รวมวิธีเลือกสีทาบ้านรับมือหน้าฝน กันน้ำรั่วซึม
25 September 2563
ปลายฝนต้นหนาวอย่างตอนนี้ หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องทุกวัน และดูเหมือนฝนจะสามารถตกได้ทุกฤดูกาลของบ้านเรา บางครั้งฝนก็เป็นตัวการทำให้สีบ้านของเราได้รับความเสียหาย จนไม่สวยงามดั่งเดิม...บทความนี้ของ Esto จะแนะนำวิธีเลือกสีทาบ้านสำหรับรับมือกับฝนโดยเฉพาะ โดยต้องเป็นสีทาบ้านที่มีคุณสมบติป้องกันน้ำได้เป็นอย่างดี และสามารถกันรั่วซึมไม่ให้น้ำฝนเข้าไปทำลายชั้นสีของกำแพงบ้านได้ จะมีวิธีไหน ขั้นตอนใดบ้างหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย
วิธีเลือกสีทาบ้านอันดับที่ 1 : ทำความรู้จักกับสีทาบ้านกันก่อน
อย่างแรกที่เราควรรู้ก่อนสำหรับวิธีเลือกสีทาบ้าน คือ สีทาบ้านนั้นมีสองประเภท คือสีสำหรับทาภายใน และสีสำหรับทาภายนอก ทั้งสองมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เพราะผนังบ้านด้านนอกต้องรับทั้งแสงแดด ลม และฝน ทำให้ต้องการการปกป้องที่มากกว่าผนังภายในบ้าน
- โดยสีทาภายนอกจะมีปริมาณสีที่เข้มข้นกว่า มีสารเคมีหลายอย่างที่ช่วยทำให้ทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ทั้งฝน และแสงแดด สามารถกันรั่วซึมได้ มีสารเพิ่มความคงทนให้สีติดนาน รวมถึงมีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้นและเชื้อรา ทำให้สีทาบ้านภายนอกนั้นมีราคาสูงกว่าส่วนสีทาภายในบ้าน
- ส่วนสีทาภายในบ้าน จะให้ความนุ่มนวลและคุณภาพดีกว่า มีความเข้มข้นของสีสูงกว่า เป็นเนื้อสีแท้ ๆ ไม่มีสารเคมีหรือสารอื่นมาเจือปน ทำให้มีความนุ่มนวลและความละเอียดสูง เมื่อสีแห้งจะมีความเงางาม และสามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย และเพราะสีทาภายในนั้นไม่มีสารป้องกันดินฟ้าอากาศและสารกันรั่วซึมเหมือนสีทาภายนอก จึงไม่ควรนำไปใช้แทนสีทาภายนอกเด็ดขาด เพราะนานไปสีจะหลุดร่อน เสียหาย หมดความสวยงามลงไปได้
วิธีเลือกสีทาบ้านอันดับที่ 2 : คุณสมบัติของสีทาบ้านที่แตกต่างกันไปตามประเภทของสี
สำหรับประเภทของสีทาบ้านนั้นจะมีอยู่ 3 ประเภทที่นิยมกันใช้กัน โดยมีวิธีเลือกสีทาบ้านแต่ละประเภทต่างกันออกไปด้วย…
สีอคริลิค
เป็นประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะเป็นสีที่สามารถลงบนผนังคอนกรีต ซีเมนต์หรือปูนทั่วไปได้ดีกว่าสีประเภทอื่น และเทคโนโลยีการผลิตเม็ดสีทุกวันนี้ทำให้สีอคริลิคมีคุณสมบัติติดแน่น ทนนาน ทนต่อสภาพอากาศ กันรั่วซึมจากฝนได้เป็นอย่างดี รวมถึงสีทาบ้านบางแบรนด์เคลมว่าสามารถสะท้อนแสงแดดเพื่อให้ในบ้านเย็นขึ้นได้อีกด้วย ยิ่งเป็นสีเกรด A และ B ที่เป็นเม็ดสีอคริลิคบริสุทธิ์ยิ่งสามารถป้องกันได้ดี นอกจากนั้นยังสามารถป้องกันความชื้นเข้าไปในชั้นผนังบ้านอันเป็นต้นเหตุของเชื้อราได้อีกด้วย
ทำให้สีทาภายนอกบ้านมักจะเป็นสีอคริลิคเพราะมีคุณสมบัติป้องกันทั้งฝน แสงแดด และกันรั่วซึมเพียบพร้อมในตัวมันเอง ในขณะที่สีอคริลิคสำหรับทาในบ้านจะมีเม็ดสีชัดสวยงาม และสามารถเลือกสีได้มากมาย หรือผสมเองได้ตามใจชอบ
สีทาไม้
วิธีเลือกสีทาบ้านที่เป็นสีทาไม้แบบนี้ คือเลือกสีทาบ้านที่สามารถกันความชื้นได้ดีไว้ก่อน เพราะโครงสร้างที่ทำจากไม้ทั้งเฟอร์นิเจอร์และตัวผนังเองจะไม่ถูกกับน้ำและความชื้นเลย การได้สีทาไม้มาเป็นโล่กำบังความชื้นนั้นจะช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างไม้ได้เป็นอย่างดี และทำให้ไม้ดูเงางาม สีสันของไม้สดขึ้น เพิ่มความสวยงามได้อย่างมาก
สีน้ำมัน
เอกลักษณ์ของสีน้ำมันคือความเงางาม และความวาวจากการสะท้อนแสง ทำให้นิยมนำไปแต่งในส่วนต่าง ๆ ของบ้าน มากกว่านำมาทาผนังบ้านโดยตรง เป็นวิธีเลือกสีทาบ้านที่เหมาะกับกับโครงสร้างโลหะมากที่สุด เช่น ประตูรั้วบ้าน ทำให้โลหะแวววาวสวยงาม และป้องกันการเกิดสนิมจากความชื้นได้ดี ข้อเสียของสีประเภทนี้คือแห้งช้า และมีราคาสูงกว่าสีประเภทอื่น
วิธีเลือกสีทาบ้านอันดับที่ 3 : สีทาบ้านเกรดไหนที่ควรเลือก
วิธีเลือกเกรดของสีทาบ้านที่เราควรรู้คือ เกรดของสีทาบ้านจะแบ่ง ออกเป็น 4 เกรด ได้แก่ A B C และ D ตามลำดับ นอกจากคุณภาพที่ต่างกันแล้ว ยังมีราคาต่างกันออกไปตามเกรด โดยเกรด A จะมีคุณภาพสูงที่สุด และมีราคาสูงตามไปด้วย
แน่นอนว่าหากเราต้องการเลือกสีทาภายนอกบ้านที่สามารถกันรั่วซึมได้ดีที่สุด ควรเลือกสีเกรด A ที่มีส่วนผสมเป็นเม็ดสีอคริลิคบริสุทธิ์ 100% บางแบรนด์จะใส่เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพ และความสวยงามเข้ามาด้วย รวมถึงเทคโนโลยีเพิ่มอายุการใช้งานให้นานขึ้น สีเกรด A นั้นจะมีอายุการใช้งานได้ยาวนาน 10-15 ปีเลยทีเดียว
หรือถ้าใครที่ต้องการประหยัดงบในการลงสีบ้านเพื่อใช้ตกแต่งบ้านส่วนอื่น อาจเลือกสีเกรด B แทน โดยราคาจะถูกลง และมีระยะเวลาการใช้งานสั้นลงอยู่ที่ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของบ้าน เป็นวิธีเลือกสีทาบ้านที่ยืดหยุ่นออกไปตามเกรดของสีนั่นเอง ส่วนสีเกรด C และ D นั้นตัวเม็ดสีจะมีส่วนประกอบอื่นเข้ามาผสมด้วยทำให้ไม่ได้เม็ดสีบริสุทธิ์และมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่ามาก อยู่ที่ 1-3 ปีจะเริ่มมีความเสียหายให้เห็นแล้ว
จบลงไปแล้วกับวิธีเลือกสีทาบ้านที่นอกจากจะช่วยกันรั่วซึมของผนังบ้านแล้ว ยังมีเรื่องป้องกันความชื้น เชื้อรา สนิม และรักษาสภาพโครงสร้างให้มีอายุการใช้งานยืนยาวมากขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนในตัวบ้านนั้น สีอคริลิคที่มีส่วนผสมของผงเซรามิคน่าจะตอบโจทย์ที่สุด
แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้ใช้งานบางท่านแนะนำวิธีเลือกสีทาบ้านว่าสีทาบ้านแบบสะท้อนความร้อนนั้นไม่สามารถใช้งานได้ดีเท่าที่ควร เพราะผงเซรามิคนั้นมีราคาต้นทุนสูงรวมถึงสะท้อนแสงได้ไม่ดีตามที่โฆษณาไว้ ทำให้สีป้องกันความร้อนนั้นมีราคาสูงมากแต่ไม่ได้ผลตามที่หวัง หากต้องการแก้ปัญหาความร้อนในตัวบ้านให้ตรงจุดจริง ๆ ควรใช้ “การบังแสงอาทิตย์” ไม่ให้ส่องมาโดนตัวบ้าน เช่น การปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ การติดตั้งระแนงไม้กันแสงหรือผ้าใบกันแสงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและได้ผลดีมากกว่า โดยเป็นคำแนะนำเพิ่มเติมเท่านั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้อยู่อาศัยด้วย