รูปบทความ ความปลอดภัยของคอนโด ดูได้จากอะไร

ESTOPOLIS | ความปลอดภัยของคอนโด ดูได้จากอะไร


การเลือกซื้อคอนโดหากไม่พิจารณาแบบรอบด้านก็ไม่ต่างอะไรกับซื้อหวย ในเรื่องของความปลอดภัย โดยเฉพาะจากเพื่อนบ้าน ราคาคอนโดแทบจะไม่สามารถคัดเกรดลูกบ้านได้เลย แต่ปัญหาเหล่านี้กลับสามารถพิจารณาได้จากปัจจัยรายล้อมต่าง ๆ เพื่อตัดโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้  


1.  ซื้อคอนโดที่ปลอดภัย เริ่มจากที่ตั้ง

ที่ตั้งของคอนโดสามารถบอกได้หลายอย่างยิ่งกว่าที่คุณคิด การจะเลือกซื้อคอนโดลองพิจารณาข้อมูลของสถานที่ตั้งโครงการต่าง ๆ ดังนี้ อาจจะช่วยให้คุณได้คอนที่มีความปลอยภัยอย่างที่คาดหวังไว้ก็ได้


1.1 รอบ ๆ คอนโดเป็นอพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโดด้วยกัน    

คอนโดที่ตั้งอยู่ในบริเวณเหล่านี้จะค่อนข้างปลอดภัย เพราะจะมีผู้คนพลุกพล่าน ยิ่งโดยเฉพาะหากมีร้านสะดวกซื้ออยู่ในบริเวณนั้นแล้วด้วย ย่อมว่างใจถึงความปลอดภัยจากมิจฉาชีพได้


1.2 รอบ ๆ โครงการคอนโดเป็นบ้านเดี่ยวอาจไม่ปลอดภัย

หากในซอยที่คอนโดตั้งอยู่มีแต่บ้านเดี่ยว ซอยนั้นจะค่อนข้างเปลี่ยวในตอนกลางคืน มีโอกาสเกิดเหตุการณ์ฉกชิงวิ่งราวได้ โดยเฉพาะหากในซอยนั้นไม่ใช่ซอยตัน ก็จะทำให้สามารถก่ออาชญากรรมและหลบหนีได้ง่าย 


1.3 รอบ ๆ โครงการเป็นสถานบันเทิง

หากรอบโครงการเป็นสถานบันเทิง หรือใกล้แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน นอกจากจะแปลว่าการเดินทางเข้าออกโครงการของคุณจะต้องเจอกับคนเมา นักเที่ยว และนัดเลงแล้ว  คอนโดของคุณเองอาจจะมีประชากรเหล่านี้อาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน 


1.4 สังเกตสุนัขจรจัด 

หากในซอยของคุณพบเห็นกลุ่มสุนัขจรจัด คุณต้องระวังเอาไว้ เพราะสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในซอย มักจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับผู้คน มีการรวมกลุ่มกัน และหวงถิ่นที่อยู่  คุณไม่ควรเข้าออกโครงการโดยการเดินลำพังอย่างเด็ดขาด และที่สำคัญห้ามสวมหมวก ถือไม้ เพราะสุนัขเหล่านี้จะคิดว่าคุณเป็นเทศบาล หรืออาจจะมาทำร้ายพวกเขา 


1.5 ต้องเดินผ่านพื้นที่ร้าง ว่างเปล่า 

ในข้อนี้เป็นสิ่งที่เรารู้กันดีอยู่แล้ว เนื่องจากพื้นที่ร้างย่อมทำให้ซอยนั้นมีความเปลี่ยว แถมยังเอื้อต่อการก่ออาชญากรรมอีกด้วย


1.6 เขตชุมชนแออัด 

ชุมชนแออัด คือชุมชนของคนที่มีคุณภาพชีวิตไม่ค่อยดีนัก มักจะมีปัญหาเรื่องการพนัน และยาเสพติด ในบางชุมชนก็มีความสุ่มเสี่ยงในเรื่องอัคคีภัย ดังนั้นหากจะซื้อคอนโดที่ใกล้กับชุมชนเหล่านี้ ควรเลือกเป็นโครงการที่อยู่ต้นซอย และไม่ต้องเดินทางผ่านเขตชุมชน น่าจะดีกว่า 


หากในซอยโครงการเต็มไปด้วยบ้านเดี่ยว ซอยนั้นจะเป็นซอยเปลี่ยวในตอนกลางคืน



2. ซื้อคอนโด คำนึงถึงความกว้างของถนน และการจราจร

หากเกิดปัญหาต่าง ๆ ในคอนโด ไม่ว่าจะเป็นเพลิงไหม้ หรืออาชญากรรม ความกว้างของถนนและการจราจรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนซื้อคอนโด หากถนนแคบมากและรถติดการเข้าถึงของรถดับเพลิง หน่วยกู้ภัย หรือการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยของรถพยาบาลก็จะยิ่งเป็นไปได้ยาก




3. ระบบการเข้าออกคอนโด

การเข้าออกคอนโดเป็นด่านแรกของระบบรักษาความปลอดภัย ในบางโครงการเข้มงวดเฉพาะกับรถที่เข้ามาจอด แต่ไม่ได้เข้มงวดกับคนที่เดินเข้ามาในโครงการ แต่ในบางโครงการลูกบ้านที่เดินเข้าจะต้องแสกนบัตรเพื่อเปิดประตูเล็ก แต่อย่างไรก็ตาม หลัก ๆ แล้ว การเข้าไปยังส่วนที่เป็นลิฟต์ โครงการที่ดีต้องมีระบบคีย์การ์ดเป็นอย่างน้อย เพื่อกันคนนอกเข้าไปยังส่วนของที่พักอาศัย


โครงการ High rise โดยส่วนใหญ่จะมีระบบลิฟต์แบบล็อกชั้น คือต้องแตะคีย์การ์ดในการกดชั้น เจ้าของคีย์การ์ดจะสามารถออกได้เฉพาะชั้น ที่ตัวเองอยู่กับชั้นที่เป็นส่วนกลางเท่านั้น หากไม่มีการแสกนคีย์การ์ด ลิฟต์จะลงไปที่ชั้น 1 ทันที


4. ความเข้มงวดของนิติ

ยิ่งนิติคอนโดมีความเข้มงวดมากเท่าไร นั่นหมายความว่าโครงการได้รับการดูแลเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ในส่วนนี้อาจจะดูได้จากกฏต่าง ๆ ที่นิติตั้งขึ้นมาเช่น ไม่ให้ปลูกต้นไม้บริเวณระเบียงเนื่องจากอาจจะเกิดอันตรายจากการที่กระถางตกลงมาได้ หลายโครงการในปัจจุบันห้ามการใช้แก๊สหุงต้มเพราะอาจจะเกิดอันตรายจากแก๊สรั่วได้ แต่บางโครงการก็ยังยินยอมให้ใช้แก๊สหุงต้มได้




5. CCTV กล้องวงจรปิด

แม้ว่ากล้องวงจรปิดจะไม่ได้กันไม่ให้ผู้ร้ายก่อเหตุได้ แต่ก็เป็นหลักฐานชั้นดีที่จะนำจับผู้ร้ายได้ ดังนั้นอาชญากรจึงค่อนข้างเกรงกลัวกล้องวงจรปิด อุปกรณ์ชนิดนี้จึงถือเป็นเครื่องมือในการรักษาความปลอดภัยที่คอนโดยุคใหม่ขาดไม่ได้



6. ไม่มีการเช่าห้องรายวัน หรือ Airbnb

การเช่าห้องแบบรายวัน หรือหากจะเอ่ยถึง Airbnb หลายคนคงจะร้องอ๋อ เซอร์วิสการเช่าห้องรายวันจะทำให้มีคนแปลกหน้าเข้าออกคอนโดบ่อย ๆ ซึ่งคุณไม่สามารถทราบได้เลยว่าผู้เช่าเหล่านั้นน่าไว้ใจได้แค่ไหน คอนโดที่มองเรื่องความปลอดภัยจะตั้งกฏห้ามการเช่าห้องแบบรายวันอย่างชัดเจน และดำเนินการกับผู้ที่ปล่อยเช่าและผู้เช่าอย่างเด็ดขาด


7. แปลนห้องในส่วนของระเบียง

ยูนิตแบบ 1 ห้องนอนส่วนใหญ่จะมีระเบียงที่ติดกับห้องข้าง ๆ หากห้องข้าง ๆ ไม่ใช่เพื่อนบ้านที่ดีนัก อาจจะสามารถปีนข้ามมายังห้องของคุณได้ เพื่อความมั่นใจคุณควรดูเรื่องของระยะห่างระหว่างระเบียงด้วยว่าสามารถปีนข้ามมาได้หรือไม่ หรือคุณอาจจะเลือกห้องที่ไม่มีระเบียงติดกับห้องอื่นซึ่งโดยส่วนมากจะติดกับยูนิตแบบ 2 ห้องนอน หรือไม่ก็เป็นห้องริม




8. ความแน่นหนาของประตู

สิ่งที่คุณต้องดูในหัวข้อนี้คือความแข็งแรงของประตู ความแข็งแรงของลูกบิด คุณต้องมั่นใจว่าประตูของคุณจะไม่ถูกพังเข้ามาได้ง่าย ๆ หลายโครงการเลือกติดระบบ Digital door lock มาให้ ซึ่งระบบนี้จะมีตัวล็อกที่แข็งแรง แต่อย่างไรก็ตามคุณควรมั่นใจว่า Digital door lock ของคุณจะไม่ทิ้งรอยนิ้วมือของคุณไว้ เนื่องจากอาจจะทำให้รหัสผ่านที่คุณตั้งไว้ถูกเดาได้ง่ายขึ้น Digital Door lock ที่ดีปุ่มกดจึงควรทำจากวัสดุกันรอย


9. ระบบป้องกันอัคคีภัย

ระบบป้องกันอัคคีภัยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ละเลยไม่ได้ จริง ๆ แล้วทางกฏหมายอาคารชุดได้กำหนดในเรื่องนี้มาอย่างดีแล้ว ทั้งเรื่องของทางหนีไฟและอุปกรณ์ดับเพลิง สิ่งที่คุณต้องดูเพิ่มเติมอาจจะเป็นเรื่องของเครื่องตรวจจับควันในห้องของคุณ ส่วนใหญ่แล้วหากเป็น หนึ่งห้องนอนโครงการจะติดเอาไว้ประมาณ 2-3 จุดคือห้องรับแขก ห้องครัว และห้องนอน โดยที่ห้องนอนและห้องรับแขกจะเป็นแบบตรวจจับควัน ส่วนในครัวจะเป็นเครื่องตรวจจับความร้อน


สำหรับคอนโดแบบ high rise จะติดตั้งสปริงเกอร์สำหรับฉีดน้ำดับเพลิงเอาไว้ด้วย เนื่องจากความสูงของคอนโดแบบ high rise รถดับเพลงไม่สามารถฉีดน้ำได้ถึง


10. ลานจอดเฮลิคอปเตอร์

โครงการ high rise บางแห่งมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนดาดฟ้า ซึ่งตรงนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ หรือต้องรีบส่งผู่ป่วยไปรักษา ในบางโครงการมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ถึง 2 ลานด้วยกัน



นอกจากที่ได้กล่าวมา ยังมีออฟชั่นเสริ่มด้านความปลอดภัยอื่น ๆ อีกเช่น smart home ที่สามารถเห็นหน้าและคุยกับผู้มาติดต่อโดยที่ไม่ต้องลงมาเปิดประตู หรืออาจจะเป็นแบบที่นิยมในปัจจุบันอย่าง Digtal door lock ซึ่งทุกอย่างนี้เป็นการตอบสนองความกังวลของลูกบ้าน ที่ต้องอาศัยอยู่ร่วมกันหลายยูนิตในอาคารเดียวกัน



เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์