How to 9 วิธี อยู่บ้านอย่างไร ไม่ให้เฉา! ในสถานการณ์ COVID - 19

ในช่วงที่ใครหลายคนต้องกักตัวเองอยู่บ้านคนเดียวถึง 14 วัน หรือชาวออฟฟิศทั้งหลายที่ต้องทำงานเเบบ Work from home อยู่บ้านเพียงลำพังวนลูปไป โดยเฉพาะคนที่พักอยู่คนเดียวอยู่เเล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะประสบกับสภาวะเหงา เศร้า เซ็ง เเละเหี่ยวเฉาก่อนใครเพื่อน

คำถามคือเเล้วมันจะมีวิธีการหรือเเนวทางไหนที่จะทำให้เราปรับตัว “ไม่เฉา” กับการอยู่บ้านติดต่อกันในระยะเวลาอันยาวนานนี้ได้

เเน่นอนว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ! เพราะปัญหาเกิดขึ้นมาเพื่อให้เราเเก้ไข ในบทความนี้ Esto+ ก็ได้รวบรวม "9 วิธี อยู่บ้านอย่างไรให้ไม่เฉาห่อเหี่ยวไปถึงหัวใจ" 

1. ตั้งเป้าหมาย

การตั้งเป้าหมายในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง Big Goal ว่าในอีก 3 ปี 5 ปี ชีวิตฉันต้องเป็นอย่างไร เเต่หมายถึง “เป้าหมายเล็กๆ” เเต่สำคัญยิ่งในการใช้ชีวิตให้ก้าวเดินไปข้างหน้าในทุกวันได้อย่างมีความหมาย เเละรู้ว่าทุกเช้าฉันตื่นขึ้นมาเพื่อทำอะไร

นั่นคือการทำ “To do list” เขียนกำหนดออกมาเป็นข้อๆ ว่าในพรุ่งนี้ฉันจะทำอะไรบ้าง เเต่ละวันฉันมีอะไรต้องทำ เเละต้องทำอะไรบ้าง โดยอาจจะเเบ่งเป็นช่วงๆ ช่วงเช้าทำงาน ช่วงบ่ายพักเบรก ทำสิ่งที่ชอบ หรือช่วงเย็นก็อาจจะเป็นการให้อาหารน้อยหมาเเละอยู่เล่นกับน้องหมา เพียงมีเป้าหมายเล็กๆ เเค่ให้รู้ว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง ก็ทำให้เราได้โฟกัสกับสิ่งที่ต้องทำ ไม่มีเวลาให้คิดนั่งเครียดห่อเหี่ยวหัวใจกันเเล้ว 

2. กำหนดเวลาตื่นนอน

เมื่อทำงานที่บ้าน ไม่ต้องตื่นเช้าเดินทางไปออฟฟิศเหมือนทุกวันที่เคยทำ เเน่นอนล่ะว่าเราต้องงัวเงียไม่ยอมตื่น เเถมยังกดปุ่มเลื่อนนาฬิกาปลุกตลอด เเต่หารู้ไม่ว่านี่เเหละ เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จิตใจเราเฉาลงอย่างไม่รู้ตัว เพราะทุกอย่างที่ต้องทำมันเลื่อนออกไปหมด พอทำไม่ทันเวลา เอาล่ะ! ความเครียดบังเกิด

หรือถึงเเม้จะเป็นในช่วงวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ก็ตาม การที่เราคิดว่าตื่นสายก็ได้ "I don’t care" ยิ่งเป็นการทำให้เราใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดอย่างเอื่อยเฉื่อย ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีชีวิตชีวา เเละเหลือเวลาอันน้อยนิดที่จะทำสิ่งดีๆ ให้กับตัวเราเอง 

3. อาบน้ำ เเต่งสวย พร้อมชมตัวเองในทุกวัน

ตื่นเช้าลุกขึ้นมาอาบน้ำ พร้อมเเต่งสวย ใช่ค่ะ เเต่งสวย! ถึงเเม้เราจะไม่ได้ออกไปทำงานหรือไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เเต่ไม่ได้หมายความว่า “อยู่อบ้านจะเเต่สวยไม่ได้!” เพราะการที่สาวๆ หรือ หนุ่มๆ เเต่งตัวสวยหล่อนั้น ทำให้ตัวเราเองนั้นรู้สึกกระปี้กระเป่า เเฮปปี้รับเช้าวันใหม่ พร้อมเริ่มทำสิ่งดีๆ ในเเต่ละวัน

เเละที่สำคัญอย่าลืม “ชมตัวเองทุกวัน” ถ้าไม่รู้จะชมว่าอะไร เเค่ยืนมองกระจกเเล้วพูดว่า วันนี้สวยจังนะ วันนี้ทำไมหล่อจัง เเค่นี้ก็เป็นการก่อความสุขเล็กๆ ให้กับจิตใจเราเเล้วล่ะ ไม่เชื่อก็ลองทำตามดู 

4. Face time หาเพื่อน

ถึงเเม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เเต่ใช่ว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้เสียทีเดียว เพราะด้วยความทันสมัยของนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยนี้ ถึงเเม้ตัวจะอยู่ใกลกัน เเต่ก็ให้ความรู้สึกว่าอยู่ด้วยกัน ด้วยการ Face time หรือ วีดิโอคอลหากัน พูดคุย หยอกล้อ หรือหากิจกรรมเล่นด้วยกันผ่านการวีดิโอคอล เช่น เกมทายคำ หรือเกมออนไลน์ต่างๆ ก็ทำได้ เเค่ต่างคนต่างสถานที่เท่านั้นเอง

5. พักเบรกระหว่างวัน อย่างละนิดอย่างละหน่อย

หากในวันที่ต้องทำงาน การมีเวลาพักเบรกให้ตัวเองระหว่างวันบ้าง ทานขนมที่ชอบ พักฟังเพลงที่ใช่ เพื่อพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ เเละให้เราได้ผ่อนคลาย พัก 10 - 30 นาที เป็นช่วงๆ ไปอย่างละนิด ให้เราได้ละความเครียดจากงาน เเละความเหงาจากการทำงานที่ห้องคนเดียวเพียงลำพัง ได้เเฮปปี้กับสิ่งที่ชอบ

6. สภาพเเวดล้อมนั้นสำคัญ

การจัดมุมห้องเเละมุมทำงานเสียใหม่ เเต่งเติมสีสันด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ พร้อมกับความเป็นระเบียบเรียบร้อย จะทำให้เรารู้สึกสดชื่น เเฮปปี้ ได้อย่างไม่รู้ตัว หรือบางคนอาจถึงขั้น Alert ได้ทั้งวัน เเค่ปรับจับระเบียบห้องให้เป็นสัดส่วน เปิดให้เเสงธรรมชาติได้เข้าถึง เป็นความสุขเล็กๆ ที่อาจทำให้เราสุขได้ทั้งวัน 

7. ทานอาหารที่ดีเเละเมนูโปรด

การได้ทานอาหารจานโปรด เเน่นอนล่ะว่าเราต้องมีความสุขสุดขีด เพราะมันคือสิ่งที่เราชอบ เเละหากจานนั้นเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพด้วยเเล้วล่ะก็.. มันจะเหมือนเป็นการบอกรักตัวเราเอง ว่าฉันทานสิ่งนี้เพื่อเธอนะเจ้าร่างกาย มันจะทำให้เรารู้สึกเฟรช กระปี้กระเป่า เพราะได้สิ่งดีๆ เข้าไปในร่างกาย อีกนัยหนึ่งก็เหมือนเราได้ทำเพื่อตัวเอง เเล้วเราก็จะเกิดความภูมิใจเล็กๆ ในตัวเองอีกด้วย 

8. เติมความรู้ พัฒนาตนเอง

ข้อนี้ถือเป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถาการณ์ไหน “การหมั่นเติมความรู้” ให้เราได้พัฒนายิ่งขึ้นกว่าเดิม เพิ่ม Skill (ทักษะ) อย่างไม่หยุดหย่อน เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ อาจไม่ต้องทุ่มเเรงอย่างหักโหม เเต่ค่อยๆ ทำวันละนิดทีละหน่อย เเต่ทำเรื่อยๆ สม่ำเสมอ เมื่อเรามีความรู้เท่าคนอื่นที่เก่งๆ หรืออาจมีมากกว่า มันก็เป็นอะไรที่ทำให้เรา เกิดความภูมิใจในตนเอง เเละในอนาคตก็อาจได้รับการชื่นชมจากอื่น เเค่ได้ยินเสียงคนชมเล็กๆ ก็ทำให้มีความสุข เเละอยากพัฒนาตนเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก จริงไหม? 

9. อัปเดตข่าวสารก่อนนอนอย่างมีสติ

ทำไมต้องให้อัปเดตข่าวสารก่อนนอน ก็เพราะว่าสำนักข่าวเขาได้สรุปเเละรวบรวมข้อมูลข่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนั้นๆ ไว้เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว เเละข่าวก่อนนอนนั้น ย่อมเป็นข่าวเท็จจริง ไม่ปลอมเเปลงหรือบิดเบือนเเน่นอน เพราะมีเวลาตรวจเช็ค เเละการกลั่นกรองเนื้อหาข่าวมาเป็นอย่างดีเเล้วนั่นเอง

ในสถานการณ์ที่โรคร้าย COVID - 19 กำลังระบาดอยู่นี้ เป็นข้อจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราทุกคนต้องเว้นระยะห่างกัน ไม่มีการพบปะหรือชุมชุมกันได้เหมือนเคย เเต่กลับต้องอยู่ติดกับบ้าน เเละข้อนี้เองที่อาจเป็นสาเหตุให้เราตกอยู่ในสภาวะเบื่อ เศร้า เหงา เซ็ง เหี่ยวเฉา ไม่มีชีวิตชีวา ฉะนั้นการที่เรารู้ทันเเละเริ่มปรับตัวก่อน “การอยู่บ้านคนเดียว” ก็อาจกลายเป็นเรื่องขี้ปะตี๋ว ไม่ทำให้ห่อเหี่ยวหัวใจอีกต่อไป