ซื้อคอนโดอย่าลืมดูระเบียง เลือกผิดชีวิตบัดซบ

19 February 2560

เมื่อนึกถึงการซื้อคอนโดสิ่งที่หลาย ๆ คนนึกถึงเป็นอย่างแรกคงหนีไม้พ้น ห้องรับแขก และห้องนอน บางคนอาจจะคิดถึงห้องครัวและห้องน้ำ แต่น้อยคนนักที่จะนึกถึงระเบียง ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ ระเบียงค่อนข้างมีผลกับการอยู่คอนโดค่อนข้างมาก หากระเบียงไม่ได้มาตรฐานอาจจะส่งผลกับห้องถึงขั้นที่ต้องรื้อพื้นห้องกันใหม่เลยทีเดียว ในบทความนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าระเบียงที่ดีคุณควรต้องดูอะไรกันบ้าง

1. ชนิดของระเบียง

ชนิดของระเบียงในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น ระเบียงใช้งาน ระเบียงพักผ่อน หรืออาจจะรวมสองอย่างเข้าด้วยกันก็ได้

1.1 ระเบียงใช้งาน

ระเบียงชนิดนี้มักจะอยู่ติดกับครัวของคอนโด เพื่อใช้ประโยชน์ในการเปิดระบายควันและกลิ่นจากการทำอาหาร ระเบียงจะมีขนาดเล็กพอให้สามารถวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้ ระเบียงชนิดนี้ไม่เน้นการชมวิว เนื่องจากมีการติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์เอาไว้ ซึ่งจะทำให้บริเวณระเบียงได้รับไอร้อน ไม่เหมาะกับการนั่งเล่น ปัจจุบันคอนโดยุคใหม่จะลดขนาดระเบียงลงเพราะมองว่าเป็นส่วนที่ลูกบ้านไม่ค่อยได้ใช้ บางโครงการไม่มีระเบียง เป็นแค่พื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์และตากผ้าได้เท่านั้น

1.2 ระเบียงสำหรับชมวิว

ระเบียงชนิดนี้มักจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ระเบียงจะมีขนาดใหญ่พอที่จะวางเก้าอี้สนามสำหรับนั่งชมวิวได้ ระเบียงชนิดนี้จะไม่มีการติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ให้เป็นอุปสรรค์กับการพักผ่อน ระเบียงชมวิวจริงจังส่วนใหญ่จะอยู่ในยูนิตที่มี 2 ห้องนอน และจะมีระเบียงใช้งานติดมาด้วย

1.3 ระเบียงอเนกประสงค์

ระเบียงชนิดนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในยูนิตขนาด 1 ห้องนอน ระเบียงชนิดนี้จะติดกับห้องรับแขก ทำให้ระเบียงมีความกว้างพอที่จะใช้พักผ่อนได้ มีขนาดพอให้วางเก้าอีกสนามได้ แต่ก็มีการติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ บริเวณนี้ ใต้คอมเพรสเซอร์แอร์ จะเป็นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ที่มาพร้อมปลั๊กไฟ ก็อกน้ำ และท่อระบายน้ำจากการซักล้าง

2. การชมวิว

สำหรับใครที่มองหาห้องที่มีระเบียงสำหรับใช้พักผ่อนได้ ย่อมต้องมองหาวิวสวย ๆ อย่างแน่นอน การเลือกห้องจึงต้องลองไปยืนที่ระเบียงเพื่อเช็ควิวว่านี่คือวิวที่ดีจริง ๆ ลองมองหาพื้นที่เปล่าใกล้ ๆ หากพื้นที่เหล่านั้นติดกับถนนใหญ่ หรือมีขนาดพื้นที่ที่กว้างมาก อาจจะต้องทำใจเอาไว้สักหน่อย เพราะพื้นที่เหล่านี้อาจจะกลายเป็นตึกสูงได้ในอนาคตได้ หากยังต้องการวิวนี้จริง ๆ แนะนำให้อยู่ให้สูงกว่าชั้น 8 ได้จะยิ่งดี เนื่องจากคุณอาจจะโชคดีหากพื้นที่บริเวณนั้นกลายเป็นคอนโดแบบ low rise

อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องดูคือห้องของคุณอยู่ตรงซอกตึกหรือไม่ เนื่องจากบริเวณซอกตึกลมจะแรงมากกว่าปกติ หากวันไหนฝนตก ฝนจะสาดเข้าระเบียงหนักมาก หากบริเวณระเบียงมีปลั๊กไฟก็ควรจะต้องปิดฝาครอบให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอันตรายได้

3. ทิศ

หากคุณใช้ระเบียงในการตากผ้า เรื่องทิศเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่จะต้องเลือกทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเท่านั้น ทิศใต้ก็เป็นอีกทิศที่น่าสนใจ เนื่องจากดวงอาทิตย์จะโคจรอ้อมมาทางทิศใต้ทำให้ห้องทิศนี้ได้รับแดดในช่วงเที่ยง ๆ และไม่อมความร้อนในตอนกลางคืน นอกจากนี้ทิศใต้ยังได้รับลมถึง 8 เดือนด้วยกัน ส่วนทิศเหนือจะเป็นทิศที่แทบจะไม่โดนแดดเลย แต่ได้รับลม 4 เดือน

4. การระบายน้ำ

หากคุณได้มีโอกาสตรวจรับห้องจริง แนะนำให้ถือขวดน้ำขวดใหญ่ขึ้นไปด้วยขวดหนึ่ง และเทราดบริเวณระเบียงไปเลย ลองสังเกตว่าน้ำไหลลงท่อระบายน้ำหรือไม่ และต้องไม่มีน้ำขัง หากเป็นไปได้คุณควรยื้อให้มีการตรวจรับคอนโดในช่วงหน้าฝน เพราะคุณจะได้เห็นสภาพความเป็นจริง เช่นน้ำขัง น้ำรั่วซึม

ท่อน้ำทิ้งของเครื่องปรับอากาศต้องต้องโยงไปจนถึงท่อระบายน้ำของคอนโด เนื่องจากน้ำทิ้งของเครื่องปรับอากาศมีการหยดตลอดเวลา อาจจะทำให้เกิดคราบน่าเกลียดได้หากท่อน้ำคอนโดไปไม่ถึงท่อระบายน้ำของระเบียง

อีกข้อหนึ่งคือ หากระเบียงคอนโดใช้วางเครื่องซักผ้า ควรมีท่อน้ำทิ่งสำหรับเครื่องซักผ้าต่างหาก

5. ธรณีประตู

ธรณีประตูเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แม้ว่าการที่ธรณีประตูสูงจะค่อนช้างอันตราย เนื่องจากเสี่ยงต่อการสะดุด แต่สำหรับธรณีประตูระเบียงนั้น เปรียบเสมือนคันกั้นน้ำ หากธรณีต่ำเกินไป หรือโครงการละเลยในจุดนี้ ในวันที่ฝนตกหนัก ๆ น้ำอาจจะไหลเข้าท่วมห้องได้

6. การติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์

หากระเบียงนี้เป็นระเบียงใช้งานจริง ๆ เน้นการตากผ้าเป็นหลักการติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ให้หันไปด้านข้าง เพื่อเป่าผ้าให้แห้งย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากเราอยากปลูกต้นไม้ หรือพักผ่อนบริเวณระเบียง คอมเพรสเซอร์ควรเป่าออกข้างนอก หรือไม่ก็ต้องติดกริลให้เป็นที่เรียบร้อย

หากบริเวณระเบียงต้องวางเครื่องซักผ้า อย่าลืมวัดความสูงตั้งแต่พื้นถึงคอมเพรสเซอร์แอร์ที่แขวนอยู่ด้วย ว่าสูงพอให้วางเครื่องซักผ้าฝาบนขนาดกี่ กก. เพราะในบางโครงการติดคอมเพรสเซอร์แอร์ต่ำมาก จนวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าไม่ได้เลย ก็มีเหมือนกัน ซึ่งตรงนี้เราต้องแจ้งในช่วงตรวจรับคอนโดให้ทำการปรับแก้

7. ความสูงและการออกแบบ

ตามกฏหมายกำหนด ระเบียงต้องมีความสูง 1.2 เมตรเป็นอย่างต่ำ แต่ในบางโครงการสูงไม่ถึง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแบบ low rise ซึ่งจะมีผลทำให้ตอนที่คุณเดินออกไปที่ระเบียงรู้สึกหวาดเสียว

รูปแบบของระเบียงส่วนใหญ่จะเป็นแบบซี่เหล็ก แต่ในบางโครงการก็ใช้กระจกนิรภัยแทนเพื่อให้มองเห็นวิวได้ชัดเจนขึ้น

8. ไฟระเบียง

แม้ว่าหลอดไฟหลายยี่ห้อจะเคลมเรื่องอายุการใช้งาน แต่สักวันหนึ่งคุณต้องต้องเปลี่ยนหลอดไประเบียง โครงการส่วนใหญ่จะติดตั้งหลอดไปบริเวณเพดาน ซึ่งจะต้องปีนขึ้นไปเพื่อเปลี่ยนหลอดไฟ แน่นอนว่าคุณไม่ควรเปลี่ยนเอง แต่การเรียกช่างของทางนิติให้มาเปลี่ยนให้ (ในบางโครงการ) ก็ต้องรอนานจนคุณลืมไปแล้วว่าไฟระเบียงเป็นอย่างไร โครงการใหม่ ๆ จึงเปลี่ยนที่ติดตั้งหลอดไฟไปไว้ที่ผนังในระยะเอื้อมแทน ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนหลอดไฟได้ด้วยตัวเอง

ไฟระเบียงส่วนใหญ่จะเป็นโคมซาลาเปา เพื่อกันไม่ให้น้ำฝนสาด แต่ปัญหาของโคมประเภทนี้คือหากไม่สนิทพอ แมลงอาจจะบินเข้าไปกองกันในนั้น ดังนั้นหากคุณไม่ชอบงานซากแมลงคุณอาจจะทำการเปลี่ยนมันในช่วงที่คุณตกแต่งคอนโดก็ได้

9. ระเบียงกับแปลนห้อง

หากคุณจะซื้อคอนโดสำหรับครอบครัว ระเบียงตากอากาศของคุณไม่ควรยาวตั้งแต่ห้องนั่งเล่นไปจนติดห้องนอนใหญ่ เพราะจะทำให้ห้องนอนใหญ่ที่คุณอาจจะใช้เป็นที่พลอดรักถูกรบกวน หากห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงแนะนำว่าควรเป็นระเบียงแบบแยกไปเลยจะดีกว่า เพื่อความเป็นส่วนตัวของคุณ

อีกข้อหนึ่งที่ต้องระวังคือคอนโดส่วนใหญ่โดยเฉพาะแบบ 1 ห้องนอนระเบียงจะติดกับระเบียงของอีกห้องหนึ่ง หมายความว่าหากห้องข้าง ๆ ไม่หวังดีต่อคุณเขาสามารถปีนเข้ามาในห้องคุณผ่านทางระเบียงได้ คุณจึงควรล็อกประตูระเบียงทุกครั้ง และหากคุณอยากจะซื้อคอนโดที่ไม่เจอปัญหานี้คุณควรเช็คแปลนชั้นให้ดีก่อน