แปลนห้องคอนโดขนาด 27 - 33 ตร.ม แบบไหนดีกว่ากัน

วิเคราะห์แปลนห้องคอนโดมิเนียม ควรเลือกแบบไหนดี ใครที่กำลังตัดสินใจซื้อห้องคอนโดในคอนโดมิเนียมเป็นที่แรก มักจะไม่รู้ว่าเราจะควรเลือกห้องคอนโดแบบไหนหรือว่าชั้นอะไรดี แบบแปลนห้องคอนโดที่เลือกเหมาะกับฟังก์ชั่นที่เราใช้ด้วยรึเปล่า ส่วนใหญ่หลายคนอาจจะตัดสินใจซื้อคอนโดที่ทำเล และราคา ชั้นและทิศ ของห้องคอนโด ดูรวมๆแล้วโอเคไม่ได้แย่เกินไปกับกำลังซื้อที่มี แต่จริงๆแล้วแปลนห้องคอนโดส่งผลต่อการพักอยู่อาศัยด้วย

ห้องคอนโดแบบ studio และ 1 bedroom ถึงแม้ว่าขนาดพื้นที่ภายในห้องใกล้เคียงกันแต่แค่มีกำแพงหรือกระจกกั้นขึ้นมาก็ให้ความรู้สึกส่วนตัวแตกต่างกันมากแล้ว วันนี้เราจะมายกตัวอย่างแปลนแบบห้องคอนโดต่างๆ จากแต่ละโครงการ

แบบห้องคอนโดที่ 1 ขนาด 27 ตร.ม - 1 Bedroom

ภาพทางซ้ายมือของเราคือแปลนที่โครงการจัดมาให้ ส่วนทางขวามือคือที่ Estopolis ลองจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ใหม่ค่ะ 

แบบของห้องคอนโดนี้ เมื่อเปิดเข้ามาเราจะเจอกับโต๊ะทานอาหารเป็นอันดับแรก ทางด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำ โดยแบบห้องคอนโดนี้แยกห้องครัวออกไปไว้ทางด้านหลังหากใครชอบทำอาหารเอง กลิ่นของอาหารก็จะไม่เข้ามารบกวนภายในห้องและมีการถ่ายเทอากาศจากระเบียงห้องคอนโดด้วย หากมองจากแปลนจะรู้สึกเป็นเหลี่ยมเป็นมุม ยังมีการจัดวางแบบแปลนฟังก์ชั่นการใช้งานไม่ค่อยลงตัว    

สำหรับแบบห้องทางซ้ายมือ

-  โต๊ะอาหารอยู่ในระยะประชิดกับห้องน้ำเกินไป คงทานอาหารกันไม่สนุกแน่ ๆ หากมีคนใครเข้าห้องน้ำอยู่ 

-  หลังประตูทางเข้า มีพื้นที่ว่างสำหรับวางชั้นวางรองเท้า แต่ดูไปแล้วค่อนข้างประชิดกับโต๊ะทานข้าวไปหน่อย ซึ่งถ้าเป็นคนไทยคงจะถือเรื่องนี้ 

-  ตู้เย็นอยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่น จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เสียหายอะไร อาจจะดีสำหรับคนที่ชอบทานขนมหรือเครื่องดื่มขณะดูทีวี เพราะหยิบจับง่าย

-  ประตูทางเข้าห้องนอนติดกับโต๊ะเครื่องแป้ง เวลาเดินเข้าเดินออกเก้าอี้ของโต๊ะเครื่องแป้งจะเกะกะขวางทางเดินทำให้เดินเข้า-ออกไม่สะดวก นอกจากนี้ด้านหน้าของประตูยังถูกชั้นวางทีวีบังประตูทางเข้า-ออกไปหนึ่งด้าน ทำให้ไม่สามารถวางทีวีที่มีขนาดใหญ่ได้ เพราะมีโอกาศที่จะเดินชนทีวีตกแตกเสียหายได้

สำหรับแบบทางขวามือ 

ทาง Estopolis ลองปรับให้ใหม่เพื่อให้ลงตัวมากขึ้นในแปลนเดิม 

-  โต๊ะทานอาหารไปไว้ด้านใน  นอกจากจะไม่ประชิดกับห้องน้ำแล้ว ยังสามารถทานอาหารไปดูทีวีไปได้ด้วย

-  เปลี่ยนจุดวางโซฟาและทีวี  หากเป็นการจัดวางแบบนี้ คุณจะได้ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาที่มากขึ้น สามารถวางทีวีขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้  แต่ก็มีจุดที่น่ากังวลอย่างหนึ่งคือ บริเวณที่ทางโครงการกำหนดไว้ว่าเป็นจุดวางทีวี จะมีอุปกรณ์และสายต่อเตรียมเอาไว้ให้ นั่นหมายความว่าหากคุณเปลี่ยนเอาทีวีมาวางตรงนี้คุณอาจจะต้องเดินสายใหม่กันหน่อย

- โต๊ะเครื่องแป้งคาดว่าจะเป็น Built in ติดผนังของทางโครงการมาเลย ซึ่งคุณไม่สามารถที่จะขยับหรือย้ายมันได้ สิ่งที่คุณทำได้คือการจ้างช่างมาเอามันออกไป

แบบห้องคอนโดที่ 2 ขนาด 27 ตร.ม - 1 Bedroom

ขนาดของห้องคอนโดเท่ากับห้องคอนโดแบบที่ 1 ถึงแม้ขนาดเท่ากัน แต่มีการจัดวางแปลนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

- เมื่อเราเปิดห้องคอนโดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นก่อนเลยเป็นอันดับแรก ซึ่งระยะห่างของโซฟากับทีวีสำหรับแปลนนี้ค่อนข้างดี สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ได้ ดูแล้วไม่รู้สึกเวียนหัว

- คราวนี้โต๊ะทานอาหารจะถูกย้ายไปไว้ในครัวเลย กลิ่นของอาหารจะไม่เข้ามารบกวนในส่วนของพื้นที่อาศัย แถมยังเหมาะกับคนที่ทำอาหารจริงจัง เพราะสามารถเปิดประตูครัวเพื่อระบายอากาศได้ และยังพื้นที่ในการประกอบอาหารพอสมควร 

- ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากทางห้องนอนเท่านั้น ถ้าหากมีแขกมาหาส่วนนี้เราออกจะถูกรบกวนในพื้นที่ความเป็นส่วนตัวได้ และห้องนี้ไม่ค่อยเหมาะหากจะอยู่เป็นคู่ โดยเฉพาะคนที่เวลาพักผ่อนไม่ค่อยพร้อมกัน เพราะคนที่นอนจะถูกรบกวนจากการเข้าห้องน้ำของคนที่ตื่นอยู่ 

- ห้องน้ำ เปิดมาจะเจอส่วนอาบน้ำก่อน ทางด้าน ซ้ายมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ และตรงกันข้ามจะเป็นอ่างล้างมือ ถ้าปรับเปลี่ยนได้ควรย้ายให้โถสุขภัณฑ์อยู่ด้านใน แล้วเอาอ่างล้างหน้าไว้ด้านนอกแทน ทำให้ลำดับการใช้งานดีขึ้น 

- ระเบียงลึก ทำให้มุมมองในการรับวิวด้านนอกลดลง ตรงนี้ทาง Estopolis เองก็ไม่เข้าใจว่าจะทำระเบียงลึกไปทำไม เพราะคอนโดที่มีแปลนระเบียงลึกส่วนใหญ่จะทำห้องนอนเป็นกระจกเข้ามุมเพื่อให้สามารถมองวิวได้กว้างขึ้นจากในห้องนอน 

- ประตูทางเข้าห้องนอนกับโซฟา มีระยะทางเดินห่างกันน้อย การเดินเข้าออกจะไม่สะดวก ควรย้ายโซฟาไปชิดติดที่มุมกำแพง จะมีพื้นที่ทางเดินเพิ่มขึ้น

แบบห้องคอนโดที่ 3  ขนาด 30 ตร.ม – Studio

ห้องคอนโดแบบสตูดิโอ ที่ให้ความรู้สึกเป็นสัดส่วน คราวนี้เราจะเจอกับห้องครัวเป็นอันดับแรก ซึ่งแตกต่างจาก 2 แบบที่ผ่านมา ห้องน้ำก็จะถูกแยกจากส่วนที่พักอาศัย มีการแบ่งโซนห้องครัวและห้องนอนชัดเจน โดยออกแบบให้ห้องนอนและส่วนพื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียงและกระจกด้านหลัง เพื่อเปิดรับมุมมองวิวข้างนอกได้อย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับคนชอบนั่งเล่นชมวิว

- เมื่อเปิดห้องคอนโดเข้ามาแล้วจะเจอห้องครัวก่อนเลย สังเกตุในแปลนเราจะไม่เห็นพื้นที่วางรองเท้า แต่เราสามารถเลือกที่ตู้เก็บรองเท้าแนวตั้งมาใช้งานได้ให้เหมาะกับพื้นที่ที่จำกัด

- ถัดมาเราจะเจอในส่วนของโซนนั่งเล่นและตู้เสื้อผ้า โดยส่วนนี้รู้สึกว่าเสียพื้นที่มาก เพราะเห็นได้ว่ามีส่วนของที่นั่งเล่นติดริมหน้าต่างอยู่อีกที่ รวมแล้วมีพื้นที่นั่งเล่นอยู่ 2 ที่ ในแปลนของห้องคอนโดจะไม่มีการจัดวางของโต๊ะทานอาหาร ซึ่งอาจจะออกแบบให้ใช้โต๊ะนั่งเล่น นั่งกินข้าวด้วยก็ได้สำหรับคนที่พักอาศัยคนเดียว แต่เราสามารถปรับเป็นโต๊ะทานอาหาร ส่วนของตู้เสื้อผ้าถ้าสามารถย้ายมาพิงผนังทางฝั่งห้องน้ำก็จะได้พื้นใช้สอยเพิ่มขึ้น

- ในส่วนของโซฟานั่งเล่นริมหน้าต่างเวลาเดินเข้าออกอาจจะไม่สะดวก เพราะทางเดินเป็นมุมของเตียงและมุมห้องพอดี อาจจะเลือกไซส์เตียงที่เล็กลงหรือว่าขยับเตียงก็จะมีระยะเพิ่มขึ้น

- สำหรับแปลนนี้หากโครงการไม่ได้ตกแต่งแบบ fully furnish มาให้ สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่นั่งทำงาน แนะนำว่าให้เปลี่ยนโซฟาริมหน้าต่างเป็นโต๊ะทำงาน จะได้โต๊ะทำงานริมหน้าต่างที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สามารถทำงานไป พักผ่อนชมวิวไปได้ 

แบบห้องคอนโดที่ 4  35 ตร.ม – 1 Bedroom

ภาพรวมแล้วเป็นการวางแปลนห้องคอนโดฟังก์ชั่นการใช้งานได้ลงตัว แต่ในแปลนจะไม่มีที่วางรองเท้าในของด้านหน้าห้องคอนโด ในมุมนั่งเล่นริมหน้าถูกลดทอนไป

- ห้องน้ำจะสามารถเข้าได้ทั้งสองฝั่งจากทางด้านนอกและด้านในห้องนอน ซึ่งดีต่อผู้ใช้งานมากเวลามีแขกมาที่ห้องคอนโด ติดที่ว่าประตูห้องน้ำไม่น่าอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่นั่งเล่น และจะเห็นได้ว่า

- ส่วนที่นั่งติดริมหน้าต่างนั้นหายไป และถ้าอยากไประเบียงก็ต้องผ่าน walk-in closet ก่อน แต่สะดวกต่อการนำผ้าไปตากจากห้องน้ำและนำมาเก็บที่ตู้เสื้อผ้า ก็จัดได้ลงตัวในส่วนนี้ดี

เมื่อมาดูกันแล้วแบบห้องคอนโดที่ 3 และ 4 สามารถปรับเปลี่ยนมุมพื้นที่ใช้สอยได้มากกว่าแบบที่ 1 และ 2 เพราะแบบแปลนไม่มีหักมีมุมเยอะเท่ากับ 2 แบบแรก อย่างไรก็ตาม แบบแปลนของห้องคอนโด เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจในการเลือกซื้อขั้นแรก การเห็น spaceของห้องจริงจะ ทำให้เราตัดสินใจได้มากกว่าว่าเราควรเลือกแบบห้องคอนโดไหน ซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบใด เพื่อให้เหมาะสมกับห้องคอนโดและการใช้งานของเรามากที่สุด

---------

มาถึงตรงนี้อาจจะงง ๆ ว่า แล้วแปลนห้องแบบไหนถึงจะถือว่าผ่าน เรามาดูกันเลยดีกว่า 

- ห้องนี้ได้ระยะห่างระหว่างทีวีและโซฟาค่อนข้างเยอะ วางทีวีขนาดใหญ่ได้ ทีวีไม่ใกล้ระเบียงทำให้เวลาดูทีวีไม่มีแสงสะท้อนรำคาญสายตา 

- แม้ระเบียงจะร่นเข้ามา แต่ระเบียงเป็นระเบียงใช้งาน ไม่ได้เน้นชมวิวจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ  แต่ห้องนอนเป็นกระจกเข้ามุมทำให้รับวิวได้กว้างขึ้น 

- ห้องน้ำเข้าจากห้องครัว และมีประตูบานเลื่อนกั้นโซนห้องครัวกับห้องรับแขกอีกที ทำให้ไม่รบกวนกัน และสามารถทำธุระในห้องน้ำได้อย่างไม่ขัดเขิน 

- ห้องครัวเป็นครัวปิด กลิ่นไม่รบกวนห้องรับแขก นอกจากนี้ยยังอยู่ติดกับระเบียง ทำให้สามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายกลิ่นและควันได้อีกทางหนึ่งด้วย สามารถทำอาหารหนัก ๆ ด้เลย 

- ประตูกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องรับแขกเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งทำให้ห้องดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด ประตูกระจกบ่านเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างมากกว่าแบบ 2 ตอน  หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อาจจะติดม่านเพิ่ม  

สำหรับห้องแปลนดังภาพข้างบน เราจะเรียกว่าห้องแบบครัวติดระเบียง ซึ่งค่อนข้างเป็นแปลนที่เหมาะกับห้องขนาด 26 - 33 ตร.ม.  นอกจากนี้หากคุณเจอแปลนแบบอื่น ๆ อาจจะต้องลองสมมุติตัวเองอยู่ในห้องนั้น ๆ แล้วจินตนาการการใช้ชีวิตดู เพื่อให้เลือกห้องได้ตรงกับใจมากยิ่งขึ้น 

สำหรับขนาดห้องอื่น ๆ อย่าง 26 ตร.ม. ลงมา หรือ 34 ตร.ม. ขึ้นไป ควรเลือกแปลนห้องแบบใด สามารถอ่านได้ที่บทความนี้  เลือกซื้อคอนโด 1 ห้องนอน ควรเลือกแปลนห้องแบบไหนดี โดยเฉพาะคอนโดขนาดเล็ก