คำอธิษฐานจากวันนี้สู่อนาคต: ขอให้เรารักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
4 December 2562
จากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมหลายอย่างที่คนกำลังให้ความสนใจอยู่นั้น ได้มีการรณรงค์หลายอย่างให้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้องค์กรปรับวิธีการดำเนินงานโดยเฉพาะแหล่งอุตสาหกรรม ซึ่งแทบจะเป็นการสร้างระบบใหม่ ทิ้งกรอบการทำงานแบบเดิม และแน่นอนว่าแรกเริ่มต้นทุนที่ต้องจ่ายนับว่าไม่น้อยเลย กระทั่งในตัวบุคคลเองก็ตาม
วันนี้ Esto จึงนำเสนอผลของสิ่งที่เรากระทำกันมาหลายยุคกับความเข้าใจของกิจกรรมรักษ์โลกว่าตัวเราสามารถมีส่วนช่วยได้มากแค่ไหนกัน
รักษ์โลกให้ถูก รักลูกหลานเราต้องเปลี่ยน
ในหัวข้อนี้เราจะพูดกันถึงขยะ ถุงผ้า และการรั้งทรัพยากรในมือให้อยู่กับเราได้นานที่สุด เพราะทุกวันนี้ขยะหรือสิ่งที่เราไม่ต้องการ ซึ่งบางส่วนไม่สามารถกลับคืนสู่ธรรมชาติได้นั้นกำลังสร้างปัญหาให้หลายพื้นที่อย่างเลี่ยงไม่ได้
กรุงเทพเราก็เผชิญปัญหาการจัดการขยะไม่ทันเช่นกัน จากปี 2557 เรามีขยะ 9,940 ตันต่อวัน ซึ่งก็นับว่ามากแล้ว แต่ในปี 2561 กลับเพิ่มจำนวนเป็น 10,706 ตันต่อปีเลยทีเดียว ดังนั้นการเลือกวัสดุให้คุ้มค่าต่อการใช้งานและให้ซ้ำได้มากที่สุดจึงกลายเป็นทางออกที่ดีต่อการลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปเผา ฝังกลบ(พลาสติก)
มากที่สุด ต้องมากเท่าไหร่ถึงจะช่วยโลกได้
ความจริงแล้วการใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกจะกลายเป็นเรื่องที่สามารถช่วยโลกได้ก็ต่อเมื่อคุณใช้งานมันมากกว่า 7,000 ครั้งต่อใบ เพราะผ้าเป็นวัสดุที่มีการย่อยสลายได้ยาก เผลอๆ บางชนิดมีการผสมพลาสติกเข้าไปทำให้การย่อยสลายกลับคืนสู่ธรรมชาติเป็นได้ยากกว่าพลากสติก ดังนั้นการใช้ซ้ำเพื่อลดขยะจึงเป็นแนวทางหลักมากกว่าแค่ใช้ถุงผ้าเท่านั้น
หมุนวน หมุนเวียน เจียนจะขาดใจ
สิ่งหนึ่งที่เราต้องเผชิญกันทุกวัน โดยเฉพาะในฤดูอากาศแห้งคือ ฝุ่นและมลพิษที่ล่องลอยอยู่ในอากาศกำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้น ที่สำคัญคือ ปัญหานี้กำลังเป็นวัฏจักรที่เราต้องเผชิญกันทุกปีอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลายประเทศก็ได้ออกมาตรฐาน วิธีการ หรืออะไรก็ได้ที่จะลดปัญหาหรือทำให้มันหายไป ซึ่งเมื่อเราย้อนไปดูจุดที่ต้องแก้ปัญหากันจริงๆ กลับพบว่าไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ในปีสองปีแน่ๆ
จุดที่ต้องแก้ปัญหาหลักอยู่ที่การขาดตัวกรองอากาศ คือเราสามารถสร้างเมืองและเติบโตแบบนี้ได้แต่ต้องมีการสร้างธรรมชาติให้โตควบคู่กันไปด้วย เพราะตัวกรองที่สำคัญของฝุ่นแลความร้อนในวันนี้คือ ต้นไม้นั่นเอง
คำอธิษฐาน ขอให้สักวันหนึ่ง...
ขอให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันอย่างรักษ์โลกได้อย่างเป็นกิจวัตร ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรณรงค์
สิ่งหลักที่เราต้องทำคือการเร่งฟื้นฟูธรรมชาติเพื่อทดแทนสิ่งที่เราใช้ไปกลับคืน และต้องทำกันทุกภาคส่วน ทุกองค์กร และต้องเริ่มตั้องแต่ตัวเราไปด้วย
กระแสการรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมกำลังมาแรง เพราะโลกกำลังแสดงผลการใช้งานของมวลมนุษย์ว่าที่ผ่านมา เราใช้งานกันหนักมากขนาดไหน ดังนั้นเราจึงอยากให้กระแสนี้ไม่ได้เป็นเพียงกระแสแต่เป็นรูปแบบการใช้ชีวิตที่เราคุ้นเคยกัน เพราะการแก้ปัญหานี้ยังต้องทำต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยราว 10 ปีเลย
ที่มา: thebangkokinsight.com
บทความที่น่าสนใจ
Smart Life : Smart Lighting เมื่อหลอดไฟไม่ได้ทำหน้าที่แค่ให้แสงสว่าง
ทำเมืองให้ดูเท่! ด้วย 5 Smart Furniture ริมทางสุดล้ำ ช่วยยกระดับการใช้ชีวิตของคนเมือง
เจาะเทรนด์โลก 2020 : Bio Design ดีไซน์เพื่อโลกสู่วันที่ไม่มีขยะให้ทิ้ง~
Electric Vehicle เราพร้อมขนาดไหนกัน
เมื่อฉันต้องอยู่กับพวกเขา เหล่า PM 2.5 ในวันนี้ ควรทำอย่างไรดี?