10 อันดับทำเลที่อยู่อาศัย ศักยภาพดี ราคาขึ้น ปี 2563 จาก AREA

หากใครกำลังวางแพลนจะ ซื้อบ้าน ซื้อทาวน์เฮาส์-ห้องชุดในช่วงปี 2563 อยู่ล่ะก็ ลองเข้ามา
เช็คลิสต์ "ทำเลพักอาศัยในอนาคต ที่มีสิทธิ์ราคาขึ้น" กันเสียหน่อย จะได้วางแผนถูก ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง...

เริ่มต้นปีหน้าฟ้าใหม่กันด้วยทำเลน่าจับตามองเป็นอันดับ 1 อย่าง "ปู่เจ้าฯ-เทพารักษ์" ที่มีระดับราคาทาวน์เฮาส์อยู่ที่ 3.001 - 5.000 ล้านบาท และยังมีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 83.30% ซึ่งตอนนี้ก็ขายไปได้แล้วกว่า 235 หน่วย จาก 282 หน่วยนั่นเอง

นอกจากนี้ ทำเลปู่เจ้าฯ-เทพารักษ์ หรือย่านสมุทรปราการก็ได้มีการเปิดใช้งาน 'รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สายสีเขียว' ยาวไปจนถึงสถานีสายลวด และสถานตากอากาศบางปู จึงทำให้ผู้คนทั้งในและนอกพื้นที่สามารถเดินทางคมนาคมได้คล่องตัว อีกทั้งบริเวณ BTS สำโรง เองก็กำลังกลายเป็นจุดอินเตอร์เชนจ์ของรถไฟฟ้าฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) กับรถไฟฟ้ารางเบาสีฟ้า (เส้นบางนา–ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) จึงทำให้ 'ทำเลปู่เจ้าฯ-เทพารักษ์' เป็นเสมือน HUB สำคัญของคนทำงาน และผู้พักอาศัยย่านสมุทรปราการนั่นเอง

ตลอดจนแหล่งไลฟ์สไตล์ของย่านนี้ก็เริ่มตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ครบครับทั้งห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, คาเฟ่ และ Department store หากใครอยากส่องสำรวจทำเลโซนนี้ไปด้วยกัน ก็สามารถติดตามต่อได้ที่ ท่องคาเฟ่ลึกลับกับสถานที่พักใจแสนพิเศษ บนทำเลชานเมืองที่สงบและอบอุ่น ณ ‘แบริ่ง-สำโรง’ 

และเมื่อบวกกับราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินของ 'เส้นถนนนปู่จ้าสมิงพราย' ที่ยังไม่สูงมากนัก มีช่วงราคากระจายตัวอยู่ที่ 20,500-100,000 บาท/ตารางวา จึงค่อนข้างจับกลุ่มผู้ต้องการที่พักอาศัยได้หลากหลายกลุ่ม เหมาะทั้งผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง เนื่องจากใกล้ที่ทำงาน และซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่าให้กับผู้ที่ทำงานในพื้นที่นี้

สำหรับใครที่กำลังอยากซื้อที่พักอาศัย
สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
ภาษีที่ดิน ก่อนใช้จริง 1 มกราคม 2563 ก่อนได้

• อันดับที่ 2 "ย่านเจ้าคุณทหารฯ"  : ระดับราคาห้องชุด 1.001-2.000 ล้านบาท และมีอัตราการขายได้สูงถึง 70.00% ต่อเดือน คงเหลือเพียง 204 หน่วยจาก 680 หน่วย
• อันดับที่ 3 "ทำเลเจ้าคุณทหารฯ" : ห้องชุดที่อยู่ในระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท จะมีอัตราการขายได้อยู่ที่  69.70% ต่อเดือน ซึ่งตอนนี้จะมียอดคงเหลือ 99 หน่วยจากทั้งหมด 327 หน่วย
• อันดับที่ 4 "รัชดา-ลาดพร้าว" : สำหรับห้องชุดในระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท ก็มีอัตราการขายได้ต่อเดือนสูงกว่า 57.50% เลยเช่นกัน
• อันดับที่ 5 "พัฒนาการ" : ทาวน์เฮาส์ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาท จะมียอดอัตราการขายอยู่ที่ 50.00% ต่อเดือน ซึ่งขายไปแล้ว 119 หน่วยจากทั้งหมด 170 หน่วย

โดยทั้ง 5 อันดับนี้ ทาง AREA หรือศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ก็ได้คาดการณ์ว่า... จะสามารถขายหน่วยที่พักอาศัยหมดภายใน 2 เดือนด้วย

• อันดับที่ 6 : จะตกเป็นของ "บางกอกน้อย-บางใหญ่" โดยห้องชุดที่อยู่ในระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาทจะมีอัตราการขายได้อยู่ที่ 46.60% ต่อเดือน และเหลือยูนิตพักอาศัย 187 หน่วยจากทั้งหมด 363 หน่วย
• อันดับที่ 7 "อ่อนนุช-ศรีนครินทร์" : ห้องชุดระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท จะมีอัตราการขายได้ 42.30% ต่อเดือน รวมยูนิตคงเหลือ 84 หน่วยจากทั้งหมด 194 หน่วย
• อันดับที่ 8 "ปทุมธานี-สามโคก" : โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบ้านแฝดระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท ที่มีทั้งหมด 106 หน่วย และยังคงเหลืออยู่ 64 หน่วย ซึ่งคิดเป็นอัตราการขายได้ต่อเดือนเท่ากับ 39.60 %
• อันดับที่ 9 "ลาดกระบัง" : ทาวน์เฮาส์ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท จะมีอัตราการขายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 35.80% และจากทั้งหมด 81 หน่วยก็สามารถขายไปได้แล้ว 29 หน่วย เหลืออยู่ 52 หน่วยนั่นเอง  
• อันดับที่ 10 "พหลโยธิน" : ตกเป็นของห้องชุดระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท ที่มีอัตราการขายได้ 33.50% ต่อเดือน รวมมูลค่าทั้งหมด 529 ล้านบาท

และจากข้อมูลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยของ AREA จะสังเกตเห็นว่า... ทำเลที่ได้รับความสนใจจะเริ่มขยายตัวออกไปตามเขตเมืองชั้นนอก ไม่ว่าจะเป็นย่านปู่เจ้าฯ-เทพารักษ์, สำโรง, ลาดกระบัง, พัฒนาการ หรืออ่อนนุช-ศรีนครินทร์ มากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมีผลมาจากการเปิดเส้นทางรถไฟฟ้า สายใหม่ที่ช่วยให้การเดินทางเข้าถึงแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นั้นรวดเร็ว และสะดวกสบาย ขณะเดียวกันยังเป็นการนำพาความเจริญเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวโดยตรง 

อ้างอิง : area.co.th