโครงการค่อนข้างกว้าง มีป้ายที่สวยงามและสังเกตเห็นได้ชัด มีน้ำพุอยู่ติดกับป้ายด้วยนะคะ เรื่องนี้อาจจะเป็นด้านความเชื่อในศาสตร์ของฮวงจุ้ยด้วยก็ได้ค่ะคือการมีน้ำอยู่ด้านหน้าจะช่วยเรื่องโชคลาภเงินทอง
เมื่อขับรถเข้าโครงการให้เลี้ยวซ้ายตามทางค่ะ แต่ก่อนจะเข้าโครงการจะมีไม้กระดกกั้นรถ พร้อมเครื่องทาบบัตร และกล้อง CCTV ส่วนคนนอกนั้นจะต้องแลกบัตรประชาชนกับรปภ.เท่านั้นค่ะ ค่อนข้างเป๊ะ เข้มงวด หายห่วงเรื่องคนนอกจะเข้ามาได้ง่ายๆ ค่ะ
ฝั่งซ้ายของถนนทางเข้าโครงการมีอาคารเตี้ย 2 ชั้น เป็นอาคารพาณิชย์คะ ถ้าสังเกตเห็นป้ายที่ติดทุกคนน่าจะเข้าตรงกันใช่มั้ยคะว่านี่จะเป็นแหล่งที่รวมตัวของนักดื่ม ไม่ใช่แนวแอลกอฮอล์นะคะ ที่เห็นเขียวๆ นั้นคือร้านอเมซอนนั่นเองคะ ถัดไปเป็นร้านแนวๆ เบเกอรี ค่ะ ส่วนชั้นสองนั้นยังไม่แน่ใจว่าโครงการจะทำอะไรแต่ที่ทราบว่าตอบโจทย์และรองรับความต้องการของผู้อาศัยแน่นอนเลยล่ะค่ะ
สำหรับการขับรถภายในโครงการ เมื่อเลี้ยวซ้ายหลังจากผ่านป้อมรปภ.มาแล้วก็ให้เลี้ยวขวาค่ะ การขับรถในโครงการให้ขับวนขวาเท่านั้นนะคะ one way ถือว่าเป็นข้อดีนะคะเพราะนอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุเรื่องการเฉี่ยวชนแล้วยังช่วยให้การจราจรภายในโครงการคล่องตัวอีกด้วยค่ะ
สำหรับทางเข้าตัวอาคารนั้นค่อนข้างสะดวกค่ะด้วยประตูทางเข้าที่มีมากถึง 3 ประตูใหญ่และด้วยมีรปภ.คอยดูแลความปลอดภัยให้จึงรู้สึกอุ่นใจรวมทั้งทางเข้าทางออกของประตูเขาก็มีร่มกันฝนกันแดดให้ด้วยนะคะ
สังเกตว่าด้านหน้าของอาคารนั้นมีการตกแต่งเป็นสวนหย่อมพร้อมกับน้ำพุด้วยเช่นกันค่ะ
ด้านหลังของอาคารเป็นสวนหย่อมและศาลาไว้สำหรับลูกบ้านได้พักผ่อนหย่อนใจค่ะ
สำหรับอาคารจอดรถจะอยู่ด้านหลังค่ะ โดยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ใต้อาคารไปจนถึงชั้น 5 ค่ะ
เข้าไปด้านในจะเป็น Grand Lobby เป็นโถงต้อนรับส่วนกลางขนาดใหญ่โอ่โถง มี Wifi ของโครงการให้ด้วยนะคะ ดูๆ ก็เหมือนมาโรงแรมห้าดาวยังไงอย่างงั้น รวมๆ แล้วดูสวยมาก แม้กระทั่ง Lobby โครงการยังให้ความใส่ใจขนาดนี้
ภายใน Grand Lobby ก็มีห้องรับรองกระจกที่เป็นสไตล์แบบส่วนตัว Meeting Room สำหรับแขกที่ต้องการมาคุยธุระค่ะ
ด้านล่างของฝั่ง Tower A ที่เห็นห้องกระจกด้านขวาของรูปจะเป็นในส่วนของ sale office ค่ะ
ถ้าเดินลึกเขาไปจะเป็นในส่วนของห้องว่างซึ่งทางโครงการจะมีการทำเป็นร้านค้า รวมทั้งร้านซักรีดค่ะ
ใกล้ๆ กันมีห้องสุขาที่แยกชายหญิงไว้ให้สำหรับแขกหรือใครที่รีบไม่อยากเสียเวลาขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องพักของตัวเองค่ะ สำหรับห้องน้ำรับรองนี้จะอยู่ทางฝั่งด้าน Tower A เท่านั้นนะคะ อยู่ติดกับประตูที่เชื่อมไปยังลานจอดรถ ส่วนฝั่ง Tower B จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันต่อเลยนะคะ
เมื่อสแกนบัตรเข้าตัวอาคารที่พักอาศัยจะเห็น Private Lobby ซึ่งในส่วนนี้จะมีแยกของแต่ละอาคารค่ะ
สำหรับห้อง Mail Box นั้นจะอยู่ด้านล่างของแต่ละอาคารอยู่ใกล้ๆ กับลิฟต์ค่ะ
สำหรับ Tower B นั้น ประตูเชื่อมออกไปยังลานจอดรถจะอยู่ใกล้ๆ กับลิฟต์ของอาคารค่ะ
สำหรับลานจอดรถผู้อาศัยสามารถจอดได้ตั้งแต่ใต้อาคารจนถึงชั้น 5 ค่ะ ซึ่งลานจอดรถทั้งหมดคิดเป็น 40 % ค่ะ
มาต่อกันที่โถงระหว่างรอลิฟต์ ซึ่งโถงมีขนาดกว้างไม่รู้สึกทึบเพราะมีผนังและหน้าต่างเป็นบานกระจกค่ะ รวมทั้งมีไฟดาวน์ไลท์และกล้องวงจรปิดให้ด้วยค่ะ
สำหรับลิฟต์โดยสารนั้น Tower A มี 3 ตัว Tower B มี 4 ตัวค่ะ เป็นลิฟต์แบบล็อกชั้น โดยชั้นที่ผู้อาศัยสามารถขึ้นไปได้ คือ ชั้นที่ตัวเองพักอาศัย ชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นส่วนกลาง ชั้น 24 ของ Tower A และชั้นที่ 32 ของ Tower B ค่ะ
สำหรับโถงทางเดินระหว่างห้องพักไม่คับแคบค่ะ โครงการมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ให้ระหว่างทางเดินรวมทั้งสปริงเกอร์ค่ะ
สุดโถงทางเดินของห้องพักมีการทำผนังกระจกแบบเข้ามุมทำให้สามารถชมวิวด้านบนได้ค่อนข้างกว้างได้องศาที่มากขึ้น
ระหว่างโถงมีกล้อง CCTV ไฟดาวน์ไลท์ และสปริงเกอร์ให้ทุกชั้นทุกตึกค่ะ
ระหว่างโถงทางเดินจะมีตู้ดับเพลิงและถังดับเพลิงให้ค่ะ ใกล้ๆ กันที่เห็นเป็นบันไดหนีไฟค่ะ
เมื่อเปิดเข้าไปดูฝั่งซ้ายเป็นห้องทิ้งขยะ ตรงกลางเป็นทางออกไปยังบันไดหนีไฟ ส่วนด้านขวามือเป็นทางเข้าลิฟต์ดับเพลิงค่ะ
โครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ เป็นอาคารสูงดังนั้นการมี Fireman Lift นับว่าโครงการให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัยกับผู้อาศัยมากๆ ค่ะ
สำหรับห้องทิ้งขยะนั้นก็มีการแยกประเภทของถังให้ด้วยค่ะ
บันไดหนีไฟจะวนขวามือค่ะ ตัวบันไดค่อนข้างกว้างสามารถรองรับจำนวนคนได้มากพอสมควรหากมีความจำเป็นที่ต้องใช้บันไดหนีไฟ
ต่อมาจะพาทุกคนไปที่ส่วนกลางค่ะ ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 6 การเข้าออกนั้นยังคงใช้คีย์การ์ดอยู่ค่ะ
ส่วนกลางจะอยู่เชื่อมกลางระหว่าง Tower A และ Tower B ค่ะ ด้านซ้ายมือเมื่อเดินออกจากตัวอาคารเป็นสวนหย่อมมีต้นไม้ประดับให้ความรู้สึกสดชื่นค่ะ
ขวามือเป็นส่วนริมน้ำขนาดที่ใหญ่กว่าด้านซ้าย เป็นสไตล์ Oriental Modern ค่ะ ถัดไปเป็นสระว่ายน้ำค่ะ ก่อนจะพาไปชมสระว่ายน้ำ จะขอพาไปชมฟิตเนสก่อนนะคะ
โถงทางเดินเชื่อมตึกมีหลังคาตกแต่งแวดล้อมอย่างสวยงามด้วยต้นไม้เล็กใหญ่
มาต่อกันที่ฟิตเนสค่ะ มีขนาดห้องค่อนข้างกว้างเป็นฟิตเนสใหญ่ริมสวน พื้นของห้องเป็นพื้นพรมค่ะ อุปกรณ์เครื่องเล่นมีจำนวนค่อนข้างเยอะพอสมควรค่ะ ส่วนแอร์ของห้องฟิตเนสเป็นแบบฝังฝ้าค่ะ มีการติดตั้งเครื่องจับความร้อน ( smoke detector ) และสปริงเกอร์เพื่อป้องกันกรณีไฟ้ไหม้ค่ะ
ภายในห้องฟิตเนสมีห้องโยคะด้วยค่ะ แอบถามจากผู้ดูแลบอกว่าโครงการ เดอะ เทมโป แกรนด์ วุฒากาศ นั้นมีการจัดครูผู้สอนโยคะมาให้ลูกบ้านด้วยนะคะอาทิตย์ละครั้ง มีความอิจฉาลูกบ้านที่นี่เล็กน้อยถึงปานกลางเลยล่ะค่ะ
ออกมาจากห้องฟิตเนสเลี้ยวซ้ายออกมาก่อนถึง Tower B จะเป็นห้องน้ำ ภายในเป็นสุขา ห้องอาบน้ำ และที่ขาดไม่ได้คือห้อง Steam และ Sauna นั่นเองค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับห้องฟิตเนสเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดประมาณ 10x32 เมตร ลึก1.20 เมตร พร้อมสระเด็กที่มีเนื้อที่กว้างทำให้เด็กๆ สามารถเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น รูปสระเป็นตัว L ค่ะ
สระว่ายน้ำเป็นระบบ Overflow หรือระบบน้ำล้น คือเวลาที่เราว่ายน้ำ น้ำจะล้นลงที่บ่อด้านล่างแล้วหมุนเวียนไปเรื่อยๆ โดยโครงการจะใช้ราวกันตกเพื่อความปลอดภัยของผู้ว่ายน้ำค่ะ
นอกจากสระว่ายน้ำแล้วบริเวณใกล้ๆ จะเป็น Library และโซฟาริมน้ำค่ะ
สำหรับ Library ถือว่าเป็นห้องสมุดลอยฟ้าก็ว่าได้ค่ะ เพราะนอกจากจะได้นั่งอ่านหนังสือแล้วยังสามารถชมวิวในมุมสูงได้อีกด้วยค่ะ หรือหากใครที่นำโน้ตบุ๊กมานั่งทำงานในห้องนี้เค้าก็มีปลั๊กให้สำหรับเสียบชาร์ตแบตและยังมี Wifi ให้อีกด้วยค่ะ
หลังจากชมบรรยกาศส่วนกลางในชั้น 6 กันไปแล้ว ต่อไปจะพาทุกคนขึ้นมาดูส่วนกลางในส่วนของชั้นบนสุดของแต่ละอาคารกันบ้างค่ะ
Sky Park สวนดาดฟ้าบนชั้น 24 ของ Tower A กว้างมากๆ ค่ะเหมาะสำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้งสำหรับลูกบ้าน หรือจัดปาร์ตี้เล็กๆ แบบ out door ก็ได้ ทั้งนี้ก็ลองสอบถามนิติบุคคลดูก่อนนะคะว่าสามารถอนุญาตได้หรือไม่ หรือกรณีที่มีประกาศว่าจะมีฝนดาวตก หรือดาวหางจะพาดผ่านโลก Sky Park นี้จะเหมาะมากเลยล่ะค่ะ
อีกด้านหนึ่งของดาดฟ้าชั้น 24 นี้ก็เป็นสวนหย่อมแต่ไม่ครอบคลุมทั้งบริเวณนะคะ คือจะเหลือพื้นที่ว่างไว้อันนี้ไม่แน่ใจว่าเหลือไว้เพื่ออะไรแต่กว้างมากๆ เลยล่ะค่ะ มีคนแอบกระซิบมาว่าถ้าเอาผ้าขึ้นมาตากบนนี้รับรองไม่ทันไรเดี๋ยวเดียวก็แห้งแล้ว มาคิดๆ ดูอีกทีถ้าเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์คงจะเก๋ไม่น้อยเลยใช่มั้ยคะ ข้อเสียคือเสียงอาจดังรบกวนห้องที่ติดกับชั้นดาดฟ้าน่าดู
ข้ามมาอีกอาคาร ชั้น 32 Tower B มี Sky Lounge ให้สำหรับลูกบ้านจัดประชุมเล็กๆ หรือปาร์ตี้สังสรรค์ค่ะ
ชม facility กันไปแล้วมาชมแปลนห้องกันบ้างค่ะสำหรับโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ ด้วยยูนิตที่มีจำนวนมากแบบแปลนของห้องจึงมีให้เลือกชมเยอะกว่าโครงการทั่วไป จะมีแบบไหนนั้นมาชมกันเลยค่ะ
TYPE A เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด30.00 - 31.9 ตร.ม.
TYPE B เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.8 - 31.1 ตร.ม.
TYPE C เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.9 - 35.5 ตร.ม.
TYPE F เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 37.2 ตร.ม.
แม้ว่าจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนก็ตามแต่การดีไซน์ของโครงการนั้นทำให้เราสามารถเลือกได้ตามสไตล์ที่เราต้องการเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวแบบเปิดหรือแบบปิด ระเบียงกว้างหรือแคบ ก็เลือกตามใจชอบได้เลยค่ะ
ห้องตัวอย่าง TYPE A 1 ห้องนอน ขนาด 31.20 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง TYPE A 1 ห้องนอน ขนาด 31.20 ตร.ม.
หลังจากทำความรู้จักกับโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ กันแล้ว ต่อไปก็จะขอพาทุกคนมาชมห้องตัวอย่างซึ่งเป็นห้องจริงของโครงการ เดอะ เทมโป แกรนด์ วุฒากาศ TYPE A 1 ห้องนอน ขนาด 31.20 ตร.ม. เตรียมท่องขันติ ขันติ กันเอาไว้นะคะ เพราะเมื่อชมแล้วจะเกิดความอยากได้ขึ้นมาในทันทีเลยล่ะค่ะ มามะ เชิญมาชมกันเลยค่ะ
แบบแปลนของห้องตัวอย่าง TYPE A 1 ห้องนอน ขนาด 31.20 ตร.ม.
ภาพรวมดูโล่งสบายตาด้วยวอลเปเปอร์สีขาว จากพื้นถึงเพดานสูง 2.55 เมตร ห้องมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างลงตัวซึ่งทางโครงการจัดให้พร้อมอยู่ค่ะ ( Fully Furnished ) แต่งโดย Index ทั้งหมดค่ะ
สำหรับประตูของห้องนั้นเป็นประตูไม้อัดแข็งแรง High Density Fiber ตัวจับเป็นแบบมือจับเขาควายค่ะ
พื้นเป็นแบบพื้นลามิเนตค่ะ มีการยกธรณีทางเข้าสูงเล็กน้อยค่ะ อาจมีฝุ่นจากโถงทางเดินด้านนอกปลิวเข้ามาแต่อาจจะน้อยค่ะ
ด้านหลังของประตูจะมี door stopper เพื่อป้องกันบานประตูกระแทกโดนผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ค่ะ
มีตาแมวให้ด้วยค่ะ หากผู้อาศัยคนไหนรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวอาจจะหาตัวปิดช่องสำหรับมองก็ได้ค่ะ แต่โดยปกติแล้วตาแมวที่ได้มาตรฐานคนด้านนอกจะไม่สามารถส่องทะลุเข้ามาด้านในได้ค่ะ
สำหรับสวิตซ์ไฟเป็นแบบมาตรฐานค่ะ
ส่วนไฟ ในส่วนของห้องเล่นนั้นเป็นไฟดาวน์ไลท์แบบหลุม 3 ดวงค่ะ พร้อมกับมีตัวจับความร้อนและสปริงเกอร์ให้ด้วยอย่างละตัวค่ะ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาที่มองเห็นจะเป็นห้องนอนโดยมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ ซ้ายมือเป็นชุดโซฟานั่งเล่น ขวามือเป็นชั้นวางทีวีซึ่งติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำและห้องครัวโดยทะลุไประเบียงด้านนอก
มาดูกันทีละมุมของห้องกันค่ะ ฝั่งนี้เมื่อเดินเข้ามาในห้องจะอยู่ซ้ายมือติดมุมเลยค่ะเป็นโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง ขนาด 80 x 80 ซม. ผนังมีการกรุกระจกสีชาเพื่อทำให้ห้องดูกว้างขึ้นค่ะ ด้านบนมีโคมไฟแบบลอย ในส่วนโคมไฟนั้นห้องจริงไม่มีให้นะคะ
ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหารเป็นโซฟานั่งเล่นกว้างประมาณ 2 เมตรค่ะ
อีกมุมมองหนึ่งของโซนโต๊ะกินข้าวและโซฟานั่งเล่น
อีกมุมหนึ่งจะเห็นว่าโซฟานั่งเล่นอยู่ติดกับห้องนอนโดยมีกระจกบานเลื่อนกันไว้ค่ะ
อีกฝั่งคือชั้นวางทีวีกว้างประมาณ 2 เมตร ยื่นออกมาประมาณ 50 ซม. ลอยจากพื้นสูงประมาณ 1 ฟุตค่ะ และชั้นลอย 3 ช่องสำหรับวางของตกแต่งค่ะ ด้านบนเป็นแอร์ที่ทางโครงการแถมมาให้ด้วยค่ะ ดีงามสุดๆ
มุมมองด้านข้างจะเห็นว่าลิ้นชักมีขนาดใหญ่สามารถใส่ข้าวของได้เยอะค่ะ แต่ไม่แนะนำนะคะเพราะอุปกรณ์ทุกอย่างมีอายุการใช้งานหากใช้งานหนักเกินไปอาจชำรุดได้ค่ะ เช่น ฐานของลิ้นชักอาจกลายเป็นท้องช้างได้ค่ะในกรณีใส่ของหนักมาก
ด้านหลังของทีวีมีเต้าเสียบปลั๊กไฟ เต้ารับสายโทรศัพท์และโทรทัศน์ให้
อีกมุมมองหนึ่งจะเห็นว่าด้านชั้นวางทีวีนั้นจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าเมื่อเปิดบานประตูอาจไปโดนชั้นได้ทางโครงการจึงตระหนักถึงงข้อนี้เค้าเลยมี door stopper ติดไว้เพื่อป้องกันการกระแทกค่ะ
ต่อไปขอนำทุกคนเข้าสู่วิมานแห่งการพักผ่อนคือห้องนอนนั่นเองค่ะ สำหรับห้องนอนนั้นค่อนข้างกว้างค่ะ ถูกกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ฟิก 1 บาน ทำให้การแบ่งสรรของห้องดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นอีกทั้งยังทำให้ห้องดูโปร่งแถมกว้างอีกด้วยค่ะ
ไฟภายในห้องนอนเป็นไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวงแบบหลุม มีตัวดักจับความร้อนและสปริงเกอร์
หน้าต่างภายในห้องนอนมีท้้งหมด 4 ช่องแต่จะไม่อยู่ติดกับเตียงเท่าไรนักนะคะ เพราะห้องตัวอย่างเขาจัดให้มีโต๊ะเล็กๆ วางอยู่ติดกับห้องนอนทั้งสองฝั่งดังนั้นปัญหาเรื่องการเดินไปเปิดหน้าต่างในที่แคบๆ จึงไม่มีค่ะ บานหน้าต่างมี 4 ช่องแต่สามารถเปิดได้เพียงช่องเดียวเท่านั้นคือช่องบนซ้ายมือ ( ดูจากรูป )
หน้าต่างจะเป็นแบบบานกระทุ้งค่ะ
ภายในห้องตัวอย่างใช้เตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งจริงๆ แล้วผู้อาศัยสามารถใช้เตียงขนาด 6 ก็ได้เช่นกันคะ
หัวเตียงทั้งสองฝั่งมีโต๊ะวางอยู่ทั้งสองข้างค่ะ
หลังโต๊ะข้างหัวเตียงจะมีเต้าเสียบปลั๊กให้ค่ะ
ฝั่งปลายเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้ากว้างขนาด 120 ซม. และโต๊ะเครื่องแป้งขนาดประมาณ 90 ซม. ซึ่งเป็นอีกออฟชันหนึ่งที่ทางโครงการจัดให้ค่ะ
มาดูกันที่ตู้เสื้อผ้ากันก่อนนะคะ ประตูเป็นแบบเลื่อนซึ่งสามารถเลื่อนได้ทั้งสองฝั่ง ภายในตู้เสื้อผ้าแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ด้านซ้ายจะแยกไว้สำหรับการแขวนเสื้อผ้าที่มีลักษณะตัวยาว เช่น เสื้อตัวยาว เดรส เสื้อเชิ้ต ส่วนด้านขวามือจะมีการแยกเป็นชั้นให้สำหรับวางเสื้อผ้าที่เหมาะแก่การพับมากกว่าแขวน เช่น กางเกง เสื้อยืด หรือสามารถนำกล่องเก็บเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปวางในช่องได้เช่นกันค่ะ ส่วนด้านบนเป็นชั้นวางของแยกอยู่เหนือตู้เสื้อผ้าค่ะ สามารถเก็บหมอน ผ้าปูหรือผ้าห่มได้ค่ะ
สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งนั้นมีการออกแบบให้สะดวกแก่การใช้งาน โดยมีลิ้นชักให้ มีช่องวางของกระจุกกระจิก ชั้นลอยด้านบนขวามือ ส่วนกระจกนั้นเป็นกระจกเต็มบานค่ะ สามารถส่องได้เกือบเต็มตัวเลยค่ะ
มุมขวาของโต๊ะเครื่องแป้งจะมีสวิตซ์ไฟของห้องนอนให้ค่ะ
ส่วนด้านล่างของโต๊ะเครื่องแป้งมีเต้าเสียบปลั๊กให้จำนวน 2 ช่อง ในกรณีที่ใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชอบไดร์ผม ม้วนผม ค่ะ
ขอเสริมเรื่องผนังของห้องนะคะ จากรูปที่เห็นจะพบว่าขอบของห้องทั้งหมดมีการติดบัวเชิงผนังให้ค่ะเพื่อความสวยงามอีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการป้องกั้นเฟอร์นิเจอร์กระแทกผนัง ป้องกันการเกิดริ้วรอย
ถัดออกมาจากห้องนอนจะเห็นประตูที่เชื่อมไปยังห้องครัวและห้องน้ำค่ะ
สำหรับประตูห้องที่กั้นระหว่างห้องครัวห้องน้ำเป็นบานเลื่อนแบบรางบนค่ะ
สำหรับประตูบานเลื่อนแบบรางบนนั้นจะมีช่องว่างเล็กๆ ด้านล่างเหมือนในรูปนะคะ ในกรณีนี้ผู้อาศัยสามารถให้ช่างมาติดตัวกันฝุ่นหรือวางพรมเช็ดเท้าใกล้ๆ บานเลื่อนได้นะคะเพื่อป้องกันฝุ่นจากอีกห้องเข้ามา
สำหรับพื้นของห้องครัวนั้นเป็นพื้นกระเบื้องสีเทาอ่อน ขนาด 30 x 30 ซม.ค่ะ
มากันที่ห้องครัว ซึ่งเป็นครัวแบบปิดค่ะ ชุดครัวเป็นชุดครัวที่ทางโครงการมีการ Built in ให้ มีขนาดกว้างประมาณ 130 ซม. ยื่นออกมาประมาณ 60 ซม. มีชั้นลอยให้ด้านบนฝั่งขวาค่ะ และมีตู้แบบลอยอยู่ด้านบนฝั่งซ้ายสำหรับวางเครื่องปรุงหรืออุปกรณ์ทำครัวเล็กๆ ด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับใส่ช้อนส้อม ถัดไปเป็นชั้นวางไมโครเวฟและช่องเล็กๆ ที่คุณแม่บ้านหรือสาวๆ สามารถดีไซน์เอาไว้เก็บของ เช่น ถุง หรือกระดาษสำหรับทำอาหารก็ได้ค่ะ ส่วนด้านล่างของซิงค์จะเป็นช่องเอาไว้สำหรับใส่ถังขยะทิ้งเศษอาหารค่ะ
ส่วน Top ของครัวนั้นเป็นพื้นลามิเนตค่ะ sink ล้างจานนั้นเป็นแบบ 1 หลุมค่ะ ไม่มีที่พักจานด้านข้าง ผนังยังเป็นพื้นสีขาวเวลาทำอาหารหรือล้างจานอาจเปื้อนหรือเลอะได้ ดังนั้นควรหากระดาษหรือฉากกั้นขณะทำอาหารหรือล้างจานค่ะ
ด้านซ้ายมือของ Top ครัวเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวค่ะ ยี่ห้อ HAFELE
เครื่องดูดควันยี่ห้อ HAFELE ที่ติดตั้งแบบหมุนเวียนอากาศภายในค่ะ
ชุดเครื่องครัวลอยสูงกว่าพื้นประมาณ 20 ซม. สะดวกต่อการทำความสะอาด อีกทั้งยังทำให้ห้องครัวโล่งอีกด้วยค่ะ
ภาพรวมของครัวห้องนี้สามารถทำอาหารประเภทหนักได้ค่ะเพราะเป็นครัวแบบปิด ดังนั้นปัญหาเรื่องกลิ่นและควันที่จะไปติดกับเฟอร์นิเจอร์หรือโซฟาจะน้อยกว่าห้องครัวแบบเปิดค่ะ แต่ก็ไม่ควรทำอาหารที่มีกลิ่นแรงหรือแบบหนักมากนะคะ
ไฟในห้องครัวนั้นเป็นไฟดาวน์ไลท์แบบหลุม 2 ดวงค่ะ มีเครื่องตรวจจับเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัยพร้อมกับสปริงเกอร์ให้ค่ะ
ส่วนด้านขวาที่ติดกับประตูห้องน้ำนั้นเป็นที่วางตู้เย็นค่ะ ใกล้ๆ กันนั้นเป็นสวิตซ์ไฟห้องน้ำค่ะ
ติดกับตู้เย็นจะเป็นห้องน้ำค่ะ พื้นจากด้านนอกมีการยกธรณีขึ้นไม่สูงมากนักนะคะ
เมื่อเปิดประตูและเดินเข้าไปด้านในจะเห็นว่าพื้นนั้นมีการปรับระดับจากธรณีประตูให้ต่ำลงค่ะ พื้นด้านในเป็นพื้นกระเบื้องสีเท่าอ่อน เหมือนห้องครัว ขนาด 30 x 30 ซม.เหมือนกันค่ะ
ประตูห้องน้ำเป็นประตูไม้อัดแข็งแรง แบบ HDF ( High Density Fiber ) ตัวจับประตูเป็นลูกบิดค่ะ
มีตัวกันชนแบบขอแขวนให้ด้านหลังประตูห้องน้ำค่ะ
ภาในห้องน้ำจะแยกโซนแห้งและโซนเปียกให้ค่ะ
มีพัดลมดูดอากาศภายใน เพื่อระบายอากาศและไฟดาวน์ไลท์แบบหลุม 2 ดวงให้ค่ะ
มาดูกันที่โซนแห้งของห้องน้ำก่อนนะคะ เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วจะเห็นอ่างล้างหน้าซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ มีกระจกให้กว้างประมาณ 2 เมตรค่ะ ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้แบบลอยให้สำหรับเก็บอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องน้ำค่ะ
ด้านซ้ายมือของอ่างล้างหน้ามีเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ค่ะ มีฝาพลาสติกใสครอบให้เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นโดนปลั๊กค่ะ
ส่วนอ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard ค่อนข้างกว้างค่ะ ดังนั้นปัญหาเรื่องการล้างหน้าแล้วน้ำเลอะจะน้อยมากค่ะ
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นของยี่ห้อ nahm ค่ะ หัวฉีดเป็นยี่ห้อ VRH
มีก้านไว้สำหรับใส่กระดาษชำระแบบม้วนให้ด้วยค่ะ
มาต่อกันที่โซนเปียกคือห้องอาบน้ำค่ะ พื้นตรงประตูมีการยกธรณีให้สูงขึ้นประมาณ 8 ซม.ค่ะ ประตูเป็นกระจกหนาแบบผลัก จะสังเกตเห็นว่าหลังประตูติดผนังห้องด้านล่างมีตัวกันชนให้ด้วยนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้ประตูชนผนังห้องน้ำ
ที่จับประตูของห้องน้ำเป็นสแตนเลสแบบก้านยาวด้านนอกเป็นแบบแนวนอน ด้านในห้องอาบน้ำเป็นแบบแนวตั้ง ทางเข้าห้องอาบน้ำจะมีราวตากผ้าสเตนเลสติดอยู่
ส่วนกระจกกั้นโซนอาบน่้ำเป็นกระจกหนายี่ห้อ Shower King ค่ะขอบกระจกไม่เป็นเหลี่ยม มีการขัดให้ขอบกระจกมนเพื่อที่จะไม่คมหรือบาดผู้อาศัย
ด้านฝักบัวนั้นเป็นแบบวาว์ลผสมแบบฝังท่อที่มีทั้งน้ำร้อนและน้ำธรรมดาให้ค่ะ
ตัวฝักบัวเป็นแบบสายอ่อนสามารถจับใช้ได้ และมีแกนสำหรับตั้งเพื่อปรับความสูงต่ำในการใช้ฝักบัว หัวฝักบัวสามารถปรับระดับการกระจายของน้ำให้ด้วยค่ะ
วาว์ลน้ำผสมเป็นของ American Standard ค่ะ
พาทุกคนเดินออกมาจากห้องน้ำค่ะ เมือเปิดประตูห้องน้ำมองไปจะเห็นประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องครัวและระเบียงค่ะ ขวามือเป็นชุดครัวค่ะ
สำหรับทางออกไปยังระเบียงด้านหลังนั้นมีการยกธรณีประตูค่อนข้างสูงค่ะ ประมาณ 12 ซม.เมื่อรวมกับกรอบของรางประตูเลื่อนแล้ว ขนาดของระเบียงคือ 1.5 x 1.2 เมตร ตัวระเบียงกั้นสูงประมาณ 1.10 เมตร
ผนังห้องตรงทางออกเป็นสวิตซ์ไฟของระเบียงค่ะ ส่วนตรงจับประตูบานเลื่อนเป็นแบบ Pull Lock Handle ทำงานด้วยการดึงเพื่อปลดล็อคค่ะ
ไฟด้านนอกเป็นไฟซาลาเปาค่ะ
ส่วน Compressor แอร์ มี 2 เครื่องด้วยกันตามจำนวนแอร์ที่ใช้ค่ะ มีทั้งแบบกริลแอร์ และแบบหันเข้ามาด้านข้างค่ะ แต่ผู้อาศัยสามารถติดตั้งกริลเพิ่มได้นะคะ หรือไม่ติดตั้งก็ได้ ในกรณีคนที่ชอบซักผ้า Compressor ที่หันเข้ามาด้านข้างแบบนี้ก็มีส่วนช่วยทำให้ผ้าแห้งได้เร็วขึ้นค่ะ
ด้านล่าง Compressor จะมีเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ค่ะ มีก๊อกน้ำให้ในกรณีมีการซักล้างหรือติดตั้งเครื่องซักผ้าค่ะ
ห้องตัวอย่าง TYPE B ขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 31.15 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง TYPE B ขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 31.15 ตร.ม.
ผ่านไปแล้วกับห้องตัวอย่าง TYPE A 1 ห้องนอน ขนาด 31.20 ตร.ม. ของโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ ดูกันแล้วน่าอยู่ใช่มั้ยคะ ต่อไปจะขอพาทุกคนแวะไปชมอีกหนึ่งห้องหนึ่งสไตล์ที่ห้ามพลาด บอกเลยค่ะ ใครชอบดูหนังฟังเพลงแล้วนอนไปด้วยชมไปด้วยต้องนี่เลยห้อง TYPE B แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31.15 ตร.ม. จะเป็นยังไงนั้นตามมาชมไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
แบบแปลนของห้องตัวอย่าง TYPE B 1 ห้องนอน ขนาด 31.15 ตร.ม.
สำหรับห้องนี้เป็นห้องที่มีชุดครัวแบบเปิดค่ะมีการแต่งห้องโดยใช้ประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแบบเข้ามุม 2 มุม เพื่อแบ่งเป็นห้องนอนค่ะ
ธรณีห้องยกขึ้นทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่นจากโถงด้านนอกปลิวเข้ามาในพื้นของห้องด้านในค่ะ
ประตูเป็นประตูไม้อัดแข็งแรง High Density Fiber ( HDF ) ตัวจับเป็นแบบเขาควายค่ะ ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันของการทำประตูห้องเพราะสะดวกต่อการใช้งาน
มี door stopper ตรงด้านหลังของประตูเพื่อป้องกันบานประตูกระแทกโดนตู้เย็นค่ะ ส่วนพื้นที่เห็นนั้นคือพื้นลามิเนตค่ะ
ประตูมีตาแมวให้ด้วยค่ะเพื่อเอาไว้ส่องดูว่าใครมาหาเรา ช่วยในเรื่องความปลอดภัยด้วยค่ะ
มีที่ปิดช่องตาแมวให้ด้วยค่ะ ทำให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว
สวิตซ์ไฟแบบมาตรฐานจะอยู่ด้านขวามือเมื่อเปิดประตูเข้ามาค่ะ
มุมมองเมื่อเปิดประตูเข้ามาค่ะ ด้านซ้ายจะเห็นชุดครัวแบบบิวท์อิน ชุดวางทีวี ระเบียง ห้องนอนด้านขวามือ ส่วนด้านซ้ายใกล้กับประตู ( ในรูปไม่เห็นค่ะ ) เป็นประตูห้องน้ำและโต๊ะอาหารค่ะ
ไฟของห้อง TYPE B ในส่วนของห้องใหญ่นี้ ซึ่งระกอบไปด้วยโซนครัว โซนนั่งเล่น นั้นจะเป็นไฟดาวน์ไลท์แบบหลุม 3 ดวงค่ะ พร้อมกับมีตัวจับความร้อน 1 ตัว และสปริงเกอร์อีก 2 ตัวให้ค่ะ
นี่เป็นฝั่งด้านติดกับประตูทางเข้าห้องค่ะ ด้านซ้ายของรูปคือโต๊ะทานข้าวขนาด 80 x 80 ซม. ฝั่งขวาของภาพเป็นตู้เย็น ตามที่บอกไปตอนแรกค่ะว่าตู้เย็นจะอยู่ติดกับประตู ดังนั้นเมื่อเปิดประตูบานประตูจะติดกับตู้เย็นพอดีค่ะ ดังนั้นจึงมี door stopper ช่วยกันไว้ค่ะ
โต๊ะอาหารเป็นแบบ 2 ที่นั่งค่ะ ผนังฝั่งทางเข้าห้องน้ำเป็นกรุกระจกสีดาค่ะ ในรูปจะเห็นสวิตซ์ไฟซึ่งเป็นสวิตซ์ไฟของห้องน้ำค่ะ ด้านล่างมีเต้าเสียบปลั๊กให้ในกรณีอยากจะตั้งหมอสุกี้เล็กๆ กินบนโต๊ะอาหารค่ะ ในรูปจะเห็นว่ามีโคมไฟแบบลอยให้ตรงโต๊ะอาหาร ซึ่งห้องจริงๆจะไม่มีให้นะคะ
นอกเหนือจากโคมไฟลอยเหนือโต๊ะทานอาหารแล้วก็มีไฟดาวน์ไลท์ให้ตรงประตูทางเข้าห้องน้ำด้วยค่ะ
มุมมองฝั่งซ้ายมือของห้องทั้งหมดค่ะ จะเห็นว่าชั้นวางทีวีอยู่ใกล้กับชุดครัวใกล้กับเตาไฟฟ้าที่เราจะต้องปรุงอาหาร ดังนั้นสิ่งที่จะตามมาคืออาหารที่อาจจะกระเด็นไปโดนข้าวของหรือชั้นวางทีวีทำให้เกิดความสกปรกขึ้นโดยไม่จำเป็น ดังนั้นแนะนำให้หาฉากหรือพาร์ทิชั่นมากั้นนะคะเพื่อป้องกันคราบสกปรกที่เกิดจากการประกอบอาหารค่ะ
สำหรับโซนครัวเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ รูปแบบจะเหมือนกันกับห้อง TYPE A ค่ะ เป็นชุดครัวที่ทางโครงการมีการ Built in ให้มากับห้อง แต่เป็นครัวลักษณะเปิด เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรทำอาหารหนัก คืออาหารที่มีกลิ่นรุนแรงหรืออาหารที่ต้องเลอะมากเพราะพื้นโซนครัวของห้อง TYPE B เป็นแบบลามิเนตไม่ใช่พื้นกระเบื้องค่ะ
ตู้เย็นอยู่ติดกับประตูทางเข้าของห้อง ข้อควรระวังนะคะเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาไม่ควรมีใครเปิดใช้ตู้เย็นขณะนั้นค่ะ เพราะอาจจะโดนบานประตูกระแทกเอาได้ ในส่วนของบานประตูนั้นจะไม่ชนกับประตูตู้เย็นเพราะเค้ามี door stopper ให้ค่ะดังนั้นประตูจะเปิดกว้างได้สุดๆ คือ 90 องศา หรือหากไม่ต้องการให้ตู้เย็นอยู่ตรงเปิดประตูก็สามารถย้ายไปอยู่ฝั่งโต๊ะทานอาหารก็ได้ค่ะ ส่วนที่วางตู้เย็นเก่าอาจจะหาชั้นหรือตู้วางรองเท้ามาวางไว้แทนก็ได้ค่ะ
สำหรับชุดครัวนั้น Top กว้างประมาณ 130 ซม. ยื่นออกมาประมาณ 60 ซม. มีชั้นลอยด้านบนฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวาเป็นตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัวแบบลอยให้ด้วยค่ะสำหรับเก็บเครื่องปรุงหรืออุปกรณ์ทำครัวเล็กๆ ประตูตู้เป็นแบบกดแล้วกระเด้ง ด้านล่างฝั่งซ้ายเป็นซิงค์ล้างจานด้านล่างเป็นตู้เก็บถังขยะสำหรับใส่เศษอาหารและอื่นๆ ตรงกลางเป็นชั้นวางของ 2 ช่องค่ะ ขยับไปฝั่งขวาเป็นเตาไฟฟ้า บนเต้าไฟฟ้าเป็นเครื่องดูดควัน ด้านล่างเป็นลิ้นชักเก็บช้อนส้อมและมีด ถัดลงไปอีกเป็นช่องสำหรับใส่เตาไมโครเวฟและช่องเอนกประสงค์อีก 2 ช่องเล็กๆ เอาไว้เก็บพวกถุงกระดาษหรือผ้าเช็ดมือก็ได้ค่ะ
สำหรับบานประตูตู้ด้านล่างซิงค์นั้นมีตัวกันกระแทกให้ด้วยเพื่อป้องกันการเกิดรอยหรือแตกเมื่อบานประตูตู้กระทบกับตัวของตู้เอง ซึ่งตัวนี้เป็นประตูแบบธรรมดาไม่ใช่แบบที่กดแล้วกระเด้งออกมาค่ะ
ซิงค์ล้างจานเป็นแบบ 1 หลุมก้นลึก ยี่ห้อ HAFELE วัสดุสเตนเลส
ใกล้ๆ กับซิงค์ล้างจานมีเต้าเสียบปลั๊กให้ด้วยค่ะ จะสังเกตว่าผนังของชุดครัวยังคงเป็นวอลเปเปอร์สีขาวอยู่ดังนั้นหากสามารถหาฉากหรือกระดาษสีอื่นมากั้นขณะทำอาหารหรือล้างจานก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ผนังเปื้อนค่ะ
ฝั่งขวาของ Top ครัวเป็นที่ตั้งเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวยี่ห้อ HAFELE
ด้านล่างเตาไฟฟ้าเป็นลิ้นชักที่มีช่องไว้สำหรับแยกอุปกรณ์ เช่น ช้อน ส้อม มีด
ด้านบนเป็น Hood ดูดควัน ยี่ห้อ HAFELE ติดตั้งแบบหมุนเวียนอากาศภายในค่ะ สำหรับพื้นของโซนทำครัวเป็นพื้นลามิเนตค่ะ แนะนำหากจะทำอาหารหรือจะล้างจานให้หาพื้นกระดาษ พลาสติกหรือพรมมารองไว้ใต้ชุดครัวนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหรืออาหารหกเลอะพื้น ซึ่งหากเลอะแล้วการทำสะอาดจะยากกว่าพื้นที่เป็นพื้นกระเบื้องค่ะ
หลังจากพาไปชมครัวของห้องกันมาแล้วทีนี้ก็ลองกลับหลังหันนะคะ เพราะห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับครัวค่ะ สำหรับห้องน้ำทางเข้ามีการยกพื้นตรงธรณีประตูค่ะ พื้นเป็นกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.
ประตูห้องน้ำเป็นไม้อัดแข็งแรงแบบ HDF ตัวจับประตูเป็นลูกบิดค่ะ
หลังประตูห้องน้ำมีตัวกันชนแบบขอแขวนให้ด้านหลังค่ะ สามาถแขวนไม้แขวนเสื้อได้กรณีอยากเอาชุดไปเปลี่ยนในห้องน้ำค่ะ ติดกับประตูเป็นราวสเตนเลสสำหรับพาดผ้าเช็ดตัวค่ะ
ห้องน้ำมีการแบ่งโซนแห้งและโซนเปียกค่ะ
มีพัดลมดูดอากาศภายใน เพื่อระบายอากาศและไฟดาวน์ไลท์แบบหลุม 2 ดวงให้ค่ะ ซึ่งไฟจะติดตั้งตรงโซนแห้งและโซนเปียกอย่างละดวงค่ะ
สำหรับโซนแห้งเมื่อเปิดประตูเข้ามาะเจอกับอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ กระจก
มุมขวาของอ่างล้างหน้ามีเต้าเสียบปลั๊กให้ค่ะ เผื่อสาวๆ หนุ่มๆ อยากจะเป่าผมในห้องน้ำค่ะ
อ่างล้างหน้าเป็นยี่ห้อ American Standard กว้างขนาดเท่ากันกับห้อง TYPE A ค่ะ
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นของยี่ห้อ nahm
หัวฉีดเป็นแบบมาตรฐานยี่ห้อ VRH ซึ่งได้รับการยอมรับ ราคาค่อนข้างสูงกว่าหัวฉีดยี่ห้ออื่นๆ
มีก้านไว้สำหรับใส่กระดาษชำระแบบม้วน และมีท่อระบายน้ำให้ด้วยค่ะ ในกรณีที่ต้องการทำความสะอาดพื้น
นี่เป็นภาพรวมของโซนแห้งนะคะ ขออธิบายเพิ่มเติมตรงกระจก ซึ่งทางโครงการติดตั้งกระจกให้ค่อนข้างกว้างโดยด้านล่างของฐานกระจกมีการกรุด้วยกระเบื้องลายเล็กๆ และทำเป็นชั้นพักสำหรับวางของแนวยาวเหนืออ่างล้างหน้ายาวไปจนถึงด้านหลังโถสุขภัณฑ์ จากภาพใต้อ่างล้างหน้าเป็นตู้สามารถเก็บของเครื่องใช้ภายในห้องน้ำได้ค่ะ มีความสูงจากพื้นพอที่จะสามารถวางถังขยะได้ค่ะ
ต่อกันที่โซนเปียกคือห้องอาบน้ำค่ะ ซึ่งเป็นเหมือนกันกับห้อง TYPE A เลยค่ะ กระจกกั้นโซนอาบน้ำเป็นกระจกหนายี่ห้อ Shower King ที่จับประตูของห้องน้ำเป็นสเตนเลสแบบก้านยาวด้านนอกเป็นแบบแนวนอน ด้านในเป็นแนวตั้ง ที่จับที่เป็นแนวนอนสามารถพาดผ้าเช็ดตัวได้ค่ะ
มีการยกธรณีพื้นสูงประมาณ 8 ซม. ป้องกันน้ำไหลเลอะโดนโซนแห้ง
ประตูมีตัวกันชนด้านหลังเพื่อป้องกันไม่ให้ประตูชนผนังห้องน้ำ ผนังห้องเป็นกระเบื้อง
ท่อระบายน้ำมีตัวกรองเพื่อป้องกันการอุดตันค่ะ
ด้านฝักบัวนั้นเป็นแบบวาว์ลผสมแบบฝังท่อที่มีทั้งน้ำร้อนและน้ำธรรมดาให้ค่ะ
ตัวฝักบัวเป็นแบบสายจับ ( hand shower ) มีแกนสำหรับตั้งเพื่อปรับความสูงต่ำในการใช้ฝักบัว หัวฝักบัวสามารถปรับระดับการกระจายของน้ำได้
วาว์ลน้ำผสมเป็นของ American Standard ค่ะ มีที่สำหรับวางสบู่ให้ด้วยค่ะ
มุมมองด้านขวามือเมื่อออกมาจากห้องน้ำ เป็นโซนนั่งเล่นค่ะ มีชั้นวางทีวีหน้ากว้างประมาณ 160 ซม. มีชั้นลอยด้านบน 3 ช่อง และลิ้นชักด้านล่าง 2 ช่อง
มุมขวาของชั้นวางทีวีมีการดีไซน์ด้วยชั้นลอยสำหรับวางของประดับไม่ว่าจะเป็นกรอบรูปหรือนาฬิกา ถัดลงมามีเต้าเสียบปลั๊กไฟ เต้ารับสายโทรศัพท์และโทรทัศน์ให้
อีกมุมมองของโซนนั่งเล่น แอร์จะติดอยู่เหนือประตูบานเลื่อนทางออกไประเบียงด้านนอกค่ะ
สำหรับแอร์ที่ติดเป็นของยี่ห้อ YORK ขนาด 12,875.52 BTU ในกรณีที่ติดแอร์ฝั่งประตูทางออกนั้นแอร์อาจจะทำงานหนักเพราะฝั่งดังกล่าวสัมผัสกับผนังที่รับแสงแดดจากภายนอกกว่าผนังด้านอื่นๆ ดังนั้นหากไม่ต้องการให้แอร์ทำงานหนักไม่ควรปิดม่านให้แสงเข้ามาในห้องในช่วงที่มีแสงแดดร้อนจัดเช่นตอนเที่ยงและบ่ายค่ะ
สำหรับทางออกไปยังระเบียงมีการยกธรณีประตูสูงประมาณ 12 ซม. ประตูเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเขียวใสเลื่อนได้ 2 บาน
ตัวจับประตูบานเลื่อนเป็นแบบ Pull Lock Handle ทำงานด้วยการดึงขึ้นลงเพื่อเปิดปิดล็อกค่ะ
พื้นด้านนอกเป็นพื้นกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ระเบียงมีขนาด 2.4 x1.5 เมตร ตัวระเบียงด้านนอกสูงประมาณ 1.10 เมตร จะสังเกตว่าระเบียงห้อง TYPE B จะกว้างกว่าระเบียงห้อง TYPE A
Compressor แอร์ มีสองเครื่องค่ะ เป็นลักษณะเหมือนกันกับห้อง TYPE A คือแบบธรรมดาและแบบกริลแอร์ คือมีช่องเปลี่ยนทิศลมค่ะ
ด้านล่าง Compressor แอร์ มีเต้าเสียบปลั๊กให้พร้อมฝาครอบกั้นน้ำฝนสาด และก๊อกน้ำ
แถมวิวสวยๆ จากระเบียงห้องฝั่งทางทิศใต้ค่ะ
หลังจากพาออกนอกห้องไปที่ระเบียงชมวิวสวยๆ กันแล้ว กลับมาในห้องกันต่อค่ะเพราะส่วนที่ไม่พูดถึงเลยและขาดไม่ได้นั้นคือห้องนอน ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่าห้องนอนของ TYPE B นี้โดดเด่นมากเหมาะกับคนที่ชอบดูทีวี ดูหนัง อยากทำห้องนอนให้เป็นโฮมเธียเตอร์ขนาดย่อมๆ ลองมาชมห้องนอนของ TYPE B กันเลยค่ะ
สำหรับห้องนอนนั้นมีการนำประตูกระจกบานเลื่อนนำมากั้นเพื่อให้เป็นสัดส่วน ซึ่งทำให้ห้องดูโล่งโปร่ง โดยประตูบานเลื่อนนั้นโครงการติดตั้งจากมุมห้องนอนทั้งสองมุมแทนการก่อผนังห้องค่ะ การใช้สามารถเลื่อนได้ทั้งสองด้านค่ะ
เมื่อเลื่อนประตูบานเลื่อนมาบรรจบกันก็จะมีตัวล็อกแบบ Pull Lock Handle ให้ค่ะ
มุมมองตรงๆ ภายในห้องนอนห้องนอนเหมาะกับการวางเตียงขนาด 5 ฟุตนะคะ เพราะห้องนี้มีขนาดเล็กว่า TYPE A
หน้าต่างห้องนอนเป็นแบบ 4 ช่อง มี 1 บานที่สามารถเปิดได้ คือด้านบนขวามือค่ะ
หน้าต่างห้องนอนเป็นแบบบานกระทุ้งค่ะ
ใกล้กับหัวเตียงสามารถวางชั้นเล็กเอาไว้วางของเล็กๆ น้อยๆได้ค่ะ ขยับไปด้านขวาเป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ
สำหรับตู้เสื้อมีขนาดประมาณ 120 ซม.รูปแบบของตู้เหมือนกันกับตู้เสื้อผ้าของห้อง TYPE A ค่ะ
หากมองกลับไปที่ฝั่งปลายเตียงก็จะเห็นโซนทีวีค่ะ ตรงนี้เลยค่ะที่บอกว่าใครที่ชื่นชอบการดูทีวีหรือภาพยนตร์ก็สามารถทำให้เป็นโรงหนังส่วนตัวขนาดย่อมๆ ได้เพราะเมื่อนอนในห้องนอนก็สามารถดูทีวืได้ค่ะ หรือหากจอเล็กไปก็สามารถเพิ่มขนาดจอให้ใหญ่กว่านี้ได้นะคะ เพราะพื้นที่ระหว่างชั้นวางทีวีและชั้นลอยด้านบนนั้นค่อนข้างเยอะค่ะ ยิ่งจอใหญ่ยิ่งเห็นชัด แต่ในกรณีที่จออยู่ไกลไปและจอมีขนาดเล็กแนะนำให้มานั่งดูบนโซฟาจะดีกว่าค่ะเพื่อเป็นการถนอมสายตา
environment
สำรวจโลเคชั่นรอบโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ
สำหรับโลเคชันรอบๆ โครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ นั้น เนื่องจากตัวโครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศการเดินทางจึงค่อนข้างสะดวกสบาย อีกทั้งถนนหน้าโครงการสามารถเชื่อมไปยังถนนได้อีกหลายสายดังนั้นจึงขอนุญาตแนะนำสถานที่ใกล้เคียงที่สามารถเดินทางไปได้ค่อนข้างสะดวกและไม่ไกลมากค่ะ โดยจะเริ่มจากสถานที่ที่ใกล้กับโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ กันก่อนค่ะ
ใกล้ที่สุดเลยคืออาคารพาณิชย์ตรงทางเข้าโครงการที่กำลังทำร้านกาแฟ เบเกอรี เพราะในอนาคตอาจเป็นจุดนัดพบของคนที่ใช้บริการสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศรวมทั้งลูกบ้านของโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ ด้วยค่ะ
เดินออกมาจากโครงการเล็กน้อยประมาณ 20 เมตร ขวามือเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-11 ซึ่งสามารถตอบโจทย์วิถีชีวิดของคนเมืองได้ไม่น้อยค่ะ
ใกล้ๆ กับกับ 7-11 มีจุดรวมพลของพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างค่ะ ตรงนี้เหมาะสำหรับคนอยากเดินทางไปในตรอกซอกซอยที่ไม่ไกลนักเน้นความรวดเร็วค่ะ
บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการมีร้านขายอาหารมากมายให้เลือกอุดหนุนเลยค่ะ
นอกจากอาหารไทยแล้วก็ยังมีอาหารอิสานให้เลือกกินค่ะ
ห่างจากโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ เพียง 30 เมตรเป็นสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศ
ห่างจากโครงการประมาณ 650 เมตร เป็นวัดใหม่ยายนุ้ยเหมาะสำหรับคนที่ชอบเข้าวัดทำบุญค่ะ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาก็ไม่ต้องไปที่ไหนไกลค่ะ
แหล่งจับจ่ายอีกแหล่งระหว่างทางกลับรถเป็น FamilyMart ที่อยู่หน้าทางเข้าคอนโด aspire สามารถแวะเข้าไปซื้อของได้
โรงพยาบาลพญาไท 3 ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม. ระหว่างทางกลับรถ ซึ่งในกรณีเจ็บป่วยก็สามารถไปใช้บริการได้ค่ะ
พาย้อนมาอีกฝั่งคือบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู คือเดอะมอลล์ท่าพระค่ะ ซึ่งห่างโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ เพียง 1.6 กม.เท่านั้น ( ระยะทางโดยรถไฟฟ้า )
ฝั่งตรงกันข้ามเป็นแหล่งชอปปิงแบบรวมหลายอย่างไว้ด้วยกันเลยก็ว่าได้ค่ะ เป็นตลาดไทยช่วยไทยเหมาะสำหรับแม่บ้านหรือพ่อบ้านที่ชอบจับจ่ายอาหารทั้งอาหารสดอาหารแห้ง รวมทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นค่ะขายดี ในซอยอยู่ใกล้ๆนั้นเป็นชุมชนที่ใหญ่พอควร ใกล้ป้ายรถเมล์และยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าตลาดพลูอีกด้วยค่ะ
วิเคราะห์โครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ
วิเคราะห์โครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ
ทำเล : โครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ นับว่าตั้งอยู่บนที่ทำเลที่ดีอีกที่หนึ่ง คืออยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพียง 30 เมตรเท่านั้น ที่ตั้งของโครงการติดกับถนนราชพฤกษ์ซึ่งผู้อาศัยสามารถเชื่อมไปยังถนนสายอื่นๆ ได้อีกหลายสาย ส่วนตัวอาคารของโครงการนั้นดูโปร่งไม่อึดอัดเนื่องจากบริเวณรอบๆ โครงการมีเนื้อที่ค่อนข้างเยอะ มีการทำพื้นที่สีเขียว ส่วนหย่อม อีกทั้งกำแพงของโครงการก็ไม่ติดหรือเบียดกับตัวอาคารที่พักอาศัยแต่อย่างใด จึงทำให้ผู้อาศัยไม่รู้สึกอึกอัด ส่วนบริเวณรอบๆ ตัวอาคารนั้น ฝั่งทิศใต้ของตัวอาคารติดกับชุมชนริมน้ำ ฝั่งทิศเหนือเป็นวิวถนน สถานีรถไฟฟ้าและทางยกระดับบนถนนราชพฤกษ์ สำหรับทิศลมและแดดทางด้านฝั่งทิศตะวันตกจะร้อนกว่าทิศอื่นค่ะซึ่งจะมีเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น
สภาพแวดล้อม : สำหรับสภาพแวดล้อมบริเวณโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ ส่วนใหญ่เป็นย่านชุมชนที่พักอาศัย ใกล้ๆ ทางเข้าโครงการมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 และร้านขายอาหารเล็กๆ หลายร้าน ที่สำคัญอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศที่ทำให้ผู้อาศัยสามารถเดินทางไปชอปปิงได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นตลาดไทยช่วยไทยแหล่งรวมของกิน เดอะมอลล์ท่าพระแหล่งช้อปปิ้งสไตล์คนเมือง นอกจากแหล่งกินเที่ยวช้อปแล้วยังมีสถานที่สำคัญอื่นๆ อีกคือวัดใหม่ยายนุ้ยที่ทำให้ผู้อาศัยสามารถใกล้ชิดกับวัดมากขึ้น สามารถทำบุญได้ตามโอกาสค่ะ และอีกสถานที่คือโรงพยาบาลพญาไท 3 ที่อยู่ใกล้กับโครงการที่สุดเพียง 2.5 เมตรเท่านั้น
แบบห้อง : แบบห้องของโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ เป็น 1 ห้องนอนขนาด 29.8 - 37.2 ตร.ม. มีทั้งหมด 4 TYPE แต่ละ TYPE มีความโดดเด่นและการดีไซน์ที่แตกต่างกันดังนั้นจึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้อาศัยได้หลายรูปแบบที่มีความชอบแตกต่างกัน ส่วนวัสดุภายในห้องทางโครงการใช้วัสดุที่เป็นมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นประตู พื้นห้อง เครื่องดูดควัน แอร์ ชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้การตกแต่งภายในเป็นการตกแต่งแบบ Fully Furnished โดย index ทั้งหมดค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก : ด้วยความที่โครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ เป็นคอนโด High Rise สิ่งอำนวยความสะดวกจึงค่อนข้างพร้อม และรองรับความต้องการของผู้อาศัยได้อย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ Fitness ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน พร้อมห้อง Steam และ Sauna รอบๆ โครงการมี Strip Park, River Walk, Pool Deck & Garden, Sky Park, Sky Lounge อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยร้านค้า และมินิมาร์ท ใต้อาคาร และหน้าโครงการ รวมถึงระบบความปลอดภัยทีมี่ CCTV, Key Card Access Control, พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ถือว่าเป็นโครงการที่มีความใส่ใจผู้อาศัยไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
ราคา : ด้วยทำเลที่สะดวกสบายด้านการเดินทางที่เชื่อมต่อถนนหลายสาย อีกทั้งยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศ บรรยากาศรอบๆ โครงการน่าอยู่ซึ่งแวดล้อมไปด้วยชุมชนแต่ไม่วุ่นวาย อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากแหล่งช้อปปิ้งแหล่งจับจ่าย ดังนั้นราคาห้องของโครงการ
The Tempo Grand วุฒากาศจึงค่อนข้างสูง (เริ่มต้นที่ 2.6 ล้าน ) แม้ว่าราคาเริ่มต้นของห้องจะสูงกว่าโครงการอื่นๆ แต่ภาพรวมของโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ ก็สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองได้เป็นอย่างดีและค่อนข้างครบถ้วน เหมาะกับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยคอนโดสูง วิวสวย สะดวกด้านการเดินทาง ใกล้ 7-11 ไม่ไกลจากแหล่งชอปปิง หรือหากต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็สามารถทำได้ค่ะ
สำหรับโครงการ เดอะเทมโป แกรนด์ วุฒากาศ มี บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้พัฒนาค่ะ ด้วยประสบการณ์ในการสร้างคอนโดที่ค่อนข้างเยอะจึงได้รับการยอมรับไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นด้านวัสดุต่างๆ facility ต่างๆ ที่ค่อนข้างครบถ้วนรองรับความต้องการผู้อาศัยได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังใส่ใจระบบความปลอดภัยของผู้อาศัยในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะตัวอาคารที่ได้รับการวิเคราะห์การออกแบบโครงสร้างโดย บริษัท MIYAMOTO THAILAND ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว