รูปบทความ Do&Don't ยื่นสินเชื่ออย่างไรให้ผ่านฉลุย! ตอนที่ 1

กู้อย่างไรให้ผ่าน! ตอนที่ 1 Do&Don't อะไรที่ไม่ควรทำ ก่อนยื่นสินเชื่อกับธนาคาร

Do&Don’t ยื่นสินเชื่ออย่างไรให้ผ่านฉลุย! ตอนที่ 1 สิ่งที่ไม่ควรทำ ก่อนขอกู้ซื้อคอนโด

หลายๆคนก่อนที่จะคิดว่าอยากหาอสังหาริมทรัพย์ทั้ง บ้าน ที่ดิน หรือคอนโดมิเนียม ก็คงจะต้องมีราคาและประเภทอสังหาที่อยากได้ไว้ในใจอยู่แล้ว แต่เมื่อเราได้ราคาที่พอใจและได้ที่ๆจะซื้อแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ  ยื่นสินเชื่อกับธนาคาร “ เพื่อกู้ซื้อคอนโด และบ้าน ตอนนี้แหละที่เราจะต้องมาประเมินกันว่า เราจะมีความสามารถในการยื่นกู้มากน้อยแค่ไหน จะกู้ผ่านไหม กลัวกู้ไม่ผ่านจังเลย บางคนอาจจะคิดว่า คอนโดราคาเท่านี้ฉันซื้อได้ แต่จริงๆแล้วธนาคารไม่ได้ปล่อยสินเชื่อแค่จากราคาทรัพย์สินหรือรายได้เท่านั้น ก่อนจะเจอปัญหากู้ไม่ผ่าน ธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อ มาดูกันว่าสิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำ ก่อนยื่นสินเชื่อกับธนาคาร หรือยื่นกู้ซื้อคอนโดและบ้านมีอะไรบ้าง เพื่อให้การตัดสินใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สักครั้งในชีวิตของเราง่ายขึ้น ไม่ต้องมาโดนปฏิเสธสินเชื่อให้ช้ำใจ ตัดโอกาสการจะได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่โดนใจเราอีกด้วย

ยื่นสินเชื่อกับธนาคาร : ฉันทำผิดอะไร ทำไมถึงกู้ไม่ผ่าน?

Don’t

1.ผ่อนสินค้าก่อนยื่นสินเชื่อ

ก่อนจะเจอปัญหากู้ไม่ผ่าน มาว่ากันด้วยเรื่องการผ่อนสินค้า เข้าใจว่าอาจจะมีความจำเป็นอะไรก็ตามแต่ แต่เพื่อการยื่นสินเชื่อกับธนาคารให้ได้วงเงินตามที่เราตั้งเป้าไว้ ไม่ว่าจะผ่อนของใหญ่หรือของเล็กอะไรก็ถือว่าเรามีหนี้ทั้งนั้น และยอดผ่อนชำระเล็กๆน้อยๆพวกนี้แหละที่จะทำให้เราพลาดการอนุมัติสินเชื่อได้ โดยธนาคารจะนำภาระของเราในส่วนนี้มาคิดเป็นค่าใช้จ่าย จึงทำให้ความสามารถในการผ่อนคอนโด หรือบ้านของเราลดน้อยลง และทำให้กู้ไม่ผ่าน ดังนั้นก่อนจะยื่นสินเชื่อกับธนาคารอย่างน้อย 3 เดือน จึงไม่ควรผ่อนสินค้าหรือสร้างภาระหนี้อย่างอื่น

2.ยื่นสินเชื่อกับธนาคารเมื่อยังไม่พร้อม

บางคนอาจฝันว่าจะได้มีคอนโดหรือบ้านเป็นของตัวเอง และก็ประเมินตนเองว่าน่าจะได้ซื้อในราคาเท่านั้นเท่านี้ โดยคิดจากฐานรายได้อย่างเดียว จนทำให้ลืมไปว่าเราก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างอื่นเหมือนกันนะ และการที่เราจะยื่นสินเชื่อกับธนาคารเพื่อกู้ซื้อคอนโดหรือบ้าน จะทำให้เรามีหนี้ระยะยาว อย่างน้อยๆก็ 15 - 20 ปี บางคนก็กลัวว่าจะกู้ไม่ผ่าน ดังนั้นเราควรจะพิจารณาตนเองว่าเราพร้อมจะมีภาระผ่อนจ่ายทุกเดือนหรือยัง วิธีการประเมินความพร้อมของตัวเองก็มีหลายอย่าง อาจเริ่มจากการยื่นสินเชื่อกับธนาคารแบบ Pre-Approve ตีว่าปล่อยสินเชื่อต่ออัตราเงินเดือน 20,000 บาท กู้ได้ 1 ล้าน ถ้าเราเงินเดือน 15,000 แน่นอนว่าเปอร์เซ็นต์การอนุมิติสินเชื่อของธนาคารอาจจะกู้ไม่ผ่านสูง

หรืออาจจะลองคำนวนการใช้จ่ายประจำวันของตัวเองง่ายๆก่อน ว่าตกอยู่ที่เดือนละเท่าไหร่ เหลือเก็บบ้างไหม หรือทดลองสร้างรายการผ่อนด้วยตัวเอง หลายคนที่กู้ไม่ผ่านก็เพราะรายได้กับรายจ่ายไม่สัมพันธ์กัน ลองแบ่งเงินที่เราจะเอาไว้ใช้ผ่อน อย่างเช่นสมมุติผ่อนอยู่ที่ล้านละ 7,000 บาท ถ้าเราอยากซื้อคอนโด 2 ล้าน ลองเก็บเงินเข้าบัญชีไว้เดือนละ 14,000 บาท ลองดูว่าเราพร้อมที่จะผ่อนจ่ายเดือนละเท่านี้จริงไหม สัก 3-4 เดือนก็น่าจะพอประเมินตนเองได้แล้วว่าไหวไหม ถ้าธนาคารประเมินความสามารถของเราว่ามีน้อยก็อาจจะกู้ไม่ผ่าน หรือถ้ากู้ผ่าน แต่การยื่นสินเชื่อกับธนาคารโดยที่ต้องกระเบียดกระเสียนค่าใช้จ่ายจนเกินไป ไม่มีเงินเก็บเลย ก็อาจจะเกิดปัญหาผ่อนไม่ไหวได้ในระยะยาว

3.ค้างประวัติการชำระหนี้ก่อนยื่นสินเชื่อ

เหตุผลยอดฮิตที่ได้ยินกันบ่อยๆในการยื่นสินเชื่อกับธาคารเพื่อซื้อคอนโด หรือที่อยู่อาศัยอื่นๆแล้วกู้ไม่ผ่าน คือภาระหนี้ที่ค้าง ติดเครดิตบูโร ทั้งบัตรเครดิต หรือสินเชื่ออย่างอื่น หรือคนที่เคยมีประวัติเสียในการชำระหนี้ ดังนั้นวินัยในการชำระค่างวดจึงป็นสิ่งที่สำคัญ หากตอนนี้รู้ตัวว่าเรายังมีวินัยที่ไม่ดี ก็ให้รีบจัดการหนี้เสียเหล่านั้นซะ และต้องไม่สร้างหนี้เพิ่มอีก หากเป็นไปได้ควรชำระหนี้ที่มีอยู่ให้หมดไปเลย ก่อนที่จะยื่นสินเชื่อกับธนาคารอย่างน้อย 3 - 6 เดือน เพราะธนาคารจะเคลียร์บัญชี และส่งรายงานให้เครดิตบูโร ก็จะแสดงว่าหนี้ของเราได้เคลียร์ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีที่ติดเครดิตบูโร หากยังมีหนี้คงค้างที่ยังไม่ได้จ่าย หรือพึ่งเคลียร์หนี้ไปก่อนยื่นสินเชื่อกับธนาคารไม่นาน อันนี้ก็มีเปอร์เซ็นต์ที่จะกู้ไม่ผ่าน

4.รายได้ไม่มีที่มา ยืนยันตัวตนไม่ได้

อย่างที่ทราบกันดีว่าฐานเงินเดือนและรายได้นั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการยื่นสินเชื่อกับธนาคาร เป็นสิ่งชี้ชะตาว่าจะกู้ผ่านหรือกู้ไม่ผ่าน สำหรับคนที่มีเงินเดือนประจำก็อย่าได้นิ่งนอนใจไป ต้องดูว่ารายได้ที่เข้าบัญชีนั้น มีสลิปเงินเดือนหรือไม่ หากไม่มีก็ต้องให้เจ้านายหรือผู้ที่มีอำนาจทางบริษัทออกใบรับรองเงินเดือนให้ หรือหากรับเงินเดือนเป็นเงินสด ก็ควรจะนำเงินนั้นมาเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ หรือทำติดต่อกันก่อนการยื่นสินเชื่อกับธนาคารเป็นเวลา 6 - 12 เดือน แล้วเอาหลักฐานรายการเดินบัญชี และใบรับรองเงินเดือนหรือสลิปมาประกอบกัน หากเตรียมความพร้อมทางการเงินและเอกสารไม่ดี มนุษย์เงินเดือนก็มีสิทธิ์ที่จะกู้ไม่ผ่านได้เช่นกัน ส่วนคนที่ประกอบอาชีพอิสระ รายได้ที่ไม่แน่นอนก็ส่งผลถึงโอกาสในการยื่นสินเชื่อกับธนาคารอยู่แล้ว ดังนั้นวินัยทางการเงินจึงสำคัญมาก ควรจะนำรายได้ทุกก้อน หรือรวบรวมแล้วเข้าบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ และทำบัญชีรายรับรายจ่ายเอาไว้ด้วย เพื่อประกอบการยื่นเอกสาร และเอกสารยืนยันตัวตนผู้ขอสินเชื่อก็เช่นกัน ต้องเตรียมเอกสารที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานประกอบการให้ชัดเจน สามารถติดต่อได้ เพราะถ้าหากเรายื่นสินเชื่อกับธนาคารไปแล้วโดนปฏิเสธ กู้ไม่ผ่าน ธนาคารจะทำการงดพิจารณาสินเชื่อของเราไปอีก 6 เดือนเลย

5.เป็นคนไม่มีเครดิต ก็กู้ไม่ผ่าน จริงหรือเปล่า?

หลายคนอาจะเคยได้ยินว่าเวลายื่นสินเชื่อ สาเหตุที่กู้ไม่ผ่าน ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อให้เพราะเราไม่เคยมีบัตรเครดิต จึงเหมือนเป็นคนไม่มีเครดิต ก็เลยต้องเปิดบัตรเครดิตกับธนาคารก่อนเพื่อจะทำให้การยื่นสินเชื่อกับธนาคารผ่านง่ายขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วไม่เกี่ยว เป็นเพียงเทคนิคการขายบัตรเครดิตของธนาคารเท่านั้น คนเราไม่เคยเป็นหนี้ มีเงินมีรายได้ชัดเจน มันก็ถือเป็นเครดิตของเราอยู่แล้ว มันไม่ได้ทำให้เรากู้ไม่ผ่านเลย ดังนั้นตรงส่วนนี้จึงไม่ต้องไปสนใจ แต่ถ้าใครคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้เปิดบัตรเครดิตโดยที่ธนาคารอนุมัติให้ได้ง่ายอันนี้ก็ตามใจ เพราะเขามาเสนอเราเขาก็อยากจะปล่อยให้เราอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องเปิดบัตรเครดิตก่อนยื่นสินเชื่อกับธนาคาร เพราะเมื่อเราได้บัตรมา การจะระงับกิเลสไม่ให้รูดบัตรก็ย่อมเป็นเรื่องยาก แล้วตอนที่เอาบัตรไปรูดซื้อนี่แหละ ที่จะส่งผลต่อการอนุมัติการยื่นกู้ซื้อคอนโด หรือบ้านของเราเอง แล้วก็กลายเป็นกู้ไม่ผ่านในที่สุด

แต่การมีบัตรเครดิตก็สามารถแสดงถึงเครดิตที่ดีของเราได้เช่นกัน เพราะถ้าเราเปิดบัตรเครดิต แล้วเป็นคนที่มีวินัยในการใช้จ่าย เช่น รูดเท่าไหร่ พอสิ้นเดือนก็ไปจ่ายคืนเต็มจำนวน ดอกเบี้ยก็ไม่ต้องเสีย หรือจ่ายหนี้ตามกำหนดทุกๆเดือน ก็แสดงถึงเครดิตที่ดี และวินัยทางการเงินของเราเองเช่นกัน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการวางแผน และการจัดการ จัดสรรการชำระหนี้ของเราเองด้วย .ไม่ใช่ว่ามีบัตรเครดิตหลายใบแล้วจะกู้ไม่ผ่านเสมอไป ถ้าจ่ายตามกำหนด และปิดยอดก่อนยื่นสินเชื่อกับธนาคารล่วงหน้า ก็จะทำให้พอมีโอกาสกู้ผ่านได้

ก่อนจะยื่นสินเชื่อกับธนาคารแต่ละครั้งต้องตรวจสอบตัวเองให้ดี

รู้สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนจะยื่นสินเชื่อกับธนาคารไปแล้ว ต้องเตรียมตัวและบังคับตัวเองให้ได้ด้วย เพราะไม่ใช่จะมาห้ามตัวเองผ่อนนู่นผ่อนนี่ หรือปรับบัญชีกันภายในไม่กี่วันก่อนจะกู้ซื้อคอนโด แต่ต้องทำให้เป็นประจำล่วงหน้าอย่างน้อยๆ 3 เดือนขึ้นไป ไม่เช่นนั้นก็อาจยังเจอปัญหากู้ไม่ผ่านอยู่ บทความตอนต่อไปจะเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนยื่นสินเชื่อกับธนาคาร เมื่อทำได้ตามนั้นแล้ว ก็เตรียมตัวเลือกคอนโดที่ถูกใจ เตรียมตัวเองให้พร้อม แล้วไปจองซื้อกันได้เลย


ติดตามบทความ ยื่นสินเชื่ออย่างไรให้ผ่านฉลุย! ตอนที่ 2 เตรียมตัวอย่างไรให้ยื่นสินเชื่อกับธนาคารแล้วผ่านฉลุย

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์