ESTOPOLIS | 6 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับคอนโดแนวรถไฟฟ้า
23 November 2560
รถไฟฟ้าเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของการเดินทางโดยบริการสาธารณะของไทย นับตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา ผู้คนตื่นตาตื่นใจไปกับการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด นอกจากนี้รถไฟฟ้ายังส่งอานิสงส์ต่อพื้นที่โดยรอบตลอดเส้นทางและเป็นแม่เหล็กชั้นดีในการดึงดูดความเจริญเข้าสู่พื้นที่ ทำให้ปัจจุบันนี้มีคอนโดผุดขึ้นมากมาย เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ แต่การเลือกซื้อคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าก็ต้องมีเทคนิคมีกลยุทธ์แบบเหนือชั้นเพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดเช่นกัน วันนี้ทางเรา Estopolis จึงได้รวบรวม '6 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับคอนโดแนวรถไฟฟ้า' มาให้ทุกคนได้อ่านกัน ดังนี้
1. ทำเล และราคาคอนโกล้สถานีรถไฟฟ้า
ภาพจากโครงการ Prodigy MRT Bangkhae
สำหรับ คอนโดมือสองแนวรถไฟฟ้า ถ้าราคาต่ำกว่า 2 ล้าน อาจจะหายากสักหน่อย แต่ก็พอมีอยู่บ้างสำหรับคนที่ไม่วิตกเรื่องขนาดห้อง การตกแต่งภายใน และการบริหารจัดการโครงการ เช่น ย่านสาทร-ราชพฤกษ์ ใกล้สถานี BTS บางหว้า ย่านสุขุมวิท 107 ใกล้สถานี BTS แบริ่ง หรือจะเป็นย่าน ถ.วุฒากาศ ใกล้สถานี BTS วุฒากาศ ก็พอมีอยู่หลายโครงการ
ภาพจากโครงการ The Rich Nana
แต่ โครงการใหม่ตามแนวรถไฟฟ้า มักจัดเต็มทั้งโปรโมชั่นของแถม เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งอำนวยความสะดวก เสมือนอยู่ในโรงแรมห้าดาว ทำเลที่ตั้งของโครงการมักเน้นจุดขายเอาใจไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ชื่นชอบการเดินทางสะดวก ประหยัดค่าใช้จ่าย คำนวณเวลาเดินทางได้ แวดล้อมไปด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร สถานบันเทิง คนที่สนใจซื้อปล่อยให้เช่าหรือขายต่อเอากำไร
แม่เหล็กดึงดูดอย่างรถไฟฟ้ายังทำกำไรได้ดี แต่ก็มีจุดด้อย ไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองค่อนข้างหาความเป็นส่วนตัวได้ยาก การจราจรคับคั่ง ผู้คนมากหน้าหลายตา บางโครงการอาจต้องเสียค่าจอดรถเพิ่มในกรณีที่มีรถหลายคัน และที่สำคัญพื้นที่ใช้สอยไม่มาก ประมาณ 30 ตร.ม. แต่ราคาขายมักเริ่มต้นที่ 2 ล้านกว่า เกือบๆ 3 ล้านบาท
ถ้าไม่สนใจเรื่องกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรอบ คอนโดแนวรถไฟฟ้าแถวชานเมือง หรืออยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าเกิน 1 กม. ไลฟ์สไตล์จะออกไปแนวบ้านชานเมือง บรรยากาศสงบร่มรื่น ผู้คนไม่พลุกพล่าน ราคาก็จะลดลงไปต่ำกว่า 2 ล้านบาท ก็มีให้เลือกหลายโครงการ
2. ประโยชน์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ใกล้เคียง

ภาพจากโครงการ Garden Asoke-Rama 9
คอนโดตามแนวรถไฟฟ้า รัฐมักจัดเต็มสนับสนุนการค้าการลงทุน เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจดึงดูดนักลงทุนและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี เสมือนหน้าตาของประเทศ ระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อถึงกันได้รอบทิศทาง เทคโนโลยีสื่อสารสัญญาณเต็มทุกซอกทุกมุม ระบบรักษาความปลอดภัยเข้มข้น บางอย่างรัฐวางโครงข่ายวางระบบเพื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อยอดให้กับธุรกิจของตนพิเศษกว่าพื้นที่อื่นๆ เช่น TOD หรือ Transit Oriented Development แหล่งช็อปปิ้งระแวกรถไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งอานิสงส์ถึงราคาประเมินขายต่อในอนาคต โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มอะไรมาก ราคาขายก็ก้าวกระโดด
3. ลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการ
ภาพจากโครงการ i-House RCA
ประโยชน์ของรถไฟฟ้าคือ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ช่วยลดความแออัดของการจราจรระบบอื่น ลดผลกระทบภายนอกที่จะเข้าสู่ภายในบริเวณโครงการ และเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น จำนวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา คนวัยทำงาน ชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยว และองค์กรทางธุรกิจ มีมากขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่โดยรอบสถานีและตลอดเส้นทางรถไฟฟ้า ส่งผลต่อราคาประเมินขายต่อในอนาคตและอัตราค่าเช่าในกรณีปล่อยให้เช่า เพียงแต่นำประโยชน์จากกิจกรรมเหล่านั้นมาเกื้อกูลโครงการหรือห้องชุดให้อยู่ในเทรนด์ผู้บริโภคไทยแลนด์ 4.0 อะไรอินอะไรเอ้าท์ ก็จะพิชิตใจผู้บริโภคได้แล้ว เช่น ชอบท่องเที่ยว บันเทิง ใช้จ่ายด้านสุขภาพและรักษาพยาบาล (Health) ใช้จ่ายเพื่อการอยู่ดีกินดี (Wellness) ชอบที่จะสามารถปรับแต่งตามความต้องการได้เอง (Personalization) ต้องการเสพประสบการณ์ใหม่ๆ เลือกสิ่งใหม่ๆ จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรอบที่ตอบโจทย์ได้ โครงการตามแนวรถไฟฟ้าใดที่จัดและสรรหาให้ ก็จะโดดเด่นและเป็นทำเลทองยอดฮิต
4. ลูกค้าเป้าหมายของโครงการคือเพื่อนบ้านในอนาคต

ภาพจากโครงการ VOQUE PLACE สุขุมวิท 107
ตลาดคอนโดระดับกลาง-ล่าง ซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจ แต่นักลงทุนชาวจีนสนใจเหมาโครงการให้คนจีนเช่า หรือบางโครงการเหมาชั้นเพื่อให้คนจีนเช่าอยู่ ระดับราคาที่นักลงทุนชาวจีนสนใจตามแนวรถไฟฟ้า ราคาอยู่ที่ประมาณ 5-6 ล้านบาท ต่อหน่วย ชาวจีนกลุ่มที่สนใจโครงการระดับกลาง-ล่าง มักจะแฝงตัวมาในรูปแบบนักท่องเที่ยว แต่ถ้าเป็นคอนโด High Rise จะเป็นนักลงทุนโดยตรงที่สนใจซื้อเหมาโครงการหรือเหมาชั้นให้คนจีนเช่าอยู่ เหตุผลที่สนใจลงทุนโครงการคอนโดในไทยเพราะที่ฮ่องกงและจีน ราคาคอนโดค่อนข้างสูง ตร.ม. ละ 400,000 - 500,000 บาท ขณะที่ในไทยราคาถูกกว่ามากและทำกำไรได้ดีกว่า ผลตอบแทนการลงทุน 7-8% จากอานิสงส์นักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวไทย แต่ในจีนผลตอบแทนแค่ 2% เท่านั้น
คนที่สนใจซื้อคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าต้องศึกษาลูกค้าเป้าหมายของโครงการนั้นด้วย ถ้ามีชาวจีนหรือชาติอื่นๆ ลงทุนซื้อไว้เยอะ ก็ต้องเตรียมปรับตัวกับเพื่อนบ้านในอนาคต ทำเลที่นักลงทุนชาวจีนสนใจคือพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ย่านรัชดาฯ พระราม 9 รองลงมาเป็นทำเลย่านสุขุมวิท แบริ่ง อ่อนนุช
5. อย่าลืมพิจารณาเรื่องทัศนียภาพ
ภาพจากโครงการ Rhythm Ekamai
มีโครงการเปิดใหม่หลายแห่งตามแนวรถไฟฟ้าร่วมทุนพันธมิตรกับต่างชาติ เช่น ทำเลย่านเอกมัยที่ใช้กลยุทธ์การเลือกทำเลในการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด Location in Location ออกแบบภายใต้แนวคิดที่เน้นมุมมอง นำเสนอวิวที่ดีที่สุดด้วยคอนเซปต์ “มุมมองชีวิตที่ดีที่สุดของคุณ” (Live Your Best Perspective)
ภาพจากโครงการ RHYTHM Sukhumvit 36-38
ในส่วนของ Facilities พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก ออกแบบภายใต้แนวคิดให้ลูกค้าได้สัมผัสกับมุมมองที่สวยที่สุด การตกแต่งภายในเน้นหรูหรามีระดับ สัมผัสกับธรรมชาติรายล้อมรอบทิศได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองให้สามารถสัมผัสทัศนียภาพของความเป็นเมืองโดยรอบ และรองรับการอยู่อาศัยในเมืองหลวงได้เป็นอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่ต้องการขายต่อในอนาคตหรือปล่อยให้เช่าได้เป็นอย่างดี หรือจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองก็มีแต่ได้กับได้ เนื่องจากโครงการวางระบบบริหารจัดการให้เอื้อต่อการอยู่อาศัย พิถีพิถันในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ
6. ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่และผลกระทบในวงกว้าง
ภาพจากโครงการ U Delight @ Huamak Station
การเลือกทำเลที่ตั้งโครงการต้องดูด้วยว่ามีปัญหาเกิดขึ้นในพื้นที่โดยรอบหรือไม่ มีกลุ่มคนต่อต้านโครงการหรือไม่ ถ้ามีผลกระทบนั้นเกิดขึ้นเป็นวงกว้างหรือไม่ ในการเลือกทำเลที่ตั้งโครงการที่จะไม่เกิดปัญหาก็ต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ก่อน จึงจะนำไปสู่การตอบคำถามที่ว่า ทำเลนี้อยู่แล้วจะประสบความสำเร็จในการอยู่อาศัยมากน้อยเพียงใด จะเอาชนะความท้าทายนั้นได้อย่างไร และต้องดูคู่แข่งในพื้นที่ใกล้เคียงด้วยว่ามีปัญหาหรือไม่ ถ้ามีเขาจัดการอย่างไร สิ่งเหล่านี้ทางโครงการมักจะจำลองสถานการณ์อนาคตและวางแผนรองรับกรณีฉุกเฉินให้ลูกค้าได้พิจารณาประกอบการตัดสินใจ
ภาพจากโครงการ i-Biza RCA
“การเลือกซื้อคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า เจ้าของโครงการส่วนใหญ่พิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกทำเล การออกแบบอาคาร การใช้วัสดุก่อสร้าง การตกแต่งภายใน ลูกค้าเป้าหมาย พันธมิตร การอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อเอาใจไลฟ์สไตล์คนเมืองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่คนซื้อต้องซื้อให้ ถูกที่ ถูกราคา ถูกเวลา ถูกแบรนด์ และถูกสถานี”
บทความที่เกี่ยวข้อง
คอนโดติดรถไฟฟ้าราคาไม่เกิน 3 ล้าน เลือกอย่างไร และมีอยู่จริงหรือไม่
คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง น่าสนใจจริงๆ หรือแค่อุปทานไปเอง
รวม 5+1 คอนโดใกล้รถไฟฟ้า พร้อมอยู่ ย่านห้วยขวาง-รัชดา
ซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีทองคุ้มหรือไม่ คอนโดน่าลงทุนไหม? มาหาคำตอบกัน
คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม วิเคราะห์ทำเลแถวไหนน่าซื้อ ที่ไหนน่าอยู่