รีวิวแต่งคอนโดให้เช่า งบประหยัด แค่ 50,000 บาท ปล่อยห้องได้ไวเวอร์

ใครที่กำลังประสบปัญหาคิดไม่ตกกับการปล่อยเช่าคอนโด จะทำยังให้ให้มีคนเช่า? จะทำยังไงให้คอนโดน่าอยู่? ในวันนี้เรามีไอเดียดีๆ จากคุณ แจ๊สสีฟ้า ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ตกแต่งคอนโดขนาดเล็กของตัวเองให้ออกมาสวย ในงบประหยัด แถมยังปล่อยเช่าได้ง่าย แม้จะมีคู่แข่งปล่อยคอนโดให้เช่าล้นตลาดแบบนี้...มาดูกันเลยดีกว่าว่า คุณแจ๊สสีฟ้า มีเทคนิคอะไร จะถูกใจชาว Estopolis บ้างหรือเปล่า ตามไปชมได้พร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

รีวิวแต่งคอนโดให้เช่า งบประหยัด แค่ 50,000 บาท ปล่อยห้องได้ไวเวอร์

สวัสดีครับ เห็นช่วงนี้คนบ่นเรื่องห้องในคอนโด หรือบ้านว่าง หาคนเช่าได้ยาก ผมเลยอยากจะมาแชร์ไอเดียว่า จะทำอย่างไรให้คอนโดน่าอยู่ มีคนเช่าไวๆ และอยู่ในงบประมาณที่จำกัด ไม่เดือดร้อนเงินในกระเป๋ามากจนเกินไป

ก่อนอื่นต้องขอเท้าความก่อนนะครับ ผมเพิ่งเริ่มลงทุนซื้อคอนโดปล่อยเช่าไว้ 2 ห้อง (จริงๆ ตั้งใจจะขายมากกว่า) ทั้ง 2 ห้องนั้น ตกแต่งเสร็จแล้วเรียบร้อย ลงโฆษณาในเว็บไม่นาน ก็มีคนโทรมานัดดู ประมาณห้องละไม่เกิน 3 ราย และตกลงเช่าทันทีไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดห้องบ่อยๆ และให้เช่าได้ในเรทที่สูงกว่าห้องขนาดเดียวกันในโครงการเดียวกัน โดยไม่ต้องเพิ่งนายหน้าครับ วันนี้ก็เลยอยากจะมาแชร์ไอเดียสำหรับคนที่หาคนเช่าไม่ได้ แต่ว่าก็ไม่ยากลงทุนเยอะจนไม่ได้กำไร 

สำรวจงบประมาณในกระเป๋า ก่อนจะเริ่มแต่งคอนโดให้เช่า ป้องกันการเข้าเนื้อ

สำหรับห้องแรกผมตั้งงบประมาณไว้ประมาณ 1 แสนบาท เพื่อให้เหมาะกับราคาเช่า (ติดตามอ่านได้ที่ รีวิว แต่งคอนโด studio ขนาด 24 ตร.ม. ในสไตล์ลอฟท์ งบไม่ถึงแสน)

ส่วนคอนโดห้องนี้ ผมตั้งโจทย์ยากขึ้นไปอีก โดยตั้งงบประมาณไว้ 50,000 บาท รวมการตกแต่งทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่ง โดยลดงบลงมาครึ่งนึงจากห้องแรก แต่ขนาดห้องพอๆ กัน ผมเน้นการทำเองทั้งหมด ไม่ต้องจ้างช่าง วัสดุต้องไม่แพง แต่ห้องต้องออกมาดูดีมีระดับ

เริ่มต้นแต่งคอนโดให้เช่า ในงบประหยัด แค่ 50,000 บาท

ห้องที่ผมเลือกซื้อไว้ เป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของคอนโดย่านชานเมืองในกทม. เป็นคอนโดราคาต่ำล้านครับ สาเหตุที่เลือกคอนโดนี้ เพราะทำเลค่อนข้างดี ไปมาสะดวกทะลุถนนหลักได้หลายทาง ใกล้ทางด่วน และที่สำคัญไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่งด้วยครับ

ขนาดห้องที่ผมเลือก เป็นขนาด 22 ตารางเมตร แต่ห้องของผมมีแถมมาอีก 0.80 ตารางเมตร รวมเป็น 22.8 ตารางเมตรครับ ส่วนสาเหตุที่เลือกขนาดเท่านี้ เพราะโครงการมีแปลนห้องแบบเดียวกันหมด ขนาดหน้ากว้างเท่ากัน ต่างกันแค่ความลึก ส่วนตัวมองว่าพอตกแต่งไปแล้ว ก็ไม่ได้อึดอัดเท่าไร แถมคอนโดขนาดเล็กแบบนี้ยังสามารถแข่งราคาค่าเช่ากับห้อง ที่มีขนาดใหญ่ คือ 26 ตารางเมตร และ 28 ตารางเมตรได้สบายๆ

เริ่มจากรับโอนคอนโดครับ ลักษณะของห้องที่ผมซื้อจะเป็นห้องเปล่า มีแถมมาแค่แอร์ 1 ตัว และ ซิงค์ในครัวเท่านั้น 

เลือกเฟอร์นิเจอร์ให้ไว ประหยัด เหมาะสำหรับการแต่งคอนโดให้เช่า

ขั้นตอนแรกก็ต้องหาเฟอร์นิเจอร์ก่อนนะครับ โดยปกติตามคอนโดใหญ่ๆ มักจะมีร้านจัดชุดมาให้ในราคาพิเศษ และมักจะมีการวัดขนาดห้องไปแล้ว เลยทำให้พอดีกับห้องของโครงการนะครับ

โดยส่วนตัวจะเลือกเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุที่พอใช้ได้ หลังจากนั้นก็ทำการสั่งเลยครับ แต่ห้องผมมีขนาดเล็กเลยขอไม่เอาตู้วางทีวี แต่ว่าขอเปลี่ยนเป็นไม้ไม้ปาร์ติเกิลบอร์ดสำหรับทำโต๊ะทานข้าว และชั้นวางของแทนครับ ส่วนตัวคิดว่าคุ้มกว่าชั้นวางทีวีนะครับ เพราะถ้าไปซื้อทั้งหมดก็หลายพันอยู่ ด้านโรงงานเองก็ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนโซฟากับโต๊ะกลางนี่ส่งของช้ามาไม่พร้อมกัน แล้วผิด 2 ครั้งซ้อน ผมเลยยกเลิกสองรายการนั้นไป แต่เจ้าของร้านแกก็ดีนะ ยอมรับผิดชอบ ไม่เก็บเงินในส่วน 2 ชิ้นนี้ ลดไปพอสมควรเลยครับ โดยรวมแล้วถ้าว่าพอใจในงาน และความรับผิดชอบระดับนึงเลยครับ

แต่ยังต้องปรับปรุงเรื่องระบบงานจัดส่งให้ตรงเวลา และถูกต้องกว่านี้นะครับ ที่สำคัญสั่งแล้วช้ามากกว่าจะได้ของ ตอนแรกก็กะว่า ทำเรื่องโอนและรอแต่งห้องเสร็จน่าจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน ที่ไหนได้แต่งห้องเสร็จก่อน นานแล้วเฟอร์นิเจอร์ไม่มาสักที ตรงนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่ต้องดูดีๆ เลือกร้านที่น่าเชื่อถือ หรือไม่ก็ซื้อเข้ามาเองเลยก็ได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เสียโอกาสทำรายได้ไปฟรีๆ เลยนะครับ  

พอดีผมไปซื้อโซฟากับโต๊ะกลางจากเพื่อนที่เป็นลูกบ้านในคอนโดแรก เขาได้แถมมา แต่ไม่ชอบ เลยขายต่อไปในราคาค่อนข้างถูก แล้วไปซื้อโต๊ะวางทีวีจากอิเกีย ราคา 499 บาทมาแทน

รวมๆ แล้ว งบประมาณเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ห้องนอน และห้องนั่งเล่น รวมถึงโต๊ะทานข้าว ก็อยู่ประมาณ 16,000 บาทครับ ทีนี้เราก็มีเตียง+ฟูก, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา+โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวี, ชั้นวางของโชว์ และโต๊ะทานข้าว ครบแล้วนะครับ

เปลี่ยนบรรยากาศคอนโดให้น่าอยู่ โดนใจคนเช่าด้วยการใช้สี

ระหว่างที่รอเฟอร์นิเจอร์มาส่ง เราก็ไม่ได้อย่เฉยครับ สิ่งแรกก็ที่ตกแต่งรอ ก็คือ ผนัง เพราะสวนตัวถือว่าผนังเป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของห้อง และเป็นจุดดึงดูดสายตาที่สำคัญ ฉะนั้น การตกแต่งผนัง จึงถือว่า การลงทุนที่คุ้มค่าเพราะเสียเงินแค่หลักพัน (ทำเอง) แต่ทำให้ห้องสีขาวๆ หน้าอยู่ขึ้นเยอะมากเลยครับ เพราะเคยไปดูบางห้องที่แต่งเฟอร์นิเจอร์แพงๆ สวยๆ แต่เลือกเฟอร์นิเจอร์สีอ่อน แล้วผนังสีขาว ทำให้ห้องไม่โดดเด่น ทั้งๆ ที่เลือกเฟอร์นิเจอร์ได้สวยงามแล้วก็ตาม

สำหรับสี ผมแนะนำให้ลงทุนซื้อสีดีๆ หน่อยนะครับ สีทาภายใน ที่กลิ่นไม่ฉุน และเช็ดล้างได้ยิ่งดีเลยครับ เพราะว่ คนเช่า เราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะทำห้องเราเละขนาดไหน

เคล็ดลับในการเลือกสีทาคอนโดในราคาประหยัด

ผมมีเคล็ดลับในการเลือกซื้อสีสำหรับแต่งคอนโดแบบประหยัดๆ มาฝากด้วยนะครับ สำหรับ ห้างใหญ่ๆ ที่มีเครื่องผสมสี มักจะมีสีที่คนผสมแล้วไม่เอา เพราะไม่ถูกใจ (หรือทิ้งไว้เพราะแพง) ตรงนี้เขาจะนำมาลดราคาอยู่เยอะ แต่ว่าใครจะซื้อต้องดูวันที่ผสมดีๆ นะครับ อย่านานจนค้างปี และที่สำคัญที่สุดต้องคำนวณพื้นที่ในการทาให้ดีนะครับ และอย่าลืมถามคนขายด้วยว่า ต่อลายได้ไหม (ถ้าสีหมด สามารถผสมใหม่ได้เหมือนเดิมเลยหรือไม่) สำหรับผมเองก็ไปเดินๆ เลือกสีแบบนี้มาเหมือนกันครับ พอดีมีสีเทาใกล้เคียงกับที่อยากได้อยู่ แกลลอนหนึ่งพอดี โชคดีมากๆ

ขั้นตอนการทาสีภายในคอนโด

เริ่มแรกก็เตรียมปูผ้าใบกันเปื้อน ติดกระดาษกาวตามขอบบัว ขอบเพดานต่างๆ ให้ดี รวมทั้งขอบประตู หน้าต่าง และปลั๊กไฟ 

หลังจากนั้น เพื่อนผมก็เริ่มทาเลยครับ ทาๆ ไป ไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จแล้วครับ

สร้างความโดดเด่นให้คอนโด ด้วยวอลเปเปอร์ติดผนัง

จะทาแต่สีเทาก็ดูจะธรรมดาไปหน่อย ผมเลยทำให้ผนังด้านหนึ่งดูโดดเด่นมาขึ้นด้วยการติดวอลเปเปอร์ ส่วนตัวเลือกเป็นผนังด้านที่วางทีวี เพราะด้านนี้แต่งแล้วจะดูเด่นสุด และใช้งบน้อยสุดด้วย ก็เลยไปจัด วอลเปเปอร์ลายอิฐ มาครับ ทำให้ดูห้องอบอุ่นขึ้น และเพิ่มความสว่างของห้องให้มากขึ้นด้วย

ขั้นตอนการติดวอลเปเปอร์ในคอนโด

สำหรับการติดวอลเปเปอร์ก็ไม่ยากนะครับ ใช้กาวลาเท็กซ์ธรรมดาผสมน้ำ 1:1 แล้วใช้ลูกเกลี้ยงทาที่ผนัง และหลัง วอลเปเปอร์ จากนั้นก็เริ่มติด ส่วนที่ยากจะเป็นตอนรีดฟองอากาศ เพราะถ้าทำไม่ดีจะทำให้งานไม่สวย หลังจากนั้นก็เก็บขอบต่างๆ

สำหรับใครที่จะเลือกลายอิฐ หรือลายแบบที่มีการต่อลาย ต้องคำนวณซื้อเผื่อการต่อลายด้วยนะครับ ในแคตตาล็อกจะมีบอกระยะต่อลายไว้ เวลาจะตัดแผ่นที่ 2 3 4 ต่อๆ ไป ต้องกะลายบริเวณขอบบนที่จะติดให้ดีๆนะครับ เพราะจะต้องดูให้ลายตรงกัน ถ้าลายเหลื่อมกันมากไปจะไม่สวยนะครับ

เมื่อติดเสร็จแล้ว ตัวผนังสีเทา พอตัดกับสีขาวของบานประตู และผนังสีอิฐ ก็ทำให้มุมนี้ดูเด่นขึ้นเป็นกองเลยครับ

รวมๆ แล้วงบประมาณอยู่ที่สองพันนิดๆ แต่เหมือนได้ห้องใหม่เลยครับ

ติดตั้งผ้าม่านด้วยตัวเองง่ายๆ ราคาไม่แพง

ถัดมาก็ต้องมาติดผ้าม่านให้ห้องกันสักหน่อย สำหรับผ้าม่าน เป็นอะไรที่ค่าใช้จ่ายสูงมากๆ ถ้าเราไปจ้างทำ ส่วนตัวมองว่า คอนโดให้เช่า เลือกซื้อผ้าม่านสำเร็จรูป แบบดีๆ หน่อยมาติดเองก็น่าจะดีกว่า ผมเลือก Pasaya เพราะว่าชอบเนื้อผ้าที่ดูดี ทนทานครับ และมีลดราคาตามห้าง และร้านขายเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ เนื่องจากหน้าต่างค่อนใหญ่เลยซื้อแบบผ้าม่านติดประตูมาติดแทน ราคาลดแล้วก็ไม่แพงนะครับ คู่ละพัน แต่เวลาเลือก แนะนำให้อ่านให้ดีๆว่า ผ้าม่านแบบทึบแสง หรือไม่ทึบแสง แบบที่ติดที่ห้องนี่ไม่ทึบแสงนะครับ แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบนอนตื่นสายอาจจะไม่ชอบเท่าไร

ผมซื้อรางผ้าม่าน ที่ index Homepro มีให้เลือกหลากหลายแบบ หลายสีครับ ราคาก็ตั้งแต่ 200-1000 กว่าบาท ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ครับ ส่วนวิธีการติดตั้งผ้าม่านผมก็เจาะผนังแล้วก็ยึดขาไว้กับผนัง แล้วนำผ้าม่านสอดเข้าไปในราวผ้าม่าน และนำราวไปวางที่ขายึดราวผ้าม่าน เป็นอันเสร็จแล้วนะครับ

พอดีว่าห้องนี้มีติดแอร์ตรงหน้าต่าง ทำให้ผ้าม่านยาวเกินไปครับ แต่เราสามารถปรับ โดยการเย็บชายผ้าม่านได้นะครับ เสร็จแล้วก็จะประมาณนี้ครับ

ส่วนประตูบานเลื่อน สำหรับออกไปตากผ้าอยู่ในห้องครัว ผมเลือกใช้มูลี่แทนผ้าม่าน เนื่องจากว่าพื้นที่แคบ การใช้งานมูลี่จะสะดวกกว่าผ้าม่าน

ส่วนการติดตั้งก็คล้ายๆ กันครับ คือ เจาะผนังเพื่อติดขายึด แต่มูลี่จะไม่มีรางแบบผ้าม่านนะครับ และอุปกรณ์ก็จะมีมาให้ครบเลยครับไม่ต้องซื้อเพิ่ม ติดตั้งเสร็จแล้วก็ประมาณนี้ครับ

ราคาาความเสียหายในการซื้อของตกแต่งคอนโดส่วนของผ้าม่านประมาณ 2,000 กว่าบาทครับ

เคล็ดลับการแต่งห้องครัวในคอนโดขนาดเล็ก ให้น่าใช้งาน

ถัดมาเป็นการตกแต่งห้องครัวให้สวยงามน่าใช้ เพื่อปล่อยเช่าคอนโดได้ง่ายมากขึ้น โดยหลักๆ ก็คือ ติดแผ่นกันคราบบนผนัง เพื่อป้องกันคราบเลอะที่จะเกิดจากการทำอาหาร และเป็นการเพิ่มสีสันให้กับห้อได้อีกทางหนึ่งด้วย

จากนั้นเอาราวแขวนและที่คว่ำจาน ใส่ช้อน ของอิเกียมาติดเพิ่มครับ อันนี้ก็มีหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพันบาทเลย

จากนั้นก็หาตู้แขวนมาใส่เก็บของสักหน่อย เพราะว่าโครงการไม่ได้แถมมาให้ แต่ซื้อมาให้มีขนาดพอดีกับเคาน์เตอร์ครัวชิ้นล่าง จะได้ดูสวยงาม โดยผมเลือกของ index เพราะมีแบบให้เลือกหลากหลายดีครับ ราคาไม่แพงด้วยครับ พันกว่าบาทเอง

ถัดมาก็ซื้อเก้าอี้บาร์ ของอิเกียมา แล้วก็จัดการวัดความสูงเพื่อจัดหาตัวโต๊ะบาร์มาติดตั้งเพิ่ม สำหรับรับประทานอาหาร

เนื่องจากมันดูโล่งๆไปหน่อย ผมจึงเอาสติ๊กเกอร์มาตกแต่งเพิ่มเติม พร้อมกับติดชั้นวางของด้านบน เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นนะครับ

สำหรับห้องครัวผมเสียค่าตกแต่งคอนโดในส่วนนี้ไปทั้งหมด 5,000 กว่าบาทครับ

ตกแต่งห้องน้ำฉบับประหยัด

ต่อไปเป็นห้องน้ำครับ เริ่มแรกก็ซื้อรางและผ้าม่านกั้นส่วนอาบน้ำ หาซื้อง่ายตามห้างต่างๆ ส่วนราคาก็มีตั้งแต่ร้อยต้นๆ ยันหลักพันครับ

จากนั้นก็ใส่ชั้นวางของต่างๆ เพิ่มเติม เนื่องจากห้องน้ำโครงการค่อนข้างเล็กมาก และไม่มีที่วางของเลยครับ เดี๋ยวนี้มีชั้นวางแบบปรับความสูงได้ สะดวกสบายครับ ไม่ต้องเจาะผนังกระเบื้องด้วย

รีวิวค่าใช้จ่ายในส่วนของการตกแต่งห้องน้ำเพิ่มเติม

ตกแต่งคอนโดให้เช่าด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเข้าชุดกัน

ตอนนี้ก็รอจนเฟอร์นิเจอร์มาส่งครบแล้วนะครับ มีเพิ่มเติมก็แค่ติดชั้นวางของเพิ่มเติม เริ่มจากต้องหาฉากรับก่อน ผมเลือกแบบไม้จากอิเกีย จริงๆ มีหลายแบบนะครับ ลองไปเดินดูที่อิเกีย หรือ home pro ดู เลือกเอาแบบที่ชอบเลยครับ จากนั้นก็มีซื้อโคมไฟตั้งพื้น ติดกรอบรูปนิดหน่อย ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวจะให้ชมภาพรีวิวแต่งคอนโดให้เช่า ในงบประมาณแค่ 50,000 บาทเท่านั้นเอง

ค่าใช้จ่ายพวกตกแต่เล็กๆ น้อยๆ นะครับ แต่จริงๆ แล้วแอบเยอะอยู่เหมือนกัน นั่นก็เพราะเราซื้อแยกชิ้น พอมานับอีกทีก็หลายพันเลยทีเดียวครับ เวลาซื้อก็อาจจะหาแห่งให้ดีแล้วเลือกซื้อไปเลยทีเดียวจะทำให้ประหยัดกว่า

ปิดท้ายด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับ รวมๆแล้วก็ขาดไม่เท่าไรก็ 5 หมื่นตามงบพอดีเลยครับ สรุปแล้วก็ได้ห้องออกมาสวยถูกใจ ในงบประหยัดตามที่รีวิวเลย แถมยังดึงดูดคนเช่า คนอยากซื้อคอนโดให้เข้ามาติดต่อได้อีกตั้งหลายราย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้กำไรกลับมาอีกหลายเท่าตัว ก็หวังว่า จะลองนำเทคนิคไปใช้กันดูนะครับ เผื่อจะปล่อยห้องได้ไวเวอร์เหมือนกับผม

ที่มา : แจ๊สสีฟ้า