รูปบทความ สวนสาธารณะ vs พื้นที่สีเขียว ต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เราต้องการ

สวนสาธารณะ vs พื้นที่สีเขียว ต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เราต้องการ

การเข้ามาอาศัยในเมืองกรุงแห่งนี้อย่างหนึ่งที่เราต้องทำใจเอาไว้คือการต้องอยู่ไกลธรรมชาติออกมา แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะต้องได้ทำใจ เพราะทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะได้อยู่ใกล้ธรรมชาติเท่าๆ กันแต่ด้วยการเติบโตของเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว กลืนกินธรรมชาติที่ควรจะได้อยู่ข้างเราไปกันหมด


วันนี้เราจึงมาดูธรรมชาติที่ยังได้อยู่รอบตัวเราทั้ง 2 ประเภทที่สำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสวนสาธารณะได้แบ่งประเภทเอาไว้ พร้อมกับเหตุผลว่าเราต้องการธรรมชาติประเภทใดมากกว่ากัน


นิยามที่แตกต่างของสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียว

ประเภทที่ 1 เรียกกันว่า สวนสาธารณะ

ขึ้นชื่อว่า “สวน” เราสามารถนิยามได้ง่ายๆ ว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ อาจจะเอาไว้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการสร้างทัศนียภาพให้กับเมืองด้วย


อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนสาธารณะในกรุงเทพมีกี่ประเภทและมีเท่าใดบ้างที่นี่เลย 7 ประเภทสวนสาธารณะเป็นอย่างไร เรามีอยู่เท่าใดกันแน่


ประเภทที่ 2 เรียกกันว่า พื้นที่สีเขียว

หากให้คำนิยามของประเภทนี้ คงต้องเป็นสิ่งที่เป็นพื้นที่ที่มีสีเขียวจริงๆ อย่างเช่นสนามหญ้า หรือที่ว่าง รกร้าง เป็นสีเขียวที่อาจจะสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้ให้คนทั่วไปเข้าใช้บริการได้ฟรีเหมือนกับสวนสาธารณะนั่นเอง


อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพื้นที่สีเขียว ที่ได้รับการนิยามเอาไว้ในแต่ละประเภทพร้อมกับจำนวนที่กรุงเทพมีอยู่ได้ที่นี่ ทำความรู้จักกับพื้นที่สีเขียวที่ไม่ใช่สวนสาธารณะ อะไรบ้างที่เป็นปอดให้เราได้


คุณค่าที่ไม่เท่าเทียมระหว่างสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียว

แม้พื้นที่ทั้งสองจะเป็นธรรมชาติที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกพื้นที่สีเขียวที่เป็นที่ต้องการ เช่นพื้นที่ว่างหรือที่รกร้างที่นอกจากมีต้นไม้ปกคลุมเต็มที่แล้ว ก็ไม่ได้รับการพัฒนาให้มีประโยชน์อื่นใดอีก ผิดกับสวนสาธารณะที่ไม่ว่าจะมีกี่ที่ ก็ยังไม่เพียงพอกับคนเมือง


เพราะพื้นที่สีเขียวที่ต้องการ ไม่ใช่แค่ช่วยผลิตอากาศที่บริสุทธ์ แต่ยังช่วยให้สุขภาพกายและใจของเราดีขึ้น


แต่หากจะถามถึงสิ่งที่คนเมืองต้องการกันอย่างแท้จริงในเวลานี้ คงต้องบอกว่าเป็นพื้นที่ปอดที่ช่วยกรองอากาศและผลิตอากาศบริสุทธิ์ ขณะเดียวกัน ก็สามารถเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้สามารถทำกิจกรรมผ่อนคลายความตึงเครียดของเมืองใหญ่ เช่น ความรีบเร่ง การเผชิญมลภาวะหรือมลพิษต่างๆ ได้


ประโยชน์ของสวนสาธารณะ

ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยเอสเส็กซ์ พบว่าการเดินเล่นในสวนสาธารณะสามารถช่วยให้คลายความเครียดลงได้โดยสมาชิกร้อยละ 71 มีรายงานว่าภาวะซึมเศร้าลดลง และร้อยละ 90 บอกว่ารู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้น หากเทียบกับการเดินห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าซึ่งมีสมาชิกเพียงร้อยละ 45 บอกว่าภาวะซึมเศร้าลดลง แต่อีกร้อยละ 22 กลับบอกว่าซึมเศร้ามากขึ้น และร้อยละ 50 บอกว่ารู้สึกเครียดมากขึ้นอีก


ช่วยลดความเครียดได้

จากการเก็บข้อมูลของประเทศเบลเยี่ยมได้มีผลออกมาว่าการเดินภายในสวนช่วยลดระดับความเครียดความดันเลือดและลดอัตราการเต้นของหัวใจให้ผ่อนคลายขึ้นได้ ผิดกับการเดินเล่นในเมือง นอกจากนี้ยังมีการศึกษาผลการเดินเล่นในสวนซึ่งอาจช่วยรักษาโรคมะเร็งได้


ช่วยให้เสริมสร้างสุขภาพที่ดี

แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นได้ เพราะเป็นแหล่งที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่น โยคะ ปั่นจักรยาน การเต้นแอโรบิค เหล่านี้ล้วนเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี


ประโยชน์ของสวนสาธารณะนั้นยังมีอีกมากมาย รอให้ทุกคนได้สัมผัสกับความเพลิดเพลินภายในนั้น ซึ่งในแต่ละวันคนมากมายมักจะออกมาใช้บริการสวนสาธารณะกันอย่างคับคั่ง บวกกับปัญหามลภาวะต่างๆ เชื่อว่าคนเมืองทุกคนต่างเฝ้ารอให้มีพื้นที่ว่างหรือพื้นที่สีเขียวสักแห่งได้รับการพัฒนาเป็นสวนสาธารณะมากขึ้นในกรุงเทพและจังหวัดอื่นๆ

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์