ทำความรู้จัก "สถานีกลางบางซื่อ" ที่พร้อมให้นั่งฟรีปลายปี 2563
20 August 2562
อัพเดทความคืบหน้า "สถานีกลางบางซื่อ" ศูนย์รวมคมนาคมแห่งใหม่ที่จะมาแทนสถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง พร้อมทำความรู้จัก "สถานีกลางบางซื่อ" ให้มากขึ้นก่อนนั่งฟรีรถไฟฟ้าสายสีแดงปลายปี 2563 และเปิดใช้ให้บริการแบบเป็นทางการต้นปี 2564
สถานีกลางบางซื่อ จุดเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าสายอื่นๆ
เมื่อ "สถานีกลางบางซื่อ" สร้างเสร็จและเปิดให้ใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงในปี 2563 - 2564 สถานีกลางแห่งนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยงการคมนาคมรถไฟฟ้าแห่งใหม่ของไทยแทนที่สถานีหัวลำโพงในปัจจุบัน และสถานีกลางบางซื่อนี้จะกลายเป็น สถานีรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เว็บไซต์ BLT Bangkok ระบุข้อมูลเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ว่า สถานีกลางบางซื่อ มีพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารมากถึง 266,500 ตร.ม. โดยอาคารของสถานีกลางบางซื่อจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น (ไม่รวมชั้นใต้ดินและชั้นลอย) ได้แก่
- ชั้นใต้ดิน ใช้เป็นที่จอดรถของผู้มาใช้บริการสถานีบางซื่อ สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 1,624 คัน
- ชั้นที่ 1 (มีชั้นลอย) โถงชานชาลาและพื้นที่จำหน่ายตั๋วสำหรับผู้โดยสาร ซึ่งจะมีทางเชื่อมยัง MRT สถานีบางซื่อ นอกจากนี้ชั้นที่ 1 และชั้นลอยของสถานีกลางบางซื่อยังเป็นพื้นที่พาณิชยกรรมสำหรับร้านค้าอีกด้วย
- ชั้นที่ 2 (มีชั้นลอย) เป็นชานชาลาของสถานีกลางบางซื่อ มีจำนวนทั้งหมด 12 ชานชาลา แบ่งออกเป็น 4 ชานชาลาสำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง และ 8 ชานชาลาสำหรับรถไฟทางไกล
- ชั้นที่ 3 เป็นชานชาลาสำหรับรถไฟฟ้าความเร็วสูง มีทั้งหมด 10 ชานชาลา แบ่งออกเป็น 6 ชานชาลาสำหรับสำหรับรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากกรุงเทพ-หนองคาย, กรุงเทพ-หัวหิน, กรุงเทพ-เชียงใหม่ และ 4 ชานชาลาสำหรับรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน แบ่งเป็น 2 ชานชาลาสำหรับสายสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง และอีก 2 สายที่เหลือสำหรับ ดอนเมือง-อู่ตะเภา
สถานีกลางบางซื่อ ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ ร้านค้า และกิจกรรมต่างๆ
อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อสร้างสถานีกลางบางซื่อเสร็จ ก่อนเปิดให้ประชาชนทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงฟรีในปี 2563 สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นสถานีรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนด้วยพื้นที่กว่า 400 ไร่ นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อให้กลายเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์หรือที่รู้จักกันว่า TOD (ย่อมาจาก Transit Oriented Development) ที่นำร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง มายังพื้นที่ใกล้รถไฟฟ้า รวมถึงจัดสรรพื้นที่สร้างเป็นสวนสาธารณะ
ตามการรายงานของเว็บไซต์ประชาชาติเมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา ระบุถึงบทสัมภาษณ์ของ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมขณะนั้นว่า "สถานีกลางบางซื่อจะไม่เหมือนกับสถานีหัวลำโพง จะมีการพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดเป็นโซน ๆ เริ่มจากแปลง A ส่วนโซนอื่น ๆ อยู่ในขั้นตอนการเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน และบริเวณนี้จะมีสวนสาธารณะ 700 ไร่ ด้านการพัฒนาโครงสร้างอื่น ๆ เช่น ระบบไฟฟ้าภายในสถานีกลางบางซื่อ อาจจะเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน"
นอกจากนี้ยังมีการนำแนวคิด Smart City มาประยุกต์ใช้บนพื้นที่ 218 ไร่ของสถานีกลางบางซื่ออีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้สถานีดังกล่าวกลายเป็น "ASEAN Linkage & Business Hub" ที่รวบรวมการเชื่อมต่อด้านคมนาคมและแหล่งธุรกิจ แบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่
- Smart Business Complex
- ASEAN Commercial and Business Hub
- SMART Healthy and Vibrant Town
อัพเดทความคืบหน้าสถานีกลางบางซื่อ สายสีแดงสร้างเสร็จในปี 2563
เมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา นายอาคมได้บอกกับเว็บไซต์ประชาชาติว่าสถานีกลางบางซื่อจะสร้างเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะทดสอบเดินรถเต็มระบบได้ในเดือนมิถุนายน 2563
อย่างไรก็ตามทางเว็บไซต์ Thai PBS ได้รายงานเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 ว่าสถานีกลางบางซื่อมีความคืบหน้ามากกว่า 80% โดยนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า "รถไฟฟ้าสายสีแดง" ที่ต้นสายอยู่ที่ "สถานีกลางบางซื่อ" น่าจะสร้างเสร็จในปี 2563 และจะพร้อมเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรีในช่วงปลายปีหน้า ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตอนต้นปี 2564
"ตามกำหนดผู้รับเหมาจะส่งงานรถไฟฟ้าสายสีแดง พ.ย. 62 และเทสรัน ทดสอบระบบพร้อมทดลองใช้ปลายปี 63 การรถไฟฯวางแผนว่า จะนำคนแอร์พอร์ตลิงค์ที่มีประสบการณ์มาช่วยเดินรถ"
สำหรับการโดยสารด้วยรถไฟสายอื่นๆ ในสถานีกลางบางซื่อนั้น นายวรวุฒิเผยกับ Thai PBS ว่าระบบอาณัติสัญญาณและทางคู่จะเสร็จทั้งหมดในปี 2567 ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จจะสามารถลดเวลาการเดินทางได้มากพอสมควร เช่น เดิมทีที่เดินทางจากกรุงเทพไปพิษณุโลก 5 ชั่วโมง จะลดลงเหลือ 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีผู้โดยสารมาใช้งานสถานีกลางบางซื่อจำนวน 650,000 คนต่อวัน และจะมีคนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมาใช้บริการสถานีแห่งนี้จำนวนมาก ทำให้ปัจจุบันผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวกำลังปรับแผนการจราจรและการระบายรถโดยรอบอยู่
