สะสมมากว่า 100 ปีกับปัจจัยหลักที่ทำให้โลกฟื้นตัวได้ยาก
14 February 2563
การฟื้นฟูโลกยังคงเริ่มขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเรายังไม่สามารถหาวิธีแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนกันได้ แต่ความเสียหายที่ทำให้โลกยังคงเกิดขึ้นทุกวัน และสองส่วนนี้ยังไม่สามารหักล้างกันและกันได้เลย การฟื้นฟูที่ไปอย่างช้าๆ นี้จึงทำให้เราหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของมหันตภัยมากมายที่จะเกิดขึ้นไม่ได้
อย่างที่ได้นำเสนอไว้ใน รวมเหตุการณ์ที่บอกวิกฤตโลก ทั้งการละลายของน้ำแข็ง น้ำท่วม ไฟป่า พายุรุนแรง ทุกอย่างยังจะเกิดขึ้นอีกและมีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามระดับอุณหภูมิของโลกที่ไต่ระดับขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
เราจะทั้งขาดแคลนน้ำ และเจอน้ำท่วมได้ในปีเดียวกัน
วันนี้ Esto จึงพามาดูว่ามีตัวแปรอะไรบ้างที่ทำให้เราไม่สามารถทำการฟื้นฟูโลกให้ได้เร็วอย่างที่ต้องการ พร้อมกับวิธีการหลักในการแก้ปัญหาที่เราต้องทำความเข้าใจ หากต้องการฟื้นฟูโลกให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
ปัจจัยที่ทำให้แก้ปัญหาได้ยาก
ประชากรโลกที่มากเกินไป
ตั้งแต่เกิดยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมขึ้นมา ผู้คนก็เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งพบกับความสะดวกสบายและการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากขึ้นทำให้จำนวนยิ่งเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรมากตามไปด้วยซึ่งการจะควบคุมปริมาณทรัพยากรธรรมชาติรายบุคคลเป็นเรื่องละเอียดซึ่งทำได้ยากมาก
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นสิ่งที่ตามมาคือ การสร้างมลพิษและภาระต่างๆ ให้กับโลกก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลก(GFN หรือ Global Footprint Network)ได้เคยรายงานว่า หากจะสร้างโลกที่มีทรัพยากรมากพอจะรองรับการใช้งานที่รวดเร็วของคนได้ ต้องมีโลกจำนวน 1.75 ใบ เลยทีเดียว
การบริหารทรัพยากรที่ไม่ยั่งยืน
การบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เป็นหลักการเบื้องต้นของเศรษฐศาสตร์ แต่เป็นเรื่องพูดง่ายที่ทำยาก ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้เลย ถึงอย่างนั้นก็ตามเรายังเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ขาดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและชาญฉลาด ทำให้เรามีส่วนที่เสียอยู่มากกว่าส่วนที่ได้มา เพราะประโยชน์ที่ได้อยู่กับเราไม่นานเท่าผลเสียที่ตามหลอกหลอนเราอยู่ตอนนี้
การใช้ชีวิตด้วยความเคยชิน
เพราะผู้คนยังตีมูลค่าของเวลาและเงินทองมากกว่าสิ่งแวดล้อมของโลกใบนี้
ลงมาที่ระดับสังคมและระดับบุคคล การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ที่ต้องเร่งรีบการใช้ของแบบครั้งเดียวทิ้งเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยากมาก สิ่งที่นำเข้ามาทดแทนได้ก็ยังมีมูลค่าสูงเกินกว่าจะนำมาเป็นตัวเลือก นั่นทำให้เป็นเรื่องยากที่การลดปริมาณขยะและหมุนเวียนทรัพยากรจะเกิดขึ้นได้
การแก้ปัญหาหากต้องการฟื้นฟูโลกให้ได้
การรักษาระบบนิเวศตามธรรมชาติ
ความจริงแล้วโลกของเรามีกลไกการฟื้นฟูตัวเองอยู่แล้วโดยอัตโนมัติ แต่กลไกนั้นถูกรบกวนโดยมนุษย์ทำให้การฟื้นฟูเกิดขึ้นช้าลงเรื่อยและไม่ทันกับการทำลายสิ่งแวดล้อมของเราในที่สุด เราจึงต้องเผชิญกับวิกฤตอากาศเปลี่ยนแปลงนี้นั่นเอง
หากเราร่วมกันฟื้นฟูระบบนิเวศตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ทะเล ท้องฟ้า ให้สามารถอยู่ร่วมกับเราได้อย่างยั่งยืนและมีปริมาณที่พอเพียงสำหรับการฟื้นฟูแล้ว โลกก็จะค่อยๆ รักษาตัวเองให้ดีขึ้นได้
การหมุนเวียนทรัพยากรอย่างยั่งยืนและเข้าถึงความเป็นจริง
การรักษาระบบนิเวศให้โลกฟื้นฟูตัวเองได้เต็มที่อาจจะไม่เร็วพอที่จะเกิดภัยพิบัติมาล้างเผ่าพันธุ์ของเรา ดังนั้นอีกสิ่งที่สำคัญคือการปฏิรูปรูปแบบการดำเนินชีวิตในระดับบุคคลให้แต่ละวันมีการหมุนเวียนทรัพยากรเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำ ใช้พลังงานด้านใดก็ตามซึ่งในส่วนนี้อาจจะต้องพึ่งภาครัฐและเอกชนเข้ามาให้ความร่วมมือ นับเป็นโปรเจคที่ต้องทำร่วมกันทั้งประเทศ แต่หากเราสามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้ชีวิตทุกคนได้ถึงระดับนั้นแล้ว ก็เป็นเรื่องของเวลาที่เราจะได้เห็นผลกันต่อไปแล้วล่ะ
หากเราเดินหน้าแก้ไขเพื่อฟื้นฟูโลกกันอย่างจริงจัง เชื่อว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแม้จะต้องใช้เวลาและตัวเราจะมองไม่เห็นชัดเจนแต่อนาคตก็ย่อมเป็นสิ่งที่น่าจดจำและน่าภูมิใจกันอย่างแน่นอนที่เราได้มีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้นให้กับคนรุ่นหลังได้ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นเราต้องเริ่มก้าวแรกที่ตัวเราก่อน เชื่อว่าทุกคนสามารถตามหาวิธีช่วยโลกในแบบยั่งยืนของตัวเองได้แน่นอน
อ้างอิง
บทความที่น่าสนใจ
เรื่องของหลอดไฟ เพิ่มแสงสว่างในปีใหม่ให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น
เปลี่ยนคอนโดของคุณให้เป็นคอนโดรักษ์โลก ด้วยการเลือกใช้วัสดุสังเคราะห์
แต่งห้องให้สวยอย่างรักษ์โลกด้วย Upcycling
จากแนวคิด Zero waste สู่ เฟอร์นิเจอร์รักษ์โลก ช่วยลดปัญหาขยะและมลพิษ
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการปิดไฟ 1 ชั่วโมง ...ช่วยโลกได้อย่างไรบ้าง ?