ไม่เครียดเเบบไหน ที่เรียกว่า “เครียด”
13 April 2563
คุณกำลังรู้สึกเบื่อ เซ็ง ไม่อยากอาหาร หรือทานมากกว่าปกติ หรือนี่จะเป็นสัญญาณเตือนให้ที่กำลังบอกว่า คุณเครียดโดยไม่รู้ตัวอยู่หรือเปล่า?
จากข้อมูลสำรวจความชุกของโรคซึมเศร้า ปี 2551 พบผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็นโรคซึมเศร้าร้อยละ 62 เป็นวัยทำงาน อายุรหว่าง 25 - 29 ปี ถัดลงมาร้อยละ 26.5 คือวัยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เเละร้อยละ 11.5 เป็นกลุ่มเยาวชนอายุ 15 - 24 ปี เเม้ว่าจะเป็นสถิติเมื่อหลายปีก่อน เเต่จากสถิตินี้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่มีเเนวโน้มการฆ่าตัวตายของกลุ่มเยาวชนอายุ 20 - 24 ปี ในปี 2560 ถึงร้อยละ 4.94 ต่อประชากรหนึ่งเเสนคน เเละในปี 2651 เพิ่มขึ้นเป็น 5.33 ต่อประชากรหนึ่งเเสนคน
อะไรที่เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะความเครียด เเละจะมีข้อสังเกตอะไรที่สามารถบอกได้ว่าเรากำลังเครียดอยู่เเต่เเค่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง ซึ่งเชื่อว่ามีหลากหลายคนเลยที่เดียวที่อาจกำลังตกอยู่ในสภาวะความเครียดไม่รู้ตัว งั้นเรามาลองสำรวจตรวจเช็คอาการไปพร้อมกันค่ะ
Check สักนิด ว่าคุณกำลังตกอยู่ในภาวะความเครียดอยู่หรือเปล่า
5 อาการที่พบบ่อยจนเคยชิน อาจเป็นสัญญาณบอกว่า คุณกำลังเครียด
1. นอนไม่หลับ หรือ นอนบ่อยเกินไป
เเค่ข้อเเรกก็เชื่อว่าหลายคนกำลังต้องอยู่ในสถานการณ์นี้เหมือนกัน ฟังเพลงกล่อมให้นอนบ้างล่ะ อ่านหนังสือบ้างล่ะ ไปจนถึงฟังธรรมะก่อนนอน ก็นอนไม่หลับสักที พลิกตัวไปมา เปิดโทรศัพท์ดูนาฬิกาอีกที ตี 5 เเล้วเหรอ! นี่คืออาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเครียด อาจเพราะกังวลเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ ที่เราคิดเเต่เรื่องนั้นจนเคยชิน จนไม่รู้ตัวว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้ตัวคุณเองเครียด
การนอนบ่อย นอนมากไปเกินไป ก็เช่นกัน มันคือการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเครียดอยู่เช่นกัน ความรู้สึกที่หมดเเรงหมดไฟไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี นอนดีกว่า หรือบางทีก็มีงานให้ทำ เเต่เอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยทำก็ได้ ยังมีเวลาอีกเยอะ มันมีเเต่ความเอื่อยเฉื่อย อยากจะนอนอย่างเดียวเท่านั้น นั่นเเหละ คุณกำลังเครียดอยู่
2. รู้สึกเหนื่อยมาก เเม้จะพักผ่อนเพียงพอ
อาการนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากการนอนมากเกินไป ถึงเเม้จะนอนครบ 8 ชั่วโมง หรือเกินกว่านั้น ทำไมยังรู้สึกเหนื่อยเหมือนพักผ่อนไม่เพียงพออยู่ตลอดเวลา เเม้เราจะนอนหลับเเต่สมองยังไม่ได้พักผ่อนตามไปด้วย เพราะมันมัวเเต่คิด วิเคราะห์ จากการกังวลเรื่องใดเรื่องอยู่ที่เรายังไม่เกิดความสบายใจจากเรื่องนั้น จึงเป็นสาเหตุที่ว่านอนมากเเค่ไหน ก็ยังรู้สึกเหนื่อยหมดเเรง ไม่กระปี้กระเป่าอยู่ดี เเม้มีกิจกรรมที่น่าสนุกเเค่ไหนมาเชิญชวนล่อใจให้ออกมาร่วมกิจกรรม ก็รู้สึกหมดพลังเเรงกายที่จะกิจกรรมนั้นๆ เเล้ว นั่นเเปลว่า คุณกำลังตกอยู่ในความเครียดอีกเเล้วล่ะ
3. วิตกกังวลกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ง่ายเกินไป
ลองจับสังเกตดูตัวเราเองนะว่า คิดเรื่องอะไรซ้ำไปซ้ำมา วนไปวนมา เเม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย เราก็เก็บมาคิดไม่ยอมปล่อยผ่านไปเสียที เพราะทุกอย่างมีผลต่อจิตใจคุณไปเสียหมด ซึ่งหากเป็นเเบบนี้ต่อไป อาจจะส่งให้สภาพจิตใจของคุณย่ำเเย่มากขึ้นกว่าเดิม เเละอาจนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าได้ ฉะนั้นทางที่ดีเราควรเลือกคิดเเต่เรื่องที่จำเป็น เวลาพักก็ควรจะพักอย่างเต็มที่ ทำให้ทุกอย่างเป็นระบบ ไม่ปะปนกัน หรือการที่เลือกจะเล่าเรื่องหรือปรึกษาสิ่งที่คุณกำลังวิตกกังวลอยู่ให้กับคนในครอบครัวฟังหรือเพื่อนสนิทที่คุณไว้ใจ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณห่างหายจากความคิดวิตกกังวลนี้ไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
4. ขาด Inspiration ในตัวเอง
ช่วงนี้รู้สึกเมินเฉยกับทุกสิ่ง คิดงานไม่ออก ไม่มีเเรงจูงใจให้คิดหรือสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เหมือนเเต่ก่อนเลยนะ สปีดการทำงานก็ช้าลง เเม้จะส่งตามเวลางานที่กำหนด เเต่ก็รู้สึกว่างานชิ้นนี้มันยังไปได้มากกว่านี้ เเต่ก็คิดไม่ออกว่าจะครีเอทให้มันสร้างสรรค์มากกว่านี้อย่างไร ทั้งหมดนี่คืออาการของความเครียดที่ไม่รู้ตัว
5. อารมณ์สวิงขึ้นลงยิ่งกว่าพายุมรสุม
หากเรารู้สึกว่าช่วงนี้อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ง่าย เดี๋ยวหัวเราะ อีกสักพักร้องไห้ อาการเเบบนี้ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกคุณกำลังวิตกกังวลหรือเครียดอยู่ เป็นปัญหาที่มีผลต่อจิตใจเเละยังไม่สามรถเเก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน ครอบครัว หรือความรัก อาการข้อนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก หากเราไม่สามารถปรับสมดุลได้ด้วยตัวเอง ลองหาเพื่อนสักคนที่เราสนิทใจมาคอยรับฟังปัญหาความเครียดนี้ หรือถ้ายังไม่ดีขึ้นการเลือกที่จะเข้าไปพบเเพทย์ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อาการเหล่านี้ที่เกิดจากความเครียด ในเบื้องต้นหากยังไม่ร้ายเเรงถึงขั้นเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า ที่อยากจะอยู่คนเดียว ปิดตัวเองจากสังคม เเละทำร้ายตัวเองเเล้วล่ะก็ เเนวทางที่จะทำให้คุณผ่อนคลายจากสภาวะความเครียดเเละห่างหายจากอาการเหล่านี้ได้ ลองปรับเปลี่ยนจัดระบบตารางการใช้ชีวิตให้เป็นเวลา ทำเป็นกิจวัตร ถึงเวลาเข้านอนต้องนอน ในเวลาเดิมทุกวันๆ จนร่างกายเกิดความเคยชิน อาการนอนไม่หลับก็จะค่อยๆ หายไป
ที่สำคัญเราควรดูเเลรักษาสุขภาพทั้งทางกายในส่วนของการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเครียดได้ดีเลยที่เดียว เเถมยังทำให้สุขภาพกายของเราดีอีกด้วย ส่วนสุขภาพจิต การที่เราออกไปในสถานที่ใหม่ๆ ทำอะไรที่ไม่เคยทำ อ่านหนังสื่อ ดูหนังเเนวที่ยังไม่เคยดู ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้หัวใจเราพองโต ตื่นเต้น กระปี้กระเป่า มีเเรงขับเคลื่อนทำงานสร้างสรรค์ ปิ๊งไอเดียเจ๋งๆ เเละสนุกกับการทำงานการใช้ชีวิต เพราะเราได้รับเเรงบันดาลใจจากสิ่งใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยได้สัมผัส
รู้หรือไม่ สาเหตุเเห่งความเครียดเกิดจากอะไร
สาเหตุหลักๆ ของความเครียด มีอยู่ 3 ด้านด้วยกัน ด้านร่างกาย สุขภาพจิต เเละ สังคม
ด้านร่างกาย
จากอาการเจ็บป่วย การพักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่มีความบาลานซ์ในตัวเอง เพราะทำงานมากเกินไป
ด้านสุขภาพจิต
ความเครียดในด้านจิตใจมักเกิดขึ้นในผู้ที่ต้องมีความรักผิดชอบ เช่น หัวหน้างาน หรือการเป็นคุณพ่อที่ต้องเป็นผู้นำของครอบครัว เเละกับพนักงานทั่วไปโดยเฉพาะเพ่ิมเริ่มทำงานที่ยังปรับตัวไม่ได้ ขาดทักษาการปรับตัว เกิดความกังวลใจ ไม่สบายใจ กลัวทำได้ไม่ดี บุคคลเหล่านี้ประกอบกับสถานการณ์ที่พบเจอ จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียดวิตกกังวลได้งานกว่าคนวัยอื่นๆ
ด้านสังคม
ในด้านสังคมนี้อาจเกิดจากความขัดเเย้งในครอบครัว ที่ทำงาน เเละอาจรู้สึกว่าไม่มีคนคอยช่วยเหลือหรืออยู่ข้างๆ ให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้
หากคุณรู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ การเข้าไปพูดคุยหาคำปรึกษาจากคนรอบข้าง หรือหากคุณเห็นว่าคนรอบข้างของคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะความเครียด การที่คุณเข้าไปคอยพูดคุย หรือให้คอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ เขา เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เขาลดความเครียดลงไปได้ไม่น้อยเลยที่เดียว เเละหากคุณบอกว่าคุณไม่มีใครที่สามารถคอยรับฟังปัญหาของคุณได้ การหยิบสมุดขึ้นมาเเล้วเขียนระบายความรู้สึก ความเครียดวิตกกังวลต่างๆ นานา ที่ทำให้คุณไม่สบายใจ ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความเครียดเเละเพิ่มความสบายใจให้คุณได้ดีเเพ้กัน
ดังนั้น อะไรที่น้อยเกินไป มากเกินไป ไม่มีความสมดุล นั่นเเปลว่าคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะความเครียด ส่วนจะมากน้อยเพียงใดพฤติกรรมของคุณจะเป็นบ่งบอกว่าสามารถดูเเลผ่อนคลายให้ห่างหายจากความเครียดนี้เองได้ หรือควรไปพบเเพทย์เพื่อเป็นปรึกษาขอความช่วยเหลือ