8 เหตุผลเตือนสติ! ว่าทำไมคุณยังไม่พร้อมซื้อคอนโด
2 April 2560
หากพูดถึงความฝันอย่างนึงในชีวิตของมนุษย์ทุกคนอย่างน้อยๆ ต้องอยากมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเอง เพราะบ้านไม่ใช่สถานที่อยู่อาศัย แต่ยังมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น เพราะบ้านเปรียบเสมือนที่พักกาย พักใจ จากความเหนื่อยล้าในการทำงาน ปัญหาต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต
มาวันนี้คำว่า “บ้าน” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ฯลฯ อีกต่อไป เพราะ “คอนโด” ได้กลายเป็นบ้านอีกหลังของมนุษย์ทำงานยุคใหม่ เนื่องจากวิถีชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมเมื่อถึงช่วงวัยนึงทุกคนต้องมีคู่มีครอบครับ แต่วันนี้หลายคนกลับเลือกที่จะใช้ชีวิตตัวคนเดียวกันมากขึ้น ทำให้คอนโดจึงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของคนรุ่นใหม่ ด้วยเหตุผลหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1. ใกล้ที่ทำงาน 2. ใกล้รถไฟฟ้า 3. ความปลอดสูง นั่นเอง
แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่รีบซื้อคอนโดเพียงเพราะไม่อยากที่จะเช่าที่ของใครไปตลอดชีวิต อีกทั้งเงินค่าเช่าที่ต้องจ่ายทุกเดือน ท้ายสุดก็ไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา เมื่อมาคิดดูดีๆ แล้ว การค่าใช้จ่ายในการผ่อนคอนโดก็พอๆ กับค่าเช่าบ้าน ทั้งยังได้สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของอย่างเต็มตัว แต่ก็มีเหตุผล 8 ข้อ ที่กำลังบอกว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะเป็นเจ้าของคอนโด
1. ไม่มีเงินดาวน์
การซื้อคอนโดสักห้องต้องมีการวางเงินดาวน์อย่างน้อย 5-10% จากราคาเต็มไว้ก่อนเสมอ ถึงจะเข้าสู่กระบวนการผ่อนแบบรายเดือนตามที่ได้ระบุไว้ในสัญญาซื้อขาย ฉะนั้นหากยังไม่มีเงินสักก้อนที่จะวางดาวน์ ความฝันที่จะมีคอนโดเป็นของตัวเองคงหลุดลอยไปกับสายลม ไว้รอให้มีเงินพร้อมจริงๆ ก็ยังไม่สายนะ
2. เครดิตไม่มั่นคั่ง
ข้อดีของการซื้อคอนคือคุณสามารถกู้เงินจากธนาคารมาซื้อก่อนได้ แต่ใช่ว่าธนาคารจะยอมปล่อยกู้ง่ายๆ เพราะเขาจะทำการตรวจสอบประวัติการชำระเงินที่ผ่านมาก่อนว่าควรให้ผ่านการอนุมัติหรือไม่ ถ้าเครดิตดี ไม่หนี้ ไม่เบี้ยว จ่ายตรง ก็จะอนุมัติเร็วและวงเงินอาจครอบคลุมค่าคอนโดทั้งหมด ในทางกลับกันเครดิตไม่มั่นคง เบี้ยวบ้าง ช้าบ้าง ไม่ครบบ้าง ธนาคารเองอาจลำบากใจที่จะปล่อยกู้เช่นกัน
3. การงานไม่มั่นคง
หากรับข้าราชการยังพอมีเครดิตในการกู้เงินซื้อคอนโดได้สบายๆ แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือพนักงานเอกชนที่เริ่มทำงานได้ไม่กี่ปี อาจดำเนินเรื่องกู้ได้ยากกว่าอาชีพข้าราชการ เพราะแบงค์เขามองว่าพนักงานเอกชนไม่มีความมั่นคงพอที่จะซื้อคอนโดสักเท่าไหร่นัก อาจเกิดการเปลี่ยนงานได้ตลอดเวลา อีกทั้งไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยลงหรือจะฟื้นตัวดีขึ้น และการันตีได้ว่ากิจการของคุณจะทำกำไรได้ทุกปี จึงไม่ควรเสี่ยงที่จะหาหนี้ใส่ตัว
4. ดอกเบี้ยสูงฉลูด
หากเงื่อนไขการกู้เงินที่เล็งไว้มีอัตราดอกเบี้ยแพงมาก เรียกได้ว่าสูงกว่าอัตราเงินเดือนของคุณก็ขอให้พับความคิดที่จะซื้อคอนโดก่อนดีกว่า ถ้ายังดึงดันที่จะกู้ให้ได้อีกไม่นานมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง เพราะคุณจะเหนื่อยกับการหาเงินมาโป๊ะหนี้ หากวันใดเกิดหมุนเงินมาจ่ายหนี้ไม่ทันสัก 4-5 เดือน อาจโดนธนาคารยึดคอนโดไปขายทอดตลาดก็ได้
5. ค่าผ่อนคอนโดใกล้เคียงกับค่าเช่าที่เราเช่าอยู่ไหม
ณ เวลานี้ท่านผู้อ่านท่านใดที่กำลังเช่าอพาร์ทเม้นท์ หอพัก อยู่ แล้วมีแพลนจะซื้อคอนโดสักห้อง ก็อยากให้คิดทบทวน คำนวณให้ดีๆ ก่อนว่ารายจ่ายของค่าเช่าหอนั้นถูกกว่าค่าผ่อนคอนโดถึง 50% ไหม ถ้าไม่ถึงครึ่งนึงของค่าผ่อน ก็หยุดเพิ่มภาระให้ตัวเองจะดีกว่า เพราะการซื้อคอนโดไม่ได้มีแค่ค่าผ่อนเพียงอย่างเดียว ยังมีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง และค่าอื่นๆ ตามมาอีกเยอะ
6. ผ่อนร่วมกับสุดที่เลิฟ
กรณีที่จะซื้อคอนโดสองคนร่วมกันเพื่อเก็บไว้เป็นเรือนหอก็ดีอยู่หรอก อย่าลืมว่าโลกนี้มันไม่แน่นอน วันนี้คุณกับคนรักอาจจะยังรักกันหวานชื่น แต่วันข้างหน้าเกิดคุณทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะถึงขั้นเลิกรากันไป เขาคงไม่ช่วยแชร์ค่าผ่อนคอนโดต่อไปแน่ บางทีอาจเรียกเงินที่ช่วยจ่ายไปตั้งแต่ต้นคืนด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้คุณจะรับมือกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้รึเปล่า ?
7. ย้ายที่อยู่บ่อย
ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานที่ยังไม่มั่นคงเท่าไหร่ อาจทำให้ต้องเปลี่ยนงาน ย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง การซื้อคอนโดคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีแน่นอน อย่าลืมว่าการผ่อนคอนโดต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 3-5 ปี แล้วคุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะทำงานที่นี่จนกว่าจะผ่อนคอนโดเสร็จ อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันโดนย้ายไปดูงานที่สาขาต่างจังหวัดก็ได้
8. นักเดินทาง
หากคุณเป็นคนนึงที่ชอบท่องเที่ยว แม้จะเป็นแค่วันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือหยุดยาวก็ไม่ค่อยอยู่ห้อง ต้องออกไปใช้ชีวิต หาประสบการณ์ใหม่ๆ ไปชาร์จพลังอยู่เสมอ ด้วยลักษณะนิสัยแบบนี้เกรงว่าไม่เหมาะจะซื้อคอนโดสักเท่าไหร่ สู้นำเงินส่วนนั้นไปท่องเที่ยวตามความฝันของคุณจะดีกว่า
9. อยากมีบ้าง
อย่าตัดสินใจซื้อคอนโดด้วยเหตุผลที่ว่า “ใครๆ เขาก็ซื้อกัน” เด็ดขาด เพราะการซื้ออสังหาริมทรัพย์นับว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะต้องมีเงินสำรองเงินก้อนใหญ่ ไหนจะภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้ง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ฯลฯ และยังมีภาระหนี้สินตามติดเป็นเงาตามตัวตั้งหลายปี ทางที่ดีจงหยุดความอยากได้อยากมีคอนโด เพียงเพราะคนรอบข้างเขาซ้ือกันหมดแล้วจะดีกว่า
เมื่อเช็คความพร้อมก่อนคิดเป็นเจ้าของคอนโดแล้ว จงเตือนสติตัวเองตลอดเวลาว่าราคาคอนโดไม่ใช่สินทรัพย์ราคาถูกที่อยากซื้อเมื่อไหร่ก็ซื้อได้ แต่ราคาตลาด ณ ตอนนี้ขึ้นต้นด้วยหลักล้านกว่าๆ แทบทั้งสิ้น ถือว่าเป็นทรัพย์มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ซึ่งการที่จะซื้อคอนโดสักห้องควรผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่าจ่ายไหว จ่ายได้ แต่ต้องประเมินจากความเป็นจริง หากคุณยังไม่มีความพร้อมในการเป็นหนี้ ก็อย่าหาความเสี่ยงเข้าตัวเลยจะดีกว่า
ข้อมูลจาก : http://www.kapook.com
