ลงทุนอะไรดีในปี 2563 ที่เศรษฐกิจแย่
7 February 2563
อย่างที่หลายท่านทราบกันดี ว่าประเทศไทยในปี 2563 กำลังก้าวเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ที่เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อปีก่อน และลากยาวมายังปีนี้ เห็นได้ชัดว่าราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ, บริษัทต่างประเทศย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน, ภาคการส่งออกไม่เติบโต, ตลาดหุ้นแผ่วลง, การค้าขายซบเซา
เห็นได้ว่ามองไปทางไหนก็ดูจะติดขัดไปเสียหมด ตั้งแต่การค้าขายในตลาดช่วงเทศกาลที่แม่ค้าให้สัมภาษณ์ว่ายอดขายตกลงถ้าเทียบกับปีอื่น ๆ ไปจนถึงระดับประเทศเรื่องการส่งออก และการลงทุนในประเทศล้วนได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั้งสิ้น
จึงเป็นที่มาของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯ ที่หวังให้เกิดการจับจ่าย และขับเคลื่อนให้เกิดสภาพค้าคล่อง ขายดี อัดฉีดกันมาตลอดช่วงปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนประเทศไทยจะยังหนีไม่พ้นคำว่า “เศรษฐกิจแย่” สักที เพราะไม่ว่าจะมีมาตรการใด ๆ ออกมา ดูเหมือนจะเป็นการเอาเงินไปละลายน้ำเสียมากกว่า ยิ่งสร้างหนี้สาธารณะให้ประเทศมากขึ้น
แม้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ มองดูแล้วจะไม่สามารถมีช่องทางไหนให้สามารถลงทุนอะไรได้ตามชื่อของมัน แต่ความเป็นจริงแล้งยังมีช่องทางทำเงินสำหรับนักลงทุนอยู่ และเป็นช่องทางที่หากลงทุนช่วงเศรษฐกิจแย่แบบนี้จะได้ผลดียิ่งขึ้นด้วย จะมีช่องทางไหนบ้างนั้น วันนี้ Esto ได้รวบรวมข้อมูลการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้เอาไว้ให้แล้ว
หุ้นที่มีการรับรู้รายได้ค่อนข้างแน่นอนในอนาคต
ในทุกสภาพเศรษฐกิจ จะมีทั้งธุรกิจที่ดีและไม่ดีปะปนกันอยู่เสมอ แม้แต่ในสภาพเศรษฐกิจแย่แบบนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ธุรกิจท่องเที่ยว ยังเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาเมืองไทยอย่างสม่ำเสมอ หรือธุรกิจที่เกาะกระแสจากการลงทุนภาครัฐ ก็ดูยังไปกันได้ เรียกได้ว่ามีหลายธุรกิจที่เติบโตได้แบบสวนกระแสเศรษฐกิจนั่นเอง
แม้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะส่งผลต่อรายได้และกำไรของบริษัท แต่หากบริษัทมีแนวโน้มรายได้ที่ค่อนข้างคงที่ ก็ยังสามารถเชื่อมั่นในบริษัทเหล่านี้ได้พอสมควร โดยเลือกบริษัทที่มีสัญญา หรือสัมปทานในการรับรู้รายได้ค่อนข้างแน่นอน อย่างน้อยในช่วง 5 – 10 ปีในอนาคต เช่น หุ้นโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาขายไฟแน่นอน หุ้นน้ำประปาที่มีสัญญาระยะยาว
หุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่
คือหุ้นที่ได้ประโยชน์จากสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ หากคุณกำลังคิดอยู่ว่าจะลงทุนอะไรดี หุ้นกลุ่มนี้เป็นทางเลือกที่ไม่แย่ เพราะเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์ในช่วงสั้น ๆ และในขณะที่เศรษฐกิจเริ่มถดถอย นักลงทุนต้องวิเคราะห์ข้อมูลรายบริษัทให้ดี เพราะมีความผันผวนสูง และคาดการณ์ได้ยาก เช่น หุ้นปล่อยสินเชื่อความเสี่ยงสูง, หุ้นประมูลสินค้าหลุดจำนำ, หุ้นติดตามเร่งรัดหนี้สิน เป็นต้น
อีกวิธีหนึ่งที่ทำได้ คือการไปลงทุนในภาคธุรกิจหรือเศรษฐกิจที่ยังดีอยู่ เช่น ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ค่าเงินบาทอ่อนมาก แต่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคส่งออก แบบนี้เราอาจจะลงทุนในหุ้นส่งออก หรือไม่อาจจะเลือกการลงทุนในหุ้นต่างประเทศไปเลยก็ได้ ยกตัวอย่าง ในช่วงวิกฤตฟองสบู่ดอทคอม ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ได้รับผลกระทบน้อยมาก เป็นต้น
หุ้นที่มีแนวโน้มว่าจะได้ผลกำไรสูงในอนาคต
ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนเกี่ยวกับสังคมผู้สูงอายุ, การลงทุนในสตาร์ทอัพที่ปัจจุบันพบเห็นเปิดใหม่ขึ้นมากมาย หรือลงทุนในสิ่งที่จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในปีถัด ๆ ไป หากต้องการลงทุนในแนวนี้ต้องอาศัยการวิเคราะห์ตลาดเป็นอย่างดี รวมถึงสามารถคาดคะเนตลาดในระยะยาวได้ เพราะเมื่อเห็นชัดแล้ว จะนำพามาซึ่งธุรกิจที่จะสร้างผลตอบแทนได้มากมายก่อนใคร
อีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจคือ กลุ่มสินค้า Inferior Goods สินค้าที่จะมีความต้องการการซื้อมากขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจแย่ หรือแม้แต่เศรษฐกิจปกติยังเป็นที่ต้องการอยู่ หากยกตัวอย่างให้เห็นภาพคงจะเป็น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีจะมีแนวโน้มการขายดีในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ เพราะเป็นสินค้าราคาประหยัดสำหรับช่วงการเงินฝืดเคือง
หากเลือกจะเป็นนักลงทุนระยะยาว คงจะหนีไม่พ้นช่วงเศรษฐกิจขาลงอยู่แล้ว คำถามคือ เศรษฐกิจขาลง เลือกหุ้นอย่างไรดี เพราะถ้าจะให้ขายหุ้นทั้งหมดไปถือเงินสด นักลงทุนอาจจะเสียโอกาสการลงทุนไป เพราะบางครั้งช่วงเศรษฐกิจแย่ถึงขีดสุด ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในการหาหุ้นราคาถูก
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รวมทริคสร้างเงินล้านด้วยวิธีการลงทุนเดือนละ 5,000 บาท
- มีเงิน 1,000 ลงทุนอะไรดีที่สุด เปลี่ยนเงินหลักพัน ให้กลายเป็นเงินหลักแสน
- เก็บเงินให้อยู่หมัดด้วย 7 บัญชีเงินฝากประจำ ให้ดอกเบี้ยดี แถมปลอดภาษีด้วย
- รวม 5 แอปพลิเคชั่นจำลองการลงทุนก่อนลงสนามจริง