ESTOPOLIS | 8 จุดที่ต้องเช็กให้ชัวร์ ก่อนเซ็นโอนซื้อขายคอนโด
15 July 2561
"การซื้อคอนโด" ก็เหมือนการซื้อบ้าน ถือเป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ และเป็นหนี้ก้อนโตที่กินระยะเวลานานถึง 30 ปี แน่นอนว่าก่อนที่เราจะทำการกู้ซื้อคอนโด ก็ต้องมั่นใจว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะผ่อนชำระทุกเดือน และต้องมั่นใจว่าหลังจากที่เซ็นโอนคอนโดมาเป็นเจ้าของแล้ว จะไม่มีปัญหาจุกจิกตามมา เช่น น้ำขัง ผนังมีรอยร้าว พื้นรั่วซึม ฯลฯ ซึ่งวันนี้ Estopolis จะมาแนะนำ 8 จุดสำคัญในการตรวจเช็กสภาพห้องก่อนเซ็นโอนคอนโด เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาหลังได้อย่างดี
เตรียมอุปกรณ์สำหรับตรวจเช็กสภาพห้อง
ที่มา: www.pinterest.com
- แปลนของห้อง สำหรับบันทึกจุดต่างๆ ที่พบว่ามีส่วนไหนต้องแก้ไขหรือจุดไหนผ่านการตรวจสอบแล้ว
- ลูกแก้วหรือถังน้ำ สำหรับใช้ในการตรวจสอบระดับของพื้น โดยเฉพาะพื้นห้องน้ำที่ต้องมีการถ่ายเทไปยังท่อได้อย่างถูกต้อง
- กล้องถ่ายรูปหรือมือถือ เพื่อถ่ายบันทึกไว้หากพบเจอปัญหาในจุดต่างๆ
- อุปกรณ์ป้องกันตัวเองและห้อง เช่น ถุงมือ ผ้ากันเปื้อน และเครื่องมือสำหรับวัดไฟฟ้า เช่น ไขควงวัดไฟ เป็นต้น
ที่มา: www.pinterest.com
เมื่อเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้ว ก็มาถึงการเริ่มตรวจสภาพความเรียบร้อยของห้อง เพื่อให้เรามั่นใจว่าเมื่อเซ็นโอนคอนโดมาเป็นของเราแล้ว จะไม่เกิดปัญหาตามมา หรืออย่างน้อยก็มีปัญหาน้อยที่สุด ซึ่งมีจุดสำคัญที่ต้องตรวจมีดังนี้
1. เช็ก "ประตู" ก่อนเซ็นโอนคอนโด
ที่มา: www.pinterest.com
เริ่มกันที่ประตูห้องและประตูทุกบาน หน้าต่างในจุดของบานพับต่างๆ ภายในบ้าน สามารถเปิดเข้าออกได้สะดวกหรือไม่ มีเสียงกวนใจ หรือการติดตั้งดูเรียบร้อย ไม่ติดขัด การล็อกต่างๆ ทำได้ปรกติไม่หลวมจนล็อกไม่ได้ หรือกากเป็นประตูที่ใช้กลอนแบบ Digital Door Lock ก็ต้องทดสอบการใช้งานให้เรียบร้อย
2. เช็ก "หน้าต่าง" ก่อนเซ็นโอนคอนโด
ที่มา: www.pinterest.com
หน้าต่างเป็นจุดที่ไม่สามารถมองข้ามได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนและบ้านกระทุ้ง มักจะอยู่ห้องนอนและระเบียง ต้องตรวจเช็กบานเลื่อนว่าใช้งานได้ดีไหม ที่ล็อกเสียหรือเปล่า กระจกร้าวหรือไม่
3. เช็ก "เพดาน" ก่อนเซ็นโอนคอนโด
ที่มา: www.pinterest.com
ต้องเช็กเพดานให้ทั่วทุกห้องว่ามีรอยแตกหักที่จุดไหนบ้าง ซึ่งฝ้าเพดานต้องได้ระดับเสมอกันตลอดทั้งห้อง และไม่มีรอยรั่วซึมจากห้องชั้นบน หากพบปัญหาควรรีบแก้ไข เพราะจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่กวนใจไปตลอด
4. เช็ก "ผนังห้อง" ก่อนเซ็นโอนคอนโด
ที่มา: www.pinterest.com
สำหรับผนังห้อง ก็ต้องเช็กให้ละเอียดว่ามีการแตกลาย หรือมีรอยปูดตามผิวปูนหรือไม่ เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้บ่อยจากการที่มีการฉาบปูนที่ไม่สม่ำเสมอ ส่วนห้องที่มีการติดวอลล์เปเปอร์ควรใช้มือไล่เช็กพื้นผิวของวอลล์เปเปอร์ ว่ามีจุดใดที่ไม่เรียบเสมอกัน
5. เช็ก "เฟอร์นิเจอร์/บิลท์อิน" ก่อนเซ็นโอนคอนโด
ที่มา: www.pinterest.com
ในกรณีที่เป็นคอนโดตกแต่งครบ ที่โครงการแถมเฟอร์นิเจอร์และบิลท์อินต่างๆ มาให้ ก็ต้องเช็กสภาพความเรียบร้อยให้ดี หากมีการชำรุดหรือมีสภาพไม่สมบูรณ์ก็อาจจะสามารถเจรจาขอเปลี่ยนชิ้นใหม่ หรือให้มาซ่อมแซมก่อนได้ โดยที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
6. เช็ก "พื้นห้อง" ก่อนเซ็นโอนคอนโด
ที่มา: www.pinterest.com
ในการตรวจเช็กพื้นห้อง เบื้องต้นลองเดินลากเท้าให้ทั่วว่าการปูพื้นเรียบหรือไม่ หลังจากนั้นนำลูกแก้ววางบนพื้น ให้ห่างกันประมาณจุดละ 10-15 ซม. ให้ทั่วห้อง แล้วดูการไหลของลูกแก้ว หากลูกแก้วไม่ไหลแสดงว่าปูได้เรียบเสมอกัน แต่หากไหลไปรวมกันแสดงว่าจุดดังกล่าวเป็นหลุม หรือหากจุดใดไม่มีลูกแก้วแสดงว่ามีการปูดของพื้น ส่วนพื้นห้องน้ำควรเช็กโดยการเทน้ำเพื่อดูว่าน้ำไหลไปในทางที่กำหนดหรือไหลลงท่อระบายน้ำได้สะดวกหรือไม่
7. เช็ก "ระบบไฟฟ้า" ก่อนเซ็นโอนคอนโด
ที่มา: www.pinterest.com
งานระบบไฟฟ้าถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก โดยการเช็กจะเริ่มจากเต้าจ่ายไฟทุกจุดว่ามีกระแสไฟหรือไม่ โดยสามารถเช็กได้จากใช้ไขควงไฟฟ้า หรือนำสายชาร์จมือถือมาเช็กกับมือถือของเราว่าเต้าจ่ายไฟได้หรือไม่ จากนั้นนำไขควงเช็กภายในว่ามีการเดินไฟไว้ 3 เส้นหรือไม่ เพราะควรจะต้องมีสายดินอีก 1 เส้นเพื่อป้องกันไฟรั่ว รวมถึงเช็กหลอดไฟทุกดวงว่าสามารถใช้งานได้ดี และเมื่อปิดไฟหมดแล้ว ก็ต้องไม่ลืมตรวจสอบมิเตอร์ไฟว่าหยุดวิ่งหรือไม่ หากวิ่งอยู่อาจแสดงถึงมีไฟบางตำแหน่งที่รั่วอยู่ต้องรีบแก้ไข
8. เช็ก "ระบบน้ำ" ก่อนเซ็นโอนคอนโด
ที่มา: www.pinterest.com
ในการตรวจเช็กระบบน้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยน้ำทุกจุดต้องไหลสะดวก ส่วนทางเดินน้ำต้องระบายได้ดี และเมื่อปิดน้ำแล้วให้ตรวจสอบมิเตอร์น้ำว่าหยุดวิ่งหรือไม่ หากยังวิ่งอยู่อาจจะมีน้ำส่วนไหนที่รั่วซึมก็เป็นได้
ที่มา: www.pinterest.com
ในการตรวจสอบทุกจุดอย่างละเอียด แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นการจุกจิกมากไปสักหน่อย แต่ว่าก็ถือเป็นการรักษาสิทธิ์ของตัวเอง และลดปัญหาภายหลังจากการโอนคอนโดได้อย่างมาก ทั้งนี้หากเราไม่มั่นใจว่าจะสามารถตรวจเช็กสภาพห้องได้ละเอียดมากพอ ก็มีบริษัทที่ให้บริการตรวจสอบสภาพบ้านและห้องอย่างมืออาชีพเช่นกัน แต่หากไม่อยากสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพื่อนๆ ก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ ตามข้อแนะนำข้างต้นนั่นเอง
By Sun