YOLO: รวมวิธีบำบัดความเครียด เรียกความสนุกกลับมาอีกครั้ง
20 September 2562
You only live once. เพราะคุณมีชีวิตแค่ครั้งเดียว
“YOLO” ไหนใครบ้างไม่เคยได้ยินคำนี้ คำนี้เป็นคำที่ใช้เรียกกับกลุ่มคนที่เชื่อว่าชีวิตของพวกเค้านั้นมีแค่ชีวิตเดียว พวกเขาเกิดมาครั้งเดียวเท่านั้น ตลอดเวลาที่เหลืออยู่จงใช้ชีวิตให้เหมือนกับว่าเป็นวันสุดท้าย อยากทำอะไรให้ทำเสียก่อนจะไม่มีโอกาสอีกนั่นเอง เป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า “You Only Live Once” แปลว่า คุณมีชีวิตอยู่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
คนเราเกิดมาย่อมมีความทุกข์และสุขปะปนกันไป เป็นเรื่องจริงที่ไม่สามารถเถียงได้ แต่เมื่อเราทุกข์ แทนที่จะนั่งเล่นเอมวีกอดเข่าน้ำตาไหลอยู่คนเดียวในห้องคอนโด แล้วเอาแต่คิดว่าฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันไม่สามารถมีความสุขได้อีกแล้ว ให้เปลี่ยนความคิดใหม่เป็น วันนี้ฉันทุกข์ ฉันท้อและถอยออกมาเพื่อพักและชาร์จพลังชีวิต วันพรุ่งนี้ฉันจะยิ้มและหัวเราะมีความสุขให้มากกว่าเดิม
ลองคิดดูว่าช่วงชีวิตที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยจะมีความสุขตลอดเวลาเลยสักครั้ง แล้วก็ไม่เคยต้องร้องไห้ฟูมฟายทุกวินาทีเลยเช่นกัน เรามีความสุขกับทุกข์ปะปนกันตลอดเวลาแล้วเราก็ผ่านมันมาได้ด้วย ช่างเก่งอะไรขนาดนี้นะ เมื่อเป็นแบบนั้นแล้วเราจะปล่อยให้ปัญหาที่เรากำลังเสร้างความทุกข์ให้เราอยู่ในตอนนี้ หยุดชีวิตเราไว้แค่นี้งั้นหรือ แบบนั้นคุณความสุขที่รอเราอยู่ในวันพรุ่งนี้ต้องงอนเอาแน่ๆ
ในซีรีส์บทความ YOLO หัวข้อนี้ Esto ขอนำทุกท่านพบกับวิธีต่อสู้กับความทุกข์ที่กำลังเผชิญ และปัดเป่ามันให้หายออกไปจากชีวิต เพื่อให้เราสามารถก้าวข้ามผ่านความทุกข์ ความเครียด แล้วเปิดประตูออกไปใช้ชีวิตในโลกกว้างพร้อมกับความสุขได้อีกครั้ง
หายใจเข้าลึกๆ
วิธีนี้เป็นวิธีพื้นฐานที่จะช่วยต่อสู้กับควาเครียด เพราะเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและเร็วที่สุด เมื่อเราเริ่มรุ้สึกว่าเครียด ให้ลองหายใจเข้าลึกๆ นั่งในท่าที่สบาย หลับตาลง เอามือประสานกันไว้บริเวณท้อง ค่อยๆ หายใจเข้าพร้อมกับนับเลข 1 ถึง 4 เป็นจังหวะช้าๆ ให้มือรู้สึกว่าหน้าท้องพองขึ้น จากนั้นกลั้นหายใจไว้ชั่วครู่ นับ 1 ถึง 4 เป็นจังหวะช้าๆ เหมือนกับตอนหายใจเข้า แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก โดยนับ 1 ถึง 8 จนลมออกหมดแล้วหน้าท้องแฟ่บลง และทําาซ้ำอีก โดยให้ช่วงที่หายใจออกนานกว่าช่วงที่หายใจเข้าควรทําติดต่อกันประมาณ 4-5 ครั้ง และควรทําทุกครั้งที่รู้สึกเครียด
เพราะเมื่อเกิดความเครียด เราจะหายใจถี่เร็วยิ่งขึ้นโดยบางครั้งเราจะไม่รู้ตัว อาจทําให้ได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงไม่เพียงพอได้เลย การฝึกหายใจเข้าออก โดยใช้กล้ามเนื้อกระบังลมจะช่วยให้สามารถสูดอากาศเข้าปอดได้มากขึ้นและควบคุมให้หัวใจเต้นช้าลง สมองแจ่มใสและคิดอะไรออกมากขึ้น เพราะได้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
การนั่งสมาธิ
จริงๆ แล้วการนั่งสมาธินี้ช่างมีประโยชน์กับร่างกายและจิตใจเราเสียเหลือเกิน และยังเป็นวิธีที่ได้ผลดีในการบําบัดความเครียด เพราะการนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ และปล่อยหัวสมองให้ว่างเปล่านั้น เป็นวิธีการรีเฟรชตัวเองที่ดีมาก เป็นการจัดระเบียบการหายใจใหม่ และช่วยให้เรามีสติ โฟกัสอยู่กับปัญหา ทำให้วิธีแก้ปัญหาปรากฏในหัวเราได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หลักการทําสมาธิก็คือ การเอาใจไปจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียวด้วยการใช้วิธีนับลมหายใจเป็นหลัก เริ่มต้นจากการนั่งในท่าที่สบายจะนั่งขัดสมาธิ นั่งพับเพียบ หรือนอนก็ได้ จากนั้นให้หลับตาแล้วหายใจเข้าออกช้าๆ เริ่มทําาสมาธิด้วยการนับลมหายใจเข้า 1 หายใจออก 1 นับไปเรื่อยๆ จนถึง 5 ต่อจากนั้น ให้เริ่มนับ 1 ใหม่ จนถึง 6 แล้วกลับไปเริ่มต้นใหม่จนถึง 7 ทําเช่นนั้นไปเรื่อยๆ จนครบ 10 ถือเป็น 1 รอบ
หัวเราะออกมาดังๆ
ฟังดูแล้วอาจจะดูบ้าไปหน่อย ให้ลองหาตัวช่วยอย่างเช่นหาอะไรตลกๆ ดู หรือหากมีเพื่อนที่ความสามารถพิเศษในการเสกทุกสิ่งรอบตัวให้กลายเป็นเรื่องตลกได้ ให้รู้ไว้เลยเขาคือคนที่ควรจะต่อสายตรงไปหาอย่างเร่งด่วน แล้วตะโกนดังอัดโทรศัพท์ไปว่า ช่วยด้วย!
อย่าพึ่งคิดว่าการหัวเราะมันไม่สามารถช่วยได้จริงๆ หรอก เพราะการหัวเราะนั้นช่วยลดความเครียดได้จริงๆ โดยทางวิทยาศาสตร์ได้อธิบายไว้ว่า การหัวเราะช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ร่างกายหลั่งออกมาตอนเครียด และยังช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุขได้อีกด้วย
แต่ไม่จำเป็นว่าเราต้องฝืนหัวเราะให้กับทุกเรื่องในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย เพราะบางครั้งในเวลาที่เราอยากจะร้องไห้ จงร้องมันออกมาอย่าได้ปิดกั้นหรือฝืนห้ามร่างกาย แต่จงนึกไว้เสมอว่าเมื่อร้องไห้เสร็จอย่าลืมที่จะหัวเราะด้วย แล้วเราจะหัวเราะได้อย่างมีความสุขมากกว่าเดิม
การเลือกทานอาหาร
สำหรับใครที่เครียดมากๆ จนถึงขั้นต้องไปพบแพทย์ สิ่งที่ต้องได้กลับมาแน่นอนคือยาลดความเครียด ที่มีผลการกดระบบประสาทให้ความคิดในหัวสมองของเราวิ่งช้าลงนั่นเอง แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วอาหารรอบตัว อย่างเช่นผัก ผลไม้บางชนิดนั้นมีฤทธิ์เป็นยาลดความเครียดได้ด้วย
ผักและผลไม้สด เต็มไปด้วยสารอาหารที่ช่วยในกระบวนการลดความเครียด เช่น กลุ่มวิตามินบีและแมกนีเซียมที่ช่วยบํารุงประสาทและสมอง ทําให้รู้สึกผ่อนคลายหรือเลือกทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะนาว ใบตําลึง ผักโขม เพราะวิตามินซีช่วยลดฮอร์โมนความเครียด และทําให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทํางานดีขึ้น โดยเฉพาะการช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ถูกขับออกมาในขณะที่ร่างกายมีความเครียด
อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น เผือก มัน มันฝรั่ง มันเทศ ฟักทอง ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ลูกเดือย เหล่านี้มีส่วนช่วยให้สมองหลั่งสารสื่อประสาทชื่อเซโรโทนินที่ทําให้สามารถควบคุมอารมณ์ ลดความวิตกกังวล ลดความโกรธและซึมเศร้า และช่วยทําให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ อารมณ์มั่นคง ร่างกายไม่อ่อนเพลีย ดีกว่าการเลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวจําพวกน้ำตาลและน้ำหวานที่ไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว
ถั่วเปลือกแข็ง อุดมด้วยวิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมันที่จําาป็นต่อร่างกาย ช่วยป้องกันความเครียดที่เกิดจากปฏิกิริยาของอนุมูลอิสระ อาทิ มลพิษ รังสีความร้อน และอาหารไขมันสูง เป็นต้น
ออกกำลังกาย
ในวันที่เรารู้สึกเครียดจนมันสะสมเข้าหลายวันเข้า อาจจะกลายเป็นความเครียดเรื้อรังได้ การออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ทั้งหนักและเบาจะช่วยลดความเครียดได้ และยิ่งเป็นการไปออกกำลังกายกับเพื่อน อย่างเช่นการเตะฟุตบอล การได้ออกไปพบปะเพื่อนฝูงหรือคนอื่นๆ ในครอบครัว ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน อาจช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องที่เครียดอยู่ และทำให้ผ่อนคลายได้มากขึ้น
การออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็น เล่นโยคะ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ปีนเขา ยกน้ำหนัก หรือเล่นกีฬาประเภทต่างๆ นอกจากช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ยังเพิ่มระดับเอ็นโดรฟินหรือสารอื่นๆ ที่ดีต่อสุขภาพและอารมณ์ ซึ่งช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี
และนี่เป็นวิธีที่สามารถช่วยให้เรามีความสุขและขจัดปัดเป่าความเครียดออกจากหัวได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลในระยะยาว แถมยังสามารถทำตามได้ไม่ยากอีกด้วย ในบทความต่อไป Esto จะนำเสนอเรื่องวิธีบริหารพื้นที่ส่วนตัวให้กลายเป็นเซฟโซนที่จะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายเมื่ออยู่คนเดียว
บทความ "YOLO"
YOLO: รวมวิธีบำบัดความเครียด เรียกความสนุกกลับมาอีกครั้ง
YOLO: วิธีบริหารพื้นที่ส่วนตัวเมื่อเราต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด
YOLO: เพราะเรามีคนเดียวในโลก นิยามความสุขรูปแบบเฉพาะเรา
YOLO: อย่าขัดใจสิ!! เมื่อความเห็นไม่ตรงกันควรทำอย่างไร
YOLO: รวมสถานที่เรียนรู้ตัวตน ผ่อนคลายแบบฉับพลันง่ายๆ ต้องไปที่ไหนกันดี
บทความที่น่าสนใจ
3 ย่านคาเฟ่ดีต่อใจ ใกล้คอนโด บนทำเลตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงาน
รีวิว Zedere ร้านเฟอร์นิเจอร์หนังสุดเจ๋ง ที่อยู่ในร้านคาเฟ่สุดชิค
รวม 5 คาเฟ่ดังแถว BTS อารีย์ ที่ไม่ได้มีดีแค่พื้นที่นั่งอ่านหนังสือ
แนะนำ 7 สถานที่ Workshop ที่ช่วยเปลี่ยนวันว่างของเราให้กลายเป็นวันที่สนุกได้
พาชีวิตเข้าสู่โลกแห่งความสุข เติมเต็มความสนุกด้วย 4 แอปฯ Streaming!