หลุดหนี้ด้วย สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ให้ชีวิตได้รีสตาร์ท

ถ้าหากพูดถึงปัญหาที่คนวัยทำงานมักพบเจอบ่อยที่สุด คงหนีไม่พ้นการมีภาระหนี้สินไม่ว่าจะเป็นการผ่อน บ้าน ผ่อนรถ ค่าเทอมลูกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าบัตรเครดิตที่ใช้ง่ายจ่ายคล่อง แต่พอถึงตอนจ่ายดอกเบี้ยทีหน้าแทบมืดกันเลยทีเดียว วันนี้เราเลยมีวิธีหยุดหนี้บัตรเครดิตด้วย ‘สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต’ ที่ช่วยให้เราจ่ายน้อย ผ่อนสบาย

แต่ก่อนที่เราจะเลือกใช้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เราจะต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตนี้คืออะไร

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตนี้คืออะไร

จะพูดง่ายๆ ก็คือ การที่เราเอาหนี้สินจากบัตรเครดิตทั้งหลายที่เรามี มาโอนย้ายหนี้ให้รวมกันเป็นก้อนเดียว แล้วกู้จากแหล่งเงินทุนใหม่ที่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า เพื่อนำเงินที่ได้ไปปิดหนี้ก้อนเก่า ซึ่งจะช่วยลดความซ้ำซ้อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน

สลัดหนี้ด้วยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตต้องรู้อะไรบ้าง

จับหนี้ใส่ตะกร้า

อันดับแรกของการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตคือจะต้องจับบรรดาหนี้สินทั้งหลายที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ตัวของเรา ไม่ว่าจะเป็นหนี้ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนโทรศัพท์ หรือหนี้เพื่อการกู้ยืมเพื่อการศึกษา รวมไปถึงรายการผ่อนในบัตรเครดิตทุกใบด้วย เอามาใส่ตะกร้ารวมๆ กันไว้ เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าตอนนี้คุณมีหนี้ก้อนใหญ่มากน้อยแค่ไหน สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมได้ดีขึ้นเมื่อหนี้ถูกยุบรวมเป็นก้อนเดียว

แบ่งหนี้ตามความสามารถในการจ่าย

หลังจากที่คุณนำหนี้มารวมเป็นก้อนเสร็จแล้ว ต่อมาคุณต้องคำนวณโดยใช้รายรับรายใจย้อนหลัง 6 เดือนมาคำนวณ และพิจารณาว่า ยอดค่าใช้จ่ายส่วนใดฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นและสามารถตัดออกได้

หลังจากนั้นเอาตัวเลขที่ได้ไปคำนวณว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการจัดการกับหนี้ที่มีอยู่ได้ โดยยังไม่ต้องรวมดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นเมื่อคำนวณเสร็จแล้วจึงนำดอกเบี้ยมาคิดด้วยว่า จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่เพื่อผ่อนหนี้ในอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด เช่น ดอกเบี้ย 6% จะต้องใช้เวลา 3 ปีในการชำระหนี้หมด เป็นต้น เพื่อให้คุณรู้ว่าการผ่อนต่อเดือนอยู่ที่เท่าไหร่ที่คุณจะสามารถผ่อนไหว และจะช่วยให้คุณรู้ว่า คุณจะสามารถยอมรับอัตราดอกเบี้ยได้ที่เท่าไหร่ ซึ่งการแจกแจงรายรับรายจ่ายของตัวเองจะเป็นตัวช่วยให้การทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตประสบความสำเร็จในระยะยาว

ปรึกษากับเจ้าหนี้ก่อนปิดยอดหนี้เก่า

ในการที่คุณจะตัดสินใจปิดหนี้ก้อนเก่าไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ทันที แต่คุณจะต้องมีการเจรจากับเจ้าหนี้เก่าเพื่อขอปิดหนี้ก้อนใหญ่กับเจ้าหนี้ก่อนกำหนดเพราะอาจจะมีค่าปรับ ซึ่งค่าปรับนี้จะถูกระบุไว้แล้วในสัญญาเงินกู้ แต่หากไม่ได้ระบุในสัญญาหรือพอจะต่อรองได้ ก็ควรจะลองดูก่อน แต่ถ้าหากมีค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมเกิดขึ้นจริงๆ ต้องแน่ใจว่าค่าปรับนั้นจะรวมอยู่ในยอดกู้ใหม่ด้วย ซึ่งนั้นจะเป็นผลดีต่อการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเพราะคุณจะสามารถรู้จำนวนหนี้และค่าปรับเพื่อที่จะขออนุมัติวงเงินได้อย่างพอดี

หาข้อมูลสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

เมื่อเราจับต้นชนปลายหนี้สินทั้งหมดที่มีได้แล้วนำมาบวกลบกับยอดรายรับรายจ่าย และเจรจากับเจ้าหนี้รายเก่าได้เสร็จสิ้น ก็ถึงเวลาที่จะมองหาทางเลือกที่จะทำให้การจ่ายหนี้สินเป็นเรื่องที่เบาลง ซึ่งการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตน่าจะเป็นทางเลือกที่ทำให้คุณสะดวกขึ้นด้วยการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขต่าง ๆ ของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต จากหลาย ๆ ธนาคาร ที่มีข้อเสนอที่ดีกว่า โดยเราสามารถสอบถามข้อมูล เพื่อปรึกษาพูดคุยแจ้งความต้องการได้อย่างปลอดภัย และต้องมีหนังสือสัญญาชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ดังนั้นคุณควรเลือกสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ รวมถึงทำความเข้าใจและรู้รายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ให้รอบครอบ

ทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารไหนดี ให้ลดหนี้ได้ถูกทาง

หลังจากเรารู้จักเจ้าสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีธนาคารไหนที่มีโปรฯ ดีๆ ตอบโจทย์ปัญหาหนี้บัตรเครดิตได้บ้างไปดูกัน

5 เคล็ด(ไม่)ลับ ทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตยังไงไม่ให้เกิดหนี้ซ้ำซ้อน

หลังจากที่ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงเบาใจและคิดวางแผนในการจัดระเบียบหนี้สินที่มีกันอยู่อย่างแน่นอน การทำเรื่องขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเป็นเรื่องที่ต้องรอบคอบไม่ว่าจะเป็นต้องที่ศึกษาข้อมูล การวางแผน และหลังจากอนุมัติ วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับดี ๆ สำหรับการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตมาฝากกัน

1. เลือกสถาบันการเงินที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า คุณจะต้องแน่ใจว่าสถาบันการเงินหรือธนาคารที่คุณเลือกจะให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่คุณเคยจ่ายอยู่พอสมควร เพราะหากกู้เงินปิดบัตรเครดิตแต่ดอกเบี้ยไม่ได้ต่างกันมันก็ไม่มีประโยชน์ที่คุณจะตัดสินใจทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
   
2. ตั้งวงเงินแบบเผื่อเหลือเผื่อขาด สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตคุณจะต้องคำนวณการตั้งวงเงินอนุมัติให้ดีว่าจะตั้งวงเงินเท่าไหร่ถึงจะได้ใช้หนี้ให้หมดแล้วผ่อนจ่ายที่เดียวพร้อมดอกเบี้ยต่ำ แนะนำให้ขอแพงกว่าหนี้สินทั้งหมดนิดหน่อยเผื่อสถาบันการเงินจะลดวงเงิน จะได้ยังพอดีกับการจ่ายหนี้สิน
   
3. วางแผนการใช้หนี้ล่วงหน้า คือต้องคิดเผื่อว่าเมื่อได้เงินมาแล้วใช้หนี้ทั้งหมดจะเหลือเงินบ้างหรือไม่ หากเหลือควรเอาไปทำอะไรดีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตถือว่าคุณได้โอกาสในการคิดและวางแผนการเงินของคุณใหม่อีกครั้ง การไม่กลับไปเป็นหนี้ก้อนโตอีกนับว่าการตัดสินใจประสบความสำเร็จ
   
4. ศึกษาเงื่อนไขให้ดีก่อนเซ็นตกลง ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินหรือธนาคารต่างๆควรที่จะอ่านรายละเอียดให้เข้าใจและชัดเจน โดยเฉพาะเงื่อนไขการชำระดอกเบี้ย ระยะเวลาในการผ่อนจ่าย หรือรายละเอียดอื่นๆ
   
5. มีวินัยในการผ่อนชำระค่างวดอย่างตรงเวลาและสม่ำเสมอ เมื่อขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องจำไว้เสมอว่า "ชีวิตการเงิน" ของเราต้องดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะถึงแม้เราจะได้รับดอกเบี้ยที่ต่ำลง แต่เราต้องมีวินัยในการผ่อนชำระค่างวดอย่างตรงเวลาและสม่ำเสมอ เพื่อให้สมกับโอกาสที่ได้รับในการรีสตาร์ทชีวิตใหม่
   

การทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต อาจจะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้การเงินของคุณคล่องขึ้นและช่วยแบ่งเบาการจ่ายดอกเบี้ยให้ถูกลง แต่ถึงอย่างไรการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตก็ไม่ได้ทำให้หนี้ที่คุณมีลดลง หากคุณไม่เริ่มที่จะวางแผนการใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้พอเหมาะ ควบคุมการเงินให้อยู่ในความจำเป็น สุดท้ายแล้วชีวิตการเงินของคุณอาจจะวนกลับมาอยู่ในจุดเดิมอีกครั้งก็เป็นได

อ้างอิง

krungsri.com

peerpower.co.th

checkraka.com

บทความที่น่าสนใจ

รีไฟแนนซ์ คอนโด คำตอบของคนอยากลดดอกเบี้ยจากการผ่อนคอนโด

รวม 7 อันดับโปรรีไฟแนนซ์คอนโด ผ่อนต่อเดือนถูกลงแบบเห็นๆ

รีไฟแนนซ์ คืออะไร ดีหรือไม่ ลดดอกเบี้ยได้จริงไหม และมีขั้นตอนการรีไฟแนนซ์อย่างไร

รวมบัตรเครดิตน่าใช้ปี 2019 มีแค่ 3 บัตรนี้ก็ 'ชอป ชิม ชิลล์' ได้ง่าย สบายกระเป๋า

เคล็ดไม่ลับ ของบัตรเครดิต มีอย่างไรให้ใช้แล้วคุ้ม