รวมวิธีปกป้องโลกแห่งการพักผ่อนของคุณจาก PM 2.5
27 March 2562
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 กำลังเป็นปัญหาหนักอกคนเมือง เพราะเมื่อเราออกไปข้างนอกก็ต้องเผชิญมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อเราอยู่ในห้องพักล่ะ มั่นใจได้แค่ไหนว่าจะปลอดภัยจากฝุ่นที่มองไม่เห็นเหล่านี้
หากเราจะป้องกัน ก็ต้องรู้ก่อนว่ามันไปไหน
PM 2.5 ตัวนี้มีขนาดเทียบเท่ากับ 1 ใน 25 ของเส้นผ่าศูนย์กลางเส้นผมหรือเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หากลองนึกภาพเส้นผมที่กำลังร่วงลงพื้นยังตกลงอย่างช้าๆ ฝุ่นตัวนี้ก็จะตกลงช้ากว่ามาก เพราะมีปัจจัยอย่างอากาศคอยพามันเคลื่อนที่ล่องลอยอยู่ตลอดเวลา บางครั้งฝุ่นพวกนี้อาจจะไม่ตกพื้นที่เลยนานถึง 20 ปี ดังนั้นหากจะศึกษาการเคลื่อนที่ของฝุ่น เราแค่ต้องทำความเข้าใจเรื่องการเคลื่อนที่ของอากาศ
เมื่ออากาศเย็น
อากาศที่เย็นกว่ามักเคลื่อนตัวลงต่ำเพราะมีความหนาแน่นมากกว่า ซึ่งเราจะสังเกตได้ในตอนเช้าเมื่อเปิดผ้าม่านชมวิวเมือง เราก็จะเห็นเหมือนหมอกลง เป็นเพราะช่วงนั้นอากาศจะพาฝุ่นละอองเคลื่อนตัวลงต่ำมากกว่าจะขึ้นสูงที่อากาศจะร้อนกว่า เช่นเดียวกันกับตอนเย็นที่อากาศเริ่มเย็นลงอีกครั้งของวัน หากเรามองไปบนฟ้าก็จะสามารถมองเห็นฝุ่นลอยสูงกว่าหัวเราไปไม่มากนัก มองด้วยตาเปล่าก็ยังแยกออก
เมื่ออากาศร้อน
ขณะที่ช่วงอากาศร้อนอย่างเวลากลางวัน พระอาทิตย์ส่องลงสู่พื้นดินตรงๆ แต่อากาศข้างบนกลับเย็นกว่าข้างล่างเพราะเป็นความร้อนที่สะท้อนจากสิ่งของรวมตัวกันที่พื้นทำให้ความดันต่ำกว่า อากาศเริ่มขยายตัวดันฝุ่นขึ้นด้านบน บวกกับอากาศบ้านเราเป็นแบบร้อนชื้น ดังนั้นช่วงเวลากลางวันฝุ่นจึงมีน้อยกว่า หากมองออกนอกหน้าต่างช่วงกลางวันจึงรู้สึกว่ามีหมอกฝุ่นที่บางกว่าช่วงเช้า
ฤดูหนาวเป็นฤดูที่อันตรายที่สุด
สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะฤดูหนาวเป็นฤดูที่อากาศแห้งที่สุด อากาศจะเคลื่อนตัวบ่อยที่สุด เพราะความดันอากาศต่ำกว่า ทำให้ฝุ่นไม่ถูกดันให้ลอยขึ้นไปข้างบน พอบวกกับอากาศที่แห้งกว่าก็ไม่ทำให้ฝุ่นตกลงพื้น กลายเป็นลอยเต็มไปหมดจนเห็นเป็นหมอก
แล้วแบบนี้ควรเลือกคอนโดชั้นไหนจะดีที่สุด
หากเปรียบเทียบกันแล้วชั้นที่สูงกว่า (ประมาณชั้น 20 ขึ้นไป) น่าจะปลอดภัยกว่า เพราะว่าต้นเหตุของฝุ่นละอองขนาดเล็กในเมืองนั้นมาจากการใช้รถยนต์โดยเฉพาะเครื่องที่ใช้น้ำมันดีเซล นอกจากต้นเหตุเองแล้ว ส่วนที่พัดมาจากสาเหตุอื่นๆ เช่นโรงงานไฟฟ้าเองก็จะฟุ้งอยู่ด้านล่างมากกว่าข้างบนด้วยแรงโน้มถ่วงแม้มันจะไม่น้ำหนักเท่าไรหนัก แต่ในช่วงวิกฤตก็ไม่แนะนำให้เปิดประตูระเบียงรับลมเท่าใดนัก
ไม่เปิดระเบียงรับลมแล้วจะหมุนเวียนอากาศได้อย่างไร
คิดจะเป็นคนเมืองเราได้เรื่องความสะดวกสบายไปอย่างเต็มเปี่ยม มีได้ก็ต้องมีเสีย อย่างเช่นเรื่องมลพิษนี้เอง การเปิดหน้าต่างรับลมเหมือนในหนังไม่ใช่ความสุนทรีอีกต่อไปแล้ว แถมยังกลายเป็นเรื่องอันตรายมากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เราจึงต้องมีตัวช่วยเป็นนวัตกรรมอย่างเครื่องปรับอากาศ ที่เดี๋ยวนี้มีฟังก์ชันเสริมมากมายลองดูเพิ่มเติมได้ที่ รวมนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศ รู้ยัง? เขาทำได้มากกว่านั้นนะ
หรือจะใช้ตัวช่วยอย่างเครื่องกรองอากาศก็นับว่าน่าสนใจเช่นกัน
Air Purifier 2s จาก Xiao mi
แนะนำเครื่องกรองอากาศตัวแรกจากประเทศจีน ประเทศที่เผชิญปัญหาฝุ่นมาอย่างหนักหน่วง งานนี้ไม่เชื่อผู้มีประสบการณ์ไม่ได้แล้ว กับเครื่องกรองอากาศตัวนี้ที่สามารถกรองฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอนได้ แถมสามารถควบคุมและตรวจสอบคุณภาพอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
XPX Air Purifier
สำหรับห้องขนาดเล็กที่ต่ำกว่า 32 ตารางเมตร ขอแนะนำเป็นตัวช่วยตัวนี้ที่สามารถกรองฝุ่นละอองทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 แล้วยังสามารถลดกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างกลิ่นอับภายในห้องอีกด้วย นับว่าเป็นไอเท็มขาดไม่ได้สำหรับตอนนี้เลย
Sharp Air Puriier รุ่น FP-F30TA-A
ชาร์ปนับเป็นแบรนด์ที่เราทุกคนคุ้นเคยกันดี ครั้งนี้เขามาพร้อมกับการทำงานของพลาสม่าแบบเข้มข้น ช่วยสลายสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในอากาศ ดักจับฝุ่นละออง เชื้อราและเชื่อไวรัสที่อยู่ในอากาศได้ ช่วยลดฝุ่นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องได้อย่างยาวนาน ก็นับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
นอกจากเครื่องกรองอากาศจะช่วยคุ้นได้แล้ว ยังมีตัวช่วยจากธรรมชาติที่ราคาไม่แพง ดูแลไม่ยาก ที่สำคัญยังได้ผลในระยะยาวกับสิ่งแวดล้อม นั่นก็คือต้นไม้นั่นเอง
คุณสามารถปลูกต้นไม้ไว้ที่ระเบียงให้อย่างต้นไผ่หรือต้นไม้ที่มีลักษณะสูงโปร่ง ไม่เลื้อยมาตั้งดักฝุ่นละอองเอาไว้ชั้นหนึ่งก็นับเป็นทางเลือกที่นอกจากจะช่วยสิ่งแวดล้อมในระยะยาวยังช่วยห้องคุณได้ทันทีอีกด้วย ส่วนใครที่สนใจอยากได้ตัวช่วยในห้องก็เชิญทางนี้เลย เพิ่มสีเขียวให้ห้องสวยสองต่อกับ 9 ต้นไม้เพื่ออากาศที่ดีในห้องเรา