ไม่รัก(ษ์)โลกวันนี้ แล้วจะไปรักวันไหน : หาวิธีใช้ชีวิตแบบ ECOLIFE ในสไตล์ชาวคอนโด
30 October 2562
หากใครเล่นโซเชียลอยู่เป็นประจำคงจะเคยเห็นการเคลื่อนไหวของหนูน้อย เกรต้า ทุนเบิร์ก เด็กสาววัย 16 ปีที่ตัดสินใจหยุดเรียนหนังสือทุกวันศุกร์ เพื่อไปประท้วงหน้ารัฐสภาของสวีเดน จนกว่าสภาจะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งการกระทำของเธอส่งผลให้คนทั้งโลกตื่นตัวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่เราได้เห็นข่าวนี้ก็ทำให้นึกย้อนกลับมาถึงพฤติกรรมของตัวเองว่า ในหนึ่งวันเราเผลอทำร้ายโลกด้วยวิธีไหนไปบ้าง? และในฐานะของมนุษย์คนหนึ่งเราจะสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมและไม่ทำร้ายโลกไปมากกว่านี้ได้อย่างไร?
รู้ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมก่อนสาย
ในฐานะที่เป็นมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เราใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ตึกระฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบทุกรูปแบบ เราอาจจะคุ้นเคยกันดีกับการหยิบหรือการใช้สิ่งของที่กลายเป็นขยะกำจัดยาก ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี, ขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เห็นว่าใช้กันอยู่ทุกวันและเป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่ต้องหยิบติดมือกลับบ้านทุกหครั้งหลังเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อนั่นก็คือ "พลาสติก" ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่เรารู้สึกไม่อยากหลีกเลี่ยงการใช้ เพราะมันสร้างความสะดวกสบายให้ชีวิตได้มากมายซะเหลือเกิน
เมื่อความสบายกลายเป็นปัญหาของโลก เราควรจะอยู่เฉยหรือ?
อย่างที่บอกว่าเรารักในความสะดวกสบายจากการใช้ขยะเหล่านี้ แต่รู้หรือไม่ว่าวันๆ หนึ่งเรามีขยะให้กำจัดมากมาย ซึ่งเมื่อดูจากข้อมูลสถานการณ์ขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย โดยกรมควบคุมมลพิษ พบว่าปริมาณขยะเฉพาะในกรุงเทพฯ มีปริมาณ 4.85 ล้านตัน คิดเป็น 17% ของขยะมูลฝอยทั้งประเทศ และมันเป็นปริมาณที่เราไม่สามารถกำจัดได้หมด แน่นอนว่ามันส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ทั้งการที่เราได้เห็นภาพของขยะที่เริ่มถมเต็มพื้นที่ทิ้งขยะ บางส่วนหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อมและปนเปื้อน แถมบางส่วนย่อยสลายกลายเป็นพลาสติกจิ๋วที่มองไม่เห็นและวนกลับมาสู่ร่างกายมนุษย์ตามห่วงโซ่อาหารตามที่เห็นในข่าวอีก
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของเราจึงเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมีน้อยลงได้ง่ายๆ และยิ่งถ้าเราซึ่งเป็นคนที่อยู่อาศัยในคอนโดที่มีจำนวนเพื่อนบ้านอยู่หลายครอบครัวด้วย การใส่ใจในสิ่งแวดล้อมจะส่งผลให้พื้นที่โดยรอบคอนโดของเราสะอาดและน่าอยู่ได้มากยิ่งขึ้น
ใช้ชีวิตแบบ ECOLIFE ตามสไตล์ชาวคอนโด
Eco life Doing ว่าด้วยการแยกขยะให้ถูกวิธี
เรียกว่าเป็นการช่วยโลกที่ทำได้ง่ายที่สุด แต่เราก็เลือกที่จะละเลยไปมากที่สุดเช่นกันกับการ 'คัดแยกขยะ' อย่างถูกวิธี นั่นก็เป็นเพราะเราไม่รู้ว่าจะคัดแยกขยะไปทำไม? แยกแล้วจะดีต่อโลกอย่างไร? ซึ่งวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันเราแยกขยะไปทำไม?
ปกติแล้วเราจะแยกขยะออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
- ขยะเปียก เศษอาหารต่างๆ ใบไม้ ที่ย่อยสลายได้
- ขยะย่อยสลายไม่ได้ ไม่มีพิษ แต่เปื้อนอาหาร เช่น โฟม ฟอล์ย ถุงพลาสติก ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- ขยะรีไซเคิล ขยะยังใช้ได้ เช่น กระดาษ แก้ว พลาสติก โลหะ
- ขยะมีพิษอันตราย เช่น ขวดยา หลอดฟลูออเรสเซนต์ ถ่านไฟฉาย กระป๋องสเปรย์ ยาฆ่าแมลง ฯลฯ
จะเห็นว่าขยะแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและมีอันตรายที่มาก-น้อยต่างกัน ลองคิดง่ายๆ ว่า ถ้าเรานำขยะสามประเภทแรกที่อาจนำไปย่อยสลาย รีไซเคิล หรือนำไปทำปุ๋ยมาทิ้งรวมกับขยะมีพิษ ผลที่เกิดต่อมาจะเป็นอย่างไร?
แน่นอนว่าขยะเหล่านั้นจะกลายเป็นขยะอันตรายด้วยทันที! ซึ่งนั่นจะทำให้ปริมาณขยะมีเพิ่มขึ้น กำจัดได้ยากขึ้น ส่งผลให้เราต้องใช้งบประมาณในการกำจัดขยะที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน
และเมื่อกำจัดได้ยาก ใช้งบมากก็ย่อมส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมไปเรื่อยๆ และนั่นก็จะวนลูปกลับมาทำร้ายตัวเราอีกรอบเป็นวัฏจักร ซึ่งเริ่มต้นมาจากการที่เราไม่รู้จักการคัดแยกขยะนั่นเอง
Eco life hacking ว่าด้วยการลดปริมาณขยะทำได้ด้วยมือเรา
อย่างแรกที่เราต้องทำเลยนั่นก็คือการ ลด ละ เลิก การใช้วัสดุที่ก่อให้เกิดขยะทำลายยาก โดยเริ่มได้จากเรื่องใกล้ตัวเลยนั่นคือ การลด ละ เลิก ใช้ถุงพลาสติก โดยเราจะเห็นการรณรงค์เพื่อเรื่องนี้กันอยู่เป็นประจำ แต่จะได้ผลหรือไม่อาจจะขึ้นอยู่กับความตั้งใจของแต่ละคน
ซึ่งในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์น่ารักๆ ที่ออกมาสนับสนุนการรณรงค์และกระตุ้นให้เรารู้สึกว่าอยากจะตั้งใจลด ละ เลิกที่จะใช้พลาสติกกันมากขึ้นโดยที่เราสามารถหาซื้อกันได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ขวดน้ำพกพา แก้วกาแฟ หลอดสแตนเลส หรือการใช้กล่องข้าวแทนโฟม สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นการรักษาสิ่งแวดล้อม หรือจะกระโดดไปสู่ขั้นแอดวานซ์เลยด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์จากสิ่งแวดล้อม เช่น สบู่, เครื่องสำอางค์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, แปรงสีฟันจากเส้นใยธรรมชาติ เป็นต้น
Eco life Finding เปิดให้ไลฟ์สไตล์ได้สัมผัสการรักสิ่งแวดล้อมแบบเต็มรูปแบบ
หลังจากเรามีบรรจุภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เราเป็นคนแบบ Eco life แล้ว คราวนี้เราลองมาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้รักษ์โลกแบบเต็มขั้น ด้วยการตามหาและสนับสนุนการใช้สินค้าที่ปราศจากพลาสติกกันดูสักครั้ง ซึ่งในไทยของเราก็มีร้านสะดวกซื้อที่อำนวยความสะดวกในด้านนี้หลากหลายที่ ยกตัวอย่างเช่น Refill Station “ ปั๊มน้ำยา ” เป็นโซนสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ภายในร้าน Better Moon café ในย่านใจกลางเมืองอย่างซอยสุขุมวิท 77/1 โดยโซนนี้จะจำหน่ายน้ำยาต่าง ๆ ที่ใช้ในบ้านอย่างแชมพู ครีมทาผิวสูตรต่าง ๆ น้ำยาล้างจาน รวมไปถึงวัตถุในการทำอาหารบางอย่างวางเรียงรายไว้รอให้ทุกคนมาเติมใส่ขวดที่พกมาเองกลับไปได้
Refill Station
ที่ตั้ง : ซอยสุขุมวิท 77/1 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เวลา : เปิดทุกวัน 8.00 – 22.00
ข้อมูลจาก : facebook.com/refillstationbkk
หรือถ้าใครอยู่ทางฝั่งโซนพระราม 9 ก็อาจจะลองแวะนำขวดเปล่ามาเติมที่ ZeroMoment Refillery ร้านที่มีจำหน่ายทั้งน้ำยาต่าง ๆ ที่ใช้ในบ้านอย่างน้ำยาทำความสะอาดสูตรต่าง ๆ น้ำยาซักผ้า สบู่เหลวสูตรธรรมชาติ ครีมทาผิว ผงขัดตัว รวมไปถึงธัญพืชและวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ในครัวเรือน เรียกว่า มาที่เดียวเหมือนมาเดินชอปปิงในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เราสามารถเลือกเติมเท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่บรรจุภัณฑ์ที่เราพกมา
ZeroMoment Refillery
ที่ตั้ง : ซอยพระรามเก้าซอย 41 ด้านหลัง The Nine พระรามเก้า
เวลา : เปิดทุกวัน 10.00 – 19.00
ข้อมูลจาก : facebook.com/zeromomentrefillery
จะเห็นว่า EcoLife เป็นไลฟ์สไตล์ง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ ก็หวังว่าจะเป็นการช่วยเหลือและสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวคอนโดทั้งหลายอยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซะใหม่ให้รักษ์โลก รักสิ่งแวดล้อมกันง่ายๆ ด้วยสองมือเรา
เปลี่ยนเรา = เปลี่ยนโลก
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- จากแนวคิด Zero waste สู่ เฟอร์นิเจอร์รักษ์โลก ช่วยลดปัญหาขยะและมลพิษ
- เปลี่ยนโลกให้น่าอยู่กับเทรนด์ Zero Waste เซ็ตขยะบนโลกให้กลายเป็น 0
- รวมกิจกรรมพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่สามารถทำได้แม้อยู่ในห้องคอนโด
- เคล็ดเลือกซื้อที่อยู่อาศัยให้ไม่ตกเทรนด์ ด้วย 4 นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้