รวมเคล็ดลับ และข้อควรพิจารณา ก่อนเลือกซื้อ/ลงทุนคอนโดลักซ์ชัวรี่

ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่สดใส คงปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน แต่สำหรับอสังหาริมทรัพย์ในระดับลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่นั้น เป็นตลาดที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หันมาเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน เพื่อปรับกลยุทธ์ให้อยู่รอดได้ในภาวะที่กำลังซื้อต่ำ เพราะเป็นตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากนัก

ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวไทยเท่านั้นที่ครองส่วนแบ่งการตลาดระดับบนนี้อยู่ แต่ปัจจุบันยังมีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติเข้ามาชิงส่วนแบ่งนี้ในรูปแบบของการร่วมทุนกับคนไทย และการร่วมทุนกับชาวต่างชาติด้วยกัน

โดยฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่าจากตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในครึ่งปีแรก 2562 มีมูลค่ากว่า 454,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ตลาดลักซ์ชัวรี่มีมูลค่าถึง 46,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 10% ของตลาดทั้งหมด ซึ่งคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ส่วนมากมักตั้งอยู่ในทำเลย่านใจกลางธุ รกิจหรือใจกลางเมืองที่แวดล้อมด้วยความสะดวกสบาย เช่น โซนเพลินจิต ชิดลม หลังสวน สีลม สาทร หรืออยู่ในย่านศูนย์กลางสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ มีระดับ เช่นโซนทองหล่อ

ซึ่งเป็นย่านที่หาพื้นที่พัฒนาโครงการได้ยากแล้วในปัจจุบัน และที่สำคัญคือนอกจากราคาที่ดินจะสูงกว่าย่านอื่นแล้ว ยังมีการเติบโตของราคาอย่างต่อเนื่อง อย่างเส้นถนนวิทยุ ราคาที่ดินเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% , สีลม ราคาที่ดินเติบโตเฉลี่ยปีละ 8%, สาทร ราคาที่ดินเติบโตเฉลี่ยปีละ 9% และทองหล่อ ราคาที่ดินเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 12%

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ การตัดสินใจลงทุนย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นการลงทุนที่ใช้เงินทุนมูลค่าสูง โดยบางโครงการในประเทศไทยมีราคาขายสูงสุดเกือบ 690,000 บาทต่อตารางเมตร

ดังนั้นการพิจารณาลงทุนย่อมต้องละเอียดรอบคอบ โดยนอกเหนือจากตัวโครงสร้างของอาคาร และการมีพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครันแล้ว หลักในการพิจารณาคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ควรพิจารณาจากปัจจั ยเพิ่มเติมอีก 3 ด้าน ได้แก่

1. Prime Location ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมือง เป็นทำเลหายากเช่นโซนCBD ที่บางทำเลส่วนใหญ่เป็นโครงการแบบ Lease Hold ดังนั้นหากมีโครงการ Free Hold พัฒนาขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวก็จะกลายเป็นของหายากในทันที ซึ่งทำเลที่เป็นที่ต้องการของผู้อยู่อาศัยตลอดเวลา ย่อมส่งผลให้ราคาที่ดินและราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
2. Smart Partnership เป็นโครงการที่ร่วมมือกับคู่ค้าทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ ช่วยยกระดับขีดความสามารถและเอกลักษณ์เฉพาะในการพัฒนา โครงการทั้งการก่อสร้างและการบริการ เช่น การจับมือกับดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในการออกแบบด้านส 3 ถาปัตยกรรมให้มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ดังเช่นการออกแบบงานศิลปะที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก และแน่นอนว่าหากคอนโดมิเนียมที่ได้รับการออกแบบโดยดีไซเน อร์ระดับโลก หรือมีบริษัทระดับโลกร่วมพัฒนาย่อมดึงดูดผู้เช่าชาวต่างชาติได้ไม่ยาก
3. Exclusive Service การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและอำนวยความสะดวกในการใ ช้ชีวิตด้วยบริการที่เหนือระดับมาตรฐาน ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ เช่น การเลือกใช้บุคลากรในการดูแลโครงการด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้ าน ที่เราเห็นนั่นก็คือมีบัตเลอร์ ทำหน้าที่ดูแลลูกบ้านให้ได้รับความประทับใจไม่ต่างจากการพักผ่ อนที่โรงแรม 5 ดาว เช่นในโครงการเดอะมูโนเมนต์ทองหล่อ หรือมีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ด้านการดูแลต้นไม้ของโครงการโดยเฉ พาะ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของโครงการให้มีสภาพเหมือนวันแรกไม่ ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี

คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่นั้น ถึงแม้ดูมีราคาสูงเกินกว่าที่จะจับต้องได้ แต่หากเทียบคอนโดมิเนียมระดับเดียวกันกับประเทศอื่นในโลก จะพบว่าราคาคอนโดมิเนียมที่กรุงเทพมหานครยังต่ำกว่าในมหานครอื่น 4 ๆ ค่อนข้างมาก นี่จึงเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดคอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่บ้านเรายังดึง ดูดผู้ซื้อและนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกอย่างต่อเนื่องแม้ว่าเศรษฐกิจจะยั งไม่สดใสก็ตาม

ขอบคุณ Plus Property